อย่าเชื่อไม่งั้นสูญเงินแน่! มิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด 

อย่าเชื่อ! มิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด 

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลางเพื่อหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีประชาชนแจ้งเบาะแสว่าได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นหัวหน้าไปรษณีย์ ได้ส่งเอกสารสำคัญที่บ้านหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีคนรับและเอกสาร  ถูกตีกลับ โดยแจ้งให้โทรศัพท์กลับไปหาเจ้าหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง เมื่อโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่แจ้ง มีผู้รับสายอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางและหลอกให้เหยื่ออัปเดตข้อมูลบำเหน็จตกทอดในแอปพลิเคชัน Digital Pension เนื่องจากจะมีการเพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด และให้ทำตามคำแนะนำต่างๆ ดังนั้นจึงขอเตือนผู้รับบำเหน็จบำนาญ ทายาท หรือบุคคลที่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว อย่าหลงเชื่อและทำตามมิจฉาชีพแต่อย่างใด เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านสูญเสียทรัพย์สิน 

โดยขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงระบบยื่นแบบขอรับเงินบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Digital Pension ซึ่งระบบ e-Filing เป็นส่วนหนึ่งของระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล หากผู้รับบำเหน็จบำนาญต้องการตรวจสอบข้อมูล หรือทำธุรกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องกับบำเหน็จบำนาญ สามารถดำเนินการ ดังนี้

1.หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สามารถขอรับได้ที่ส่วนราชการผู้เบิกบำนาญของตนเองและกรมบัญชีกลาง (กองบริหารการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญ สำนักงานคลังเขต สำนักงานคลังจังหวัด ติดต่อด้วยตนเองเท่านั้น)

2.หนังสือสั่งจ่าย และหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพื่อประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงิน เมื่อมีการอนุมัติรายการจะได้รับหนังสือผ่านอีเมลที่ได้แจ้งไว้ในระบบ หรือติดต่อขอรับได้ที่ส่วนราชการต้นสังกัดของตนเอง

3.รายการธุรกรรมอื่นๆติดต่อได้ที่ส่วนราชการต้นสังกัดหรือส่วนราชการผู้เบิกบำนาญของตนเอง แล้วแต่กรณี 

ทั้งนี้กรมบัญชีกลางขอย้ำว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อหาผู้รับบำนาญหรือทายาท เพื่อให้ดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการขอเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญแต่อย่างใด และปัจจุบันมิจฉาชีพมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยการพูดคุยให้หลงเชื่อและทำตาม ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้เท่าทันวิธีการและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆของมิจฉาชีพ และที่สำคัญอย่าหลงเชื่อทำตาม ไม่คุย ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามที่มิจฉาชีพแจ้ง หากพบไลน์ปลอมหรือไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งได้รับ sms ที่ส่งลิงก์ต่างๆมาให้กดรับ หากไม่แน่ใจ ห้ามคลิกโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ call center ของกรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2270-6400 ในวันและเวลาทำการ

#ข่าววันนี้ #มิจฉาชีพ #กรมบัญชีกลาง #เงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์



 

เตือนภัยอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด

เตือนภัยอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลางเพื่อหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีประชาชนแจ้งเบาะแสว่าได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นหัวหน้าไปรษณีย์ ได้ส่งเอกสารสำคัญที่บ้านหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีคนรับและเอกสาร  ถูกตีกลับ โดยแจ้งให้โทรศัพท์กลับไปหาเจ้าหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง เมื่อโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่แจ้ง มีผู้รับสายอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางและหลอกให้เหยื่ออัปเดตข้อมูลบำเหน็จตกทอดในแอปพลิเคชัน Digital Pension เนื่องจากจะมีการเพิ่มเงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด และให้ทำตามคำแนะนำต่าง ๆ ดังนั้น จึงขอเตือนผู้รับบำเหน็จบำนาญ ทายาท  หรือบุคคลที่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว อย่าหลงเชื่อและทำตามมิจฉาชีพแต่อย่างใด เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านสูญเสียทรัพย์สิน 

โดยขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงระบบยื่นแบบขอรับเงินบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Digital Pension ซึ่งระบบ e-Filing เป็นส่วนหนึ่งของระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล หากผู้รับบำเหน็จบำนาญต้องการตรวจสอบข้อมูล หรือทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบำเหน็จบำนาญ สามารถดำเนินการ ดังนี้

1.หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สามารถขอรับได้ที่ส่วนราชการผู้เบิกบำนาญของตนเองและกรมบัญชีกลาง (กองบริหารการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญ สำนักงานคลังเขต สำนักงานคลังจังหวัด ติดต่อด้วยตนเองเท่านั้น)

2.หนังสือสั่งจ่าย และหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพื่อประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงิน เมื่อมีการอนุมัติรายการจะได้รับหนังสือผ่านอีเมลที่ได้แจ้งไว้ในระบบ หรือติดต่อขอรับได้ที่ส่วนราชการต้นสังกัดของตนเอง

3.รายการธุรกรรมอื่นๆติดต่อได้ที่ส่วนราชการต้นสังกัดหรือส่วนราชการผู้เบิกบำนาญของตนเอง แล้วแต่กรณี 

“กรมบัญชีกลางขอย้ำว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อหาผู้รับบำนาญหรือทายาท เพื่อให้ดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการขอเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญแต่อย่างใด และปัจจุบันมิจฉาชีพมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยการพูดคุยให้หลงเชื่อและทำตาม ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้เท่าทันวิธีการและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆของมิจฉาชีพ และที่สำคัญอย่าหลงเชื่อทำตาม ไม่คุย ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามที่มิจฉาชีพแจ้ง หากพบไลน์ปลอมหรือไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งได้รับ sms ที่ส่งลิงก์ต่างๆมาให้กดรับ หากไม่แน่ใจ ห้ามคลิกโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ call center ของกรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2270-6400 ในวันและเวลาทำการ” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว

#ข่าววันนี้ #มิจฉาชีพ #กรมบัญชีกลาง #เงินสวัสดิการบำเหน็จตกทอด #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

เตือนภัย! มิจฉาชีพอ้างการไฟฟ้าเปลี่ยนมิเตอร์ดิจิทัลฟรี

เป็นอีกเรื่องราวที่โลกโซเชียลให้ความสนใจ เมื่อ TikTok@susiesupranee ออกมาเตือนภัยมิจฉชีพ โดยได้แชร์คลิปเสียงระหว่างสนทนากับมิจฉาชีพ พร้อมเขียนแคปชั่นว่า "ถูกหลอกเสียเงินให้มิจเยอะมาก เป็นเรื่องจริงของเพื่อนบ้านฝากเป็นหนึ่งที่อาจช่วยคนที่จะถูกหลอกได้ เพราะเนียนมาก"

ในคลิปมิจฉาชีพได้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ แจ้งสิทธิ์รับมิเตอร์ดิจิทัลฟรี โดยให้เหยื่อแอดไลน์แล้วแจ้งข้อมูลส่วนตัว  แต่ผู้โพสต์เอะใจและได้โทร.เช็คกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่าผู้โทร.เข้ามาเป็นมิจฉาชีพ เนื่องจากทางการไฟฟ้าฯไม่มีการติดต่อ หาก ไม่มีผู้รับบริการมาทำเรื่องก่อน 

ทั้งนี้หลังโพสต์เผยแพร่มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ เบื้องต้นการไฟฟ้าไม่มีนโยบายโทรหาผู้ใช้ไฟฟ้านะคะ ถ้ามิเตอร์เสียตัวผู้ใช้ไฟฟ้าเองจะต้องแจ้งเองค่ะ สามารถโทรเช็ค 1129 ก่อนได้นะคะหากได้รับสายแบบนี้,  "ทางเราไม่มีการติดต่อเข้าไปก่อนนะครับ ถ้าพี่ไม่มาทำเรื่องนะครับ "..... ข้อความนี้มีประโยชน์ต่อผม มากๆเลยครับ

 

@susiesupranee #กระแสมาแรงวันนี้ #มิจฉาชีพ มิน่าคนถึงเชื่อ ถูกหลอกเสียเงินให้มิจเยอะมาก เป็นเรื่องจริงของเพื่อนบ้านฝากเป็นหนึ่งที่อาจช่วยคนที่จะถูกหลอกได้ เพราะเนียนมาก #หลอกลวง ♬ เสียงต้นฉบับ - ซูซี่ สุปราณี

 

ขอบคุณ TikTok@susiesupranee

 

 

ตร.เตือนภัยอั่งเปาทิพย์ หลอกดูดเงินช่วงตรุษจีน

ตร.เตือนภัย อั่งเปาทิพย์ ช่วงตรุษจีน ส่ง SMS แนบลิงก์ชวนรับโชค หลอกติดตั้งแอพพ์ดูดเงิน ด้าน รัฐบาลเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก ทัวร์ลง เที่ยวตรุษจีนปีนี้ คาดกว่า 4 ล้านคนหลั่งไหล เข้าไทย ทอท. เตรียมพร้อมดูแลทุกด้าน 
       

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 24 มกราคม  2 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกว่า 4 ล้านคน โดยในจำนวนกว่า 7 แสนคน เป็นนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 22.6 ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานในท่าอากาศยาน เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการทั้งขาเข้าและขาออก เช่น ช่องตรวจคนเข้าเมือง การรับกระเป๋าสัมภาระ การเช็คอิน และการตรวจค้น จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาเพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังเสริมเจ้าหน้าที่เวรนอกเวลาเพื่อให้บริการทุกช่วงเวลา
       
  ทั้งนี้ ทอท. ได้ประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ระหว่างวันที่ 24 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผู้โดยสารประมาณ 4.03 ล้านคน หรือเฉลี่ย 403,182 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.4% และมีเที่ยวบิน 24,599 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 2,460 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 16.7%  โดยจำนวนผู้โดยสารสามารถจำแนกได้ ดังนี้
      
   สำหรับด้านความปลอดภัยของสนามบิน ทอท. ได้ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยระบบการจัดการด้านนิรภัย เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการของสนามบินมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งการป้องกันอันตรายจากสัตว์ ได้ดำเนินการสำรวจและประเมินอันตรายจากนกและสัตว์ในเขต Airside ตรวจสอบระบบนิเวศภายในและรอบสนามบินอย่างต่อเนื่อง มีการรับมือเหตุการณ์เกี่ยวกับนกหรือสัตว์ เช่น อากาศยานชนนก/ชนสัตว์ โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าเก็บหลักฐานและรายงานตามขั้นตอน การดำเนินงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ICAO (องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) ตรวจสอบและติดตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
      
   เทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดว่า อาจมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามการให้บริการได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง นางสาวศศิกานต์ กล่าว
        
 ด้าน พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ (รอง ผบก.สปพ.รรท.ผบก.สท.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 27-29 มกราคม 2568 เป็นเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 โดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายซื้อของเพื่อทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพตลอดห้วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำชับให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามอย่างเคร่งครัด
      
   พล.ต.อ.ประจวบสั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มความเข้มงวด โดยเน้นการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจบริเวณที่มีประชาชนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่นำไปประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเฝ้าระวังการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ร้านสะดวกซื้อ โรงทาน รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุ และเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตามสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือในย่านที่เป็นที่พักอาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยว รวมทั้งป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือการลักทรัพย์ในเคหสถาน
      
   พร้อมกันนี้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ผ่านเข้า-ออกราชอาณาจักร, ให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และขบวนการลำเลียงยาเสพติดที่ฉวยโอกาสในห้วงเวลาดังกล่าว ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้ารายย่อยตามภูมิภาคต่างๆ หรือลักลอบลำเลียงส่งผ่านต่อไปยังประเทศที่สามและผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมปฏิบัติ รวมทั้งให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกกลุ่มคดีความผิด
   
      นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์กล่าวว่า ในเทศกาลตรุษจีนนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดระมัดระวังป้องกันอัคคีภัยจากการจุดธูปเทียนไว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้า การเผากระดาษเงินกระดาษทองต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรับรอง ต้องดูให้ไฟดับสนิท การจุดประทัดต้องจุดในที่โล่ง และก่อนออกจากบ้านต้องตรวจสอบปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ที่อาจมาหลอกลวงพี่น้องประชาชนในรูปแบบ "อั่งเปาทิพย์" ส่ง SMS แนบลิงก์เชิญชวนให้รับโชค ซึ่งเป็นลิงก์อันตราย หลอกติดตั้งแอพพลิเคชั่นดูดเงิน หรือหลอกขอข้อมูลส่วนตัว
       
         ทั้งนี้ หากต้องการขอความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
   

เตือนภัย!! มิจฉาชีพอ้างเป็น "กรมบัญชีกลาง" ติดต่อหาผู้เกษียณอายุหลอกดูดเงินผ่าน QR Code ปลอม

รัฐบาลเตือนมิจฉาชีพอ้างเป็น “กรมบัญชีกลาง” ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รวมถึงข้าราชการเกษียณอายุ ลวงดูดเงินประชาชนผ่าน QR Code ปลอม ย้ำกรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายติดต่อหาผู้เกษียณ

วันที่ 22 ม.ค.68 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตือนประชาชนระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อกลโกงมิจฉาชีพ โดยปัจจุบันมิจฉาชีพมีจำนวนมากขึ้น มีการเตรียมการเป็นอย่างดี และทำกันเป็นขบวนการเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินจากทุกช่องทาง และมาในรูปแบบที่หลากหลาย โดยกลุ่มมิจฉาชีพปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการหลอกลวงผ่านรูปแบบการโทรศัพท์แจ้งให้ดำเนินการต่าง ๆ เช่น การขอรับบำเหน็จดำรงชีพ บำเหน็จตกทอด โดยแอบอ้างชื่อชื่อผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงาน และการใช้เอกสารราชการปลอมของกรมบัญชีกลาง 

นายคารม กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุด พบกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นกรมบัญชีกลาง แจ้งให้ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญรวมถึงข้าราชการเกษียณอายุ ประจำปี 2567 ให้ดำเนินการแจ้งรหัสบัญชีย่อย เพื่อใช้ประกอบการขอเบิกจ่ายเงินในระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) โดยให้ผู้รับบำนาญตรวจสอบรหัสบัญชีย่อยของตัวเองในระบบ New GFMIS Thai และให้สแกน QR Code ท้ายหนังสือ ขอย้ำเตือนผู้รับบำนาญ อย่าหลงเชื่อหนังสือแอบอ้างดังกล่าว และอย่าสแกน QR Code ท้ายหนังสือ เพราะจะทำให้ตกเป็นเหยื่อเป็นมิจฉาชีพ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ของกรมบัญชีกลาง และขอเน้นย้ำว่า “กรมบัญชีกลาง” ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อหาผู้รับบำนาญหรือทายาท เพื่อให้ดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการขอเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญแต่อย่างใด

“รัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องด้วยปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้วิถีชีวิตและกิจกรรมต่าง ๆ มีการใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ในการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง  โดยมุ่งเป้าหมายหลอกลวงไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้เกษียณเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นการสร้างการตระหนักรู้และเท่าทันภัยรูปแบบใหม่ ๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าหลงเชื่อทำตาม ไม่คุย ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามที่มิจฉาชีพแจ้ง หากพบไลน์ปลอมหรือไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งได้รับ SMS ที่ส่งลิงก์ต่าง ๆ  ห้ามคลิกกดลิงก์โดยเด็ดขาด หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ call center ของกรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400 ในวันและเวลาทำการ

หนุ่มโร่แจ้งความถูกมิจฉาชีพปลอมแปลงบัตร ปชช. ผูกบัตรเครดิต สูญเงินเกือบ 7 หมื่น

หนุ่มโร่ร้องกองปราบ ถูกมิจฉาชีพปลอมบัตรประชาชน ขอเปิดซิมใหม่เบอร์เดิม ผูกบัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ จนสูญเงินกว่า 70,000 บาท

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ม.ค.68 ที่หน้าแดนเนรมิต นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานเครือข่ายมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายกิตติณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พนักงานบริษัทสำรวจน้ำมัน นำหลักฐานเข้าแจ้งความกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หลังถูกมิจฉาชีพที่อาศัยอยู่ จ.กระบี่ สวมรอยนำเอกสารบัตรประชาชนที่ทำปลอมขึ้นมาไปขอออกซิมมือถือใหม่ และโทรไปขอเปิดใช้บัตรเครดิตจนสูญเงินไปเกือบ 70,000 บาท 

นายกิตติณัฐ กล่าวว่า เริ่มแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ตนพบว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกตัด จึงติดต่อไปยังเครือข่ายมือถือ ซึ่งทางเครือข่ายก็แจ้งว่าไม่ได้มีการตัดสัญญาณให้ตรวจสอบอีกครั้ง กระทั่งตนพบว่ามีการใช้จ่ายบัตรเครดิตของตนผ่านทางออนไลน์ 3 ครั้ง ในวันเดียวกันโดยใช้เวลา ไม่ถึง 10 นาที รวมเป็นจำนวนเงินเกือบ 70,000 บาท ซึ่งบัตรเครดิตตัวนี้เป็นบัตรเสริมที่ไว้ใช้จ่ายออนไลน์เท่านั้นไม่ได้มีการออกเป็นบัตรจริง โดยมิจฉาชีพใช้จ่ายบัตรดังกล่าวเต็มวงเงิน จึงพยายามเข้าแอปพลิเคชั่นบัตรเครดิตอีกหนึ่งใบ 

ต่อมาตนจึงได้ทำการติดต่อไปยังเครือข่ายมือถืออีกครั้ง จนทราบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของตนมีการแจ้งขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม ที่สาขาใน จ.กระบี่ ตนจึงติดต่อไปยังสาขาดังกล่าว และทราบว่ามีหญิงและชายสองคนเดินทางมาแจ้งกับพนักงานสาขาว่าซิมหาย จึงขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม โดยใช้หลักฐานเป็นภาพถ่ายบัตรประชาชนที่ปลอมแปลง โดยใส่ข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน รวมไปถึงวันเกิด ที่เป็นข้อมูลจริง ส่วนรูปภาพเป็นภาพของมิจฉาชีพ และรายละเอียดอื่นๆ นั้นไม่ตรงกับของตน โดยพนักงานอ้างว่าที่อนุมัติให้ซิมใหม่ไปนั้นเนื่องจากพบว่ารูปบัตรประชาชนตรงกับตัวคนที่มาขอเปลี่ยนซิม ทางมิจฉาชีพจึงนำเบอร์ของตนไปเข้าระบบการใช้จ่ายออนไลน์ที่มีการผูกบัตรเครดิตออนไลน์ของตนไว้ โดยใช้เพียงแค่รหัส OTP ที่จะถูกส่งยืนยันไปในเบอร์ของตนที่มิจฉาชีพนำไปใช้เท่านั้น ก็สามารถใช้จ่ายได้ ตนจึงทำการอายัดซิมและโทรอายัดบัตรเครดิตทั้งหมด

ส่วนข้อมูลของตนนั้น ก็ไม่ทราบว่ารั่วไหลได้อย่างไร เพราะตนไม่เคยทำบัตรประชาชนหรือบัตรเครดิตหาย จากนั้นพนักงานสาขาก็ได้มอบภาพกล้องวงจรปิดของหญิงชายดังกล่าวให้กับตน และแจ้งให้ตนไปติดต่อประสานกับสำนักงานใหญ่ของเครือข่ายมือถือ ซึ่งก็ได้รับการประสานจากผู้บริหารของค่ายมือถือดังกล่าวแล้ว

ส่วนเรื่องคดี ก่อนหน้านี้เคยเข้าแจ้งความไว้ที่สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งพนักงานสอบสวน อ้างว่า อำนาจการสืบสวนสอบสวนอยู่ที่ จ.กระบี่ จึงไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ตนจึงติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับคำแนะนำว่าสามารถแจ้งความได้ทุกพื้นที่ ทางสน.ทุ่งสองห้องจึงแจ้งว่า รับคดีได้แต่ไม่สะดวกที่จะรับในวันที่ไปแจ้งความ อ้างว่าติดภารกิจโดยนัดให้ตนมาอีกวันก่อนที่จะอ้างอีกครั้งว่าติดภารกิจเช่นเดิม นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวว่าหากตนรู้จักชื่อของคนร้ายจะทำให้คดีดำเนินไปได้รวดเร็วกว่า ตนจึงรู้สึกว่ากระบวนการมันล่าช้า นอกจากนั้นตนก็ยังได้มีการประสานไปยังที่ สภ.กระบี่แล้ว แต่ทางพนักงานสอบสวน สภ.กระบี่ ก็ได้แจ้งให้ตนเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำการแจ้งความ ตนจึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนช่วยเร่งรัดดำเนินคดีให้ เพราะมองว่าอำนาจการสอบสวนได้ครอบคลุม

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนอย่าหลงเชื่อบัญชีปลอมแอบอ้างเป็นผู้บริหาร

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนอย่าหลงเชื่อบัญชีปลอมแอบอ้างเป็นผู้บริหาร”

ตามที่มีกลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อและภาพของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เพื่อนำไปใช้ในการชักชวนหรือหลอกลวงประชาชนทั่วไปให้มาร่วมลงทุน หรือรับข้อมูลการลงทุน ผ่านช่องทาง LINE Application นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเตือนและแนะนำว่า อย่าหลงเชื่อบัญชีปลอม เพจปลอมและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่มีการนำเอาชื่อและภาพของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแอบอ้าง ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลเท็จที่ต้องการหลอกลวง

ทั้งนี้ หากพบบัญชีปลอม เพจปลอม หรือโซเชียลมีเดียใดๆที่มีการแอบอ้างโลโก้และชื่อของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงชื่อและภาพผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดจนบุคคลที่มีชื่อเสียงในตลาดทุน เพื่อชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนหรือรับข้อมูลการลงทุน ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจเป็นการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพ โดยหากมีข้อสงสัยหรือประสงค์ที่จะสอบถามข้อมูลประการใด สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ SET Contact Center 0-2009-9999 หรือ email: SETContactCenter@set.or.th

#ข่าววันนี้ #ตลาดหลักทรัพย์ #บัญชีปลอม #มิจฉาชีพ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

ธ.ก.ส. ชวนลูกค้าทำ e-KYC ป้องกันภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เชิญชวนลูกค้า ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ที่ยังไม่ลงทะเบียนยืนยันตัวตน e-KYC หรือ Electronic Know Your Customer ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและตัวตนของลูกค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการลงทุนต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพียงบัตรประจำตัวประชาชน และสมาร์ทโฟน เข้ารับบริการเพื่อจัดเก็บใบหน้าสำหรับยืนยันตัวตนในการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ผ่าน BAAC Mobile ป้องกันการถูกฉ้อโกงเลี่ยงภัยคุกคามจากมิจฉาชีพ อาชญากรรมทางการเงิน ลดความเสี่ยงในการถูกนำบัญชีไปใช้ในธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย          

ทั้งนี้ ลูกค้า ธ.ก.ส. ที่สนใจลงทะเบียน e-KYC สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center  02 555 0555

"ซีพี" เดินหน้าเต็มสูบ แจ้งความมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อประธานอาวุโส หลอกลงทุนลวงโลก

"ซีพี" เดินหน้าเต็มสูบ! แจ้งความมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อประธานอาวุโส หลอกลงทุนลวงโลก

เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 จากกรณีที่กลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อและภาพของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เผยแพร่ในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งจัดทำภาพและข้อความหลอกลวงให้ดูเหมือนเป็นข่าวจากสื่อชั้นนำระดับโลก โดยมีเป้าหมายล่อลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนด้วยการโฆษณาผลตอบแทนสูง เมื่อไม่นานมานี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าว โดยยื่นหลักฐานชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่า เป็นการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ แต่อย่างใด

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขอยืนยันจุดยืนอย่างเด็ดขาด ที่จะดำเนินคดีถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้เครือข่ายหลอกลวงเหล่านี้ลอยนวล! พร้อมทั้งขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ หรือทำธุรกรรมใดๆกับข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยัน หากพบข้อความหรือโฆษณาที่เข้าข่ายหลอกลวง ขอความร่วมมือแจ้ง สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 เพื่อร่วมกันหยุดยั้งพฤติกรรมอันตรายเหล่านี้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากมิจฉาชีพหลอกลงทุน สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://thaipoliceonline.com

#ซีพี #มิจฉาชีพ #ธนินท์เจียรวนนท์ #หลอกลงทุน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพปลอมเบอร์ Call Center ธนาคารอ้างเป็น จนท.แจ้งบัญชีถูกแฮก-เร่งให้โอนเงินไปบัญชีบุคคลที่เตรียมไว้สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพ

#ทันมุกทุกมิจ โปรดระวัง! มิจฉาชีพปลอมเบอร์ Call Center ธนาคาร  อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า “บัญชีถูกแฮก” และเร่งให้โอนเงิน ไปยัง "บัญชีบุคคลที่เตรียมไว้สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพ"

อย่าหลงเชื่อ!! Call Center ของธนาคาร จะไม่มีการโทรหาลูกค้าเพื่อให้ทำธุรกรรมโอนเงิน

แนะนำ! รีบวางสายทันที และโทรสอบถาม Call Center ของธนาคารอีกครั้งด้วยการ “กดเบอร์ด้วยตนเอง” เท่านั้น

ลูกค้าธนาคารสามารถสอบถามหรือแจ้งเหตุได้ที่ โทร. 02-111-1111 กด 108 ตลอด 24 ชั่วโมง

#Krungthai #กรุงไทย #ทันมุกทุกมิจ #มิจฉาชีพ #เรื่องหลอกให้บอกต่อ