EN Name: 
Woman

ฉีดปุ๊บ สวยเป๊ะ! “เมจิค รีทัช” สเปรย์ปิดผมขาว

ครั้งแรก !! ลอลีอัล ปารีส แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านสีผม เอาใจคุณสาวๆที่ไม่ชอบรอ ขอแนะนำ “เมจิค รีทัช” สเปรย์ปิดผมขาวแนบสนิทที่คุณสามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ภายใน 3 นาที มอบผลลัพธ์ที่เป้นธรรมชาติ ล้างออกง่ายด้วยแชมพู ติดทนนาน แถมไม่เลอะเปื้อนระหว่างวัน เข้าคอนเซ็ปต์ ฉีดปุ๊บ สวยเป๊ะ สุดๆ .. พบความมหัศจรรย์ของสเปรย์เปลี่ยนสีผม #Magicretouch #3..2..1..เป๊ะ #ฉีดปุ๊บ สวยเป๊ะ กับ ลอรีอัล เมจิค รีทัช ราคา 379 บาท ได้แล้ววันนี้ ติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.lorealparisthailand.com และ www.facebook.com/lorealparisthailand - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เพจ “สยามรัฐ สตรี-เยาวชน”

เครือข่ายผู้หญิงและผู้หญิงเพศหลากหลาย ร้องรัฐบาลปฏิบัติตามอนุสัญญา CEDAW

เครือข่ายผู้หญิงและผู้หญิงเพศหลากหลายในประเทศไทย ซึ่งติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบได้ร่วมกัน จัดงาน แถลงข่าวการติดตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) พร้อมจัดเสวนาในหัวข้อ “ประเทศไทย: สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานต้องนำมาปฏิบัติได้จริงสำหรับผู้หญิงทุกคน” ณ สถานทูตเนเธอร์แลนด์  ปรานม สมวงศ์  กล่าวถึงภาพรวมของอนุสัญญา CEDAW และสถานการณ์ของผู้หญิงในประเทศไทย นางสาวปรานม สมวงศ์ ตัวแทนจากองค์กรโปรเทคชั่นอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้วที่รัฐบาลไทยได้นำเสนอรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ หรืออนุสัญญา The Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women (CEDAW) ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยภายหลังการนำเสนอของรัฐบาลไทยคณะกรรมการ CEDAW ได้จัดส่งข้อคิดเห็นโดยสรุปต่อการรายงานของไทย ซึ่งคณะกรรมการฯ แสดงความห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า นักปกป้องสิทธิมนุษยชนผู้หญิง ที่ทำงานรณรงค์ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิในที่ดิน การปกป้องสิ่งแวดล้อม สิทธิชนเผ่าพื้นเมือง สิทธิของคนชนบท เลสเบียน ไบเซ็กชัล หญิงข้ามเพศ และหญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องตกเป็นเป้าหมายการฟ้องร้องดำเนินคดี การคุกคาม การใช้ความรุนแรงและการข่มขู่ที่เป็นผลจากการทำงานของพวกเธอโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ชี้แจงและรับปากต่อคณะกรรมการ CEDAW ว่าจะดำเนินการแก้ไขในหลากหลายประเด็นที่เป็นข้อกังวลของคณะกรรมการ พักตร์วิไล สหุนาฬุ ตัวแทนเครือข่ายผู้หญิง อ่านแถลงการณ์ อย่างไรก็ตามภายหลังการนำเสนอรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญา CEDAW ของรัฐบาลไทยไม่กี่สัปดาห์ก็มีผู้หญิงในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรธุรกิจเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ “แม่สุภาพ คำแหล้” ผู้หญิงชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เรื่องที่ดินที่สามีหายไปไร้ร่องรอย ที่ล่าสุดแม่สุภาพถูกสั่งจำคุก 6 เดือนในคดีรุกป่าสงวน ทั้งนี้ PI ได้ลงเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ถึงปัจจุบันมีผู้หญิงอย่างน้อย 119 คน ที่ถูกฟ้องร้องขับไล่จากการต่อสู้เพื่อสิทธิขั้นพื้นฐานเพียงเพื่อจะเข้าถึงสิทธิในที่ดินทำกินและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคณะกรรมการ CEDAW ได้เสนอรัฐบาลไทยให้ลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเข้าถึงกองทุนยุติธรรม แต่ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมามีผู้หญิงมากกว่า 7 ชุมชนโดยทั้งหมดแทบจะไม่ได้เข้าถึงกองทุนยุติธรรม ถึงแม้บางกรณีเข้าถึงแต่ต้องผ่านการอุทธรณ์แล้วอุทธรณ์อีก ด้าน นางวิรอน รุจิไชยวัฒน์ ตัวแทนจากกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนได้เข้าร่วมการประชุมอนุสัญญา CEDAW ที่ผ่านมา ก็มีความหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในการคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เพราะรัฐบาลได้ยืนยันกับคณะกรรการ CEDAW ว่าจะคุ้มครองนักต่อสู้ผู้หญิงทุกคน แต่ยังไม่ทันพ้นเดือน ก็มีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิที่ต้องถูกดำเนินคดี โดยกรณีที่ชัดที่สุดที่เพิ่งผ่านพ้นมาคือกรณีของแม่สุภาพ คำแหล้ ภรรยาของพ่อเด่น คำแหล้ ที่ถูกบังคับให้สูญหาย โดยกรณีของแม่สุภาพเป็นการถูกตัดสินจำคุกทั้งๆ ที่ต่อสู้เพื่อได้สิทธิที่จะอยู่จะอยู่และทำกินในที่ดินของตนเอง และที่น่าตกใจคือกรณีของแม่สุภาพมีข้อตกลงกับรัฐบาลที่ชัดเจนว่าจะสามารถอยู่และทำกินบนที่ดินผืนนั้นได้ นอกจากนี้
ยังมีความน่าเป็นห่วงกรณีที่ รัฐบาลกำลังเตรียมประกาศใช้ พรบ.แร่ฉบับใหม่ ที่ให้อำนาจรัฐในการจัดสรรเอกให้เอกชนสามารถเข้าทำมาเหมืองแร่ได้ ไม่ต้องผ่านกระบวนการรับฟังเสียงของประชาชนหรือกระบวนการรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)
ตัวแทนจากกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดกล่าวอีกว่า พรบ.แร่ฉบับใหม่เพราะเป็น พรบ.ที่ชุมชนและผู้หญิงจากหลายครอบครัวไม่ได้มีส่วนร่วมและจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน สิ่งที่รัฐจะต้องทำคือต้องให้ความคุ้มครองผู้หญิงเหล่านี้ตามที่รัฐบาลได้รับปากกับคณะกรรมการ CEDAW โดยคณะกรรมการ CEDAW ได้มีข้อเสนอแนะและความเป็นกังวลที่เสนอกลับมายังรัฐบาลไทยหลายข้อ โดยในข้อกังวลและข้อเสนอแนะที่ 30 และ 31 ของกรรมการ CEDAW ระบุให้รัฐต้องคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และในข้อที่ 42 ยังระบุให้รัฐต้องสร้างหลักประกันให้กับผู้หญิงที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินของตนเอง นอกจากนี้คณะกรรมการ CEDAW ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยในข้อ 43 ให้สร้างหลักประกันให้ผู้หญิงที่อยู่ในชนบทจะต้องมีส่วนร่วมในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ปรีดา - วิรอน - ไหม ขณะที่ นางปรีดา ปานเมือง ตัวแทนจากเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ กล่าวว่า ภายหลังจากการที่เรากลับมาจากการประชุม CEDAW ผู้หญิงในหลายๆ ชุมชนที่เป็นสมาชิกของ สกต.ก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ โดยเฉพาะในขณะนี้ชุมชนก้าวใหม่ที่เป็นพื้นนำร่องการดำเนินการโฉนดชุมชนได้รับผลกระทบจากนโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่ได้มีคำสั่งให้มีการจัดสรรที่ดินใหม่ โดยขณะนี้ได้มีการนำรถไถมากวาดทำลายผลผลิตทางการเกษตรในรูปแบบโฉนดชุมชนของชาวบ้านที่ปลูกพืชและอาหารที่มีความหลากหลายเอาไว้บริโภคและนำไปจำหน่ายทำให้สมาชิกผู้หญิงมีรายได้จากการปลูกพืชในรูปแบบโฉนดชุมชน ซึ่งคำสั่งของ คทช.ทำให้ผลผลิตถูกทำลายและวิถีชีวิตของผู้หญิงในชุมชนต้องเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในความจริงแล้วกระบวนการในการพัฒนา จะต้องเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย และแผนด้านการเกษตรกรและการพัฒนาชนบท เหมือนดังที่คณะกรรมการ CEDAW ได้จัดทำข้อเสนอต่อรัฐบาลไทยมา นอกจากนี้แล้วยังมีผู้หญิงชนบท และผู้หญิงชาติพันธุ์อีกเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ซึ่งคณะกรรมการ CEDAW ได้เสนอให้รัฐบาลต้องสร้างหลักประกันว่าผู้หญิงชนบทต้องมีส่วนร่วมในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติในการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วน นางไหม จันตา ตัวแทนจากมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ กล่าวว่า มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่รัฐบาลไทยเซ็นร่วมอนุสัญญา CEDAW ที่มีกฎหมายและนโยบายมากมายใช้กับเราเมื่อ 32 ปีที่ผ่านมา เราเป็นผู้หญิงบริการ และไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ต่อสู้เรื่องที่ดิน หรือต่อสู้เรื่องเหมืองแร่ ก็เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ พนักงานบริการเราก็ไม่ต่างกันเรายังคงถูกเลือกปฎิบัติไม่ต่างจากผู้หญิงกลุ่มอื่นๆ พวกเราเป็นคนที่มาจากชนบท จำเป็นต้องมีที่ดินทำกินให้ครอบครัว เราหลายคนเป็นผู้นำครอบครัว อาชีพของเราคือการทำงานไม่ต่างจากอาชีพอื่นที่ควรได้รับความคุ้มครอง แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้รับการปฏิบัติด้วยการคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีกฎหมายและนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและการทำงานของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการล่อซื้อและบุกทลาย และการค้าประเวณีถึงแม้จะมีความผิดก็ไม่ได้หมายเจ้าหน้าที่รัฐหรือใครจะกระทำอย่างไรกับเราก็ได้ ซึ่งคณะกรรมการ CEDAW ได้มองเห็นว่าการทำงานของพวกเราต้องได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายแรงงาน โดยคณะกรรมการ CEDAW ได้ระบุในข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยในข้อ 27 ให้รัฐบาลไทยหยุดการล่อซื้อบุกทลาย และทบทวน พรบ.ปรามการค้าประเวณีให้ไม่มีความผิดทางอาญา และภายใต้กฎหมายแรงงานพนักงานบริการต้องได้รับการคุ้มครอง "รัฐบาลไทยต้องเร่งดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ CEDAW เหล่านี้ให้เป็นรูปธรรมซึ่งเราเอ็มพาวเว่อร์จะเฝ้าระวังและติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดว่า ได้ดำเนินการเพื่อที่จะปกป้องคุ้มครองผู้หญิงทุกๆ กลุ่มอย่างเป็นรูปธรรมได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร" ตัวแทนจากมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ การเสวนาครั้งนี้ยังมีตัวแทนจากโครงการ SHEro เพื่อลดความรุนแรงในครอบครัว ตัวแทนจากมูลนิธิผู้หญิง ที่ได้พูดถึงผลกระทบของผู้หญิงในอีกหลากหลายประเด็นและตัวแทนเครือข่ายผู้หญิงยังได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ร่วมเครือข่ายผู้หญิงและผู้หญิงเพศหลากหลายในประเทศไทยที่ติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เพจ “สยามรัฐ สตรี-เยาวชน”

“3 เซเลบริตี้” แชร์เทคนิคการดูแลตัวเองให้สวยใส

ก้าวไปพร้อมกันกับนวัตกรรมแห่งความงามกับทุกคอร์สบิวตี้ ทาง ซีพีเอ็น นำโดย ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ กันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
จัดแคมเปญ “Enhance Your Beauty 2017” จับกระแสเทรนด์ความงามและการดูแลสุขภาพและความงามที่กำลังมาแรง
เอาใจลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่รักสวยรักงามทั่วประเทศให้สวยคูณสอง โดยร่วมกับสถาบันความงามกว่า 50 แบรนด์ 300 ร้านค้า ที่ตั้งอยู่บริเวณโซนบิวตี้ ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล รวม 30 สาขา คัดสรรโปรโมชั่นดูแลความสวยให้สาวๆ มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย พร้อมชวน 3 เซเลบริตี้สาวสวย ได้แก่ หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, กนกรส กิตติขจร และพลอยพยัพ ศรีกาญจนา ร่วมแชร์ประสบการณ์เคล็ดลับความสวย แบ่งปันเทคนิคการดูแลตัวเอง การเลือกสถาบันเสริมความงาม และ การเลือกซื้อคอร์สเพิ่มความสวยอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง กนกรส-นภพรรษ-อดุลย์-ปกรณ์-อัญรัตน์-กันตภณ-หฤทัย หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา กล่าวว่า ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบบ่อยสำหรับตัวเองคือผิวแพ้ง่ายเพราะพื้นฐานเป็นคนที่ผิวบาง เวลาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ต้องระวัง เพราะก่อนหน้านี้เคยหาหมอมาหลายที่และต้องใช้สเตียรอยด์ซึ่งจะใช้ได้ผลดีในช่วงแรก ยิ่งเมื่อใช้เยอะแล้วหน้าจะยิ่งบางลง หากจะต้องเลือกใช้สถาบันเสริมความงามก็ต้องเน้นแบบที่ตัวเองไม่แพ้ เช่น เลเซอร์ผิวหน้าเวลาที่ผิวหน้าไม่เนียนหรือเป็นสิว หรือส่วนใหญ่จะรักษาผิวหน้าด้วยการกินยาแต่จะเป็นพวกยาที่รักษาผิวแพ้ง่ายแบบไม่มีสเตียรอยด์ค่ะ อยากจะแนะนำผู้หญิงที่อยากสวยทุกคนนะคะ ให้ศึกษาข้อมูลก่อนเลือกใช้และควรเลือกสถาบันความงามที่น่าเชื่อถือ บางครั้งที่ที่คนอื่นว่าดีอาจจะไม่เหมาะสำหรับผิวหน้าเราเพราะแต่ละคนมีพื้นฐานผิวที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้นอกจากดูแลผิวพรรณตัวเองในสถานเสริมความงามแล้วอยากฝากถึงสาวๆ ทุกคนในการดูแลตัวเองโดยการหันมาออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วยค่ะ เพราะทดลองและรู้สึกได้กับตัวเองว่าเมื่อออกกำลังกายและทานผักผลไม้มากขึ้นร่างกายจะเผาผลาญดี ระบบขับถ่ายดี นอนหลับสบายและหลับสนิทมากขึ้น ทำให้ส่งผลดีจากภายในสู่ภายนอกค่ะ หฤทัย - กนกรส - พลอยพยัพ ด้าน กนกรส กิตติขจร กล่าวว่า จะมีปัญหาเรื่องสิวค่ะ มีเข้าสถาบันเสริมความงามบ้างคือการไปกดสิว และควบคุมอาหารโดยทานอาหารที่ไม่มัน ปกติเป็นคนชอบทานขนม ถ้าช่วงไหนทานขนมเยอะก็จะทานอาหารให้น้อยลง โดยเน้นผัก เนื้อไก่ อาหารที่ไม่ปรุงแต่งเยอะ และเราควรจะดูแลตัวเองตั้งแต่เด็กๆ ส่วนใหญ่จะบำรุงผิวหน้าด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทาครีมกันแดด และต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ตั้งแต่โตมาคุณแม่ก็จะบังคับให้คอยทาครีมทากันแดด ควบคุมอาหารกับขนมตลอด และจะเน้นออกกำลังกาย เช่น โยคะ และเล่นฟิตเนสของเวอร์จิ้นที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เนื่องจากประทับใจในเรื่องของพนักงาน และเทรนเนอร์ที่ดูแลเราดีทั้งการให้คำแนะนำ รวมถึงการจัดคอร์สในรูปแบบที่เราชอบค่ะ อยากแนะนำสาวๆเพิ่มเติมในภาพรวม นอกเหนือจากการดูแลตัวเองในเรื่องความสวยความงามแล้ว ควรดูแลตัวเองในด้านจิตใจด้วย เพราะช่วงไหนที่เราแย่ทุกอย่างก็จะไม่ดีหมด เลยส่งผลไปถึงเรื่องเรียนและเรื่องสุขภาพ ทำให้เราโทรม เราควรคิดบวกเพื่อบาลานซ์ตัวเอง และสุดท้ายควรออกกำลังกายเยอะๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ ขณะที่ พลอยพยัพ ศรีกาญจนา กล่าวว่า ที่มีปัญหาบ่อยคือเรื่องผมค่ะผมแห้งแตกปลายเยอะมาก ส่วนเรื่องผิวโชคดีที่ไม่ได้เป็นคนผิวแพ้ง่าย แต่หลักๆคือผิวมัน จะมีปัญหาเรื่องสิวตามมาเนื่องจากช่วงที่อยู่ต่างประเทศเราจะบินเยอะ จึงใช้บริการสถาบันเสริมความงามรมย์รวินท์ ที่เซ็นทรัลพลาซา ชิดลม โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลเรื่องการกดสิว แต่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะดูที่คุณหมอ ที่สถาบันที่น่าเชื่อถือ และดูผลตอบรับจากคนอื่นๆที่มารักษาด้วยค่ะ จริงๆแล้วเน้นเรื่องของความน่าเชื่อถือมากที่สุด เพราะให้ความสำคัญกับผิวมากเป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ สำหรับสาวๆคนไหนที่อยากมีผิวหน้าสวยใส พลอยมีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองคือจะชอบมาส์กหน้า Over night พอตื่นมาหน้าก็จะเป็นน้ำ หรือว่ามาส์กที่ทำใหรู้สึกเย็นลงเวลาเจออากาศร้อนๆ พลอยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำค่อนข้างบ่อย ส่วนเรื่องอื่นอย่างการออกกำลังกายเราก็ออกกำลังกายทุกวันในตอนเช้า แต่ละคนก็จะมีเวลาที่สะดวกไม่เหมือนกัน อย่างพลอยทำงานทั้งวันจึงเลือกตอนเช้าเพราะทำให้เราสดชื่นไม่เหนื่อย และจะออกกำลังกายโดยการใช้เทรนเนอร์ซึ่งเราจะมีวินัยมากขึ้นและไม่ขี้เกียจ ส่วนตัวจะออกกำลังกายโดยมีเทรนเนอร์ 4 วันต่ออาทิตย์ อีก 2-3 วันก็เข้าคลาส ส่วนเรื่องรับประทานอาหารก็จะหลีกเลี่ยงของมันและลดเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานค่ะ พบกับแคมเปญ “Enhance Your Beauty 2017” คัดสรรโปรโมชั่นความสวยจากสถานเสริมความงามแบรนด์ดังชั้นนำ พร้อมทั้งโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และร่วม Exclusive Party กับนักแสดงในดวงใจ “ก้อง สหรัฐ สังคปรีชา” ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2560 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล 30 สาขาทั่วประเทศ - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

"KMA ORGANIC ROSE LIP MATTE" ปรากฏการณ์ใหม่ลิปสติกเนื้อแมทท์

เครื่องสำอาง KMA เปิดตัวลิปสติกใหม่ล่าสุด KMA ORGANIC ROSE LIP MATTE ลิปสติกเนื้อแมทท์ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม ด้วยเนื้อสัมผัสที่เหนือกว่าเนื้อแมทท์ทั่วไป ปรากฏการณ์ใหม่แห่งความชุ่มชื่น เรียบเนียน และสดชัดด้วยอณูที่หนาแน่นแห่งเม็ดสี พร้อมคุณค่าแห่งการบำรุงของส่วนผสมออร์แกนิค ที่จะทำให้ริมฝีปากคุณสวยเจิดจรัส และแลดูสุขภาพดีไม่แปรเปลี่ยน ด้วย 10 เฉดสีใหม่ ราคา 320 บาท วางจำหน่าย ณ COSMETICS SHOP และเคาน์เตอร์ KMA ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

" ลอรีอัล ปารีส ลา พาเลทท์ โกลด์ " ไอเท็มที่ต้องมีไว้ในครอบครอง

วินาทีนี้เทรนด์ฮิตทั่วโลกที่สาวๆแฟชั่นนิสต้าทุกคนต้องพูดถึงและหาไอเท็มมาไว้ในครอบครองต้อง “สีทอง” เท่านั้น "ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ" แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำระดับโลก ขอเอาใจสาวๆสายแฟชั่นนิสต้าผู้หลงใหลความอินเทรนด์ตลอดเวลาทั้งแฟชั่นและเมคอัพ ส่ง ลอรีอัล ปารีส ลา พาเลทท์ โกลด์ (L’Oreal Paris La Palette Gold) อายแชโดว์พาเลท 10 เฉดสี
พาเลทนี้จะโดดเด่นด้วยโทนสีทองที่มาพร้อมชิมเมอร์ให้เปลือกตาสีทองระยิบระยับ ไปจนถึงโทนสีเข้มอย่างสีดำ ที่แฝงลูกเล่นสุด GLAM ไว้ด้วยประกายสีทอง อย่างชัดเจน
นอกจากสีเข้มแล้วในพาเลทยังมาพร้อมกับโทนสีนู้ดเหลือบทองสุดคลาสสิคและสีสันต่างๆให้เลือกมากมาย จะสวยละมุนโกลว์ๆ หรือจะเปรี้ยวโดดเด่นก็ครีเอทลุคต่างๆได้ไม่ซ้ำใคร แฟชั่นนิสต้าคนไหนไม่อยากตกยุคหลุดเทรนด์ห้ามพลาด! ลอรีอัล ปารีส ลา พาเลทท์ โกลด์ ราคาเพียง 649 บาท ที่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และที่เคาน์เตอร์ของลอรีอัล ปารีส ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ติดตามกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.lorealparisthailand.com, www.facebook.com/lorealparisthailand - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

5 เทรนด์นาฬิกามาแรง ปี 2017

เสริมเสน่ห์ให้การแต่งตัวดูดีมีสไตล์ กับเทรนด์นาฬิกามาแรงแห่งปี 2017 ที่ ห้างเซ็นทรัล สั่งตรงจากงานบาเซิลเวิลด์ และ งาน SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้มิกซ์ แอนด์ แมทช์ กับแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ในงาน มหกรรมนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่ครบครันที่สุดแห่งภูมิภาคเอเชีย “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 (Central International Watch Fair 2017)” โดย นิตย์สินี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า “นาฬิกาเป็นหนึ่งในแอคเซสซอรี่ที่ช่วยคอมพลีทลุคการแต่งกายในแต่ละวันให้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นลุคที่ต้องโก้ หรู ดูภูมิฐาน หรือจะลุคสนุกสนานตามเทรนด์แฟชั่น เสื้อผ้ามีความวาไรตี้เช่นไร เทรนด์นาฬิกาก็มีความหลากหลายเช่นกัน เพื่อให้สอดผสานกับแฟชั่นเสื้อผ้า และยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของผู้สวมใส่ โดยปี 2017 แฟชั่นเสื้อผ้าเน้นความเป็นเฟมินีน ทำให้หลายแบรนด์นาฬิกา ให้ความสนใจออกแบบนาฬิกาเอาใจสาวๆ เน้นที่ความบางเบา ตามเทรนด์ Slimmer Profiles and Ladies อาทิ Breitling , Charriol, Citizen, Hamilton ต่อกันที่แนวสปอร์ตลุคที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแมทช์เข้ากันกับไอเทมล้ำๆ ตามเทรนด์ Smart & Connected Watch อย่าง Diesel, Emporio Armani, Garmin, Sunnto นาฬิกาที่ฟลูออปชั่นด้วยเทคโนโลยี ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบคนรุ่นใหม่ และยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยดูแลเรื่องของสุขภาพอีกด้วย ถัดมานาฬิกาแนวสายถัก Mesh Strap เทรนด์มาแรงจากงานบาเซิลเวิลด์ปีนี้ที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสปอร์ตลุค มีให้เลือกหลายแบรนด์อย่าง Calvin Klein, Daneil Wellington, Rado, Tissot ซึ่งได้ออกแบบให้สายนาฬิกาเป็นลายถักสาน มีทั้งวัสดุที่ทำจากผ้าหรือโลหะ ให้ความรู้สึกแอดเวนเจอร์ พร้อมลุยไปในทุกที่และทุกกิจกรรมที่ทำ สำหรับปีนี้แฟชั่นในแนววินเทจกลับมาได้รับความนิยมจากเหล่าฮิปสเตอร์อีกครั้ง หลายๆ แบรนด์นาฬิกา จึงได้รีเวิร์สกลับไปเอาโมเดลที่เป็นรุ่นอมตะ มาปรับโฉมใหม่ให้มีความน่าหลงใหล สวยทันสมัย แต่ยังคงความสง่างามอยู่เหนือกาลเวลากับเทรนด์ Vintage Inspired ไม่ว่าจะเป็น Grand Seiko, Longines, Orisปิดท้ายด้วยเทรนด์สีนาฬิกาที่มาแรงของปีนี้ อย่างเทรนด์ Color Pop ที่จะเน้นหนักไปที่โทนสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกสุขุม หรูหราแต่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิค อย่าง Issey Miyake, Maurice Lacroix เป็นต้น เทรนดี้ ล้ำ ก่อนใครได้ในงาน “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 (Central International Watch Fair 2017)” ตั้งแต่วันนี้ – 18 กันยายน 2560 ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม รวมถึงแผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

Smart Woman I “บุญทิวา ด่านศมสถิต” ผู้บริหารสุดแกร่งบนเส้นทางป่าชุมชน

ใครจะเชื่อว่าสุภาพสตรีที่นั่งแท่นผู้บริหารระดับสูงในตำหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาในวงการซีเอสอาร์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นเน้น “ปลูกป่าในใจคน” ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อคืนพื้นที่สีเขียวกลับสู่ประเทศจากโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” จะเคยมีบางมุมที่พลิกชีวิตและมีแนวคิดที่น่าทึ่ง ก่อนจะก้าวเข้ามาสู่เส้นทางป่าชุมชน บุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า เดิมทำงานด้านบริหารมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พอย้ายมาบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ก็มารับหน้าที่เลขานุการบริษัท พร้อมกับดูแลงานบุคคลและสำนักงาน เมื่อได้ทราบว่าต้องมาทำงานซีเอสอาร์ (CSR - Corporate Social Responsibility) ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่าเราจะทำได้ดีหรือเปล่า เพราะจากที่เคยอยู่แต่ในสำนักงาน ก็จะต้องมาลงพื้นที่ทำงานสนามซึ่งเป็นบทบาทที่ไม่เคยทำมาก่อนภารกิจที่ได้รับมอบหมายคือให้ดูแลงานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัท ซึ่งต้องตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งผู้ถือหุ้น คู่ค้า พันธมิตร สังคม ชุมชน ตลอดจนพนักงานและผู้บริหารในบริษัทด้วย ทั้งนี้งานซีเอสอาร์เป็นงานที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายให้ความสำคัญ จึงเป็นความจำเป็นของเราที่จะต้องศึกษาเรียนรู้และสร้างความรักในงานซีเอสอาร์ เพื่อให้กระบวนการทำงานและผลของงานออกมาดีที่สุด และเมื่อได้ลงมือทำงานจริงก็ได้พบว่าในการที่จะทำงานซีเอสอาร์ให้ดีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หลักวิชาการที่ซับซ้อนเลย
สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่าเรามีความจริงใจ มีความตั้งใจจริง มีความมุ่งมั่น มีความรักและทุ่มเท เพื่อที่จะให้งานเดินไปได้ตามวัตถุประสงค์
ปัจจัยความสำเร็จของงานซีเอสอาร์ประกอบด้วยสองส่วนที่สำคัญ ส่วนแรกคือ “ภายในบริษัท” ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูง คณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น และพนักงานทุกระดับ ดังนั้นโครงการต่างๆ ที่เราริเริ่มและสานต่อจะต้องตอบสนองวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัท เพื่อให้ได้รับความเห็นชอบและสนับสนุนทรัพยากรในการทำงานซึ่งรวมถึงงบประมาณด้วย และส่วนที่สองคือ “พันธมิตร” อย่าง“โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” มีพันธมิตรที่สำคัญคือ กรมป่าไม้ ชุมชน และหน่วยงานในท้องถิ่น ซึ่งจะให้ความร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนโครงการของเรา ที่สำคัญการเลือกโครงการและกิจกรรมนั้น ไม่เพียงแต่ตอบสนององค์กรและชุมชนเท่านั้น เราจำเป็นต้องคำนึงถึงกระแสต่างๆ ทั้งกระแสสังคมและกระแสโลก ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs (Sustainable Development Goals) เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายรวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ เราก็ได้เชื่อมโยงเข้ากับงานของเราเช่นกัน “เรามีกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องหลากหลาย แต่งานป่าชุมชนถือเป็นกิจกรรมซีเอสอาร์หลักของเรา การเลือกกิจกรรมนี้ตกผลึกจากการพิจารณาร่วมกันของผู้บริหารและพนักงาน ทุกคนตระหนักดีว่าเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการทำธุรกิจของเรา จึงควรตอบแทนด้วยการดูแลรักษา และทรัพยากรสำคัญที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าควรให้การดูแลก็คือป่าไม้ ที่นับวันจะเสื่อมโทรมและมีพื้นที่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตามองค์กรของเรามีกำลังที่จะดูแลเรื่องนี้ไม่มากนัก ทำเองลำพังก็คงไม่ง่ายที่จะสำเร็จ จึงมองหาผู้ที่จะมาช่วยเรา และได้เลือก “กรมป่าไม้” เพราะเป็นผู้มีองค์ความรู้ทางวิชาการและเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย โดยในช่วงเริ่มโครงการเป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มแนวคิดป่าชุมชน ซึ่งมีหลักการใหญ่คือการที่ทำให้ชุมชนมีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ นั่นคือสามารถใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากคนเราจะมองตัวเองก่อน แล้วจึงค่อยๆมองขยายออกไป คือใช้กับครอบครัวของเขาได้ ใช้กับชุมชนของเขาได้ เขาก็จะดูแลรักษาให้ดียิ่งๆขึ้น และต้องใช้การมีส่วนร่วมของชุมชน โดยอย่างแรกการจะยื่นขอจดทะเบียนเป็นป่าชุมชน คนในชุมชนจะต้องรวมตัวกันอย่างน้อย 25 คนเพื่อเสนอเรื่อง และตั้งเป็นคณะกรรมการป่าชุมชน ร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผน และร่วมกันทำงาน การมีส่วนร่วมนี้เองจะทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งพิงตนเองได้ ชุมชนจะกำหนดกติกากันเองซึ่งทำให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเกื้อกูล ป่าชุมชนบางแห่งมีการนำรายได้บางส่วนที่ได้จากการเก็บหาผลิตผลจากป่าเข้ามารวมเป็นกองทุนเพื่อเอาไว้ดูแลรักษาป่าของพวกเขา เช่น การปลูกต้นไม้เสริม ทำแนวกันไฟ บวชป่า และกิจกรรมต่างๆ” บุญทิวากล่าว เราได้น้อมนำหลักการทรงงาน “ปลูกป่าในใจคน” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ในการดำเนินงานโครงการนี้ โดยมี 3 กิจกรรมหลักภายใต้โครงการ ประกอบด้วย การประกวดป่าชุมชน การสัมมนาผู้นำเครือข่ายป่าชุมชน และค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม ซึ่งล้วนมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ปลุกและปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ตระหนักในความสำคัญของป่าไม้ทั้งสิ้น เมื่อเริ่มงานใหม่ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากงานเดิมอย่างมาก เพื่อนและผู้เกี่ยวข้องอาจเกิดความห่วงใยว่าจะทำงานนี้สำเร็จได้หรือไม่ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อธิบายให้ฟังว่า การทำงานใดที่จะให้ประสบความสำเร็จนั้น คนทำควรกำหนดตัววัดความสำเร็จในงานของตน (KPI-Key Performance Index) สำหรับตนเองนั้น เมื่อเข้ารับหน้าที่ใหม่ก็เริ่มจากเรียนรู้และปรับตัวจากลักษณะงานที่เคยอยู่ในสำนักงาน ต้องออกมาลงพื้นที่เอง และคิดว่าเราจะสื่อสารอย่างไรเพื่อให้ชุมชนได้รับรู้ถึงความจริงใจของบริษัท เพราะส่วนใหญ่คนจะมองว่าเราจะมาเอาอะไรหรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาและเราก็ไม่ได้ให้ แต่ตนเองมีหลักคิดว่าเราจะมาร่วมมือกันทำประโยชน์มากกว่า เพราะฉะนั้นทุกโครงการที่ทำ เราไม่ได้ให้ ไม่ได้ให้เงินบริจาค ไม่ได้ให้อะไรทั้งสิ้น แต่เป็นในลักษณะเราสนับสนุนเรื่องนี้ คุณสนับสนุนเรื่องนั้น คือทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งก็คือซีเอสวี (CSV -Creating Shared Value) คือสร้างคุณค่าร่วมกัน เราเป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท เมื่อได้รับมอบหมายอะไร เราก็ต้องทำให้สำเร็จ การที่บริษัทมอบหมายให้เรา แสดงว่าต้องคิดว่าเราทำได้ ต้องเห็นอะไรบางอย่างที่คิดว่าเรารับได้ โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า การได้รับมอบหมายงานใหม่ ต้องถือว่าเราได้รับโอกาสใหม่ เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถเรียนรู้และทำได้ทุกงาน อย่างหนึ่งอาจเป็นเพราะเรียนมาทางด้าน “อักษรศาสตร์” และ “บริหารธุรกิจ” ซึ่งเป็นฐานความรู้ที่ทำให้เราสามารถปรับตัวรับอะไรใหม่ๆได้เสมอ อาจจะทำได้ง่ายกว่าคนที่เรียนมาทางวิชาชีพเฉพาะ อีกอย่างการทำงานไม่ได้ใช้สิ่งที่เราเรียนมาจากในมหาวิทยาลัยทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่เราต้องศึกษาหาความรู้และทักษะใหม่ๆ และปรับใช้ในงานของเรา “อย่างไรก็ตามตนเองเชื่อว่าเราสามารถทำได้ทุกอย่าง ถ้ามีความรักและตั้งใจทำ และก็เชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาดูแล้วว่าเราทำได้ พอเรามีความเชื่อมั่นในสองอย่าง คือ เชื่อมั่นในองค์กร เชื่อมั่นในตนเอง เราก็ทำได้ทั้งนั้น” บุญทิวากล่าวทิ้งท้าย "ศุภลักษณ์ หัตถพนม"

ดื่มด่ำงานศิลป์กับนิทรรศการ “ธารศิลป์สายใยแห่งวันแม่”

ด้วยความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสเดือนมหามงคลสิงหาคม พ.ศ. 2560 ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร จัดนิทรรศการ “ธารศิลป์สายใยแห่งวันแม่” เพื่อ
แสดงภาพวาดและผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าของศิลปินชื่อดังที่หาชมได้ยากจำนวนกว่า 250 ผลงาน
โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์ เป็นประธานเปิดนิทรรศการ ร่วมด้วย หม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา, คุณยาจิตร ยุวบูรณ์, คุณมาลินี สุขมงคล และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมประมูลภาพและชมนิทรรศการภายในงาน คุณประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ รองประธานบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ “ธารศิลป์สายใยแห่งวันแม่” ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “SHOW DC Wonderful Mom” ที่ทางโชว์ ดีซี ตั้งใจจัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคม เพื่อเผยแพร่ผลงานศิลปะหลากหลายแขนงซึ่งมีคุณค่าและหาชมได้ยากจากมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร โดยมีภาพวาดของศิลปินชื่อดังที่รังสรรค์ขึ้น เพื่อจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 , สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมถึงภาพวาดพระบรมวงศานุวงศ์ และผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงในงานอีกมากมาย คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์  (ที่ 4 จากซ้าย)  ประธานพิธีเปิดนิทรรศการ ร่วมด้วย       คุณประภาวัลย์  เวลาดีวงณ์  (ที่ 5 จากซ้าย)  คุณลลิสา  จงบารมี  (ที่ 3 จากซ้าย)        แขกผู้มีเกียรติและศิลปินเจ้าของผลงาน ด้าน คุณลลิสา จงบารมี ประธานมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ “ธารศิลป์สายใยแห่งวันแม่” ในครั้งนี้ ได้รวบรวมผลงานของศิลปินในมูลนิธิฯ กว่า 50 คน ที่พร้อมใจกันนำผลงานมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน ทั้งภาพเขียน ภาพวาดสีน้ำมัน ภาพลายเส้น และผลงานศิลปกรรมอื่นๆ อีกมากมาย รวมกว่า 250 ผลงาน นำโดย อาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร, อาจารย์แนบ โสตถิพันธุ์, อาจารย์สมยศ คำแสง, อาจารย์อภิชัย การิกาญจน์, อาจารย์กิตตินันท์ วิจิตรพันธ์ โดยรายได้ครึ่งหนึ่งจากการจำหน่ายภาพในงาน จะนำสมทบเข้ากองทุนมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินให้กับศิลปินในโครงการ การวาดภาพสด  โดย อ.สมยศ คำแสง เพื่อนำไปประมูลในงาน นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดให้มีการประมูลภาพวาดสด โดยอาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร และอาจารย์สมยศ คำแสง เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคอีสานให้กับ “ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” โดยท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน และคุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์ ยังได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท อีกด้วย สำหรับ นิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ 1.การจัดแสดงภาพวาดในหลวงรัชกาลที่ 9 และภาพวาดในหลวงรัชกาลที่ 10 รวมถึงภาพวาดพระบรมวงศานุวงศ์ 2.ภาพวาดที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตประเพณีไทย 3.ภาพวาดศิลปะมุมมองอื่นๆ จากมูลนิธิฯ และ 4.ผลงานประติมากรรมร่วมสมัย นอกจากนี้ภายในงานได้มีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่เป็นไฮไลท์ คือ ภาพวาดพระฉายาลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงสายใยรักและความผูกพันของผู้เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน และผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าอื่นๆ อีกมากมาย .. ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ “ธารศิลป์สายใยแห่งวันแม่” ระหว่างวันนี้ -31 สิงหาคม 2560 ณ SHOW ART HALL ชั้น 4 ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.showdc.co.th หรือ www.facebook.com/showdc.co.th - ฝากข่าวประช่สัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

“Fall Collection 2017” เท่แบบ Ready-to-Wear สไตล์อเมริกัน

อัพเดทลุคใหม่บ่งบอกความเป็นตัวตนของ “RIR” (Royal Ivy Regatta) แบรนด์เครื่องแต่งกายพรีเมียมสไตล์อเมริกัน ภายใต้เครือยัสปาล ด้วยการ เปิดตัว Fall Collection 2017 กับเสื้อผ้าดีไซน์พรีเมียม แต่ยังคงความสวมใส่ง่ายสไตล์อเมริกัน สำหรับผู้หลงใหลและสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทาง และลายพรินต์ที่สื่อถึงธรรมชาติ ถ่ายทอดเป็นเครื่องแต่งกายดีไซน์ร่วมสมัย เสริมสร้างบุคลิกภาพอันโดดเด่น จากการนำรสนิยมแฟชั่นชนชั้นสูงมาผนวกกับไลฟ์สไตล์สุดคูลในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
Women’s Collection 2017 นำเสนอเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายสไตล์มิลิทารี่ ผสมผสานกับลุคเฟมินิน
ผ่านเนื้อผ้าและรายละเอียดต่างๆ ลงบนแพทเทิร์นที่ยังคงความเรียบง่าย ทะมัดทะแมง สวมใส่สบาย พร้อมแฝงกลิ่นอายในแบบของ RIR อาทิ กระเป๋าเสื้อและกระดุมบนโครงเสื้อขนาดโอเวอร์ไซส์ การตกแต่งด้วยลายปักทหาร โทนสีแนวมิลิทารี่ผสมผสานกับลายขวาง (Breton Stripe) ซึ่งช่วยเติมกลิ่นอายในแบบฉบับคนเมืองให้กับคอลเลคชั่นได้อย่างลงตัว โทนสีที่ใช้เน้นโทนสีเบจ และสีที่เลียนสีธรรมชาติ (Muted Tone) อาทิ สีเขียวทหาร (Military Green) สีชมพูอ่อน (Baked Pink) สีฟ้าอ่อน (Powder Blue) สีน้ำเงินมิดไนท์บลู (Midnight Blue) ผสมผสานกับโทนสีแบบธรรมชาติอย่างนู้ดเบจ (Nude Beige) สีออฟไวต์ (Off White) และสีเทาอ่อน (Soft Grey) ผสานกับไอเท็มเด่นในคอลเลคชั่นอย่าง จัมพ์สูท เบลเซอร์โอเวอร์ไซส์ แมทช์คู่กับกางเกงขาบานสุดเท่ สัมผัสกับเสน่ห์แห่งธรรมชาติ กับเสื้อผ้าดีไซน์เท่ แฝงความเรียบหรู พร้อมการตัดเย็บคุณภาพระดับพรีเมียมได้แล้ววันนี้ที่ช็อป RIR ทุกสาขา หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Royalivyregatta - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Suppaluck.51@gmail.com

“ลอฟท์” ชวนช้อปสินค้าดังจากญี่ปุ่น

"ลอฟท์" ไลฟ์สไตล์ช็อปชื่อดังจากญี่ปุ่น เอาใจคุณสาวๆที่รักสวยรักงามและอยากมีผิวขาว ใส สุขภาพแข็งแรงดั่งผิวสาวญี่ปุ่น กับผลิตภัณฑ์นำเข้าใหม่แกะกล่องที่การันตีจากยอดใช้อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น .. เริ่มกันที่ แบรนด์ “Keana” ขวดสีแดงช่วยลดวามมันบนใบหน้าและมีส่วนผสม Blue Scrub ทำลายสิ่งสกปรกที่อุดตันออก ขจัดหนังกำพร้าและทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น รวมทั้งช่วยฟื้นฟูรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าสะอาด ใสขึ้น ส่วนผู้ที่ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใส ขอแนะนำ แบรนด์ “Transparent White” โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ion ช่วยดึงสารเมลานีนที่เป็นตัวทำร้ายผิวให้หมดไปเพื่อเผยผิวขาวสดใสกับครีมมาร์คหน้า คืนผิวหน้ากระจ่างใสให้กลับมาภายใน 5 นาที อีกหนึ่งความนิยมของประเทศญี่ปุ่นกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาหร่ายทะเล กับ แบรนด์ SQS ตัวช่วยสำหรับผิวที่รูขุมขนกว้างและลึก ช่วยกระชับรูขุมขน เติมเต็มความชุมชื้นให้กับผิวหน้า นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางค์ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆจาก แบรนด์ Love drops ทั้งอายไลน์เนอร์ และมาสคาร่า คอลเลคชั่น กันน้ำ เส้นคมชัดช่วยให้ดวงตาดูกลมโต ... ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมากมายที่ให้ขาช้อปได้เลือก พร้อมรับสิทธิพิศษโปรโมชั่นมากมาย ผ่าน www.loftbangkok.com, Facebook ที่ loftbangkok และ ร้านลอฟท์ สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่, พาราไดซ์ พาร์ค, สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และ เมกา บางนา - ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ที่ Suppaluck.51@gmail.com