ประจวบคีรีขันธ์ ยังไร้วี่แวว “น้องโชค” แม้ทีมค้นหาจะขับเรือฝ่าคลื่นทะเลสูง 3 เมตร ค้นหาห่างจากฝั่ง 18 ไมล์ทะเล

ประจวบคีรีขันธ์ ยังไร้วี่แวว “น้องโชค” แม้ทีมค้นหาจะขับเรือฝ่าคลื่นทะเลสูง 3 เมตร ค้นหาห่างจากฝั่ง 18 ไมล์ทะเล ตรวจสอบกรณีรับแจ้งว่า พบร่างผู้เสียชีวิตลอยกลางทะเล


วันที่ 5 ส.ค.2566 เวลา 21.25 น. ทีมค้นหากู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ นำเรือผ่าคลื่นสูงกว่า 3 เมตร กลางทะเลลึกกลับเข้าฝั่งบริเวณ วัดบางไทรย้อย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังนำเรือออกค้นหาร่างผู้เสียชีวิตลอยกลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 18 ไมล์ทะเล หรือ ระยะทางประมาณ 33.336 กิโลเมตร ระยะทางไปกลับประมาณ 70 กิโลเมตร 


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากเรือประมงที่แล่นเรือผ่านพิกัดบริเวณดังกล่าว ว่าพบร่างผู้เสียชีวิตลอยกลางทะเลลึก อาจจะเป็น “น้องโชค” เด็กชาย 9 ขวบ ที่สูญหายบริเวณชายทะเลสวนสน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงพิกัดตามที่ได้รับแจ้ง กลับไม่พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมกำลังแรง คลื่นสูงประมาณ 3 เมตร เมื่อค้นหาและตรวจสอบพื้นที่โดยรอบจนมั่นใจว่าไม่พบแล้ว จึงนำเรือฝ่าคลื่นลมกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย 


ทั้งนี้ทีมกู้ภัยฯ ได้ประชุมสรุปการค้นหาตลอดทั้งวัน ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน กู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน กู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง. 
 

พบกลายเป็นศพ เยาวชนเล่นน้ำทะเลเกาะลันตา ถูกคลื่นซัดจมหาย

กรณี ได้มีเยาวชนชาย จำนวน 6 คน ลงเล่นน้ำทะเล บริเวณชายหาดสวนลุงพร เกาะลันตา ม.2 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ถูกคลื่นซัดจมหายลงไปในทะเล โดย 4 คน สามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งมาได้ สูญหายไป 2 คน ทราบชื่อนายชลิต อายุ 17 ปี และนาย ธนัฒ อายุ 16 ปี  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย และบริษัทดำน้ำ ในเกาะลันตา มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ เข้าช่วยทำการค้นหา โดยมีนายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอเกาลันตา คอยติดตามสถานการณ์การค้นหาอย่างใกล้ชิด

และต่อมาเมื่อเวลา ประมาณ 16.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดทำการค้นหา ได้พบร่างของชลิต อายุ 17 ปี และนายธนัฒ  อายุ 16 ปี นอนจมน้ำเสียชีวิตอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต รพ.เกาะลันตา

นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอเกาะลันตา ได้กล่าวเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเกาะลันตาว่า ในช่วงนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะลันตาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในช่วงนี้คลื่นลมพัดเข้าหาฝั่งค่อนข้างแรง นักท่องเที่ยวไม่ควรลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะเกิดอันตรายขึ้นอีกได้

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เยาวชนที่จมน้ำได้ เดินทางมาเล่นน้ำกับเพื่อนๆ เป็นชาย  รวม จำนวน  6 คน ขณะกำลังเล่นน้ำอยู่ในทะเล มีคลื่นลมแรง ได้พัดร่างทั่ง 6 คน ลอยออกจากชายฝั่ง มีจำนวน 4 คน ช่วยเหลือตัวเองว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งได้ปลอดภัย อีก 2 คน ถูกคลื่นพัดออกห่างจากฝั่งหายไป สุดท้ายจมน้ำเสียชีวิต

 

พังงา สุดเศร้าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ชาวอียิปต์ ลื่นตกน้ำตกสองแพรก ขณะแม่กำลังถ่ายรูปให้ จมน้ำเสียชีวิต

เมื่อเวลาประมาณ 13 .00 น.วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายอุเทน สิริภูวดล  หัวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำตกสองแพรก ต.สองแพรก อ.เมืองพังงา ได้รับแจ้งจากไกด์นำเที่ยวในพื้นที่ว่าเกิดเหตุเด็กสาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลื่นตกลงในน้ำตกสองแพรกและกระแสน้ำได้พัดพาร่างตกลงไปยังน้ำตกชั้นล่างลงไป จึงรีบนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบช่วยเหลือ โดยได้ประสานหน่วยกู้ภัย อบต.ทุ่งคาโงก กู้ภัยเคลื่อนที่เร็วสำนักงานปภ.พังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ทุ่งคาโงก ผู้นำท้องที่และทีมงานพายเรือของทัวร์ล่องแก่งเข้าช่วยเหลือค้นหา ซึ่งการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำแรง และไม่สามารถลงไปตามน้ำได้ เนื่องจากด้านล่างเป็นโขดหิน อยู่เป็นชั้นๆลดระดับลงไปในระยะทางกว่า100 เมตร ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งดักรออยู่ที่ชั้นล่าง เพราะคาดว่าร่างของเด็กน้อยยังติดอยู่ในท่อนไม้ใหญ่ที่เบียดอยู่กับโขดหินขวางกลางลำน้ำ จนทีมค้นหาร่วมกันดึงไม้ที่ขวางอยู่ในน้ำออก ก็พบร่างของเด็กน้อยถูกกระแสน้ำพัดลงมาด้านล่าง และทีมค้นหาที่รออยู่ก็สามารถอุ้มร่างอันไร้วิญญาณของเด็กขึ้นมาได้ ส่งร่างไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพังงาท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของพ่อและแม่ ที่พร่ำโทษตัวเองว่าทำให้ลูกเสียชีวิต
   

นายอุเทน สิริภูวดล กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวหญิงอายุ 6 ขวบ ชาวอียิปต์ มากับพ่อแม่ หลังจากได้ท่องเที่ยวล่องแก่ง นั่งช้าง ตามโปรแกรมทัวร์ของเอกชนแล้ว ก็มาเที่ยวชมน้ำตกสองแพรก โดยมีไกด์นำเที่ยวมาด้วย ขณะผู้เสียชีวิตยืนให้แม่ถ่ายรูปบนสะพานคอนกรีตฉากหลังเป็นน้ำตก ด้านข้างมีราวเหล็ก คาดว่าขณะถอยหลังหามุมถ่ายขาได้พลาดตกน้ำแล้วลื่นไถลลอดใต้แผ่นหินสะพานคอนกรีต ในขณะที่กระแสน้ำแรงได้พัดพาร่างตกลงด้านล่างอีกแอ่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวในกลุ่มที่มาด้วยได้จับแขนน้องไว้ได้แล้ว แต่ได้ลื่นหลุดมือลงไปในแอ่งด้านล่าง มีเศษกิ่งไม้ขวางอยู่กลางน้ำทำให้ร่างเด็กเกี่ยวติดใต้น้ำซึ่งมองจากด้านบนไม่เห็นเนื่องจากน้ำสีฝุ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกระจายค้นหาไปทั่วสายน้ำ ต่อมาได้นำเชือกไปคล้องปลายกิ่งไม้แล้วดึง ร่างเด็กจึงหลุดไหลมาตามน้ำ พบร่างกายของเด็กน้อยมีรอยแผลหนังถลอกบริเวณขาและลำตัว จึงได้อุ้มร่างเด็กขึ้นรถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพังงา  

จากพฤติกรรมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณพลัดตกน้ำลึกประมาณ 1 เมตร พื้นเป็นทราย มีสะพานคอนกรีตที่แข็งแรงและมีราวเหล็กจับเกาะ มีนัก ท่องเที่ยวอยู่เป็นกลุ่ม จึงเป็นเหตุสุดวิสัย จากนี้จะได้กำชับเจ้าหน้าที่และไกด์นำเที่ยวเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะเด็ก คนชรา ผู้พิการฯ เป็นพิเศษ หากมีฝนตกหนักมีปริมาณน้ำเยอะจะปิดเที่ยวชมน้ำตกเพื่อป้องกันอันตราย

โชคร้าย! ลุงกับหลานจากบ้านโป่ง ชวนกันมาตกปลา พลัดตกลงแม่น้ำแม่กลอง พลเมืองดีช่วยหลานไว้ได้ ส่วนลุงจมน้ำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ท.ปริวัติ ขาวจันทร์แย้ม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนจมน้ำเป็นชาย 2 ราย ที่แม่น้ำแม่กลอง บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขาแดง หมู่ 3 ต.พงตึก อ.ท่ามะกา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง

จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำชุดสายธาร ของมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำจุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกา และจุดรอรับเหตุ ต.พงตึก นำเรือท้องแบนและอุปกรณ์การดำน้ำลงงมค้นหาในแม่น้ำ ที่เกิดพบว่าจุดที่ 2 ลุงหลานตกลงไปในแม่น้ำนั้น ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองได้ลดลงทำให้โขดหินโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาคล้ายลักษณะเกาะแก่ง 

 ซึ่งตรงบริเวณแก่งหินพบร่มบังแดดเบ็ดตกปลาและ อุปกรณ์ตกปลา ของ 2 ลุง-หลานนั้นวางอยู่ ส่วนบนฝั่งยังพบรถจักรยารยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ พลเมืองดีที่ตกปลาอยู่บริเวรใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์ ได้ช่วยนำน้องเฟิร์ท(นามสมมุติ)อายุประมาณ 12 ปี ขึ้นมาจากแม่น้ำได้สำเร็จก่อนหน้านี้ 

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวน้องเฟิร์สไปตามญาติที่อยู่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้มาที่จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า คนที่จมน้ำหายไปชื่อนายสุชาติ หรืออึ่ง (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 41 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของน้องเฟิร์ทได้จมน้ำหายไป โดยทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ได้ใช้เรือท้องแบน 1 ลำ นักประดาน้ำกว่า 10 นาย เร่งระดมกำลังกันค้นหาซึ่งคาดว่าร่างของนายสุชาติ อาจจะไปติดอยู่ใต้ร่องน้ำแม่น้ำแม่กลองที่มีความลึกประมาณ 6 เมตร ใกล้กับจุดที่จมหาย

ทางด้านพลเมืองดีที่ช่วยเหลือน้องเฟิร์ท ขึ้นมาได้ บอกว่า ขณะนั้นตนกำลังนั่งตกปลาอยู่ใกล้กับจุดที่ลุงกับหลาน 2 คนนั้นประมาณ 100 เมตร มองเห็นเด็กกำลังไหลมาตามน้ำคล้ายคนกำลังจะจมน้ำ จึงได้ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยจึงสามารถคว้าตัวเด็กขึ้นมาได้ ส่วนนายสุชาติ หรืออึ่ง ลุงของเด็ก ตนมองเห็นว่ากำลังพยายามจะว่ายเข้าฝั่งแต่จู่ๆก็จมหายลงไปในน้ำทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปอีกว่า ขณะเดียวกันทางญาติผู้สูญหายได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับน้องเฟิร์ทด้วยท่าทีตกใจ โดยทางน้องเฟิร์ท บอกว่า ตนกับลุงได้เดินทางมาจากบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เพื่อมาตกปลาบริเวณดังกล่าวนี้ ขณะนั่งรอปลากินเหยื่อ โดยสายเบ็ดของลุงได้ติดกับอะไรบางอย่างในน้ำ ลุงจึงได้ลงไปเพื่อจะปลดสายเบ็ด ซึ่งจุดที่ลุงลงปลดสายเบ็ดตรงนั้นน้ำไม่ลึกเท่าไหร่ สามารถยืนได้ แต่เกิดพลาดลื่นตกลงไปในน้ำ ขณะที่ตนจะเดินไปถามลุงว่าเป็นอะไรหรือไม่ จังหวะที่กำลังจะเดินไปหาลุงตนก็ลื่นแล้วเกิดล่วงลงไปในแม่น้ำเช่นกัน โดยตนก็ว่ายน้ำไม่เป็นก็ปล่อยให้ไหลมากับน้ำเรื่อยๆ เวลานั้นตนก็เริ่มจะหมดแรงกำลังจะจมน้ำ โชคดีมีพลเมืองดีว่ายน้ำมาช่วยไว้ทัน ส่วนลุงก็จมน้ำหายไป


     ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุตรงนี้เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วหลายราย เนื่องจากตรงนี้มักจะมีชาวบ้านนิยมมาตกปลากันเป็นประจำยิ่งในช่วงในวันเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะมาก อีกทั้งบริเวณจุดนี้จะมีร่องน้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับหุบเหวมีความลึกประมาณ 6 เมตร และยังมีน้ำวนอีกด้วย เมื่อใครตกลงไปในแม่น้ำบริเวณจุดดังกล่าวนี้มักจะทำให้เสียชีวิต ทำให้บริเวณแห่งนี้จะเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่อาถรรพณ์ก็ว่าได้


     ต่อมาได้รับแจ้งจากนักประดาน้ำของมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ว่าพบร่างนายสุชาติแล้วใกล้กับจุดที่จมหายไม่กี่เมตร จึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นบนเรือท้องแบนเพื่อนำขึ้นฝั่ง และประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ให้มาทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น บรรดาญาติเห็นร่างนายสุชาติต่างพากันร้องไห้เสียใจเข้ากอดร่างอันไร้วิญญานของนายสุชาติ โดยสภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณศรีษะมีบาดแผลขนาดใหญ่มีเลือดไหลออกมา คาดว่าขณะที่จมน้ำศรีษะน่าจะไปกระแทกกับโขดหินใต้น้ำเข้า จึงทำให้เกิดบาดแผลดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าตำรวจจะได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ราชบุรีเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
        

นครนายกสลด หญิงวัย 42 ออกจากบ้านงมหอย หาย 2 วัน ก่อนพบเป็นศพ แปลกลอยน้ำแต่ไม่ขึ้นอืด

ที่นครนายก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะฯ อ.บ้านนา ได้รับแจ้ง พบศพลอยน้ำอยู่คลองชลพฤกษ์ ถนน นครนายก - รังสิต  อ.บ้านนา จ.นครนายก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รุดเข้าตรวจสอบ บริเวณจุดเกิดเหตุ พบศพลอยอยู่บริเวณกลางคลองชลพฤกษ์ ต่อมาทราบชื่อ น.ส.พงไพร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ 17 ตำบลบ้านธาตุ  อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี  จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบก่อนนำศพขึ้นจากน้ำ เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น ซึ่งสภาพศพนั้นมีลักษณะปกติไม่ขึ้นอืด แต่ศพลอยน้ำ แขนของผู้ตายนั้น อยู่ในลักษณะท่าเกร็ง สาเหตุคาดว่าเป็นตะคริว เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน 


สอบถามผู้พบศพ ได้เล่าว่า ตนเป็นญาติ กับผู้ตาย ซึ่ง น.ส.พงไพร นั้นได้หายตัวไปจากบ้าน ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อ2วันก่อน ซึ่งก่อนออกมาจากบ้านได้บอกว่าจะมาหาปลา งมหอย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ญาติๆจึงได้พยายามออกตามหา ตามคลองต่างๆ ที่คาดว่า น.ส.พงไพร จะไป บ่อยๆ จนเมื่อช่วงสายๆของวันนี้ ได้มาพบรถ จยย. จอดทิ้งอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดพบศพ จึงได้เดินไปหาตามทุ่งนา จนไปพบรองเท้า และอุปกรณ์ หาปลา ของ น.ส.พงไพร อยู่ใกล้ๆกับคลอง เลยมองลงไปหาในคลอง ก็พบศพนั้นลอยน้ำอยู่ จากนั้นจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที  

ซึ่งญาติๆ ได้บอกว่า น.ส.พงไพร นั้นชอบเป็นตะคริวอยู่บ่อยๆ แต่ก็ออกมาหาปลาหาหอยอยู่เป็นประจำ ซึ่งคาดว่าก่อนจะเสียชีวิต น่าจะกำลังมางมหอย แล้วเป็นตะคริว เนื่องจากบริเวณริมน้ำข้างเคียงพบเบ็ดตกปลาที่ น.ส.พงไพร นั้นปักไว้จนเสร็จแล้ว


เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งศพ ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งที่ รพ.มศว. องครักษ์ ก่อนมอบศพให้กับครอบครัวไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
 

อนาถ! พบศพคนงานก่อสร้างลอยขึ้นอืดนาน 3 วัน อยู่ในคลองชลประทานที่กาญจน์ คาดเมาสุราตกคลองจมน้ำดับ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น.ของวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ร.ต.อ.ศุภกร  พานิชย์เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ว่ามีชาวบ้านขับขี่รถสัญจรไปมาบนถนนเลียบริมคลองชลประทานสายบ้านเขาดิน-บ้านรางจิก หมู่ 6 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วงฯ ไปพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำคว่ำหน้าอยู่ในคลองชลประาน หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
   

 จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุ ต.ท่าล้อ และ ต.บ้านใหม่ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ และสั่งการให้นำศพขึ้นมาจากน้ำพบว่า สภาพศพเนื้อเยื้อเน่าเปื้อยมาก เสียชีวิตมาและไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน แพทย์ไม่สามารถชันสูตรพลิกศพได้ จึงมอบร่างให้มูลนิธิฯ นำศพส่งนิติเวช รพ.ตำรวจเพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารไม่พบสอบถามชาวบ้านทราบว่า เป็นคนงานก่อสร้างชอบเมาสุราเดินไปเดินมาในหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเบาะแสของคนตายต่อไป


                           

นครปฐม หนุ่มใหญ่ลงคลอง งมหอยทำอาหารเย็น แต่พลาดจมน้ำดับ 

หนุ่มใหญ่วันหยุด ลงคลองหวังเก็บหอยเป็นอาหารเย็น แต่คาดเป็นตระคริวหรือเป็นลมแดด จมน้ำ เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมงพบร่างจมใต้บ่อลึก 4-5 เมตร 

เวลา 18.00 น. วันที่ 21 พ.ค.2566 พ.ต.ท.ญาณภัทร  บัวจำรัส สว.สอบสวน สภ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้สูญหายใน คลองจินดา จุดเกิดเหตุบริเวณใต้สะพาน วัดปรีดาราม หมู่ 3 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานชุดประดาน้ำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์

ที่เกิดเหตุเป็นคลองกว้างประมาณ 30 เมตร ลึก 4-5 เมตร โดยเจ้าหน้าที่จึงลงน้ำ ค้นหาใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงพบศพนายปัญญา อายุ 54 ปี สภาพจมน้ำอยู่ก้นคลอง เจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นมาบนฝั่ง ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผล ศพเริ่มแข็งคาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชม.

จากการสอบถามเพื่อนที่มาหาหอยดัวยกัน เล่าว่า พวกตนทำงานที่โรงปูนหล่อเสาเข็ม ใกล้ที่เกิดเหตุวันนี้วันหยุดพวกตนจึงมาตกปลา ส่วนผู้ตายไปงมหาหอยในคลอง จนเวลา 14.00 น.ไม่เจอผู้ตาย นึกว่ากลับไปห้องพักก่อนแล้ว พวกตนจึงกลับห้องพักไปแต่ก็ไม่เจอผุ้ตายจึงกลับมาที่คลองก็พบรถจักรยานกับรองเท้าผู้ตายยังอยู่จึงรีบลงน้ำค้นหาและโทรประสานเจ้าหน้าที่ลงมาทำการช่วยเหลือ

เบื้องต้นสันนิฐานว่า ระหว่างลงงมหาหอย ผู้ตาย อาจเป็นตะคริว หรือหมดแรง ซึ่งทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องส่งศพชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.สามพราน และ จะได้มอบร่างให้ทางญาติไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
 

หนุ่มหนองขาว กาญจน์ วัย18 เล่นน้ำคลายร้อน จมดับในคลองชลประทาน

หนุ่มหนองขาว กาญจน์ วัย18 เล่นน้ำคลายร้อน จมดับในคลองชลประทาน ชาวบ้านและมูลนิธิ ช่วยขึ้นมาได้ในสภาพหมดสติ ทำ CPR เร่งช่วยชีวิต สุดท้ายก็เสียชีวิต

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 21 พ.ค.66 ศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของมูลนิธิประจำจุดรอรับเหตุตำบลหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่าเกิดเหตุมีเด็กวัยรุ่น 4 คนลงไปเล่นน้ำในคลองชลประทานสายรางจิก-ท่าม่วง  แล้วจมน้ำหายไป 1 คน ในเวลาต่อมาชาวบ้านและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ในสภาพที่หมดสติ สัญญาณชีพอ่อน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ประสานไปทาง รพ .สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่กูชีพกู้ภัยของทาง รพ.ฯ เดินทางมาช่วยกันทำ CPR แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตลง 


     ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตายรายนี้ทราบชื่อนายณัฐดนัย(ขอสงวนนามสกุล)อายุ18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 /6 หมู่ 13 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 


     จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปที่ศูนย์วิทยุฯ เพื่อแจ้งประสานไปที่ พ.ต.ท.ธเนศ กลิ่นศรีสุข สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองขาว และแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าสภาพศพของผู้ตายไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย และทราบว่า นายณัฐดนัย ผู้ตายได้มาเล่นน้ำคลายร้อนกับเพื่อนๆ ต่างวัยอีก 3 คน ซึ่งนายณัฐดนัย ว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว สอบถามญาติไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการตาย ซึ่งแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ จึงมอบศพให้ญาตินำร่างไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
                     

ก๊งเหล้ายันเช้า เพื่อนเจออีกทีกลายเป็นศพ คาดร้อนลงเล่นน้ำก่อนจม

 เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ต.ปชารัก สุริยะ สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่สระกลางสวน พื้นที่ ม. 5 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ 


    ที่เกิดเหตุมีกระท่อมไม้กลางน้ำ ซึ่งเป็นสระขุดกลางสวน พบร่างนายชาญณรงค์ อายุ 52 ปี อยู่ในสภาพสวมกางเกงในตัวเดียว ตัวแข็งทื่อ ลอยอยู่ริมตลิ่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างขึ้นมาบนฝั่ง ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด 


    สอบถามเพื่อนผู้ตายทราบว่า เมื่อวานนั่งตั้งวงดื่มสุรากันจนถึงรุ่งเช้า กระทั่งช่วงเย็นมาตามหาผู้ตายแต่ไม่พบจึงออกเดินตามหา กระทั่งพบว่ากลายเป็นศพลอยอยู่กลางสระน้ำ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว


    เบื้องต้นพ.ต.ต.ปชารัก สุริยะ สว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด รวมถึงทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ สันนิษฐานว่าในช่วงกลางวันอากาศร้อนจัด ผู้ตายน่าจะลงเล่นน้ำคลายร้อน ก่อนจะจมน้ำเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเก็บรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
 

ห้ามไม่ฟัง!! หนุ่มเมียนมา วัย 23 ดวงถึงฆาต อากาศร้อนลงเล่นน้ำคลายร้อนจมหายต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆ ที่กาญจน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 1 พ.ค.66 ร.ต.อ.พัฒนพล  คมสันต์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองขาว จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านดอนมะม่วง หมู่ 1 ต.หนองขาวฯ ว่ามีคนงานโรงปุ๋ย ลงไปเล่นน้ำคลายร้อนในคลองชลประทาน แล้วเกิดจมหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อน และได้ประสานมูลนิธิมิราเคิล ออฟ์ไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)เพื่อขอสนับสนุนนักประดาน้ำชุดสายธารมาลงงมค้นหาผู้สูญหายจนกระทั่งพบว่า จมน้ำเสียชีวิตแล้ว
     

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฏราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุนักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ได้นำร่างของนายทู ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา คนงานโรงปุ๋ยที่เคราะห์ร้ายลงเล่นน้ำคลายร้อนต่อหน้าเพื่อนๆ 3-4 คนที่ร้องห้ามเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก

ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบว่าตามร่างกายของนายทูผู้ตาย จะมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด สอบถามบรรดาเพื่อนๆ และญาติๆ ไม่มีใครติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย จึงมอบร่างให้ญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป