GPSC ร่วมถ่ายทอดแผนพัฒนา SMR เวที Techsauce ทางออกเพิ่มเสถียรภาพพลังงานสะอาดเพื่อภาคการผลิตไทย

GPSC ร่วมถ่ายทอดแผนพัฒนา SMR เวที Techsauce ทางออกเพิ่มเสถียรภาพพลังงานสะอาดเพื่อภาคการผลิตไทย

วันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “SMR Landscape – Bridging Advanced Nuclear Tech for a Better Planet” ในงาน Techsauce Global Summit 2025 โดยมี รศ. ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และคุณณรินทร์ อภิสุทธิ์มิตรี Senior Principal, Xplor Ventures ร่วมถ่ายทอดในงานเทคโนโลยีระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยี Small Modular Reactor (SMR) นวัตกรรมพลังงานสะอาด ที่สามารถผลิตไฟฟ้าและไอน้ำอย่างมีเสถียรภาพ มีความปลอดภัยสูง และไม่ปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ภาคการผลิตของไทย

GPSC กำไรครึ่งปี 3,159 ล้านบาท รับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมพุ่ง พร้อมเดินหน้าลงทุนพื้นที่ศักยภาพ

GPSC เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีสุดแกร่ง 3,159 ลบ. รับผลกำไรพอร์ตลงทุนต่างประเทศ ทั้งอินเดีย และไต้หวัน ปรับกลยุทธ์สอดรับสถานการณ์การใช้พลังงานทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเจาะพื้นที่ศักยภาพเติบโตด้านพลังงานโลก สร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง 

วันที่ 7 ส.ค.68 นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากอัตราแลกเปลี่ยน (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น) ทั้งจากการลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang และ Xidao (CFXD) ไต้หวัน และยังรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ เนื่องจากเงินสกุลดอลลาร์ไต้หวันมีการแข็งค่า รวมทั้งผลประกอบการของโครงการไซยะบุรี พาวเวอร์ (XPLC) ใน ส.ป.ป.ลาว ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้มีต้นทุนทางการเงินลดลงได้ 88 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงิน สร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัทฯ เป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและสถาบันการเงิน รวมทั้งบริษัทฯ ได้รับการปรับมุมมอง (Outlook) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ เป็น Stable

ขณะที่ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 866 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยหลักจากเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น 732 ล้านบาทจากผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของ Avaada Energy Private Limited : AEPL (ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย) ตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่เริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ผลประกอบการของ CFXD มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 รวมทั้ง CFXD สามารถรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายลดลงโดยหลักจาก ดอกเบี้ยจ่ายจากการจ่ายคืนเงินกู้ก่อนกำหนด ค่าซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันภัยโรงไฟฟ้าจากการบริหารจัดการความเสี่ยงตามมาตรการด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับครึ่งปีหลัง GPSC ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์บริหารโรงไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ สร้างความมั่นคงทางด้านไฟฟ้า รวมถึงบริหารโครงการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าโครงการ EBITDA Uplift ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และมีเป้าหมายแสวงหาโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในพื้นที่การลงทุนที่มีศักยภาพต่อไป

GPSC ปลุกพลังทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนพลังงานสะอาด

GPSC ปลุกพลังทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนพลังงานสะอาด

นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Renewable Energy, Power for Life” ภายใต้ "หลักสูตรด้านวิทยาการพลังงานสำหรับนักบริหารรุ่นใหม่ รุ่น 11" (วพม.11) ณ ห้อง Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร C ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ กรุงเทพฯ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนและการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ให้กับนักบริหารและผู้นำรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป เป็นการเสริมสร้างความเข้าใจด้านพลังงานหมุนเวียนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เพื่อปรับตัวสู่พลังงานสะอาดที่สร้างความยั่งยืน

GPSC ร่วมเวที SMR School แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รองรับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR เพิ่มความมั่นคงพลังงานสะอาดในประเทศ

GPSC ร่วมเวที SMR School แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รองรับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR เพิ่มความมั่นคงพลังงานสะอาดในประเทศ

นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท.ร่วมพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ Small Modular Reactor School : Interregional Workshop on Key Aspects of SMR Development and Deployment ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง GPSC บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ 11 ประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR ของไทยในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายนำไปสู่การแสวงหาพันธมิตรและเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ เสริมสร้างศักยภาพด้านพลังงานของไทย ณ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กรุงเทพมหานคร

GPSC สร้างฝายชะลอน้ำ เสริมระบบนิเวศ หนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero

GPSC สร้างฝายชะลอน้ำ เสริมระบบนิเวศ หนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero

นางปริญดา มาอิ่มใจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหารองค์กร และนายอาเดรียนุส โยเซฟุส แวน เดน บรูค รองกรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ปรึกษาประจำประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. นำพนักงานจิตอาสาบริษัทฯ ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านฉาง และเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดระยอง จัดกิจกรรม “สร้างฝายชะลอน้ำ ประจำปี 2568” ณ ป่าชุมชนบ้านภูดรห้วยมะหาด อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 โดย GPSC ได้สร้างฝายชะลอน้ำแล้วกว่า 187 ฝาย บนพื้นที่ป่าชุมชนประมาณ 50 ไร่ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ฟื้นฟูได้อย่างยั่งยืน โดยฝายชะลอน้ำเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผืนป่า และลดการพังทลายของดินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ GPSC ยังได้ส่งเสริมการปลูกพืชอาหารและสมุนไพรจำนวน 6 ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชัน กระชายบ้าน ว่านม่วง หัวไพล หัวกระทือ และขิงแห้ง รอบพื้นที่ฝายชะลอน้ำ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ชุมชนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหมุนเวียนได้ตลอดปี ส่งผลให้ประชาชนโดยรอบพื้นที่กว่า 250 ครัวเรือน ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานดังกล่าว

ทั้งนี้ GPSC ยังได้ร่วมมือกับ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ของป่าชุมชนแห่งนี้ จากผลการสำรวจพบว่า พืชและสัตว์ชนิดเล็กในพื้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของการดูแลและฟื้นฟูระบบนิเวศผืนป่าในภาพรวม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในระดับชุมชน เพื่อสร้างประโยชน์สู่ป่าชุมชนและการติดตามผลการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างเป็นระบบ  นับเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของ GPSC ในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมกับภาครัฐและภาคชุมชนในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาชุมชนอย่างสมดุลและยั่งยืน

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต GPSC ที่ระดับ “AA+” มุมมอง ‘Stable’ สะท้อนฐานะทางการเงินมั่นคง ผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้ง การันตี GPSC ฐานะการเงินสุดแกร่ง ให้เครดิตที่ระดับ “AA+” แนวโน้ม “stable” สร้างรายได้เติบโตมั่นคง จากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่พลังงานหลักและพลังงานหมุนเวียน ทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต มุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน  

นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2568 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตของ GPSC อยู่ที่ระดับ “AA+” แนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” นับว่าเป็นการจัดอันดับเครดิตสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าเอกชนของประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และพอร์ตสินทรัพย์ที่เป็นนวัตกรรมพลังงานที่มีความหลากหลายในการสร้างผลตอบแทนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 

การจัดอันดับของทริสเรทติ้ง ชี้ให้เห็นว่า GPSC มีศักยภาพในการรักษาวินัยทางการเงิน และความสามารถในการบริหารพอร์ตการลงทุน รวมถึงการถือครองสินทรัพย์โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่า 40 โครงการ ทั้งในประเทศไทย อินเดีย ไต้หวัน และ สปป.ลาว โดยมีรายได้หลักจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำ ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงจากโครงสร้างสัญญาที่มีการรับประกันการรับซื้อขั้นต่ำ หรือภายใต้เงื่อนไข Take-or-pay และสัญญาส่วนใหญ่มีรายได้ที่สามารถส่งผ่านต้นทุนราคาเชื้อเพลิง ขณะเดียวกันบริษัทมีการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการเติบโตระยะยาว 

โดยบริษัทยังเดินหน้าในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนโดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็นร้อยละ 68 ในปี 2573 ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานของกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ และการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งการคงอันดับเครดิตสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจที่ชัดเจน สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคต ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของไทย เพื่อการเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 มีกำลังผลิตสุทธิ 7,342 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าขยายสู่ 14,175 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ตามแผนการลงทุนระยะยาว 

ทั้งนี้ GPSC ให้ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท.ในการขับเคลื่อนพัฒนาพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต อาทิ ไฮโดรเจน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูล (Small Modular Reactor: SMR) โดย GPSC ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน วงเงินสินเชื่อ และความร่วมมือในระดับยุทธศาสตร์จากกลุ่ม ปตท. อย่างต่อเนื่อง

GPSC ปลื้มฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิตขึ้นเป็น ‘Stable’ คงอันดับเครดิตองค์กรในประเทศ A+ และสากล BBB-

ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับเครดิตองค์กร GPSC ที่ระดับ A+ พร้อมปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการบริหารจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

วันที่ 14 ก.ค.68 นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า GPSC ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรในประเทศที่ระดับ “A+ (tha)” และอันดับเครดิตสากล (International Rating) ที่ระดับ “BBB-” ซึ่งทั้งคู่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ด้วยแนวโน้มขึ้นเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างมีวินัยและมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงราคาพลังงานผันผวน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นบริหารจัดการต้นทุนและรักษาประสิทธิภาพในการบริหารงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศที่ผ่านมาก็สามารถบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผ่านกลยุทธ์การปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่บริษัทฯ วางเป้าหมายไว้ (Rebalance Portfolio) รวมถึงสัดส่วนหนี้สินปรับตัวลดลง และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดย ฟิทช์ ประเมินว่า GPSC มีบทบาทสำคัญในฐานะบริษัทแกนนำธุรกิจผลิตไฟฟ้า และสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. สะท้อนการเชื่อมโยงกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน 

“การคงอันดับเครดิตในประเทศที่ระดับ “A+ (tha)” และต่างประเทศที่ระดับ “BBB-” ซึ่งทั้งคู่อยู่ในระดับน่าลงทุนพร้อมกับปรับแนวโน้มอันดับเครดิตที่ดีขึ้น ชี้ให้เห็นโครงสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง จากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าหลักได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการทางการเงินที่สามารถลดระดับหนี้สิน ภายหลังจากการเข้าไปลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ พร้อมยกระดับการขยายพอร์ตพลังงานสะอาดในระดับภูมิภาคที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่ม ปตท. เน้นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” นางพรรณพร กล่าว

นับเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงอย่างครอบคลุม และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

GPSC เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการร่วม NASMEX’25 แผนความปลอดภัยท่าเทียบเรือ เขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

GPSC เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการร่วม NASMEX’25 แผนความปลอดภัยท่าเทียบเรือ เขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกปฏิบัติการร่วม NASMEX’25 (Naval Security Port and Ship Maptaphut Exercise 2025) โดยมีพลเรือโทอาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีฯ ณ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สาขาที่ 6 อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

การฝึกปฏิบัติการ NASMEX’25 ดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างทัพเรือภาคที่ 1 สัตหีบ  ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศร ชล.) สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง หน่วยงานราชการอื่นๆ และผู้ประกอบการท่าเทียบเรือในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 4 กรกฎาคม 2568 ตามแผนรักษาความปลอดภัยท่าเรือและเรือตามมาตรฐาน ISPS Code  และแผนยุทธศาสตร์ของศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) ทั้งนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือฯ  อันจะเป็นการเพิ่มความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉินผ่านการจำลองสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง 

ทั้งนี้ GPSC ในฐานะผู้ประกอบการท่าเทียบเรือในพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด พร้อมสนับสนุนให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับความมั่นคง ปลอดภัยต่อภาคอุตสาหกรรมและชุมชนโดยรอบร่วมกันอย่างยั่งยืน

GPSC กวาด 7 รางวัล Finance Asia Awards 2025 การันตีบริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำ ผู้นำนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืน

GPSC คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยม จากนิตยสาร Finance Asia สะท้อนกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน มุ่งพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารทางการเงินที่มีชื่อเสียงชั้นนำของเอเชีย Finance Asia Awards 2025 จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงินในภูมิภาค โดยในปีนี้ GPSC ได้รับถึง 7 รางวัล ประกอบด้วย ระดับ Gold จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ Most Committed to ESG (บริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG ยอดเยี่ยม) ระดับ Silver จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ Best Utility Services Company (บริษัทที่ให้บริการสาธารณูปโภคยอดเยี่ยม), Best Renewable Energy Company (บริษัทด้านพลังงานหมุนเวียนยอดเยี่ยม), Best Managed Company (บริษัทที่บริหารจัดการยอดเยี่ยม), Best Mid-Cap Company (บริษัทขนาดกลางที่มีผลงานดีเด่น), Most Committed to DEI (บริษัทที่มุ่งมั่นต่อความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม) และระดับ Bronze จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ Best Investor Relations (นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม)

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การได้รับในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ GPSC ในการพัฒนาองค์กรให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล ควบคู่กับการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมพลังงาน และการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านระบบสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้า และไอน้ำ การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เพื่อตอบสนองต่อภาคการผลิตด้วยเชื้อเพลิงที่มีความหลากหลาย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาค พร้อมแสดงถึงศักยภาพของ GPSC ในการเป็นผู้นำขับเคลื่อน Energy Transition ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการลงทุนผ่านโครงการในต่างประเทศ เช่น สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดพลังงานหมุนเวียนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า รางวัลที่ได้รับรวมถึง Best Investor Relations ที่ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทีมงาน GPSC ทุกคน โดยเฉพาะถือว่าเป็นก้าวแรกของทีมงานนักลงทุนสัมพันธ์สำหรับบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านการสื่อสารอย่างโปร่งใส ครบถ้วน  และเท่าเทียม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและมาตรฐานระดับสากล พร้อมเสริมสร้างบทบาทเชิงรุกในการตอบสนองความคาดหวังของนักวิเคราะห์และผู้ลงทุนในระดับโลก เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืน


นับเป็นความสำเร็จของ GPSC และเป็นก้าวสำคัญของการสร้างพลังงานแห่งอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ภายใต้พันธกิจการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะของประเทศไทยและภูมิภาค ทั้งจากพลังงานหลัก พลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ฯลฯ รวมถึงพลังงานสะอาดอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้จากการลงทุนและการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐอินเดีย เพื่อก้าวสู่พลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี พ.ศ. 2603 พร้อมสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

GPSC เปิดแผนศึกษา SMR เทคโนโลยี Gen IV ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ตอบโจทย์ภาคการผลิต มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions  

GPSC ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้า SMR เทคโนโลยี Gen IV สร้างเสถียรภาพพลังงานสะอาด ป้อนไฟฟ้าและไอน้ำสู่ภาคการผลิต มุ่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions

นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า GPSC อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR (Small Modular Reactor) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างมีเสถียรภาพ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ สู่สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero Emissions (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) ของกลุ่ม ปตท. โดย SMR ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญในการผลิตไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถป้อนพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับเทคโนโลยี SMR ที่ GPSC กำลังศึกษาพัฒนาอยู่ นับเป็นนวัตกรรมพลังงานสะอาดยุคใหม่จากเทคโนโลยีปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นที่ 4 (Generation IV หรือ Gen IV) ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย ด้วยคุณสมบัติเด่นที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ สามารถผลิตพลังงานได้อย่างมีเสถียรภาพ ความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากออกแบบเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลังการผลิต 100-300 เมกะวัตต์ต่อหน่วย ส่งผลให้มีระยะเวลาการก่อสร้างที่รวดเร็ว สามารถผลิตแบบโมดูลสำเร็จรูปจากโรงงาน และตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่สามารถจ่ายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ต่างจากพลังงานหมุนเวียนทั่วไปที่ผลิตได้เฉพาะช่วง ในส่วนกระบวนการผลิตไฟฟ้า ใช้แท่งเชื้อเพลิงยูเรเนียมความเข้มข้นต่ำ ร่วมกับระบบระบายความร้อนด้วยเกลือหลอมเหลว (Molten Salt Technology) ลดความเสี่ยงด้วยระบบความปลอดภัยแบบพาสซีฟ (Passive Safety System) ที่อาศัยหลักธรรมชาติในการลดความร้อนจากแท่งเชื้อเพลิงโดยอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างกระบวนการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ดี การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR  จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดหลายด้าน ทั้งการเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม เทคโนโลยีเฉพาะ การจัดการความปลอดภัย และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่ง GPSC กำลังดำเนินการศึกษาอย่างรอบคอบตามกรอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือ PDP 2024 ซึ่งได้กำหนดขนาดกำลังผลิตไว้ที่ 600 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายแผนปี 2580

นายศิริเมธกล่าวเสริมว่า การที่ไทยจะเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ต้องยอมรับว่าในทุกกระบวนการผลิตจะต้องไม่ปล่อยคาร์บอนฯ ซึ่งเรายังมีมิติความท้าทายด้านพลังงาน 3 ด้าน (Energy Trilemma) ที่ต้องเผชิญ  ได้แก่ (1) ความมั่นคงทางพลังงาน (Energy Security) (2) ความสามารถในการจ่าย (Affordability) ที่ตอบโจทย์ภาคประชาชนในราคาค่าไฟฟ้าที่สามารถยอมรับได้ และ (3) ความยั่งยืนทางพลังงาน (Sustainability) ซึ่งต้องไม่ปลดปล่อยคาร์บอนฯ ดังนั้น การใช้พลังงานหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว จึงยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม ทั้งนี้ ยังไม่มีโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีใดสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 3 ด้านข้างต้น ยกเว้น SMR ที่จะนำเราไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ได้ 

ทั้งนี้ GPSC มีความพร้อมในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR เนื่องจากมีความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่ากฎเกณฑ์ภาครัฐที่อยู่ระหว่างจัดทำขึ้นอย่างชัดเจน จะเป็นโอกาสในการเปิดให้มีการพัฒนา SMR ซึ่ง GPSC จะเป็นเอกชนรายแรกที่เดินหน้าโครงการนี้ โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้นำร่องในไทย