กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ส่งมอบสุขภาพดี ผ่านโครงการ "คาราวานตรวจสุขภาพฟรี"

บมจ. กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต มุ่งมั่นเคียงข้างคนไทย พร้อมส่งมอบสุขภาพดี และความห่วงใยอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรม “คาราวานตรวจสุขภาพทั่วไทย” ตรวจสุขภาพพื้นฐานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลในเครือข่าย โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ให้บริการตรวจสุขภาพฟรีแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ทั้งสองพื้นที่ดังกล่าวทางบริษัทฯ ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์จากการได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัด

ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสุขภาพที่ดี คือรากฐานของชีวิตที่มั่นคง จึงมุ่งมั่น ทุ่มเท มอบความห่วงใย และสุขภาพที่ดีให้คนไทย ผ่านโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเคียงข้างคนไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายบริษัทฯ ที่พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

ทั้งนี้สำหรับท่านที่สนใจเข้ารับบริการ สามารถดูรายละเอียดวัน และสถานที่ให้บริการคาราวานตรวจสุขภาพทั่วไทยได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/caravan-health-check-2025 หรือ โทร. 1159

กรุงไทย-แอกซ่าฯ จัดคอนเสิร์ต “KTAXA Rock N’ Loud Concert ตะโกนร้อง ตะโกนร็อค”

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จัดคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ “KTAXA Rock N’ Loud ตะโกนร้อง ตะโกนร็อค” เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนลูกค้าคนสำคัญที่ให้การสนับสนุน กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการมีลูกค้าเป็นที่หนึ่ง และตอกย้ำพันธสัญญาของเรา 'Know You Can' ที่มุ่งมั่น ส่งเสริม และเป็นเพื่อนคู่คิดกับลูกค้าของเราเสมอ พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

คอนเสิร์ตดังกล่าว จัดขึ้นใน วันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา  ณ ไบเทค ไลฟ์ แอท ไบเทค บางนา โดยมีศิลปินมากมายที่มาร่วมสร้างความสนุกสุดมันส์ ได้แก่ บอดี้สแลม ทิลลี่เบิร์ดส์ เรโทรสเปกต์ พร้อมด้วยศิลปินเซอร์ไพร์สในงานอย่าง จ๊ะ นงผณี โดยมีลูกค้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 7,000 คน ที่ได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุก สุดเหวี่ยงกับศิลปินคนโปรด

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดตัวแคมเปญ “สิ้นปีนี้ สุขคูณสอง เริ่มวางแผนภาษี” เสริมความมั่นคงทางการเงิน

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ เปิดตัวแคมเปญใหม่ รับเทศกาลภาษีปลายปีนี้ กับแคมเปญ “สิ้นปีนี้ สุขคูณสอง เริ่มวางแผนภาษี” ​สุขที่ได้มีประกัน และสุขที่ได้เงินลดหย่อนภาษี​ โดยสามารถลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท* พร้อมสนับสนุนคนไทยได้เริ่มวางแผนภาษีและสนับสนุนการวางแผนการเงิน ผ่านประกันที่หลากหลาย ตามไลฟ์สไตล์ ได้แก่

1. ไลฟ์ เรดดี้ (LifeReady) ให้ความคุ้มครองชีวิตนานถึง 99 ปี เลือกชำระเบี้ยได้ 4 ระยะ ​ทั้ง 6 ปี 12 ปี 18 ปี หรือตลอดสัญญา

2. โกลบอล อินเด็กซ์ (Global Index 16/6) แบบประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ พร้อมรับเงินคืนสูงสุด 6% ต่อปีของจำนวนเงินเอาประกัน รวมเงินคืนตลอดสัญญามากกว่า 500%​

3. บำนาญ เรดดี้ (BumnanReady) วางแผนเกษียณรับเงินบำนาญสูงสุดปีละ 25% รวมเงินบำนาญตลอดสัญญากว่า 500%

ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน – 31 ธันวาคม 2568 สำหรับท่านใดที่สนใจแบบประกันที่ช่วยวางแผนภาษี ท่านสามารถสอบถามผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ที่ ตัวแทนของบริษัทฯ สำนักงานตัวแทนทั่วประเทศ หรือ https://www.krungthai-axa.co.th/th/campaign/tax-campaign-2025 หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 จะได้รับสิทธิ์ร่วมจับรางวัล ลุ้นเป็นผู้โชคดีของแคมเปญ “ลุ้นทริปเที่ยวอังกฤษ เปิดประสบการณ์ลิเวอร์พูลแบบจัดเต็ม กับ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต พร้อมรับชมการแข่งขันฟุตบอลของทีมลิเวอร์พูล แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างใกล้ชิด ณ สนามแอนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ แบบเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทริปอีกด้วย

"คลัง" ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา

"คลัง" ผ่อนผันเงื่อนไขกรรมธรรม์ประกันภัยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา

วันที่ 7 ส.ค.68 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค.68 ทีมงานกระทรวงการคลัง ได้ประชุมติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา โดยมีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กรมสรรพากร สํานักงานเศรฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ คือ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อชี้แจง และทําความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ของ คปภ. ทั้งในส่วนของ การประกันภัย และการประกันวินาศภัย

ทั้งนี้ จะผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยเขตพื้นที่ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเริ่มผ่อนผันตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนี้

ประกันชีวิต

-ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไปอีก 60 วันนับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม (เดิมระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย 31 วัน)

-กรณีกรมธรรม์สิ้นผลบังคับเนื่องจากการขาดชำระเบี้ยประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย ภายใน 6 เดือน บริษัทอาจงดการตรวจสุขภาพ และยกเว้นดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนด้วยก็ได้

-กรณีที่มีการนำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยประกันกันภัยโดยอัตโนมัติ และกรมธรรม์ประกันภัยถูกแปลงเป็นการประกันภัยแบบขยายเวลา หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ หากผู้เอาประกันภัยขอกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ประกันภัยภายใน 6 เดือน บริษัทอาจงดการตรวจสุขภาพและยกเว้นดอกเบี้ยในระหว่างนั้น

-ในกรณีผู้เอาประกันภัยมีการเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัย หรือ มีการชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดที่น้อยกว่า 1 ปี โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัย บริษัทอาจผ่อนผันให้ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยในแต่ละงวดโดยไม่คิดดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนด้วยก็ได้

ประกันวินาศภัย

-ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยที่ครบกำหนดออกไป 90 วันนับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม

-กรณีกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับเนื่องจากขาดการชำระเบี้ยประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทอาจงดการตรวจสุขภาพและยกเว้นดอกเบี้ย เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือนด้วยก็ได้

นอกจากนี้ ยังได้สรุปทำความเข้าใจในมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ของกระทรวงการคลัง อาทิ มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ (กรมสรรพากร) มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้พี่ได้รับผลกระทบของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (สศค.) มาตรการช่วยหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

"กระทรวงการคลังได้มีการประชุมติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยฉพาะเรื่องนโยบายต่างๆ ของกระทรวง สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และการประกันภัย/วินาศภัยของ คปภ. เนื่องจากเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากต่อการทำความเข้าใจ จึงต้องมีการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประชาชนใน 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา ได้เข้าใจและใช้สิทธิ์ของตนเองอย่างต็มที่ เพื่อเยียวยาและดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุด"

#กระทรวงการคลัง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ประกันชีวิต #ประกันวินาศภัย #มาตรการช่วยเหลือ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้

สองผัวเมียเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบ เอาผิดบุคคลที่นำชื่อไปทำประกันวงเงิน 120 ล้าน  

วันที่ 9 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)  นางชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พา น.ส.พัชรวรินทร์ หรืออุ๊ และนายธนาญวัฒณ์ หรือโต้ง ผู้เสียหายสองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ก. เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดบุคคลที่นำชื่อของผู้เสียหายไปสวมสิทธิ์ทำประกันชีวิตวงเงิน 120 ล้านบาท

นางชลิดา กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาแจ้งความที่กองปราบ เพราะเริ่มแรกผู้เสียหายพยายามแจ้งความ แต่เนื่องจากเหตุเกิดหลายพื้นที่ต่างจังหวัดจึงต้องมาที่กองปราบ ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีใครบ้างนั้น เบื้องต้นทราบว่ามี 2-3 ราย ส่วนกรมธรรม์อื่นๆ ที่มีทั้งลายเซ็นและตัวแทนประกันก็จะมีเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งจะต้องรอเอกสารจาก คปภ. เพื่อแจ้งความเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 

 อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ลงบันทึกประจำวันไว้ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและเป็นหลักฐานว่า ไม่เคยไปทำประกันมาก่อน ส่วนข้อกล่าวหาที่จะแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่มึส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้นั้นขอให้ทางตำรวจเป็นผู้พิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง 

เบื้องต้นอาจเข้าข่ายความผิดข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารปลอม” ในส่วนข้อหา “พยามฆ่าในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ” ตำรวจได้เรียกเข้าไปสอบปากคำหลังจากที่ตัวเองได้โพสต์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กว่าผู้เสียหายอาจถูกปองร้ายหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าทางอีกฝ่ายพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ถึงแม้ผู้เสียหายจะเคยเป็นผู้กระทำความผิดมาก่อนแต่ไม่ใช่จะต้องผิดตลอดไปทุกคนมีโอกาสที่จะปรับปรุงตัวได้และผู้ถูกกระทำก็ควรมีสิทธิ์ในการที่จะปกป้องตัวเอง และ ผู้เสียหายเองก็ไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันแต่ละปีที่ต้องจ่ายเงินประมาณ 2 ล้านบาทได้

น.ส.พัชรวรินทร์ กล่าวว่า ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นใครที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ แต่เมื่อได้เอกสารมาจึงทราบว่าใครเป็นผู้รับผลประโยชน์  วันนี้จึงมาแจ้งความเอาผิดผู้รับผลประโยชน์โดยตัวแทนบางท่านเป็นญาติกับตัวเองและเคยมีคดีความกันมาก่อน  ยืนยันว่าตัวเองและสามีไม่ได้ทำประกันชีวิตกับตัวแทนคนไหนมาก่อน ส่วนกระบวนการของการทำประกันชีวิตผู้เอาประกันจะต้องลงลายมือชื่อด้วยตัวเอง ฉะนั้นลายเซ็นใบคำขอที่ประสงค์เอาประกันภัย สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นลายเซ็นของตัวเองหรือไม่ ทั้งนี้ไทม์ไลน์ก่อนหน้านี้ได้ฝากเอกสารไว้กับทนายความระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาจึงไม่ได้นำเอกสารใดเข้าไปด้วย และทราบว่าทนายความรู้จักกับนางวัชรี นอกจากนี้ยังพบว่า การทำประกันภัยมีการนำบัตรประชาชนอันเก่าของตัวเองไปทำประกันภัย โดยหลังจากที่ตัวเองออกมาจากเรือนจำได้ทำบัตรประชาชนอันใหม่แล้ว  แต่ก็ยังพบว่ามีการใช้บัตรประชาชนใบเก่าไปทำกรมธรรม์ พร้อมยอมรับว่ารู้จักกับตัวแทนตัวแทนบริษัทประกันภัยเพียงคนเดียวที่เป็นญาติยืนยันว่าหลังจากพ้นโทษตัวเองไม่ได้มีการทำประกันภัย

ส่วนกรณีล่าสุดที่อีกฝั่งให้สัมภาษณ์ว่าตัวผู้เสียหายมีกรมธรรม์เพียง 2-3กรมธรรม์ แต่ความจริงของตัวเองมี 8 กรมธรรม์ ส่วนของสามีมีกว่า 10 กรมธรรม์ โดยเขายอมรับว่าเป็นคนทำกรมธรรม์เพื่อให้ครอบคลุมกับยอดหนี้ที่ได้เป็นหนี้อีกฝั่งไว้ ซึ่งล่าสุดมีการฟ้องร้องยอดหนี้จำนวน 50 ล้านบาท แต่พบมีการทำกรมธรรม์ของผู้เสียหายทั้งสองคนจำนวน 46 ฉบับ วงเงิน 120 ล้านบาท ส่วนเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2565 สามีได้ประสบอุบัติเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้มีความเคลือบแคลงใจสงสัยว่ามีการถูกประทุษร้ายหรือถูกลอบฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกัน และเชื่อว่าอาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง

น.ส.พัชรวรินทร์ ฝากถึงบริษัทประกันภัยว่าตัวเองและสามียืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาจะทำประกันชีวิต อยู่ดีๆ กลับมีเซอร์ไพรส์การทำประกันชีวิตเบื้องต้นพบมี 46 กรมธรรม์วงเงินคุ้มครอง 120 ล้านบาท จึงอยากให้มีการคัดกรอง ขั้นตอนการตรวจสอบการทำประกันให้มีความเข้มงวด และให้ตรวจสอบอัตลักษณ์เบื้องต้น หลังจากที่ตัวเองพ้นโทษมาแล้วมีคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เคยมีอยู่หนึ่งครั้งเคยติดต่อให้ตัวเองถ่ายรูปคู่กับบัตรประชาชนโดยอ้างว่าจะให้ความช่วยเหลือในการทำประกันสุขภาพให้เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์เบิกได้ เพราะขณะนั้นตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ ตัวเองจึงปักใจเชื่อเพราะตอนนั้นลำบากจึงยินดีส่งรูปคู่กับบัตรประชาชนไปให้นางวัชรีในไลน์ จึงไปสอบถามว่าการทำประกันสังคมมีขั้นตอนแบบนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือไม่มี แต่ข้อสงสัยมาตลอดว่านำไปทำอะไรแต่ก็ไม่ได้สอบถามหรือทวงติง เพราะด้วยรายได้ในตอนนั้นยืนยันตัวเองไม่มีรายได้เพียงพอที่จะสามารถทำประกันเองได้ 

ด้าน นายธนาญวัฒณ์ ยืนยันไม่ได้มีการจดบริษัท เมื่อมีข้อสงสัยจึงไปสืบค้นที่จังหวัดว่าตัวเองมีชื่อในกรรมการบริษัท ยืนยันไม่เคยเซ็นสัญญาทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ด้วยลายมือชื่อ ไม่มีการตกลงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ และไม่มีหลักฐานอะไรจะยืนยันว่าตัวเองจะเป็นหุ้นส่วน และหากมีลายเซ็นของตัวเองลายเซ็นนั้นจะต้องเป็นลายเซ็นปลอม 

ส่วนกรณีที่มีการทำประกันกับตัวแทนบริษัทประกันแห่งหนึ่งยืนยันว่ามีการพบเห็นตัวเองนั้น นายธนาญวัฒณ์ บอกว่า กรณีนั้นน่าจะมีคนสวมรอยเป็นตัวเอง ฝั่งตัวแทนประกันยืนยันว่าพบเห็นผู้ชายแต่เห็นไม่ชัด ขณะเดินเข้าไปในบ้าน และจ่ายเงินสด ทั้งนี้ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่นั่นโดยมีพยานบุคคลยืนยันได้ในวันนั้นตัวเองอยู่บ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนที่มาที่ไปของบัญชีธนาคารกรุงไทย บัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีฝากไว้กับนางวัชรีเพื่อจะให้นางวัชรีไปนำเงินจำนวน 200,000 บาท ออกมาเพื่อเป็นการใช้หนี้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการคืนสมุดบัญชีและเอทีเอ็ม และยืนยันว่าตัวเองมีภรรยาเพียงคนเดียวคือ น.ส.พัชรวรินทร์ และมีลูกสองคน 

นายธนาญวัฒณ์ เล่าต่อว่า นางวัชรีเป็นส่วนกลางในการติดต่อคุณบอยให้ตัวเองรู้จัก เพื่อให้คุณบอยมาดูพื้นที่บ้านเพื่อทำธุรกิจจำนำรถและนำรถที่รับจำนำไปจอดไว้ โดยให้ตัวเองเป็นคนดูแลสถานที่จอดและอำนวยความสะดวกต่างๆโดยนางวัชรีนำเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองให้บอย และนำเบอร์ของบอยให้ตัวเอง รวมถึงได้มีการนัดหมายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ขณะรับประทานอาหารมีการถ่ายภาพ ก่อนจะถูกรถชนจังหวะสุดท้ายเห็นเพียงแค่แสงแล้วก็ไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนคดีนั้นขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ทั้งนี้ขอถามกลับไปถ้าตัวเองจะต้องเสียชีวิตจะยกเงินให้คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวหรือไม่ 

“ยืนยันไม่มีการพูดคุยตกลงในส่วนที่เป็นหนี้กันว่าจะมีการทำประกันเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ เขาทำโดยพละการด้วยตัวเอง ตามที่เขากล่าวอ้างว่าเราเป็นหนี้เขาจำนวน 50 ล้านบาท” นายธนาญวัฒณ์ กล่าว

น.ส.พัชรวรินทร์ เล่าอีกว่า ลูกหนี้คดีแรกที่โดนฟ้องจะมาเป็นพยานให้ โดยคดีที่โดนฟ้องได้ไปตกลงยอมรับสภาพหนี้ ส่วนหนี้ 50 ล้านบาทจริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่จริงในคำฟ้องที่ฟ้องมาปล่อยเงินกู้ให้มากถึง 50 ล้านบาทและไม่มีการชำระเงินเลย ยอดหนี้ที่ตัวเองเป็นหนี้จริงๆ ประมาณ 10 ล้านบาท การให้เงินส่วนใหญ่เป็นการโอนเงินให้และเขียนเช็คให้ ได้ผ่อนชำระโอนคืนมีสเตทเม้นท์ยืนยันจำนวน 8 ล้านบาท ส่วนจุดแตกหักกับอีกฝั่งเพราะไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ตกลงไม่สามารถชำระต้นและชำระดอกตามที่ตกลงไว้ได้ 

ส่วนกรณีคุณแตงพยายามจบชีวิตตัวเอง น.ส.พัชรวรินทร์ บอกว่า ตัวเองและคุณแตงเป็นหนี้กันยอดประมาณ 5 ล้านบาท ช่วงเวลาที่เขาอ้างยืนยันว่าตัวเองยังอยู่ในเรือนจำ ไม่ทราบเรื่อง แต่มาทราบจากอีกฝ่ายบอกว่ามีคนจะผูกคอตาย ทั้งนี้อีกฝั่งเขาอ้างว่าทำธุรกิจกับคุณแตงโดยมีการเคลียร์ยอดหนี้กันไปแล้วจำนวน 6 ล้านบาท

"หงส์แดงแห่งชาติ presented by กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต" ฉลองแชมป์ครั้งยิ่งใหญ่สำหรับแฟนหงส์แดงในไทย    

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดงาน "วันหงส์แดงแห่งชาติ" ที่เซ็นทรัลพระราม 9  ร่วมฉลองความสำเร็จ และความยิ่งใหญ่ของหงส์แดงในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 20 มีขบวนแห่ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ทั่วกรุงเทพฯ วันที่ 25 พ.ค.นี้

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย- แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก เผยว่า บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับแฟนบอลหงส์แดงในประเทศไทย โดยการจัดงานแถลงข่าว “วันหงส์แดงแห่งชาติ”ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย และกีฬาฟุตบอล อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และร่วมสร้างพลังกายพลังใจ ความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าทุกคนทำได้ "Know You Can"  โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุน อยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

"งานนี้ไม่ใช่แค่งานฉลองแชมป์ธรรมดา แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของแฟนหงส์แดงในประเทศไทยที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน เราหวังว่าในวันงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” กับการฉลองแชมป์ครั้งยิ่งใหญ่สำหรับหงส์แดงในประเทศไทยครั้งนี้ จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับทุกคน และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟุตบอลในเมืองไทย"

คุณจิรายุ อาจสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAIN STAND CREATOR (THAILAND) เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นว่าโครงการเกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะจัดงานฉลองแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้หงส์แดง หลังจากการรวมตัวของทีมงานได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกัน โดยทุกฝ่ายเห็นตรง กันว่าต้องสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี 

คุณศุภวุฒิ ศรขวัญ (เกมส์เอง) เล่าว่า ได้รับการติดต่อจากคุณกอล์ฟเพื่อร่วมงานฉลองแชมป์นัด สุดท้ายให้กับแฟนหงส์แดงไทย โดยเสนอให้ยกระดับเป็นงานใหญ่ด้วยการจัดขบวนแห่ฉลองแชมป์ หลังจากนั้นได้ชักชวนทีม THE STADIUM เข้าร่วมจนเกิดเป็นโครงการ "วันหงส์แดงแห่งชาติ" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ ให้แฟนบอลหงส์แดงได้แสดงตัวตน ความรักและความภาคภูมิใจ ต่อสโมสร ซึ่งการได้รับการสนับสนุน จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และ CRC Sports   ทำให้มั่นใจในความสำเร็จของงาน พร้อมกับ เชิญชวนแฟนบอลหงส์แดงทุกท่าน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของประวัติศาสตร์ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

คุณเบลล์ ขอบสนาม เปิดเผยว่า แม้จะเป็นแฟนแมนยูฯ แต่รู้สึกตื่นเต้นกับโครงการนี้มาก เนื่องจากเคยมีแนวคิดจัดงานในลักษณะนี้ ตั้งแต่หงส์แดงได้แชมป์คราวก่อน แต่ต้องยกเลิก เพราะสถานการณ์ โควิด ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมในวันงานที่ Central World จะเริ่มตั้งแต่ 13.00 น. ด้วยกิจกรรมฟุตบอลคลินิกตามด้วยการรวมตัวของแฟนบอลเพื่อร่วมขบวนแห่ฉลอง แชมป์ตามเส้นทางที่กำหนด และกลับมาสิ้นสุดที่ Central World โดยทีมงานตั้งใจทำงานนี้อย่างเต็ม ที่เพื่อแฟนบอลหงส์แดงโดยเฉพาะ

คุณสุวินัย โพธิไพโรจน์ (แจ็คเล็ก) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THE STADIUM กล่าวว่า เมื่อได้รับการติดต่อให้ร่วมโครงการนี้ ทาง THE STADIUM รู้สึกตื่นเต้นและพร้อมสนับสนุน เต็มที่ เนื่องจากมีความตั้งใจที่จะสร้างชุมชนแฟนบอลหงส์แดงให้แข็งแกร่งอยู่แล้ว พร้อมยังเน้นย้ำ ว่างานนี้จะไม่เพียงเป็นที่พูดถึงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนบอลต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย และแฟนบอลจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของ แฟนหงส์แดงและความรักที่มีต่อหงส์แดงแม้จะอยู่ห่างไกลกัน

คุณจิตกร ศรีคำเครือ (ยักษ์) Content Director ของ MAIN STAND เปิดเผยว่า เมื่อได้รับการติดต่อเกี่ยวกับโครงการนี้จากคุณกอล์ฟ ตนตอบรับทันที เพราะเห็นว่าเป็น โครงการที่ยิ่งใหญ่สำหรับแฟนหงส์แดงประเทศไทย และจะเป็นจุดเด่นของเอเชีย โดยความพิเศษ ของงานนี้จะเป็นครั้งแรกของการจัดงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ในประเทศไทย เพื่อฉลองแชมป์หงส์แดงโดยได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของหงส์แดงในประเทศไทย ได้แก่ CRC Sports และ กลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยให้กิจกรรมได้รับการรับรองและการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ จากนักเตะตำนานแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปี2005 ที่อิสตันบูล อย่าง ยอห์น อาร์เน่ มาร่วมในกิจกรรมฉลองแชมป์ครั้งนี้ด้วย

คุณสุภาภรณ์ ปรีเปรม Head of Soccer Brands, CRC Sports กล่าวว่า CRC Sports รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประวัติศาสตร์ "วันหงส์แดงแห่งชาติ" โดยในฐานะผู้นำใน วงการธุรกิจกีฬาของประเทศไทย CRC Sports มุ่งมั่นสนับสนุนกิจกรรมที่เชื่อมโยงแฟนกีฬาชาวไทย กับสโมสรระดับโลกอย่างหงส์แดง และมองว่างานนี้เป็นโอกาสสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงพลัง และความแข็งแกร่งของชุมชนแฟนบอลหงส์แดงในประเทศไทย

5 เคล็ดไม่ลับ…ช่วยจัดการเรื่องภาษีให้เป็นเรื่องง่าย

5 เคล็ดไม่ลับ…ช่วยจัดการเรื่องภาษีให้เป็นเรื่องง่าย

ถึงเทศกาลยื่นภาษีทีไร ใครหลายคนอาจต้องถอนหายใจ เพราะต้องจัดการเรื่องการเงินครั้งสำคัญในรอบปีกันอีกครั้ง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มี 5 คำแนะนำดีๆที่ช่วยให้คุณลดความกังวลกับเรื่องภาษี และบริหารค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีได้อย่างสมาร์ท 

1.แจ้งรายการลดหย่อนภาษีกับฝ่ายบุคคลล่วงหน้า
สำหรับมนุษย์เงินเดือน หลายบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานแจ้งรายการลดหย่อนได้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปี เพื่อลดการหักเงินภาษีจากสลิปเงินเดือนในแต่ละเดือน ซึ่งมีข้อดีคือ ฝ่ายบุคคลจะสามารถรวบรวมและประมวลผลข้อมูลของคุณ ให้เป็นระบบและถูกต้อง ช่วยให้สามารถคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งช่วยลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

2.รายการลดหย่อนพื้นฐานต้องมีให้ครบ
อย่าลืมกรอกรายการลดหย่อนภาษีพื้นฐาน เช่น ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบุตร, ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบิดาและมารดา,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันสังคม รวมไปถึงรายการลดหย่อนที่กำหนดในแต่ละปี เช่น ส่วนลดจากโครงการ Easy E-Receipt เป็นต้น  ให้ครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าดอกเบี้ยเงินออมทรัพย์และฝากประจำก็สามารถนำมาคำนวณรวมเพื่อขอคืนภาษีได้ถ้าฐานภาษีของคุณอยู่ต่ำกว่าอัตราภาษีที่ถูกหักไว้ 

3.รายการลดหย่อนใหญ่ 4 ประเภทช่วยประหยัดได้สูงสุด 1,000,000 บาท ได้แก่
•ประกันชีวิต สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
•ดอกเบี้ยบ้าน สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
•กองทุน Thai ESG สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
•กองทุน RMF + ประกันบำนาญ + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท (เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเงื่อนไขเพิ่มเติมอย่างละเอียด) 

4.รายการบริจาคลดหย่อนได้สูงสุด 2 เท่า
รายการบริจาคเพื่อการศึกษา กีฬา และโรงพยาบาลรัฐบาล สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 2 เท่า ก่อนบริจาคจึงควรสอบถามเจ้าหน้าที่ หรือตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรเพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

5.บัตรเครดิตตัวช่วยเมื่อต้องใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องภาษี ทราบหรือไม่ว่าบัตรเครดิตเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เมื่อต้องบริหารจัดการเรื่องภาษี เช่น ช่วยให้เราจัดสรรการเงินได้อย่างเหมาะสมกับการใช้จ่ายในแต่ละช่วง เนื่องจากค่าใช้จ่ายเช่นการซื้อประกันและกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี สามารถเลือกชำระผ่านบัตรเครดิตได้,ช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงินสดก้อนใหญ่ออกไปทันที ทำให้สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น,มีทางเลือกการชำระเงินค่าภาษีเพิ่มขึ้น ตามปกติกรมสรรพากรกำหนดให้ผ่อนชำระค่าภาษีจำนวน 3 งวด งวดละเท่าๆกัน ดังนั้นหากเลือกชำระค่าภาษีด้วยบัตรเครดิตจะสามารถเลือกผ่อนชำระรายเดือนได้ หรืออาจเลือกผ่อน 0% ได้นานหลายเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท จึงช่วยทำให้สามารถบริหารและจัดสรรการเงินส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม

การยื่นภาษีจะไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเตรียมตัวให้พร้อมก็จะสามารถวางแผนภาษีและบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวล

#กรุงศรีคอนซูมเมอร์ #ข่าววันนี้ #ยื่นภาษี #ประกันชีวิต #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

กรุงไทย-แอกซ่าฯ เผยโฉม 20 เยาวชน เข้าโครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U15)

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรม "KTAXA Know You Can Football Youth (U15) Academy" สนามสุดท้าย ภาคกลาง ณ สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเยาวชนชายหญิงเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน เพื่อคัดเลือกสุดยอดเยาวชนไทยที่มีทักษะในกีฬาฟุตบอล พร้อมรับทุนการศึกษา และอุปกรณ์กีฬา รวมกว่า 260,000 บาท 

ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากคุณ คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นประธานในงาน และกล่าวแสดงความยินดีกับเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกทั้งสิ้น 20 คน จากเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,600 คน จาก 4 สนาม 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศไทย เพื่อรับทุนการศึกษาคนละ 5,000 บาท และอุปกรณ์กีฬาคนละ 8,000 บาท    

โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U-15) Academy ปีที่ 3” ที่บริษัทฯ ได้จัดขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับทักษะนักฟุตบอลเยาวชนของไทยสู่มาตรฐานระดับโลก และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และร่วมสร้างพลังกายพลังใจ ความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าทุกคนทำได้ “Know You Can” บริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุน อยู่เคียงข้างความเชื่อมั่นของเยาวชนไทย และมอบโอกาสในการพัฒนาทักษะฟุตบอล เพื่อให้สามารถก้าวเดินตามความฝันได้สำเร็จ

โดยเยาวชนทั้ง 20 คนที่ได้แก่

1.ด.ช. ศักรนันทน์ ทิพย์รักษ์
2.น.ส. มณีรัตน์ เตชะเลิศพนา
3.ด.ช. ณัฐภูมิ ผัดสัก
4.ด.ช. วรากร ปู่หล้า
5.นาย ณภัทร วนาลีไพศาล
6.ด.ช. ธรณ์ธันย์ โชคพัชรอมร
7.นาย ชยุต อินชำนาญ
8.น.ส. สิรามล มีเสน
9.ด.ช. ภัทรภูมิ ธนาภูดินันท์
10.นาย ยศวัจน์ อัครพูนพงศ์
11.นาย อภินิรุตติ เหมาวิพัฒน์
12.นาย วชิรวิทย์ อาวรณ์
13.นาย ศุภกิตด์ งามวิเศษ
14.นาย ภูริช ทรัพย์เห็นสว่าง
15.นาย สุรวีย์ รอดมา
16.ด.ช. จิรภัทร หึกขุนทด
17.นาย ณัฐภัทร ชื่นนิยม
18.นาย นวพล พันธ์ุมี
19.ด.ญ. ภัควรินทร์ พานทอง
20.ด.ช. ธนภัทร ช้างสี