เริ่มจ่ายแล้ว! เงินชดเชยตัดอ้อยสด 69 บาท/ตัน ช่วยลด PM2.5 เกษตรกรรับแล้วกว่า 3,800 ล้าน

ชาวไร่ตัดอ้อยสด เฮ! “เอกนัฏ” Kick off โอนเงินช่วยเหลือตัดอ้อยสด 100% ตอกย้ำความร่วมมือชาวไร่และโรงงานน้ำตาล ลดเผาอ้อยต่ำสุดในประวัติศาสตร์

วันที่ 31 ก.ค.68 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติเห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายไปก่อนนั้น ซึ่งวันนี้พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด 100% จะทยอยได้รับเงินชดเชยในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐของรัฐบาล

โดยมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 มีชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 126,418 ราย ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 67.95 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 4,688 ล้านบาท ซึ่งชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือจะต้องสมัครและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สแกนบัตรประชาชน ณ สถานที่รับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยของสำนักงานคณะกรรมอ้อยและน้าตาลทราย และเป็นสมาชิก I - Industry กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เงินที่โอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวันนี้ (31 กรกฎาคม 2568) เป็นวันแรก มีเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับเงิน 77,044 ราย ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 55 ล้านตัน เป็นเงิน 3,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60.94% ของเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงิน

“ผมขอบคุณเกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลที่ร่วมมือกันลดการเผาอ้อยได้ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.86% สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนสำคัญในการลดเผาอ้อย รัฐบาลตั้งใจที่จะสนับสนุนและดูแลชาวไร่อ้อยที่ทำดี ให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ร่วมกับ DGA และ ธ.ก.ส. จะเร่งตรวจสอบข้อมูลชาวไร่อ้อยที่ดำเนินการตามเงื่อนไขข้างต้นให้ครบถ้วน คาดว่าจะสามารถโอนเงินงวดต่อไปได้ในสัปดาห์ถัดไป”  รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ กล่าวปิดท้าย

#อ้อยสด #ลดเผาอ้อย #เงินช่วยเหลือเกษตรกร #กระทรวงอุตสาหกรรม #PM25 #เกษตรกรไทย #ธกส #อุตสาหกรรมน้ำตาล #ข่าวเกษตร #เงินเยียวยา

 

"ป๋อ ณัฐวุฒิ" เคลียร์ชัด! ปม "เอ๋ พรทิพย์" เป็นมะเร็งปอด ไม่ได้เป็นมา 2 ปี เตือนสังคมระวัง PM 2.5

จากกรณีที่ "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ นักแสดงชื่อดัง ออกมาเปิดเผยผ่านโซเชียลว่า “เอ๋ พรทิพย์” ภรรยาคนสวย ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง สร้างความตกใจให้กับแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงการอย่างมาก กระแสความห่วงใยหลั่งไหลทั่วโลกออนไลน์ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาโพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ละเอียดผ่านช่องยูทูป “ป๋อสะกิดเอ๋” เผยเส้นทางการรักษาและอัปเดตอาการล่าสุด ขณะนี้ภรรยาได้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านแล้ว ขณะที่สังคมออนไลน์ยังคงแชร์เรื่องราวนี้อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด "ป๋อ ณัฐวุฒิ" โพสต์ชี้แจงกรณีดังกล่าวอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊ก Poh Natthawut ระบุว่า...

ขอชี้แจงเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ

- ข่าวที่บอกว่าเป็นมะเร็งมา2ปี….ไม่เป็นความจริงครับ!!!

- เอ๋ได้รับการผ่าตัดเอาก้อนขนาด1cm ออกจากปอดเมื่อวันที่24 พค.ที่ผ่านมาครับ ก้อนเนื้อถูกส่งเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นมะเร็งครับ

- นับตั้งแต่วันที่24พค เราแทบจะนอนไม่หลับกันเลย ช็อคแต่ก็มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการทั้งเรื่องงาน เรื่องลูก เรื่องการแจ้งข่าวกับคนใกล้ชิด แต่ทุกอย่างสับสนไปหมด หวาดกลัว เศร้า เสียใจ เราสู้ด้วยกันมา2คนจริงๆ

- เราทำคลิปนี้ขึ้นมา เพื่อให้สังคมตื่นรู้เรื่องของpm2.5 ให้ทุกท่านได้ระวังและตรวจสุขภาพบ้าง จะได้ไม่ต้องเจอแบบเรา …แต่คิดว่าการเล่าผ่านIG หรือ TikTok มันสั้นเกินไปที่จะเล่าเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ได้ครอบคลุมทั้งหมด เราจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวลงในYouTube ช่องของเราเอง

- เรื่องราวของpm2.5 เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่อยากให้ทุกคนหันมาสนใจสุขภาพของตนเอง เพราะอาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้เราเป็นมะเร็งปอดได้ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

- เราไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพราะ เอ๋ต้องผ่าตัด ต้องพักฟื้น และยังเจ็บแผล ที่สำคัญสภาพจิตใจของเราทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะเล่าและตอบคำถามมากมาย ความรู้สึกและจิตใจของเอ๋เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ

- ตั้งแต่วันที่27พค เอ๋ก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน สภาพจิตใจดีขึ้นเรื่อยๆครับ

- ตอนนี้เอ๋ยังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ด้วยจิตใจที่ยังเป็นคนป่วยอยู่นะครับ ในวันที่ที่14 มิย.ก็จะต้องไปสแกนทั้งตัวเพื่อดูให้แน่ใจว่ามีอะไรผิดปกติอีกหรือเปล่า ครอบครัวเรายังต้องอยู่กับสิ่งนี้อีก5ปีนะครับ

- ผมเอ๋และลูกๆก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป และหวังใจว่าคลิปวีดีโอนั้นจะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่านไปตรวจสุขภาพหรืออย่างน้อยไปตรวจปอดดูบ้างนะครับ ว่าอยู่ในสภาพที่ดีขนาดไหน

- ย้ำนะครับ!!pm2.5เป็นเรื่องยุคใหม่ที่ต้องให้ความสำคัญมากๆจริงๆนะครับ

- ทุกท่านจะได้ไม่ต้องมาเจอแบบเรา

- กราบขอบพระคุณมากครับ

AWS จับมือ Dees Supreme ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมหอฟอกอากาศ “Fahsai” ยกระดับคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ เสริมสุขภาพชีวิตคนเมือง สู้ฝุ่น PM2.5

AWS จับมือ Dees Supreme ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมหอฟอกอากาศ “Fahsai” ยกระดับคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ เสริมสุขภาพชีวิตคนเมือง สู้ฝุ่น PM2.5

บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด (Dees Supreme) และ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AWS) ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนการเข้าถึงเทคโนโลยีการฟอกอากาศระดับเมือง “ฟ้าใส (Fahsai)” ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดย MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด)  โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพอากาศในพื้นที่เมือง และพื้นที่เสี่ยงจากฝุ่น PM 2.5 เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของประชาชน และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเชื้อโรคในอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของคนเมืองในยุคปัจจุบัน ภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ AWS ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการขยายตลาดและพัฒนาหอฟอกอากาศ “ฟ้าใส (Fahsai)” ร่วมกับ Dees Supreme โดยความร่วมมือนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขยายผลและส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพผ่านนวัตกรรมหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด “ฟ้าใส” เพื่อประโยชน์ของชุมชนในวงกว้าง สร้างคุณภาพอากาศในเขตเมืองและส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าขยายหอฟอกอากาศไปยัง 20 พื้นที่ในเขตเมืองและพื้นที่เสี่ยงภายในปี 2568

นายวิฑิต อาภาพาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด (Dees Supreme) กล่าวว่า การแต่งตั้งบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AWS)   ซึ่งเชี่ยวชาญในการออกแบบพัฒนาเทคโนโลยี online และการทำตลาดสินค้านวัตกรรม มาเป็นตัวแทนจำหน่ายและร่วมพัฒนาธุรกิจหอฟอกอากาศระดับเมือง “Fahsai” อย่างเป็นทางการ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ  ที่จะขยายตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป ที่ต้องการหอฟอกอากาศที่สามารถแก้ปัญหามลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดฝุ่นละอองได้สูงสุดประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่รอบตัวเครื่องเทียบเท่าขนาดหนึ่งสนามฟุตบอล เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาโดยศูนย์วิจัยRISC ที่คิดค้นเทคโนโลยีฟอกอากาศที่แปลงฝุ่นพิษหรือ PM 2.5 ให้เป็นอากาศที่มีความปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

“การแต่งตั้งทาง AWS เข้ามาช่วยขยายตลาดครั้งนี้  เรามองว่าด้วยความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของทั้งคู่ จะช่วยให้ความร่วมมือครั้งนี้ของเราเป็นที่น่าจับตา และสร้างความคึกคักให้กับตลาดเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ เราเล็งเห็นความสะดวกสบายในการเข้าถึงสินค้าของลูกค้าและคาดหวังว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับตลาดไปในทิศทางที่ส่งผลดีต่อการพัฒนาและการผลิตหอฟอกอากาศช่วยทำให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน และท้ายสุดคือส่งผลดีต่อผู้บริโภคได้มีโอกาสในการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ” นายวิทิตกล่าวสรุป    

ดร.วิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“AWS รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตร ในการพัฒนาและขยายโครงการหอฟอกอากาศ “ฟ้าใส (Fahsai)” ในนามของบริษัทผมขอขอบคุณบริษัท ดี ซูพรีม จำกัด (Dees Supreme) ที่ไว้วางใจให้เราเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการเข้าถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดการคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะร่วมพัฒนาระบบนิเวศทางอากาศ (urban atmospheric ecosystem) ให้มีความสะอาด ปลอดภัย และยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ‘สิ่งแวดล้อมที่ดี เริ่มต้นที่อากาศที่บริสุทธิ์’ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาวะที่ดีของประชาชน ซึ่ง AWS เชื่อว่าเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven technology) ควบคู่กับการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของหอฟอกอากาศฟ้าใส คือคำตอบของการฟื้นฟูคุณภาพอากาศในยุคสมัยที่ภาวะมลพิษทางอากาศได้กลายเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุขที่กระทบต่อสุขภาพประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ภาวะฝุ่น PM2.5 หรือ เชื้อโรคในอากาศ ด้วยเหตุนี้เราจึงตั้งเป้าหมายในการขยายการติดตั้งหอฟอกอากาศ ฟ้าใส (Fahsai) จำนวน 20 แห่ง ภายในปี พ.ศ. 2568 ในพื้นที่ที่มีปัญหาคุณภาพอากาศขั้นวิกฤต เช่นชุมชนที่มีความหนาแน่นในเขตเมืองใหญ่ โดยในระยะยาว (ปี พ.ศ. 2569–2573) เราจะเร่งขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบด้านการจัดการคุณภาพอากาศบริสุทธิ์อย่างยั่งยืน ปรับสมดุล และฟื้นฟูสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรมหอฟอกอากาศ ฟ้าใส (Fahsai)”                                                       

 

กทม.เช้านี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังเกินมาตรฐาน อยู่ระดับสีส้ม 44 พื้นที่

วันที่ 28 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น.ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 39.8 มคก./ลบ.ม.

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. โดยรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 44 พื้นที่

ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค.68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว สำหรับช่วงวันที่ 30 มี.ค. - 5 เม.ย. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะเปิดสลับปิด และมีโอกาสเกิดฝนตก จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ณ เวลา 07.00 น. : ตรวจวัดได้ 32.7-55.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 44 พื้นที่ คือ

1.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 55.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม.

3.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม.

4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 49.2 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.

6.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.

7.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 45.1 มคก./ลบ.ม.

8.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 44.4 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 44.4 มคก./ลบ.ม.

10.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.

11.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.

12.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.

13.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

14.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

15.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

16.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

17.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

18.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.

19.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.

20.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.

21.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.

22.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.

23.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.0 มคก./ลบ.ม.

24.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

25.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

26.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

27.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.

28.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.

29.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

30.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

31.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.

32.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

33.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

34.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 38.8 มคก./ลบ.ม.

35.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.

36.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.

37.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.

38.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.

39.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

40.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.

41.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

42.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

43.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.

44.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบจุดความร้อน ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 จำนวน 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1เวลา 01.11 น. แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก

จุดที่ 2,3 เวลา 01.36 น. แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก

(จุดที่ 1 - 3 อยู่บริเวณใกล้กัน เป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว)

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

เช็กเลย! เช้านี้ คุณภาพอากาศ กทม. ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังส้มเกินมาตรฐาน 52 พื้นที่

วันที่ 27 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 40.7 มคก./ลบ.ม. ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง

ภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. โดยรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 52 พื้นที่

ในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค.68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น สำหรับช่วงวันที่ 30 มี.ค. - 4 เม.ย. 68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะเปิดสลับปิด และมีโอกาสเกิดฝนตก จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ณ เวลา 07.00 น. : ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)

: ตรวจวัดได้ 31.4-60.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 52 พื้นที่ คือ

1.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 60.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 58.6 มคก./ลบ.ม.

3.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 52.1 มคก./ลบ.ม.

4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม.

6.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 46.2 มคก./ลบ.ม.

7.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 46.1 มคก./ลบ.ม.

8.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 45.4 มคก./ลบ.ม.

10.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.

11.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.

12.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 44.5 มคก./ลบ.ม.

13.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 44.4 มคก./ลบ.ม.

14.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.

15.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.

16.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.

17.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 43.2 มคก./ลบ.ม.

18.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.

19.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.

20.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.

21.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

22.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

23.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

24.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.

25.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

26.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

27.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

28.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.

29.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.

30.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.

31.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

32.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม.

33.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม.

34.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.

35.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.

36.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.

37.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.

38.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม.

39.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม.

40.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.

41.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.

42.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

43.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.

44.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.

45.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

46.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.

47.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.

48.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.

49.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.

50.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

51.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.

52.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบจุดความร้อน ในวันที่ 26 มีนาคม 2568 จำนวน 2 จุด ดังนี้

จุดที่ 1,2 เวลา 13.46 น. แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง (จุดที่ 1 - 2 อยู่บริเวณใกล้กัน เป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว)

หากท่านพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25 #สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

 

ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง! พบ 19 จว.เกินมาตรฐาน กรุงเทพฯ ติดโผ 6 เขตน่าห่วง

ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง! พบ 19 จว.เกินมาตรฐาน กรุงเทพฯ ติดโผ 6 เขตน่าห่วง

วันที่ 27 มี.ค.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 8.00 น. ของวันที่ 27 มีนาคม 2568 พบว่าพื้นที่ของกรุงเทพมหานครมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 6 เขต โดยเขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุด คือ #หนองจอก 38.7 ไมโครกรัม

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 19 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระดับสีแดง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกบางจังหวัด

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าบางเขตกรุงเทพยังคงมีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ในส่วนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีแดงและสีส้ม

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากมานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

เช้านี้ ฝุ่น PM2.5 เหนือ - อีสาน ยังสูง พบ 17 จังหวัด ระดับสีแดง

วันที่ 26 มี.ค.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 8.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2568 พบว่าพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มีค่าฝุ่นในระดับปานกลาง ไปจนถึงระดับดี

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 17 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีแดง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพยังคงมีค่าฝุ่นในระดับปานกลางสลับกับค่าฝุ่นที่ดี ในส่วนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีแดงและสีส้ม

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากมานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

ค่าฝุ่น PM2.5 กทม.เช้านี้ ยังสีส้มทุกพื้นที่ พบเขตบึงกุ่มสูงสุด

วันที่ 26 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 07:00 น.

ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 44.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ภาพรวม : คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

12 อันดับ ของค่าฝุ่นPM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร

1 เขตบึงกุ่ม 64.2 มคก./ลบ.ม.

2 เขตวังทองหลาง 56.9 มคก./ลบ.ม.

3 เขตสาทร 56.9 มคก./ลบ.ม.

4 เขตบางนา 54.8 มคก./ลบ.ม.

5 เขตบางพลัด 51.9 มคก./ลบ.ม.

6 เขตลาดกระบัง 51.3 มคก./ลบ.ม.

7 เขตหนองจอก 50.7 มคก./ลบ.ม.

8 เขตบางขุนเทียน 50.5 มคก./ลบ.ม.

9 เขตพญาไท 49.2 มคก./ลบ.ม.

10 เขตคลองสามวา 49.1 มคก./ลบ.ม.

11 เขตบางกอกใหญ่ 48 มคก./ลบ.ม.

12 เขตทวีวัฒนา 48 มคก./ลบ.ม.

กรุงเทพเหนือ

42.2 - 47.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพตะวันออก

37.7 - 64.2 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพกลาง

39.7 - 56.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพใต้

39.2 - 56.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนเหนือ

43.9 - 51.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนใต้

39.3 - 50.5 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ภาพรวม : คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

คุมเข้ม “ข้าวโพดนำเข้า” รัฐเตรียม 4 มาตรการเด็ด ขึ้นทะเบียน–ออกใบปลอดเผา สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

คุมเข้ม “ข้าวโพดนำเข้า” รัฐเตรียม 4 มาตรการเด็ด ขึ้นทะเบียน–ออกใบปลอดเผา สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

วันที่ 25 มีนาคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการตรวจสอบกระบวนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการเผา และไม่มีหลักเกณฑ์ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้รัฐบาลห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาฝุ่น PM 2.5 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการแก้ปัญหา PM 2.5 อย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ทั้งระบบ ในระหว่างนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่นข้ามพรมแดนเป็นการเร่งด่วน 

สำหรับการกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เนื่องจากข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ หากมีการห้ามนำเข้าโดยไม่มีมาตรการรองรับ อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนสินค้าส่งออก

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เร่งหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชน และได้ข้อสรุปถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ดังนี้

1.ผู้นำเข้าต้องขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้

2.ต้องแสดงเอกสารรับรองว่าข้าวโพดปลอดจากกระบวนการเผา พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น แหล่งเพาะปลูก ที่ตั้งแปลงปลูก ปริมาณการนำเข้า และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

3.หากไม่ปฏิบัติตาม จะถูกพักการขึ้นทะเบียน ทำให้ไม่สามารถนำเข้าได้

4.กระทรวงพาณิชย์จะเสนอแนวทางนี้ต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ในเดือนเมษายน 2568 เพื่อให้พิจารณาบังคับใช้โดยเร็ว

นายพิชัยกล่าวอีกว่า ขอเรียนย้ำ รัฐบาลห่วงใยปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างมาก ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่เราต้องรีบแก้ไข กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด รวมทั้งต้องคิดอย่างเป็นระบบและรอบคอบมากที่สุด โดยคำนึงถึงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ จนถึงประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมยืนยันว่าจะติดตามและประเมินผลมาตรการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการลดมลพิษและรักษาเสถียรภาพด้านการค้าและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

#กระทรวงพาณิชย์ #ข้าวโพดนำเข้า #PM25 #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข้าวโพด

 

 

เช้านี้ กทม.ค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลง แต่ยังส้มอยู่ทุกพื้นที่ 

วันที่ 25 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 51.2 มคก./ลบ.ม. ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง

ภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. โดยรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 69 พื้นที่

ในช่วงวันที่ 25 มี.ค. - 2 เม.ย. 68 การระบายอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ "ดี" ขณะที่มีอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นต่อเนื่อง ชั้นบรรยากาศมีลักษณะอากาศเปิดสลับปิด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงแล้วทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ณ เวลา 07.00 น. : ค่าเฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ 36.7-69.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 69 พื้นที่ คือ

1.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 69.2 มคก./ลบ.ม.

2.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 60.5 มคก./ลบ.ม.

3.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 59.9 มคก./ลบ.ม.

4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 59.4 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 58.4 มคก./ลบ.ม.

6.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 57.7 มคก./ลบ.ม.

7.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 57.6 มคก./ลบ.ม.

8.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 57.5 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 57.0 มคก./ลบ.ม.

10.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 56.7 มคก./ลบ.ม.

11.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม.

12.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม.

13.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 56.2 มคก./ลบ.ม.

14.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม.

15.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 54.4 มคก./ลบ.ม.

16.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม.

17.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 54.2 มคก./ลบ.ม.

18.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 54.1 มคก./ลบ.ม.

19.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 53.5 มคก./ลบ.ม.

20.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 53.5 มคก./ลบ.ม.

21.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 52.7 มคก./ลบ.ม.

22.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 52.5 มคก./ลบ.ม.

23.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 52.3 มคก./ลบ.ม.

24.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 51.8 มคก./ลบ.ม.

25.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 51.7 มคก./ลบ.ม.

26.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 51.5 มคก./ลบ.ม.

27.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 51.4 มคก./ลบ.ม.

28.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 51.3 มคก./ลบ.ม.

29.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 50.5 มคก./ลบ.ม.

30.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

31.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

32.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 49.3 มคก./ลบ.ม.

33.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 48.8 มคก./ลบ.ม.

34.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.

35.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 48.6 มคก./ลบ.ม.

36.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 48.0 มคก./ลบ.ม.

37.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 47.9 มคก./ลบ.ม.

38.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.

39.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.

40.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.

41.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 47.3 มคก./ลบ.ม.

42.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.

43.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.

44.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.

45.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม.

46.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.

47.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.

48.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.

49.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

50.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

51.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 45.8 มคก./ลบ.ม.

52.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.

53.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.

54.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.

55.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 44.6 มคก./ลบ.ม.

56.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 44.5 มคก./ลบ.ม.

57.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.

58.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.

59.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.

60.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม.

61.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.

62.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.

63.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.

64.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 42.1 มคก./ลบ.ม.

65.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

66.สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

67.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.

68.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.

69.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.

พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 มีนาคม 2568 จำนวน 1 จุด เวลา 13.35 น. แขวงลำผักชี เขตหนองจอก (เป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว)

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี