InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX คว้า 3 รางวัล จากเวที IAA Best Analyst Award 2024

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เรือธงด้านการลงทุนภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX Group) ประกาศความสำเร็จคว้า 3 รางวัล นักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมประจำปี 2024 ได้แก่ 1. นักเศรษฐศาสตร์ตลาดทุนยอดเยี่ยม (Best) 2. ทีมวิเคราะห์การลงทุนยอดเยี่ยม (Outstanding) และ 3. รางวัลกลุ่มธุรกิจการเงินโดดเด่น (Outstanding) จากเวที IAA Best Analyst Awards 2024 ซึ่งจัดโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงศักยภาพของทีมวิจัยและนักวิเคราะห์ของ InnovestX ในการยกระดับมาตรฐานบทวิเคราะห์ของไทยสู่เวทีระดับประเทศ พร้อมขับเคลื่อนวงการลงทุนไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมี ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ พร้อมด้วย นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน และนางสาวกิตติมา สัตยพันธ์ นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มธุรกิจการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ร่วมรับรางวัล เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

3 รางวัล นักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมประจำปี 2024 ประกอบด้วย

-นักเศรษฐศาสตร์ตลาดทุนยอดเยี่ยม (Best) มอบให้แก่ ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

-ทีมวิเคราะห์การลงทุนยอดเยี่ยม (Outstanding) มอบให้แก่ทีมนักวิเคราะห์ของ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์

-รางวัลกลุ่มธุรกิจการเงินโดดเด่น (Outstanding) มอบให้แก่ นางสาวกิตติมา สัตยพันธ์ นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มธุรกิจการเงิน

โดยรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของ InnovestX แพลตฟอร์มลงทุนที่คุณมั่นใจได้ จากกลุ่ม SCBX ครบทุกสินทรัพย์ เครื่องมือ ข้อมูล เพื่อคว้าโอกาสในทุกสภาวะตลาดทั่วโลก พร้อมให้บริการคำแนะนำและบทวิเคราะห์การลงทุนที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับอุตสาหกรรม บริษัท จนถึงหุ้นรายตัว นำเสนอข้อมูลที่แม่นยำ ทันเหตุการณ์ เข้าใจง่าย และเชื่อถือได้ เสมือนมีผู้ช่วยลงทุนที่เข้าใจตลาดการลงทุนอยู่ข้างกาย เพื่อให้นักลงทุนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีลงทุน InnovestX ได้ที่นี่ เพื่อติดตามบทวิเคราะห์และคำแนะนำการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ InnovestX ได้ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX และเว็บไซต์ https://www.innovestx.co.th/cafeinvest

#InnovestX #InnovestXResearch #ครบทุกเรื่องทั้งเครื่องมือข้อมูลเพื่อคว้าทุกโอกาสการลงทุนทั่วโลก

 

"SCBX" ชวนลงทุนหุ้นกู้คุณภาพสูง รับดอกเบี้ย 2.60% ต่อปี เปิดจอง 23-29 พ.ค.68

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่มั่นคง ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนและความผันผวนทางเศรษฐกิจที่รุนแรง โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.60% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ 'AA+(tha)' พร้อมแนวโน้ม 'Stable' โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568  ซึ่งเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่สะท้อนความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ และศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2568 ผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ

วันที่ 30 เมษายน 2568 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า "ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญความผันผวนรุนแรง การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความมั่นคงสูง คือ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน หุ้นกู้ของ SCBX นำเสนอทั้งความปลอดภัยและผลตอบแทนที่น่าพอใจ โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 นี้ นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการรักษาและเพิ่มพูนผลตอบแทนในช่วงเศรษฐกิจท้าทาย ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ 'AA+(tha)' จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด หุ้นกู้ของเรามอบความปลอดภัยสูงแก่ผู้ลงทุน สะท้อนถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ในฐานะกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของประเทศ"

โดยการนำเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ลงทุนดังที่ผ่านมา ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการจองซื้อและฝากแบบดิจิทัลทั้งหมด ครบจบในที่เดียวผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY ("แอป SCB EASY") ซึ่งมีระบบความปลอดภัยระดับสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวก และส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงไปยังผู้ลงทุนทั่วไป 

"ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนเช่นนี้ SCBX ยืนหยัดเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินและมีการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม การออกหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ    กลยุทธ์ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของกลุ่ม เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงจากบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ในขณะที่ตลาดทุนอื่นๆ มีความผันผวนและความเสี่ยงสูง หุ้นกู้ SCBX จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยในการลงทุนระยะยาว" นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อหุ้นกู้ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ทางช่องทางดิจิทัลผ่านแอป SCB EASY ซึ่งกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท โดยจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2568 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
•    https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=689811 
•    หรือติดต่อผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784

สำหรับลูกค้าที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ SCBX สามารถเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจองซื้อหุ้นกู้ โดยลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ผ่านแอป SCB EASY ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

#SCBX #ข่าววันนี้ #หุ้นกู้ #เอสซีบีเอกซ์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

SCBX สถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง เป้าหมายการจัดการสภาพภูมิอากาศตามหลักวิทยาศาสตร์จาก SBTi

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ประกาศความสำเร็จในการได้รับการรับรองเป้าหมายระยะใกล้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นทางการจาก Science Based Targets initiative (SBTi) โดยนับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองดังกล่าว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในด้านความยั่งยืนและการบริหารจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ

ความสำเร็จครั้งนี้ต่อยอดจากความมุ่งมั่นของ SCBX ในปี 2565 ที่ประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการดำเนินงานของบริษัทลง 90% ภายในปี 2573 เพื่อวางรากฐานสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ทั้งในส่วนของการดำเนินงาน และจากสินเชื่อและการลงทุน ภายในปี 2593 การกำหนดเป้าหมายระยะใกล้ตามหลักวิทยาศาสตร์ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว และทำให้มั่นใจว่าบริษัทยังคงอยู่บนเส้นทางสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero  โดย SCBX มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเป้าหมายของประชาคมโลกในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจำเป็นต้องร่วมกันผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วนและเต็มที่   ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593

นายเสถียร เลี้ยววาริณ Chief Sustainability Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า "การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero นำมาซึ่งความเสี่ยงและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับทุกธุรกิจและสังคม ในฐานะกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน เราตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งครอบคลุมทั้งการดำเนินงานของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และการสนับสนุนลูกค้าของเราให้สามารถปรับตัวเปลี่ยนผ่านสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจกำหนดเป้าหมายระยะใกล้ด้านการจัดการสภาพภูมิอากาศที่มีความท้าทาย โดยให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกอย่าง SBTi เราเชื่อว่าความพยายามของเราจะไม่เพียงแต่มีส่วนสนับสนุนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก แต่ยังช่วยสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยอีกด้วย"

SCBX ได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 90% จากปีฐาน 2566 ภายในปี 2573 ขณะที่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 จะมุ่งเน้นประเภท 15 (การลงทุน) ซึ่งเกี่ยวข้องกับพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจธนาคารที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็น 99% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของกลุ่ม โดยการกำหนดเป้าหมายที่ครอบคลุม 80% ของประเภทสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด SCBX ได้นำแนวทาง SBTi Sectoral Decarbonization Approach (SDA) มาใช้สำหรับการกำหนดเป้าหมายลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพอร์ตสินเชื่อกลุ่มธุรกิจไฟฟ้า  และวิธีการ Implied Temperature Rise (ITR) สำหรับการกำหนดเป้าหมายระดับอุณหภูมิของกลุ่มอุตสาหกรรมและประเภทสินทรัพย์อื่น ๆ

ทั้งนี้ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะใกล้ที่ได้รับการอนุมัติสำหรับขอบเขตที่ 3 ประเภท 15 ของ SCBX ประกอบด้วย:

 

นายเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะใกล้ SCBX มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน (ขอบเขต 1 และ 2) ผ่านสี่แนวทางหลัก ได้แก่ 1) การนำเทคโนโลยีใหม่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในอาคารและสำนักงาน 2) การปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2571 3) การใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2573 และ 4) การสร้างจิตสำนึกด้านความยั่งยืนให้กับพนักงานกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ โดยในปี 2566 เราประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2565 และเราได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% ในปี 2567  และ 50% ภายในปี 2570 จากปีฐาน 2566"

สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 จากการให้สินเชื่อและการลงทุน SCBX กำลังดำเนินกลยุทธ์หลายด้าน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการให้สินเชื่อด้านพลังงานหมุนเวียนและการสนับสนุนบริษัทที่มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกจากนี้ เรายังมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกในการร่วมจำกัดอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าในการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่มีความน่าเชื่อถือและสอดคล้องตามหลักวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งสนับสนุนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของลูกค้าอีกด้วย

"เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายนี้ เราได้ทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ของธนาคารมากกว่า 200 ราย เพื่อประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของลูกค้า ตลอดจนจัดทำกลยุทธ์การลดก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม (Sector Decarbonization Strategy) ครอบคลุม 4 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การผลิตไฟฟ้า เชื้อเพลิงฟอสซิล อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และเคมีภัณฑ์ ซึ่งกำหนดแนวทางเฉพาะในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม  อีกทั้งยังได้นำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนให้กับลูกค้าไปแล้วรวมกว่า 124,000 ล้านบาท ระหว่างปี 2566 – 2567 (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน) จากเป้าหมาย 150,000 ล้านบาท ภายใน 2568”

"SCBX" ปิดดีลขาย "Robinhood" ให้กลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอย

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย ประกาศเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการ แอปพลิเคชัน  Robinhood   ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอย โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็นมูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย มูลค่าเบื้องต้นชำระทันที 400 ล้านบาท และส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท โดยการซื้อขายในครั้งนี้อยู่ภายใต้เจตนารมณ์ที่ยังคงต้องการให้แอปพลิเคชัน Robinhood เป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทยที่สามารถแข่งขัน พร้อมดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “Robinhood เริ่มต้นธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นให้ประเทศเราได้มีแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา และเมื่อถึงเวลาที่กลุ่ม SCBX ต้องตัดสินใจส่งต่อธุรกิจ Robinhood ไปยังกลุ่มผู้ลงทุนรายต่อไป หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ที่สนใจซื้อกิจการ คือ ต้องเป็นกลุ่มธุรกิจสัญชาติไทยที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ Robinhood เป็นแพลตฟอร์มของคนไทยเพื่อคนไทยที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกลุ่มยิบอินซอยมีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโซลูชันเทคโนโลยีแบบครบวงจร แต่ที่สำคัญยังมีเจตนารมณ์ที่จะนำพา Robinhood ให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และไรเดอร์ส่งอาหาร”

นางมรกต ยิบอินซอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำของกลุ่มผู้ลงทุนยิบอินซอยในการเข้าซื้อ Robinhood จาก SCBX เราเล็งเห็นถึงศักยภาพในการให้บริการส่งอาหารของแพลตฟอร์ม Robinhood  ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพ มีความโดดเด่นในการให้บริการของไรเดอร์ที่สุภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้ ประเภทของร้านค้าที่เปิดให้บริการมีหลากหลายเพราะนอกจากจะมีร้านชื่อดังชั้นนำแล้วยังมีร้านที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่น่าสนใจ โดยเรามองว่าปัจจัยเหล่านี้ประกอบกับการเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่มีรากฐานที่ดี จึงเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มผู้ลงทุนยิบอินซอยที่จะพัฒนาธุรกิจเพื่อต่อยอดให้ Robinhood มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีความสามารถที่จะแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจอย่างมีส่วนร่วม (inclusive growth) ให้เกิดขึ้นในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง และยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนกับร้านค้าและเศรษฐกิจของประเทศไว้ด้วยกัน”ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Robinhood ได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โดย Robinhood จะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ สุภาพ รวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดต่อไป

สำหรับกลุ่มผู้ลงทุน นำโดยกลุ่มยิบอินซอย หนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร เทคโนโลยีระดับสูงด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีด้านพลังงานและการเกษตร รวมถึงธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมทางสังคม มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพทางการค้า การลงทุนในธุรกิจที่ดีมาเกือบ 100 ปี ด้วยความภาคภูมิใจที่เป็นกิจการค้าของคนไทยที่เติบโตก้าวหน้ามาอย่างยาวนาน ทำให้ยิบอินซอยมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างนิเวศทางธุรกิจที่ดี (Good Business Ecosystem) ของแพลตฟอร์ม Robinhood ให้อยู่คู่กับเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มธุรกิจชั้นนำของไทย ประกอบด้วยกลุ่ม Brooker Group ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนที่ทันสมัย หนึ่งในบริษัทที่ถือครองทรัพย์สินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลุ่ม SCT Rental Car หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์สำหรับใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ รวมถึงบริษัทย่อยของ Loxley คือ LOXBIT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการให้สินเชื่อดิจิทัลครบวงจรและบริการทางการเงินที่ฝังอยู่ในระบบต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมของรัฐบาล, ธุรกิจ และผู้บริโภคเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

#SCBX #Robinhood #กลุ่มยิบอินซอย #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

SCBX ดึง AI พัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมยกระดับกระบวนการทำงานด้าน HR ขับเคลื่อนเป้าหมายองค์กรสู่ AI-first Organization

SCBX ประกาศความสำเร็จ คว้า 3 รางวัลความเป็นเลิศด้านทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย ได้แก่ รางวัลสรรหาบุคลากรยอดเยี่ยม ระดับ Gold (Excellence in Talent Acquisition) รางวัลกลยุทธ์การบริหารค่าตอบแทนรวมยอดเยี่ยม ระดับ Silver (Excellence in Total Rewards Strategy) และรางวัลยอดเยี่ยมด้าน AI โซลูชันสำหรับทรัพยากรบุคคล ระดับ Bronze (Excellence in AI-Powered HR Solutions) จากเวที HR Excellence Awards Thailand 2024 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเชิดชูความสำเร็จขององค์กรที่มีกลยุทธ์และนวัตกรรมด้านการบริหารบุคลากรโดดเด่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการนำเทคโนโลยี AI มายกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมทักษะพนักงานขององค์กรให้สามารถอยู่ในกระแสความต้องการของโลกปัจจุบัน

นางพัตราภรณ์ สิโรดม Chief Talent Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “SCBX มุ่งมั่นเดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง หรือ  AI-first Organization การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลจึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ เราจึงมีการประยุกต์นำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อช่วยยกระดับกระบวนการทำงานด้าน HR ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชันที่ช่วยเฟ้นหาบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กร ลดเวลาและต้นทุนการทำธุรกิจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เพื่อรักษาและดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ (Talent) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร อีกทั้งยังสามารถสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยภายในสิ้นปี 2024 พนักงานกว่า 80% ขององค์กรต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้าน AI จึงได้จัดทำหลักสูตรออนไลน์และสื่อการฝึกอบรมด้าน AI ให้กับพนักงาน รวมถึงบริษัทยังสนับสนุนเครื่องมือ AI ให้กับพนักงาน เพื่อปลูกฝังและสร้าง AI Culture หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง AI อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของโลกการทำงานแห่งอนาคต”

โดยรางวัล HR Excellence Awards Thailand ประจำปี 2024 ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องความสำเร็จและนวัตกรรมที่โดดเด่นของบริษัทชั้นนำในประเทศไทยที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่ยอดเยี่ยม ภายใต้ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของการจัดการทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาตัดสินจากหลักเกณฑ์ภายใต้ 38 หมวดหมู่ ครอบคลุมวิสัยทัศน์ เป้าหมายองค์กร การดำเนินธุรกิจ และแนวทางการพัฒนาการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรในมิติต่างๆ

 

"SCBX" เลื่อนยุติการให้บริการ Food Delivery บนแอป Robinhood หลังมีผู้สนใจซื้อกิจการ

SCBX เลื่อนการยุติการให้บริการ Food Delivery บนแอป Robinhood หลังมีผู้สนใจซื้อกิจการ

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) เลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหาร (Food Delivery) ของแอปพลิเคชัน Robinhood ออกไปจากกำหนดเดิม คือ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น. เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเสนอเข้าซื้อกิจการทั้งหมดจากผู้ที่สนใจ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ โดยยังคงการยุติการให้บริการส่วนอื่น ได้แก่ Travel, Ride, Mart และ Express ตามกำหนดเดิม คือในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567

ทั้งนี้ บริษัทมีความตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้แอปพลิเคชัน Robinhood ซึ่งเกิดขึ้นจากการพัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทย ได้มีโอกาสที่จะได้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อันจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และไรเดอร์ส่งอาหาร

SCBX หวังว่าการเลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหาร (Food Delivery) ออกไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 จะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า เพื่อช่วยเหลือร้านค้าและไรเดอร์ส่งอาหาร ผ่านแอปพลิเคชัน Robinhood เช่นเดียวกับตลอดช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป

#SCBX #FoodDelivery #Robinhood #ข่าววันนี้ #บริการส่งอาหาร

 

กลุ่ม SCBX ผนึกกำลัง SambaNova เพิ่ม “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่บน Samba-1 พร้อมให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกใช้งานได้แล้ววันนี้

กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ AI ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-First Organization  ล่าสุด ผนึกกำลัง SambaNova Systems บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ที่รวบรวมโมเดลที่เร็วที่สุด และ Chips ที่ทันสมัยที่สุด นำ "ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) เปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts (CoE) เพื่อให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้ต่อยอดและพัฒนาแอปพลิเคชันด้าน AI บนแพลตฟอร์ม Samba-1 ได้แล้ววันนี้

นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Head of AI Strategy บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Samba-1 และพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าของ SambaNova ทั่วโลก โดยเราเชื่อมั่นว่า Samba-1 จะช่วยให้โมเดล  “ไต้ฝุ่น” เข้าถึงนักพัฒนานวัตกรรมและแอปพลิเคชันด้าน AI ภาษาไทยได้มากขึ้น”

โดยล่าสุด “ไต้ฝุ่น” ได้เปิดตัวเวอร์ชัน Typhoon-1.5X ในขนาด 8B และ 70B พัฒนาต่อยอดจากโมเดล Llama3 โมเดลถูกปรับแต่งให้เหมาะสำหรับภาษาไทยโดยมีเทคนิคการฝึกอบรมเพื่อให้เข้าใจบริบทและวัฒนธรรมไทยให้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโมเดลชั้นนำอย่าง ChatGPT และ GPT-4 นับเป็นก้าวหน้าที่สำคัญของ NLP และ AI ภาษาไทย

"ไต้ฝุ่น” เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ Open Beta ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. Pretrained Model โมเดลข้อมูลด้านภาษาไทย ครอบคลุมคำศัพท์ บริบท หรือความแตกต่างทางวัฒนธรรม รวมถึงความรู้ทั่วไปที่เกิดขึ้นทั่วโลก โมเดลนี้เป็น Open Source ที่นักพัฒนาด้าน AI สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีเพื่อนำไปใช้พัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI 2.Instruction-tuned Model โมเดลที่ต่อยอดจาก Pretraining สามารถทำตามคำสั่งที่ป้อนเข้าไป เช่น การแปล การสรุปความ หรือการตอบคำถามได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านบริการ API

นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of R&D and Innovation Lab บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่มักเจอเมื่อใช้งานโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยชาวต่างชาติและถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น การให้ข้อมูลภาษาไทย แต่ไม่ถูกกับบริบทหรือวัฒนธรรมของคนไทย เป็นต้น อีกทั้งภาษาไทยถูกเก็บข้อมูลสำหรับใช้พัฒนาโมเดลภาษาไว้น้อยมาก (Low Resource Language) เช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างทางภาษา เราเชื่อว่าการนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” ไปอยู่บน Samba-1 จะช่วยให้นักพัฒนาด้าน AI ได้รับประสบการณ์ (User Experience) ที่ดีขึ้น พร้อมมีส่วนช่วยยกระดับนวัตกรรมด้าน AI และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรม AI ของไทย”

ขณะที่ มร.โรดริโก เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ SambaNova Systems กล่าวว่า “Samba-1 นำเสนอโมเดล Open Source ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI เข้าถึงโมเดล AI ที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในโลก โดยการเข้าร่วมของ “ไต้ฝุ่น” ครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเรา อีกทั้งเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำ “ไต้ฝุ่น” เข้าสู่ Samba-1 ร่วมกับโมเดลชั้นนำระดับโลก” 

“นักพัฒนาด้าน AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมด้านการเงินการธนาคารจะมีแพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ของพวกเขา การนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” มาอยู่บนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของโมเดล “ไต้ฝุ่น” และลดต้นทุนการใช้งานให้น้อยลงกว่าที่เคย” มร.มาร์แชล ชอย (Marshall Choy) SVP Product ของ SambaNova Systems กล่าวเสริม

“ไต้ฝุ่น” ได้เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ SambaNova ที่รวบรวมโมเดลสำหรับพัฒนานวัตกรรมด้าน AI ที่หลากหลายและสามารถแนะนำโมเดลเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่ามีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการผู้ใช้งาน นอกจากนี้ “ไต้ฝุ่น” ทำงานบนชิป SN40L ของ SambaNova ด้วยหน่วยความจำ Dataflow 3 ชั้น ซึ่งช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

#ข่าววันนี้ #SCBX #SambaNova #ไต้ฝุ่น 

‘SCBX’ แกร่งต่อเนื่อง นักลงทุนทุกกลุ่มตอบรับหุ้นกู้ท่วมท้น 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นองค์กร-เดินหน้ารุกธุรกิจ

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ประกาศความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท ให้แก่ ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งยังคงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะรุ่นที่เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป มียอดจองซื้อเต็มวงเงินเสนอขาย 15,000 ล้านบาท และได้เปิดเสนอขายเพิ่มเติมในส่วนหุ้นกู้สำรอง (Greenshoe) อีก 5,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าเสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของงนักลงทุนทุกกลุ่มที่มีต่อกลุ่ม SCBX ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ระดมได้จากการขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายและพัฒนาธุรกิจ อันจะนำพาองค์กรเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาคต่อไป

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนทุกกลุ่มทั้งผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน ตลอดจนผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่ได้มอบความไว้วางใจในการลงทุนในหุ้นกู้ SCBX ด้วยดีตลอดมา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพและความมุ่งมั่นของ SCBX ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยในปีนี้เรายังคงให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการจองซื้อและฝากแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY อีกทั้งบริษัทยังคงเจตนารมณ์ในการสร้างโอกาสการลงทุนที่มั่นคงให้แก่ประชาชนทั่วไป จึงได้นำหุ้นกู้ที่สำรองไว้ (Greenshoe) มาเสนอขายเพิ่มเติมจำนวน 5,000 ล้านบาท รวมมูลค่าการเสนอขายรุ่น PO ทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท”

“บริษัทจะนำเงินทุนที่ระดมได้ในครั้งนี้ไปใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบเพิ่มมูลค่ากิจการของกลุ่มในระยะยาวตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะนำพากลุ่ม SCBX เดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค” นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ หุ้นกู้ SCBX ที่เสนอขายในปี 2567 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ได้แก่

ครั้งที่ 1/2567 เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (ไม่รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ที่เป็นบุคคลธรรมดา) จำนวน 6 รุ่น ซึ่งมีการจัดออกเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2567

ชุดที่ 1 หุ้นกู้อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.75% ต่อปี จำนวน 4,300 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568
ชุดที่ 2 หุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.95% ต่อปี จำนวน 4,900 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569
ชุดที่ 3 หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.27% ต่อปี จำนวน 2,900 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572
ชุดที่ 4 หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.52% ต่อปี จำนวน 1,100 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2574
ชุดที่ 5 หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.77% ต่อปี จำนวน 1,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2577
ชุดที่ 6 หุ้นกู้อายุ 3 ปี ไม่มีการชำระดอกเบี้ยระหว่างอายุหุ้นกู้ (zero coupon) จำนวน 7,800 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570
 

ครั้งที่ 2/2567 เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 1 รุ่น ซึ่งมีการจัดออกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2567

หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี จำนวนรวม 20,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571

#เอสซีบีเอกซ์ #SCBX #ข่าววันนี้ #ลงทุน #หุ้นกู้ 

 


 

"SCBX" จ่อเสนอขายหุ้นกู้ที่มั่นคง จองสะดวก เข้าถึงง่าย เคาะ ดบ.3.10% จ่ายทุก 6 เดือน เปิดจองซื้อ 14-20 มิ.ย.67

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2567 ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท ทั้งนี้ มีอันดับเครดิตของบริษัทฯ ที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้ม ‘Stable’ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ ‘AA+(tha)’ โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน สะท้อนถึงการลงทุนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ ให้ผลตอบแทนมั่นคง โดยจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 14-20 มิถุนายน 2567 ผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “บริษัทให้ความสำคัญกับการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินการลงทุนให้กับคนไทย การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2567 นับเป็นการเปิดโอกาสอีกครั้งให้ผู้ลงทุนทั่วไปในวงกว้างสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ที่มีความมั่นคงสูง ให้ผลตอบแทนดี มีความเสี่ยงต่ำ ภายใต้สภาวะที่ตลาดทุนมีความผันผวน หุ้นกู้ของ SCBX ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ ‘AA+(tha)’ ซึ่งเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุดของบริษัทเอกชนที่เสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (PO) ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. 2567)  สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน กรอบการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ และเป็นอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกันกับธนาคารไทยพาณิชย์”

โดยการนำเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทยังคงเน้นให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการจองซื้อและฝากแบบดิจิทัลทั้งหมด ครบจบในที่เดียวผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY ("แอป SCB EASY”) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวก และส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงไปยังผู้ลงทุนทั่วไป นอกจากนี้ SCBX กำลังดำเนินการจัดตั้ง SCBX Debenture Club คอมมูนิตี้ของผู้ถือหุ้นกู้ SCBX เพื่อรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุน แนวโน้มเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ตลอดจนกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆที่น่าสนใจ

“วัตถุประสงค์หลักของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อขยายและพัฒนาธุรกิจของกลุ่ม SCBX อันจะนำพาองค์กรเดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค โดยมุ่งเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและเพิ่มมูลค่ากิจการของกลุ่มในระยะยาวต่อไป นอกจากนี้เราเชื่อมั่นว่าหุ้นกู้ SCBX จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนคงที่ตลอดระยะเวลาการลงทุนอีกด้วย” นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อหุ้นกู้ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ทางช่องทางดิจิทัลผ่านแอป SCB EASY ซึ่งกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท โดยจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 14-20 มิถุนายน 2567 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=614800&SD=140... หรือติดต่อผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784

สำหรับลูกค้าที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ SCBX สามารถเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจองซื้อหุ้นกู้โดยลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ผ่านแอป SCB EASY ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

คำเตือน:   การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

หมายเหตุ: การจัดสรรหุ้นกู้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

ผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ออกหุ้นกู้ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์โดยมีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน

*อันดับความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุดของบริษัทเอกชนที่เสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (PO) ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. 2567)

#เอสซีบีเอกซ์ #ข่าววันนี้ #หุ้นกู้ #SCBX

 

 

กลุ่ม SCBX เปิดเวที “Typhoon Hackathon 2024” เฟ้นหาสุดยอดทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันต่อยอดจากโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ “ไต้ฝุ่น”

กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ด้าน AI ในประเทศไทย พร้อมปลดล็อกศักยภาพด้านโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ ผ่านการจัดงาน “Typhoon Hackathon 2024” ภายใต้แนวคิด "Empowering Thai Language AI for Inclusivity" เฟ้นหาสุดยอดทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันด้าน AI ที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมและวัฒนธรรมไทย โดยนำ "ไต้ฝุ่น (Typhoon)” โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะมาประยุกต์ใช้ โดยทีมผู้ผ่านเข้ารอบมีโอกาสที่จะนำเสนอไอเดีย รวมถึงโอกาสร่วมงานกับพันธมิตรและนักลงทุนด้าน AI ชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft, AI Singapore, SCBX, SCB 10X, DataX, VISTEC, VISAI และ Gowajee เป็นต้น ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 180,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่  https://forms.gle/ZRtqoRitc97Ddcdh9 ตั้งแต่ วันนี้ – 9 มิถุนายน 2567 โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 28-30 มิถุนายน 2567 ณ DISTRICTX อาคาร FYI Center

นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of R&D and Innovation Lab บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “ในภูมิทัศน์สมัยใหม่ของ AI โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) ได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม โมเดลภาษาขนาดใหญ่ส่วนมากในปัจจุบันถูกฝึกฝนด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก ในขณะที่ภาษาไทย และภาษาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีข้อมูลและทรัพยากรสำหรับการพัฒนาโมเดลที่จำกัด (Low Resource Language) ซึ่งทำให้เกิดปัญหาช่องว่างทางภาษา และส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้งานและการพัฒนาต่อยอดทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับโมเดลภาษาอังกฤษ ด้วยเหตุนี้ กลุ่ม SCBX นำโดย SCBX และ SCB 10X พร้อมพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมและผลักดันการพัฒนานวัตกรรมด้าน AI ที่ยั่งยืนในประเทศไทย ผ่านการจัดงาน “Typhoon Hackathon 2024” ด้วยความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะภาษาไทย ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้เหมาะสมกับบริบทของสังคมและวัฒนธรรมไทย เข้าใจความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น AI-First Organization อย่างแท้จริง”

นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Head of AI Strategy บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X ได้ริเริ่มพัฒนา “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) ที่เข้าใจบริบทภาษาไทย ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าทุกโมเดลภาษาไทยที่ปล่อยฟรีและมีคะแนนเทียบเท่ากับ GPT-3.5 โดยวัดด้วยข้อสอบสำหรับเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายและข้อมูลด้านการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในประเทศไทย กลุ่ม SCBX เล็งเห็นประโยชน์ที่จะนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” ไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมและโซลูชันด้าน Generative AI ในอนาคต เราจึงจัดกิจกรรม Hackathon ในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนา ผู้สร้าง และผู้ประกอบการที่สนใจ เข้าร่วมพัฒนาโซลูชันด้าน Generative AI ในระดับแอปพลิเคชัน โดยต่อยอดจากการนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” ในรูปแบบของ Typhoon API ไปประยุกต์ใช้ภายใต้โจทย์ “Empowering Thai Language AI for Inclusivity” 

โดยตัวอย่างขอบเขตของแอปพลิเคชันได้แก่ 1.Thai Culture-Specific Applications: แอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบให้เหมาะกับวัฒนธรรมไทย เช่น แอปพลิเคชันแนะนำร้านอาหารสตรีทฟู้ด 2.Productivity Tools: เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับภาษาไทย เช่น เครื่องมือถอดความและสรุปความภาษาไทย 3.Content Generation: แพลตฟอร์ม AI สำหรับสร้างเนื้อหาทางการตลาดเป็นภาษาไทยตั้งแต่สโลแกนไปจนถึงโพสต์บนโซเชียลมีเดีย 4.Creative Writing Assistance: ผู้ช่วยด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่นำเสนอบริบทภาษาที่เหมาะสมกับความต้องการของนักเขียนไทย 5.Thai Education: โซลูชันเพื่อยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อให้การเรียนรู้และเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะนำ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยไปประยุกต์ใช้ให้เกิดโซลูชันระดับแอปพลิเคชันที่เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรม AI ของไทยในอนาคต”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ https://forms.gle/ZRtqoRitc97Ddcdh9 ตั้งแต่ วันนี้ – 9 มิถุนายน 2567 หรือ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Typhoon Hackathon Discord: https://discord.com/channels/1200273121614241863/1240623610842845216