จมน้ำ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 15 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภเมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ พบศพชายลอยน้ำบริเวณใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรีบตรวจสอบ
   

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยกันนำเรือลากศพผู้เสียชีวิตไม่ทราบชื่อเข้ามาขึ้นฝั่งใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ สภาพศพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อ ยืดแขนสั้นสีน้ำเงินใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้นอายุประมาณ 25  -  30 ปี มีรอยสักบริเวณขาด้านซ้ายมีรอยฟกช้ำบริเวณน่องขวา
   

จากการสอบถามนางอำนาจ หมวดจุ้ย อายุ 40 ปี กล่าวว่า วันนี้ประมาณช่วงเที่ยงกว่าๆ มีคนขับเรือเจอศพลอยน้ำ แล้วมาบอกที่ออฟฟิศท่าเรือ เขาบอกว่าไม่รู้เป็นศพคนหรือไม่ให้ช่วยกันมาดูหน่อย พวกตนเลยเดินมาดู พอมาดูก็เจอเป็นศพผู้ชายนอนคว่ำหน้า และเจ้าของท่าเรือก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย

    เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอแพทย์ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
    
 

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 มี.ค. ร.ต.อ.หญิงนนทนัดดา ชมชื่น ร้อยเวร สภ.เพ ระยอง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนจมน้ำ บริเวณ อ่าววงเดือน เกาะเสม็ด ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร และ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล จุดบ้านเพ เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบนักท่องเที่ยวกำลังยืนมุงกันอยู่ริมชายหาด จึงเข้าไปตรวจสอบ พบ ผู้ชายสูงอายุ นอนนหมดสติอยู่ เจ้าหน้าที่จีงรีบเข้าไปช่วย ทำ ซีพีอาร์ แต่ปรากฎว่าไม่สามารถกู้ชีพจรกลับมาได้ เสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวที่เดินทางมาท่องเที่ยว หลังจากนั้นจึงนำศพขึ้นเรือ ส่งพิสูจน์ที่รพ.ระยอง

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นาย Li Renzhong อายุ 61 ปี สัญชาติจีน เดินทางมาท่องเที่ยวกับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุลงไปเล่นน้ำตามลำพัง ก่อนที่จะจมหายไปทางครอบครัวเห็นผิดสังเกตุ รีบลงไปช่วย ก่อนจะนำตัวขึ้นมาได้แต่ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมประสานทางสถานทูตจีนให้ทราบเรื่อง พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 

นายอำเภอเกาะสมุยปิดศูนย์อำนวยการค้นหาผู้ประสบภัยทางทะเล หลังพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ราย  และมีคำเตือนให้ผู้ลงเล่นน้ำสังเกตสัญลักษณ์ธงแดงในการลงเล่นน้ำทะเลช่วงคลื่นลมแรง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตด้วย                    

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บริเวณชายหาดซีไซด์บังกะโลหาดเฉวง หมู่ 3 ต.บ่อผุด  อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย  ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล พร้อม พ.ต.ท.เจริญ เกิดเเก้ว รอง.ผกก.ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ต.บุญเชิด มณีชัย สวป.นายชินาธิป อัครเดชาธรรม สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย พร้อม นายชัยพร ทรัพย์ประเสริฐ หัวหน้าอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลนคร นายเพชร บุญรักษ์ หัวหน้าอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม เกาะสมุย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.อำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเกาะสมุย และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ร่วมประชุมฯ และทำการปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้ประสบภัยทางทะเลฯ ภายหลังได้ค้นหาพบร่างของนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปี 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะสมุย ที่ประสบเหตุจมน้ำทะเลเป็นรายที่ 2   หลังจากเมื่อเช้าวันนี้ ทีมค้นหา ได้รับแจ้งพบร่างผู้เสียชีวิต ถูกคลื่นพัดพาลอยมาเกยบนชายหาดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณชายหาดเฉวง หมู่ 2 ต.บ่อผุด ซึ่งจากการตรวจสอบและยืนยันทราบว่า เป็นร่างของ ณัฐพล (หรือวิทย์) อายุ 15 ปี ที่จมน้ำหายไปตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมกับเด็กชาย มาร์ค อายุ 15 ปี สัญชาติเนปาล ซึ่งร่างเด็กชายมาร์ค ได้ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดหลังเกิดเหตุ 4 ชั่วโมงในค่ำคืนเดียวกัน  

นายอำเภอเกาะสมุย ได้กล่าวขอบคุณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคม องค์กร รวมถึงหน่วยกู้ชีพกู้ภัยทุกชุดทุกทีม ที่ได้ร่วมบูรณาการจนบรรลุเป้าหมายนำร่างมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา และชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกชุด ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด เจ้าหน้าที่ ปภ.เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 พื้นที่เกาะสมุย และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยทุกชุดทุกทีม ที่ได้ร่วมภารกิจในการค้นหา ตั้งแต่วันแรกตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันตลอดมาจนพบร่างของผู้ประสบภัย และขอบคุณผู้ประกอบการเจ็ทสกี พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย นายชินาธิป อัครเดชาธรรม สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย  ที่สนับสนุนอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการกับกำลังเจ้าหน้าที่ ตลอดจน เจ้าของบังกะโลซีไซด์ ที่เอื้อเฟื่อสถานที่ในการตั้งศูนย์อำนวยการร่วมค้นหา บริเวณชายหาด รวมทั้งผู้ประกอบการทุกท่านที่ให้การสนับสนุนภารกิจในครั้งนี้

นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ ดังกล่าว ในฐานะนายอำเภอเกาะสมุยขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของน้องทั้ง 2 มา ณ.โอกาสนี้ และเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนอีกครั้งหนึ่ง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ ผู้ปกครอง สถานศึกษา  ให้ช่วยดูแลบุตรหลานและนักเรียน ในการเตือนสติและดูแล

ให้สังเกตสัญลักษณ์ธงแดง  ปักเตือนชายหาย หน้ามรสุมหรือช่วงคลื่นลมแรง ขอให้งดการลงเล่นน้ำทะเล เพื่อลดการสูญเสีย และฝากถึงผู้ประกอบการโรงแรม  ร้านอาหารชายทะเล ประชาสัมพันธ์ นักท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังการลงเล่นน้ำทะเล ในขณะที่มีคลื่นลมแรง และมีการขึ้นธงแดงเตือนอันตราย   มีการเตรียมความพร้อมติดตั้ง อุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น ห่วงยาง นกหวีด เชือก บริเวณชายหาดที่สามารถเข้าถึง  หยิบฉวยและนำไปใช้ ช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที และการใช้สัญลักษณ์ธงแดง สัญญาณแจ้งเตือนภัย ขอให้เพิ่มข้อความแจ้งเตือนขยายความในผืนธงแดงให้เกิดความเข้าใจตรงกัน  และติดตั้งในจุดที่เหมาะสม เช่น ติดตั้งธงกับทุ่นลอยในทะเล  หรือป้ายประชาสัมพันธ์ตามแนวชายหาดให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และมีปริมาณป้ายแจ้งเตือนที่ไม่น้อยเกินไป และประการสำคัญโรงแรมต้องให้คำแนะนำ นักท่องเที่ยว หรือผู้มาเยือนที่เข้าพักในโรงแรม วิลล่า ที่พักริมชายหาดตั้งแต่ลงทะเบียนเข้าพักเพื่อรับรู้และเข้าใจในแนวทางมาตรการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย  และ นายอำเภอเกาะสมุย  ยังได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานรัฐและอาสาสมัครต่างๆในพื้นที่ สนับสนุน lifeguard ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในห้วงที่มีคลื่นลมแรง รวมถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน เพื่อให้เกาะสมุยเป็นโฮมสเตย์ให้กับชาวโลก โดยเฉพาะวันที่ 1 มีนาคม ที่วีซ่าฟรีต่าง ของรัฐบาลเริ่มเปิดใช้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม

เมื่อเวลา 06.10 น. ของวันที่ 28 ก.พ.67 ร.ต.ท พงษ์พิสุทธิ์ มหาเศรษฐ์วรกุล รองสารวัตรสอบสวน  สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้ง พบศพหญิงสาวชาวต่างชาติเสียชีวิตอยู่ภายในน้ำทะเล ริมชายหาดบางเสร่ หมู่ที่ 2 ต.บางเสร่  อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์  เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ชนะทัต นวคุณรังสี รอง ผกก.ป.สภ.สัตหีบ  กำลังชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
 
     ที่เกิดเหตุพบร่างหญิงสาวชาวต่างชาติ นอนเสียชีวิต ภายในน้ำทะเล ริมชายหาดบางเสร่ ในสภาพนอนหงายหน้า ใส่ชุดออกกำลังกาย สีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ พบใบขับขี่ รถยนต์ส่วนบุคคล อายุ 35 ปี ไม่ทราบสัญชาติ จากการตรวจสอบตามร่างกายและบริเวณใกล้เคียงไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และยังพบทรัพย์สินผู้เสียชีวิต บนแนวชายหาด เป็นเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์แขนยาว  สกู๊ตเตอร์สีดำ และ ยังพบเบียร์ 1 กระป๋อง เงินสด 590 บาทโทรศัพท์จำนวน 2 เครื่อง และกัญชาพันลำ จำนวน 1 มวน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำร่างส่งตรวจผ่าชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ กทม. เพื่อสาเหตุการตายที่แน่ชัด

        
          จากการสอบถามพนักงานเก็บกวาด บริเวณชายหาดบางเสร่ ทราบว่า ตนและสามี ได้ออกมากวาดใบไม้กวาดขยะ บริเวณชายหาดบางเสร่ เวลาประมาณ 05.00 น พอมาถึงบริเวณดังกล่าวก็พบเจอสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ เสื้อ แจ็คเก็ต ยืนแขนยาวและกระเป๋า จึงได้เอาไฟส่องดูตามชายฝั่ง แต่ก็ไม่พบเจอเจ้าของ ตนจึงได้เดินเก็บขวดบริเวณชายหาดตามปกติ และได้ส่องไฟลงไปภายในชายทะเล ก็พบเจอ ร่างหญิงต่างชาติ นอนอยู่ ในน้ำ โดยได้เรียกเรียกแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ มาตรวจสอบดังกล่าว

     โดยนายปรีชา พิพัฒน์ผล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยจุดบางเสร่ กล่าวว่า พบเห็นหญิงสาวชาวต่างชาติรายนี้ประจำโดยจะขับขี่ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ตามท้องถนน ในตลาดบางเสร่อยู่เป็นประจำ 

   เบื้องต้นเจ้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ เพื่อดูกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ และติดตามหาญาติและกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต มาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สลด!นักท่องเที่ยวสาวจีนจมน้ำดับบนเกาะเสม็ด ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวที่มาด้วยกัน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27 ม.ค. ร.ต.อ.หญิง นนทนัดดา ชมชื่น รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เพ ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุตักทีองเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตบริเวณ อ่าวทับทิม เกาะเสม็ด ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยหน่วนกู้ภัยสว่างพรกุศลจุดบ้านเพ เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบนักทีองเที่ยวกำลังยืนมุงกันอยู่ริมหาด เข้าไปตรวจสอบพบร่างนักท่องเที่ยวผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำสีน้ำเงินนอนแน่นิ่งอยู่บนชายหาด โดยมีการทำซีพีอาร์ เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ พยายามช่วยเต็มที่ แต่ไม่สามารถกู้ชีวิตกลับคืนมาได้ เสียชีวิตไปก่อนแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวที่มาด้วยกัน ต่อมาจึงนำศพส่งขึ้นเรือมายังฝั่งบ้านเพส่งต่อไปพิสูจน์ที่ รพ.ระยอง

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิต เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน ชื่อ นางหลุ่ย หยุน อายุ 46 ปี เดินทางมากับครอบครัวก่อนเกิดเหตุลงไปเล่นน้ำแล้วเกิดจมน้ำ ก่อนที่จะช่วยขึ้นมา แต่ก็ช่วยไม่ทัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อำนวยความสะดวกให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต พร้อมแจ้งไปยังสถานทูตจีนให้ทราบเรื่อง เพื่อเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

ความคืบหน้าเหตุการณ์เด็ก 3 คน จมน้ำในคลองอู่ตะเภา บริเวณสะพานท่าหาดเตย พื้นที่บ้านชายคลอง เขตเทศบาลเมืองควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงบ่าย3โมงวันนี้

   ล่าสุดหลังจากที่นักประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)หาดใหญ่ ดำน้ำค้นหาร่างของน้ำทั้งสามคน ประกอบด้วย ด.ช.โอ๊ด อายุ 14 ปี ด.ญ.ติน อายุ12ปี และด.ช.อะเดฟ อายุ 7 ปี และผ่านไปเกือบ1 ชัวโมงก็ยังไม่เจอ

   กระทั่งพ่อแม่ของน้องทั้งสามคนได้จุดธูปขอให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยเปิดทางดลบันดาลให้เจอน้องๆโดยเร็วและนำธูปไปปักริมคลอง ปรากฏว่าผ่านไปราว 5 นาทีทีมนักประดาก็พบร่างของทั้งสามคนแล้ว โดยจมอยู่บริเวณกลางคลองทั้งสามคน เริ่มจากพบร่างน้องโอ๊ค  น้องอะดอฟ และน้องติณ  ทันทีที่นำร่างของน้องทั้งสามคนขึ้นมาจากน้ำพ่อแม่และญาติต่างร่ำให้แทบขาดใจ กับการจากไปอย่างกระทันหันของน้องทั้่งสามคน

โดยหลังจากนี้จะนำศพส่งโรงพยาบาลและให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2567 ศูนย์วิทยุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณชายหาดจอมเทียน หน้าโรงแรม เดอะนาว ถ.เลียบชายหาดจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจึงประสาน ร.ต.อ.ชลวิทย์ อธิพันสีห์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวอยู่ในอาการแตกตื่นมุงดูร่างนาย พรชัย อายุ 56 ปี สวมกางเกงตัวเดียว เสียชีวิตอยู่บนพื้นทรายชายหาด ตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่อย่างใด 

ต่อมานายพรเทพ อายุ 52 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูศพของพี่ชาย และ เปิดเผยกับผู้เสื่อข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ผู้ตายบอกว่าจะมาเล่นน้ำที่หาดจอมเทียน ซึ่งก่อนมาเล่นน้ำนั้นผู้ตายก็ได้ดื่มสุรามาบ้างแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากความเมา

สอบถามเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีร่างคนถูกคลื่นซัดมาติดทุ่น จึงรีบไปตรวจสอบ พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบดังกล่าว

สลดเด็กจมน้ำสูญหายในคลองอู่ตะเภา3 คน เป็นชาย2คนหญิง1 คน หลังจากที่ชักชวนกันไปเล่นน้ำ พ่อเข่าอ่อนร่ำให้ ประสานนักประดาน้ำงมร่างค้นหา 

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (25ม.ค.67) เกิดเหตุเด็ก 3 คนจมน้ำในคลองอู่ตะเภา บริเวณสะพานท่าหาดเตย พื้นที่บ้านชายคลอง เขตเทศบาลเมืองควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นเนินทรายที่เด็กมักจะไปเล่นน้ำเล่นทรายเป็นประจำ 

   ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าเด็กที่จมน้ำสูญหายไปในคลองทั้ง 3 คน ประกอบด้วย ด.ช.โอ๊ด อายุ 14 ปี ด.ญ.ติน อายุ12ปี และ ด.ช.อะเดฟ อายุ 7 ปี ทั้งสามคนอาศัยอยู่ในชุมชนหลังวัดเทพชุมนุม ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

    จากการสอบถาม ด.ช.อะตอม อายุ 10 ปี ซึ่งน้องชายคือ ด.ช.อะเดฟ จมน้ำสูญหายไปด้วย บอกว่า เมื่อช่วงบ่าย2โมงวันนี้พวกตน 7 คน ได้ชวนกันมาเล่นน้ำที่ริมคลองอู่ตะเภา บริเวณสะพานท่าหาดเตย ตอนเกิดเหตุ ด.ญ.ติน และด.ช.อะเดฟ น้องชายตนได้ลงไปตักน้ำในคลองและเกิดจมน้ำ ด.ช.โอ๊ด จึงกระโดดลงไปช่วยและถูกน้ำซัดจมหายไปทั้งสามคน 

   หลังเกิดเหตุพ่อแม่เด็กทั้งสามคนได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุและต่างร่ำให้เมื่อทราบข่าวว่าลูกจมน้ำสูญหายไป อย่างเช่น นายนิพัทธ์ พ่อของ ด.ช.อะเดฟ ได้ลงไปหาในคลองแต่ก็ไม่เจอ  รวมทั้่งญาติๆและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมาดูเหตุการณ์กันอย่างต่อเนื่อง 

   และทางนักประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)หาดใหญ่ ได้ลงพื้นที่เพื่อไปดำน้ำค้นหาร่างของเด็กทั้งสามคนที่จมหายไปในคลองอู่ตะเภา 

ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.15 น.ของวันที่ 23 ม.ค.67 ศูนย์วิทยุมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่ามีชาวบ้านมาแจ้งว่า มีชาวบ้านพายเรือหาปลาในแม่น้ำแม่กลองพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วงฯ คาดว่าน่าจะพลัดตกแม่น้ำจมน้ำหายไป หลังรับแจ้งจึงรายงานให้นายอดิศักดิ์  รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานฝ่ายกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิขุนรัตนาวุธทราบเรื่อง เพื่อสั่งการให้นักประดาน้ำชุดสายธาร นำอุปกรณ์การดำน้ำ เรือท้องแบน เจ็สสกี และอุปกรณ์แสงสว่างเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุตามที่ถูกร้องขอ 
     

ที่เกิดเหตุพบเพียงเรือพาย 1 ลำแต่ไม่พบตัวผู้ที่สูญหายภายในน้ำ ซึ่งทราบชื่อนายเล็ก หรือใหญ่ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/3 หมู่ 1    ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นตรวจสอบภายในเรือของผู้สูญหายซึ่งจอดอยู่ริมตลิ่งในแม่น้ำ พบเพียงซากปลาตายอยู่จำนวนหนึ่ง นักประดาน้ำชุดสายธารพร้อมอุปกรณ์การดำน้ำจึงแยกย้ายกันออกลงงมค้นหาร่างของนายเล็ก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ที่คาดว่าจะจมน้ำเสียชีวิตแล้ว
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 20.45 น.นักประดาน้ำชุดสายธารของมูลนิธิฯ ก็สามารถงมค้นหาร่างของนายเล็กบุญชู จนพบร่าง  โดยใช้เวลาในการงมค้นหาอยู่นานประมาณ 35 นาที

     จากนั้น จึงนำร่างขึ้นมาไว้บนฝั่ง และวิทยุแจ้งให้ศูนย์สั่งการของมูลนิธิฯ ทราบเรื่อง ก่อนจะแจ้งให้ทาง สภ.ท่าม่วงฯ ทราบเรื่องเพื่อแจ้งให้ ร.ต.อ.สงคราม  สิทธิสร รองสารวัตรเวรสอบสวนฯ ทราบ หลังพนักงานสอบสวนทราบเรื่อง จึงลงบันทึก ปจว.ไว้เป็นหลักฐานเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

     จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ ผลการชันสูตรพลิกศพไม่พบว่าตามร่างกายของนายเล็ก ผู้ตายรายนี้ มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างไร แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตาย เนื่องจากขาดอากาศหายใจ จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปฝากไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
     

เมื่อเย็นวันนี้ เวลา  17.10 น. ของวันที่ 24 ม.ค.67  ร.ต.อ.กฤษฎา  อินทโชติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  รับแจ้งเหตุมีผู้จมน้ำเสียชีวิต บริเวณหนองตะเคียนสวนกรมหลวงชุมพรร ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ หน่วยกู้ภัยสว่างโรจนธรรมสถาน 

        ที่เกิดเหตุริมตลิ่ง พบศพหญิงสาว ทราบชื่อ  น.ส.รัติกร อายุ 54 ปี  สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีแดง ในสภาพคว่ำหน้าลอยเหนือผิวน้ำ โดยมีเชือกผูกรอบเอวโยงติดกับกะละมัง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยถูกฆาตกรรม  สันนิษฐานจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เบื้องต้น ได้นำศพส่งชันสูตรยัง โรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 หาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมติดตามหาญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศล

สอบถาม นางสุวารี อายุ 50 ปี น้องสาวผู้ตายให้การว่า ช่วงเช้ายังเจอพี่สาวอยู่เลยที่ตลาด ก่อนจะหายไปในช่วงบ่ายของวันนี้ เพราะทุกวันพี่สาวจะออกไปหาหอยขม ที่หนองตะเคียน เพื่อนำไปขายยังตลาด ในช่วงเย็น ก่อนจะมีคนมาพบศพดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ สันนิฐานว่าผู้ตายได้ออกมาหาหอยขม ก่อนจะหน้ามืดเป็นลม จมน้ำเสียขีวิต  ด้านตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรเพิ่มเติม และจะได้เรียกญาติมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป