หุ้นไทยใส! กนง.คงดบ.ตามคาด จับตาสัญญาณเฟด ดันปิดบวก 3.38 จุด วอลุ่ม 47,817 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากคตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า วันนี้ (18 ธ.ค.25687) หุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,398.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.38 จุด มูลค่าซื้อขาย 47,817 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 387.66 ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ 301.66 ล้านบาท 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวน โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% ตามคาด ส่งผลให้ตลาดไม่ได้ตอบรับข่าวมากนัก ขณะที่มูลค่าการซื้อเบาบางช่วงเข้าใกล้ท้ายปี 

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,495.05 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,355.68 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,136.52 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,114.53 ล้านบาท ปิดที่ 23.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,476.26 ล้านบาท ปิดที่ 282.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

“อีลอน มัสก์” หนุน “ทรัมป์” ลุยแทรกแซง “เฟด”

“อีลอน มัสก์” ออกโรงหนุน “ทรัมป์” เดินหน้าแนวคิดแทรกแซงแบงก์ชาติสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา และสเปซเอ็กซ์ รวมถึงแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ออกมาแสดงการสนับสนุนให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินแนวคิดแทรกแซงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด

รายงานข่าวแจ้งว่า นายมัสก์ ได้แสดงการสนับสนุนผ่านเว็บไซต์โซเชียลมีเดียของนายไมค์ ลี สว.รัฐยูทาห์ พรรครีพับลิกัน พร้อมทั้งส่งอีโมจิ “100” และติดแฮชแท็ก #EndtheFed

รายงานข่าวเผยว่า ก่อนหน้านี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด กล่าวว่า ตนจะไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งประธานเฟด หากนายทรัมป์ขอให้เขาลาออกก็ตาม ซึ่งถือเป็นสัญญาณถึงความบาดหมางครั้งใหม่ระหว่างประธานเฟดกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

การประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย.67 คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

การประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย.67 คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

ในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย.นี้ คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้มีการส่งสัญญาณในการประชุมแจ็กสัน โฮลว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลดดอกเบี้ย ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลงสู่เป้าหมายที่ 2.0% โดยเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ เดือนส.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.5% YoY ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.6% YoY เล็กน้อย ประกอบกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ สะท้อนภาพอ่อนแรงลง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดที่ 142,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างเดือนส.ค. อยู่ที่ 4.2%

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเฟดอาจส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot ปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในทุกการประชุมที่เหลือในเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ของปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.50-4.75% ณ สิ้นปี 2567 เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ภาวะ ‘Soft landing’ มากกว่าจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยลดลงสู่ระดับเป้าหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนส.ค. ล่าสุดยังคงเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่ายังคงไม่มีความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็วและรุนแรงถึงครั้งละ 0.50% ในการประชุมครั้งที่เหลือของปีนี้

ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่มองว่าเฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายถึงครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. หรือ ธ.ค. นี้ โดยจากการอ้างอิง Fed Funds Future ของ CME FedWatch Tool ณ วันที่ 12 ก.ย. 2567 ตลาดส่วนใหญ่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 4.25-4.50% หรือ 4.00-4.25% ณ สิ้นปี 2567

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ฯ ได้อ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ กว่า 5.0% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อมองไปข้างหน้า ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ฯ และค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนไปตามข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ออกมา

โดยในการประชุม FOMC ในเดือนก.ย. นี้จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเฟดอาจปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2567 ลงจากประมาณการรอบที่แล้ว โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ราว 2.4% ในปีนี้ ซึ่งในไตรมาส 4/2567 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่า 2.1% YoY ที่เฟดคาดการณ์ไว้ในประมาณการเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าได้

#ข่าววันนี้ #เฟด #ลดดอกเบี้ย #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ #เงินเฟ้อ #เงินตรา #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

 

 

"กรุงศรี" คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.75-34.30 เฟดเปิดทางลดดอกเบี้ย

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.75-34.30 เฟดเปิดทางลดดอกเบี้ย

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.30 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.24 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.05-34.57 เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือน ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ตามคาด เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังสหรัฐฯประกาศทบทวนตัวเลขการจ้างงานในช่วงตั้งแต่เดือนเม.ย. 66 ถึงมี.ค. 67 ต่ำกว่าที่เคยรายงานไว้เดิม 818,000 ตำแหน่ง ซึ่งเท่ากับว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 174,000 ตำแหน่งต่อเดือนในช่วงดังกล่าว แทนที่จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 242,000 ตำแหน่งต่อเดือน และนับเป็นการปรับทบทวนลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 52 นอกจากนี้ รายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. ระบุว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. และเจ้าหน้าที่เฟดบางรายอาจต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตั้งแต่การประชุมรอบที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 5,948 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 3,615 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่คลายตัวลง และความเสี่ยงด้านต่ำต่อตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น โดยเฟดเปิดทางเลือกไว้เกี่ยวกับขนาดการลดดอกเบี้ยตามข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือนก.ค.ของสหรัฐฯที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ ขณะที่สัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่าในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. มีโอกาสราว 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp และคาดว่ามีโอกาส 35% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 50bp จากระดับ 5.25-5.50%

สำหรับปัจจัยในประเทศ กนง.คงดอกเบี้ยด้วยมติ 6 ต่อ 1 เสียง โดยกรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่าระดับดอกเบี้ยสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อและเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว โดยในภาพรวมกนง.ระบุว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีไตรมาส 2 ที่ 2.3% ถือว่าใกล้เคียงกับที่ธปท.ประเมินไว้ และดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ในระดับเป็นกลาง เรามองว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม หากภาวะการเงินตึงตัวกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กนง.อาจตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในระยะถัดไป

#กรุงศรี #เฟด #ลดดอกเบี้ย #ข่าววันนี้ #ธปท

 

หุ้นไทยปิดดิ่ง 38.41 จุด วอลุ่ม 5.8 หมื่นล้าน ทำ New Low รอบเกือบ 4 ปี ตามตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง กังวล ศก.สหรัฐแย่

SET ปิดวันนี้(5 ส.ค.)ที่ 1,274.67 จุด ลดลง 38.41 จุด (-2.93%) มูลค่าซื้อขายราว 58,744.07 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีร่วงทำระดับต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 4 ปีที่ 1,273.17 จุด และทำจุดสูงสุด 1,296.11 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 37 หลักทรัพย์ ลดลง 550 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 74 หลักทรัพย์

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวร่วงไปเกือบ 40 จุดแตะระดับต่ำสุดใหม่ (New Low) ในรอบเกือบ 4 ปี รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงแรง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะ Recession หลังตัวเลขว่างงานสูงขึ้นต่อเนื่อง และแย่กว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ก่อนหน้านี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐก็ลงมาต่ำกว่าระดับ 50 หนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ประกอบกับ บรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคเอเชียก็ไม่ดี โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นลงไปเกือบ 13%, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และตลาดหุ้นไต้หวัน ลบเกือบ 9% ส่วนตลาดหุ้นไทยแม้จะร่วงแรงแต่ก็ถือว่าปรับตัวลงน้อยกว่าเพื่อน

แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีฯ แกว่งในกรอบ แนวรับที่ 1,260 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด คืนนี้แนะติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือน ก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ตลาดคาดไว้ที่ 51.4 หากออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นแรงกดดันให้ตลาดปรับตัวลงต่อได้

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 4,316.66 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,009.40 ล้านบาท ปิดที่ 95.25 บาท ลดลง 5.75 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,232.20 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,117.21 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,199.98 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

#SET #หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #ตลาดหุ้น #เฟด #ว่างงาน

 

หุ้นไทยปิดเช้าบวก 2.91 จุด วอลุ่ม 2.4 หมื่นล้าน ดีดขึ้นตามภูมิภาคขานรับสัญญาณเฟดลดดอกเบี้ย/ควบรวม GULF-INTUCH

SET ปิดช่วงเช้าวันนี้(17 ก.ค.)ที่ 1,324.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด (+0.22%) มูลค่าซื้อขายราว 24,212 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค ทำระดับสูงสุด 1,330.22 จุด และต่ำสุด 1,322.69 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ขานรับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. หลังจากเงินเฟ้อสหรัฐปรับลงต่อเนื่องเข้าใกล้เป้าหมาย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ย่อลงและเงินดอลลาร์อ่อนค่า ดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น อีกทั้งในประเทศยังได้ Sentiment บวกจาก บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ประกาศแผนควบรวมกิจการ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ส่วนปัจจัยกดดันจาก บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เริ่มมีผลกระทบต่อดัชนีฯ น้อยลง หลังราคาหุ้นร่วงดิ่งฟลอร์เรื่อยๆ กดมาร์เก็ตแคปลดลงต่อเนื่อง

โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งในกรอบรอปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะการทยอยประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนไทย คาดว่ากลุ่มแบงก์น่าจะประกาศในวันศุกร์นี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,318 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,450.84 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,793.17 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 2.00 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,482.28 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,139.80 ล้านบาท ปิดที่ 96.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 826.48 ล้านบาท ปิดที่ 56.57 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


#SET #GULF #INTUCH #ข่าววันนี้ #หุ้นไทย #ลดดอกเบี้ย #เฟด

ธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.30-36.50 บาท/ดอลลาร์

กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets)

ค่าเงินบาทประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2567

Market update by SCBFM: 10 กรกฎาคม 2567

-กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.30-36.50 บาท/ดอลลาร์

-ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในโซนแข็งค่าต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและ US Treasury yields ยังทรงตัว

-แถลงการณ์ของนาย เจอร์โรม พาวเวลล์ ต่อคณะกรรมการการเงินสหรัฐฯ (Senate testimony) บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่ปรับชะลอลง หลังอัตราว่างงานปรับสูงขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน

-ตลาดยังคงมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะลดดครั้งแรกในเดือนกันยายนซึ่งต้องจับตาเลขเงินเฟ้อที่จะออกมาในช่วง 3 เดือนจากนี้

#ธนาคารไทยพาณิชย์ #ค่าเงินบาท #ลดดอกเบี้ย #เฟด 

 

หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.71 จุด วอลุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ขายลดเสี่ยงระหว่างรอความชัดเจนการเมือง-จับตาถ้อยแถลง ปธ.เฟด

SET ปิดช่วงเช้าวันนี้(2ก.ค.)ที่ 1,294.64 จุด ลดลง 4.71 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขายราว 19,379 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบตลอดภาคเช้า ทำระดับต่ำสุด 1,286.83 จุด และสูงสุด 1,297.85 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวลงไร้ปัจจัยใหม่ ขณะที่ตลาดยังรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองจากการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน ทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อนในช่วงนี้ นอกจากนั้น ตลาดยังรอติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่ยุโรปวันนี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่จะแถลงช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดระยะนี้แกว่งตัวและค่อนข้างซึม โดยที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน แต่มูลค่าการซื้อขายไม่ค่อยคึกคัก

โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าแกว่งตัวแดนลบต่อ โดยให้แนวต้านที่ 1,300 จุด แนวรับ 1,280 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

EA มูลค่าการซื้อขาย 2,268.89 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,063.37 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 644.78 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 575.69 ล้านบาท ปิดที่ 23.60 บาท เพิ่มขึ้น 3.96 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 469.15 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

#หุ้นไทย #ดอกเบี้ย #ข่าววันนี้ #เฟด

 

เงินบาทปิด 36.63 ทรงตัวจากช่วงเช้า รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 36.63 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.61 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทแกว่งออกข้าง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะมีผลต่อทิศทางของค่าเงินมากนัก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50 - 36.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่คืนนี้ ต้องติดตามการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมิ.ย. จาก Conference Board รวมทั้งติดตาม การออกมาให้ความเห็นจากบรรดาเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ซึ่งตลาดยังมองว่าภายในปีนี้ เฟดมีโอกาสจะลดดอกเบี้ยลงได้ 1-2 ครั้ง คาดพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50 - 36.75 บาท/ดอลลาร์ 

#ข่าววันนี้ #ค่าเงินบาท #ดอกเบี้ย #เฟด

 

เงินบาทปิด 36.76 อ่อนค่าตามภูมิภาค ให้กรอบพรุ่งนี้ 36.65-36.78

เงินบาทปิด 36.76 อ่อนค่าตามภูมิภาค ให้กรอบพรุ่งนี้ 36.65-36.78

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.76 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.69 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค เช่นเดียวกับสวิสฟรังต์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%

อย่างไรก็ดี คืนนี้ตลาดติดตามผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.25% เพียงแต่จะรอฟังว่า BoE จะส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ย ในการประชุมรอบถัดไปที่จะมีขึ้นในเดือนส.ค.หรือไม่ คาดพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.65 - 36.78 บาท/ดอลลาร์  

#เงินบาท #ข่าววันนี้ #คงดอกเบี้ย #เฟด