ศุลกากรขานรับนโยบายเร่งด่วน บุกค้นโกดังพบเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มี มอก.

ศุลกากรขานรับนโยบายเร่งด่วน บุกค้นโกดังพบเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มี มอก. อย่างต่อเนื่อง และเข้มงวดป้องกันทุเรียนสวมสิทธิ์ 

วันนี้ (30 สิงหาคม 2567) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าราคาต่ำ สินค้าไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่ายในประเทศ กรมศุลกากรจึงได้ขานรับนโยบาย โดยนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่งที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้มีการขอหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมสินค้าไม่ได้มาตรฐานจากโกดังที่เก็บสินค้าเพื่อรอการจำหน่ายได้เป็นจำนวนมาก และยังมีการเพิ่มอัตราสุ่มเปิดตรวจตู้คอนเทนเนอร์สินค้า เพื่อป้องกันมิให้สินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานผ่านออกจากอารักขาของกรมศุลกากรก่อนได้รับการอนุญาตจาก สมอ. กระทรวงอุตสาหกรรม อีกด้วย

โดยเมื่อวันที่ (23 สิงหาคม 2567)  กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้รับการข่าวว่ามีสินค้าไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และไม่ผ่านพิธีการศุลกากร เก็บอยู่ในโกดังที่เก็บสินค้าเพื่อรอการจำหน่าย ในพื้นที่ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุม ผลการตรวจค้น พบสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ อาทิ หม้อหุงข้าว หม้ออบลมร้อน พัดลม รวมจำนวน 1,165 ชิ้น มูลค่ากว่า 624,500 บาท ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และไม่พบเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร กรณีนี้เป็นความผิดตามมาตรา 242 และ 246 ประกอบมาตรา 166 และ 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า ถึงแม้การตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ จะพบจำนวนสินค้าและมูลค่าไม่มากแต่หากสินค้าเหล่านี้นำไปจำหน่ายยังท้องตลาดย่อมเป็นอันตรายต่อประชาชน อีกทั้งการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานในราคาที่ต่ำนี้ ยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการสุจริตที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและเข้มข้นมากขึ้น สำหรับกรมศุลกากร นอกจากการลงพื้นที่ตรวจค้นตามโกดัง หรือที่พักสินค้าที่สงสัยว่ามีสินค้าไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้แล้วยังได้ทำการอายัดสินค้า ณ ท่า/ที่ที่นำเข้าเพื่อรอผลการพิจารณาอนุญาตจาก สมอ. เป็นจำนวนมากอีกด้วย หากสินค้าที่อายัดไว้นั้นไม่ได้คุณภาพตามที่ สมอ. กำหนด จะสั่งให้ดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางตามแนวทางที่ สมอ. กำหนดต่อไป 

สำหรับในปีงบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 30 สิงหาคม 2567) กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ทั้งสิ้น 27 คดี จำนวน 242,966 ชิ้น มูลค่ารวม 69.17 ล้านบาท 

นอกจากนั้น จากกรณีที่มีข่าวว่าอาจมีการลักลอบนำเข้าทุเรียนเพื่อสวมสิทธิ์ส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น อธิบดีกรมศุลกากรยังได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวังและปราบปรามทุเรียนลักลอบนำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพ และไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคชาวไทย และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์/ชื่อเสียงทุเรียนส่งออกของไทย หากมีการสวมสิทธิ์ส่งออกไปยังต่างประเทศ รวมถึงเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกรไทยอีกด้วย

จันทบุรี เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังซื้อของเก่าเผาเกือบวอด เจ้าของเผยคาดเกิดจากเสียบหม้อข้าวใบเดียว

จันทบุรี เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังซื้อของเก่าเผาเกือบวอด เจ้าของเผยคาดเกิดจากเสียบหม้อข้าวใบเดียว ทำไฟฟ้าลัดวงจร สาเหตุรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความชัดเจน

วันที่ 30 พ.ค. 67 เวลา 17.30 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรีได้รับแจ้งเกิดเพลิงไหม้โกดังรับซื้อของเก่า บริเวณพื้นที่หมู่ 13 ต.คลองนารายณ์อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีผู้ติดอยู่ด้านในหรือไม่

หลังรับแจ้งได้ประสานงานทาง เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ และจากเทศบาลใกล้เคียงร่วมกับทางอาสากู้ภัย เดินทางตรวจสอบและให้การช่วยเหลือดับไฟ

ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นโกดังรับซื้อของเก่า ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทขาเข้าตัวเมือง ช่วงก่อนถึงทางเข้าวัดทองทั่ว ต.คลองนารายณ์ โดยเพลิงกำลังโหมลุกลามมาจากด้านหลังของโกดัง พร้อมทั้งมีกลุ่มควันพวยพุ่งหนาแน่น

ขณะที่รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ และเทศบาลตำบลจันทนิมิต กำลังระดมช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงอย่างโกลาหล จากการตรวจสอบภายในโกดังพบว่า ด้านในที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นที่เก็บกล่องกระดาษและวัสดุพลาสติก ตลอดจนพาเลทพลาสติก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่งผลทำให้เพลิงลุกลาม อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องทำการขนกล่องกระดาษจำนวนมาก ตลอดจนวัสดุไวไฟออกมาด้านนอก พร้อมระดมฉีดน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้สำเร็จ แต่ยังคงพรมฉีดน้ำสกัด กองเถ้าถ่านเกรงเกรงจะลุกลามขึ้นมาอีก

            จากการสอบถาม นางสาวจิตตรา ละครวงษ์ เจ้าของโกดัง เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ที่โกดัง มีเพียงพ่อกับคนคนงานทำงานอยู่ด้านในส่วนสาเหตุพ่อบอกเพียงว่าเกิดจากไฟฟ้าจากหม้อหุงข้าวลัดวงจร และอาจลุกลามไปติดกับวัสดุติดไฟ ทำให้ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสาเหตุความชัดเจน

ทั้งนี้สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันโกดังดังกล่าวตนเองมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง และขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ