เอเชียนเอจกรุ๊ป

ผลงานของทัพนักกีฬาระบำใต้น้ำทีมชาติไทย สร้างผลงานคว้า 1 เหรียญทอง , 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทอง ในการแข่งขันรายการ เอเชียนเอจกรุ๊ป (Asian Age Group Championships 2023) ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ โดย ปัฌรวี ชยวรารักษ์ และ กันตินันท์ อดิศัยสิริบุตร ประเภท Mixed duet Free รุ่นอายุ 15-19 ปี , 3 เหรียญเงิน จาก Mixed Team Acrobatic รุ่นอายุ 15-19 ปี ประเภท Solo Free รายการ Acrobatic รุ่นอายุ 15-19 ปี และ 2 เหรียญทองแดงจากรายการ Mixed Duet Free รุ่นอายุ 13-15 ปี และประเภท Team Free Combination รุ่นอายุ 13-15 ปี +12 Under 

พลเอกอภิชาติ แสงรุ่งเรือง ประธานฝ่ายกีฬาระบำใต้น้ำ กล่าวว่า จากผลงานเหรียญรางวัล ทีมระบำใต้น้ำของไทยทุกรุ่นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยังต้องพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะในด้านความแข็งแรง ความคมชัดและความสมบูรณ์ของท่าเล่น และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการแข่งขันระดับนานาชาติอีก 2 รายการใหญ่ คือ ซีเอจกรุ๊ปแชมป์เปี้ยนส์ชิพ 2024 และ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33  ปี2025 โดยจะต้องฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง มีการจัดสรรเวลาและตารางฝึกซ้อมให้ชัดเจน เหมาะสม และสอดคล้องกับกติกาของแต่ละรายการแข่งขัน รวมถึง รุ่นอายุของนักกีฬาด้วย

ส่วนทีมโปโลน้ำหญิงทีมชาติไทย สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรายการ เอเชียนเอจกรุ๊ป (Asian Age Group Championships 2023) ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพด้วยการคว้าเหรียญเงิน ซึ่งเป็นเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์ในรายการนี้ ส่วนเหรียญทองเป็นของ ญี่ปุ่น และ เหรียญทองแดงเป็นของ จีน ขณะที่ทีมโปโลน้ำทีมชาย จบอันดับ 9 ของการแข่งขันจากทั้งหมด 10 ประเทศ เหรียญทองเป็นของญี่ปุ่น , เหรียญเงินเป็นของอิหร่าน และ เหรียญทองแดง คาซัคสถาน 

พลเอกสรศักดิ์ ขาวกระจ่าง ประธานฝ่ายกีฬาโปโลน้ำ กล่าวว่า โปโลน้ำทีมหญิงชุดนี้เป็นสายเลือดใหม่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว และมีพัฒนาการที่ดี มีความเป็นทีมเวิร์ก และได้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาสนับสนุนทีมนักกีฬาด้วย ส่วนทีมนักกีฬาโปโลน้ำทีมชายเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่เริ่มสร้างและเก็บตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา 2566 จากศูนย์กีฬาโปโลน้ำของสมาคมฯ ซึ่งยังคงสร้างนักกีฬาโปโลน้ำอย่างต่อเนื่องต่อไป

จากผลงานการแข่งขันรายการ เอเชียนเอจกรุ๊ป (Asian Age Group Championships 2023) ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ รับว่าเป็นการแข่งขันระดับเอเชียอีกรายการหนึ่งที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 1,300 คนจาก 31 ประเทศ โดยการแข่งขันแบ่งเป็นประเภทอายุ 12-14 ปี(กลุ่ม2) , อานุ 15-17 ปี(กลุ่ม1) และ อายุ 18 ปีขึ้นไป(กลุ่มทั่วไป) โดยสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 4 ประเภท ได้แก่ กีฬาว่ายน้ำ , กีฬากระโดดน้ำ , กีฬาโปโลน้ำ และ กีฬาระบำใต้น้ำ สำหรับผลการแข่งขัน เจ้าเหรียญทอง ได้แก่ ญี่ปุ่น ทำผลงาน 46 เหรียญทอง , 21 เหรียญเงิน , 8 เหรียญทองแดง , อันดับ 2 ได้แก่ คาซัคสถาน คว้า 30 เหรียญทอง , 20 เหรียญเงิน , 8 เหรียญทองแดง ส่วนอันดับ 3 ไทย คว้า 19 เหรียญทอง , 16 เหรียญเงิน และ 25 เหรียญทองแดง ส่วนของกีฬาว่ายน้ำ สร้างผลงาน 18 เหรียญทอง , 12 เหรียญเงิน และ 23 เหรียญทองแดง ซึ่ง "เงือกเนย"กมนชนก ขวัญเมือง สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม ทำคนเดียว 10 เหรียญทอง , 3 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ได้รับรางวัลนักกีฬาดีเด่น (รางวัล Outstanding ) สาธิต หงษ์ทอง ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในภาพรวมนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยสามารถทำผลงานได้ดีเกินเป้าหมานที่วางไว้ตอนแรกที่ 15 เหรียญทอง เมื่อเปรียบเทียบกับการแข่งขันรายการเดียวกันในครั้งก่อน นักกีฬาของเราสร้างผลงานได้ดี ทั้งในเรื่องของเหรียญรางวัล และสถิติ โดยเฉพาะ กมนชนก ขวัญเมือง และ เจนจิรา ศรีสอาด สร้างผลงานทำลายสถิติประเทศไทย ทั้งนี้เกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีมของทุกคนตั้งแต่ระดับผู้บริหารสมาคมฯ ผู้ฝึกสอน รวมถึง นักกีฬา ขณะที่ พลเอกเจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่ผลงานประจักษ์แสดงถึงศักยภาพในเวทีกีฬาทางน้ำโลก โดยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กีฬาทางน้ำโลก(WORLD AQUATICS) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่สามัญ สมาชิก 36 ประเทศของ ASIA AQUATICS กำหนดจัดในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ที่โรงแรม EASTIN ด้าน ฮุสเซน อัล มุสซาลาม ประธาน WORLD AQUATICS กล่าวว่า เหตุผลที่สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยได้รับคัดเลือกเป็นเอกฉันท์ก็คือการได้ติตตามการปฎิบัติของคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยมา ซึ่งมีขีดความสามารถในการจัดประชุมระดับเอเชียได้ แม้ว่าการพัฒนาด้านการจัดแข่งขันระดับนานาชาติจะไม่มี AQUATICS CENTER ที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อจัดการแข่งขันได้เท่าชาติอื่นๆก็ตาม