หมดเวลาทำผิด หมดสิทธิ์นอนบ้าน "ผู้ว่าฯนริศ" ผนึกกำลัง "ผู้การฯธีระเดช" แถลงผลกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ 

หมดเวลาทำผิด หมดสิทธิ์นอนบ้าน "ผู้ว่าฯนริศ" ผนึกกำลัง "ผู้การฯธีระเดช" แถลงผลกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ 
 
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ลานปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาครผู้กำกับการ   เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกรมการปกครองและตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ผู้เสพส่งบำบัด สร้างชุมชนปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด สนองนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยการแถลงผลครั้งนี้ ก็มีของกลางเป็นยาบ้ารวมทั้งหมดกว่า 2,300 เม็ด  ยาไอซ์ 6.24 กรัม เคตามีน อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง

 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า จากสถิติตัวเลขที่พบปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสาครยังคงมีผู้ค้ายาเสพติดอยู่อีกประมาณ 90 กว่าราย และผู้เสพยาเสพติดอีกกว่า 300 ราย สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealer” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ในห้วงเดือนนี้ คือช่วงปฏิบัติการเข้มข้นที่จะต้องนำผู้ค้ายาเสพติดทุกคนเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ได้ครบทั้งหมด ส่วนผู้ที่ติดยาเสพติดจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาภายในค่ายกำแพงเพชรอัครโยธินเป็นเวลา  4 เดือน ซึ่งในส่วนของผู้ค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะค้นหานำตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน จึงขอประกาศไว้ว่า นับจากนี้หมดเวลาของคนทำผิด ไม่มีโอกาสได้นอนบ้านอีกแล้ว หากไม่ออกนอกพื้นที่ก็มีแต่เดินหน้าเข้าเรือนจำเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฯ ไม่ยอมปล่อยไปอย่างแน่นอนไม่ว่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ตาม จะไม่มีสิทธิ์ใช้เงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ส่วนผู้เสพยาเสพติดก็ต้องไปอยู่ค่ายบำบัดเป็นเวลา 4 เดือน เสียสิทธิ์ต่างๆ มากมาย ทั้งไม่มีสิทธิ์นอนบ้านกับครอบครัว หมดสิทธิ์ทำงาน และหมดอิสรภาพในการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ดังนั้นผู้เสพหากเลิกได้ขอให้หักดิบเลิกอย่างเด็ดขาด ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา พร้อมกันนี้ก็ขอให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังชุมชนแจ้งเบาะแสผู้ค้า ผู้เสพ แก่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อร่วมกันสร้างชุมชนปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด

ด้านพล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด 29 เป้าหมาย ทั่วทั้งจังหวัดสมุทรสาคร ผลการปฏิบัติจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 คน ยาบ้า 2,307 เม็ด ยาไอซ์และเคตามีนอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 340,000 บาท


ขณะที่ผลการปฏิบัติโดยรวมตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 - 1 สิงหาคม 2568 ได้มีการปิดล้อมตรวจค้น 42 เป้าหมาย จับผู้ต้องหาได้ 94 คน ยาบ้า 10,551 เม็ด ยาไอซ์ 1.04 กก. เคตามีน 0.53 กก. และยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 875,498 บาท ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาคร และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร จะได้ติดตามและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องต่อไป ตามนโยบาย “No Drugs - No Dealers


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่า สำหรับการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเบญจพลหรือเอ สุขมโน อายุ 47 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยสายลับสามารถติดต่อซื้อยาเสพติดจากนายเบญจพลหรือเอฯ ได้ และมีการนัดส่งยาบ้าและยาไอซ์กันที่บริเวณบ้านเลขที่ 99/238 ม.1 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จากนั้นก็ได้วางแผนจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางเป็น ยาไอซ์จำนวน 30.65 กรัมและ ยาบ้า จำนวน 1,200 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และยังได้ขยายผลยึดทรัพย์ เป็นรถจักรยานยนต์ มูลค่าประมาณ 100,000 บาท จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษและหมายจับค้างเก่าผ่านระบบ CRIMES สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายเบญจพลหรือเอฯ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 64/2568 ลง 2 มีนาคม 2568 ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” อีกทั้งยังเคยต้องโทษคดีอาญา ในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เมื่อปี พ.ศ.2559 และพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ.2562

​​​​​​​

ชมรมชาวใต้ฯสมุทรสาคร รวมพลังใจส่งสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยชายแดน

ชมรมชาวใต้สมุทรสาคร รวมพลังใจส่งสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยชายแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเทพนรรัตน์ ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ตามที่บริเวณเขตชายแดนในแถบจังหวัดภาคอีสาน ได้เกิดเหตุความไม่สงบจากเหตุการณ์สงครามของการสู้รบ ที่บริเวณแถบชายแดนในภาคอีสาน ส่งผลให้มีประชาชนต้องอพยพเพื่อหนีอันตรายจากการสู้รบกับดัมพูขา เป็นเหตุให้มีการอพยพหลีกเลี่ยงหนีอันตราย ปรากฏว่า ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ทางวัดเทพนรรัตน์ได้มีการจัดกิจกรรมเปิดรับรวมรวมสิ่งของบริจาคด้วยความร่วมมือของประชาชน โดยมีพระครูสาครประชานาถ เจ้าอาวาสวัดเทพนรรัตน์ ฐานะเป็นเจ้าภาพฯ และพันตำรวจเอก สมชาย ขอค้า ผู้กำกับ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ในฐานะ ปธ.ชมรมชาวภาคใต้ จ.สมุทรสาคร เข้าร่วมโครงการ "รวมน้ำใจเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยชายแดน" มี ดร.ณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมให้การาสนับสนุน พร้อมด้วยสมาชิกชมรมฯ และประชาชนทั่วไป เข้ามาร่วมกันประกอบสิ่งของเพื่อบรรจุลงถุงยังชีพ จำนวนกว่า 300 ชุด อาทิเช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของความจำเป็นในชีวิตประจำวัน และน้ำดื่ม ก่อนนำส่งไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแบบถึงที่ หลังจากได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยในการนี้ได้มีขบวนรถบรรทุก 6 ล้อ ช่วยลำเลียงนำถุงยังชีพในวัดออกเดินทางไปส่งมอบซึ่งคาดว่า เมื่อถึงจุดดังกล่าวสามารถแจกจ่ายได้จำนวน 2 แห่งในพื้นที่ของอุบลราชธานี ท่ามกลางการประสานงานระหว่างผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตามโครงการส่งน้ำใจคนจากไทยไม่เคยทิ้งกันเมื่อยามประสบภัยถึงบ้านที่เป็นน้ำใจจากคนไกลมาช่วยสมทบส่งถึงพื้นที่

​​​​​​​ ​​​​​​​

"ตร.สมุทรสาคร" ตามซิวหนุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาหน้าเก่า ได้ของกลาง 4,000 เม็ด

 

"ตร.สมุทรสาคร" ตามซิวหนุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาหน้าเก่า ได้ของกลาง 4,000 เม็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน สภ.เมืองสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงษ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม ผกก.สส.กก.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นอภ.เมืองสมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดฯตามแผนปฏิบัติการ “NO Drugs NO Dealers” ปรากฏว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ นายบัญญัติ (สงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี ซึ่งนับเป็นเครือข่าวรายสำคัญในพื้นที่ชุมชน ตำบลนาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมียาบ้า 4,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยการจับกุมในครั้งนี้เป็นไป

โดย พล. ต. ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เผยว่าสำหรับผู้ต้องหารายนี้นับเป็นเครือข่ายผู้ค้ายารายสำคัญ ล่าสุดหลังถูกจับกุมโดยให้การว่า ตนเองเป็นแค่เป็นม้าวิ่งรับยาบ้ามาก่อนนำไปจำหน่ายต่อ ได้ค่าจ้าง 2,000 บาท/ต่อครั้ง จากการสอบสวนของ จนท.พบว่า นายบัญญัติ มีพฤติกรรมขายยาบ้าให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อทั่วไป ซึ่งรับยามาในราคามัดละ 14,000 บาท (หรือ2,000 เม็ด) แล้วค่อยไปจำหน่ายต่อมัดละ 14,500 บาท เพื่อหากำไรอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทำบันทึกผลการจับกุมแล้วเสร็จจึงส่งให้พนักงาน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีในความผิดฐานว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”

"สำหรับในการนี้ทางด้านตำรวจภูธรฯสมุทรสาครได้ดำเนินการร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเพื่อตรวจค้นค้นผู้ก่อเหตุยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเพพพพพพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนด้านผู้เสพจะนำไปช่วยบำบัดรักษาตามแผนปฏิบัติการโครงการ “No Drugs No Dealers” ทั้งนี้ส่วนนายบัญญัติ ตรวจสอบพบว่าเจ้าตัวเคยถูกต้องโทษคดีอาญามาแล้ว (ในข้อหาข่มขืนฯ และค้ายาเสพติดด้วย) ซึ่งเคยต้องโทษก่อนหลังจากพ้นคุกไม่นานมานี้ก็มาค้ายาขึ้นใหม่"

รวบโจรฉกมอเตอร์ไซด์ "กลางวันแสกๆใช้เวลาแค่2นาที"หยามใจกลับมาขโมยอีก ตร.สมุทรสาครดักตะครุบตัว

รวบโจรฉกมอไซด์ "กลางวันแสกๆใช้เวลาแค่2นาที"หยามใจกลับมาขโมยอีก ตร.สมุทรสาครดักตะครุบตัว ตามรถกลับมาได้3คัน เตรียมลากคอยกแก๊ง

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ 2568 พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร  ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่าช่วงนี้มีคนร้ายออกอาละวาดขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านในเวลากลางวันแสกๆ ไปหลายคันแล้ว จึงได้มีการสั่งการให้พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์  สวป.ร.ต.ท.เจริญพร พงษ์บัณฑิต  พร้อมกำลังสายตรวจคลองครุไปทำการซุ่มดักจับคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้

เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไดัวางกำลังซุ่มอยู่ หน้าบริษัทไทยรวมสิน ต.ท่าทราย อ.เมือง จังหวัดสมุทรสาคร พบชายต้องสงสัย ทราบชื่อต่อมาภายหลังคือ นายชัยวัฒน์ อายุ 50 ปี เดินมองดูรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ ก่อนขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาเพื่อที่จะขโมยรถเจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่จึงเข้าทำการตะครุบตัวคนร้ายทันที ค้นตัวคนร้ายพบยาบ้า 11เม็ดและอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการขโมยรถจักรยานยนต์

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตั้งใจจะมาขโมยรถที่จอดอยู่หน้าโรงงานนี้เพระมีรถให้เลือกเยอะตามใบสั่ง เคยมาขโมยไปแล้วหลายคันจึงกลับมาขโมยใหม่มันง่ายดี  ประกอบกับว่าช่วงนี้ตกงานอยู่ จึงต้องลงมือขโมยรถและนำรถที่ได้ขโมยไปขายคันละ 3,000 บาท เอาเงินที่ขายได้มาซื้อข้าวกินกับซื้อยาบ้ามาเสพด้วย

พ.ต.ท.โสภาส บอกว่าผู้ต้องหารายนี้เคยทำงานแถวนี้จึงรู้ทางหนีทีไล่ในการหลบหนีตำรวจเป็นอย่างดี ใช้เวลาในการขโมยรถแค่2นาทีในแต่ละคันขับหนีไปอย่างใจเย็นก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งได้รถไปแล้วหลายคัน เจ้าหน้าที่สามารถตามรถที่ถูกขโมยไปกลับมาได้ถึง 3 คัน พบอะไหล่และเครื่องรถจักรยานยนต์ถูกถอดจำหน่ายเป็นชิ้นๆอีกบางส่วน และได้เค้นสอบผู้ต้องหาจนรู้ตัวคนร้ายที่เหลือแล้วกำลังเร่งจับกุมตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
 

ทต.ท่าจีน จัดโครงการหน่วยบริการเคลื่อนที่ นายกฯพบประชาชน

ทต.ท่าจีน จัดโครงการหน่วยบริการเคลื่อนที่ นายกฯพบประชาชน

วันที่ 20 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลท่าจีน อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร ได้จัดกิจกรรมหน่วยงานออกบริการเคลื่อนที่ตาม "โครงการนายกฯ พบประชาชน ประจำปี พ.ศ.2568 (ณ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลท่าจีน) นำโดย ดร.รังสรรค์ เจียระนัย นายกเทศมนตรีตำบลท่าจีน พร้อมด้วย ผู้อํานวยการวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร, ผอ.วิทยาลัยชุมชนจังหวัดฯ เข้าร่วมออกบริการเคลื่อนที่ โดยมีนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร มาเป็นประธานเปิดพิธีฯ มีบริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุน

โดยดร.รังสรรค์ เจียระนัย. นายก ทต.ท่าจีน ระบุว่า สำหรับที่มาการจัดโครงการนายกพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2568 มีวัตถุประสงค์ก็เพื่อได้ทำการออกพบประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลท่าจีนที่ให้ทั่วถึงและใกล้ชิด โดยทางเทศบาลจึงได้ประสานงานกันระหว่างหน่วยงานส่วนราชการและองค์กรภาคเอกชนต่างๆ เพื่อบูรณาการกันร่วมดูแล ปชช. อาทิเช่น การทำงานแบบมีส่วนร่วมและการแก้ไขปัญหาของชุมชนได้อย่างยั่งยื เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้านและชุมชน ตามโครงการบําบัดทุกข์ บํารุงสุขของประชาชน ตลอดจนยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลต่อไปอย่างแท้จริง

"สำหรับการออกหน่วยงานเคลื่อนที่ประกอบด้วย อาทิ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ยกศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนแบบถาวร FIX IT CENTER ให้บริการด้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิเช่น ทีวี พัดลม หม้อหุงข้าว เปลี่ยนผ้ามุ้งลวด, เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์, รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าจีน ให้บริการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น เช่น วัดความดัน ตรวจหาโรคเบาหวาน และกลุ่มช่างตัดผมอิสระในตำบลท่าจีน ส่วนทางวิทยาลัยชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร ให้บริการตัดผมชาย/หญิง, ตำรวจภูธรสมุทรสาครอบรมให้ความรู้และทักษะการขับขี่ปลอดภัยสร้างวินัยจราจร ให้แก่ประชาชนในเขตตำบลฯ การสอนอาชีพ ทำกิ๊ฟติดผมจากลวดกํามะหยี่, ดอกไม้จากลวด จากกํามะหยี่, งานระบายสี และหน้ากากแฟนซี, แผ่นไม้, กระเป๋าผ้า) เป็นต้น โดยมีผู้สนใจมาใช้บริการจำนวนมาก"

​​​​​​​

นายกเทศมนตรีตำบลบางปลา ร่วมเปิดงาน “วุฒิชัยมินิมาราธอน ครั้งที่ ๑” ที่โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย

เทศบาลตำบลบางปลา นำโดยนายชาตรี โพธิ์อบ นายกเทศมนตรีตำบลบางปลา เข้าร่วมเปิดงาน “วุฒิชัยมินิมาราธอน ครั้งที่ ๑” ณ โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วมเปิดงาน ดังนี้ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรสาคร, นายพิษณุ สุขนิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย, ท่าน สส.ศิรสิทธิ์ สงนุ้ย, ท่าน สจ. ประดิษฐ์ ทรงลักษณ์ และ ท่าน สจ.ประสิทธิ์ จุ่นขจร อีกด้วย และสำหรับกิจกรรมในวันนี้ทางนายกชาตรี โพธิ์อบ ได้มอบหมาย สมาชิกสภาเทศบาลร่วมกับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลบางปลา ให้ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักกีฬา, สถานที่จอดรถและความปลอดภัย 

นอกจากนี้ นายชาตรี โพธิ์อบ (นายกกี้) นายกเทศมนตรีตำบลบางปลาและนางสาวอรณิชา โพธิ์อบ (กิ๊บ) ประธานสภาเทศบาลตำบลบางปลา ยังได้เตรียมพร้อมสำหรับน้ำดื่มและน้ำสมุนไพรเย็นชื่นใจไว้ให้กับนักวิ่งทุกคน

​​​​​​​ ​​​​​​​

กาชาดสมุทรสาคร "แจกทุนการศึกษาผู้เรียนดีแต่ขาดโอกาสฯ 600 ทุน ประจำปี 2568

กาชาดสมุทรสาคร "แจกทุนการศึกษาผู้เรียนดีแต่ขาดโอกาสฯ 600 ทุน ประจำปี 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 68  ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร นางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ จัดโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดฯ มาเป็นประธานในพิธี โดยมีเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วม ทั้งนี้เพื่อร่วมกันช่วยส่งเสริมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ครอบครัวนักเรียนที่มีรายได้น้อยแต่เรียนเก่ง และเป็นคนดี เป็นต้น นอกจากนี้ยังขาดโอกาสทางการศึกษาเพื่อให้มีโอกาสได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นตามกำลังสติปัญญา ตลอดจนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจกับบรรดานักเรียนนักศึกษา อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับการจัดพิธีมอบทุนช่วยทางการศึกษาครั้งนี้ตามข้อกำหนดของเป้าหมายฯ เป็นนักเรียนนักศึกษาที่มีความตั้งใจเรียน รวมทั้งสื้น 600 ทุน/ทุนละ 3,000 บาท รวมจำนวนเงิน 1,800,000 บาท ทั้งนี้จำแนกเป็น จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จำนวน 102 โรงเรียน โรงเรียนละ 5 ทุนการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 510 ทุนการศึกษา,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จำนวน 11 โรงเรียน โรงเรียนละ 5 ทุนการศึกษา จำนวน ทั้งสิ้น 55 ทุนการศึกษา,สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 3  แห่ง แห่งละ 5 ทุนการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 15 ทุนการศึกษา,สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 10 ทุนการศึกษา และทางเหล่ากาชาดสมุทรสาคร อีกจำนวน 10 ทุนการศึกษา
​​​​​​​

สมุทรสาคร รวมพลังปฎิบัติการ "No Drugs No Dealers กวาดล้างยาเสพติดทุกชุมชน"

สมุทรสาคร รวมพลังปฎิบัติการ "No Drugs No Dealers กวาดล้างยาเสพติดทุกชุมชน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2568 ที่ห้องประชุมมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ตามที่นายภูมิธรรมฯ รองนายกฯรัฐมนตรีฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ได้ประกาศแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนตามนโยบาย ในพิธีเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” เพื่อมอบหมายนโยบายการป้องกันและปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรฯสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขฯสมุทรสาคร เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังรายงานกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนมอบหมายสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสาธารณะสุขจังหวัดฯ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดประชุมร่วมเพื่อรับทราบนโยบายการปฏิบัติงานครั้งนี้มีนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร และ พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภูธรสมุทรสาคร เดินทางเข้าร่วมลงนามบันทึกปฏิญญาว่า จะรวมพลัง ยับยั้งปัญหายาเสพติดในจังหวัด โดยใจความระบุว่าด้วย ความตระหนักถึงปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของสังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งข้าพเจ้าผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร  ขอแสดงปฏิญญาร่วมกันว่าจะมุ่งบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจังและเด็ดขาด และจะป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดมิให้มีผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน ตลอดจนจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านชุมชนมีระบบ กลไก การจัดการปัญหาด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างแท้จริงต่อไป"

ด่วน! เพจดังโพสต์ "เจ้าอาวาสวัดดังสมุทรสาคร" หายตัวลึกลับ ยกเลิกเวียนเทียนกะทันหัน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ “สีกากอล์ฟ” หญิงคนสนิทของพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ "เจ้าคุณอาชว์" อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เพื่อหาหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่

ผลการตรวจสอบพบภาพถ่ายและคลิปวิดีโอมากกว่า 80,000 ไฟล์ โดยหลายส่วนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างสีกากอล์ฟกับพระชั้นผู้ใหญ่จากวัดต่างๆ รวมถึงวัดชื่อดังถึง 8 แห่ง ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “ท่านเปา” ได้โพสต์ข้อความว่า “ด่วน! วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร ยกเลิกการเวียนเทียนกะทันหัน หลังเจ้าอาวาสหายตัวไปจากวัด!”

โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสร้อนทันที โดยชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เช่น

“เกี่ยวกับเคส ‘นารีพิฆาต’ หรือเปล่า?”

“จะครบทั้ง 77 จังหวัดไหม?”

“บวชมาจากไหน ก็แพ้หัวใจอย่างเธอ”

ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานทางการว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีของสีกากอล์ฟโดยตรงหรือไม่ แต่หลายฝ่ายเริ่มจับตามองความเคลื่อนไหวของวัดต่างๆ ที่อาจเกี่ยวพันกับคดีนี้อย่างใกล้ชิด


 

จับหนุ่มขโมยเบียร์ร้านสะดวกซื้อ สารภาพอยากกินก่อนงดเหล้าเข้าพรรษา

จับหนุ่มขโมยเบียร์ร้านสะดวกซื้อ สารภาพไม่มีเงินซื้อแต่เปรี้ยวปากอยากกินสักกระป๋องก่อนจะงดเหล้าเข้าพรรษา

เมื่อช่วงคืนวันที่ 9 ก.ค.68 สถานีตำรวจภูธรโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น นิคมอุตสาหกรรมสินสาครจังหวัดสมุทรสาครเพื่อป้องกันเหตุและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา นำโดย พ.ต.อ.จักรพงศ์  ตราบดี ผกก.สภ.โคกขาม นำทีมลงพื้นที่ด้วยตัวเองพร้อมด้วย พ.ต.ท.เดฤทธิ์รัชต์ยศ  คหชนม์ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.ประภาส  ศิริรัตน์รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังตำรวจกว่า 20 นาย ได้ร่วมกัน ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บริเวณนิมอุตสาหกรรมสินสาคร 

วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ควบคุมกลุ่มเสี่ยง กลุ่มวัยรุ่นมั่วสุม และบุคคลต้องสงสัย ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืน ยาเสพติด และสิ่งของต้องห้าม

ขณะกำลังตรวจค้นอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านว่ามีชายคนหนึ่งได้ขโมยเบียร์กระป๋อง  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รีบเข้าไปภายในร้านพร้อมกับพนักงานร้านจับกุมตัวหัวขโมยไว้ได้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าขโมยเบียร์จริงไม่มีเงินซื้อแต่เปรี้ยวปากอยากจะกินเบียร์สักกระป๋องก่อนจะหยุดกินในเทศกาลงดเหล้าเข้าพรรษาที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับชาวบ้านจับกุมคนร้ายได้1คนกำลังลงมือต่อสายตรงขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ และจับกุมผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้อีก3ราย ผู้ต้องหาครอบครองบุหรีไฟฟ้า1ราย เมาแล้วขับอีก1ราย ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย อีก5 คัน

พ.ต.อ.จักรพงศ์ ตราบดี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเชิงรุกในการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และยับยั้งเหตุทะเลาะวิวาทหรืออาชญากรรมโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากชาวบ้านในพื้นที่