เหนือวิกฤตหนัก!! กรมฝนหลวงฯ รุกแก้ฝุ่น PM 2.5 ทั่วประเทศ

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุก ใช้เทคนิคทำฝนหลวงและโปรยน้ำแข็งแห้งในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หวังลดระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่พุ่งสูงเกินมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา

วันที่ 21 เม.ย.68 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งดำเนินการหลายมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั่วทุกภูมิภาคของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่กำลังประสบปัญหาในระดับวิกฤตรวมถึงพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดฝุ่น PM 2.5 มาจากการเผาวัชพืช ตอ ซัง เพื่อการทำการเกษตรรอบใหม่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ บอกอีกว่า เมื่อก่อนทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะใช้วิธีการขึ้นบินและพ่นสเปรย์ละอองน้ำเพื่อลดระดับฝุ่น PM 2.5 แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการคิดค้นวิธีการใหม่ที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่าย คือการขึ้นบินและโปรยเกร็ดน้ำแข็งแห้ง จากเดิมที่ต้องขึ้นบินพ่นสเปรย์ละอองน้ำ 2 รอบ หากเปลี่ยนมาใช้วิธีการขึ้นบินและโปรยเกร็ดน้ำแข็งแห้งจะบินแค่รอบเดียว และแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ดีกว่า ซึ่งการโปรยเกล็ดน้ำแข็งแห้งจะทำให้ชั้นบรรยากาศเกิดการผกผันและเกิดช่องโหว่ในการระบายฝุ่น PM 2.5 ออกไปสู่ชั้นบรรยากาศด้านนอกไม่กระทบต่อสุขภาพขแงประชาชน 

ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 200,000,000 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอขอเพื่อสนับสนุนโครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 หรือ น้ำแข็งแห้ง จำนวน 4 แห่ง 

1.ชุดเครื่องสารฝนหลวงสูตร 3 พร้อมติดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ตำบลน้ำรึม อำเภอเมือง จ.ตาก จำนวน 1 ชุด งบประมาณ 50,000,000 บาท

2.ชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 พร้อมติดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1 ชุด งบประมาณ 50,000,000 บาท

3.ชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 พร้อมติดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 1 ชุด งบประมาณ 50,000,000 บาท

4.ชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 พร้อมติดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 ชุด งบประมาณ 50,000,000 บาท ซึ่งการอนุมัติงบประมาณตรงนี้จะเป็นการช่วย ให้การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายจากเดิมที่กรมฝนหลวงฯต้องสั่งซื้อน้ำแข็งแห้งจากภาคเอกชน

ด้านนายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า หลังได้รับมอบหมายภารกิจ ทางกรมฯได้ระดมปฏิบัติการทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นพื้นที่วิกฤตในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคเหนือตอนบน ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันอย่างรุนแรง

โดยในปฏิบัติการครั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้ใช้เทคนิคการโปรยเกร็ดน้ำแข็งแห้ง เพื่อปรับสภาพอากาศให้ผกผันเกิดช่องอากาศในชั้นบรรยากาศช่วยในการระบายและกระตุ้นการก่อตัวของเมฆ รวมถึงเลี้ยงเมฆให้มีความหนาแน่นก่อนเข้าสู่กระบวนการทำฝน ช่วยเพิ่มโอกาสเกิดฝนในพื้นที่เป้าหมาย

ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย เพื่อประสานเส้นทางการบินให้สอดคล้องกับเที่ยวบินพาณิชย์ ไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยและการจราจรทางอากาศ

จากการติดตามผล พบว่าหลังการปฏิบัติการในบางพื้นที่ ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤตในช่วงที่ผ่านมา

กรมฝนหลวงฯ ยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นละอองที่ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนให้ได้มากที่สุด

กทม.เช้านี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังเกินมาตรฐาน อยู่ระดับสีส้ม 44 พื้นที่

วันที่ 28 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น.ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 39.8 มคก./ลบ.ม.

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. โดยรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 44 พื้นที่

ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค.68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว สำหรับช่วงวันที่ 30 มี.ค. - 5 เม.ย. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน/ดี" ขณะชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะเปิดสลับปิด และมีโอกาสเกิดฝนตก จึงคาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ณ เวลา 07.00 น. : ตรวจวัดได้ 32.7-55.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 44 พื้นที่ คือ

1.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 55.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม.

3.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม.

4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 49.2 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.

6.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.

7.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 45.1 มคก./ลบ.ม.

8.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 44.4 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 44.4 มคก./ลบ.ม.

10.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.

11.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.

12.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.

13.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

14.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

15.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

16.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

17.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.

18.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม.

19.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.

20.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.

21.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.

22.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.

23.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.0 มคก./ลบ.ม.

24.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

25.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

26.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.

27.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.

28.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.

29.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

30.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.

31.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.

32.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

33.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.

34.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 38.8 มคก./ลบ.ม.

35.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.

36.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.

37.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.

38.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.

39.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม.

40.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.

41.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

42.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.

43.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.

44.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบจุดความร้อน ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 จำนวน 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1เวลา 01.11 น. แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก

จุดที่ 2,3 เวลา 01.36 น. แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก

(จุดที่ 1 - 3 อยู่บริเวณใกล้กัน เป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว)

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

อธิบดีฝนหลวงฯ ขึ้นบินกลางคืน เร่งบรรเทาฝุ่น PM 2.5 เชียงใหม่

วันที่ 27 มี.ค.68 เวลา 18.00 น. นายราเชน  ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ณ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่

โดยในค่ำวันนี้ (27 มี.ค.) หน่วยฯ จังหวัดเชียงใหม่ มีแผนขึ้นบินปฏิบัติการ เวลา 18.00 น. โดยเครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ 1 เที่ยวบิน ใช้น้ำปรับลดอุณหภูมิ จำนวน 2,000 ลิตร บินที่ความสูง 3,500 ฟุต บริเวณ อำเภอดอยสะเก็ด - อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และเวลา 19.00 น. บินปฏิบัติการโดยเครื่องบิน Caravan จำนวน 1 ลำ 1 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง จำนวน 700 กก. บินที่ความสูง 3,500 ฟุต บริเวณอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้กับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

​​​​​​​

ทั้งนี้ อธิบดีฝนหลวงฯ ได้ร่วมขึ้นบินปฏิบัติการพร้อมกับเจ้าหน้าที่ และย้ำด้วยว่าได้สั่งการให้นักวิชาการ นักบิน และเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ทุกวันเพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่กลับมาเห็นดอยสุเทพปกติ และมีค่าคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นให้ได้เร็วที่สุด

ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง! พบ 19 จว.เกินมาตรฐาน กรุงเทพฯ ติดโผ 6 เขตน่าห่วง

ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง! พบ 19 จว.เกินมาตรฐาน กรุงเทพฯ ติดโผ 6 เขตน่าห่วง

วันที่ 27 มี.ค.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 8.00 น. ของวันที่ 27 มีนาคม 2568 พบว่าพื้นที่ของกรุงเทพมหานครมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 6 เขต โดยเขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุด คือ #หนองจอก 38.7 ไมโครกรัม

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 19 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระดับสีแดง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกบางจังหวัด

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าบางเขตกรุงเทพยังคงมีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ในส่วนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีแดงและสีส้ม

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากมานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

รู้ค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆ ชั่วโมงจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เพียงพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ใน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้แล้ววันนี้

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

เช้านี้ ฝุ่น PM2.5 เหนือ - อีสาน ยังสูง พบ 17 จังหวัด ระดับสีแดง

วันที่ 26 มี.ค.68 กระทรวง อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รอบเวลา 8.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2568 พบว่าพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มีค่าฝุ่นในระดับปานกลาง ไปจนถึงระดับดี

ด้านของภาพรวมประเทศไทยในรอบเวลาเดียวกัน พบ 17 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีแดง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ในกรุงเทพยังคงมีค่าฝุ่นในระดับปานกลางสลับกับค่าฝุ่นที่ดี ในส่วนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสีแดงและสีส้ม

ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากมานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

#GISTDA #อว #เช็คฝุ่น #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #คุณภาพอากาศ #สุขภาพ #ระบบทางเดินหายใจ #กรุงเทพมหานคร #PM2POINT5 #เทคโนโลยีดาวเทียม #ข้อมูลจากดาวเทียม

ค่าฝุ่น PM2.5 กทม.เช้านี้ ยังสีส้มทุกพื้นที่ พบเขตบึงกุ่มสูงสุด

วันที่ 26 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 07:00 น.

ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 44.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ภาพรวม : คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

12 อันดับ ของค่าฝุ่นPM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร

1 เขตบึงกุ่ม 64.2 มคก./ลบ.ม.

2 เขตวังทองหลาง 56.9 มคก./ลบ.ม.

3 เขตสาทร 56.9 มคก./ลบ.ม.

4 เขตบางนา 54.8 มคก./ลบ.ม.

5 เขตบางพลัด 51.9 มคก./ลบ.ม.

6 เขตลาดกระบัง 51.3 มคก./ลบ.ม.

7 เขตหนองจอก 50.7 มคก./ลบ.ม.

8 เขตบางขุนเทียน 50.5 มคก./ลบ.ม.

9 เขตพญาไท 49.2 มคก./ลบ.ม.

10 เขตคลองสามวา 49.1 มคก./ลบ.ม.

11 เขตบางกอกใหญ่ 48 มคก./ลบ.ม.

12 เขตทวีวัฒนา 48 มคก./ลบ.ม.

กรุงเทพเหนือ

42.2 - 47.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพตะวันออก

37.7 - 64.2 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพกลาง

39.7 - 56.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพใต้

39.2 - 56.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนเหนือ

43.9 - 51.9 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนใต้

39.3 - 50.5 มคก./ลบ.ม.

ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ภาพรวม : คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

เช้านี้ กทม.ค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลง แต่ยังส้มอยู่ทุกพื้นที่ 

วันที่ 25 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 51.2 มคก./ลบ.ม. ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง

ภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. โดยรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 69 พื้นที่

ในช่วงวันที่ 25 มี.ค. - 2 เม.ย. 68 การระบายอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ "ดี" ขณะที่มีอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นต่อเนื่อง ชั้นบรรยากาศมีลักษณะอากาศเปิดสลับปิด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงแล้วทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว

ข้อแนะนำสุขภาพ:

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ณ เวลา 07.00 น. : ค่าเฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ 36.7-69.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 69 พื้นที่ คือ

1.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 69.2 มคก./ลบ.ม.

2.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 60.5 มคก./ลบ.ม.

3.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 59.9 มคก./ลบ.ม.

4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 59.4 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 58.4 มคก./ลบ.ม.

6.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 57.7 มคก./ลบ.ม.

7.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 57.6 มคก./ลบ.ม.

8.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 57.5 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 57.0 มคก./ลบ.ม.

10.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 56.7 มคก./ลบ.ม.

11.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม.

12.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม.

13.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 56.2 มคก./ลบ.ม.

14.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม.

15.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 54.4 มคก./ลบ.ม.

16.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม.

17.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 54.2 มคก./ลบ.ม.

18.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 54.1 มคก./ลบ.ม.

19.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 53.5 มคก./ลบ.ม.

20.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 53.5 มคก./ลบ.ม.

21.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 52.7 มคก./ลบ.ม.

22.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 52.5 มคก./ลบ.ม.

23.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 52.3 มคก./ลบ.ม.

24.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 51.8 มคก./ลบ.ม.

25.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 51.7 มคก./ลบ.ม.

26.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 51.5 มคก./ลบ.ม.

27.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 51.4 มคก./ลบ.ม.

28.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 51.3 มคก./ลบ.ม.

29.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 50.5 มคก./ลบ.ม.

30.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

31.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 49.9 มคก./ลบ.ม.

32.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 49.3 มคก./ลบ.ม.

33.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 48.8 มคก./ลบ.ม.

34.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 48.7 มคก./ลบ.ม.

35.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 48.6 มคก./ลบ.ม.

36.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 48.0 มคก./ลบ.ม.

37.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 47.9 มคก./ลบ.ม.

38.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.

39.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม.

40.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.

41.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 47.3 มคก./ลบ.ม.

42.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.

43.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.

44.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.

45.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม.

46.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.

47.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.

48.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.

49.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

50.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม.

51.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 45.8 มคก./ลบ.ม.

52.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.

53.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.

54.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 44.8 มคก./ลบ.ม.

55.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 44.6 มคก./ลบ.ม.

56.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 44.5 มคก./ลบ.ม.

57.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม.

58.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.

59.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม.

60.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม.

61.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.

62.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.

63.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.

64.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 42.1 มคก./ลบ.ม.

65.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

66.สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.

67.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม.

68.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.

69.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.

พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 มีนาคม 2568 จำนวน 1 จุด เวลา 13.35 น. แขวงลำผักชี เขตหนองจอก (เป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว)

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

ให้สวมแมสก์ งดกิจกรรมกลางแจ้ง! ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม. สูงขึ้น แดง 5 พื้นที่ ส้ม 65 พื้นที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพ

วันที่ 24 มี.ค.68 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2568 เวลา 07:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 66.3 มคก./ลบ.ม.

ระดับสีแดง มีผลกระทบกับสุขภาพ 5 พื้นที่ คือ

1.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 78.0 มคก./ลบ.ม.

2.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 77.3 มคก./ลบ.ม.

3.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 77.2 มคก./ลบ.ม.

4.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 77.1 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 75.8 มคก./ลบ.ม.

เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 65 พื้นที่

ข้อแนะนำสุขภาพ

คุณภาพอากาศระดับสีแดง: มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทุกคน : งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)

: ตรวจวัดได้ 39-78 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 65 พื้นที่ คือ

1.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 74.3 มคก./ลบ.ม.

2.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 73.7 มคก./ลบ.ม.

3.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 73.5 มคก./ลบ.ม.

4.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 73.4 มคก./ลบ.ม.

5.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 73.0 มคก./ลบ.ม.

6.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 72.7 มคก./ลบ.ม.

7.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 72.6 มคก./ลบ.ม.

8.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 72.3 มคก./ลบ.ม.

9.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 72.3 มคก./ลบ.ม.

10.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 72.0 มคก./ลบ.ม.

11.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 71.9 มคก./ลบ.ม.

12.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 71.8 มคก./ลบ.ม.

13.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 71.7 มคก./ลบ.ม.

14.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 71.3 มคก./ลบ.ม.

15.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน บางจาก ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 70.7 มคก./ลบ.ม.

16.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 70.3 มคก./ลบ.ม.

17.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 69.7 มคก./ลบ.ม.

18.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 69.3 มคก./ลบ.ม.

19.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 69.2 มคก./ลบ.ม.

20.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 69.0 มคก./ลบ.ม.

21.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 69.0 มคก./ลบ.ม.

22.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 68.1 มคก./ลบ.ม.

23.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 68.0 มคก./ลบ.ม.

24.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 66.9 มคก./ลบ.ม.

25.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 66.9 มคก./ลบ.ม.

26.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 66.3 มคก./ลบ.ม.

27.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 66.3 มคก./ลบ.ม.

28.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 66.1 มคก./ลบ.ม.

29.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 65.5 มคก./ลบ.ม.

30.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม : มีค่าเท่ากับ 65.5 มคก./ลบ.ม.

31.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 65.4 มคก./ลบ.ม.

32.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 65.3 มคก./ลบ.ม.

33.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 64.9 มคก./ลบ.ม.

34.เขตวัฒนา ตรงข้าม noble Reveal(ข้าง MK gold restaurants) : มีค่าเท่ากับ 64.9 มคก./ลบ.ม.

35.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 64.8 มคก./ลบ.ม.

36.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 64.7 มคก./ลบ.ม.

37.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 64.6 มคก./ลบ.ม.

38.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 64.2 มคก./ลบ.ม.

39.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 64.1 มคก./ลบ.ม.

40.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

41.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

42.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 64.0 มคก./ลบ.ม.

43.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 63.8 มคก./ลบ.ม.

44.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 63.4 มคก./ลบ.ม.

45.เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

46.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

47.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 63.0 มคก./ลบ.ม.

48.เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง : มีค่าเท่ากับ 62.9 มคก./ลบ.ม.

49.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 62.6 มคก./ลบ.ม.

50.สวนจตุจักร เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 62.1 มคก./ลบ.ม.

51.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 61.6 มคก./ลบ.ม.

52.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 61.4 มคก./ลบ.ม.

53.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 61.1 มคก./ลบ.ม.

54.สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 61.1 มคก./ลบ.ม.

55.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 60.8 มคก./ลบ.ม.

56.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 60.0 มคก./ลบ.ม.

57.สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร : มีค่าเท่ากับ 59.7 มคก./ลบ.ม.

58.สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ : มีค่าเท่ากับ 59.6 มคก./ลบ.ม.

59.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 59.6 มคก./ลบ.ม.

60.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 59.0 มคก./ลบ.ม.

61.เขตบางกะปิ ข้าง ป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 57.2 มคก./ลบ.ม.

62.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 56.6 มคก./ลบ.ม.

63.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม.

64.เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม.

65.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.

#ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

เข้มห้ามเผา ควันดำ คุมโรงงาน! สั่งเฝ้าระวัง 17 จว.ภาคเหนือหลังมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น

ปภ.ช. ยังเข้ม สั่งห้ามเผา ห้ามรถยนต์ควันดำ ควบคุมโรงงาน อย่างต่อเนื่อง ขณะที่สั่งเฝ้าระวังพิเศษ 17 จังหวัดภาคเหนือหลังมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นจาก Hot Spot ประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า 55,000 จุด

วันที่ 17 มี.ค.68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้(17 มี.ค.68) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานพบจุดความร้อนในประเทศ 6,713 จุด โดย 5 จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ ตาก 1,004 จุด เชียงใหม่ 656 จุด ลำปาง 643 จุด น่าน 453 จุด และ พะเยา 448 จุด ขณะที่จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านมีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศเมียนมา พบจุดความร้อน 55,839 จุด ทำให้จากนี้จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2568 จะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองเป็นพิเศษโดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีแนวเขตติดกับชายแดน

ทั้งนี้ สอดคล้องกับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษที่รายงานสภาพอากาศโดยรวมทั่วประเทศ อยู่ในเกณฑ์ปกติถึงดี ยกเว้นภาคเหนือ ทั้ง 17 จังหวัด ที่คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน อยู่ในระดับสีส้ม เฉลี่ยที่ 25.6-143.0 มคก./ลบ.ม. 

“ในการประชุมวันนี้เน้นย้ำเป็นพิเศษให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองที่จะเพิ่มขึ้น ไปจนถึงวันที่ 23 มีนาคมนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน“ นายจิรายุ กล่าว

ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานการตรวจควบคุมโรงงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายและลดต้นตอการเกิดฝุ่นควัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการตรวจโรงงานไปแล้วจำนวน 759 โรง ปฏิบัติถูกต้องตามข้อกฎหมายจำนวน 752 โรง  ดำเนินการไม่ถูกต้อง 7 โรง ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกคำสั่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อนกลับมาดำเนินกิจการต่อไป 

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษและควันดำระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม 2568 ตรวจสอบยานพาหนะ  15,440 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 1,152 ครั้ง ตักเตือน 8,862 ครั้ง ขณะที่การลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร มีการออกตรวจ 862 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 10 คดี

เทศบาลนครเชียงราย สร้างละอองน้ำดักจับฝุ่น PM 2.5

เทศบาลนครเชียงราย สร้างละอองน้ำดักจับฝุ่นหลังอุทกภัยและเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 จากหมอกควัน 

วันที่ 7 มี.ค.68 เทศบาลนครเชียงรายโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ปลัดเทศบาล ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภาคีเครือข่าย โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คโดย นพ.ณัฐชัย เครือจักร ผู้อำนวยการ และรก.ผู้จัดการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค รองผอ. เจ้าหน้าที่พยาบาล ร่วมในการใช้ละอองน้ำช่วยให้ฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็กในอากาศตกลงสู่พื้นดิน ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังอุทกภัย และลดมลพิษทางอากาศในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันหรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) บริเวณอนุสาวรีย์พญามังราย

โดยช่วงเช้าได้มีการออกล้างถนน และนำรถดูดโคลนและเลนตามถนนสายหลักนครเมืองเชียงราย

ทั้งนี้ ยังจัดโซนในการพ่นละอองน้ำในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเริ่มบนถนนสิงหไคล จำนวน 2 จุด (หน้ารพ.โอเวอร์บรุ๊ค, อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช และสวนตุงและโคมนครเชียงราย) โดยจะมีการเพิ่มปริมาณตามจุดที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น  ซึ่งได้มีการปรับใช้ถังน้ำขนาดต่างๆที่นำลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงประสบอุทกภัยโดยได้นำกลับมาบรรจุน้ำที่มีความสะอาดและทำการพ่นละอองน้ำ