ตำรวจน้ำ สานต่อความห่วงใยโครงการสอนน้องว่ายน้ำ หวั่นช่วงปิดเทอมเด็กจมน้ำสถิติเพิ่มขึ้น  

เดินหน้าต่อ ผบ.ตร. หวั่นช่วงปิดเทอมเด็กจมน้ำสถิติเพิ่มขึ้น ให้ตำรวจน้ำ สานต่อความห่วงใยโครงการสอนน้องว่ายน้ำ ลดความสูญเสีย

วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มีความห่วงใยเด็กๆ และเยาวชนที่เล่นน้ำในช่วงปิดภาคเรียนอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ และการจมน้ำเสียชีวิตนั้นนับเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่คร่าชีวิตเด็กและเยาวชนไทย โดยเป็นอุบัติภัยที่สามารถป้องกันด้วยการใช้ความระมัดระวัง โดยกรมควบคุมโรค พบว่า อุบัติเหตุจมน้ำได้ ข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2565) มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอม ระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.นี้  953 คน เฉลี่ยวันละ 2 คน

ขณะที่ แหล่งน้ำที่พบว่า เด็กจมน้ำมากที่สุด คือ แหล่งน้ำตามธรรมชาติ ร้อยละ 76.5 เขื่อน อ่างเก็บน้ำฝาย ร้อยละ 11.1 ทะเล ร้อยละ 5.3) ภาชนะภายในบ้าน ร้อยละ 3.5  และสระว่ายน้ำสวนน้ำ ร้อยละ 1.8 โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเล่นน้ำมากที่สุด ร้อยละ59.4 รองลงมาคือ พลัดตกลื่น ร้อยละ 21.5

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ขาดการดูแลจากผู้ปกครอง และขาดความรู้เรื่องแหล่งน้ำเสี่ยงทั้งนี้ 10 จังหวัดแรกที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงที่สุดในช่วงฤดูร้อน ปี 2561 ถึง 2565 ได้แก่ บุรีรัมย์ 45 คน  อุดรธานี 38 คน นครราชสีมา 37 คน สุรินทร์ 30 คน ร้อยเอ็ด 28 คน สกลนคร 28 คน นครสวรรค์ 26 คน ขอนแก่น 25 คน นครศรีธรรมราช 25 คน และปัตตานี 24 คน โดยในช่วง ปิดเทอมนี้ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดฝึกสอนการว่ายน้ำให้กับเด็ก และเยาวชน ในห้วงเดือนตุลาคมนี้ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการจมน้ำของเด็ก และมีหัวข้อการสอนดังนี้ ฝึกการลอยตัว แนะนำอุปกรณ์ช่วยชีวิต การใช้งานอุปกรณ์ แนะนำสาธิตการเอาตัวรอดทางน้ำ เมื่อตกน้ำ สาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ/CPR การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น) และอื่นๆ

ชัยภูมิผงะน้ำชีลด ชาวบ้านพบศพนิรนามโผล่ ลอยน้ำมา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ต.ค.66 ร.ต.อ.วิราช สินพร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า รับแจ้งมีเหตุพบศพคนเสียชีวิตลอยน้ำอยู่ภายในลำแม่น้ำชี ในหมู่บ้านชีบน ต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอบ้านเขว้า (รพ.บ้านเขว้า) เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ 

ในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเดินเท้าเข้าไปเป็นระทางเกือบ 2กิโลเมตร จึงถึงจุดเกิดเหตุติดริมแม่น้ำชี ที่เป็นจุดพบศพลอยน้ำมา ซึ่งในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า หลังเกิดน้ำชีหลากท่วมหนักมานานกว่า 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงต่อเนื่อง จึงทำให้การนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำในจุดนี้ต้องใช้เวลาอยู่นานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ก่อนนำศพขึ้นมาจากน้ำได้ พบว่าผู้ตายเป็นเพศชาย อายุประมาณ 50 ปี สมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ตรวจสอบในร่างกายไม่พบทรัพย์สินหรือเอกสารยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นคนที่ไหนมาจากที่ใดได้ ทางทีมแพทย์ชันสูตรพลิกศพโรงพยาบาลบ้านเขว้า ระบุว่าคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 - 18 ชั่วโมง (ชม.) สอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รวมถึงผู้นำหมู่บ้าน บอกว่า ในช่วงสายของวันนี้ได้มีชาวบ้านที่มาหาปลาอยู่บริเวณริมแม่น้ำชีดังกล่าว ได้ไปพบกับศพดังกล่าวลอยน้ำมา ก่อนรีบประสานแจ้งผู้นำและแจ้งทางเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยตรวจสอบ แต่พบว่าคนในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุและหมู่บ้านใกล้เคียง ระบุว่าไม่มีใครรู้จักหรือเคยเห็นหน้าผู้เสียชีวิตรายนี้เลย น่าจะเป็นคนมาจากที่อื่น ซึ่งคนในพื้นที่หมู่บ้านและใกล้เคียงยังไม่พบว่ามีการแจ้งบุคคลสูญหายออกจากบ้านในขณะนี้เลย 

ด้าน ร.ต.อ.วิราช สินพร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า หลังได้เก็บหลักฐานพยานในที่เกิดเหตุ เนื่องด้วยไม่ทราบว่าผู้ตาย เป็นใคร และมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย นำร่างผู้เสียชีวิตหลังมีการชันสูตรพลิกศพแล้ว เพื่อช่วยนำไปเก็บรักษาไว้ที่สุสานของมูลนิธิฯฺ เพื่อดำเนินการ ขอฝากแจ้งหากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงใด ที่มีญาติหายออกจากบ้าน ขอให้รีบแจ้งติดต่อเจ้าหน้าที่ สภ.บ้านเขว้า เพื่อหาสาเหตุการณ์เสียชีวิตของชายนิรนามรายนี้ต่อไป 

สลดรับปิดเทอม เด็กชายชั้นประถม 5 คน ชวนกันเล่นน้ำ หมดแรงจมหายต่อหน้าเพื่อนดับ 2 ศพ

 สลดรับปิดเทอม เด็กชายชั้นประถม 5 คน ชวนกันไปเล่นน้ำในคลองสาธารณะแถวบ้านครั้งแรกหลังจากปิดภาคเรียน แต่หมดแรงจมหายต่อหน้าเพื่อนดับ ทีเดียว 2 ศพ 

   เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้(11ก.ย.66) ร.ต.อ.อรวรรณ มิตยสิทธิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม รับแจ้งว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย บริเวณคลองชวดทอง บ้านแหลมไผ่ศรี ม.3 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยนางพิศมัย ตั้งชูทวีทรัพย์ กำนันต.หนองยาว แพทย์เวรโรงพยาบาลพนมสารคาม เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนม

   บริเวณที่เกิดเหตุเป็นคลองธรรมชาติ เพื่อใช้น้ำในการเกษตร มีขนาดกว้างประมาณ 20 เมตร ลึกประมาณ 3-4 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยพนมได้ลงค้นหาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีจนพบร่างของเด็กชายทั้ง 2 ราย ซึ่งผู้ตายทั้ง 2 จมอยู่ใกล้กันอยู่ห่างจากบริเวณฝายทดน้ำข้ามคลองไปประ มาณ 2 เมตร ซึ่งช่วงบริเวณดังกล่าวระดับน้ำลึกประมาณ 2-3 เมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างของเด็กชายผู้เสียชีวิตขึ้นมารอการชันสูตร ทราบชื่อต่อมารายที่ 1  นายวัชระ ลิ้มเจริญ อายุ 16 ปี พักอาศัยบ้านเลขที่ 79 ม.12 ต.หนองยาว  อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สภาพไม่สวมเสื้อแต่สวมกางเกงขาสั้นสีดำ รายที่ 2 ทราบชื่อ ด.ช.ธีรพงศ์  แสงเพชร อายุ 10 ปี พักอาศัยบ้านเลขที่ 50 ม.3 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สภาพไม่สวมเสื้อแต่สวมกางเกงขาสั้นสีดำเช่นกัน 


       
 จากการสอบถาม ด.ช.พอตเตอร์อายุ 8 ปี เล่าว่า ตนเองทั้งหมดรวม 5 คนได้ชักชวนกันเพื่อมาเล่นน้ำตรงจุดบริเวณดังกล่าวเป็นครั้งแรก แต่ระหว่างที่กำลังเล่นน้ำไปสักพักตนเอง(ด.ช.พอตเตอร์ผู้รอดชีวิต) และ ด.ช.ธีรพงศ์ผู้ตายกำลังจะจมน้ำ แต่ตนเอง(ด.ช.พอตเตอร์ผู้รอดชีวิต)ได้ว่ายไปเกาะกิ่งไม้และว่ายเข้าฝั่งก่อนจึงรอดชีวิต แต่ด.ช.ธีรพงศ์ได้จมหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อน ก่อนที่นายวัชระจะลงไปช่วยเพื่อนแต่ก็ช่วยไม่ได้หมดแรงจมหายไปอีกคน จากนั้นเพื่อนได้รีบขึ้นจากน้ำแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนที่ชาวบ้านจะได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ


      
  หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรได้ ชันสูตรเบื้องต้น ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพนมนำร่างผู้เสียชีวิตส่งมอบให้ญาติไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป….

พบแล้ว! ศพเด็กนักเรียนหญิง 4 ราย หลังจมน้ำฝายน้ำล้นสูญหาย

เมื่อเวลา 11.39 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางทีมตอบโต้ภัยพิบัติจังหวัดร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเด็กจมน้ำสูญหายภายในน้ำเป็นเด็กหญิง 4 คน บริเวณฝายน้ำล้น บ.โพนเงิน ต.เมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ทางทีมจึงสนับสนุนนักประดาน้ำจำนวน 9 คน ร่วมกับกู้ภัยในพื้นที่

เบื้องต้นรับแจ้งว่าเป็นเด็กนักเรียนหญิง 4 ราย ชั้น ป.4-6 แบ่งเป็นอายุ 10 ปี 3 ราย อายุ  12 ปี 1 ราย ทีมประดาน้ำจากหลายพื้นที่เร่งทำการค้นหาน้องทั้ง 4 ในเวลา 15.10 น. ได้พบน้องผู้สูญหายคนที่ 1 ในเวลา 15.16 น. ได้พบน้องผู้สูญหายรายที่ 2 ในเวลา 15.23 น.ได้พบน้องผู้สูญหายรายที่ 3 และในเวลา 15.35 น. ได้พบน้องผู้สูญหายคนสุดท้าย ทีมประดาน้ำจึงแจ้งปิดภารกิจ

หนุ่มวัย 18 หาปลา อาการลมชักกำเริบจมน้ำเสียชีวิต 

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 6 ต.ค.66 พ.ต.ต.พันธ์เทพ ศรีบุญนาค สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณบ่อน้ำหลังวัดเขานาพุวนาราม ม.11 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา รุดไปตรวจสอบ
     

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ่อน้ำขุด ลึก 3-4  เมตร กว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร ชุดประดาน้ำค้นหาภายในบ่อน้ำใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง พบผู้เสียชีวิต ชื่อนายอภิรักษ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184/16 ม.5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สภาพศพนอนคว่ำหน้าตัวแข็งทื่อเลือดออกจมูกจำนวนมาก ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย และบริเวณรอบที่เกิดเหตุ พบเพียงเบ็ดตกปลา รองเท้า ถุงใส่ปลา อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
     

จากการสอบถาม นายชนินทร์ อายุ 40 ปี เป็นอาของผู้ตาย ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายอภิรักษ์ หลานชายมีอาการป่วยเป็นโรคลมชัก และออกมาตกปลา เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันนี้ ซึ่งตนเอะใจว่าหลานชายหายไปไหนนาน จึงออกตามหาที่บ่อตกปลาแต่ไม่พบตัว พบเพียงเบ็ดตกปลา รองเท้า ถุงใส่ปลา อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งตนคิดว่าต้องเกิดอะไรกับหลานชายแน่ๆ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยฯ ช่วยกันทำการค้นหา และพบร่างของหลานชายเสียชีวิตในบ่อน้ำ ซึ่งสาเหตุหลานชายเสียชีวิตน่าจะเกิดอาการกำเริบจากเป็นลมชักขณะนั่งตกปลาและตกไปในบ่อน้ำ จนชีวิตดังกล่าว


     ซึ่งอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าตำรวจ จะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง  ก่อนมอบหมายให้หน่วยกู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิต และติดต่อญาติมารับไปศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

เรือตกปลาผงะ พบศพชายนิรนามลอยกลางอ่าวสัตหีบ คาดเป็นชาวต่างชาติ 

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 30 ก.ย.66 ร.ต.ท.พงศ์พิสุทธิ์ มหาเศรษฐวรกุล รอง สว.สอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเรือตกปลาในพื้นที่สัตหีบว่า พบศพลอยน้ำเสียชีวิตพื้นที่อ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ห่างจากชายฝั่ง ประมาณ 7 ไมล์ทะเล ทางทิศใต้ของเกาะยอ จึงขอสนับสนุนเรือ หน่วยกู้ภัยทางทะเล มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ออกไปตรวจสอบ


    

โดยที่เกิดเหตุกลางทะเล มีเรือตกปลาของชาวบ้าน ได้จอดลอยลำเฝ้าศพไว้ เป็นศพชายรูปร่างใหญ่ คล้ายชาวต่างชาติ ลอยคว่ำหน้า ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ สวมเสื้อ คอปก สีดำ-เทา มีอักษรภาษาอังกฤษ A@P บนหน้าอกซ้าย และข้อมือซ้ายพบเชือกสีส้มคล้ายเครื่องประดับ แต่ไม่พบเอกสารประจำตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 3-6 วัน จึงได้เก็บกู้ร่างเข้ามาถึงฝั่งในเวลาประมาณ 18.30 น.ของวันเดียวกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมตรวจสอบร่างผู้ตายอย่างละเอียด


    จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทราบว่า ช่วงเย็นได้รับแจ้งจากเรือตกปลาในพื้นที่ สังเกตเห็นวัตถุลอยอยู่กลางทะเล เมื่อเข้าไปพบเป็นศพมนุษย์ จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
   

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตาย พร้อมประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียงว่า มีการแจ้งความบุคคลสูญหายหรือไม่ต่อไป
 

นนทบุรี หนุ่มวัย 40 ปี ซดเหล้าขาวก่อนลงงมหอยขมในคลอง จมน้ำดับ คาดเป็นตะคริว

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 25 25 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้จมน้ำเสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดบริเวณ ภายในคลองวาเดียว ถนน เลียบคลองถนน หมู่ 9 ตำบล บางแม่นางอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยแค่เธอสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เจ้าหน้าที่ ร่วมกตัญญู และหน่วยกู้ชีพ อบตบ้านใหม่รีบรุดตรวจสอบ
   

ที่เกิดเหตุ บริเวณริมคลองเจ้าหน้าที่กู้ชีพ บางใหญ่ ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนาย YOEUT YETH อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชา สภาพศพ นอนหงาย ไม่สวมเสื้อสวมกางเกงขาสั้น ไม่พบบาดแผลในตัว ภายในถังน้ำพบขวดเหล้าขาวและหอยขม
   

จากการสอบถามนายสุพจน์ สวดมาลัย เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางแม่นาง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งมีคนจมน้ำจึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจึงมาถึง แต่มีเจ้าหน้าที่ที่ถึงก่อนหน้าตนนำตัวคนที่จมน้ำขึ้นมาแล้ว และมีพยาบาลที่บ้านอยู่ใกล้ที่ึเกิดเหตุมาช่วยทำ CPR ให้ คุยกับเพื่อนร่วมงานผู้ตายที่เป็นต่างด้าวแจ้งว่าเพื่อนกับผู้ตายมาหาปลาด้วยกัน ส่วนเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เขาได้ปล่อยให้คนจมน้ำอยู่ตรงนี้คนเดียว ส่วนเพื่อนเขาออกไปหาปลาด้านใน พอกลับมาหาผู้ตายไม่เจอจึงลองงมหาดู พอเจอจึงนำขึ้นมาและเรียกคนมาช่วย ซึ่งไม่รู้ว่าผู้ตายจมน้ำไปตอนไหน

 

 เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบ พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ คาดผู้เสียชีวิต อาจเกิดเป็นตะคริวประกอบกับดื่มเหล้าเมาทำให้จมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป

ระยอง เฒ่าหาหอยในสระน้ำ เป็นลมวูบจมน้ำดับอนาถ

วันนี้ 22 ก.ย.66 เวลา 09.30 น. ร.ต.อ สันติ ปักการะโถ รอง สว (สอบสวน) สภ.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง ได้รับแจ้ง จากกู้ภัยพุทธศาสตร์ ว่ามีบุคคนเป็นชายจมน้ำเสียชีวิต อยู่บริเวณริมสระหลวง ม.2 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง

หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบชายอยู่ในลักษณะเปือยกายใส่กางในตัวเดียวสีดำ มือขวาถือตาข่ายใส่หอย นอนหงานเสียชีวิตอยู่ริมสระน้ำ ห่างออกมา 5 เมตร พบรถจักรยานสีชมพูจอดอยู่ในตะกร้าหน้าพบขวดเหล้ายาดองคาอยู่ในขวด ทราบชื่อภายหลังชื่อ นาย สมร อายุ 57 ปี เป็นคนชาว จ.สุรินทร์ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 24 ช.ม.

โดยนายสมร ได้หายตัวออกมาจากบ้านนายจ้าง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.66 เวลา 08.30 น. โดยไม่ได้บอกกับนายจ้างว่าไปไหน จนมาทราบข่าวอีกวันจาก นาย ปูน เทียนสะอาด อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่กำลังไปหาเห็ด แจ้งว่าตนกำลังหาเห็ด เห็นรถจักรยานจอดอยู่ริมสระน้ำ จึงเดินไปดูที่สระน้ำจึงพบศพนาย สมร นอนเสียชีวิตอยู่ริมสระน้ำ จึงรีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

จากการสอบถามนายจ้าง ชื่อ นาย บุญเลิศ อายุ 59 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายสมรฯ ออกจากบ้านมาตั้งแต่ 08.30น. ของเมื่อวาน แต่ก็ไม่กลับบ้าน ตนก็กังวล แต่นาย สมรฯ ไม่กลับแบบนี้บ่อยครั้ง บางทีกลับมืดก็มี บางทีก็ไปนอนบ้านเพื่อนคนงานด้วยกัน เมื่อวานตนก็ได้สอบถามคนงาน แต่คนงานบอกไม่ได้ไปที่นั่น ปกติเวลาทำงานนาย สมรฯจะไม่ได้ดื่มเหล้า เพราะตนบังคับไม่ให้ดื่ม จะดื่มก็ตอนเลิกงานเท่านั้น ปกติไม่ค่อยมาหอย แต่เขารู้ที่เพราะก่อนหน้านี้เคยมาหาไปกิน

ทางด้าน ร.ต.อ สันติ ปักการะโถ รอง สว (สอบสวน) สภ.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง หลังจากตรวจสอบ ทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้ให้ อาสากู้ภัยฯนำร่างผู้เสียชีวิต ส่ง รพ.แกลง เพื่อชันสูตรศพ และให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตมาบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาต่อไป

เด็ก ม.1 วัดราชโอรส กระโดดเล่นน้ำในคลองจมหายต่อหน้าเพื่อน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 พ.ต.ต.สิริพงศ์ เพ็ชร์ชระ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตในคลองหน้าวัดราชโอรสาราม ถนน เอกชัย แขวง บางค้อ เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

ที่เกิดเหตุเป็นคลองหน้าวัด ช่วงใต้สะพานทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-สมุทรสาคร พบชาวบ้านจับกลุ่มมุงดูเหตุการณ์ทั้ง 2 ฟากฝั่งตลอดคุ้งน้ำ นักประดาน้ำจึงใช้เวลางมหาประมาณ 50 นาที ก็พบศพ ด.ช.พงศกร หรือ "โก้" อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม. 1 โรงเรียนวัดราชโอรส สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำ

 จากการสอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียน อายุ 13-14 ปี จำนวน 3 คน พากันเล่นกระโดดน้ำจากสะพานทางรถไฟลงสู่คลอง กันอย่างสนุกสนาน สักพักมีเด็กคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งดูเหมือนว่ายน้ำไม่แข็ง เกิดจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา

จากการสอบถามจาก ด.ช.มิก ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ตอนเเรกผู้ตายอยู่ฝั่งนู้นแล้วมันก็ลงมาตามเพื่อน โดยมุดตอหม้อมาฝั่งนี้แล้วมันก็ขึ้นไปแล้วก็โดดแล้ว คนเสื้อขาวก็ดึงไว้ ว่ายน้ำไม่แข็งดึงไม่ได้ก็จะไปด้วยกันแล้วก็เลยปล่อยแล้วก็ลอยไปจนถึงบ้านสีแดงแล้วมันก็จมหายไปบริเวณเกือบกลางคลอง

ด้าน ด.ช.ภคิน  อายุ 14 ปี บอกว่า ตอนแรกพวกตนเล่นกันแค่สองคนเเล้วพวกตนก็ไหลลงมาเรื่อยๆจนถึงตอหม้อตรงนี้แล้วอยู่ๆเขาก็ถอดเสื้อลงมาตนก็ถามว่าว่ายน้ำเป็นหรือเปล่าเขาก็บอกว่าเป็นตนก็เลยบอกเขาว่าถ้าว่ายน้ำไม่เป็นให้อยู่บนๆนะแล้วเขาก็ปีนขึ้นไปบนตอหม้อแล้วกระโดดลงมาแล้วเขาก็เหมือนตะเกียกตะกายพวกผมก็เลยกระโดดลงไปช่วยแล้วก็จับมือเขาได้นิดเดียวแล้วก็หลุดมือไปแล้วเขาก็ลอยตะเกียกตะกายไปแล้วก็จมลงไปตรงกอไผ่

ส่วนทางด้านนางมณี  อายุ 65 ปี ยาย ของผู้ตาย ก็บอกว่า กำลังจะส่งไปอยู่กับพ่อวันเสาร์นี้ แต่ก็ไม่ได้ไป ต้องสอบพรุ่งนี้อีกวันแล้วก็ปิดเทอมแล้ว ก็เคยบอกแล้วถ้าเรียนไม่ได้ อยู่ไม่ได้ก็จะส่งไปอยู่กับพ่อ ไปเรียนที่สุพรรณ ชอบไปกับเพื่อน อยู่บ้านก็เหมือนกับเด็กธรรมดาทั่วไปแล้วก็ว่ายน้ำไม่เป็น

ส่วนทางด้าน นาย ชูเกียรติ คงศิริ อายุ 52 ปี น้าของผู้ตาย บอกว่า น้องเรียนอยู่ ม.1 วัดราชโอรส  พรุ่งนี้จะสอบแล้ววันนี้โรงเรียนให้หยุดอ่านหนังสือ ขอตังแม่มา 20 บาท นึกว่าจะไปเล่นสระว่ายน้ำที่วัดราชโอรส แต่ไม่คิดว่าจะมาเล่นตรงนี้ น้องว่ายน้ำไม่เป็นมากับเพื่อน ตอนเเรกก็ช่วยทำงานที่บ้านอยู่แล้วก็ขอตังแม่ 20 บาท แล้วก็ออกมา

ส่วนทางแม่ ชื่อนางวรรณา อายุ 52 ปี บอกว่า ตอนแรกก็อยู่บ้านนี่แหละ มาขอตัง 20 บาท บอกออกไปข้างนอกแปปเดียว สักพักครูที่โรงเรียนก็โทรมาบอกว่า มีเด็กจมน้ำ น้องโก้อยู่บ้านมั้ย ตนก็บอกว่า โก้เพิ่งออกไปตะกี้เอง ขอตังไป 20 บาท ปกติโก้เป็นเด็กเรียนดี เมื่อเช้าก็บอกว่าตั้งใจสอบนะ ถ้าไม่ไหวจะส่งไปอยู่กับพ่อนะ เค้าก็บอก ไหวๆ 

เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงประสานผู้ปกครองรุดมาตรวจสอบสภาพศพ ก่อนมอบร่างให้แพทย์นิติเวชทำการผ่าชันสูตร  และรอญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
 

อุดรธานี สลดเด็ก 7 คนชวนเล่นน้ำไหลเชี่ยว ถูกพัดจมดับ 1 ใต้จอกหูหนูยักษ์ต่อหน้าต่อตาเพื่อน

ช่วงนี้ฝนตกหนัก น้ำตามห้วยหนองคลองบึงไหลเชี่ยว ผุ้ปกครองควรเตือนลูกหลานอย่าไปเล่นน้ำเด็ดขาด ที่จ.อุดรธานี เกิดเหตุสลด เด็กๆ 7 คนพากันไปเล่นน้ำในคลองสู้ฝน หนึ่งใน 7 เกิดเคราะห์ร้ายถูกกระแสน้ำพัดร่างเข้าจอกหูหนูยักษ์จมดับ ญาติร่ำไห้เรียกวิญญาณหลานกลับบ้าน

วันนี้ (17 ก.ย.66) เวลา 16.00 น.มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบินที่ 23 จ.อุดรธานี ว่า ให้ช่วยส่งนักประดาน้ำมาค้นหาเด็กจมน้ำที่บริเวณคลองระบายน้ำอ่านบ้านจั่น ถนนรอบเมืองอุดรธานี หลังรับแจ้งมูลนิธิฯ ได้ส่งทีมมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เมื่อมาถึงพบกำลังพลทหารกำลังช่วยกันค้นหาร่างของเด็กแต่ค้นหาด้วยความยากลำบาก โดยได้ช่วยกันเอาจอกหูหนูยักษ์ออกจากทางน้ำซึ่งคาดว่าร่างของเด็กจะจมอยู่ แต่เจ้าหน้าที่เอาจอกหูหนูยักษ์เอาได้อย่างลำบากอย่างมาก เพราะมีจำนวนมากและกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก

เรืออากาศโทโกวิทย์  เจียรวาปี แผนกส่งกำลังบำรุง กองบิน 23 เล่าว่า ขณะกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกำลัง ช่วยกันกำจัดวัชพืชที่สันเขื่อนอ่างเก็บน้ำบ้านจั่นอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ  กระทั่งเวลา 16.00 น. หมดเวลาทำงาน จากนั้นมีกลุ่มเด็กปั่นจักรยานมา 2-3  คน หน้าตื่นมาบอกว่า มีเพื่อนจมน้ำในคลอง จึงรีบนำกำลังทหารมาต้องการช่วยค้นหา แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากน้ำในคลองกระแสน้ำเชี่ยวมาก เพราะมีฝนตกหนักมาหลายวัน ซึ่งทางอ่างเก็บน้ำก็มีการปล่อยออกมาและมีปริมาณที่สูงในช่วงฝนตกหนักนี้

น้องคิว อายุ 12 ปี บอกว่า พวกตนเพื่อนกันรวม 7 คนได้ชักชวนกันมาเล่นน้ำที่ประตูระบายน้ำอ่างเก็บน้ำบ้านจั่น ตอนแรกเล่นกันที่ประตูน้ำ ต่อมามีรุ่นน้องอีกคนชวนให้มาเล่นที่สะพานโดยปล่อยตัวให้ไหลตามกระแสน้ำจังหวะนั้นเองมีเพื่อน 2 คนถูกน้ำเชี่ยวพัดไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนอีกคนช่วยตัวเองมาถึงฝั่งได้ แต่โฟล์คถูกน้ำพัดไปติดกับจอกหูหนูยักษ์และเห็นเพื่อนจมต่อหน้าต่อตา โฟล์คร้องให้คนช่วย แต่พวกผมไม่กล้าลง จึงรีบปั่นจักรยานไปบอกทหารให้ช่วย

ในต่อมาปู่กับย่าของผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากจ.หนองบัวลำภู  พากันร้องไห้แทบขาดใจ เมื่อรู้ว่าหลานจมน้ำหาศพยังไม่เจอ จึงได้พากันจุดธูปบอกเจ้าแม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้หาศพเจอ  จนในที่สุดทีมนักประดาน้ำ ได้ค้นหากว่า 3 ชั่วโมงกว่า ก็ได้พบร่างของน้องจมอยู่ใต้จอกหูหนูยักษ์ จึงนำร่างของน้องขึ้นมาพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรมาตรวจสอบ ท่ามกลางความเสียใจของญาติและชาวบ้านที่ต่างมามุงดู โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อและแม่ที่อยู่ประเทศนิวซีแลนด์หลังทราบข่าวลูกชายจมน้ำเสียชีวิตร้องไห้แทบขาดใจ โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ ด.ช.พิมาน หรือน้องโฟล์ค อายุ 13 ปี นร.ชั้นม.1  สภาพสวมกางเกงชั้นในตัวเดียว จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าขาดอาการจากการจมน้ำใต้จอกหูหนูยักษ์ เป็นเวลานาน โดยญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ขณะเดียวกันปู่และย่าเมื่อเห็นศพหลานชาย ร้องไห้แทบขาดใจวิ่งเข้าดูศพของหลานทันทีและยื่นโทรศัพท์ซึ่งปลายทางต่อสายถึงพ่อและของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ต่างประเทศ โดยย่าได้บอกกับหลานว่าคุยกับพ่อสิ นายสุรชาติ อายุ 61 ปี ปู่ บอกว่า ลูกชายโทรมาหาบอกว่าให้รีบมาดูหลาน ตนก็รีบขับรถจาก อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภูมาดูทันที ไม่คิดว่าหลานมาจะจมน้ำเสียชีวิต เสียใจอย่างมาก ก็ขอเตือนผุ้ปกครองดูแลบุตรหลานช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำในคลองไหลหลาก อย่าให้ลูกหลานไปเล่นน้ำโดยลำพังไม่งั้นอาจจะจมน้ำเสียชีวิตได้