สลด 3 ศพ!! เด็กนักเรียนไปตกปลา พลัดจมน้ำเบ็ดเกี่ยวร่าง กอดกันจมน้ำลึก 4 เมตร

สลด 3 ศพ!! เด็กนักเรียนไปตกปลา พลัดจมน้ำเบ็ดเกี่ยวร่างกอดกันจมน้ำลึก4เมตรดับปริศนา

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มิถุนายน 2568  ร.ต.ท.สรวิชญ์ เสาธง รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน  ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กนักเรียนจมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประตูน้ำอ่างทอง  อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 

จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใต้น้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งปฎิบัติงานช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตที่พบรายแรกนำขึ้นจากน้ำมาได้ ทราบชื่อต่อมาคือ เด็กชายกฤต อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนด้วย โดยที่ร่างของเด็กชายกฤต มีเบ็ดเกี่ยวอยู่  ทางเจ้าหน้าที่ ยังคงช่วยกันค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำอีก เนื่องจากทราบว่า มีเพื่อนอีก 2 คน ที่มาด้วยกัน แล้วหายไป และก็เป็นที่น่าเศร้าสลดใจตามมา เมื่อเจ้าหน้าที่ พบผู้เสียชีวิตอีก 2 ร่างกอดกันจมอยู่ใต้น้ำ  ทราบชี่อต่อมาคือ เด็กชายพงษ์ และ เด็กชายพัด อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1 เช่นเดียวกัน

ทางด้านบนของเขื่อนพบคันเบ็ด กับ ปืนยิงปลาตกอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเป็นของเด็กทั้ง 3 คน หรือเป็นของคนอื่นมาลืมทิ้งไว้ส่วนสาเหตุเบื้องต้นนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทำไมเด็กทั้ง 3 คน จึงพลัดตกลงไปในน้ำจนเสียชีวิต  ต้องรอตรวจหาหลักฐานอื่นๆ อย่างละเอียดก่อน ตรงจุดที่เกิดเหตุนี้น้ำลึกประมาณ 4 เมตร อีกทั้งทางขึ้นกับทางลงลาดชันและลื่นจากตะใคร่น้ำ 

เรือหาปลาล่มเส้นเขื่อนสี่ยัด เสียชีวิต 1 ศพ กู้ภัยนำศพส่งรพ.ท่าตะเกียบชันสูตร

เรือหาปลาล่มเส้นเขื่อนสี่ยัด เสียชีวิต 1 ศพ กู้ภัยนำศพส่งรพ.ท่าตะเกียบชันสูตร

วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยพนมสารคาม จุดท่าตะเกียบได้รับแจ้งเรือหาปลาล่มในเขื่อนสี่ยัดหลังได้รับแจ้งกู้ภัยจุดท่าตะเกียบ รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบนายอำนวย สินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ และชาวบ้านยืนดูอยู่บริเวณที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่จากอำเภอและเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทางอำเภอได้รับแจ้งจากชาวบ้าน จึงปราสานกู้ภัยจุดท่าตะเกียบแจ้งเหตุเรือล่มบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองสียัด หมู่ที่  2 ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ และนายอำเภอสั่งการให้ นายชินวัตร  เทพวาลย์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย นายอภิวรเทพ อุ่นมณีรัตน์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง และสมาชิก อส.อ.ท่าตะเกียบที่ 10 ลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีผู้รอดชีวิต จำนวน 1 ราย คือ นายวรกฤต  และสูญหาย จำนวน 1 ราย คือ นายสมโภชน์  อายุ 40 ปี ผู้รอดชีวิตเล่าให้ฟังว่า ผู้ประสบเหตุมาจากอำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อมาล่องเรือหาปลาในบริเวณอ่างเก็บน้ำขณะจะกลับเข้าฝั่งเกิดพายุ คลื่นลมแรงพัดใส่จนทำให้เรือล่ม ตนเองนั้นสามารถไหว้น้ำกลับเข้าฝั่งได้ แต่อีกคนได้จมน้ำหายไป

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.40 น.กู้ภัยใด้พบผู้เสียชีวิตคือทราบชื่อ นายสมโภชน์ ลอยเข้ามาที่บริเวณริมฝั่ง ห่างจากที่เกิดเหตุเรือล่มประมาณ  500 เมตรกว่า ทางกู้ภัยพนมสาร คามจุดท่าตะเกียบ จึงได้นำผู้รอดชีวิตนำส่ง รพ.ท่าตะเกียบ ขณะที่จ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าตะเกียบเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้ทาง รพ.ท่าตะเกียบ ชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับติดต่อให้ญาติผู้เสียชีวิตนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

ผงะ! พบศพนักท่องเที่ยวอินเดีย ลอยติดซอกหิน ที่เกาะเสม็ด ลำคอถูกมัดด้วยถุงดำ

ผงะ! พบศพนักท่องเที่ยวอินเดีย ลอยติดซอกหิน ลำคอถูกมัดด้วยถุงดำ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.ขวัญชัย นัมคนิสรณ์ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเพ จ.ระยอง รับแจ้งเหตุพบศพนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกคลื่นซัดลอยติดซอกหินบริเวณอ่าวส้ม ด้านทิศใต้ของเกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรรพ.ระยอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติ สภาพศพเน่าเปื่อยเริ่มส่งกลิ่น บริเวณลำคอถูกมัดด้วยถุงดำรัดแน่นด้วยสายรัดกระเป๋า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ตรวจสอบไม่พบเอกสารระบุตัวตนใดๆ ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นฝั่งเพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

ต่อมาจากการตรวจสอบฐานข้อมูลผู้เข้าพักในพื้นที่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายกากุมานู (Kakumanu) อายุ 49 ปี สัญชาติอินเดีย โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียรายหนึ่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากรีสอร์ทบนเกาะเสม็ด พนักงานพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงแจ้งตำรวจสายตรวจเกาะเสม็ดให้ช่วยติดตาม กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ค. มีชาวบ้านบนเกาะเสม็ดแจ้งว่าพบศพลอยอยู่ในทะเล ติดอยู่บริเวณซอกหินอ่าวส้ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าเก็บศพขึ้นฝั่งเพื่อนำส่งตรวจพิสูจน์

นายขจรศักดิ์ ตระกูลดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง เผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพลอยติดอยู่ในซอกหิน จึงแจ้งตำรวจ ก่อนประสานนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานชุดพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชเข้าร่วมชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงและเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งอุบัติเหตุ การฆาตกรรม หรือปัญหาส่วนตัว เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนและประสานสถานทูตอินเดียเพื่อแจ้งญาติผู้เสียชีวิตต่อไป 

แม่ฮ่องสอน อากาศร้อน เมาเหล้าลงเล่นน้ำจมดับ

แม่ฮ่องสอน อากาศร้อน เมาเหล้าลงเล่นน้ำจมดับ

เมื่อเวลา 08.30  น. วันที่  10  พ.ค 68  รตอ. สุวรรณ  เจริญสุข พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตในบ่อปลาเขตพื้นที่บ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพชายลอยโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำภายในบ่อปลา ติดกับกับถนนทางเข้าหมู่บ้านก่อนถึงบ้านในสอยประมาณ  400 เมตร  เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอนจึงลงไปกู้ศพขึ้นมาเพื่อทำการชันสูตร ทราบชื่อผู้ตายคือนายจรูญ อายุ 56 ปี เป็นราษฎรบ้านในสอย  สภาพสวมเสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงวอร์มขาสั้นสีดำ ตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า  6 ชั่วโมง ตรวจสอบบริเวณกระท่อมพักริมบ่อ พบมีชาย 2 คน อายุประมาณไล่เลี่ยกับผู้ตาย มีอาการมึนเมาสุรา 

สอบสวนนายต่อ อายุ 54 ปี  เพื่อนของผู้ตาย ซึ่งมีอาการเริ่มส่างเมาให้การณ์ว่า ช่วงบ่าย 2 โมง ของวันที่ 9 พ.ค ที่ผ่านมา นายจรูญ ผู้ตายได้มาตั้งวงดื่มเหล้าขาวกับตนและนายทุน ที่กระท่อมริมบ่อปลาเหมือนทุกครั้ง จนเริ่มมืดคว่ำต่างคนต่างเมา ต่อมานายจรูญ บ่นว่าอากาศร้อน จะไปอาบน้ำ ตนจึงเข้าใจว่านายจรูญคงจะกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำนอน  จากนั้นตนและนายทุนจึงนั่งดื่มเหล้ากันต่อสองคน จนเมาและฟุบหลับไปคาวงเหล้า  จนถึงตอนเช้าวันถัดมาทราบว่านายจรูญ หายตัวไปไม่ได้กลับเข้าบ้านแต่อย่างใด  จนมาพบเป็นศพลอยโผล่เหนือน้ำภายในบ่อปลาข้างกระท่อม  จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อทำการกู้ศพและชันสูตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะดื่มกับเพื่อนจนมึนเมา จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงมืดคว่ำ นายจรูญคงจะลงไปแช่น้ำในบ่อปลาเพื่อคลายความร้อน แต่เนื่องจากน้ำในบ่อค่อนข้างลึก ประกอบกับมีอาการมึนเมา จึงอาจเกิดเป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิตไปเอง ไม่น่าจะมีคนทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งจะได้สอบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง  เบื้องต้นได้นำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน เพื่อรอญาติผู้ตายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
    

ระยอง หนูน้อยวัย 4 ขวบ ลงเล่นน้ำในฝาย จมน้ำดับอนาถ

ระยอง หนูน้อยวัย 4 ขวบ ลงเล่นน้ำในฝาย จมน้ำดับอนาถ

วันนี้ 9 พ.ค.68 เวลา 10.00น. ร.ต.ท.ปองพล จันทรา รอง สว. สอบสวน สภ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากอาสาสมัครกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์แกลง ว่ามีเด็กชายจมน้ำเสียชีวิต อยู่ในฝ่ายส่งน้ำ มาบจันทร์ ม.13 ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง

หลังรับแจ้งลงพื้นที่ตรวจสอบ  พบเด็กชายหนึ่งรายชื่อ ด.ช.อสิระฯ ไม่มีนามสกุล อายุ 4 ปี หรือน้องสกาย (ชาว สปป.ลาว) อยู่ตรงขอบฝายส่งน้ำ ชาวบ้านได้กันนำร่างเด็กขึ้นมาจากน้ำ ข้างๆศพเด็กพบแม่เด็กชื่อ น.ส.ไซ อายุ 32 ปี (ชาว สปป.ลาว)นั้งร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจอยู่ข้างๆศพลูกชายวัย 4 ขวบ

ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.57 น. ตามกล้องวงจรปิด ด.ช.อสิระฯ วัย 4 ปี ยืนเล่นบริเวณหน้าบ้าน หลังจากนั้นได้วิ่งหลุดออกจากกล้องวงจรปิดไปที่ถนน  หน้าบ้าน ต่อมาเวลา 08.59 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ ด.ช.อสิระฯได้อีกครั้งขณะวิ่งไปมา บริเวณถนน และได้วิ่งไปที่ใต้สะพาน หลังจากนั้น ด.ช.อสิระฯ ก็ลงเล่นน้ำ และจมน้ำเสียชีวิต เวลา 09.30 น. ชาวบ้านกลับมาจากตัดหญ้าในสวน เหลือบตาไปเห็นร่าง ด.ช.อสิระฯ พอดี จึงนำร่างเด็กขึันมา และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้อาสากู้ภัยฯ นำร่างอันไร้วิญญาณของ ด.ช.อสิระฯ วัย 4 ขวบ ส่ง รพ.แกลง จ.ระยอง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพอีกครั้ง และจะให้ทางแม่เด็ก ติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาต่อไป

จากการสอบถาม สุวิทย์ วงศ์เนียม อายุ 64 ปี (คนพบศพเด็กชายเป็นคนแรก) เล่าให้ทีมข่าวเราฟังว่า ตนได้ไปตัดหญ้าที่สวนผลไม้ของตน หลังจากตัดหญ้าเสร็จ ตนจึงได้ขับขี่รถจยย. กลับบ้านพักที่อยู่บริเวณตรงที่มีเด็กชายจมน้ำ จังหวะที่ขี่รถกลับมานั้นได้เหลือบตาไปเห็นเด็กชายจมน้ำอยู่ในลักษณะคว่ำหน้าติดอยู่กับท่อนไม้ไผ่ ทีแรกตนคิดว่าเป็นตุ๊กตา แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าเป็นศพเด็ก จึงได้ไปเรียกแม่เด็กมาทันที ตนก็เพิ่งทราบว่าทางแม่เด็กได้กำลังตามหาลูกชายกันอยู่เหมือนกัน

ทางด้าน ร.ต.ท.ปองพล จันทรา รอง สว. สอบสวน สภ.แกลง จ.ระยอง ได้ให้แม่เด็กไปเดินเรื่องเอกสารที่ รพ.แกลง ก่อน และจะสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตของลูกชายในครั้งนี้ต่อไป

ตำรวจเคาะบ้านพร้อมหมายค้นเจ้าบ้านเผ่นสุดชีวิตกระโดดลงคลองจมหายกลายเป็นศพ

ตำรวจเคาะบ้านพร้อมหมายค้นเจ้าบ้านเผ่นสุดชีวิตกระโดดลงคลองจมหายกลายเป็นศพ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.10 น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 พันตำรวจเอกนคร ภู่รัตน์ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช พร้อมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยใต้น้ำมูลนิธิไต้เต็กเซี่ยงตึ๊ง เร่งค้นหาร่างของนายสุวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี หลังจากช่วงเช้าตรู่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช ได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดปากพนัง ที่ ด.70/2568 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง ในท้องที่หมู่ 3 ตำบลสวนหลวง หลังจากพบว่าบ้านหลังนี้เป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดขนาดย่อมอยู่ในพื้นที่ตำบลสวนหลวง

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไปเคาะประตูบ้าน เพื่อแสดงหมายค้นเพื่อตรวจค้นจับกุมสิ่งผิดกฎหมายตามข้อมูลการสืบสวน แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวิ่งหลบหนีออกจากหลังบ้านกระโดดลงไปในคลองใกล้บ้านแล้วว่ายน้ำหลบหนี ต่อมาพบจมคลองหายไป เจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานงานชุดประดาน้ำมูลนิธิไต้เต็กเซี่ยงตึ๊งเข้าประดาน้ำค้นหาใต้น้ำเกือบ 1 ชม.จึงพบว่าเสียชีวิตอยู่ใต้น้ำไปแล้วจึงเร่งกู้ร่างขึ้นมาเพื่อทำการชันสูตรพบว่าสภาพศพสะพายกระเป๋ามีซิปเปิดทิ้งไว้ เหลือกุญแจรถเพียง 1 ดอก ส่วนยาเสพติดนั้นน่าเชื่อว่าถูกทิ้งลงไปในคลองขณะพยายามว่ายหลบหนี

ขณะที่ชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมมาแล้วหนึ่งครั้ง โดยมีผู้ถูกจับกุมคือนายดวล อายุ 76 ปี พ่อของนายสุวิทย์ พร้อมของกลางยาบ้าเกือบ 100 เม็ด ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ส่วนนายสุวิทย์ ได้กระโดดลงคลองเดียวกันและว่ายน้ำไปปีนขึ้นเรือพายหลบหนีไปได้ ส่วนนายดวล พ่อนายสุวิทย์ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายให้ผู้เสพรับว่ายาเป็นของนายสุวิทย์ทำหน้าที่ขายให้ลูก ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างชั้นศาลส่วนพ่อนั้นถูกคุมขังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนนายสุวิทย์ยังคงเดินหน้าขายยาต่อไป ช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจได้ขอหมายค้นของกลางและจับกุมนายสุวิทย์ปรากฎว่าเจ้าตัวหนีออกจากบ้านสะพายกระเป๋าพร้อมยาเสพติด กระโดดลงคลองอีกครั้งแต่รอบนี้หมดแรงว่ายน้ำจึงจมน้ำหายไปจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ค้นหาจึงพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว.

 

สลด! ชายเฒ่าลงคลองอาบน้ำคลายร้อน จมน้ำดับต่อหน้าชาวบ้าน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พ.ค.68 ร.ต.อ. รักชาติ เพชรชม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง รับแจ้งเหตุชายสูงอายุจมน้ำสูญหาย บริเวณคลองสะพานวังแขยง ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง หลังรับแจ้งจึงประสานมูลนิธิกู้ภัยปลวกแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรุดตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านพยายามลงค้นหาอยู่ในคลองน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำจะลงช่วยค้นหา โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงพบร่างชายผู้เคราะห์ร้ายจมอยู่ใต้น้ำ ก่อนนำขึ้นมาบนฝั่ง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย ชื่อนายฐา อายุประมาณ 60 ปีเศษ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เดินทางมาจากภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุคาดว่าเพราะอากาศร้อนจัด ชายคนดังกล่าวจึงลงไปอาบน้ำคลายร้อนในคลอง แต่เนื่องจากน้ำลึกและอายุมาก อาจเกิดเป็นตะคริวหรือหมดแรงกลางน้ำ ทำให้จมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลปลวกแดง เพื่อชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนประสานหาญาติให้มารับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

พบแล้วร่างไต้ก๋งหนุ่ม หลังจมน้ำหายกลางทะเลนานกว่า 25 ชั่วโมง ศพลอยห่างจุดเกิดเหตุ 7 ไมล์

พบแล้วร่างไต้ก๋งหนุ่ม หลังจมน้ำหายกลางทะเลนานกว่า 25 ชั่วโมง ศพลอยห่างจุดเกิดเหตุ 7 ไมล์

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 18 เม.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ชุดค้นหานำโดย ร.ต.อ.สุรเดช มณีพิทักษ์ รองสว.กก.สส.ภ.จว.ระยอง พร้อมทีมช่วยเหลือกว่า 30 นาย ใช้เรือเร็ว 8 ลำ ออกค้นหาร่างของนายสุรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ไต้ก๋งเรือประมง ที่จมหายไปในทะเลตั้งแต่คืนวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา

ก่อนเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ได้ออกเรือจากบ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง โดยมี “นายดำ” ลูกเรือชาวกัมพูชาร่วมเดินทาง มุ่งหน้าสู่กลางทะเลห่างฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล แต่ระหว่างลอยลำอยู่กลางทะเล นายสุรศักดิ์เริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติ กระโดดลงทะเลซ้ำไปซ้ำมา แม้นายดำจะพยายามห้ามแล้ว แต่ไต้ก๋งหนุ่มกลับไม่ฟังคำทัดทาน

จนกระทั่งรุ่งเช้า วันที่ 15 เม.ย. นายสุรศักดิ์มีอาการอ่อนแรง นายดำพยายามโยนชูชีพให้ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ ไม่ยอมใส่ และสุดท้ายได้จมหายไปต่อหน้าต่อตาลูกเรือคนสนิท โดยนายดำได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ และรีบส่งต่อให้ครอบครัวผู้สูญหายเพื่อขอความช่วยเหลือ

หลังได้รับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.สุรเดช พร้อมทีมกู้ภัย และเพื่อนร่วมอาชีพของผู้ตาย เร่งระดมกำลังค้นหาอย่างเต็มที่ จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันนี้ พบศพนายสุรศักดิ์ลอยอืดนอนหงายอยู่บนผิวน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 ไมล์ทะเล และห่างจากฝั่งราว 13 ไมล์ทะเล สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นคลุ้ง แขนขากางออก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เจ้าหน้าที่ได้นำร่างกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือบ้านปากน้ำ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองระยอง และทีมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลระยองเข้าตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

ร.ต.อ.สุรเดช เผยว่า ชูชีพที่พบในทะเล เป็นชิ้นเดียวกับที่นายดำโยนให้ก่อนผู้ตายจะจมหาย แต่กลับไม่ยอมใส่ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังคงติดใจในสาเหตุการตาย ว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุหรือมีเงื่อนงำซ่อนอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานและหลักฐานอย่างละเอียดต่อไป.

นนทบุรี วงจรปิด พบแล้ว ศพชายวัย 25 ปี น้อยใจครอบครัวโดดสะพานพระนั่งเกล้าดับ

นนทบุรี วงจรปิด พบแล้ว ศพชายวัย 25 ปี น้อยใจครอบครัวโดดสะพานพระนั่งเกล้าดับ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำบริเวณท่าเรือพิบูลย์สงคราม 2 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุภายในแม่น้ำเจ้าพระยา พบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายญาณวัฒน์ อายุ 25 ปี ที่อยู่เลขที่ 109 ซ.นนทบุรี 38 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า และกางเกงขายาวสีกรมท่า นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางครอบครัวยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนเดียวกับที่กระโดดสะพานพระนั่งเกล้า (ตัวเก่า) เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา

นายวีรยุทธ เพชรเเกมทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตลอยน้ำภายในแม่น้ำเจ้าพระยา แถวหอนาฬิกานนทบุรี เจ้าหน้ากู้ภัยจึงได้เข้ามาตรวจสอบ และได้นำเรือพร้อมเชือกผูกดึงร่างและพาเข้าฝั่ง จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุประมาณ 29-30 ปี รูปร่างท้วม เสียชีวิตได้ไม่เกิน 1-2 วัน ข้อมูลเพิ่มเติมรับแจ้งว่าเมื่อวานมีชายกระโดดจากสะพานพระนั่งเกล้า เวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งญาติได้มาที่เกิดเหตุเพื่อยืนยันว่าเป็นชายคนดังกล่าวจริง จากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิตพบว่า ผู้เสียชีวิตมีความเครียด น่าจะมีปัญหาส่วนตัว ตอนนี้ญาติรับทราบแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการนำศพไปส่งที่สถาบันนิติเวช และให้ทางญาติเดินทางไปยังสภ.เมืองนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวัน ฝากบอกถึงพี่ๆทุกคนที่พบปัญหา ทุกอย่างมีทางออกและแก้ไข อยากให้ใช้สติทบทวนนานๆ ไม่อยากให้คิดสั้น เพราะคนที่เสียใจคือคนข้างหลัง และคนที่รักเรา

ปทุมธานี สาวกระโดดคลองรังสิตก่อนจมน้ำหาย

ปทุมธานี สาวกระโดดคลองรังสิตก่อนจมน้ำหาย

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 เมษายน 2568 พ.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณีสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งว่า มีผู้สูญหายภายในน้ำ บริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์  ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และชุดประดาน้ำ

จุดเกิดเหตุ คลองรังสิตประยูรศักดิ์หน้าโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ใกล้ท่าเรือที่ 1 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้ช่วยงมร่าง ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง พบอยู่กลางร่องน้ำลึก นำร่างผู้จมน้ำ ขึ้นฝั่ง เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ ตรวจสอบภายร่างกายเบื้องต้นไม่พบบาดแผล และไม่มีเอกสารใดๆติดตัว

จากการสอบถาม นายสุทิน คงสุขรถ อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า  ตอนนั้นเห็นผู้เสียชีวิตบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำ ตนคิดว่าเขาว่ายน้ำเป็น  สักพักเอะใจหายไปเลยผิดสังเกต ก็เลยเรียกเด็กๆให้ช่วยกันหา ก่อนหน้านั้นก่อนที่จะกระโดดเขายืนบ่น บ่นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นคุยอยู่คนเดียว ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน ซึ่งในขณะที่เขากำลังจะกระโดด ตนเองกำลังลงปลาหาปลาอยู่ ก็ไปเรียกน้องๆที่เป็นกู้ภัยที่อยู่ใกล้ๆให้มาช่วยตรวจสอบ

เบื้องต้น พ.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณีสารวัตรสอบสวน สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนำศพส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้งและจะได้ติดตามญาติเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป