เพิ่มวันจัดงาน “สัปดาห์หนังสือฯ” ถึง 8 เม.ย. 68 “สำนักพิมพ์” พร้อมใจลดกระหน่ำ แบบไม่ขนกลับ!

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ประกาศขยายวันจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 เพิ่มอีก 1 วัน ถึงวันที่ 8 เมษายน 2568 เพื่อเยียวยาสำนักพิมพ์และประชาชนที่ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว หลังพบว่า นักอ่านแห่เข้าร่วมงานอย่างล้นหลามเกินความคาดหมาย ทางสมาคมฯ จึงตัดสินใจ ขยายวันจัดงานเพิ่ม ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 เม.ย. 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ในวันดังกล่าวต้องปิดให้บริการเร็วกว่ากำหนด  เนื่องจากทางคณะผู้จัดงานคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของนักอ่าน และพันธมิตรที่มาร่วมงานทุกท่าน

อย่างไรก็ดี หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ทางสมาคมฯ ได้หารือร่วมกับคณะทำงาน เพื่อหาทางออกถึงผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้น และได้ข้อสรุปว่า จะขยายวันจัดงานเพิ่มขึ้นอีก 1 วัน คือวันที่ 8 เมษายน 2568 จากเดิมจะจัดงานถึงวันที่ 7 เมษายน 2568 เท่านั้น ( 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 รวม 12 วัน) สำหรับวันจัดงานที่เพิ่มขึ้นใหม่คือ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 8 เมษายน 2568 รวม 13 วัน

"แม้ว่าจะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้น แต่ภาพรวมของนักอ่านที่เข้าร่วมงานยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  มีเพียงวันที่ 28 มีนาคมวันเดียว ที่มีผู้เข้าร่วมงาน 3.5 หมื่นคน เนื่องจากปิดให้บริการเร็วกว่าเวลาที่กำหนด  แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะภายในงานเรามีหนังสือดีๆ มากมาย กว่า 2 ล้านเล่ม พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ และกิจกรรมต่างๆ รองรับนักอ่าน จึงมั่นใจว่าจบการจัดงานในวันที่ 8 เมษายน จะมีนักอ่านเข้าร่วมงานตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.3 ล้านคน" นายสุวิช กล่าว 

ทั้งนี้ ภายในงานนักอ่านจะพบกับธีมการจัดงาน "ย ยักษ์ อ่านใหญ่" มีหนังสือทั้งไทยและต่างประเทศมากมายกว่า 2 ล้านเล่ม ให้นักอ่านได้เลือกช้อปแบบจุใจ สบายกระเป๋า มีทั้งหมด 7 โซน ประกอบด้วย 1.โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2.โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) 3.โซนหนังสือเด็กและการศึกษา 4.โซนหนังสือทั่วไป 5.โซนหนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ และ 7.โซน Non–Book รวมกว่า 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์  ที่มาพร้อมกิจกรรมและนิทรรศการมากกว่า 100 อีเวนท์ รอบริการนักอ่านทุกท่าน

ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ โดยรถไฟฟ้า MRT : ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ทางออก 3) , รถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารประจำทาง : สาย 136, 185 

งานหนังสือดีๆ ที่ห้ามพลาด! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ตั้งแต่วันนี้ - 8 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

"ลีซอ" ชวนร่วมสัมผัสเสน่ห์งาน "สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และนานาชาติ" ใหญ่สุดในอาเซียน! ธีม "ย ยักษ์ อ่านใหญ่" เริ่ม 27 มี.ค. - 7 เม.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

สมการรอคอย กับ "งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53" และ "สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23" ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในธีม "ย ยักษ์ อ่านใหญ่" งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เลือกช้อปจุใจมากมายกว่า 2 ล้านเล่ม กับ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ พร้อมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม. จัดเต็มนิทรรศการ – กิจกรรมกว่า 100 อีเว้นท์ ด้าน "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย มาเผยหนังสือเล่มโปรดของตัวเอง พร้อมกับเชิญชวนทุกท่านร่วมงานในครั้งนี้ เพราะหนังสือมีความสำคัญ และเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ณ Meeting Room 110 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 โดยมี นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เป็นประธานในงาน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม "ย ยักษ์ อ่านใหญ่" ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งานปีนี้มีความพิเศษสุดคือ การขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ฮอลล์ เพิ่มเป็น 4 ฮอลล์ ทำให้มีพื้นที่การจัดงานจากเดิม 15,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักอ่านที่มาร่วมงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ และบริษัทต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการสุดว้าว และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเตรียมจัดเต็มมาเอาใจเหล่านักอ่าน รวมถึงพิเศษสุด! ในปีนี้เอาใจสายคาเฟ่ “PUBAT Cafe” ครั้งแรกกับบูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น  ซึ่งภายในงานปีนี้ยังมีพื้นที่พิเศษ โดยบริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด  มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิล ชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ และยังมีบริการนวดแผนไทย โดยการสนับสนุนจากกรมการแพทย์แผนไทย รวมทั้งยังมีไปรษณีย์ไทย มาเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย 

ภายในงานแบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 1. โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2.โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland)  3.หนังสือเด็กและการศึกษา 4. หนังสือทั่วไป  5. หนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ และ 7. โซน Non – Book รวมหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำรวม 1,200 บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone 

นายสุวิช กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์คือ Bangkok Rights Fair 2025 งานจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 28-29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ภายในงานตั้งเป้าหมายที่จะเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท 

ด้าน "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ส่วนตัวก็ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เพราะต้องการที่ศึกษาจากคำแนะนำวิธีการทำธุรกิจต่างๆ โดยชอบอ่านหนังสือชื่อว่า “มั่งคั่งทั้งชีวิต Money Mastery” ของ พี่พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ ซึ่งได้สอนเรื่องการเก็บออมเงินในการใช้ชีวิตที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง และทุกๆ คน สำหรับหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ชื่นชอบมากคือ หนังสือ "โชคดีที่มึงได้อ่าน" ของ "น้าเน็ก" เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เพราะส่วนตัวชื่นชมน้าเน็กอยู่แล้ว ที่นำเรื่องราวมาถ่ายทอดผ่านการเขียนหนังสือ เพื่อให้ข้อคิดสอนคนได้เข้าใจง่าย และมีภาษาสละสลวย จนทำให้ตนเองรู้สึกทึ่ง และชอบหนังสือเล่มนี้มาก

"ลีซอ" กล่าวเชิญชวนทุกคนมางานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ว่า แม้ว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียจะเข้าถึงได้ง่าย แต่การอ่านหนังสือยังคงมีความสำคัญ และยังคงเสน่ห์ด้วยภาษาของการเขียนหนังสือที่สามารถเปิดโลกของเราได้ ขณะเดียวกันการอ่านหนังสือยังช่วยสร้างสมาธิให้กับเรา ดังนั้นหนังสือจึงเป็นสิ่งที่มีให้ประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆ คนได้ จึงอยากเชิญชวนทุกๆ คนให้มาร่วมงานงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้กันเยอะๆ ซึ่งเราจะได้เจอกับหนังสือมากมาย และจะทำให้เราเปิดโลกได้มากยิ่งขึ้น

ห้ามพลาด! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านคน มียอดขายกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10%