EN Name: 
Woman

ชลิต อินดัสทรีฯสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ช่วยเหลือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัย

ดร.ฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล กรรมการและผู้จัดการ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ สภากาชาดไทย รับมอบเงินบริจาคจาก นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “POP” และผศ.(พิเศษ)ดร. อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ เพื่อร่วมสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากฯ ในการช่วยเหลือและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัย  ณ สำนักงานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ ถนนเพชรบุรี เมื่อเร็วๆนี้

                                  

New Balance เปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่ ณ CENTRAL PARK พร้อมวางขายรองเท้ารุ่น 1906L 3 สีใหม่

New Balance (นิว บาลานซ์) แบรนด์กีฬาชั้นนำระดับโลก เปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โดยสาขาใหม่นี้ถือเป็นร้าน New Balance สาขาที่ใหญ่ที่สุดและมีสินค้าครบครันที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 302 ตารางเมตร การออกแบบร้านที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งได้อย่างเต็มอิ่ม พร้อมยกระดับความพรีเมียมของการจัดสรรพื้นที่ร้านที่กว้างขวาง การตกแต่งที่ทันสมัย และการจัดสรรพื้นที่ที่พร้อมรองรับการเลือกซื้อสินค้าอย่างสะดวกสบายและครบวงจรมากกว่าเคย

ปัจจุบัน New Balance เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วทั้งหมด 21 สาขา โดยสาขาเซ็นทรัล พาร์ค ถือเป็นร้านคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่แห่งที่สองของไทย และยังเป็นพื้นที่ที่รวบรวมสินค้าไว้อย่างครบครันที่สุดของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าวิ่งเพอร์ฟอร์แมนซ์ ไลฟ์สไตล์สนีกเกอร์ ไปจนถึงคอลเลกชันรองเท้า MADE in USA และ MADE in UK ซึ่งสะท้อนความหลากหลายของ New Balance ที่เชื่อมโยงทั้งโลกของกีฬา แฟชั่น และงานฝีมือระดับพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

(จากซ้าย)  1906LNU (Beige), 1906LAU (Pink), and 1906LAR (Blue))

ภายในร้านได้รับการออกแบบให้โปร่งสบาย ดีไซน์ทันสมัย และแบ่งพื้นที่การจัดแสดงสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโซนเพอร์ฟอร์แมนซ์ ไลฟ์สไตล์ ทั้งรองเท้าและเสื้อผ้า สำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก อีกทั้งยังมีมุมจัดแสดงคอลเลกชันพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้าได้อย่างจุใจและครบจบในที่เดียว และยังมี 3D Foot Scanner บริการตรวจวัดรูปเท้าแบบ 3 มิติ ให้บริการฟรี ด้วยการแสกนทุกส่วนของเท้าอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกรองเท้า New Balance ที่สวมใส่ได้อย่างสบายและเหมาะกับรูปเท้าตนเองมากที่สุด

และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดคอนเซ็ปต์สโตร์สาขานี้ New Balance ยังวางจำหน่ายรองเท้ารุ่น 1906L Loafer 3 สีใหม่ล่าสุด แบบ Exclusive ในวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่สาขา เซ็นทรัล พาร์ค เป็นที่แรกในไทย ประกอบด้วยสี 1906LAR (Blue), 1906LAU (Pink) และ 1906LNU (Beige) ในราคา 5,700 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด สงวนสิทธิ์ลูกค้า 1 ท่านต่อรองเท้า 1 คู่เท่านั้น)

ร้าน New Balance สาขาเซ็นทรัล พาร์ค พร้อมเปิดทำการให้ทุกคนได้เยี่ยมชมแล้ว ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค ชั้น 3 ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ New Balance ได้ที่เพจเฟซบุ๊กของนิว บาลานซ์ ประเทศไทย New Balance TH

#NewBalance #NBThailand

DITP ชวนช้อป-ชิม-ทดลองใช้ในงาน Unique Unite

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับ กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) โดยเดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนร่วมงาน Unique Unite เพื่อเลือกหาสินค้าแบรนด์ไทยเป็นของขวัญ ของฝาก พร้อมทดลองใช้ ทดลองชิมกันอย่างจุใจ กับสินค้าแบรนด์ไทยที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะแบรนด์ไทย (IDEA LAB) รุ่น 1-8 เพื่อยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ส่งเสริมและขับเคลื่อนสินค้า/บริการไทยด้วย Soft Power พร้อมทั้งสนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy or Eco-friendly Economy)

Pahkahmah Thailand

Kamolsri

ภายในงานพบกับ 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม และกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อาทิ Avagan มอสซาเรลล่าชีสจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วเหลือง, Bioblack กราโนล่าข้าวก่ำล้านนา ซูเปอร์ฟู้ดที่จะมอบประสบการณ์มื้อเช้าคุณภาพให้กับทุกคนในครอบครัว, Dreamy Valley ไวน์ผลไม้ไทยระดับพรีเมียมผลิตจากผลไม้และน้ำผึ้งชั้นเลิศจากภาคเหนือ, Fruit Joy สินค้าผลไม้อบแห้งเกรดพรีเมียม คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากผลไม้ท้องถิ่นมาแปรรูป ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัย, Kamolsri น้ำมันงาสมุนไพรธรรมชาติสกัดเย็นจากภูมิปัญญาไทย ผลิตด้วยใจเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน, Organeh อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กทารกและทุกคนในครอบครัว

Organeh

Pattaraporn เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบคาราเมล คั่วด้วยสูตรพิเศษไร้น้ำมัน, Siam Bee Secret  แบรนด์น้ำผึ้งที่ได้รับ Superior TASTE Award ระดับ 3 ดาว รายแรกในประเทศไทย, Cosmos & Harmony ผลิตภัณฑ์สบู่และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่มีแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและธรรมชาติ, Jola ผงเยลลี่สำเร็จรูปที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขสูงอายุ, Pahkahmah Thailand แบรนด์แฟชั่นที่เชื่อมโยงมรดกไทยกับคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย Varat Bronze งานประติมากรรมสำริดที่สืบทอดศิลปะและวัฒนธรรมไทยมานับร้อยปี และยังมีสินค้าที่น่าสนใจแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

อย่าพลาด!!! งานจัดตั้งแต่วันที่ 16-25 กันยายน 2568 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สยามพารากอน

Jim’s Terrace เปิดตัวเมนูใหม่สไตล์ “อเมริกันหัวใจไทย” รสชาติลงตัวจากวัฒนธรรมสองซีกโลก

Jim’s Terrace (จิม เทอร์เรส) เปิดตัวเมนูใหม่กับคอนเซปต์น่าสนใจ “A Taste of America, in the Heart of Thai Heritage” หยิบแรงบันดาลใจจากความเป็นคนอเมริกันหัวใจไทยของจิม ทอมป์สัน มารังสรรค์เป็นคอมฟอร์ตฟู้ดอเมริกันร่วมสมัยที่ใส่องค์ประกอบความเป็นไทยลงไปอย่างกลมกล่อม มอบรสชาติแห่งตะวันออกและตะวันตกในคำเดียว เพื่อให้ทุกจานน่าค้นหาและยังคงไว้ซึ่งรสชาติอันคุ้นเคยเข้าถึงง่าย 

ร้าน Jim’s Terrace ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของไอคอนิก สโตร์ ที่ จิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าจดจำกับวิวบ้านจิม ทอมป์สัน งดงามตระการตา ตอบโจทย์ทั้งเหล่าฟู้ดเลิฟเวอร์และผู้มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ที่อยากลองชิมเมนูนานาชาติท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ บนระเบียงวิวสวยของบ้านจิม ทอมป์สัน

เบอร์เกอร์เนื้อสแมชบ้านนายจิม - ไทยเบอร์เกอร์กะเพราเนื้อโคขุนไข่ดาว

รวมไฮไลต์เมนูใหม่ที่ Jim’s Terrace

Jim’s Terrace นำเมนูอเมริกันยอดนิยมมาผสานรสชาติเอเชียได้อย่างลงตัว เริ่มต้นด้วยเมนูเบอร์เกอร์อย่าง เบอร์เกอร์เนื้อสแมชบ้านนายจิม เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้เนื้อวัวอเมริกัน-ไทยเกรดพรีเมียมมานาบกระทะร้อนๆ จนกรอบนอกฉ่ำใน โปะด้วยเชดดาชีสสัญชาติไทย เบคอนรมควันโฮมเมด ผักสลัดออร์แกนิก พร้อมขนมปังบริยอชนุ่มหอมเนย เสิร์ฟพร้อมซอส Greenville สูตรพิเศษ ส่วนใครที่อยากลิ้มรสจัดจ้านแบบไทยๆ ต้องไม่พลาดไทย เบอร์เกอร์กะเพราเนื้อโคขุนไข่ดาว อร่อยกับเนื้อโคขุนบด เคล้ากับความหอมของใบกะเพรา ท็อปด้วยไข่ดาวออร์แกนิก มะเขือเทศออร์แกนิก ผักกาดแก้ว และแตงกวา

โรลไส้อั่วหมูน้ำพริกอ่อง - ไทยอเมริกันฮอทดอก

อีกหนึ่งเมนูอเมริกันที่ห้ามพลาดคือฮอทดอก ซึ่งทางร้านนำมาผสานรสชาติไทยๆ เช่นเคย เริ่มจากไทยอเมริกันฮอทดอก เสิร์ฟไส้กรอกหมูย่างฉ่ำๆ วางในขนมปังนุ่มคู่กับหอมใหญ่ผัด ราดด้วยซอสพริกกระเทียมสูตรลับทางร้าน ต่อมาคือโรลไส้อั่วหมูน้ำพริกอ่อง นำไส้อั่วมาย่างจนหอมแล้ววางบนขนมปัง ราดด้วยน้ำพริกอ่อง เพิ่มความสดชื่นด้วยผักและสมุนไพรท้องถิ่น จากนั้นชวนไปชิมเมนูเท็กซ์–เม็กซ์สไตล์กับทาโก้เป็ดรมควัน ใช้อกเป็ดรมควันหอม ๆ วางบนซัลซารสจัดแบบไทยและกัวคาโมเล พร้อมแป้งทาโก้นุ่มชิ้นพอดีคำ นอกจากนี้ ยังมีจานเครื่องเคียงที่อร่อยกินเพลินแน่นอน ทั้งเฟรนช์ฟรายส์กับซอสลับจิม เทอเรส ปีกไก่ทอดรสต้มยำ และสลัดสไตล์อเมริกัน

ทาโก้เป็ดรมควัน

 

ฝั่งของหวานก็ไม่น้อยหน้า เริ่มด้วยกล้วยไทยบานอฟฟี่ ของหวานที่ไล่เลเยอร์ด้วยกล้วยไทยเคลือบคาราเมล สลับชั้นกับทอฟฟี่เข้มข้น วิปครีม และครัมเบิลหอมเนย อีกเมนูคือโดนัทโอวทึ้งคาราเมล โดนัทสูตรพิเศษในสไตล์ไทย เคลือบน้ำตาลมะพร้าวสด เสิร์ฟคู่ซอสซอลเท็ดคาราเมล

กล้วยไทยบานอฟฟี่ - โดนัทโอวทึ้งคาราเมล
แน่นอนว่าอาหารอร่อยๆ ก็ต้องจับคู่กับเครื่องดื่มเลิศๆ สักแก้ว ที่ Jim's Terrace มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ทั้งชาเบลนด์สูตรพิเศษ กาแฟไทยจากโครงการหลวง โซดาผลไม้สด สาโทไทย Devanom และคราฟต์เบียร์สัญชาติไทยที่มีให้เลือกหลายสไตล์ แต่ละขวดสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ สำหรับสายช็อกโกแลตยังมีเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นจาก Kad Kokoa แบรนด์ช็อกโกแลตซิงเกิลออริจินคุณภาพเยี่ยมของไทย

Chill Watermelon Minty - Strawberry Basil Bliss
Jim’s Terrace ณ จิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์ เปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00–19:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 18:30 น.) สำรองที่นั่งโทร 061-421-8951

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Jim’s Terrace และ จิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์ ได้ที่
เว็บไซต์: jimthompsonrestaurant.com/restaurant/jims-terrace
Facebook: Jim’s Terrace
Instagram: @jimsterrace

#JimThompson #jimsterrace #จิมเทอร์เรส

บู๊ทส์ ประเทศไทย ฉลอง 29 ปีในไทย เปิดแฟล็กชิพสโตร์ใหม่ สาขา วัน แบงค็อก

บู๊ทส์ ประเทศไทย ผู้นำด้านค้าปลีกสุขภาพและความงามจากประเทศอังกฤษ ฉลองครบรอบ 29 ปีในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดตัว “บู๊ทส์ แฟล็กชิพสโตร์” แห่งใหม่ ณ วัน แบงค็อก แลนด์มาร์กไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ จัดเต็มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามครบครัน พบกับโซนไฮไลท์ใหม่ อาทิ โซนยาและเวชภัณฑ์, โซนผลิตภัณฑ์เวชสำอาง (Derma Skincare), โซนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความงามและวิตามิน พร้อมส่งโปรโมชั่นพิเศษ ‘Boots Anniversary Sales’ ยกทัพสินค้ากว่า 4,000 รายการ ลดสูงสุด 70% พิเศษ! สำหรับ “สมาชิกบู๊ทส์รับส่วนลดเพิ่ม On-top 10%” ให้ลูกค้าร่วมช้อปแบรนด์ใหม่และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จากบู๊ทส์ ได้แก่ Boots Dermacare, No7, 17 Cosmetics, Soap & Glory, Umberto Gianni, Soltan Suncare, Ted Baker, Nature Series, Vitamin C และทัพแบรนด์ดังมากมาย

คุณมาร์ค โคโพรวัสกี กรรมการผู้จัดการ บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย กล่าวว่า “บู๊ทส์ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกท่านสู่ แฟลกชิพสโตร์คอนเซ็ปต์ใหม่ ที่อยู่ชั้น B1 โซน The Storeys ณ วัน แบงค็อก บนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์ร้านรูปแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากร้านบู๊ทส์ในประเทศอังกฤษ พร้อมจัดสรรโซนผลิตภัณฑ์อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้ช้อปปิ้งตามโซนผลิตภัณฑ์เวชสำอาง (Derma Skincare) ยาและเวชภัณฑ์ วิตามิน อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ความงามได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกสรรกว่า 6,000 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ ยาและเวชภัณฑ์จากแบรนด์ชั้นนำระดับสากลกว่า 800 แบรนด์ พร้อมด้วยโซนพิเศษที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเภสัชกรบู๊ทส์ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ก่อนใคร”

“บู๊ทส์ดูแลและสนับสนุนสุขภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยมาเป็นเวลากว่า 29 ปี การเปิดแฟลกชิพสโตร์ใหม่นี้จึงถือเป็นการตอกย้ำพันธกิจในการเป็นผู้นำด้านเภสัชกรรม สุขภาพ และความงามระดับโลก ที่พร้อมดูแลสุขภาพให้แก่สังคมไทยทั้งประเทศ ผ่านคำแนะนำจากทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนใน 250 สาขาทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการตอบอินไซต์ความต้องการของนักช้อปไทยที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บู๊ทส์จึงได้ทำการปรับลุคร้านใหม่ให้ทันสมัย อัปเกรด Boots Mobile App และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในราคาที่คุ้มค่ายิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเราทุกคน” คุณมาร์ค โคโพรวัสกี กล่าวปิดท้าย

ภายในงานเปิดตัว “บู๊ทส์ แฟล็กชิพสโตร์” แห่งใหม่ ณ วัน แบงค็อก นักช้อปจะได้เพลินเพลินกับโปรโมชั่นและกิจกรรมสุดพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น เวิร์กช็อปการแต่งหน้าจาก No7 Pro Artist / ลุ้นรางวัลเก๋ๆ กับ 17. Cosmetic บริการตรวจผิวจาก Eucerin บริการตรวจหนังศีรษะจาก Vichy และกิจกรรมพิเศษจาก Blackmores และ Swisse อีกทั้งกองทัพสินค้าลดราคาพิเศษกว่า 4,000 รายการ

โดยมีผู้บริหารจาก 30 แบรนด์ชั้นนำในไทยและระดับโลก รวมถึงตัวแทนจำหน่ายและซัพพลายเออร์ด้านเภสัชกรรมเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับทีมผู้บริหารของ บู๊ทส์ ประเทศไทย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page: Boots Thailand บู๊ทส์ ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท บู๊ทส์ (The Boots Group)

วนัช กูตูร์ ร่วมเชิดชู 8 ชุดไทยพระราชนิยม อัตลักษณ์ความงามคู่แผ่นดิน

ชุดไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น เป็นชุดประจำชาติที่ชาวโลกต่างชื่นชมถึงความงดงาม ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทยไว้ได้อย่างชัดเจน และความงดงามนั้นได้มีการจารึกพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในหอแห่งเกียรติคุณ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในปีพ.ศ.2508 ในฐานะที่ทรงเป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก (12 the World's Best-Dressed Women Hall of Fame1965 in New York)

ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ จึงขอโอกาสนี้ร่วมเชิดชู 8 ชุดไทยพระราชนิยม อัตลักษณ์ความงามคู่แผ่นดินทั้ง 8 แบบ ที่ล้วนถือกำเนิดจากพระราชปณิธานและพระอัจฉริยภาพของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  อาทิ ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจิตรดา และ ชุดไทยเรือนต้น ที่ล้วนสะท้อนถึงความงดงาม ความอ่อนช้อย และฐานานุศักดิ์ที่เหมาะแก่โอกาสสำคัญ ซึ่งแต่ละชุดที่ออกมาแบบนั้นล้วนประณีตงดงามและได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมายว่าเป็นชุดไทยที่ออกแบบมาได้สวยตรงปกสมมงมากที่สุด จนได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของ งานนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม” ของพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง และวันนี้ สรรค์ สุดเกตุ ดีไซน์เนอร์ และเจ้าของห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ได้หยิบยกชุดไทยสร้างชื่อทั้ง 8 แบบ มาให้ชมกันจะมีแบบไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย

1.ชุดไทยจักรพรรดิ โทนสี น้ำเงิน ทอง ชมพู เป็นชุดไทยที่ได้รับเลือกให้เป็น “The Best of Thai Wedding Dress” จากนิตยสารแพรวเวดดิ้ง สวมใส่โดย คุณน้ำตาล ชลิตา สวนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559

ชุดไทยจักรพรรดิ

2.ชุดไทยจักรี สีเขียวนกยูง ชุดนี้เกิดจากแรงบันดาลใจจากนกยูงที่เปี่ยมด้วยความสง่างาม โดดเด่นด้วยงานคัตติ้งสุดเนี๊ยบ ปักด้วยคริสตัลและทองคำที่ละเมียดละไม เพื่อเป็นชุดสำหรับใช้เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ของ คุณโอปอล สุชาตา ช่วงศรี  Miss World 2025 บนเวที Miss Worl ในช่วงการประกวดรอบชุดประจำชาติ ณ ประเทศอินเดีย

 ชุดไทยจักรี

3. ชุดไทยดุสิต สีครีม ถูกออกแบบให้กับ คุณหมูแฮม โชตินภา แก้วจรูญ ในช่วงเปิดตัวเริ่มการเข้ากองประกวดนางสาวไทยประจำปี 2568

ชุดไทยดุสิต

 

4.ชุดไทยบรมพิมาน สีน้ำเงินคราม ชุดไทยราคาเรือนแสนชุดนี้ถูกออกแบบให้กับแม่หยัว “ใหม่ ดาวิกา  โฮร์เน่” ในงานบุญทอดกฐินเงินล้าน ณ วัดสว่างอารมณ์ ด้วยความโดดเด่นสวยงาม ชุดส่งคน คนส่งชุด ไม่ทันข้ามวันก็กลายเป็นไวรอลชุดไทยสายบุญที่หลายคนตามหา

ชุดไทยบรมพิมาน

5.ชุดไทยอัมรินทร์ สีน้ำเงินเข้ม ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่สำหรับ คุณอแมนด้า ออบดัม Miss Universe Thailand 2020 ในช่วงการเก็บตัวประกวดเข้ากอง ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ความพิเศษของชุดไทยชุดนี้อยู่ตรงที่มีการผสมผสานของสองวัฒนธรรมไว้ด้วยกันระหว่าง ชุดไทยจิตรลดา กับ ชุดผู้หญิงไทยล้านนา เพื่อต้องการให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่แฝงไปด้วยความงดงามที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย

ชุดไทยอัมรินทร์

6.ชุดไทยศิวาลัย  สีฟ้า ปักลวดลายดอกบัวหลวงสุดวิจิตรตระการตา ด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้สีทองคำ มูลค่าสูงเฉียดล้านบาท เป็นชุดที่ออกแบบให้กับ คุณฟ่านปิงปิง ดาราสาวแถวหน้าของจีน ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ประจำปี 2567 “Songkran World Water Festival 2024” ถือเป็นชุดไทยที่เป็นไฮไลท์แห่งปีที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามมากที่สุดอีกด้วย

ชุดไทยศิวาลัย

7.ชุดไทยจิตลดา สีครีม ฟ้า มูลค่ากว่าสองแสนบาทชุดนี้ ออกแบบให้กับ คุณพรฟ้า ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ ในช่วงการเก็บตัวประกวด MUT 2020 เพื่อสวมใส่เข้าสักการะพระแก้วมรกต เป็นอีกหนึ่งชุดไทยที่ออกแบบมา ได้เรียบหรูงดงามมากที่สุด งานปักลวดลายที่ละเมียดละไมเสริมให้ชุดดูสวยเด่นสะดุดตา เสริมออร่าให้กับผู้สวมใส่ จึงเป็นอีกหนึ่งชุดไทยสุดฮอตที่เหล่าคนดังเลือกใช้มากที่สุดสำหรับงานบุญและงานพิธีสำคัญต่าง ๆ

ชุดไทยจิตลดา

8. ชุดไทยเรือนต้น สีเหลืองทอง ที่ออกแบบให้กับ คุณเบลล่า ราณี แคมเปน สำหรับทำบุญผ้าป่า ถวายวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เป็นอีกหนึ่งชุดไทยสุดเรียบหรูดูแพงที่สวยงดงามเหมาะกับสาวสายบุญมากจริงๆ

ชุดไทยเรือนต้น

ร่วมชมผลงานชุดไทยสุดวิจิตรตระการตาของ ห้องเสื้อ  วนัช กูตูร์ ทั้งหมดได้ผ่านช่องทางfacebook.com/vanuscouture  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดไทยเพื่อใช้ในงานพิธีสำคัญได้ที่  02-0024895, 02-0024896, 086-491-5445 และ  Line: @ vanuscouture

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จัดเวทีระดมสมองรับมือวิกฤติโลก ชวนภาคธุรกิจสู่เป้าหมาย Net Zero

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จัดเวทีระดมความคิดรับมือวิกฤติโลก ชวนภาคธุรกิจหาทางออกด้านความยั่งยืน เพื่อเดินหน้าสู่ Net Zero 

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนคือทางรอด มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงาน MFLF Sustainability Forum 2025 เวทีถกประเด็นร้อนด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้ธีม “วิกฤตโลก ทางออกไทย” วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 เวลา 08.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.ชญานันทน์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการปาฐกถาพิเศษ ทางรอดประเทศไทยต่อวิกฤต Climate Change และ Nature Loss ผ่านนโยบาย คำมั่นสัญญาระดับโลก และศักยภาพไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีเสวนาจากกูรูด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจมาร่วมหาทางออกใหม่ในเกมโลกร้อนผ่าน 2 เวทีหลัก ได้แก่ เสวนาเรื่อง “วิกฤติโลก ทางออกไทย” โดย ดร.กรินทร์บุญเลิศวณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปิยะชาติ อิศรภักดี ประธานร่วม BRANDi Institute of Systematic Transformation (BiOST) ดร.สุภัชญา เตชะชูเชิด ผู้เชี่ยวชาญด้าน Nature-based Solutions มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และ เสวนาเรื่อง “กุญแจสู่การอยู่รอดของคนและธรรมชาติ”โดย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นิรันดร์ นิรันดร์นุต Country Project Manager, UNDP Biodiversity Finance Initiative (BIOFIN) ประเทศไทย ทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ สมิทธิ หาเรือนพืชน์ หัวหน้าสายงาน Nature-based Solutions มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ

สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ https://www.facebook.com/MaeFahLuangFoundation หรือลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://forms.office.com/r/3XE57nxaCz

ศุภลักษณ์ อัมพุช ผู้บริหารเดอะมอลล์ กรุ๊ปและเอ็ม ดิสทริค เข้ารับเครื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นอัศวิน จากสาธารณรัฐอิตาลี

 

คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปและเอ็ม ดิสทริค
ได้รับเกียรติสูงสุดเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นอัศวิน Knight of the Order of the Star of Italy (Cavaliere dell’Ordine della Stella d’Italia) (กาวาเลียเร เดลลอร์ดิเน เดลลา สเตลลา ดีตาเลีย) ในฐานะที่เป็นบุคคลที่สร้างคุณูปการโดดเด่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอิตาลีกับประเทศไทยในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และการออกแบบ โดย ฯพณฯ มิสเตอร์เปาโล ดิโอนิชี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ในการทำพิธีมอบและประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยมี คณะผู้บริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และแขกผู้มีเกียรติร่วมแสดงความยินดีมากมาย อาทิ คุณอัจฉรา อัมพุช คุณเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ, คุณชาลี โสภณพนิช, คุณจรรยา สว่างจิตร, และ คุณบุญเกียรติ – คุณบุญชัย โชควัฒนา ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ถนนสีลม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน Knight of the Order of the Star of Italy (Cavaliere dell’Ordine della Stella d’Italia) เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ระดับสูงของสาธารณรัฐอิตาลีที่มอบให้กับพลเมืองชาวอิตาลีและชาวต่างชาติ ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิตาลีกับต่างประเทศ รวมถึงบุคคลที่มีบทบาทโดดเด่นในการเผยแพร่วัฒนธรรม อิตาลี ภาษา ศิลปะ ดนตรี อาหาร แฟชั่น ดีไซน์ และผู้ที่ช่วยเหลือในด้าน เศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุด และเป็นความภาคภูมิใจที่มิสามารถประเมินค่าได้ของผู้ที่ได้รับ
​​​​​​​
คุณศุภลักษณ์ อัมพุช กล่าวถึง การเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในครั้งนี้ว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจมากที่เป็นหนึ่งในคนไทย ที่ได้รับเกียรติสูงสุดจากสาธารณรัฐอิตาลีในการมอบ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นอัศวินในครั้งนี้ และยืนยันว่าจะดำเนินการสนับสนุน และส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอิตาลีกับประเทศไทยในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ให้เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น อันจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศให้ยั่งยืนนานตลอดไป  

ที่สุดแห่งปี! Mchoice & Mint Awards 2025 จัดเต็มฉลองครบรอบ 5 ปี Mint Magazine

“Mchoice & Mint Awards 2025” อีเวนท์การประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่แห่งปีที่ทุกคนรอคอย พิเศษ! ฉลองครบรอบ 5 ปี Mint Magazine อัดแน่นด้วยโชว์สุดเซอร์ไพรส์ แฟชั่นโชว์จากแบรนด์ EXHIBIT, MAISON KITSUNE, Palm Angels และ SYSTEM แบรนด์ชั้นนำจากเกาหลีใต้ พร้อมทัพศิลปินตัวท็อปมากมายที่มาร่วมเดินพรม ที่ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ICONSIAM

"คุณก้อง" กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา ผู้ก่อตั้ง Mchoice และบรรณาธิการบริหาร Mint Magazine Thailand กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา Mchoice & Mint Awards ไม่ได้เป็นเพียงเวทีประกาศรางวัล แต่คือสัญลักษณ์ของการสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโลกแฟชั่น บันเทิง และแฟน ๆ เข้าด้วยกัน เราอยากให้เวทีนี้สะท้อนบทบาทของ Mint Magazine ในฐานะแพลตฟอร์มที่สร้างประสบการณ์และคุณค่าร่วมกันระหว่างศิลปิน แบรนด์ และผู้ชม ความท้าทายของเราคือการทำให้งานนี้มีความหมายต่อทุกฝ่ายพร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ในปีนี้เราจึงตั้งใจยกระดับโชว์ให้ยิ่งใหญ่และแตกต่างกว่าที่เคย ด้วยการผสมผสานแฟชั่นและความบันเทิง พร้อมคอลลาบอเรชันพิเศษระหว่างศิลปินกับแบรนด์ ร่วมด้วยแขกรับเชิญที่เราเชื่อว่าจะทำให้แฟน ๆ ต้องประทับใจจนห้ามกระพริบตา นี่คือการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยที่พร้อมก้าวสู่เวทีสากล โดยมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า Mchoice & Mint Awards จะเติบโตเป็นมากกว่างานประกาศรางวัล แต่จะกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงศิลปินและแฟน ๆ จากหลายประเทศในเอเชียเข้าด้วยกัน โดยเรามีเป้าหมายที่จะต่อยอดทั้งในเชิงคอนเทนต์ ธุรกิจ และวัฒนธรรม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยสู่ระดับโลก

"คุณป้อม" สรญา วัฒนเจียมวงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Publisher ของ Mint Magazine Thailand กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อตั้ง Mint Magazine ในปี 2020 เราวางคอนเซ็ปต์ Fan-based Economy System เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่รวมผู้คนที่รักและสนับสนุนสิ่งเดียวกัน พร้อมผลักดันศิลปินไทยสู่เวทีโลก ภายในเวลาเพียง 5 ปี แฟน ๆ ทั่วโลกกลายเป็นพลังสำคัญที่ทำให้ Mint Magazine เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในโอกาสครบรอบ 5 ปี เราจึงอยากขอบคุณและคืนกำไรให้คอมมูนิตี้ ผ่านกิจกรรมพิเศษตลอดปี ทั้งการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก การจับมือกับศิลปินทำเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท้นต์ในการเข้าร่วมแฟชั่นวีคต่างประเทศ ตลอดจนการจัดงาน on-ground มากขึ้น อาทิ นิทรรศการครั้งแรก ‘MINT 5 Years of Freshness’ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสเบื้องหลังการทำงานและภาพถ่ายสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่เคยเผยแพร่ รวมถึงกิจกรรมคอลลาบอเรชันกับพาร์ทเนอร์ในรูปแบบแฟชั่นโชว์และคอนเทนต์สุดพิเศษ โดยสมาชิก Mint จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

เรายังคงยึดกลยุทธ์ Customer Centric โดยนำข้อมูลและพฤติกรรมของแฟน ๆ มาต่อยอดสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจมากยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงใจแฟน ๆ โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา Fan-based Economy ไม่เพียงสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแรง แต่ยังผลักดันศิลปินไทยสู่ระดับโลก และเป็นประจำทุกปีที่ Mint Magazine จัดงาน Mchoice & Mint Awards เวทีที่มอบรางวัลให้แก่ศิลปินและผลงานที่สุดแห่งปีจากการโหวตของแฟนคลับ ควบคู่กับรางวัล Mint Choice ที่พิจารณาจากคุณภาพ กระแส ผลวิจารณ์ และมาตรฐานงาน ไม่ใช่เพียงจากความนิยมอย่างเดียว เพื่อให้รางวัลมีความหมายและน่าเชื่อถือ ทั้งศิลปิน เบื้องหน้าและทีมงานเบื้องหลังที่สมควรได้รับ เนื่องจาก MINT Magazine เป็นสื่อมวลชน เวทีของเราจึงไม่ได้ยึดติดกับค่ายหรือสังกัด แต่เปิดโอกาสให้ศิลปินจากหลากหลายค่ายมาร่วมแสดงศักยภาพ เกิดคอลลาบอเรชันใหม่ ๆ และสร้าง Ecosystem แบบ 360 องศา เชื่อมศิลปิน แบรนด์ และแฟนคลับ เข้าด้วยกัน งานนี้ไม่ได้จัดเพื่อสร้างรายได้ แต่เพื่อสร้างโอกาสและต่อยอดทั้งในเชิงธุรกิจ วัฒนธรรม และศักยภาพศิลปินไทย เราหวังว่างานครบรอบ 5 ปีนี้ จะยืนยันศักยภาพของวงการไทย และพาทุกคน ทั้งศิลปิน แฟนคลับ แบรนด์ และสื่อ เดินไปด้วยกันสู่อนาคตที่ไกลกว่าเดิม

​​​​​​​ ​​​​​​​

โดยปีนี้ Mint Magazine เปิดให้สมาชิกเว็บไซต์ Mint สามารถใช้คะแนน Token เป็นคะแนนโหวตให้แก่ศิลปินที่ชื่นชอบสำหรับ Mint Awards 2025 ได้เป็นครั้งแรก แฟน ๆ และสมาชิกเว็บไซต์ Mint สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ Mint Awards 2025 และการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในสาขาต่าง ๆ โดยสมาชิกของเว็บไซต์ Mint จะมีระดับสมาชิก (Member Tier) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ผ่านจำนวนเหรียญ Token ที่สมาชิกได้สะสมเอาไว้ ซึ่งการได้รับเหรียญ Token จะมาจากการเข้าอ่าน แชร์บทความ รวมถึงการสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ บนเว็บไซต์ www.mintmagth.com นอกจากนี้ทาง Mint Magazine ยังได้มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกเว็บไซต์ Mint สามารถใช้คะแนน Token แลกรับบัตรเข้างาน “Mchoice & Mint Awards 2025” ได้เช่นกัน

​​​​​​​

สำหรับบรรยากาศในงานคึกคักตั้งแต่เริ่มเปิดประตูต้อนรับแฟนคลับให้เข้ามากระทบไหล่ศิลปินคนโปรดอย่างใกล้ชิดผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ Mchoice’s Market ที่รวบรวมแบรนด์สินค้าจากเหล่าศิลปินและนักแสดง, บูทกิจกรรมสุดฟินจากสปอนเซอร์ และโมเมนต์สุดยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอยกับการเดินพรมจากทัพศิลปิน นำโดย คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส, มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์, เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร, ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล, เทศน์-เฮนรี ไมรอน, เติร์ด-ลภัส งามเชวง, ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล, แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, สกาย-วงศ์รวี นทีธร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ, นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล, พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี, ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ, ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์, จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค, ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ, เพิร์ธ-ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า-พงศภัค อุดมโภชน์, ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล, เลิฟ- ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร, มิ้ลค์-พรรษา วอสเบียน, น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม, ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์, เอมี่-ทสร กลิ่นเนียม, บอนนี่-ภัทราภัสร์ โบรัชตะสุวรรณ์, ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์, นิว-ชยภัค ตันประยูร, ไปป์-มนธภูมิ สุมนวรางกูร, พีเจ-มหิดล พิบูลสงคราม, มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, สน-ยุกต์ ส่งไพศาล, ปีเตอร์ เดรี่ย์, เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย, น้ำปิง-นภัสกร ปิงเมือง, มีน-นิชคุณ ขจรบริรักษ์, จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ, Butterbear ฯลฯ

และมาถึงไฮไลท์สำคัญของงานในค่ำคืนนี้กับการประกาศรางวัล MINT AWARDS 2025 ที่มีทั้งรางวัล Popular Vote ที่เปิดให้เหล่าแฟน ๆ ทุกคนได้มีส่วนร่วมโหวตตัดสินผ่านทางเว็บไซต์ https://www.mintmagth.com

1.BEST COVER OF THE YEAR โหวตให้กับที่สุดของปก Mint Magazine ที่คุณชื่นชอบในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ BUS because of you i shine

2.BEST DIGITAL COVER OF THE YEAR โหวตให้กับที่สุดของปกดิจิตอลของ Mint Magazine ที่คุณชื่นชอบในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ได้แก่  ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ และ เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง

3.ROOKIE OF THE YEAR โหวตให้กับที่สุดของดาวรุ่งน้องใหม่แห่งปี ได้แก่ บอนนี่-ภัทราภัสร์ โบรัชตะสุวรรณ์

4.BEST OF MINT SIX PACK (SPECIAL AWARD) รางวัลพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปี Mint Magazine โหวตให้กับที่สุดของหนุ่มฮอตหุ่นปังจากคอลัมน์ Mint Six Pack ที่คุณชื่นชอบในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์

และประเภทรางวัล Mint Choice ที่ตัดสินโดยกองบรรณาธิการของ Mint Magazine ดังนี้

​​​​​​​ ​​​​​​​

5.PHENOMENON OF THE YEAR ได้แก่ Khemjira The Series เขมจิราต้องรอด, Allday Project, GMMTV Fandom Character และ KPop Demon Hunters

​​​​​​​ ​​​​​​​

6.BREAKTHROUGH CAST OF THE YEAR ได้แก่ GELBOYS สถานะกั๊กใจ, High School Frenemy มิตรภาพคราบศัตรู และ Shine The Series

7.ENTERTAINMENT PROGRAM OF THE YEAR ได้แก่ Perfect 10 Liners สายรหัสเทวดา

นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดเซอร์ไพรส์จาก 4EVE, PROXIE, PERSES, BUS because of you i shine, แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย, ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว, ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล, DICE และ Mchoice trainee

​​​​​​​

​​​​​​​ ​​​​​​​

​​​​​​​ ​​​​​​​

​​​​​​​

และตื่นตาไปกับแฟชั่นโชว์จากแบรนด์ EXHIBIT, MAISON KITSUNE, Palm Angels และแบรนด์ SYSTEM แบรนด์สุดฮิตที่ได้รับความนิยมจากเหล่าไอดอล K-pop ที่ขนทัพนายแบบนางแบบมาแบบจัดเต็ม เต็มอิ่มสมเป็นอีเว้นท์แห่งปีที่ทุกคนรอคอย

"ภูมิคุ้มกันบำบัด" ทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็ง

เพียงได้ยินคำว่า “มะเร็ง” ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด คนรู้จัก หรือกับคนมีชื่อเสียง อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกได้หลากหลาย ทั้งตกใจ หวาดหวั่น หรือวิตกกังวล ทำให้หลายๆ คนต้องหันมาทบทวนแนวทางการดำเนินชีวิตของตนเองที่ผ่านมาว่ามีพฤติกรรมใดที่ก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หรืออีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือแนวทางการรักษาใหม่ๆ

องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2565 ประมาณร้อยละ 76 ภายใน 25 ปีข้างหน้า สำหรับประเทศไทย ข้อมูลในปี พ.ศ. 2562-2564 จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่าพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เฉลี่ยประมาณ 140,000 ต่อปี และจากรายงานสถิติสาธารณสุขพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิดเฉลี่ยประมาณ 84,000 คน ซึ่งโรคมะเร็งไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งกระทบถึงครอบครัวและสังคมรอบข้าง ทั้งในแง่ของร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ ไปจนถึงส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต

“ภูมิคุ้มกันบำบัด” ทางเลือกใหม่ในการต่อสู้กับมะเร็ง

ในโลกของการแพทย์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย การรักษาโรคมะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่นักวิจัยและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ด้วยความตั้งใจที่จะลดอัตราการเสียชีวิต ลดผลข้างเคียง และป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็งหลายชนิดได้ หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเป็นทางเลือกใหม่ คือ “ภูมิคุ้มกันบำบัด” หรือ Immunotherapy ซึ่งได้กลายมาเป็นแนวทางการรักษาที่พลิกโฉมการรักษามะเร็งในยุคปัจจุบัน

มาทำความรู้จักกับ “ระบบภูมิคุ้มกัน” ในร่างกายกันก่อน เพื่อที่จะเข้าใจวิธีการรักษาตามแนวทาง “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ให้ดียิ่งขึ้น ระบบภูมิคุ้มกัน เกิดจากการทำงานร่วมกันของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ รวมถึงต่อมน้ำเหลือง ม้าม ต่อมไทมัส ต่อมทอนซิล ไขกระดูก และเซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อและต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง โดยเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายหรือมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคหรือเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านั้น

“ภูมิคุ้มกันบำบัด” ใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสู้กับมะเร็ง

ผศ.ดร.นพ.ลักษมันต์ ธรรมลิขิตกุลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า “ภูมิคุ้มกันบำบัด เป็นหนึ่งในวิธีการรักษามะเร็ง โดยใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมาเป็น “อาวุธ” ในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของเรามีเซลล์เม็ดเลือดขาวทำหน้าที่หลักในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้คือ ทีเซลล์ (T-cells) ซึ่งสามารถตรวจจับและทำลายเซลล์ที่ผิดปกติได้ รวมถึงเซลล์มะเร็งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ แต่เซลล์มะเร็งมีความซับซ้อนและชาญฉลาด เพราะมันสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของระบบภูมิคุ้มกันได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มะเร็งสามารถเติบโตและแพร่กระจายในร่างกาย แต่ด้วยการค้นพบกลไกที่เซลล์มะเร็งใช้เพื่อหลบหลีกภูมิคุ้มกัน นักวิจัยจึงสามารถพัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง”

ภูมิคุ้มกันบำบัดแตกต่างจากการรักษาอื่นอย่างไร

สิ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบำบัดแตกต่างจากการรักษามะเร็งแบบดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัด หรือการฉายรังสี คือ ภูมิคุ้มกันบำบัดไม่ได้มุ่งทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำหน้าที่นั้นแทน หนึ่งในรูปแบบของภูมิคุ้มกันบำบัดที่ได้รับความสนใจในขณะนี้คือ ยายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์ (Immune Checkpoint Inhibitors) ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ช่วยเปิดทางและเพิ่มศักยภาพให้เซลล์เม็ดเลือดขาวสามารถโจมตีเซลล์มะเร็งได้

ไขความลับของอิมมูนเช็คพอยต์ กุญแจสำคัญของการรักษา

โดยปกติ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีอิมมูนเช็คพอยต์ (Immune Checkpoint) เป็นกลไกของร่างกายที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันทำงานเกินความจำเป็น เช็คพอยต์ตัวสำคัญตัวหนึ่งชื่อ PD-1 อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T-cells) ซึ่งสามารถจับกับ PD-L1 ที่อยู่บนเซลล์มะเร็ง เมื่อ PD-1 และ PD-L1 จับกันแล้วจะส่งสัญญาณยับยั้งทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดนี้หยุดกำจัดเซลล์มะเร็ง เปรียบเสมือนการเหยียบเบรกทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหยุดทำงาน

ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงคิดค้นยายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์ ซึ่งทำหน้าที่ขัดขวางไม่ให้ PD-1 และ PD-L1 จับกันได้ ทำให้เป็นการตัดสัญญาณยับยั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็งได้

มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่ายายับยั้งการทำงานของอิมมูนเช็คพอยต์นี้สามารถใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งรูปแบบอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า หรือการฉายรังสี ในการรักษามะเร็งหลากหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา มะเร็งเต้านมที่ไม่มีตัวรับฮอร์โมนและไม่มีตัวรับเฮอร์ทู (ทริปเปิลเนกาทีฟ, triple negative) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งจะเป็นผู้พิจารณาเลือกชนิดและรูปแบบการของการใช้ยาให้เหมาะสมกับชนิดของมะเร็ง ระยะโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

ผลข้างเคียง สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มการรักษา

แม้ว่าภูมิคุ้มกันบำบัดจะเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็ง แต่ยานี้อาจมีผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยควรทราบ ผลข้างเคียงเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นมากจนเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผิวหนังอักเสบทำให้มีผื่น ลำไส้อักเสบทำให้มีอาการท้องเสียหรือปวดท้อง ปอดอักเสบทำให้มีอาการไอหรือเหนื่อย ตับอักเสบทำให้มีค่าเอนไซม์ตับผิดปกติ ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย หรือระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง จนเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือภาวะพร่องฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต เป็นต้น ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มีระดับความรุนแรงได้หลากหลาย ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ในบางราย อาจมีอาการรุนแรงทำให้แพทย์ต้องพิจารณาหยุดการรักษาชั่วคราว และให้การรักษาด้วยยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกันเพื่อบรรเทาอาการ

ภูมิคุ้มกันบำบัด อีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นการรักษามะเร็งรูปแบบหนึ่งที่ใช้การทำงานของร่างกายในการจัดการกับเซลล์มะเร็ง แม้ว่าจะยังไม่สามารถใช้ในการรักษามะเร็งได้ทุกชนิด และยังมีข้อจำกัดบางประการ แต่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในด้านนี้กำลังสร้างทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ท้ายที่สุดแล้ว การรักษาโรคมะเร็งไม่ใช่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลที่เหมาะสมและการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย เพราะทุกคนมีเส้นทางการรักษาที่แตกต่างกัน และการร่วมมือกันระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และทีมแพทย์คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคร้ายนี้