กระสุนปริศนาทะลุกระจกหลังรถเก๋งช่วงจุดพลุฉลองวันปีใหม่ย่านแพรกษา

กระสุนปริศนาทะลุกระจกหลังรถเก๋งช่วงจุดพลุฉลองวันปีใหม่ย่านแพรกษา

วันที่ 1 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีกระสุนปืนตกลงมาใส่กระจกรถยนต์เก๋งได้รับความเสียหาย ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านแพรกษา ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบที่ริมถนนเมนหลักของหมู่บ้าน พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน 3 กม 9436 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ที่กระจกหลังแตกระเอียด บริเวณฝั่งซ้ายของกระจกหลังมีรูขนาดใหญ่ ที่เบาะนั่งหลังซ้าย พบหัวกระสุน จำนวน 1 หัว และเศษกระจกที่แตก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางสาวอุบล อายุ 63 ปี แม่ของเจ้าของรถคันดังกล่าว เล่าว่า เมื่อประมาณบ่ายสอง ตนและสามีกำลังจะออกไปซื้อของกันที่ห้าง ได้นำรถคันดังกล่าวดังมาขับ ซึ่งขณะที่กำลังกลับรถอยู่สามีได้สังเกตเห็นว่ากระหลังเป็นเหมือนฝ้า จึงนำรถจอดเข้าข้างทางจึงเดินลงมาดูกัน ก็พบว่าที่กระจกหลังเป็นรู และพบกระสุดที่เบาะหลัง จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคืนมีการจุดพลุด้วยจึงไม่รู้ว่าปืนถูกยิงมาทางไหนและเมื่อไหร่

ชาวบ้าน บอกว่า ตนก็อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ช่วยเข้มงวดกับเรื่องการยิงปืนขึ้นฟ้านิดนึง ช่วงเวลาที่เป็นเทศกาลปีใหม่ เทศกาลอะไรก็แล้วแต่ ที่มันเป็นงานรื่นเริง ระยะหลังมันมีการยิงปืนเยอะ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามันมาจากปืนหรือมาจากประทัด แล้วก็ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการเข้มงวดเรื่องนี้นิดนึง ความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ตนมองอย่างนั้น ถ้ามันไม่สูญเสียมันก็ไม่เป็นไร เสียแค่ทรัพย์ก็ไม่เป็นไร อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะท้องถิ่นก็ควรจะกวดขันในเรื่องนี้ เพราะว่ามันอันตราย ถึงชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะได้ตรวจสอบในหลาย ๆ มุมเพื่อติดตามตัวคนยิงปืนมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

สวนกระแส! "ต๊ะ นารากร" ไม่ส่งคำอวยพรปีใหม่ใคร เกลียดการจุดพลุทำหมาแมวตกใจ

เป็นอีกคนดังที่ออกมาเตือนเรื่องพลุกับสัตว์เลี้ยงทุกเทศกาล สำหรับพิธีกรข่าวชื่อดัง "ต๊ะ นารากร" ล่าสุดได้ออกออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขอสวนกระแส ไม่ countdown ไม่ส่งคำอวยพรปีใหม่ให้ใคร  เกลียดการจุดพลุ  เสียงดัง หมาแมวตกใจ ตายไปหลายตัวแล้ว  หมาที่บ้านก็ตัวสั่นงันงก  เหมือนจะขาดใจตาย"

 

 

"ราชบุรี" ระทึกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังต้อนรับปีใหม่ คาดมาจากสะเก็ดจากพลุฉลองปีใหม่ 

"ราชบุรี" ระทึกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังต้อนรับปีใหม่ คาดมาจากสะเก็ดจากพลุฉลองปีใหม่ 

เมื่อวันที่ 1 ม.ค.68  ร.ต.อ.ณัฐพล เพียรพิทักษ์  ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ภายในซอย 7 ราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี  หลังรับแจ้งได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองราชบุรี และในเขตพื้นที่ใกล้เคียงจากนั้นได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และรถดับเพลิงสนับสนุนพื้นที่ใกล้เคียงอีกจำนวน 20 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ มูลนิธิประชานุกูล ซึ่งเป็นซอยแออัดโดยรถดับเพลิงขับอ้อมไปด้านหลังและด้านหน้าระดม ใช้น้ำฉีดสกัดดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากชุมชนนี้สร้างติดกันอาศัยอยู่จำนวนกว่า 50 หลังคาเรือน ซอยแคบเป็นบ้านไม้ติดกัน โดยเฉพาะไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ใช้น้ำสกัดเพลิงซึ่งกำลังโหมกระหน่ำจำพวกไม้ ซึ่งกำลังมีกลุ่มควัน และเปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ควันพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า ชาวบ้านใกล้กันต่างพากันยกสิ่งของที่พอออกมาได้ช่วยกันมากองไว้ด้านนอก เจ้าหน้าที่ต้องแข่งกับเวลา ในขณะที่ลมพัดลามไปอีกบ้านหลังหนึ่งอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่สามารถหยุดได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องมาด้านหลังชุมชนใช้สายยางหลายหัวฉีดควบคุมเพลิงสำเร็จใช้เวลา 1 ชั่วโมง  


จากการสอบถาม นายธีรพงศ์ เพียรพิทักษ์ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ  เปิดเผยว่า  เมื่อช่วงเวลา 01.50 น. ได้ยินเสียงแมวร้องพร้อมกับเหมือนมีเศษไม้หล่นลงมา จึงเดินขึ้นไปเปิดประตูปรากฏว่าเห็นเพลิงกำลังไหม้อยู่ใต้หลังคาบ้าน ก่อนจะวิ่งไปหาน้ำมาดับแต่ไม่ทันเนื่องจากไฟได้ไหม้อย่างรวดเร็ว ตนเองจึงเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้มนบ้านเข็นออกมาก่อน  โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเองอยู่กับญาติ 4 คน แต่วันนี้อยู่คนเดียว พี่น้องออกไปสวดมนต์ข้ามปีที่ จ.เพชรบุรีกันหมด เหลือแต่ตนเองที่อยู่บ้าน และช่วงก่อนเกิดเกตุกำลังเล่นมือถืออยู่ชั้นล่างก่อนได้ยินเสียงแมวร้องก่อนมีเสียงดังเหมือนไม้แตกปรากฏว่ามีแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ ตนเองคิดว่าสาเหตุที่ไหม้นั้นไม่ได้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะตนก็นอนเล่นอยู่ไฟก็ปกติไม่มีดับหรือกระพริบแม้แต่น้อย สันนิฐานว่า อาจจะมาจากสะเด็ดเศษไฟจากพลุที่มีการจุดฉลองต้อนรับปีใหม่กันระแวกใกล้เคียงเต็มไปหมด อาจจะเป็นสาเหตุก่อให้เกิดเพลิงไหม้บ้านในครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และตรวจสอบประเมินความเสียหาย


เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรีได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้จากการตรวจสอบไม่มีผู้เสียชีวิต และไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟฟ้าชอร์ต มาทำการตัดไฟ และได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

ประมวลภาพบรรยากาศจากทั่วโลก ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับวันปีใหม่ 2025

ประมวลภาพบรรยากาศจากทั่วโลก ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับวันปีใหม่ 2025

ชมภาพทั่วโลกเฉลิมฉลองการเข้าสู่ศักราชใหม่ ด้วยการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา

​​​​​​​ ​​​​​​​

“กทม.”อัปเดต 17 จุด ไฟเขียวจุดพลุฉลองปีใหม่

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก "กรุงเทพมหานคร" โพสต์ข้อความระบุว่า

Update 17 จุด อนุญาตจุดพลุ ปีใหม่ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธ.ค. 67

 ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บังไฟ พลุตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นสู่อากาศเว้นแต่ได้รับอนุญาต

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พบเห็นการจุดพลุในจุดที่ไม่ได้กำหนดแจ้ง Traffy Fondue

เปิด 5 วิธีฉลองปีใหม่แบบใส่ใจสัตว์เลี้ยง ปลอดภัยจากเสียงพลุ

เพจเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM โพสต์ข้อความระบุว่า...ปภ.แนะ 5 วิธีฉลองปีใหม่แบบใส่ใจสัตว์เลี้ยง ปลอดภัยจากเสียงพลุ ดังนี้

1.ปิดรั้วบ้าน ประตู หน้าต่างให้มิดชิด

2.พาสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย

3.ใส่ปลอกคอ ติดป้ายชื่อและเบอร์โทรเจ้าของ

4.เปิดทีวี/วิทยุ

5.เตรียมขนม/เล่นกับสัตว์เลี้ยง

กทม.วางกำลังเข้มทุกจุดรับลอยกระทง ชวนปชช.ใช้วัสดุธรรมชาติ เตือนจุดพลุระวังโทษปรับ

วันที่ 22 พ.ย.66 ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยแนวทางจัดเทศกาลลอยกระทง 2566 ว่า เทศกาลลอยกระทงกรุงเทพมหานครปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 3 ปลอด คือ 1.ปลอดจากวัสดุไม่ธรรมชาติ 100% 2.ปลอดจากประทัด โคมลอย พลุ 3.ปลอดจากอันตรายจากโป๊ะ-ท่าเรือไม่แข็งแรง สร้างความมั่นใจประชาชน โดยออกแบบงานบรรยากาศโบราณย้อนยุค จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้ง 50 เขต พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยประกอบแสง สี เสียง เช่น การแสดงพื้นบ้าน ลำตัดเพลงเรือ โดยในปีนี้ กทม.ขอความร่วมมือประชาชนใช้วัสดุกระทงจากธรรมชาติ และร่วมลอยกระทง 1 ครอบครัวต่อ 1 กระทง พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมลอยกระทงแบบดิจิทัลบนพื้นน้ำคลองโอ่งอ่าง และชมการแสดง Street Performance บริเวณเชิงสะพานบพิตรภิมุขคลองโอ่งอ่าง

นายศานนท์ กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ กทม.เตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดการจัดงาน โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณ์ภัย ร่วมกับสำนักการแพทย์ จัดเรือดับเพลิงและเรือกู้ชีวิต ลาดตระเวนดูแลความพร้อมภัยตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 9 รวมระยะทาง 20.4 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ประกอบด้วย เรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 1 ลำ เรือเจ็ทสกี จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ รพ.วชิระ จำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ ช่วงที่ 2 ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงสะพานตากสิน (สะพานสาทร) ประกอบด้วย เรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ รพ. ตากสิน จำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ และช่วงที่ 3 ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สะพานสาทร) ถึง สะพานพระราม 9 ประกอบด้วย เรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ รพ.เจริญกรุงจำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ส่วน คือ 1.บริเวณจุดลอยกระทงสวนสาธารณะและริมคลอง จุดละ 2 นาย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่างและถังดับเพลิง 2.จุดอำนวยการร่วมฯ จัดเจ้าหน้าที่จุดละ 5 นาย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง และถังดับเพลิง จำนวน 5 ถัง 3.จุดท่าเทียบเรือและโป๊ะ จัดเจ้าหน้าที่จุดละ 2 นาย พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เสื้อชูชีพ ห่วงยางช่วยชีวิต เชือกช่วยชีวิต

นายศานนท์ กล่าวว่า กทม.ได้ออกประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงวันลอยกระทง ประจำปี 2566 เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ผลิต สะสมจำหน่ายผู้เล่นดอกไม้เพลิงและโคมลอย ตลอดจนประชาชนทั่วไป ห้ามมิให้จุดพลุ ประทัด และห้ามปล่อยโคมลอยหากฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยจะมีการกวดขัน จับกุมผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด และตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของกรุงเทพมหานคร บริเวณจัดงานฯและสวนสาธารณะพระราม 8 ซึ่งมีจำนวน 37 กล้อง ให้สามารถใช้งานได้ทุกกล้อง โดยกทม.จัดงานลอยกระทงที่บริเวณสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ตั้งแต่เวลา 17.30-22.00 น. และสำนักงานเขตจัดงานลอยกระทงอีก 79 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร

 

#ลอยกระทง #กทม #จุดพลุ #สวนสาธารณะพระราม8 #สะพานพระราม8 

 

AFC สั่งปรับ "ส.บอลไทย" 2.4 ล้าน เหตุแฟนจุดพลุ "ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย"

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี มีคำสั่งปรับเงิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จำนวน 70,000 เหรียญสหรัฐ จากการที่มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งทำผิดระเบียบ โดยการจุดพลุ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชายหาด ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 16-26 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายหาด รายการดังกล่าวจัดขึ้นที่ พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของ เอเอฟซี โดยระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย จำนวน 4 นัด ได้มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งฝ่าฝืนระเบียบการแข่งขัน ข้อ 65.1 แฟนบอลแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยการจุดพลุ ซึ่งผิดระเบียบว่าด้วยวินัยและจรรยาบรรณของเอเอฟซี  โดยทาง เอเอฟซี ได้แจ้งข้อหาตามความผิด ทั้งหมด 4 ครั้ง ดังนี้

ความผิดครั้งที่ 1 ในเกมที่ ฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พบ ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 16 มีนาคม 2566 ลงโทษปรับจำนวน 15,000 ดอลลาร์

ความผิดครั้งที่ 2 ในเกมที่ ฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พบกับ อัฟกานิสถาน วันที่ 18 มีนาคม 2566 ลงโทษปรับจำนวน 15,000 ดอลลาร์

ความผิดครั้งที่ 3 ในเกมที่ ฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พบกับ บาห์เรน วันที่ 20 มีนาคม 2566 ลงโทษปรับจำนวน 25,000 ดอลลาร์

ความผิดครั้งที่ 4 ในเกมที่ ฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  วันที่ 22 มีนาคม 2566 ลงโทษปรับ จำนวน 15,000 ดอลลาร์

รวมทั้งหมด 70,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท

นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคม และประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด กล่าวว่า การได้ความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดระดับเอเอฟซี ถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของประเทศไทย เราเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเเข่งขันที่มีจำนวนทีมถึง 16 ทีมในระดับเอเชีย โดยเลือกสถานที่จัดการแข่งขัน ที่พัทยา การเเข่งขันครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ชมทั้งชาวไทยเเละต่างประเทศเป็นอย่างดีตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ อีกทั้งเป็นการโปรโมตว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยควบคู่กันไปสู่สายตาชาวต่างชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่จะได้เดินทางเข้ามาในอนาคต

"ส่วนเหตุการณ์ที่มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งจุดพลุ จนนำมาซึ่งการถูกลงโทษเป็นจำนวนเงินสูงกว่า 2 ล้านบาท เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย จึงอยากขอความร่วมมือแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวพิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการทำผิดระเบียบ ซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล ฟุตซอล หรือฟุตบอลชายหาด จะถูกคาดโทษสะสม และปัจจุบันประเทศไทยถูกคาดโทษขั้นรุนแรงแล้ว ซึ่งอาจถูกคำสั่งห้ามจัดการแข่งขันได้ ก็อยากให้แฟนบอลกลุ่มนี้เข้าใจและมองถึงผลกระทบของความเสียหายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคตด้วย"