ให้สวมแมสก์ งดกิจกรรมกลางแจ้ง! ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม. สูงขึ้น แดง 5 พื้นที่ ส้ม 65 พื้นที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพ

วันที่ 24 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2568 เวลา 07:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 66.3 มคก./ลบ.ม.

ระดับสีแดง มีผลกระทบกับสุขภาพ 5 พื้นที่ คือ

1.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 78.0 มคก./ลบ.ม.

2.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 77.3 มคก./ลบ.ม.

3.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 77.2 มคก./ลบ.ม.

4.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 77.1 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 75.8 มคก./ลบ.ม.

เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 65 พื้นที่

ข้อแนะนำสุขภาพ

คุณภาพอากาศระดับสีแดง: มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทุกคน : งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)

: ตรวจวัดได้ 39-78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 65 พื้นที่ คือ

1.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 74.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 73.7 มคก./ลบ.ม.

3.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 73.5 มคก./ลบ.ม.

4.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 73.4 มคก./ลบ.ม.

5.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 73.0 มคก./ลบ.ม.

6.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 72.7 มคก./ลบ.ม.

7.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 72.6 มคก./ลบ.ม.

8.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 72.3 มคก./ลบ.ม.

9.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 72.3 มคก./ลบ.ม.

10.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 72.0 มคก./ลบ.ม.

11.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 71.9 มคก./ลบ.ม.

12.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 71.8 มคก./ลบ.ม.

13.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 71.7 มคก./ลบ.ม.

14.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 71.3 มคก./ลบ.ม.

15.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 70.7 มคก./ลบ.ม.

16.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 70.3 มคก./ลบ.ม.

17.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 69.7 มคก./ลบ.ม.

18.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 69.3 มคก./ลบ.ม.

19.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 69.2 มคก./ลบ.ม.

20.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 69.0 มคก./ลบ.ม.

21.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 69.0 มคก./ลบ.ม.

22.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 68.1 มคก./ลบ.ม.

23.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 68.0 มคก./ลบ.ม.

24.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 66.9 มคก./ลบ.ม.

25.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 66.9 มคก./ลบ.ม.

26.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 66.3 มคก./ลบ.ม.

27.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 66.3 มคก./ลบ.ม.

28.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 66.1 มคก./ลบ.ม.

29.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 65.5 มคก./ลบ.ม.

30.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 65.5 มคก./ลบ.ม.

31.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 65.4 มคก./ลบ.ม.

32.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 65.3 มคก./ลบ.ม.

33.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 64.9 มคก./ลบ.ม.

34.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 64.9 มคก./ลบ.ม.

35.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 64.8 มคก./ลบ.ม.

36.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 64.7 มคก./ลบ.ม.

37.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 64.6 มคก./ลบ.ม.

38.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 64.2 มคก./ลบ.ม.

39.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 64.1 มคก./ลบ.ม.

40.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

41.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

42.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

43.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 63.8 มคก./ลบ.ม.

44.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 63.4 มคก./ลบ.ม.

45.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

46.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

47.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

48.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 62.9 มคก./ลบ.ม.

49.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 62.6 มคก./ลบ.ม.

50.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 62.1 มคก./ลบ.ม.

51.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 61.6 มคก./ลบ.ม.

52.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 61.4 มคก./ลบ.ม.

53.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 61.1 มคก./ลบ.ม.

54.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 61.1 มคก./ลบ.ม.

55.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 60.8 มคก./ลบ.ม.

56.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 60.0 มคก./ลบ.ม.

57.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 59.7 มคก./ลบ.ม.

58.สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ : มีค่าเท่ากับ 59.6 มคก./ลบ.ม.

59.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 59.6 มคก./ลบ.ม.

60.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 59.0 มคก./ลบ.ม.

61.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 57.2 มคก./ลบ.ม.

62.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 56.6 มคก./ลบ.ม.

63.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม.

64.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม.

65.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

นายกฯ ติดตามรับมือฝุ่น PM 2.5 สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมเฝ้าระวัง 60 วันอันตราย ชี้ภาคเหนือยังหนักจากประเทศเพื่อนบ้าน

 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มี.ค.68 ที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ชั้น 7 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการติดตามการดำเนินงานรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้าราชการเข้าร่วมด้วย

 

โดยนายกฯ รับฟังรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5  และจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในเดือนมี.ค.-เดือนเม.ย.ต้องเฝ้าระวัง 17 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจีสด้า ถือว่าสถานการณ์จุดความร้อนของไทยดีขึ้น แต่สถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังคือจุดที่เมียนมา ซึ่งอยู่ประชิดชายแดนไทย จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และจ.แม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้ 

 

โดยนายกฯ กล่าวว่า ทั้ง 2 เดือนนี้ คือเดือนมี.ค.และเดือนเม.ย.ต้องเข้มงวดหน่อย ต้องขอบคุณที่ช่วยกันเต็มที่ ทุกอย่างกฎหมายมีหมดแต่ต้องเน้นย้ำในเรื่องการใช้ และความร่วมมือบูรณาการ ซึ่งหลายๆนโยบายสำเร็จได้ด้วยทุกคน ขอฝากดูเรื่องสุขภาพของประชาชน และการแจ้งเตือนต่างๆให้ประชาชนทราบก่อนเพื่อป้องกัน 

 

จากนั้นเวลา 11.49 น. นายกฯ แถลงว่า ฝุ่นควัน PM 2.5 ตอนนี้จะหนักหน่อยทางภาคเหนือ ซึ่งมีฝุ่นควันที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนในประเทศมีการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆช่วยกันทุกฝ่าย ทำให้ปีนี้ค่าฝุ่นควันเราลดลงอย่างมาก ซึ่งรวมกันทั้งประเทศลดลง 16% และบางที่ก็ลดลงไป 20% บางจุด จุดความร้อนลดลงไปหลายเปอร์เซ็นต์มากถือว่ากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆแล้วต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วยในเรื่องของการเผา และในเรื่องของป่าไม้ที่จะเกิดไฟไหม้ ทั้งนี้ควรนำกฎหมายที่มีอยู่แล้วมาบังคับใช้ให้จริงจังยิ่งขึ้น และอาศัยการบูรณาการช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ก็สามารถทำให้ฝุ่นควันในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในช่วง 60 วันต่อจากนี้ ซึ่งปลัดกระทรวงทรัพย์ฯระบุว่าเป็น 60 วันอันตรายฝุ่นควันจะเยอะหน่อย เพราะฝนที่มีอยู่จะไม่ตก แต่จะตกอีกในช่วงเดือนพ.ค. ซึ่งฝนถือเป็นตัวช่วยหนึ่งในเรื่องฝุ่นควัน 

 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรามีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่และมีการให้ความรู้ รวมถึงข้อระมัดระวังต่างๆ แน่นอนว่ากระทรวงสาธารณสุขต้องช่วยดูด้วย ในเรื่องของบุคคลที่จะเจอความเสี่ยงเรื่องสุขภาพตามแนวชายแดนว่าจะมีอุปกรณ์เช่นใส่แมสในการสนับสนุนช่วยเหลือได้ และที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติงบกลาง ซึ่งได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพย์ฯงบกลาง 620 ล้านบาท แก้ไขปัญหาการเกิดจุดความร้อนและไฟไหม้ต่างๆลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ และเป็นเรื่องที่เราทราบอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์ประมาณนี้ เราก็จะวางเรื่องของงบประมาณให้ดีขึ้นอีกในปีต่อๆไป

 

“วันนี้ที่มาอัพเดทเรื่องนี้ เพราะเรื่องฝุ่นควันเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องนี้ จะพยายามทำให้ดีขึ้นในทุกๆเดือน โดยกระทรวงทรัพย์ฯเป็นหน่วยงานหลักที่จะดูแลเรื่องนี้ต่อไป ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงทรัพย์ฯ และทุกท่านที่มีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประเทศของเราการจัดการดีขึ้นแล้ว และกับประเทศเพื่อนบ้านก็ได้มีการพูดคุยประสานงานระหว่างกันหลายประเทศเพื่อขอความร่วมมือในเรื่องนี้ ก็ขอให้ประชาชนสบายใจว่าเรื่องฝุ่น PM2.5 กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ“ นายกฯ กล่าว

 

เช้านี้พบ ทุกเขต กทม.อากาศดีมาก ค่าฝุ่น PM 2.5 ต่ำสุด #ดอนเมือง

วันที่ 3 มี.ค.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 09:00 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2568 พบว่าทุกเขตของกรุงเทพมหานครอากาศดีมาก โดยเขตที่มีค่าฝุ่นต่ำสุด คือ #ดอนมือง 9.6 ไมโครกรัม

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 12 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้ม ในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพฯมีค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ดีอยู่ในระดับเขียวและสีฟ้า

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

เช้านี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม. ระดับสีส้ม 40 เขต เริ่มมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ สูงสุด #หนองจอก

วันที่ 28 ก.พ.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 07:00 น. ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 พบ 40 เขตของกรุงเทพมหานครอากาศ มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้มที่เริ่มจะมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ โดยเขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุดคือ หนองจอก 61 ไมโครกรัม

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 45 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้ม

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพฯมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีส้มและสีเหลือง ส่วนภาพรวมของประเทศยังมีค่าฝุ่น PM2.5 ระดับสีส้มและสีเหลืองกระจายอยู่หลายพื้นที่

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

เช้านี้ พบ 6 จังหวัด PM2.5 ระดับสีส้ม กทม.ทุกเขต สีเหลือง

วันที่ 27 ก.พ.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 07:00 น. ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 พบทุกเขตของกรุงเทพมหานครอากาศ มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับปานกลางสีเหลืองโดยเขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุดคือ ลาดกระบัง 34.6 ไมโครกรัม

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 6 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้ม ในขณะที่อีกหลายพื้นที่มีระดับค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีเหลือง สีเขียวและสีฟ้า

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพฯมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีส้มและสีเหลือง ส่วนภาพรวมของประเทศยังมีค่าฝุ่น PM2.5 ระดับสีเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่ กระจายอยู่หลายพื้นที่

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

 

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ชูโมเดล "ป่าปลอดเผา" ผลิตปุ๋ยจากใบไม้แห้งแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและ PM 2.5 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เดินหน้า ขับเคลื่อนโครงการ "ป่าปลอดเผา" ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชน โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร และนางสาวพิไลลักษณ์ พิชัยวัตต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ บ้านโป่ง ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และขับเคลื่อนการจัดการเชื้อเพลิงในป่า ลดการเผาที่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ

โครงการ "ป่าปลอดเผา" เริ่มต้นนำร่องที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีจุดความร้อน (Hotspot) สูง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ขับเคลื่อนโมเดลการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการใบไม้แห้ง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ก่อให้เกิดไฟป่า โดยได้ทำประชาคมกับ 6 ป่าชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วย บ้านสามปู บ้านมหาธาตุ บ้านแม่หาด บ้านปางป๋อ บ้านป่าไผ่ และบ้านห้วยหก ผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการในอำเภอเวียงแหง ส่งผลให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 102 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และเปลี่ยนใบไม้แห้งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้กว่า 84 ตัน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการเผาและป้องกันไฟป่าเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขยายผลการดำเนินงานโครงการ "ป่าปลอดเผา" จากอำเภอเวียงแหงสู่อำเภออมก๋อย 3 ชุมชนนำร่อง ได้แก่ บ้านหลิม บ้านดง และบ้านโป่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนงานภายใต้ โครงการอมก๋อยโมเดล โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการเชื้อเพลิงในป่าอย่างเป็นระบบ

โครงการนี้มุ่งเน้นการนำใบไม้แห้งมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยใช้ใบไม้แห้งผสมกับมูลสัตว์ ใช้เวลาในการย่อยสลาย 8 สัปดาห์ ปุ๋ยอินทรีย์เหล่านี้จะถูกนำกลับคืนสู่ชุมชน เพื่อใช้ในการเกษตรและลดต้นทุนในการใช้วัสดุบำรุงดิน การทำปุ๋ยอินทรีย์ต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเยาวชนคนรุ่นใหม่จากโครงการ One Young World เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ภายใต้โครงการ Young Transformative Leaders ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการเดินหน้าสานต่อแคมเปญ “#FIGHTหมอกควัน: พลังคนรุ่นใหม่ เพื่ออากาศสะอาด…เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเยาวชนและชุมชนในพื้นที่ และรณรงค์เชิญชวนแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ  เพื่อปลุกพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างอากาศสะอาด และพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมีแผนที่จะขยายโครงการ "ป่าปลอดเผา" ไปยัง 47 ป่าชุมชนทั่วอำเภออมก๋อย เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อผลักดันให้โครงการนี้เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จต่อไป

เช้านี้พบ 26 เขตของกรุงเทพมหานคร ค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้ม

วันที่ 25 ก.พ.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 07:00 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 พบ 26 เขตของกรุงเทพมหานครอากาศ มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้มที่เริ่มจะมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่อีก 24 เขตที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับปานกลางสีเหลือง

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 1 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีส้ม ในขณะที่อีกหลายพื้นที่มีระดับค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีเหลือง สีเขียวและสีฟ้า

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพฯมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีส้มและสีเหลือง ส่วนภาพรวมของประเทศยังมีค่าฝุ่น PM2.5 ระดับสีเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่ กระจายอยู่หลายพื้นที่

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

 

เช้านี้ กทม. 4 เขต มีค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับสีเหลือง อีก 46 เขตที่มีอากาศดีสีเขียว

วันที่ 24 ก.พ.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 07:00 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 พบ 4 เขตของกรุงเทพมหานครอากาศ มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีเหลือง ในขณะที่อีก 46 เขตที่มีอากาศดีในระดับสีเขียว

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 4 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีเหลือง ในขณะที่อีกหลายพื้นที่มีระดับค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีเขียวและสีฟ้า

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพฯมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีเหลืองไปจนถึงค่าคุณภาพอากาศดี ส่วนภาพรวมของประเทศยังมีค่าฝุ่น PM2.5 ระดับสีเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่ กระจายอยู่หลายพื้นที่

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

เช้านี้ PM 2.5 กทม.ระดับสีส้ม เกินมาตรฐาน 56 พื้นที่

วันที่ 21 ก.พ.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 42.5 มคก./ลบ.ม. กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางอีกแล้วค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 56 พื้นที่

ข้อแนะนำสุขภาพ

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง : ตรวจวัดได้ 30.5-60.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 56 พื้นที่ คือ

1.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 60.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 57.4 มคก./ลบ.ม.

3.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 56.9 มคก./ลบ.ม.

4.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 53.4 มคก./ลบ.ม.

5.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 52.4 มคก./ลบ.ม.

6.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 51.6 มคก./ลบ.ม.

7.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 51.6 มคก./ลบ.ม.

8.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 51.2 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 50.5 มคก./ลบ.ม.

10.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 50.5 มคก./ลบ.ม.

11.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

12.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม.

13.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม.

14.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 49.0 มคก./ลบ.ม.

15.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 49.0 มคก./ลบ.ม.

16.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 48.5 มคก./ลบ.ม.

17.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 48.4 มคก./ลบ.ม.

18.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 46.9 มคก./ลบ.ม.

19.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.

20.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.

21.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

22.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

23.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 45.8 มคก./ลบ.ม.

24.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 45.3 มคก./ลบ.ม.

25.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 45.3 มคก./ลบ.ม.

26.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.

27.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.

28.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม.

29.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม.

30.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.

31.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.

32.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.

33.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม.

34.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.

35.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 43.4 มคก./ลบ.ม.

36.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.

37.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.

38.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 42.4 มคก./ลบ.ม.

39.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

40.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.

41.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.

42.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.

43.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 41.0 มคก./ลบ.ม.

44.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

45.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.

46.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.

47.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

48.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

49.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.

50.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.

51.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

52.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

53.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.

54.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.

55.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

56.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.

ในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน" ขณะที่ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะเปิดสลับปิด และมีโอกาสเกิดฝน ส่วนวันที่ 23-25 ก.พ. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ดี-ดีมาก" ขณะมีอินเวอร์ชั่นเกิดใกล้ผิวพื้น แต่มีโอกาสเกิดฝนตก จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่

ดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่ กทม.

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25 #สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

นายกฯ พอใจ สถานการณ์ PM2.5 กทม. -ปริมลฑลอยู่ในเกณฑ์ดี เตรียมแผนรับมือเผาป่าภาคเหนือ-ตะวันตก ให้ กต.คุยกัมพูชา หลังพบจุดความร้อนสูง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.พ. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว. อุตสาหกรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ อธิบดีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 

 

จากนั้นเวลา 14.15 น. นายประเสริฐ แถลงผลการประชุมติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลดีขึ้น ปริมาณที่ปรากฏถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ประเด็นที่จะตามมาคือ พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกเริ่มมีการเผาป่าเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่คณะกรรมการต้องรับมือ ในการประชุมนายกฯ ได้มีข้อสั่งการหลายเรื่อง โดยเบื้องต้นให้มีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อรับมือสถานการณ์และเหตุการณ์ที่จะเกิดล่วงหน้าดังนี้ 1. นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ติดตามสถานการณ์การเผาป่าในเขตพื้นที่ต่างๆ โดยการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแนะนำเกษตรกร รวมถึงการติดตามการเผาป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ

 

2. มอบหมายให้กระทรวงดีอีรายงานและ ติดตามการเผาแบบภาพรวมเป็นระยะๆ และให้รายงานตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี 3. สั่งการให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูการเผาป่าในพื้นที่ต่างๆ ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ และเป็นเหตุการณ์ที่มนุษย์ทำขึ้น และสั่งการให้มีการดูแลในพื้นที่ป่าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และ 4. สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์งดซื้อสินค้าผลผลิตที่เกิดจากการเผา รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในอาหารสัตว์ โดยขอร้องผู้ประกอบการไม่ให้ซื้อวัตถุดิบที่เกิดจากการเผา

 

ทั้งนี้ในส่วนพื้นที่กทม.ได้มีการควบคุมฝุ่น ที่เกิดจากการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมก่อสร้าง รถเก่าที่ปล่อยควันดำ

 

นอกจากนี้ยังสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทราบกันดีว่า จุดฮอตสปอตอันดับหนึ่งอยู่บริเวณประเทศกัมพูชา ตามมาด้วยพื้นที่ที่ติดกับประเทศเมียนมาและประเทศลาว

 

โดยนายกฯ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง และให้ความรู้กับประชาชนในการติดตาม เรื่องการแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในกรณีที่พบเห็นการเผาหรือกิจกรรมใดๆ ที่ก่อให้เกิด PM 2.5 เพิ่มเติมมากขึ้น

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้มีมาตรการต่างๆให้รับทราบ ซึ่งมาตรการหลายอย่างเห็นผลดี เช่นภายหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมที่ไม่รับซื้ออ้อยที่เผาเกิน 25% ก็ดำเนินการได้ตามเป้าทุกอย่าง ซึ่งในรอบหลายปีไม่เคยมีการเผาอ้อยได้ต่ำขนาดนี้ นอกจากนี้ยังมีการปิดโรงงานที่จังหวัดอุดรธานี เพราะฉะนั้นมาตรการเหล่านี้ส่งผลให้ภาพรวมปริมาณฝุ่นในกรุงเทพฯไปได้ดี สิ่งที่ต้องเผื่อต่อไป คือไฟป่าที่จะเกิดในภาคเหนือและภาคตะวันตก

 

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ที่ประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ  (ปภ.ช.) จะยืนยันว่าสถานการณ์ฝนจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่นายกฯ ได้กำชับว่า ขอให้เขียนแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเดือน ต.ค.- ธ.ค. ต้องไม่มีสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อย่างน้อยก็ขอให้ลดลง 50% หากทำได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี จะทำให้ในช่วง 8-9 เดือน หลังจากนี้ PM 2.5 จะหายไปจากข่าวสารของบ้านเมืองได้มีการบังคับใช้กฎหมายอยู่ใกล้ชิด ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด