ครม.ไฟเขียวเครื่องฟอกอากาศ-เครื่องดูดฝุ่นเป็นสินค้าควบคุมเพิ่มเติมปี 68

"พิชัย"เผย ครม. เคาะเครื่องฟอกอากาศ-เครื่องดูดฝุ่น เป็นสินค้าควบคุม พร้อมกำหนดมาตรการกำกับดูแลให้สินค้ามีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ 

วันที่ 22 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ “เครื่องฟอกอากาศ” และ “เครื่องดูดฝุ่น” เป็นสินค้าควบคุม (เพิ่มเติม) ปี 2568 เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้และสามารถป้องกันหรือบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์สามารถกำหนดมาตรการบริหารจัดการ ป้องกันประชาชนโดนเอารัดเอาเปรียบ 

สำหรับรายละเอียดการควบคุม คือ สินค้าเครื่องฟอกอากาศชนิดฟิลเตอร์ (HEPA Filter) และชนิดไอออน (Ionizer) ที่มีขนาดพื้นที่ใช้งานไม่เกิน 80 ตารางเมตร แบบตั้งพื้น และมีวัตถุประสงค์ใช้งานสำหรับภายในอาคารหรือที่พักอาศัย ส่วนสินค้าตัวดูดฝุ่นไฟฟ้า (เครื่องดูดฝุ่น) ชนิดมาตรฐาน แบบมีถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นและมีสายเสียบปลั๊กไฟและชนิดด้ามจับ แบบมีสายเสียบปลั๊กไฟ และไม่มีสายเสียบปลั๊กไฟ ที่มีขนาดกำลังไฟฟ้าเข้าที่กำหนดตั้งแต่ 500-2,000 วัตต์ และมีวัตถุประสงค์ใช้งานสำหรับภายในอาคารหรือที่พักอาศัย

ส่วนมาตรการในการกำกับดูแล ได้กำหนดให้ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย แจ้งปริมาณ ราคา และรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าเป็นประจำทุกเดือนในวันที่ 10 ของเดือนถัดไป เพื่อกำกับดูแลสินค้าให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ และผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 

ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้าและบริการควบคุมปัจจุบันมีทั้งหมด 57 รายการ (สินค้า 52 รายการและบริการ 5 รายการ) แยกเป็น 11 หมวด ประกอบด้วย 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.บริภัณฑ์ขนส่ง 3.ปัจจัยทางการเกษตร 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.ยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ 6.วัสดุก่อสร้าง 7.สินค้าเกษตรสำคัญ 8.สินค้าอุปโภคบริโภค 9.อาหาร 10.อื่น ๆ และ 11.บริการ โดยเครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่นั้น จะอยู่ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะทำให้จำนวนสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มขึ้นเป็น 59 รายการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากขึ้นบัญชีเป็นสินค้าควบคุมแล้ว หากตรวจสอบพบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในส่วนของประชาชน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ Line@MR.DIT หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

#เครื่องฟอกอากาศ #ข่าววันนี้ #กระทรวงพาณิชย์ #สินค้าควบคุม #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

"โคเวย์ ประเทศไทย" เข้าชิง 2 รางวัลใหญ่เวที Future Trends-Thailand Social Awards ขึ้นแท่น No.1 Subscription Brand

โคเวย์ ประเทศไทย ผู้นำด้านเครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศจากประเทศเกาหลีใต้ เข้าชิง 2 รางวัลใหญ่จากงานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ ทั้งเวที “Future Trends Awards 2025” สาขา The Most Future Brand และ “Thailand Social Awards 2025” ในหมวด Consumer Electronics ประเภท Best Brand Performance on Social Media ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ Subscription อันดับ 1 ที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุดของเมืองไทย

เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 นายซึงยุน ปาร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โคเวย์ ประเทศไทย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องจาก 2 เวทีอันทรงเกียรติในครั้งนี้ โดยรางวัล Future Trends Awards สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโคเวย์ในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ด้านสุขภาพที่ยั่งยืนในประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอโซลูชันประสิทธิภาพสูงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคตามวิสัยทัศน์ Best Life Solution Company และได้ทุ่มทุนมากกว่า 1,200 ล้านบาทในการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค โคเวย์ยังเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุรีไซเคิลมากกว่า 75% เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิตให้มากที่สุด

สำหรับ Thailand Social Awards ถือเป็นรางวัลแห่งความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าในเมืองไทยทุกกลุ่ม โดยโคเวย์มีเป้าหมายในการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแก่ผู้บริโภคผ่านบริการ Subscription โดยสื่อสารผ่านแคมเปญและกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆร่วมกับการใช้ KOLs/KOCs ที่ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram, TikTok, YouTube ฯลฯ ทั้งในสายสุขภาพและไลฟ์สไตล์มาช่วยยกระดับการรับรู้ต่อแบรนด์ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างลงตัว เพื่อให้ผู้บริโภคในทุกพื้นที่สามารถเข้ามาส่วนร่วมกับทุก ๆ กิจกรรมของเราได้แบบเรียลไทม์ และทำให้เราโคเวย์เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มี Engagement ของผู้บริโภคสูงเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย”

งานประกาศผลรางวัล Future Trends Awards 2025 จัดขึ้นเพื่อเชิดชูความสำเร็จแก่แบรนด์ องค์กร และบุคคลแห่งอนาคต ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์พร้อมผลงานนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นที่มอบคุณค่าต่อสังคมในวงกว้าง เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตและเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยงานในปีนี้จัดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Trends for Better Life”  โดยโคเวย์ผ่านการคัดเลือกเข้า Finalist 34 แบรนด์ ประเภท Future Trends Corporates Awards ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับองค์กรชั้นนำที่สร้างพลังขับเคลื่อนให้กับวงการธุรกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล แนวคิดการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้านเวที Thailand Social Awards ครั้งที่ 13 ประจำปี 2568 งานประกาศรางวัลโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จัดโดย บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด มีจุดประสงค์เพื่อให้ความสำคัญกับวงการโซเชียล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ และยกระดับวงการโซเชียล ด้วยการมอบรางวัลเชิดชูผู้ใช้โซเชียลมีเดียยอดเยี่ยมในสาขาต่าง ๆ โดยงานปีนี้มีการประกาศผลรางวัลรวม 31 สาขารางวัล ซึ่งโคเวย์ได้เข้าชิงรางวัลในประเภท Best Brand Performance on Social Media (แบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย) สาขา Consumer Electronics โดยติดอันดับ Top 5 สุดยอดแบรนด์ที่มีผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย

"พิชัย" เคาะเครื่องฟอกอากาศ-เครื่องดูดฝุ่น เป็นสินค้าควบคุม กันโก่งราคา ไม่ให้ขาด ไม่ให้แพง  

“พิชัย” เป็นประธานประชุม กกร.เคาะเครื่องฟอกอากาศ - เครื่องดูดฝุ่น เป็นสินค้าควบคุม (เพิ่มเติม) พร้อมกำหนดมาตรการกำกับดูแลให้สินค้ามีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ เตรียมนำเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติต่อไป  

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2568 พร้อมด้วยนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะกรรมการฯ ที่ห้องประชุมกรมการค้าภายใน ชั้น 6 ห้อง 20610 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติให้สินค้าเครื่องฟอกอากาศและสินค้าตัวดูดฝุ่นไฟฟ้า (เครื่องดูดฝุ่น) เป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้กรมฯ สามารถนำมาบริหารจัดการในช่วงที่เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ โดยมีการกำหนดคุณลักษณะสินค้าเครื่องฟอกอากาศชนิดฟิลเตอร์ (HEPA Filter) และชนิดไอออน (Ionizer) ที่มีขนาดพื้นที่ใช้งานไม่เกิน 80 ตารางเมตร แบบตั้งพื้น และมีวัตถุประสงค์ใช้งานสำหรับภายในอาคารหรือที่พักอาศัย

ส่วนสินค้าตัวดูดฝุ่นไฟฟ้า (เครื่องดูดฝุ่น) ชนิดมาตรฐาน แบบมีถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นและมีสายเสียบปลั๊กไฟและชนิดด้ามจับ แบบมีสายเสียบปลั๊กไฟ และไม่มีสายเสียบปลั๊กไฟ ที่มีขนาดกำลังไฟฟ้าเข้าที่กำหนดตั้งแต่ 500 - 2,000 วัตต์ และมีวัตถุประสงค์ใช้งานสำหรับภายในอาคารหรือที่พักอาศัย ทั้งนี้ได้มีการกำหนดมาตรการให้ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย แจ้งปริมาณ ราคา และรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าเป็นประจำทุกเดือนในวันที่ 10 ของเดือนถัดไป เพื่อกำกับดูแลสินค้าให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ และผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 

สำหรับการนำสินค้าเครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นเป็นสินค้าควบคุม มีวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ดูแลสินค้าทั้ง 2 ชนิด “ไม่ให้ขาด ไม่ให้แพง” ซึ่งในภาวะที่มีฝุ่น PM 2.5 เป็นจำนวนมากเครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นถือว่ามีความจำเป็น โดยขณะนี้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาเห็นชอบแล้วและเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้

ทั้งนี้สินค้าและบริการควบคุมปัจจุบันมีทั้งหมด 57 รายการ (สินค้า 52 รายการและบริการ 5 รายการ) แยกเป็น 11 หมวด ประกอบด้วย 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.บริภัณฑ์ขนส่ง 3.ปัจจัยทางการเกษตร 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.ยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ 6.วัสดุก่อสร้าง 7.สินค้าเกษตรสำคัญ 8.สินค้าอุปโภคบริโภค 9.อาหาร 10.อื่น ๆ และ 11.บริการ โดยเครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่นั้นจะอยู่ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งจะทำให้จำนวนสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มขึ้นเป็น 59 รายการ

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ หากตรวจสอบพบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในส่วนของประชาชน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

#เครื่องฟอกอากาศ #เครื่องดูดฝุ่น #ข่าววันนี้ #สินค้าควบคุม #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

'อ.เจษฎา' แนะรัฐบาลเอาเงิน 140 ล้าน 'ขึ้นรถเมล์-รถไฟฟ้า'ฟรี  ไปซื้อเครื่องฟอกอากาศแจกโรงเรียนดีกว่า

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า...อธิบายนิดนึงนะครับ คือผมไม่คิดว่า มาตรการเรื่องให้ค่ารถเมล์ฟรีรถไฟฟ้าฟรี จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นได้ 
เพราะบางคนอาจจะคิดว่าให้ค่าโดยสารขนส่งสาธารณะพวกนี้ฟรี แล้วจะจูงใจให้คนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว มาใช้มากขึ้น 

ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้นครับ คนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว เขาใช้อยู่เพราะความสะดวก  ในเหตุจำเป็นอื่นๆ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินขึ้นรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าครับ 

คนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ ก็มีเพียงแค่การประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ที่เดินทางด้วยรถเมล์รถไฟฟ้าอยู่แล้ว และบริษัทที่ให้บริการขนส่งอยู่ครับ 

ดังนั้น ถ้ามีงบประมาณจะละลายแม่น้ำได้ขนาดนี้ น่าจะเอาไปใช้ซื้ออะไรอย่างอื่นที่เป็นเครื่องบรรเทาแก้ไขปัญหาฝุ่นโดยตรงดีกว่าครับ
 

 

 

"ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ ให้รพ.ชลบุรี แคมเปญ "ทุกเป้าหมาย มีความหมาย"

"ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ 15 เครื่อง ให้โรงพยาบาลชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอยู่ใกล้เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม  โดยมี คุณวัลลภ พ่วงไพโรจน์ กรรมการบริษัทและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนมอบเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 

ตามที่ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ ในนามของไดกิ้นประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลทีมชาติไทย จัดทำแคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ครั้งที่ 2 ชวนคนไทยเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย สู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 และ 26 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา

สำหรับ แคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ของ "ไดกิ้น" ตั้งเป้าหมายบริจาคเครื่องฟอกอากาศ 5 เครื่อง สำหรับ แมตช์การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทั้ง 2 นัด และบริจาคเพิ่มทุกๆ 1 ประตู ที่ทีมชาติไทยทำได้ โดย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงได้ 1 ประตู ในนัดที่ทีมชาติไทย บุกเยือน ทีมชาติเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ดังนั้น ไดกิ้น จึงบริจาคเครื่องฟอกอากาศ  รุ่น MC55UVM6-7 รวมเป็น 15 เครื่อง มูลค่ารวม 242,850 บาท ให้กับโรงพยาบาลชลบุรี จังหวัดชลบุรี ซึ่งนับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอยู่ใกล้เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม  

เครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีเทคโนโลยีฟอกอากาศภายนอกเครื่องโดยปล่อยประจุ Active Plasma Ion ความเข้มข้นของประจุสูงถึง 25,000 และฟอกอากาศภายในเครื่องด้วย เทคโนโลยี Streamer ที่จะช่วยฟอกอากาศสะอาดในห้องผู้ป่วยให้สะอาดปลอดฝุ่น PM 2.5 เพราะมีเซนเซอร์หน้าเครื่องวัดระดับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ละเอียดถึง 6 ระดับ ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส H1N1-H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น

ขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทยไปกับไดกิ้น และยังช่วยเปลี่ยนความสุขในสนามเป็นอากาศสะอาดเพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลไปด้วยกัน เพราะไดกิ้นเชื่อมั่นในศักยภาพของฟุตบอลทีมชาติไทย กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีแฟนๆ ฟุตบอลชาวไทยมาร่วมเชียร์ไทยไปกับไดกิ้น  

"ช้างศึก" ยิง "ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ 10 เครื่อง ให้ ร.พ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 

บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ ในนามของไดกิ้นประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลทีมชาติไทย  เดินหน้าแคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ชวนคนไทยเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย โดยนัดแรกที่ ทีมชาติไทย ลงสนาม พบกับ ทีมชาติจีน “ไดกิ้น” จะบริจาคเครื่องฟอกอากาศ 5 เครื่อง ทุกๆ 1 ประตู ที่ทีมชาติไทยทำได้

ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดแรก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 66 ทีมชาติไทย ยิงได้ 1 ประตู จาก สารัช อยู่เย็น และ “ไดกิ้น” บริจาคเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 เพิ่มอีก 5 เครื่อง รวมทั้งหมด  10 เครื่อง มูลค่ารวม 161,900 บาท โดย “ไดกิ้น”  ได้ดำเนินการมอบให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้แก่ โรงพยาบาล นครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ เครื่องฟอกอากาศ ไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีเทคโนโลยีฟอกอากาศภายนอกเครื่องโดยปล่อยประจุ Active Plasma Ion ความเข้มข้นของประจุสูงถึง 25,000 และฟอกอากาศภายในเครื่องด้วย เทคโนโลยี Streamer ที่จะช่วยฟอกอากาศสะอาดในห้องผู้ป่วยให้สะอาดปลอดฝุ่น PM 2.5 เพราะมีเซนเซอร์หน้าเครื่องวัดระดับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ละเอียดถึง 6 ระดับ ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส H1N1 – H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น 

ไดกิ้น ขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทยไปกับไดกิ้น และยังช่วยเปลี่ยนความสุขในสนามเป็นอากาศสะอาดเพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลไปด้วยกัน ติดตามข่าวสารกิจกรรมดีๆ จากไดกิ้นร่วมกับฟุตบอลทีมชาติไทยในครั้งต่อไปได้ที่ เพจ Daikin Thailand