อุดรฯชื่นชมแม่จ้อน เจอคนลื่นคันนาจมน้ำ ดึงร่างขึ้นฝั่ง ช่วยปั้มหัวใจรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์

ปรบมือทั้งอำเภอ ที่ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ชื่นชมแม่จ้อนเป็นฮีโร่ ไปยกยอเจอคนถือกระติบข้าวข้ามลำห้วยลื่นคันนาจมน้ำ  ดึงร่างขึ้นฝั่งปั๊มหัวใจรอดตายอย่างราวปาฏิหาริย์

วันนี้ (4 ก.ย.66) ตร.สภ.ไชยวาน รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำที่บริเวณลำห้วยบ้านหนองเรือ หมู่ 9 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าคนจมน้ำมีพลเมืองช่วยขึ้นมาได้แล้ว และนำส่งรพ.ไชยวานตอนนี้อาการปลอดภัยดี ขณะที่เรื่องนี้มีเรื่องราวดีๆ เมื่อมีพลเมืองดีช่วยคนจมน้ำรอดตายราวปาฏิหาริย์

แม่จ้อน หรือนางวรรณการณ์ เรืองศรี อายุ 51 ปี ชาวบ้านหนองเรือ เล่าเหตุการณ์อย่างระทึกให้ฟังว่า สายวันนี้ตนเองกำลังยกยอหาปลาในลำห้วยอยู่เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักทั้งคืนทำให้น้ำหลาก ขณะที่ตนเองยกยออยู่นั้น นางดารุณี ซึ่งเป็นหลานเดินถือกระติบข้าวจะไปกินข้าวกับสามีที่ฝั่งอีกของลำห้วย พอหลานเดินสะพานไปแล้วจะเดินลุยน้ำข้ามลำห้วยไปหาสามี แต่ปรากฎว่าหลานลื่นคันนาจมน้ำ แต่ตนเองไม่ได้สังเกต ผ่านไปสัก 20 นาทีตนจึงร้องถามหลานถึงกระท่อมหรือยัง แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงทิ้งยอเดินไปดูหลาน ตกใจแทบช็อคเจอร่างหลานนอนหงายลอยอยู่กลางน้ำ รีบร้องตะโกนบอกสามีหลาน จึงพากันกระโดดลงไปอุ้มร่างขึ้นมาจากน้ำ

ตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่คิดได้ว่าหากเจอคนจมน้ำให้ปั๊มหัวใจ ตนเองจึงกัดฟันตัดสินใจปั๊มหัวใจดู ปรากฎว่าน้ำทะลักออกจากปากหลานทันทีและเห็นตัวอ่อน มีไอออกมาและหายใจหลายครั้ง คิดว่าคงรอดแล้ว รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ใต้รถจยย.โทรหากู้ชีพ 1669 ทันที ดีใจที่ช่วยเหลือหลานสาวรอดตายมาได้

ขณะที่ชาวอ.ไชยวานทั้งอำเภอปรบมือชื่นชมแม่จ้อนที่ช่วยชีวิตคนจมน้ำรอดตายได้ราวปาฏิหาริย์

หนุ่มอุดรฯฮีโร่ ช่วยเด็กจมน้ำรอด 1 ดับ 1 แม่ร้องไห้แทบขาดใจ

เตือนเป็นอุทาหรณ์ วันหยุดอย่าปล่อยให้เด็กๆ ไปเล่นน้ำตามห้วยหนองคลองบึงตามลำพัง ที่จ.อุดรธานี เกิดเหตุสลด แม่ร้องไห้ใจแทบขาด ลูกชายวัยแค่ 7 ขวบ จมน้ำดับหลังไปเล่นน้ำกับเพื่อน หนุ่มฮีโร่ช่วยได้อีก 1  เผยเด็กๆ ชวนกันไปเล่นน้ำในวันหยุดไกลหูไกลตาพ่อแม่ ตาเล่าหลานคนตายเพิ่งออกเลขเด็ดไปเลข 19 แท้ๆ แต่ไม่ได้ซื้อ เสียใจหลานมาจากไปก่อนวัยอันควร

วันนี้ (3 ก.ย.66) เวลา 16.00 น.ร.ต.อ ประวิทย์ อิ่มใจ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยหลวง จ.อุดรธานี รับแจ้งมีเด็กจมน้ำหลายคน มีทั้งเสียชีวิตและรอดชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณฝายน้ำล้น บ้านจำปา ม.8 ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี หลังรับแจ้งได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลอุดรธานีและกู้ภัยสว่างเมธาธรรมฯ รีบไปที่เกิดเหตุทันที พบชาวบ้านจำนวนมากมามุงดูศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะหัวอกคนเป็นแม่เห็นลูกชายจมน้ำตายร้องไห้แทบขาดใจ ญาติๆ ต้องคอยปลอบใจและประคองเอาไว้ สำหรับเด็กที่เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.กฤษณะ หรือน้องธันวา อายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้นป.1 ส่วนเด็กที่รอดชีวิตคือ ด.ช.ธนดล หรือน้องอาร์ม อายุ 5 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล ถูกนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนหน้าตำรวจไปถึง อาการตอนนี้ปลอดภัยแล้ว

แม้จะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตในครั้งนี้ 1 ราย แต่ก็มีเด็กรอด และขอชื่นชมเพราะมีหนุ่มฮีโร่กระโดดลงไปช่วยเอาไว้ได้และปั๊มหัวใจชีพจรกลับคืนมา ทราบชื่อหนุ่มฮีโร่คนนี้คือ นายวิทยา กล้าทางถูก หรือ เปี๊ยก อายุ 34 ปี เป็นช่างซ่อมรถยนต์ บอกว่า ขณะที่ตนเองกำลังตกปลาอยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ เห็นเด็กมาเล่นน้ำประมาณ 7-8 คนจากนั้นก็มีเด็กหลายคนกลับก่อน และสังเกตเห็นเด็ก 2 คนเล่นน้ำอยู่ไม่นานไม่ได้ยินเสียง จึงรีบเดินมาดู เห็นเด็กในน้ำ ผมก็รีบกระโดดลงไปในน้ำทันที เอาขึ้นมาได้ 2 คน ปั๊มหัวใจช่วยได้คนหนึ่ง แต่เด็กอีกคนเสียชีวิตแล้ว เสียใจที่ช่วยน้องอีกคนไม่ทัน

นายแดง อายุ 52 ปีตาของเด็กที่เสียชีวิต บอกว่า เสียใจมากที่หลานชายมาเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร ไม่รู้ว่าหลานจะมาเล่นน้ำ ถ้ารู้ตามหลานมาแล้ว แต่หลานคงหมดเวรหมดกรรม ก่อนวันหวยออกวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาหลานชายคนนี้บอกหวย 19 91 แต่ตนเองไม่ได้ซื้อ มาวันนี้หลานมาเล่นน้ำเสียชีวิต เสียใจอย่างมากเพราะเขายังเด็กอยู่

สุพรรณบุรี ลุงวัย 65 ปี รับจ้างงมแห้ว เป็นลมจมน้ำดับอนาถ

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร้อยตำรวจเอกหญิง ศิริกุล ปานเพ็ชร พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่ ริมถนนเลี่ยงเมือง 357 เลี่ยงเมือง-วังยาง หมู่ 1 ตำบลวังยางอำเภอศรีประจันต์ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุอยู่กลางนาแห้วพบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำที่ข้างศพมีสวิงตาข่าย ในสวิงมีหัวแห้วอยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาตรวจพิสูจน์ทราบชื่อนายแสง  เป็นชาวเมียนมา อายุ 65 ปี ตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดเสียชีวิตมาแล้วเกือบ 2 ชั่วโมง 


จากการสอบถามป้าลำยอง อายุ 65 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลุงแสง ได้ออกมาจากบ้านประมาณตีห้า เพื่อมารับจ้างงมแห้ว ซึ่งตนและลุงแสง มีอาชีพรับจ้างงมแห้วมานานหลายปีและลุงแสง ก็มางมแห้วให้นายจ้างคนนี้เป็นประจำ ส่วนตนไปรับจ้างงมแห้วอยู่คนละที่ ได้รับแจ้งว่าลุงแสง เสียชีวิตจึงรีบมาดูสอบถามเพื่อคนงานทราบว่าก่อนเสียชีวิตลงแสง ได้พักทานข้าวมื้อเช้าก่อนจากนั้นได้ลงไปงมแห้วต่อและคาดว่าคงเป็นลมหน้ามืด เพราะลุง มีโรคประจำตัวเป็นความดันสูง ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด


ทางด้านนางสมหมาย บุญมา 52 ปี และ น.ส.รัตนา เรืองฤทธิ์ 49 ปี คนงานงมที่มางมด้วยกัน เล่าว่า ลุงแสง เป็นคนดีขยันทำงาน เป็นคนคุยสนุก ที่ผ่านมามักจะงมแห้วใกล้กันตลอดนานหลายปี แล้วแต่ลุง ชอบดื่มสุรา บางครั้งขณะกำลังงมแห้ว ก็ล้มคว่ำหน้าคะมำจมน้ำพวกตนก็ช่วยกันประคองขึ้น แต่วันนี้ไม่ได้อยู่ใกล้กัน เพราะคนงานน้อย จึงแยกกัน จึงไม่เห็นตอนที่ลุง้ลม กระทั่งใกล้เที่ยงเอาแห้วมาตวงไม่เห็นลง จึงตะโกนเรียกก็ไม่ตอบจึงออกเดินหาก็เห็นลุงแสง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมอยู่ในน้ำ รู้สึกเสียใจและใจหายเพราะพวกตนสนิทกับลุงทำงานมาด้วยกันหลายปี ของให้วิญญาณลงไปสู่ภพภูมิที่ดี 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังยืนคุยกันและ น.ส.รัตนา เรืองฤทธิ์ 49 ปี คนงานงมแห้ว ที่สนิทกับลุงแสง กำลังเล่าเรื่องลุงแสง และบอกว่าเสียใจที่ลุงจากไปเร็ว ขอให้ลุง ไปสู่ภพภูมิที่ดี ทันใดนั้นรถจักรยานยนต์ แบบหญิง ทะเบียน ขมธ 241 สุพรรณบุรี ที่ขับมาทำงานและจอดไว้รอมทางจู่ๆก็ล้มลงไปอยู่ชายคันบ่อเกือบจำลงน้ำ ทำให้ทั้งกู้ภัยและเจ้าของรถจักรยานยนต์ พากันขนลุกเพราะเชื่อว่าวิญญาณลุงแสง  คงรับรู้ถึงความห่วงใยของ น.ส.รัตนา  หรืออาจจะให้โชคก่อนจากก็ได้

ไต๋ ให้ลูกน้องขับเรือเข้าฝั่งแทน หลังมีอาการเหนื่อยล้า ขอไปนอนพัก สุดท้ายตกน้ำ ลูกเรือรู้ตอนเข้าฝั่ง ก่อนพบเป็นศพลอยน้ำเช้าวันนี้

ไต๋เรือให้ลูกเรือ ขับเรือเข้าฝั่งแทน หลังมีอาการเหนื่อยล้าจากวางลอบดักปู ขอไปนอนพัก สุดท้ายไต๋เรือตกน้ำ ลูกเรือรู้เรื่องอีกทีตอนเรือเข้าฝั่ง ก่อนพบเป็นศพลอยน้ำเช้าวันนี้

เวลา 9.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2566 ร.ต.อ.สิทธิชัย สายศร ร้อยเวรสภ.อ่าวช่อ  ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลตราดและกูัภัยจังหวัดตราด ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากสาเหตุตกเรือประมง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ที่ปลายสะพานแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด

และเช้าวันนี้กู้ภัยและชาวประมงพบศพนายนายธนโชติ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด ไต๋เรือประมง ที่ตกเรือห่างจากปลายสะพานแหลมศอกประมาณ 1 กิโลเมตร ในสภาพศพลอยน้ำ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสีดำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพนายธนโชติ มายังสะพานแหลมศอกเพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพเบื้องต้น ซึ่งเบื้องต้นพบว่านายธนโชติ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายและเสียชีวิตจากการจมน้ำ

นายซึม แซม อายุ 34 ปี  ลูกเรือประมงที่ไปกับนายธนโชติเพียง 2 คน ให้การกับตำรวจว่า ตนเองและนายธนโชติ ทำงานออกวางลอบปูมา 4-5 ปี แล้ว และคืนวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 02.00 น. นายธนโชติและตนเองได้ออกจากบ้านแหลมสนไปวางอวนดักปู ซึ่งปกติจะไปกันทั้งหมด 3 คน แต่ครั้งนี้อีกคนไม่ได้ไป เมื่อออกไปวางลอบปูเสร็จแล้ว ขากลับกำลังเข้าฝั่ง นายธนโชติให้ตนเองช่วยคุมเรือแทน เพราะบอกว่า รู้สึกเหนื่อยอยากพัก เพราะนายธนโชติมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบด้วย ซึ่งระหว่างนั้นสังเกตเห็นนายธนโชติหายใจไม่ปกติ แต่ไม่คิดอะไร ตนเองก็ขับเรือตามปกติกลับเข้าฝั่ง เมื่อกลับเข้าฝั่งปรากฎว่านายธนโชติหายไปจากเรือ จึงเชื่อว่านายธนโชติน่าจะพลาดตกเรือจมน้ำไป ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าจมไปช่วงตอนไหน เพราะไม่ได้ยินเสียงคนตกน้ำ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์เรือเสียงดังมาก ก่อนที่จะแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและกำนันช่วยเหลือติดตามค้นหา

อย่างไรก็ตาม ญาตินายธนโชติ กินรี ไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ ตำรวจจึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป…

พบศพหนุ่มเมียนมา ลอยน้ำอยู่กลางบ่อปลาย่านบางบ่อ 

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2566 ร.ต.อ.ภาราดร เพ็งคต รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งมีผู้พบศพลอยอยู่ภายในบ่อปลา ข้างแคมป์พักคนงานแห่งหนึ่ง ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

        ในที่เกิดเหตุพบศพชายคว่ำหน้าลอยอยู่ภายในบ่อปลา เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าฝั่ง จากการตรวจสอบ ทราบชื่อ MR.ZAW LWIN อายุ 37 ปี ชาวเมียนมา มีแผลแตกที่หลังศีรษะ แผลฉีกที่คาง และปากแตก นอกจากนี้ยังพบตาข่ายดักปลาซึ่งมีปลาติดอยู่ คาดว่าเป็นของผู้ตาย ขณะที่ทางครอบครัวของผู้ตายได้ออกตามหาตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา จนมาทราบว่ากลายเป็นศพในบ่อปลา จึงได้เดินทางมาดูศพต่างพากันกอดคอร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ก่อนส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ ต่อไป 

        จากการสอบถาม นาย ชัย (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลแคมป์พักคนงานใกล้เคียงที่เกิดเหตุบอกว่า  ช่วงต่ำที่ผ่านมามีคนงานมาอาบน้ำอยู่หลังบ้าน แล้วเห็นว่าเหมือนมีคนมาลงบ่อปลา จึงออกมาดูในตอนนั้น แต่ไม่พบ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งวันนี้เกือบเที่ยงมีหัวหน้าคนงานแคมป์คนงานฝั่งตรงข้าม มาแจ้งว่าคนงานหายตัวไปขอดูในพื้นที่ดังกล่าวหน่อย ตนเองก็พาเดินดูจนไปพบว่ามีศพลอยอยู่กลางน้ำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ส่วนบ่อปลาดังกล่าวเจ้าของไม่ได้อยู่ดูแลก็ได้ฝากตนเองให้ช่วยดูแลไว้ เนื่องจากมักมีคนงานมาลักจับปลาบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาตกกลางคืนก็จะมักเจอคนงานแอบมาขโมยปลาพอเจอตนเองก็จะเปิดไฟไล่แต่ก็ไม่เคยจับตัวได้สักที จนกระทั่งมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบ

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องในแคมป์คนงานทั้งสองฝั่งไปสอบปากคำ และเก็บก้อนเหล็กครึ่งวงกลมที่ต้องสงสัยและหล่นใกล้เคียงที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ว่าถูกของแข็งชนิดใดตีทำร้ายร่างกายจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งจะต้องรอผลชันสูตรศพอย่างละเอียดจากนิติเวชรพ.รามาอีกครั้ง

สลด!ลูกเรือเขมร ลงดำน้ำตรวจใต้ท้องเรือ หน้ากากอ๊อกซิเจนหลุด ดับอนาถ

สลด!ลูกเรือเขมร สวมหน้ากากอ๊อกซิเจนลงดำน้ำตรวจใต้ท้องเรือ สุดท้ายหน้ากากหลุด แถมถูกเชือกพันตัว ดิ้นทุรนทุรายก่อนหมดลม

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.ท.ขัยกฤต เตารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบ ผู้เสียชีวิตจากกลางทะเล นำศพกลับมาขึ้นฝั่งที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง  จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงริมแม่น้ำระยองจุดเทียบเรือประมงพบเรือประมงหิรัญย์เขตต์89 มาจอดเทียบท่า พร้อมทั้งยกศพ เป็นผู้ชาย สัญชาติกัมพูชา ลงมาจากเรือ ตรวจเบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ระยอง

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียชีวิต ชื่อนายเพ็ญ อายุ 24 ปี สัญชาติกัมพูชา ทำงานเป็นลูกเรือประมง

จากการสอบสวนลูกเรือประมงลำเดียวกัน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อตอนเย็น วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิต ได้สวมหน้ากากอ็อกซิเจนลงไปดำน้ำ เพื่อตรวจดูใต้ท้องเรือ ปรากฎว่าหายไปร่วม20นาที จึงรีบดำลงไปช่วยเหลือ ปรากฎว่าเสียชีวิตแล้ว หน้ากากอ็อกซิเจนหลุด แล้วถูกเชือกพันตัวจึงไม่สามารถว่ายขึ้นมาได้ จนทำให้หมดลมหายใจเสียชีวิต 


ด้านเจ้าของเรือ ได้ให้การว่า ตนเองได้รับประสานจากไต๋เรือ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพยาน และ ศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตเพราะจมน้ำ จากการดำน้ำลงไปใต้ท้องเรือ แต่ก็ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง จึงจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ชาวประมงพบศพชายลอยอืดเกยหาดเกาะจันทร์ ข้างเกาะเสม็ด คาดเป็นลูกเรือประมงกัมพูชาที่ตกเรือหายไป

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18 ส.ค. ร.ต.อ.ขจรศิลป์. โสมาบุตร รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่า พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ที่บริเวณริมหาดชายหาดเกาะจันทร์ เกาะบริวารเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ห่าง จากฝั่งเพประมาณ 15 กิโลเมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลจุดบ้านเพ นำเรือออกไปนำศพมายังชายฝั่งบ้าน เพื่อตรวจสอบต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพ มายังท่าเรือเพ โดยมีประชาชนมายืนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก สภาพศพเป็นชายลักษณะผิวขาว บริเวณ ศรีษะเหลือแต่กระโหลกเนื้อหายหมด สวมกางเกงขาสั้นแบบบ็อกเซอร์ สีดำยี่ห้อ BOY BOXER ที่ข้อมือด้านขวามีด้ายสายสินสีขาวผูกอยู่ คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 15-30 วัน 

จากการตรวจสอบคาดว่าอาจเป็นรายเดียวกับที่มีการแจ้งความคนตกเรือหายไปเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงประสานให้ น.ส.อร อายุ 47 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้แจ้ง ซึ่งเป็นภรรยาของผู้สูญหาย เข้ามาตรวจสอบ หลังตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะสภาพศพเนืัอบนใบหน้าและศีรษะได้หลุดหายไป จึงไม่สามารถยืนยันได้ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าผู้เสียชีวิต อาจเป็นคนเดียวกับที่หายไป แต่ถึงอย่างไรต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากญาติของผู้สูญหาย ก่อน จึงจะสรุปต่อไป

ช่างคอนโดฯ จมสระน้ำสาหัส ลูกบ้านเผยขนลุก คนเจ็บเคยช่วยต่างชาติจมน้ำเสียชีวิตจุดเดียวกัน

เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีบุคคลจมน้ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่สระว่ายน้ำ ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งกลางเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

     ที่เกิดเหตุพบว่าพลเมืองดีช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายทราบชื่อคือนายอุทิศ อายุ 40-45 ปี เป็นช่างของคอนโดมิเนียม ขึ้นมาจากสระแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯกำลังช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนส่งเสียงร้องห่มร้องไห้ระงมไปทั่วทั้งสระ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก ทำได้เพียงภาวนาให้ปลอดภัยเท่านั้น

    โดยกลุ่มเพื่อนยังเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนหน้านี้นั่งดื่มฉลองในงานวันเกิดด้วยกัน นายอุทิศ ขอเดินมาเข้าห้องน้ำ ริมสระน้ำ แต่หายไปนานผิดปกติ ประกอบกับมีผู้พักอาศัยบนคอนโดชี้ให้ไปดูที่สระว่ายน้ำ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน จึงรีบพากันมาตามหาเคาะประตูห้องน้ำก็ไม่มีใครเจอ จนต้องพากันตกใจเมื่อพบร่างของเพื่อนรักนอนคว่ำหน้าอยู่ในสระน้ำ จึงตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ขณะที่พลเมืองดีคือนายรุ่งธรรม กระโจนลงน้ำไปช่วยนั้น พยายามดึงร่างนายอุทิศ ขึ้นแต่ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขึ้น กระทั่งมีพนักงานรักษาความปลอดภัยกระโดดตามลงไปช่วยลากขึ้นจากก้นสระได้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

    นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากผู้ที่พักอาศัยในคอนโดฯดังกล่าว ว่าก่อนหน้านี้ นายอุทิศเคยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จมน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำแห่งนี้ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ทันเสียชีวิตในภายหลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกที่จุดที่พบร่างของนายอุทิศนั้น เป็นจุดเดียวกันกับที่ชาวต่างชาติประสบเหตุ สร้างความขนลุกให้กับผู้ที่ได้ยินไปตามๆกัน

ครอบครัวเศร้าจัดงานศพ "น้องพีช" ที่บ้าน ยังไม่พร้อมคุยเรื่องเยียวยา

ครอบครัวเศร้าจัดงานศพ "น้องพีช" ที่บ้านและยังไม่พร้อมคุยเรื่องเยียวยา ย่าเผยหลานชายชอบธรรมะ และมีแววอยากเป็นวิศวกรเหมือนพ่อ

จากกรณีที่ ด ช.ธนพัฒน์ หรือน้องพีช อายุ5 ขวบ ตกลงไปในสระว่ายน้ำของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเขต อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนเสียชีวิต ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 16 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 2/2 บ้านโนนทอง ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของน้องพีช โดยครอบครัวรับศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีพวงหรีดของ ผวจ.ขอนแก่น ,รอง ผวจ.ขอนแก่น นายอำเภอ และของทางโรงเรียนรวมถึงพวงหรีดของญาติพี่น้องตั้งเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก  และชาวบ้านที่มาร่วมงานและให้กำลังใจต่างวิพากวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกืดขึ้นดังกล่าว โดยที่นายอาคม และนางธิติยาพา บิดามารดาของน้องพีช ก็อยู่ในอาการเศร้าเสียใจ  

นายอาคม กล่าวเพียงสั้นๆว่า พ่อกับแม่เสียใจมาก ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับใคร และไม่พร้อมให้ข่าว และตอนเดินทางมาก็ให้น้องที่ทำงานช่วยขับรถมาส่งเพราะไม่สามารถทำใจขับรถกลับเองได้

ขณะทึ่ นางลำดวน อายุ 70 ปี ย่าของน้องพีช  กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ญาติพี่น้องก็ไปรับศพน้องพีช ออกจากรพ.บ้านไผ่ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก และแจ้งให้พ่อกับแม่น้องพีชทราบเรื่อง   เมื่อทราบเรื่องก็เดินทางกลับมาที่บ้านทันที ทุกคนเสียใจกับการเสียชีวิตของน้องพีช และยังไม่มีการคุยกันในครอบครัว เพราะทุกคนยังทำใจไม่ได้ ในส่วนของทางโรงเรียนก็เดินทางมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพโดยบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง และครอบครัวจะมีการพูดคุยกันในวันนี้ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าจะเอาอย่างไร

"กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานนั้น จริงอยู่ว่าหลานเป็นเด็ก 5 ขวบ  แต่หลานเป็นคนที่รู้เรื่อง ชอบช่วยงานย่าทุกอย่าง ทุกคืนก่อนนอน จะสวดมนต์ไหว้พระกับย่าทุกคน และเป็นเด็กชอบธรรมมะ ไม่เคยฉีกหรือทำลายหนังสือธรรมมะ และชอบไปโรงเรียน ทุกๆเช้าจะตื่นมาอาบน้ำ กินข้าว เตรียมพร้อมขึ้นรถไปโรงเรียน ส่วนความฝันของหลานว่าโตขึ้นจะเป็นอะไรนั้น หลานไม่พูด  แต่สังเกตุได้จากที่หลานชอบเอาหนังสือของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มาดูอยู่เป็นเดือนๆและรักษาไว้ในชั้นเก็บของ  จึงเชื่อว่าหลานชายน่าจะอยากเป็นวิศวกรเหมือนกับพ่อ  เมื่อหลานชายเสียชีวิต จึงเอาหนังสือเล่มดังกล่าว ส่งให้หลานด้วย  โดยจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพ หลานชายในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ที่วัดในหมู่บ้าน นอกจากนี้ในส่วนที่มีข้อมูลของทางโรงเรียนบอกว่าน้องพีช เป็นเด็กพิเศษ ออทิสติกนั้น ส่วนตัวเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันน้องพีชปกติทุกอย่าง"

นครพนม สุดสลด!! เด็กชายลงเล่นฝายน้ำล้น จมดับ 3 ศพ

 นครพนม สุดสลด เด็กชาย 3 คน ชวนกันไปเล่นน้ำกับเพื่อน ตื่นเต้นเล่นสไลเดอร์ฝายน้ำล้น พลาดตกจุดน้ำลึกจมน้ำดับ 3 ศพ เจ้าหน้าที่เตือน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลาน ช่วงน้ำหลาก เสี่ยงอันตราย

            เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.ศิริชัย พรหมอารักษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีเหตุเด็กจมน้ำ บริเวณฝายน้ำล้น บริเวณ อ่างเก็บน้ำห้วยหนองเเซง หมู่ 10 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม จึงปะสานไปยัง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ขามเฒ่า รวมถึงผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ร่วมตรวจสอบค้นหาผู้เสียชีวิต โดยในที่เกิดเหตุเป็นฝายน้ำล้น ที่มีปริมาณน้ำสูง หน้าฝายเป็นลานปูนรับน้ำ และมีจุดน้ำลึกประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันค้นหาศพผู้เสียชีวิต ทราบว่า มีผู้สูญหายรวม 3 ราย จนกระทั่งสามารถค้นหาศพผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ คือ  1. ด.ช.ภูตะวัน อายุ 11 ปี ชาว ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 2. ด.ช.ธนเสฏฐ์  อายุ 12 ปี ชาว ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม และ 3. ด.ช. สิงหา อายุ 12 ปี ชาว ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ตรวจสอบสภาพศพไม่พบบาดแผลตามร่างกาย จึงตรวจสอบชันสูตร ก่อนให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

 

            เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เด็กที่เสียชีวิตทั้ง  3 ราย ได้ชักชวนเพื่อนมาเล่นน้ำ บริเวณฝายน้ำล้น และเห็นลานปูนหน้าฝายน้ำล้น เป็นลักษระคล้ายสไลเดอร์  จึงลงไปเล่นน้ำ และพลัดตกลงหน้าฝาย ที่เป็นน้ำลึก ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ยังไม่ทันลงเล่นน้ำ แต่ไม่สามารถลงช่วยเพื่อนได้ทัน เชื่อว่าเด็กทั้ง 3 ราย ว่ายน้ำไม่เป็น ทำให้จมน้ำเสียชีวิต สร้างความสลดให้กับครอบครัว โดยเฉพาะหัวอกคนเป็นแม่ ถึงขั้นใจสลายรับวันแม่ ต้องสูญเสียลูกชาย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนไปยัง พ่อแม่ ผู้ปกครอง หมั่นตรวจสอบดูแลบุตรหลาน ห้ามลงเล่นน้ำในช่วงน้ำหลาก เนื่องจากในช่วงนี้ ตามแหล่งน้ำต่างๆ น้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำสูง เสี่ยงอันตราย