กรุงศรีร่วมสนับสนุน Sustainability Expo 2025 "ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน"

ธนาคารกรุงศรี และบริษัทในเครือ เข้าร่วมงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำการเป็น ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน พร้อมเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ให้เกิดผลเชิงรูปธรรมต่อภาคธุรกิจและสังคม สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานในปีนี้ “ปรับตัว ร่วมมือ และหาทางออก เพื่ออยู่รอดในวิกฤติโลกรวน” (Adaptation & Collaboration) นำเสนอสาระ ความรู้ กิจกรรม และโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน เพื่อชวนทุกภาคส่วนร่วมเปลี่ยนผ่านสู่โลก Net Zero

นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารแบรนด์และการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้กรุงศรีได้กลับมาร่วมงาน SX2025 อีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นในฐานะ ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ที่พร้อมขับเคลื่อนสังคมและธุรกิจไทยให้ก้าวสู่โลกอนาคตอย่างมั่นคง เราเชื่อว่าความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในชีวิตประจำวัน กรุงศรี และ MUFG พร้อมที่จะเดินเคียงข้างลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรระดับภูมิภาค ด้วยผลิตภัณฑ์การเงินที่ออกแบบมาตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เราหวังว่าการเข้าร่วมงานในปีนี้จะช่วยให้เราแบ่งปันองค์ความรู้ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนได้กว้างขึ้น และอยากเชิญชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ร่วมกันที่บูธกรุงศรี

บูธกรุงศรี: GO Sustainable with Krungsri

ปีนี้กรุงศรีนำเสนอพื้นที่จัดแสดงภายใต้แนวคิด “GO Sustainable with krungsri” ที่ออกแบบอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยการนำโครงสร้างบางส่วนจากงานเดิมกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถ่ายทอดแนวคิด “หลักคิด–หลักปฏิบัติ” ด้านความยั่งยืนของธนาคารและบริษัทในเครือในมิติที่จับต้องได้ ภายในบูธผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟที่ทั้งสนุกและให้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็น เกมแยกขยะ เสริมทักษะการจัดการของเสียอย่างถูกวิธี โซนถ่ายภาพ–แชร์โซเชียล พร้อมรับของที่ระลึก Krungsri Reusable Bag รวมถึง นิทรรศการที่นำเสนอผลงานชนะเลิศจาก From Waste to Wow Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri ศิลปะสร้างสรรค์จากวัสดุรีไซเคิลที่สะท้อนพลังความคิดใหม่ของเยาวชน นอกจากนี้ยังมีการแนะนำ ผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Sustainable Finance ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกรุงศรีต้องการสร้างพื้นที่ที่ผสานทั้งความรู้ ความบันเทิง และแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสการเงินเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ

กรุงศรียังได้นำเสนอนวัตกรรมด้านความยั่งยืนจากพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสะท้อนพลังของ Partnerships & Ecosystem โดยได้คัดเลือกลูกค้าธุรกิจที่มีนโยบายด้านความยั่งยืนมาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในโซน Marketplace ขณะเดียวกันยังมี จุดติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่จัดแสดงในโซน Innovate Experience Station (พื้นที่ Marketplace) เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการเดินทางคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

เวทีองค์ความรู้จากผู้นำ: จากไทยสู่ภูมิภาค

ด้วยศักยภาพและความพร้อมทั้งในเรื่องเครือข่ายและองค์ความรู้ที่ได้รับการสนับสนุนจาก MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก กรุงศรีจึงไม่เพียงสะท้อนบทบาทผู้ให้บริการทางการเงิน แต่ยังเป็น ผู้แบ่งปันองค์ความรู้ และ ร่วมกำหนดทิศทางเชิงนโยบาย ที่องค์กรธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง ตลอดการจัดงาน โดยมีผู้บริหารกรุงศรี และ MUFG ร่วมเวทีสำคัญ 2 รายการ ได้แก่

- ดร. พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จะแชร์ความรู้ในหัวข้อ “ธุรกิจไทยพร้อมแค่ไหน กับกฎหมายความยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน” ในวันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 13.30–14.00 น. ณ SX Talk Stage 

- Mr. Colin Chen, Head of Sustainable Finance, Asia Pacific, MUFG จะร่วมในเวทีเสวนา Chief Sustainability Officers (CSO) Forum ในหัวข้อ “Sustainability as an Engine for Growth” ในวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00–17.00 น. ณ ห้องประชุม 208

โดยสาระจากทั้งสองเวทีถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับโซลูชันทางการเงินของกรุงศรีโดยตรง ตั้งแต่การวิเคราะห์ความเสี่ยง ESG ในห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนสีเขียว สะท้อนถึงบทบาทของกรุงศรีในการยกระดับความรู้จากไทยสู่ภูมิภาค

จุดประกายความคิดสร้างสรรค์: สร้างงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้

อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์คือการจัดประกวด “From Waste to Wow Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri,” รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 กันยายน 2568 ซึ่งมีทีมเยาวชนมากความสามารถเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 10 ทีม ผลงานทุกชิ้นล้วนถ่ายทอดแนวคิดการสร้างคุณค่าใหม่จากวัสดุเหลือใช้ สร้างเป็นงานศิลปะที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยผลงานที่ชนะเลิศจะได้รับการนำไปจัดแสดงที่บูธกรุงศรีตลอดงาน SX2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสพลังความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนอย่างใกล้ชิด กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออก แต่ยังเป็นเวทีที่ปลุกพลังสังคมให้ตระหนักถึงการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

พบกับ บูธกรุงศรี และกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ด้านการเงินยั่งยืนได้ที่งาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ถอนเงินไม่ใช้บัตร ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็มทั่วปท.

วันที่ 17 กันยายน 2568 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มอบประสบการณ์ความง่ายและสะดวกให้ลูกค้า ด้วยบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคาร (Cross-Bank Cardless Withdrawal) ที่เครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม โดยในเฟสแรก กรุงศรีได้ร่วมมือกับธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) ให้ลูกค้าสามารถถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch และ
LHB You ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ที่เครื่องกรุงศรี เอทีเอ็มกว่า 5,000 เครื่องทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

"บีโอไอ" หารือธนาคารกรุงศรีฯชักจูงนักลงทุนต่างชาติ

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ร่วมประชุมหารือกับ บุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารธนาคาร เพื่อรับฟังผลสำรวจและศึกษาการประกอบกิจการสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค (Regional Headquarter: ROH) โดยบีโอไอและธนาคารกรุงศรีฯ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการชักจูงนักลงทุนจากต่างประเทศ และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บีโอไอ ถ.วิภาวดีรังสิต  

 

 

 

 

ธนาคารกรุงศรีกำไรไตรมาสแรกปี 66 ทะลุ 8.68 พันล้านบาท เติบโต 17% 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 8,676 ล้านบาท เติบโต 17.0% จากไตรมาสแรกของปี  2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ตลอดจนการลดลงของภาระตั้งสำรอง โดยกรุงศรีมุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

กรุงศรียังคงรักษาเสถียรภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เติบโตอย่างครอบคลุมและทั่วถึงที่ 5.4% และเงินรับฝากเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.0% นอกจากนี้ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 2.26% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 จากการดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566:

-กำไรสุทธิ จำนวน 8,676 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจำนวน 1,258 ล้านบาท หรือ 17.0% จากไตรมาสแรกของปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมถึงภาระการตั้งสำรองที่ลดลง

-เงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.3% หรือจำนวน 5,145 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อเพื่อรายย่อย สุทธิกับการลดลงของสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่

-เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 3.0% หรือจำนวน 53,964 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565   

-ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.35% เทียบกับ 3.28% ในไตรมาสแรกของปี 2565

-รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 6.1% หรือ 506 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2565

-อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับสู่ 44.4% เพิ่มขึ้นจาก 42.7% ในไตรมาสแรกของปี 2565 สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นและจากฐานที่ต่ำในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์
โอมิครอน

-อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) ปรับตัวดีขึ้นที่ 2.26% จาก 2.32% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบระมัดระวัง ส่งผลให้สัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับที่ 116 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2566

-อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 167.1%

-อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 17.95% เทียบกับ 17.97% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยกรุงศรีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตในระดับ 3.3% ในปี 2566”

“กรุงศรียังคงรักษาเสถียรภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่งมั่นคง ด้วยระดับเงินกองทุน ระดับการตั้งสำรอง และสภาพคล่องทางการเงินที่สูง และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ ทั้งในกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย โดยธนาคารกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในปี 2566 ไว้ที่ 3-5%”

โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.95 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.86 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.68 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 300.17 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 17.95% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 13.21%