ผู้ถือหุ้น TPCH โหวตหนุนจ่ายปันผลปี 67 เพิ่มอีก 0.037 บาท/หุ้น

ผู้ถือหุ้น TPCH โหวตหนุนจ่ายปันผลปี 67 เพิ่มอีก 0.037 บาท/หุ้น

ดร.ธนู กุลชล ประธานกรรมการบริษัท, นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร, นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่  พร้อมด้วยคณะกรรมการ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ถ่ายภาพร่วมกันในงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล เป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก ในอัตราหุ้นละ 0.037 บาท จากงวดผลการดำเนินงานวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2567 กำหนดจ่ายวันที่  15 พฤษภาคม 2568 โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.230 บาท เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 และในอัตราหุ้นละ 0.128 บาท เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 158.47 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุม สำนักงานใหญ่ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง กรุงเทพฯ

TPCH เปิดงบ Q1/68 กวาดรายได้ 602.97 ล้านบาท กำไร 104.34 ล้านบาท เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าทั้งใน-ตปท.ตามแผน

บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดงบ Q1/68 กวาดรายได้ 602.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 104.34 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ เร่งพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนทั้งในสปป.ลาว กัมพูชา เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 แห่ง พร้อมมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568  บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้า 602.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 104.34 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากการจําหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์

“ที่ผ่านมา เราได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ควบคุมต้นทุนการผลิตและการบริหารจัดการค่าเชื้อเพลิง เพื่อให้สามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าให้เสถียรมากขึ้น และให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นางกนกทิพย์กล่าว

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า  บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2/2568

สำหรับโครงการพลังงานลม ในนามบริษัท อินโดไชน่า วินด์ พาวเวอร์ จํากัด (IWP) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศกัมพูชา และ IWP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 150 เมกะวัตต์ กับ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้ากัมพูชา (EDC) แล้วเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 โดยมีระยะเวลา 25 ปี นับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ซึ่งปัจจุบันได้รับการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และ สัญญาสัมปทานโครงการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพัฒนาใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ และคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง

ส่วนการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ ปัจจุบันมีการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 2/2568 และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่ม 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

ขณะเดียวกัน TPCH มุ่งมั่นดําเนินธุรกิจตามหลักการ ESG เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกํากับดูแลกิจการที่ดี โดยเน้นใช้พลังงานหมุนเวียนจากโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งสามารถผลิตพลังงานสะอาดโดยไม่ปล่อยมลพิษ ลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอย่างยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ทํา Carbon Footprint และพัฒนาแผนระยะยาวเพื่อก้าวสู่ Carbon Neutral และ Net Zero อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการขึ้นทะเบียน Carbon Credit และ I-RECs เพื่อให้บริการจําหน่ายแก่ผู้ที่สนใจในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของตนเอง

ด้านสังคม บริษัทฯ ยังสนับสนุนการพัฒนาความรู้ และจิตสํานึกด้านสิ่งแวดล้อมในองค์กรด้วยกิจกรรมการคัดแยกขยะ และการอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพของพนักงาน พร้อมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภายในโรงไฟฟ้าขยะ SPNT เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเรื่องการจัดการพลังงานในชุมชน สร้างงานสร้างอาชีพ และเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้า รวมทั้ง การร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นช่วยให้สามารถจัดหาเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนได้ดีและลดความผันผวนของราคา

ด้านการกํากับดูแล บริษัทฯ มีความโปร่งใสในการบริหารงาน มีการรายงานผลประกอบการ พร้อมทั้ง ยึดมั่นในจริยธรรมที่ดีในการดําเนินธุรกิจ เพื่อความน่าเชื่อถือสูงสุด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างความยั่งยืนที่สอดคล้อง กับผลประโยชน์ของนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และชุมชน

"TPCH" เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ปิดดีลวินด์ฟาร์มกัมพูชา 150 MW

"TPCH" เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ปิดดีลวินด์ฟาร์มกัมพูชา 150 MW

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายพล คงเสือ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายก่อสร้างและดำเนินงาน และนางสาวสมพิศ แสนเรือง รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน พร้อมทีมผู้บริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ร่วมนำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน “Opportunity Day” ผ่านระบบ Video Conference โดยระบุว่า บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ปัจจุบันได้เข้าลงทุนโครงการพลังงานลม ในนามบริษัท อินโดไชน่า วินด์ พาวเวอร์ จํากัด (IWP) ในประเทศกัมพูชา และ IWP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จำนวน 150 เมกะวัตต์ กับ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้ากัมพูชา (EDC)  และได้รับสัญญาสัมปทานโครงการเรียบร้อยแล้ว

ส่วนการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว สำหรับการลงทุนในประเทศเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 2/2568

TPCH เปิดผลงานปี 67 รายได้รวมแตะ 2,444.69 ล้าน ลุยโปรเจคใหม่ทั้งใน-ตปท. หนุนผลงานปี 68 โตตามแผน

TPCH เปิดผลงานปี 67 มีรายได้รวม 2,444.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 234.30 ล้านบาท อานิสงส์รับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล-เชื้อเพลิงขยะ 8 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 90.2 เมกะวัตต์ บอร์ดเปย์หนัก อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดเพิ่มอีก 0.037 บาท/หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.395 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 29 เมษายน 2568 ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุบริษัทได้เข้าลงทุนวินด์ฟาร์มในกัมพูชา กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ พร้อมเร่งก่อสร้างโครงการพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังดันรายได้ปี 68 โตตามแผน

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.68 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) มีรายได้รวมเท่ากับ 2,444.69 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 234.30 ล้านบาท

“ผลงานในปี 67 บริษัทฯ ดำเนินการในการบริหารธุรกิจให้เป็นไปตามแผนงาน และยังสามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้ง 8 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 90.2 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT)  จำนวน 1 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ รวมทั้ง การบริหารต้นทุนได้ตามแผนที่วางไว้”นางกนกทิพย์กล่าว

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มอีก ในอัตราหุ้นละ 0.037 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 29 เมษายน 2568 กำหนดวันที่จ่ายปันผล  15 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.230 บาท  เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 และในอัตราหุ้นละ 0.128 บาท เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 158.47 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนโครงการพลังงานลมในสัดส่วนร้อยละ 40 ในนามบริษัท อินโดไชน่า วินด์ พาวเวอร์ จํากัด (IWP) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศกัมพูชา โดยบริษัทฯ จ่ายเงินลงทุนไปแล้วจำนวน 13.79 ล้านบาท IWP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 150 เมกะวัตต์ กับ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้ากัมพูชา (EDC) แล้วเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 โดยมีระยะเวลา 25 ปี นับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ และคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 2/2568 ขณะที่มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ มีการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1/2568 โดยมีระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี

ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 29.3 เมกะวัตต์ และยังคงเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ กำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการในต่างประเทศ กำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

“ปี 2568 TPCH มุ่งพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงการด้าน ESG จะนำข้อมูลการเก็บ Carbon Footprint ที่ได้จากปีที่ผ่านมา ปรับปรุงและพัฒนานโยบายการลดการปล่อยคาร์บอนในองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน และมั่นใจว่า คาร์บอนเครดิตจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทฯ ได้ในอนาคต” นายเชิดศักดิ์กล่าว

 

TPCH ปักธงปี 68 ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ตปท.เต็มสูบ ประเดิม Q1 เริ่มก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มในลาว ดันผลงานโตแกร่ง

TPCH เปิดแผนธุรกิจปี 68 ลุยขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เต็มกำลัง ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ เดินหน้าก่อสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ภายในไตรมาส 1/68 พร้อมเร่งขายคาร์บอนเครดิต เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ หนุนอนาคตเติบโตมั่นคง

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในส่วนของต่างประเทศ แบ่งเป็น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) รวมทั้ง โครงการพลังงานลม ที่ประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลงานในปีนี้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลจำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ รวมทั้ง โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT)  จำนวน 1 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 90.2 เมกะวัตต์

“ในปีนี้ เรามั่นใจว่า จะสามารถทำรายได้ให้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายของโรงไฟฟ้าที่ตัดจำหน่ายออกไป นอกจากนี้ มีการควบคุมต้นทุนของค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ส่วนโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติตามแผนงาน ประกอบกับ มีการนำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกโครงการ ได้จดทะเบียนสำหรับคาร์บอนเครดิต และ I-RECs เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในการขายคาร์บอนเครดิต สนับสนุนผลงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว” นางกนกทิพย์กล่าว
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ มีการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1/2568 โดยมีระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ส่วนของการลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานลมประมาณ 50-100 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ 
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ โดยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 1/2568 ขณะที่ มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 29.3 เมกะวัตต์ และยังคงเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ กำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการในต่างประเทศ กำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

 

"TPCH" กำไร 9 เดือนปี 67 แตะ 254.15 ล้้านบาท รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล-พลังงานขยะ กำลังผลิต 90.2 MW

TPCH เปิดผลงานงวด 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 254.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 8 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 90.2 เมกะวัตต์ บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.128 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 4 ธ.ค.67 ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับที่ดี ลุยพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนทั้งใน-ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผลักดันกำลังการผลิตรวมแตะ 500 เมกะวัตต์ ในปี 69

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 254.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.55 ล้านบาท หรือ 49.86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 169.60 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,849.54 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567)  มีกำไรสุทธิ 67.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.95 ล้านบาท หรือ มากกว่า 100% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 30.32 ล้านบาทและมีรายได้รวม 622.49 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวลและประเภทเชื้อเพลิงขยะ จำนวน 8 แห่ง กำลังการผลิตรวม 90.2 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT)  กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลและโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ รวม 8 แห่งได้ตามปกติ รวมทั้ง มีการบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น” นางกนกทิพย์กล่าว

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.128 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 พร้อมจ่ายปันผลในวันที่ 4 ธันวาคม 2567

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในประเทศ บริษัทฯ มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ล่าสุด ได้ร่วมลงนามสัญญาติดตั้งเครื่องจักรของโครงการเรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 1/2568 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

สำหรับการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ โดยพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ซึ่งเข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว นั้น ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะเวลา 25 ปี นับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)

โดยปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้าง และได้เริ่มงานด้านโครงสร้างและรั้วกั้นโซนติดตั้งสถานีไฟฟ้า (Substation) รวมถึงได้เซ็นสัญญางานวิศวกรรม งานจัดซื้อ และงานก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction (EPC Contract) กับผู้รับเหมาจากประเทศจีน คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 1/2568 และยังมีแผนที่จะส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งโครงการ ในส่วนของการลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลม ประมาณ 50-100 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ TPCH ยังคงเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ ในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ 150 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะ รวมถึงโครงการในต่างประเทศ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 350 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 29.3 เมกะวัตต์

TPCH จ่อยื่นไฟลิ่ง บ.ร่วมทุน "สยาม พาวเวอร์ฯ" เข้า mai ปีนี้ รุกธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งใน-ตปท. ดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด

TPCH เร่งพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในสปป.ลาว-กัมพูชา-เวียดนามเต็มสูบ ควบคู่แผนพัฒนาธุรกิจในประเทศโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 4 โครงการ ขณะเดียวกัน เตรียมยื่นไฟลิ่ง บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) บริษัทร่วมทุน เข้าระดมทุนใน mai ภายในปีนี้ หวังดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ โดยพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ซึ่งเข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว และ MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะเวลา 25 ปี นับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)

ทั้งนี้ปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้าง และได้เริ่มงานด้านโครงสร้างและรั้วกั้นโซนติดตั้งสถานีไฟฟ้า (Substation) บางส่วนแล้ว รวมถึงได้เซ็นสัญญางานวิศวกรรม งานจัดซื้อ และงานก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction (EPC Contract) กับผู้รับเหมาจากประเทศจีน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 1/2568 ส่วนการลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลม ประมาณ 50-100 เมกะวัตต์

“การลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนใน สปป.ลาว มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ มีการปรับพื้นที่เพื่อรอการก่อสร้าง และได้เริ่มก่อสร้างในส่วนงานโครงสร้างแล้ว นอกจากนี้ เราได้จัดทำประมาณการของโครงการ พบว่า ปัจจุบันราคาของแผงโซลาร์เซลล์มีราคาลดลง เนื่องจากมีผู้ขายในตลาดมากขึ้น และมีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในแง่ของการช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างและการผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น ทำให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และยังมีแผนที่จะส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งโครงการ” นางกนกทิพย์ กล่าว

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH กล่าวว่า สำหรับการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะปัจจุบัน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ได้เซ็น PPA เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับเหมา และคาดว่า จะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 3/2567 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

“TPCH มีแผนที่จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ฯ (Filing) ของบริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ที่ร่วมกันพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 4/2567 เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ในโครงการ SPNS, SPNK และโครงการอื่นๆ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนา ควบคุมบริหารเชื้อเพลิงและต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า แผนการลงทุน พัฒนาโครงการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยผลักดันผลงานให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด” นายเชิดศักดิ์ กล่าวในที่สุด

โดยปัจจุบัน TPCH มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ  29.3 เมกะวัตต์ โดยในปี 2569 ยังคงเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ 150 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะ  รวมถึงโครงการในต่างประเทศ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 350 เมกะวัตต์ ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.23 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 4 กันยายน 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 กันยายน 2567 และจ่ายปันผลในวันที่ 17 กันยายน 2567

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 186.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 139.28 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,227.05 ล้านบาท ขณะที่ งวดไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 85.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.91 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 605.25 ล้านบาท

TPCH ชำระคืนหุ้นกู้ครบ 1,500 ล้าน พร้อมเซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SPNK กำลังผลิต 9.9 MW ลุยพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งใน-ตปท.

บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ลั่น! ชำระคืนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 อายุ 2 ปี 9 เดือน (TPCH246A) พร้อมดอกเบี้ย มูลค่ารวม 1,514 ล้านบาท สามารถจ่ายได้ครบตามกำหนดไถ่ถอน ล่าสุด เซ็นสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขององค์การบริหารส่วนตำบลนากลาง กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ เรียบร้อยแล้ว คาด COD ในปี 69  ฟากแม่ทัพหญิง “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มกำลัง ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการชำระหุ้นกู้ที่ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 อายุ 2 ปี 9 เดือน (TPCH246A) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน เสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 จำนวน 1,500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งหมดรวมมูลค่าประมาณ 1,514 ล้านบาท ครบเต็มจำนวนเรียบร้อยแล้ว

"TPCH เล็งเห็นความสำคัญในการชำระคืนหุ้นกู้ ด้วยการบริหารจัดการทางการเงินที่รอบคอบ ระมัดระวัง และโปร่งใส เพื่อให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย พร้อมกับนำเงินที่ได้ไปลงทุนดำเนินงานในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตามแผนที่วางไว้” นางกนกทิพย์ กล่าว

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท สยาม พาวเวอร์ นากลาง จำกัด ที่ตั้งโครงการ ตำบลนากลาง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท สยาม พาวเวอร์ จํากัด (กิจการร่วมค้าของ TPCH) ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการขายไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน โดยใช้เชื้อเพลิงมูลฝอยในปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายสูงสุด 8 เมกะวัตต์ ซึ่งกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2569  

"TPCH ได้เซ็น PPA โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด และ TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 9.9 เมกะวัตต์ และมีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขาย 8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ มี PPA ในส่วนของโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะเพิ่มเป็น 29.3 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มุ่งพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)” นายเชิดศักดิ์ กล่าว

สำหรับการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว โดยเข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% ที่ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว และ MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างและได้เริ่มงานด้านโครงสร้างและรั้วกั้นโซนติดตั้งสถานีไฟฟ้า (Substation) บางส่วนแล้ว และมีการเซ็นสัญญางานวิศวกรรม งานจัดซื้อ และงานก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction (EPC Contract) กับผู้รับเหมาจากประเทศจีน พร้อมมีแผนที่จะส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งโครงการ ด้านการลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลม ประมาณ 50-100 เมกะวัตต์

“บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายภายในปี 2569 จะมีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ 150 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานชีวมวล 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะ 70 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในต่างประเทศ 350 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลและพลังงานขยะ ซึ่ง TPCH เร่งพัฒนาโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถ COD โครงการต่างๆ ได้ตามกำหนด เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายเชิดศักดิ์กล่าว

TPCH ปลื้มหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาทขายหมดเกลี้ยง ตอกย้ำเชื่อมั่นธุรกิจโรงไฟฟ้าพื้นฐานแกร่ง

บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ปิดจ๊อบ! หุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี ขายหมดเกลี้ยง สะท้อนนักลงทุนรายใหญ่และสถาบันเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ฟากบิ๊กบอส "กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี" ระบุ พร้อมเดินหน้ารุกขยายโครงการโรงไฟฟ้า ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศตามแผน หนุนผลงานเติบโตอย่างยั่งยืน

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เปิดเผยว่า ผลการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยเสนอขายต่อสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี กำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้  กำหนดไถ่ถอน ปี 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน และเปิดขายระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับที่ดีและขายหมดเกลี้ยง ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และมองเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคต

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ ประมาณ 700 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ประมาณ 300 ล้านบาท

“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้การสนับสนุน TPCH มาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการบริหารธุรกิจของบริษัทฯ และจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นางกนกทิพย์กล่าว

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า ปัจจุบัน TPCH มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.4 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลและพลังงานขยะ และบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายมีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ 150 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานชีวมวล 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าประเภทพลังงานขยะ 70 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในต่างประเทศ 350 เมกะวัตต์

สำหรับการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ บริษัทฯ มุ่งพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานขยะ ประมาณ 4 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด และ TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50%  ประกอบด้วย  SP4-SP7 เป็นโครงการรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)  ล่าสุด โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) มีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 9.9 เมกะวัตต์ ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะสามารถ SCOD ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2569  ทั้งนี้  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขององค์การบริหารส่วนตำบลนากลาง ตั้งอยู่ที่ตำบลนากลาง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ได้ในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน การลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ โดยเริ่มที่ สปป.ลาว บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% ที่ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว และ MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างและได้เริ่มงานด้านโครงสร้างและรั้วกั้นโซนติดตั้งสถานีไฟฟ้า (Substation) และมีการเซ็นสัญญางานวิศวกรรม งานจัดซื้อ และงานก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction (EPC Contract)) กับผู้รับเหมาจากประเทศจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมาช่วง คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2/2567 รวมทั้ง มีแผนที่จะส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งโครงการ ในส่วนของการลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลม ประมาณ 50-100 เมกะวัตต์

 

TPCH จ่อออกหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้าน อายุ 1 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี เปิดขาย 28-30 พ.ค.นี้รองรับแผนลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน-ตปท.

บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี 6 เดือน โดยเสนอขายให้กับสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ชูอัตราผลตอบแทน 5.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน พร้อมเปิดขายระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.นี้ ฟากบิ๊กบอส "กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี" ระบุเตรียมนำเงินไปใช้รองรับแผนการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยจะเสนอขายต่อสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี กำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้  กำหนดไถ่ถอน ปี 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดขายระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2567 นี้

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ ประมาณ 700 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ประมาณ 300 ล้านบาท

สำหรับผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675, บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800, บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500