กู้ภัยงมศพ ดช.วัย 12 ปี จมใต้คลองต่อหน้าเพื่อน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 เวลา 19.00 น. จทน.กู้ภัยในพื้นที่หนองคายและอุดรธานี กู้ชีพ อบต.บ้านว่าน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ว่ามีเด็กจมน้ำบริเวณคลองอีเฮียง ซึ่งเป็นคลองน้ำสาธารณะหมู่ 7 ต.บ้านว่าน จึงพร้อมด้วยอุปกรณ์ดำน้ำการค้นหา เมื่อมาถึงพบบริเวณดังกล่าวพบกู้ชีพ อบต.บ่านว่าน กำลังช่วยกันค้นหา และมีชาวบ้านกว่า 30 คนยืนดูอยู่ริมคลอง

สำหรับเด็กที่จมน้ำหายไป ทราบชื่อ ด.ช. อายุ 12 ปี โดยเพื่อนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเล่าว่า ตนและเพื่อนรวม 4 คน ทั้งเด็กวัย 12 ปี หลังเลิกเรียนได้ชวนกันมาเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว ขณะที่เล่นกันได้สักพัก จู่ๆ เพื่อนได้จมหายไปต่อหน้าต่อตาเฉยๆ พวกตนไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงรีบไปแจ้งคนในหมู่บ้านให้มาช่วยเหลือ โดยมีผู้ปกครองญาติพี่น้องของ ด.ช.วัย 12 ปี มานั่งดูเจ้าหน้าที่ในการค้นหาร่างน้องที่จมน้ำ

ส่วนการค้นหา จนท.ชุดดำน้ำกู้ภัยตำรวจทางหลวงอำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี ดำค้นหาบริเวณด้านล่างคลองที่ลึกประมาณ 4-5 เมตร ซึ่งคาดว่าร่างเด็กน่าจะติดอยู่ตรงนั้น โดยทีมกู้ภัยได้ติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์ให้ความสว่างได้สะดวกในการค้นหา ผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงพบร่าง ด.ช. 12 ปี จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในคลองดังกล่าว  จนท.กู้ภัยจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา เพื่อส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีตามศาสนาต่อไป

กุ้ง 6 ตัวแลก 1 ชีวิตในกระแสน้ำเชี่ยว หนุ่มขับรถพุ่มพวง ถูกพัดหายข้ามคืนพบเป็นศพ

กุ้ง 6 ตัวแลกกับ 1 ชีวิตคนในกระแสน้ำเชี่ยว หลังหนุ่มร่างยักษ์อาชีพขับรถพุ่มพวงเร่ขายกับข้าวตามชุมชน ถูกกระแสน้ำบางปะกงพัดหายข้ามคืน ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังวัดสมานรัตนาราม สถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศองค์นอน ปางเสวยสุขเลื่องชื่อ หน้าสันเขื่อนบางปะกงก่อนพบเป็นศพอึดติดอยู่คาซอกหินใกล้รางช่องระบายน้ำ ท่ามกลางความเศร้าโศกของหมู่ญาติ โดยเฉพาะภรรยาสาวพร้อมลูกน้อยอีก 2 คนต่างร้องไห้ระงม

วันที่ 21 มิ.ย.67 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม ได้ทำการค้นหาร่างชายหนุ่มวัย 32 ปีจนพบแล้ว หลังรับแจ้งจากทางญาติว่า ได้สูญหายไปภายในน้ำตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ที่บริเวณใต้แนวสันเขื่อนปิดกั้นกลางลำน้ำ ในแม่น้ำบางปะกงสายเก่า ที่ถูกปิดกั้นเพื่อสร้างเป็นช่องประตูพร้อมรางระบายน้ำขึ้นมาปิดขวางไว้ใช้บังคับให้น้ำเปลี่ยนทิศทางการไหลเข้าไปยังลำน้ำบางปะกงสายใหม่อีกด้าน ที่มีการก่อสร้างโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกงเมื่อเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา

โดยจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.4 ต.คลองจุกเฌอกับ ม.11 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา สอบถาม นางต้น โถทอง อายุ 52 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เพื่อนบ้านเช่าห้องพักติดกันย่าน รพ.เกษมราษฎร์ฉะเชิงเทรา ในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา เล่าว่า ผู้ตายเปรียบเสมือนญาติ ที่มาเช่าห้องพักติดกันและพึ่งพาอาศัยกัน จึงได้มาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่และเช่าห้องติดต่อกันอยู่หลายครอบครัว

เมื่อวานนี้ผู้ตาย คือ นายดุสิต อายุ 32 ปี ชาว ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ซึ่งมีอาชีพขับรถพุ่มพวงเร่ขายกับข้าว ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีกระเป๋าและตะกร้าหาบเร่ 2 ข้าง ได้ออกจากห้องพักมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คนเพื่อที่จะไปลงงมหากุ้งในแม่น้ำบางปะกงสายเก่า จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ทั้งสองคนใกล้จะเลิกงมหากุ้งแล้ว โดยผู้ตายงมหากุ้งแม่น้ำ (ก้ามกราม) ได้มาจำนวน 6 ตัว

จึงได้พากันพยายามเดินข้ามร่องน้ำจากบริเวณใกล้กึ่งกลางแม่น้ำ มาข้ามร่องน้ำของบานประตูระบายด้านทิศตะวันออก จากทั้งหมด 3 บาน คือร่องกลางและรองด้านตะวันตกอีก 1 บาน และในขณะนั้นเป็นช่วงที่กระแสน้ำกำลังไหลขึ้น และไหลผ่านเข้าสู่บานประตูที่เปิดไว้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้ตายเสียหลักเซไปตามกระแสน้ำวน ขณะที่เพื่อนที่มาด้วยกันได้พยายามที่จะหาทางช่วย ด้วยการจะให้ผู้ตายเกาะขาไว้

แต่เนื่องจากตัวของนายดุสิตนั้น มีตุ้มถ่วงน้ำหนักสำหรับถ่วงในเวลาดำลงไปใต้น้ำในขณะงมหากุ้งคาดอยู่ที่เอวจำนวน 3 ตุ้ม น้ำหนักรวมสายโซ่ประมาณกว่า 10 กก. จึงทำให้นายดุสิตจมน้ำหายไป หลังจากนั้นเพื่อนที่มาด้วยจึงแจ้งกลับมาให้ทราบกัน และร้องขอไปยังหน่วยกู้ภัย ให้ส่งชุดประดาน้ำมาช่วยกันลงงมค้นหาไปจนทั่วบริเวณ และกระจายเป็นวงกว้างมาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้จนถึงเวลา 02.00 น. แต่ไม่พบ

จนมาลงงมค้นหาในวันนี้เมื่อช่วงสาย และเพิ่งมาพบศพติดอยู่ที่ซอกของร่องน้ำ ปากประตูระบายน้ำด้านบนฝั่งตรงข้ามกับปากร่องน้ำด้านล่างใต้แนวสันเขื่อนที่สูญหายไปเมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยที่ตัวของนายดุสิต ยังคงมีถุงตาข่ายไนล่อนสำหรับใส่กุ้งติดอยู่ที่เอวพร้อมกุ้งจำนวน 6 ตัว และไฟฉาย โดยที่มือยังคงกำเหล็กแหลมที่ดัดแปลงมาเป็นฉมวกเอาไว้แน่น รวมถึงที่เอวยังคงมีตุ้มถ่วงน้ำหนักรัดติดอยู่ด้วย นางต้น ระบุ

หลัง จนท.อาสากู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ ทางฝ่ายภรรยา คือ น.ส.ตา วัย 29 ปี พร้อมด้วยบุตรสาววัย 7 ขวบและ 4 ขวบ 2 คนต่างพากันร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้า โดยนายดุสิต เป็นหนุ่มรูปร่างใหญ่ ตัวอ้วนและมีน้ำหนักมากประมาณ 140 กก. สูงประมาณ 180 ซม. ซึ่งญาติได้เตรียมเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลยังที่บ้านเกิดตามภูมิลำเนาใน ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ต่อไป

ขณะที่ชาวบ้านใน ต.คลองจุกเฌอ ต่างเล่าขานกันว่าในบริเวณดังกล่าวมีคนหาปลาหากุ้งมาเสียชีวิตในบริเวณนี้มาแล้วประมาณ 5 คน โดยคนก่อนหน้านี้เป็นคนยิงปลา ที่ถูกเชือกจากปืนยิงปลาที่ยิงพันรัดติดแน่นจนจมน้ำเสียชีวิต ส่วนรายที่เพิ่งมาเสียชีวิตครั้งนี้ วันนี้ยังตรงกับวันพระใหญ่อีกด้วย

                                                     

ปทุมธานี หนุ่มเมียนมาลงไปเอาเบ็ดตกปลา จมน้ำหายต่อหน้าเพื่อน

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 17 มิ.ย.67 ร.ต.อ.อดิศักดิ์ คชศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำตายภายในบ่อตกปลาแห่งหนึ่งบริเวณ ม.13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

   ที่เกิดเหตุเป็นบ่อตกปลาขนาดใหญ่ลึกประมาณ5-6เมตร พบอุปกรณ์ตกปลาและปลาที่ตกได้ของผู้ตายอยู่บนฝั่ง เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดปทุมธานี จึงได้ช่วยกันงมหาผู้ที่สูญหายภายในน้ำใช้เวลาประมาณ10 นาทีจึงพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนาย SAW KYl LWlN อายุ 42  ปีสัญชาติเมียนมา

  จากการสอบถามนายเอ สัญชาติ เมียนมา 35 ปี บอว่าตนเองกับผู้ตายได้มาตกปลาที่บ่อนี้เวลาประมาณเที่ยง ขณะที่ผู้ตายตกปลาอยู่และปลาติดเบ็ดซึ่งปลาดึงเบ็ดไป ตนเองก็บอกว่าไม่ต้องลงตามไปหรอก แต่ผู้ตายกระโดดลงไปคนเดียวและก็ตะโกนบอกว่าไม่ไหวแล้ว ตนเองจึงลงน้ำไปช่วยซึ่งตนเองก็ไม่ไหวเหมือนกันจากนั้นเขาก็จมหายไปซึ่งพวกตนมาด้วยกัน 3 คน

   ด้านร.ต.อ.อดิศักดิ์ คชศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง

สลด!!ผู้เฒ่าเครียดป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 กลัวครอบครัวลำบากตัดสินใจดิ่งสะพานพระราม3 จบชีวิตตัวเอง

วันที่ 16 มิ.ย.67 ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ชุณหเมธาทิพย์ รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม รับแจ้งพบร่างผู้เสียชีวิตลอยน้ำบริเวณท่าน้ำโกดังแสงทอง ถนน ราษฎร์บูรณะ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อม ประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบพร้อมนำเรือตรวจการณ์

พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในลักษณะนอนหงายหน้าลอยคออยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงรีบนำขึ้นเรือตรวจการมาตรวจสอบที่ท่าน้ำ สน.บางคอแหลม จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงิน ตรวจสอบภายในร่างกายพบกระดาษ 1 แผ่นเขียน เบอร์โทรศัพท์ของญาติ อยู่ภายในกระเป๋ากางเกง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบติดต่อหาญาติผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ที่พบ ต่อมาญาติของผู้เสียชีวิตให้เดินทางมาถึงที่ สน.บางคอแหลม จึงมั่นใจว่าใช่ ต่อจึงทราบชื่อผู้เสียชีวิตชื่อนาย วิทยา อายุ 68 ปี 

ซึ่งเหตุการณ์ของตอนที่นายวิทยา ได้เดินทางออกจากบ้านที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเวลาช่วงเช้าของวันนี้ ( 16 มิ.ย.67 ) โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว ทะเบียน สรร xxx กทม.ไปด้วย และต่อมาเมื่อช่วงเวลา 09.50 น. ของวันเดียวกันนี้ทางลูกสาวชื่อว่า นางสาว ปานฤทัย อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 449/19 หมู่ 2 ตำบล บ้านคลองสวน  อำเภอ พระสมุทรเจดีย์ จังหวัด สมุทรปราการ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับ นาย วิทยา ได้รับโทรศัพท์จาก บิดาของตนคล้ายกับพูดสั่งเสียว่า กำลังจะกระโดดน้ำ ที่สะพานพระราม 3 ให้มาเอารถจักรยานยนต์ด้วย และตนเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็พยายามห้ามปราม ก่อนที่ปลายสายจะถูกตัดทิ้งไป  และต่อมาเมื่อเวลา 10.25 น. ของวันเดียวกัน ทางลูกสาวของนายวิทยา ก็ได้โทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปากคลองสาน ว่าบิดาของตน ได้กระโดดน้ำ โดยมีรถจักรยานยนต์ ยี้ห้อฮอนด้า ทะเบียน สรร xxx กรุงเทพมหานคร , คีย์การ์ดที่พัก , โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตนจึงรีบเดินทางไปดู ก็พบว่าใช่จริงๆ จึงได้นำเอากลับคืน และได้ทำการเเจ้งต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทางน้ำพร้อมทีมนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงได้นำเรือตรวจการณ์ทางน้ำออกค้นหาบริเวณใต้สะพานพระราม 3 ซึ่งเป็นจุดที่นายวิทยา กระโดดลงมาทั้งบนพื้นผิวแม่น้ำเจ้าพระยา และภายในใต้น้ำ ใช้เวลาอยู่นาน เพื่อเร่งช่วยเหลือ แต่ก็ค้นหาไม่พบ

และเมื่อผู้เสื่อข่าวสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทางคุณหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยา ได้ความว่า นายวิทยา ป่วยเป็นมะเร็งตับ ระยะที่ 4 แล้ว และเขาไม่อยากจะเป็นภาระให้กับทางครอบครัวจึงตัดสินใจจบชีวิตด้วยตัวเขาเอง ปกติ นาย วิทยา เป็นคนเข้มแข็ง จะไม่พูดคำว่าเจ็บออกมาให้ใครได้ยิน  พอเค้าโทรมาบอกว่าเขาจะฆ่าตัวตายตนเองก็ช็อคนะแล้วตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ไม่คิดว่าเขาจะโดดน้ำฆ่าตัวตายจริงๆ

และเมื่อเวลา 17.01 น. ของวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางคอแหลม ได้รับแจ้งว่ามีร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่บริเวณท่าน้ำโกดังแสงทอง จึงรีบเร่งนำเรือตรวจการณ์ออกตรวจสอบและเมื่อไปพบร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าวจึงนำกลับมาที่ท่าน้ำ สน.บางคอแหลม เพื่อให้แพทย์นิติเวชตรวจสอบพร้อมทั้งประสานไปที่ นางสาว ปานฤทัย ให้มาดูว่าใช่ร่างของนาย วิทยา ผู้เป็นบิดาหรือไม่ 


เมื่อนางสาว ปานฤทัย มาถึงก็ชีตัวยืนยันได้ว่าเป็นบิดาของตนอย่างแน่นอนแล้ว และจากการตรวจสอบของแพทย์นิติเวช แล้วไม่พบบาดแผลไดๆภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต และไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย แต่อย่างไรแล้วต้องนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารหลักฐานไปขอรับร่างผู้เสีชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

บุรีรัมย์ พ่อค้าผลไม้ ขับเก๋งไปเอาเสื้อผ้าที่จ้างซัก หายข้ามคืน พบเป็นศพจมน้ำดับคารถ

พ่อค้าผลไม้วัย 60 ชาว อ.หนองกี่  จ.บุรีรัมย์  ขับเก๋งออกไปเอาเสื้อผ้าที่จ้างซักในตัวอำเภอตั้งแต่บ่ายหายข้ามคืนไม่กลับบ้านโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ เมียและญาติออกตามหาไม่เจอ รุ่งเช้ามีคนโพสต์พบป้ายทะเบียนตกอยู่ข้างสระน้ำรีบไปดูแทบช็อก รถเก๋งที่สามีขับไปจมอยู่ก้นสระพบร่างนอนตายเบาะหลังกระจกเปิดครึ่งบานคาดพยายามหาทางออกแต่หมดแรง เมียและลูกสาวร้องไห้แทบขาดใจ เผย 2 – 3 วันก่อนผู้ตายนั่งรถไปกับเมียพูดเป็นลางสระน้ำนี้สวยน่าจะเย็นสบาย 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.67) ร.ต.อ.ธีวัฒน์  รากคีรี  รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุอยู่ริมสระน้ำขนาดใหญ่ หมู่บ้านโคกรัก  ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ และมีป้ายทะเบียนของรถยนต์ กบ-xxxx บุรีรัมย์ตกอยู่ริมสระด้วย   คาดว่าน่าจะมีรถเสียหลักพุ่งตกสระน้ำและอาจจะมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถด้วย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานสมาคมกู้ภัยหนองกี่ กู้ชีพ อบต.ดอนอะราง และกู้ภัยสว่างโนนสุวรรณ ร่วมตรวจสอบ 

 เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ความลึกราว 5 เมตร ก็พบร่องรอยการเฉี่ยวชนเสาข้างทาง ชิ้นส่วนรถ ลักษณะเหมือนรถพุ่งลงไปในน้ำ ทั้งยังพบป้ายทะเบียนตกอยู่ริมสระด้วย โดยมีภรรยา ของเจ้าของรถเก๋งที่ป้ายทะเบียนตกอยู่ริมสระเดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วย เพราะมั่นใจว่าเป็นรถของสามีที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้  

จากนั้นสมาคมกู้ภัยหนองกี่ และกู้ภัยสว่างโนนสุวรรณ จึงได้ลงงมค้นหารถที่คาดว่าตกลงไปในสระน้ำดังกล่าว จากการลงงมหาพบรถเก๋งยี่ห้อ MG สีขาว ตกอยู่ในสระน้ำดังกล่าวในลักษณะล้อชี้ฟ้า และพบร่างคนขับ ทราบชื่อคือ นายอับดุลเลาะ อายุ 60 ปี  เป็นชาว จ.ยะลา แต่มามีครอบครัวอยู่ที่ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ในสภาพนอนหงายมือ และขากางออกคล้ายกับท่าละหมาดของชาวอิสลาม สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อลายสะก๊อตแขนยาว เสียชีวิตอยู่เบาะหลังคนขับ และพบกระจกฝั่งขวาหลังคนขับถูกเปิดออกครึ่งบาน คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะพยายามเปิดเพื่อออกจากรถแต่ไม่สามารถออกได้ โดยหน่วยกู้ภัยฯ และรถสลิงของเอกชน ก็ได้ใช้เวลากู้ซากรถเก๋งและนำศพขึ้นจากสระน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง  

ซึ่งทันทีที่ภรรยา และลูกสาววัย 9 ขวบของผู้เสียชีวิตเห็นร่างไร้วิญญาณของสามี และพ่อ ถึงกับร้องไห้แทบขาดใจ โดยเฉพาะคนเป็นภรรยาถึงกับเป็นลมกู้ภัยและชาวบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาล  

สอบถามนางสาวสมหวัง อายุ 41 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานสามีบอกว่าจะออกไปเอาเสื้อผ้าที่จ้างซักไว้ที่ร้านในตัวอำเภอหนองกี่ เพราะมีชุดนักเรียนของ ลูกสาววัย 9 ขวบ ที่จะต้องใส่ไปโรงเรียนพรุ่งนี้ด้วย จากนั้นก็ติดต่อสามีไม่ได้ออกตามหาก็ไม่เจอ เสียใจมากไม่คิดว่าสามีจะเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแบบนี้ 

ด้านนางสาวบังอร อายุ 32 ปี น้องเมียคนตาย เล่าว่า เมื่อวานก่อนที่ตนจะออกไปขายของตลาดประมาณ 16.00 น. ก็ยังได้คุยกับพี่เขยอยู่เลย ก็บอกว่าจะไปเอาเสื้อผ้าที่จ้างซักเอาไว้ในร้านในตัวอำเภอหนองกี่ ซึ่งห่างจากบ้านกว่า 10 กิโลเมตร แต่ตกค่ำก็ยังไม่เห็นกลับบ้าน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ พี่สาวกับตนเองก็พากันออกตามหาแต่ไม่เจอ กระทั่งตอนเช้าเห็นมีคนโพสต์เฟสบุ๊กว่า “อุบัติเหตุเมื่อคืนที่หนองเต็งรัง บ้านโคกรัก รถท่านใดรู้จัก ช่วยแจ้งด้วยครับ หรือรถยังอยู่ในน้ำอยู่ครับ”  โดยในโพสต์มีการลงรูปป้ายทะเบียนที่ตกอยู่จุดเกิดเกิดเหตุด้วย เป็นป้ายทะเบียน กบ-xxxx บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นทะเบียนของรถเก๋งที่พี่เขยขับ ก็เลยพากันออกไปดูถึงกับช็อกพบว่าเป็นพี่ชายจริงๆ  ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 – 3 วันเห็นพี่สาว เล่าให้ฟังว่า ตอนที่นั่งรถไปกับพี่เขยซึ่งขับผ่านสระน้ำนี้ เขายังพูดว่าสระน้ำนี้สวยดีนะน่าจะเย็นสบาย ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นลางบอกเหตุหรือป่าว กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น 

พบศพนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลอยเปลือยกาย เกยหาดพัทยา

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2567 ร.ต.อ.อานันท์ มหากิจอัศวกุล รอง สว.สอบสวนสภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณตรงข้าม ซอย 3 ถนนเลียบชายหาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

    ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดพบนักท่องเที่ยว และประชาชนมุงดูผู้เสียชีวิต ตรวจสอบพบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผิวขาว  มีรอยสักรูปดอกไม้ที่แขนซ้าย และมีรอยสักรูปนกที่แขนขวา อยู่ในสภาพเปลือยกาย คว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ริมชายหาด สวมรองเท้าสีดำ นอกจากนี้ยังพบกางเกงขาสั้นสีดำ ลอยมาติดหาดอยู่ 1 ตัว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ส่วนในตัวไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าเป็นใครมาจากไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานผู้ตายเสียชีวิตไม่น่าจะเกิน 5 ชม.

     สอบถามนายคชรินทร์ ชูชุ่ม (เจ้าหน้าที่ ฝ่ายกิจการพิเศษเมืองพัทยา) ทราบว่า ตอนนั้นออกเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณชายหาด แล้วได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการร่มเตียง พบนักท่องเที่ยวจมน้ำในลักษณะนอนคว่ำหน้า จึงรีบนำกำลังออกไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่านักท่องเที่ยวได้เสียชีวิตแล้ว จึงกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาจะนำร่างผู้เสียชีวิต ไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง ก่อนส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจชันสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่สืบสวนว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน และพักที่ใดก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

ญาติไล่กล้องตามหาจนเจอร่างชายวัย 48 ปี ตายในบ่อน้ำ หลังป่วยสุขภาพจิต ก่อนปั่นจักรยานหายไป

เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ 29 พ.ค.67 ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบร่างผู้เสียชีวิต ภายในกอผักบุ้ง ในบ่อน้ำ พื้นที่ ม.2 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ  หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน 

ที่เกิดเหตุพบร่าง นายพงษ์เทพ หรือแดง อายุ 48 ปี ในสภาพสวมเสื้อคอปก สีม่วง กางบอลขาสั้น สีดำ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตภายในบ่อน้ำข้างกอผักบุ้ง เจ้าหน้าที่ได้นำร่างขึ้นมาตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ยัง รพ.สัตหีบ กม.10  โดยมี นายณริศร์พงศ์ อายุ 37 ปี หลานผู้เสียชีวิต ที่เป็นคนมาพบศพยืนดูด้วยความโศกเศร้า เสียใจ 

นายณริศร์พงศ์ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นอาของตน ป่วยสุขภาพจิตซึ่งทุกวันต้องออกมาช่วยพ่อและแม่ของตน ขายข้าวต้ม ภายในตลาด  โดยหายออกจากบริเวณร้านน้อยข้าวต้มกุ๊ย ถนนเทศบาล 1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 21:00 น. โดยปั่นจักรยานสีชมพู ไม่มีตะกร้าหน้ารถออกไป  

       โดยตนได้ออกไปติดตามกล้องวงจรปิดต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยเมื่อเวลา 22.15 น.ปั่นจักรยานผ่าน ทต.เกล็ดแกล้ว และผ่าน ทางวัดเขาชีจรรย์ เวลา 22.22 น. ก่อนมุ่งหน้าไปทางช่องแสมสาร ในช่วงเวลา 23.16 น. ก่อน ช่วงเวลาเที่ยงคืนวันที่ 27 พ.ค. พบว่าปั่นจักรยานเข้าไปทางหาดน้ำใส ต.แสมสาร อ.สัตหีบ ก่อนหายไป จนในวันนี้ได้มีการระดมกำลัง ทางญาติพี่น้อง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ออกค้นหาทั่วบริเวณ ก่อนจะมาพบศพ นอนเสียขีวิตในบ่อน้ำดังกล่าว  ซึ่งตนคิดว่าอาของตน น่าจะมีอาการกำเริบทางสุขภาพจิต ก่อนจะลงไปในบ่อน้ำและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว  ส่วนจักรยานยังไม่พบสันนิฐานน่าจะไปจอดทิ้งที่ไหนสักแห่ง บริเวณจุดพบศพ

อนาถ! 4 หนุ่มเมียนมา คนงานลานรับซื้อมันสำปะหลัง ร้อนจัดพายเรือเล่นในสระน้ำ เกิดล่มจมหายไป 1 ส่วนอีก 3 รอดหวุดหวิด

อนาถ ! 4 หนุ่มเมียนมาคนงานลานรับซื้อมัน สำปะหลังที่กาญจน์ ร้อนจัดพายเรือเล่นในสระน้ำหลังลานมัน เรือรับน้ำหนักไม่ไหวเกิดล่มจมน้ำหายไป 1 ส่วนอีก 3 รอดหวุดหวิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 28 พ.ค.67 ร.ต.อ.ทวีศักดิ์  เอี่ยมจงจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ได้รับแจ้งจากนายชลอ  เห็นระเสริฐ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.หนองโรง ว่าเกิดเหตุมีคนงานลานรับซื้อมันสำปะหลัง จมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดภายในสระน้ำด้านหลังลานมันบ้านหลุมหิน หมู่ 10 ต.หนองโรง อ.พนมทวนฯ หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคัญบัญชาทราบเรื่อง

จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพพบว่า จุดเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำจุดรอรับเหตุ ต.หนองโรงร่วมกับนักประดาน้ำชุดสายธาร ได้ลงงมค้นหาร่างของผู้ที่จมหายไปภายในน้ำ ขึ้นมาจากสระน้ำซึ่งเป็นสระดินขุด กว้าง-ยาว ประมาณ 40- 50 เมตร และมีระดับความลึก ประมาณ 6-7 เมตรไว้บนฝั่ง สอบสวนทราบชื่อผู้ตายชื่อนาย TUN ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ปี คนงานลานรับซื้อมันสำปะหลัง สัญชาติเมียนมา

เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบว่าตามร่างกายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด สอบถามนายชลอ เห็นประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นเจ้าของลานรับซื้อมันฯ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงาน นาย TUN ผู้ตายพร้อมกับเพื่อนๆ สัญชาติเดียวกัน อีก 3 คน ได้พากันไปพายเรือเล่นน้ำในสระ เนื่องจากอากาศร้อนขณะที่กำลังพาย คาดว่าเรือซึ่งเป็นเรือพลาสติกคงรับน้ำหนัก เรือจึงเกิดล่ม ทำให้คนงานเมียนมาทั้ง 4 ชีวิต ต่างพยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่งเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำหายไป หลังเกิดเหตุคนงานที่รอดชีวิตได้วิ่งมาบอกตน จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิฯ มาช่วยลงงมค้นหาจนกระทั่งพบศพดังกล่าว จึงมอบศพให้เถ้าแก่นำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ลูกเมียเศร้า พ่อวัยชราจมน้ำดับค่าสระว่ายน้ำคอนโดฯ ที่พัทยา

     เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งเหตุมี บุคคลจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิด ที่สระว่ายน้ำภายใน คอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งย่าน นาเกลือซอย 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบนำกำลังไปตรวจสอบ

     ที่เกิดเหตุพบ MR.AICHMANN อายุ 74 ปี สัญชาติออสเตรีย ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ นำร่างขึ้นจากสระว่ายน้ำ ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯและทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือ แต่ผู้บาดเจ็บจมลงไปในสระน้ำเป็นเวลานาน จึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงใช้ผ้าคลุมกันเป็นที่อุจาดตา พร้อมกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีภรรยา และลูกสาว วัย 19 ปี ยืนโศกเศร้าเสียใจอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนายโกสินทร์ อายุ 39 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ เล่าว่า ขณะนั้นเดินตรวจตราความเรียบร้อย ภายในคอนโดฯบริเวณสระว่ายน้ำ สังเกตเห็นผ้าเช็ดตัว วางอยู่บนโต๊ะ จึงเอะใจก็เดินตามหาเจ้าของผ้าเช็ดตัว โดยเดินไปรอบๆบริเวณทะเล ก็ไม่เจอใคร ระหว่างเดินกลับมาที่สระน้ำนั้น ร่างของผู้เสียชีวิตก็ค่อยๆลอยขึ้นจากสระน้ำ ตนจึงรีบเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยคนอื่น เข้ามาช่วยเหลือนำร่างขึ้นจากสระว่ายน้ำ และช่วยปั๊มหัวใจ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว

ส่วนทางด้านนางวริญญา อายุ 53 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตเล่าว่า แฟนของตนชอบว่ายน้ำ และทุกวันจะออกมาว่ายน้ำคนเดียว ส่วนตนอยู่กับลูกสาวบนคอนโดฯทำกับข้าวรอสามี วันนี้ก็เอะใจทำไมสามีกลับขึ้นห้องช้า จึงลงมาตามก็แทบเขาทรุดพบว่าสามีจมน้ำแล้ว

    เบื้องต้น ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รอง สว.สอบสวน เจ้าของพอดี ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำพยานแวดล้อม ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป

ลูกเมียเศร้า พ่อวัยชราจมน้ำดับคาสระว่ายน้ำคอนโดฯ

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งเหตุมี บุคคลจมน้ำเสียชีวิต
เหตุเกิด ที่สระว่ายน้ำภายใน คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่าน นาเกลือซอย 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบนำกำลังไปตรวจสอบ
   
  ที่เกิดเหตุพบ MR.AICHMANN  JOHANN อายุ 74 ปี สัญชาติออสเตรีย ที่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ นำร่างขึ้นจากสระว่ายน้ำ ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือ แต่ผู้บาดเจ็บจมลงไปในสระน้ำเป็นเวลานาน จึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงใช้ผ้าคลุมกันเป็นที่อุจาดตา พร้อมกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีภรรยา และลูกสาว วัย 19 ปี ยืนโศกเศร้าเสียใจอยู่ในที่เกิดเหตุ


    
 จากการสอบถามนายโกสินทร์ หม่อมศิลา อายุ 39 ปี  พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ เล่าว่าขณะนั้นเดินตรวจตราความเรียบร้อย ภายในคอนโดฯ บริเวณสระว่ายน้ำ สังเกตเห็นผ้าเช็ดตัว วางอยู่บนโต๊ะ จึงเอะใจเดินตามหาเจ้าของผ้าเช็ดตัว โดยเดินไปรอบๆ บริเวณทะเล ก็ไม่เจอใคร ระหว่างเดินกลับมาที่สระน้ำนั้น ร่างของผู้เสียชีวิตก็ค่อยๆ ลอยขึ้นจากสระน้ำ ตนจึงรีบเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยคนอื่น เข้ามาช่วยเหลือนำร่างขึ้นจากสระว่ายน้ำ และช่วยปั๊มหัวใจ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว


    
 ส่วนทางด้าน นางวริญญา แฮชาลี  อายุ 53 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตเล่าว่า แฟนของตนชอบว่ายน้ำ และทุกวันจะออกมาว่ายน้ำคนเดียว ส่วนตนอยู่กับลูกสาวบนคอนโดฯ ทำกับข้าวรอสามี วันนี้ก็เอะใจทำไมสามีกลับขึ้นห้องช้า จึงลงมาตามก็แทบเข่าทรุด เมื่อพบว่าสามีจมน้ำเสียชีวิตแล้ว


   
 เบื้องต้น ร.ต.อ.พิศาล หงษ์ฝาแก้ว รอง สว.สอบสวน เจ้าของพอดี ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำพยานแวดล้อม ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป