สมาคมกีฬากอล์ฟฯ จัดประชุมใหญ่ฯประจำปี "รังสฤษดิ์" ย้ำเป้าหมาย กวาด 4 เหรียญทองซีเกมส์ 

"รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์" นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี  2567 ของสมาคมกีฬากอล์ฟฯ โดยการประชุมใหญ่ครั้งนี้ มีสมาชิกเข้าประชุมพร้อมเพรียง สำหรับวาระการประชุม สมาคมกีฬากอล์ฟฯ ได้รายงานกิจกรรมที่ดำเนินการระหว่างปี 2567- 2568 พร้อมทั้งแถลงนโยบายและกิจกรรมที่จะดำเนินการต่อไปให้สมาชิกได้รับทราบ 

วันที่ 28 มีนาคม 2568 นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ กล่าวว่า สำหรับปีที่ผ่านมา สมาคมฯจัดการแข่งขันเพื่อพัฒนานักกอล์ฟเยาวชนทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และภาคประชาชนรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 60 แมตซ์ รวมถึงการสร้างชื่อเสียงของนักกอล์ฟทีมชาติไทยที่ส่งไปแข่งขันยังต่างประเทศกว่า 20 แมตซ์ โดยผลงานที่โดดเด่นคือการคว้ารองแชมป์ของทีมหญิงในการแข่งขัน "Toyota World Junior Golf Team Championship 2024" เป็นรองเพียงทีมชาติสหรัฐฯ และการเป็นแชมป์ของทีมหญิงจากรายการ "2024 Asian Junior Golf Team Championship" ซึ่งสามารถเอาชนะเจ้าภาพอย่างเกาหลีใต้ ถือเป็นก้าวที่ประสบผลสำเร็จของสมาคมฯในปีที่ผ่านมา

สำหรับในปี 2568 งานใหญ่ที่ สมาคมกีฬากอล์ฟฯ พุ่งเป้าประสบความสำเร็จให้ได้ คือมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 สมาคมกีฬากอล์ฟฯ ได้เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยนำนักกอล์ฟทีมชาติไทย รวม 26 คน ชาย 15 คน และหญิง 11 คน ไปเก็บตัวฝึกซ้อม และส่งแข่งขันรายการต่างประเทศ เพื่อเก็บประสบการณ์ โดยจัดการเก็บตัวฝึกซ้อมในไทย 7 สนาม สนามต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 14-20 เมษายนนี้ ที่สนามรอยัลฮิลล์ จังหวัดนครนายก

นายรังสฤษดิ์ กล่าวต่อไปว่า กีฬาซีเกมส์นับเป็นเป้าหมายสำคัญของสมาคมฯ ที่ตั้งความหวังจะคว้าทั้ง 4 เหรียญทอง ในด้านการเตรียมศักยภาพนักกีฬานั้น สมาคมฯ ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อไทยได้จัดการแข่งขัน ก็เป็นโอกาสของเจ้าภาพที่จะจัดในสนามที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมนักกีฬาไทย ซึ่งขณะนี้สมาคมฯ ได้หารือกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) และมนตรีซีเกมส์ในเรื่องดังกล่าว

โปรแกรมต่อไปสมาคมกีฬากอล์ฟฯ เตรียมจัดการแข่งขัน “สิงห์-กรุงไทย จูเนียร์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ รอบคัดเลือกสู่ กอล์ฟ จูเนียร์เวิลด์ ที่สนามรอยัลฮิลล์ จังหวัดนครนายก โดยคลาส C-E จะแข่งขันวันนี้ - 30 มีนาคม 2568 ส่วนคลาส A-B จะแข่งขันวันที่ 3-6 เมษายน 2568

สอ.ขรก.สรรพากร เปิดประชุมใหญ่ฯ โชว์ผลกำไร 787 ล้าน

วันที่ 8 ก.พ.68 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) มอบหมายให้นายชณินวัชร ต๊อดแก้ว รองผู้อำนวยการ สสท. เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ประจำปี 2567 สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด โดยมีนางจิตรมณี สุวรรณพูล ประธานฯสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด ให้การต้อนรับ ณ หอประชุมชั้น 3 กรมประชาสัมพันธ์ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

นางจิตรมณี สุวรรณพูล ประธานฯสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด ได้ดำเนินกิจการครบรอบ 44 ปี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานที่ผ่านมา สหกรณ์มีความเจริญก้าวหน้ามั่นคงอย่างต่อเนื่อง เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ มีการบริหารจัดการที่ดี มีความโปร่งใส มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศบริหารงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดจนมีบริการที่ส่งเสริมช่วยเหลือสมาชิกได้เป็นอย่างดี และในปี 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) มีมติเห็นชอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาสหกรณ์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการสหกรณ์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566-2570) ไปสู่การปฏิบัติร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องประจำปี พ.ศ. 2567 ใน 2 ประเด็นหลัก คือ 

ประเด็นที่ 1 ประกาศให้ปี 2567 เป็นปีแห่งการรณรงค์ให้ทุกสหกรณ์ที่มีสถานะดำเนินกิจการ จัดทำแผนกลยุทธ์ (พ.ศ. 2567-2570)

ประเด็นที่ 2 ให้สหกรณ์ทุกแห่งจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพ / สนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพื่อสร้างอาชีพและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ภายใต้บริบทและงบประมาณของแต่ละสหกรณ์ โดยบรรจุไว้ในแผนกลยุทธ์

ทั้งนี้ เดิมแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของสหกรณ์ฯ กำหนดสิ้นสุด พ.ศ. 2568 แต่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาสหกรณ์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการสหกรณ์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566-2570) สหกรณ์จึงได้ดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ.ศ. 2568-2570) โดยมีคณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ และสมาชิก รวมจำนวน 65 คน ร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา

“สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปีสิ้นสุดวัดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการสรรพากร จำกัด มีสมาชิก จำนวน 22,222 ราย มีกำโรสุทธิ 787,985,534.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 67,412,295.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 9.36” นางจิตรมณี กล่าว

ประชุมใหญ่ “ชาติพัฒนากล้า” มีมติใช้ชื่อเดิม “ชาติพัฒนา”

ประชุมใหญ่ “ชาติพัฒนากล้า” มีมติใช้ชื่อเดิม “ชาติพัฒนา” ด้าน” สุวัจน์” เชื่อพรรคชาติพัฒนากลับมาอยู่ในหัวใจคนโคราช ชี้เป็นขวัญกําลังใจที่ดี

วันที่ 25 เม.ย.2567 ที่รร.แคนทารี จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานประชุม พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบรายบัญชี นายประสาท ตันประเสริฐ เลขาธิการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)และ สมาชิกของพรรคเข้าร่วม

โดยนายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่าเป็นการประชุมใหญ่สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งมีเรื่องที่ได้แจ้งให้สมาชิกพรรคถึงการดำเนินการของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมาตั้งแต่เราได้เข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาล ความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เข้าไปมีส่วนร่วม นอกจากนี้มีการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคว่างลง เนื่องจากมีรองหัวหน้าพรรคได้ลาออกไป วันนี้จึงได้แต่งตั้งนายวุฒิพงศ์ ทองหลา สส.จังหวัดปราจีนบุรี และดร.อรัญ พันธุมจินดา เป็นรองหัวหน้าพรรค

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการหารือกันในเรื่องความเหมาะสมของชื่อพรรค คือ ก่อนการเลือกตั้งได้มีการเปลี่ยนจากชาติพัฒนา เป็นชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เลือกตั้งแล้วเสร็จ วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญ ก็ได้มีเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคอยากให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในมุมมองแตกต่าง ในเรื่องของชื่อพรรค ซึ่งได้สอบถามสมาชิกพรรคทั้งที่จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ตะวันออกตะวันตก ภาคกลางต่างๆ ทุกท่านเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าอยากจะให้ทางพรรคได้กลับมาใช้ชื่อเดิม เปลี่ยนจากชาติพัฒนากล้า เป็น พรรคชาติพัฒนา โดยไม่มีผู้ใดคัดค้านทุกๆท่านเห็นด้วยเป็นมติ ว่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นชื่อเดิมคือ พรรคชาติพัฒนา ก็ต้องไปแก้ไขข้อบังคับ

ในส่วนโลโก้ อักษร ชื่อ.ช้างไขว้ เหมือนเดิมมีปรับองศานิดหน่อย วันนี้ขึ้นคำว่า ”พรรคชาติพัฒนา 2567 Re-Start-Up” เพื่อแสดงผลงานให้พี่น้องประชาชนฟังว่า สส.พรรคชาติพัฒนาทุกคนมีบทบาทในสภาหมด

นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นกลับมา Re-Start-Up ต้องทำงานกันด้วยวิสัยทัศน์ ด้วยนโยบายอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการที่ได้คนใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทํางาน อย่างสนามท้องถิ่นทีมโคราชชาติพัฒนา สท.สจ. ที่เป็นฐานเก่าๆต้องรักษาฐานที่มั่น ทำงานกันต่อไป เมื่อกลับมาใช้ชื่อเดิม ”ชาติพัฒนา“ จะเป็นการสร้างขวัญกําลังใจ เหมือนคนเรา เปลี่ยนชื่อ ก็รู้สึกว่าดีขึ้น มั่นใจ โชคดีขึ้น เป็นสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนโคราช วันนี้ในที่ประชุม 300 กว่าคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชาติพัฒนากลับมาอยู่ในหัวใจ วันนี้ก็เอาหัวใจกลับคืน เปลี่ยนชื่อเป็น ชาติพัฒนา คิดว่าเป็นขวัญกําลังใจที่ดี ในการที่จะสร้างการทํางานที่จังหวัดนครราชสีมาให้เข้มแข็งขึ้น

เมื่อถามว่าในเดือนพ.ค.จะมีครม.สัญจรมาที่โคราช นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก็เป็นโอกาสดีที่ท่านนายกฯ หรือครม.จะมาประชุมครม.ที่โคราช ตนเชื่อว่าเป็นข่าวดี พี่น้องประชาชนชาวโคราช ก็ควรต้อนรับ แล้วก็คงจะมีข่าวดีๆ อะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาโคราช ทางพรรคยินดีต้อนรับ ยินดีที่จะสนับสนุน นโยบายอะไรที่ดีๆ เราก็จะได้มีโอกาส นําเสนอคณะรัฐมนตรี ตามที่ท่านจะเห็นเหมาะสม

เมื่อถามถึงการปรับครม. นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อไหร่ แต่ระยะเวลาของการเป็นของสภาก็ปีหนึ่งถ้านายกฯเห็นว่าการปรับรัฐมนตรีทําให้การทํางานในการพัฒนาประเทศหรือการแก้ไขปัญหาของประชาชนดีขึ้น เพราะถ้าปรับแล้ว ตนเชื่อว่าความคาดหวังอย่างหนึ่งของประชาชน เมื่อมีการปรับ ครม.ประชาชนก็ต้องคิดว่าปรับแล้วดีขึ้น ได้คนเก่งขึ้น ได้คนดีขึ้น การทํางานกระจับกระเฉ่งขึ้น อันนี้คือ ความคาดหวังของประชาชน

คึกคัก! ประมวลภาพ บรรยากาศประชุมใหญ่เลือกหัวหน้าปชป.

วันที่ 9 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาพบรรยากาศ ที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค โดยวาระสำคัญของการประชุมในวันนี้คือ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ รร.มิราเคิล แกรนด์