ปิดฉาก! “ชู สวิมคลับ” ผงาดเจ้าสระธรรมศาสตร์ 91 ปี

“ชู สวิมคลับ” ผงาดคว้ารางวัลสโมสรยอดเยี่ยมอันดับ 1 ว่ายน้ำ “ธรรมศาสตร์ 91 ปี” 

ปิดฉากแล้วการแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนรายการ “วันสถาปนาธรรมศาสตร์ครบรอบ 91 ปี” ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ร่วมกับ ชุมนุมกีฬาทางน้ำแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี 79 ทีม รวมนักกีฬากว่า 800 คนเข้าร่วมแข่งขัน ตั้งแต่รุ่นอายุ 6 ปี จนถึงรุ่นอายุ 16 ปีขึ้นไป 

ผลปรากฏว่า “ชู สวิมคลับ” Chu Swimming ทำคะแนนสะสมคว้ารางวัลสโมสรยอดอันดับ 1 ไปครอง ส่วนอันดับ 2-5 ได้แก่ Vision Swimming Academy, STA Marrins, Krutee JD Yai Swim Team และ Peak Performance Swim Club

สำหรับการแข่งขันรายการนี้ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ได้ร่วมให้การสนับสนุน เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนหันมาออกกำลังกาย เสริมสร้างสุขภาพกายและจิตใจให้แข็งแรงผ่านการเล่นกีฬา รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และน้ำใจนักกีฬา พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองจากการแข่งขัน นอกจากนั้นยังเป็นเวทีพัฒนานักกีฬาสู่ระดับที่สูงขึ้น จากการรับรองสถิติอย่างเป็นทางการโดย สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย

เปิดยิ่งใหญ่! ยช.กว่า 800 คนร่วมชิงเจ้าสระ “ธรรมศาสตร์ 91 ปี”

สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ร่วมกับ ชุมนุมกีฬาทางน้ำแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดการแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนรายการ “วันสถาปนาธรรมศาสตร์ครบรอบ 91 ปี” ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

วันที่ 28 มิถุนายน 2568 มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี นาวาอากาศตรี สุพนธ์ แสงแก้ว หัวหน้าผู้ฝึกสอนชุมนุมกีฬาทางน้ำแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักกีฬาจาก 79 ทีม รวม 808 คน เข้าร่วมชิงชัย ตั้งแต่รุ่นอายุ 6 ปี จนถึงอายุ 16 ปีขึ้นไป

รายการนี้ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ได้ร่วมให้การสนับสนุน เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนหันมาออกกำลังกาย เสริมสร้างสุขภาพกายและจิตใจให้แข็งแรงผ่านการเล่นกีฬา รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และน้ำใจนักกีฬา พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองจากการแข่งขัน นอกจากนั้นยังเป็นเวทีพัฒนานักกีฬาสู่ระดับที่สูงขึ้น จากการรับรองสถิติอย่างเป็นทางการโดย สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย

โคราช จัดแข่งขันว่ายน้ำครั้งที่ 28 สานอนาคตนักกีฬาไทย ก้าวไกลสู่ระดับประเทศ

โคราช จัดแข่งขันว่ายน้ำครั้งที่ 28 สานอนาคตนักกีฬาไทย ก้าวไกลสู่ระดับประเทศ

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่สระว่ายน้ำ Champions Pool สวนน้ำ แฟนตาเซีย ลากูน ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช  นายชนม์บันลือ  วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.ธีรารัตน์  ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ดร.สิทธิชัย  เป้งคำภา ผู้ช่วยผู้แทนฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสโมสรกีฬาทางน้ำภาค และนายปรีชา ลิ้มอั่ว  ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วม เปิดการแข่งขันว่ายน้ำครั้งยิ่งใหญ่  ในงาน “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนระดับประเทศ ตามหลักกฏกติกามาตรฐาน ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) ฉบับล่าสุด โดยมีสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยรับรองผลการแข่งขัน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-4 พฤษภาคม

มีสโมสรส่งนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนและบุคคลเข้าร่วมแข่งขันจาก 15 จังหวัดทั่วประเทศไทย จำนวน 55 สโมสร รวมนักกีฬา 404 คนเข้าร่วมการแข่งขันการแข่งขันว่ายน้ำ เดี่ยวผสม 200 เมตร/ กรรเชียง 50 เมตร/ กบ 200 เมตร/ ผีเสื้อ 100 เมตร/ กบ 50 เมตร/กรรเชียง 200 เมตร/ฟรีสไตล์ 100 เมตร/ ผลัดฟรีสไตล์ 4x50 เมตร
วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม 2568 มีรายการแข่งขันดังนี้ ฟรีสไตล์ 50 เมตร/ ผีเสื้อ 200 เมตร/กรรเชียง 100 เมตร/ผีเสื้อ 50 เมตร/กบ 100 เมตร/ฟรีสไตล์ 200 เมตร/ ผลัดมิกส์ฟรีสไตล์ 4x50 เมตร

รูปแแบบการแข่งขันเป็นการแข่งขันว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ Champions Pool ขนาด 50 เมตร จำนวนแข่ง 8 ลู่ เป็นการแข่งขันรอบเดียว ไม่มีรอบคัดเลือก โดยแบ่งประเภทเยาวชนชาย – หญิง อายุระหว่าง 7-14 ปี และบุคคลทั่วไป ในระยะทาง 50 เมตร, 100 เมตร และ 200 เมตร  โดยใช้ 4 ท่าว่ายสากลตามกติกาของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) และสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย

ซึ่งแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1.รางวัลประเภทบุคคล 2.รางวัลประเภทสโมสร ซึ่ง สโมสรคะแนนรวมสูงสุดอันดับ 1 จะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม

เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ ระดับยุวชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายรวมถึงการฝึกซ้อมและว่ายน้ำอย่างถูกวิธี ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษไม่หันไปพึ่งพาสารเสพติด ช่วยพัฒนาและร่วมผลักดัน วงการกีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ ส่งเสริมนโยบายและวัตถุประสงค์ของสโมสรกีฬาว่ายน้ำ และ สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา

อบต.กำแพง ผนึกกำลังกองทัพเรือ อบรมเข้ม 6 วัน สอนเด็กว่ายน้ำเอาชีวิตรอด ลดเสี่ยงจมน้ำช่วงปิดเทอม

อบต.กำแพงผนึกกำลังกองทัพเรือ จัดอบรมเข้มข้น 6 วัน สอนเด็กว่ายน้ำเอาชีวิตรอด หวังลดอุบัติเหตุทางน้ำช่วงปิดเทอม

องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง โดยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัด เปิดฉากโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กจมน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2568 อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีนางสำลี ลัคนาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสถานีเรือละงู หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ

โครงการที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นี้ จะดำเนินการระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน 2568 มุ่งเน้นการสร้างความรู้และทักษะสำคัญในการเอาชีวิตรอดทางน้ำให้กับเยาวชนในพื้นที่ เพื่อรับมือกับปัญหาเด็กจมน้ำซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมและหน้าร้อนที่เด็กๆ นิยมลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ

"เรามุ่งหวังให้เด็กๆ ทุกคนมีทักษะการเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญกับภัยทางน้ำ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่สามารถป้องกันได้หากมีความรู้ที่ถูกต้อง" นายกฯ อบต.กำแพง กล่าว

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น เริ่มตั้งแต่หลักการว่ายน้ำพื้นฐาน เทคนิคการลอยตัวในน้ำ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำอย่างถูกวิธี รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมีทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลเป็นผู้ฝึกสอน

หลายพื้นที่ในประเทศไทยยังคงประสบปัญหาเด็กจมน้ำเสียชีวิตในช่วงปิดเทอม โดยสถิติล่าสุดชี้ว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี โครงการนี้จึงถือเป็นหนึ่งในความพยายามของท้องถิ่นในการลดความสูญเสียดังกล่าว

ว่ายน้ำพาราไทยแกร่ง คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง เวิลด์ซีรีส์

การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำจัดอันดับสะสมคะแนนอันดับโลก รายการ Para Swimming World Series Fuji-Shizuoka 2025  ณ เมืองชิชุโอเกะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา หานักกีฬาว่ายน้ำคนพิการเก็บคะแนนสะสมโลกพร้อมทำอันดับไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ สิงคโปร์

วันที่ 14 เมษายน 2568 ทัพนักกีฬาว่ายน้ำคนพิการทีมชาติบินลัดฟ้าเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 6 คน ประกอบด้วย "บีม" เมธาสิทธิ์ นาขนานรัมย์, "ภูมิ" สัมปชัญญ์ สมาธิ, "สิงห์" ณันธวัฒน์ รอบคอบ, "วี" วิลาสินี วงษ์นนภูมิ, "ทัก" ภูชิต อิงชัยภูมิ และ จันทร์นี วงนนท์ภูมิ โดยมีแพทย์หญิงพรระวี เพียรผดุงรัตน์ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน

ผลปรากฏว่าในการแข่งขันรายการนี้นักกีฬาว่ายน้ำพาราไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญเงิน จาก "วี" วิลาสินี วงษ์นนทภูมิ SB5 ในการแข่งขันกรรเชียง 50 เมตร ไฟนอล A รวมคลาส โดยเงือกวีทำสถิติเวลาใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยเวลา 47.25 วินาที และอีก 1 เหรียญทองแดง จาก "บีม" เมธาสิทธิ์ นาขนานรัมย์ ดาวรุ่งนักกีฬาว่ายน้ำคนพิการทีมชาติไทย วัย 18 ปี ประเดิมคว้าเหรียญทองแดงแรกในชีวิต ไฟนอล A ท่ากบ 50 เมตร

นอกจากนี้ทัพว่ายน้ำพาราไทยยังสร้างสถิติใหม่ประเทศไทย 3 รายการ สำหรับรายการนี้เป็นการจัดอันดับสะสมคะแนนอันดับโลก เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่จะจัดขึ้นที่ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน นี้ ซึ่งทั้งวีและบีม ทำเวลาผ่านควอลิฟายคว้าสิทธิ์ไปแข่งว่ายน้ำชิงแชมป์โลก WPS  Championship2025 ที่สิงคโปร์ อย่างเป็นทางการแล้ว

เปิดค่ายเยาวชนสอนว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน ให้กับเด็กและเยาวชน ในเขตเทศบาลนครสงขลา ช่วงปิดเทอม

เปิดค่ายเยาวชนสอนว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน ให้กับเด็กและเยาวชน ในเขตเทศบาลนครสงขลา ช่วงปิดเทอม เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีโอกาสเรียนรู้ ทักษะพื้นฐานของการว่ายน้ำ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ในการเอาชีวิตรอดขณะจมน้ำ

ที่บริเวณสระว่ายน้ำติณสูลานนท์ ภายในสนามกีฬาติณสูลานนท์ เขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เด็กๆและเยาวชน อายุ 4 ขวบถึง 15 ปี จากโรงเรียนเทศบาล ทั้ง 4 แห่ง จำนวน 70 คน ได้มาเข้าค่ายเยาวชนเรียนว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน ที่บริเวณสระว่ายน้ำ ภายในสนามกีฬาติณสูลานนท์ ที่มีความลึก 2 เมตร ความยาว 50 เมตร โดยทุกคนมีความตั้งใจในการเรียนว่ายน้ำให้เป็น โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนต่างก็มีความห่วงใยบุตรหลานของตน จึงนำมาเข้าค่ายเยาวชนเรียนการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ในการเอาชีวิตรอดขณะจมน้ำ  เนื่องจากเด็กๆเข้าค่ายเรียนมาแล้วหลายวัน ทำให้เด็กๆไม่กลัวน้ำ แม้ว่าสระว่ายน้ำมีความลึกถึง 2เมตร

สำหรับค่ายเยาวชน หลักสูตรว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน (หลักสูตร 30 ชั่วโมง) เรียนวันละ 60-120 นาที ต่อวัน โดยพื้นฐานของผู้เรียน 1.สำหรับผู้เรียนที่ไม่มีพื้นความรู้หรือทักษะเกี่ยวกับการว่ายน้ำ 2. อายุไม่ต่ำกว่า 4 ปี จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ วิธีการของการใช้สระว่ายน้ำได้ รวมทั้งเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน และเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการว่ายน้ำชั้นพื้นฐานและสามารถปฏิบัติท่าว่ายน้ำได้ ระยะเวลาเรียน จัดตารางเรียนเป็นรายชั่วโมง โดยเรียนวันละ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน  รวมตลอดหลักสูตรใช้เวลาเรียน 30 ชั่วโมง โดยมีคุณครูสอนว่ายน้ำ ทั้งหมด 7 คน และมีไลฟ์การ์ด คอยดูแลเด็กๆ 2 คน

คุณครูพรรวณา จันทร์เจริญศรี อายุ 54 ปี หนึ่งในคุณครูสอนว่ายน้ำที่ยังรักในกีฬาว่ายน้ำอยู่ กล่าวว่า การจัดโครงการนี้ ก็เพื่อให้เด็กและเยาวชน ของจังหวัดสงขลา ได้มีโอกาส ว่ายน้ำ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ เป็นทักษะสำคัญที่เด็ก ในยุคนี้ที่จะต้องมี จากเหตุการณ์ และข่าวต่างๆที่เรา เห็นแล้ว ว่ามีอันตราย เกิดกับเด็กที่จมน้ำในภาวะปัจจุบัน มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเยอะมาก และต้องขอขอบคุณ ท่านนายกวันชัยปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ที่เป็นเจ้าของโครงการและได้คิดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อให้เด็กและเยาวชนของจังหวัดสงขลาเรา ได้มีโอกาสเรียนรู้ ทักษะพื้นฐาน ของการว่ายน้ำ ซึ่งเป็นทักษะจำเป็น ซึ่ง ทำให้ เด็กเล็กๆของเรา ได้มีพื้นฐานที่ดี ในการต่อยอด ในการออกกำลังกายก็ดี ในการช่วยเหลือตัวเอง ในขณะที่จมน้ำ หรือ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เด็กและเยาวชนของจังหวัดสงขลา ก็จะสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเอง ในการเอาชีวิตรอดได้ สำหรับ การเรียนว่ายน้ำ ในครั้งนี้ จะใช้เวลา 15 วัน ในการจัดการเรียนการสอน ให้กับน้องๆเยาวชนของจังหวัดสงขลา ที่มีโอกาสได้เรียนพื้นฐานของการว่ายน้ำ ซึ่งจากเด็กที่ ว่ายน้ำ ไม่เป็นเลย ก็สามารถที่จะว่ายน้ำ ในท่าต่างๆ จากพื้นฐาน และสามารถที่จะต่อเป็นท่าพื้นฐานแบบ freestyle หรือจะเป็นทักษะที่ ช่วยเหลือเอาชีวิตรอดได้ ขณะนี้ฝึกไปแล้วหลายวัน ก็สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เด็กเล็กๆของเราเริ่มจากอายุ 4 ขวบ ตอนนี้ เด็กในกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของเรา ได้มีพื้นฐานในการว่ายน้ำ โดยเด็กๆสามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน และอยู่ในน้ำ รู้จักเรื่องของความปลอดภัย ในการว่ายน้ำ สำหรับเด็กที่มาฝึกว่ายน้ำ มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบถึง 15 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ที่อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา

เปิดรับสมัครแล้ว! ว่ายน้ำ “วันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 91 ปี”

การแข่งขันว่ายน้ำ “วันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครบรอบ 91 ปี” จัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ร่วมกับ ชุมนุมกีฬาทางน้ำแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นบันไดสำหรับนักว่ายน้ำเยาวชนสู่ทีมชาติในอนาคต รับรองสถิติโดย สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กำหนดมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เปิดรับสมัครแล้ว ตั้งแต่รุ่น 6 ขวบลงมา จนถึง 16 ปีขึ้นไป ชิงถ้วยสโมสรยอดเยี่ยม และเงินรางวัลรวม 45,000 บาท โดยรุ่น 6-9 ปี แจกเหรียญทุกฮีท 

พิเศษสุด!!! สําหรับสโมสร/ชมรม ที่สมัครและชําระค่าสมัคร 200 คนแรก จะได้รับของที่ระลึกประจําการแข่งขัน และปิดรับสมัครทันทีเมื่อครบจํานวน 600 คน 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ https://www.smt.in.th

“หมอดื้อ” เปิดข้อสงสัย “ดีมั้ย” อาบหรือว่ายน้ำเย็นเจี๊ยบ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

ดีมั้ย.. อาบหรือว่ายน้ำเย็นเจี๊ยบ

ความเชื่อ ไปจนกระทั่งถึงประเพณี ประพฤติ ปฏิบัติ การแช่น้ำเย็นเจี๊ยบ หรือแช่น้ำแข็งมีมานานแล้ว และมีในรูปแบบต่างๆ เช่น ในประเทศหนาว โดยเฉพาะในฤดูหนาวมี การว่ายน้ำเย็นจัด ถึงขนาดที่เปิดแผ่นน้ำแข็งและลงไปว่ายในน้ำ และมีสมาคมนานาชาติยกตัวอย่างเช่น international ice swimming association หรือ international winter swimming association โดยในแต่ละสมาคม ก็จะมีการกำหนดให้ว่ายในน้ำที่อุณหภูมิ

-2 ถึง 2 องศา หรือ ในระหว่างอุณหภูมิ 2.1 ถึง 5 องศาหรือ 5.1 ถึง 9 องศาเป็นต้น

การว่ายในน้ำแข็งหรือน้ำเย็นเฉียบเจี๊ยบ เช่นนี้ เปรียบเสมือนเป็นการท้าทายร่างกาย ให้มีการปรับเปลี่ยนตัวให้ได้ ซึ่งรวมถึงทุกอวัยวะและสมอง ในการปรับให้มีการรักษาสมดุลความร้อนในร่างกาย

โดยที่ร่างกายมีระบบควบคุมการระบายหรือ สร้าง และเก็บความร้อน เช่น ทางผิวหนังซึ่งจะเชื่อมโยงกับเส้นเลือดที่อยู่ในชั้นไขมันและมีการยืดหดตามความเหมาะสม แต่ในร่างกายส่วนที่อ่อนบางเช่นมือ เท้า จมูกและใบหูจะมีกลุ่มเส้นเลือดอีกชนิดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงถูกกระทบได้ง่ายเมื่อเจอกับความเย็น

กลไกอื่นๆ คือการสั่นสะท้าน (shivering) ซึ่งเป็นการสร้างความร้อนขึ้นอีก โดยมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในร่างกายผ่านทางการควบคุมอุณหภูมิในสมองที่เหมือนกับเครื่องเทอร์โมสแตท (thermostat) ในสมอง ส่วนไฮโปธาลามัส (hypothalamus)

ไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่สร้างความร้อน ทั้งนี้ เนื่องจากไขมันน้ำตาลนี้ มีจำนวนของอนุภาคไมโตคอนเดรีย (mitochondria) มากมาย ดังนั้นสามารถสร้างความร้อน โดยมีการเผาผลาญไขมันไตรกรีเซอร์ไรด์ (ผ่าน uncoupling mitochondrial electron transport และ noradrenaline -induced membrane depolarization and sodium pumping)

การควบคุม ความร้อนในตัวที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิเย็น ยังขึ้นอยู่กับ เพศ อายุและอาจมีบทบาททางด้านพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

มีรายงานผลต่อสุขภาพ เมื่อเผชิญความเย็นเจี๊ยบ ในวารสาร international journal of circumpolar health เดือน ตุลาคม 2022 และเป็นการวิเคราะห์จากรายงาน 728 ชิ้นคัดเลือกจนกระทั่งเหลือ 104 ชิ้น ที่มีความสมบูรณ์และเหมาะสมในผลกระทบต่อสุขภาพ

โดย มีการลดลง ของอัตราส่วนระหว่าง ApoB (ตัวไม่ดี) และ ApoA1 (ตัวดี) ปริมาณของ homocysteine ลดลง (หมายความว่าดี) ตลอดจนระดับฮอร์โมนคอร์ติโซลในเลือด ระดับอินซูลินและระดับของอันตรายจาก oxidative stress ลดลง

ในขณะเดียวกัน มีการเพิ่มของระดับฮอร์โมนหลายตัวของต่อมไธรอยด์ มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในระบบภูมิคุ้มกันในส่วนของ T cell รวมทั้ง cytokines และการตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้น เป็นต้น

ดัชนีชี้วัดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น รวมทั้งกลไกในการเผาผลาญไขมัน และการหายใจในขณะที่มีการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถสรุป เป็นกลไกทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เต็มที่ เพียงแต่อาจมีข้อสนับสนุนของประโยชน์ที่จะได้รับ จากการเข้าไป กระโจน ว่าย อาบ ดำในน้ำ เย็นเจี๊ยบ โดยควรต้องมีข้อระวังผลร้ายต่อสุขภาพที่ทำให้ร่างกายเย็นชืด (hypothermia) โดยต้องประเมินตัวเองก่อน

โดยที่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าจะเริ่ม น้ำเย็นแบบนี้ ลองเริ่มจากการอาบน้ำไม่ร้อน และในเมืองหนาว ค่อยๆ ลดอุณหภูมิลงเรื่อย ๆ เป็นเวลา 30 ถึง 60 วินาที จนชิน และมีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องวอร์มอัพก่อน หรือเมื่อออกกำลังกายหนักแล้วตรงเข้าอาบน้ำเย็นเลย เมืองไทยเองคงยากนะครับ เพราะเป็นอาบน้ำอุ่นหรือร้อนอยู่แล้วจากน้ำก๊อก

เมื่อเริ่มอยู่ตัว ลองอาบน้ำโดยใส่น้ำแข็งเข้าไปปรับให้อุณหภูมิอยู่ที่ 10 ถึง 15 เซลเซียส ซึ่งวิธีนี้ นักกีฬาที่บาดเจ็บไม่ว่า เส้นเอ็น กระดูก ข้อ หรือกล้ามเนื้อ ต่างก็ใช้วิธีนี้มานานหรือในหนังที่เราดูหลายเรื่องก็มีการฟื้นฟูการบาดเจ็บโดยลงไปในอ่างอาบน้ำที่ใส่น้ำแข็ง

อ่านมาถึงตรงนี้ พวกเราอาจจะตั้งคำถามกับหมอว่า หมอเพิ่งพูดไปหยก ๆ ไม่ใช่หรือว่า ให้ไป…อบร้อนเซาน่า แล้วสมองใส ตอนนี้มีเรื่องอาบน้ำเย็นเจี๊ยบจนไปถึงอาบน้ำแข็ง

ทั้งหมดนี้อาจจะเรียกว่าเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” กล่าวคือ ในเรื่องของการอบร้อนก็เป็นประเพณีประพฤติกันมาช้านาน เช่นกัน ในแถบนอร์เวย์ ญี่ปุ่น เอเชีย แต่กลไกทางวิทยาศาสตร์ ที่แต่แรกคิดว่าการเจอความร้อนขนาด 50 องศาเซลเซียส ควรจะเป็นการสร้างความเครียดให้กับโรงพลังงานของเซลล์ คือไมโตคอนเดรีย และทำให้กระทบระบบกำจัดขยะซึ่งเกิดจากโปรตีนจับตัวกันเป็นขยุ้มและเกิดเป็นพิษ แต่ผลกลับกลายเป็นว่าความร้อนกลับทำให้ระบบนี้เก่งขึ้น และกลายเป็นคลี่ขยุ้มโปรตีนให้กลับเป็นของดีเอามาใช้ใหม่ ทั้งนี้ อาจจะเป็นได้ในกรณีของความเย็นระดับที่ว่านี้ โดยอาศัยกลไกอย่างเดียวกันหรือคล้ายกัน

ในหลายประเทศหรือในออนเซ็นจะพบว่า เมื่ออบร้อน อาบหรือซาวน่าร้อนเต็มที่ จะมาจบอยู่ที่แช่น้ำเย็นจัด ซึ่งพวกเราหลายคนคงผ่านมาแล้วและรู้สึกกระชุ่มกระช่วยขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย

ที่นำมาเล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ เพื่อความรู้ความเข้าใจและน่าจะมีประโยชน์ในการรักษาสุขภาพโดยไม่ได้พึ่งยาเป็นหลัก ครับ

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข

และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก

มหาวิทยาลัยรังสิต

"เงือกเจนจิรา" นำทัพว่ายน้ำทีมชาติ สู้ศึก World Aquatics Swimming Championships (25m) Budapest 2024 ที่ฮังการี

สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย นำโดย พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ได้ทำการประกาศรายชื่อนักกีฬาทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่  ในการเข้าร่วมการแข่งขัน รายการ World Aquatics Swimming Championships (25m) Budapest 2024 ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี ระหว่างวันที่ 10-15 ธันวาคม 2567 โดยมีรายชื่อดังนี้

นักกีฬา 6 ราย 1.นางสาวเจนจิรา ศรีสอาด(สังกัด โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์) , 2.นางสาวเสาวนีย์  บุญอำไพ(สังกัด ชมรมว่ายน้ำสิงห์) , 3.นางสาวเพียงขวัญ ปะวะโพตะโก(สังกัด เฟิร์ส สวิม ทีม) , 4.นางสาวจินห์จุฑา ผลแจ่มจำรัส(สังกัด เฟิร์ส สวิม ทีม) , 5.นายสุรสิทธิ์  ทองแดง(สังกัด ทหารอากาศ) และ 6.นายพงศ์ปณต  ไตรทาน(สังกัด โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร) 

ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย 1.นายสาธิต  หงษ์ทอง(ผู้จัดการทีม) , 2.โยฮันเนส ลาแมร์ตุส ฟาน ดุยน์โฮเฟิน(ผู้ฝึกสอน) , 3.นางสาวชวิศา ทวีทรัพย์สุนทร(ผู้ฝึกสอน) , 4.นายปุณมนัส  อุดมวิทยานุกูล(นักกายภาพบำบัด) และ 5.นายธนพล มีเดช(นักนวด)

SEA Aquatics Age Group Championships ที่ไทย 6-8 ธ.ค.นี้ นักกีฬาร่วมแข่งมากสุดเป็นประวัติการณ์

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พลเอกเจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย , พลตรีหญิงฟ้าวลัย พลอยมุกดา อุปนายกและเหรัญญิกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย , ร.ต.อ.วัลลภ จิราทรวัฒนะ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และผู้บริหารสมาคมฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย โดยมีวาระสำคัญในการประชุมดังนี้

การแข่งขันรายการ SEA Aquatics Age Group Championships ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 6 – 8 ธันวาคม 2567 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ มีนักกีฬาเข้าร่วมแล้วกว่า 800 คน จาก 9 ประเทศ เป็นการเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดเท่าที่จัดมา

กำหนดจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2567 เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ใหม่ ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น  ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพมหานคร

จัดพิธีลงนามในสัญญาจ้างงานระหว่าง สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กับ บริษัท พีทีที เรส จำกัด เพื่อพัฒนาปรับปรุงระบบฐานข้อมูล และสารสนเทศของสมาคมฯ ให้ทันสมัย ครอบคลุมทุกมิติ

สหพันธ์กีฬาทางน้ำโลก (World Aquatics) และคณะกรรมการโอลิมปิกเยอรมัน ได้ส่งวิทยากร มาจัดโครงการ Learn to Swim ระหว่างวันที่ 10 ต.ค. – 3 พ.ย. 67 เพื่ออบรมให้ความรู้ผู้ฝึกสอนชาวไทยเริ่มที่ จังหวัดขอนแก่น 14-18 ต.ค.67 จังหวัดจันทบุรี 21-25 ต.ค.67 และ จังหวัดสงขลา 28 ต.ค.-1 พ.ย.67

โดยวิทยากรที่จะมาถ่ายทอดความรู้ในครั้งนี้คือ มร.คริสเตียน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับชุดครูฝึกตามโครงการ ว่ายน้ำเพื่อชีวิต "ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น" ของสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่า รู้สึกทึ่งในการฝึกสอนให้เด็กด้อยโอกาสสามารถลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น ช่วยเหลือตนเองได้ โดยหลังจากจบการอบรมให้ความรู้ที่ จ.สงขลา แล้ว ทาง มร.คริสเตียน จะไปเยี่ยมชมการฝึกเด็กตามโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต "ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น" ที่ จ.กาญจนบุรี ในระหว่างวันที่ 2-8 พ.ย.67 เพื่อนำประสบการณ์แนวทางของไทยไปเผยแพร่ให้กับประเทศต่างๆเพิ่มเติมอีกด้วย 

พร้อมกันนั้น สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ได้จัดการอบรมพัฒนาบุคลลากรกีฬากระโดดน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขัน ระดับชาติ - นานาชาติ ที่ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด 19 คน ซึ่งนโยบายของสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยได้มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ที่ได้รับมาเดิม เพื่อทบทวนหลักสูตรที่มีการปรับปรุงตามสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่อย่างถูกต้อง สามารถนำไปต่อยอดในระดับนานาชาติได้ต่อไป