ประธานสภาการสื่อมวลชนฯ ร่วมงานครบรอบ 75 ปี วันสื่อมวลชนลาว แบ่งปันความรู้การรายงานข่าวอย่างมีความรับผิดชอบ

ประธานสภาการสื่อมวลชนฯ ร่วมงานครบรอบ 75 ปี วันสื่อมวลชนลาว แบ่งปันความรู้การรายงานข่าวอย่างมีความรับผิดชอบ

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ (National Press Council of Thailand) ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association) ให้เกียรติเข้าร่วม และเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ 
“การพัฒนาทักษะนักข่าวในยุคข้อมูลข่าวสาร 4.0: ความรับผิดชอบและจรรยาบรรณ” มุ่งเน้นการยกระดับทักษะของนักข่าวลาวให้สามารถผลิตข่าวที่ถูกต้อง รวดเร็ว และมีจรรยาบรรณ พร้อมทั้งรับมือกับความท้าทายจากข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ในงานเฉลิมฉลองวันสื่อมวลชนและการพิมพ์จำหน่าย ครบรอบ 75 ปี ของสปป.ลาว (13 สิงหาคม 1950 - 13 สิงหาคม 2025) ซึ่งจัดขึ้นที่หอวัฒนธรรมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา

สื่อมวลชนไทย และลาว มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด มากว่า 30 ปี โดยมีความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการผ่านการสถาปนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างองค์กรวิชาชีพ คือสมาคมนักข่าวฯ และสมาคมนักข่าวแห่งสปป.ลาว (Lao Journalists Association) นอกเหนือจากจะมีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระหว่างกัน ยังมีความร่วมมือในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อ และเทคโนโลยี ภายใต้การสนับสนุนของภาครัฐ และเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อความเข้าใจ ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และผลประโยชน์ร่วมของประเทศ โดยเฉพาะในระดับประชาชน จากการปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานมาตรฐานวิชาชีพ 

สภาการสื่อมวลชนฯ ยอมรับกรณีศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุก “ดร.พิรงรอง” กระทบองค์กรวิชาชีพสื่อและวงการสื่อโดยรวม

กรรมการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หยิบยกกรณีศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุก “ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง” ขึ้นมาหารือในที่ประชุม ชี้องค์กรวิชาชีพสื่อและวงการสื่อได้รับผลกระทบหลายเรื่อง ทั้งประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มฯ และอนาคตอุตสาหกรรมโทรทัศน์ หลังใบอนุญาตทีวีดิจิทัลจะหมดอายุในปี 2572 

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา นายนพปฏล รัตนพันธ์ เลขาธิการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 ว่า ที่ประชุมได้หยิบยกกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ขึ้นมาหารือด้วยความห่วงใย ทั้งในแง่ขององค์กรวิชาชีพสื่อ และกสทช. เนื่องจากองค์กรวิชาชีพสื่อและวงการสื่ออาจได้รับผลกระทบหลายเรื่อง เช่น ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เรื่อง มาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เป็นผู้ผลักดัน โดย กสทช. จะต้องออกหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น การจดแจ้งและสนับสนุนองค์กรวิชาชีพ ซึ่งอาจจะมีผลทำให้กระบวนการต่างๆ ล่าช้าได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการกำหนดอนาคตทีวีดิจิตอล หลังใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล จะหมดอายุในปี 2572 ซึ่งเป็นงานในกำกับโดยตรงของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง โดยสภาการสื่อมวลชนฯ จะติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมอบหมายให้คณะกรรมการจริยธรรมของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติทำหน้าที่ติดตามและรายงานให้คณะกรรมการสภาการสื่อมวชนแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กรรมการ กสทช. ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ทุกราย เกี่ยวกับการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชัน True ID อันสืบเนื่องมาจากข้อร้องเรียนของผู้บริโภค ทั้งนี้ ศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวระหว่างขั้นตอนการอุทธรณ์คดี