"พิชัย" พบผู้บริหาร Google ที่กรุงวอชิงตัน จับมือดัน ‘DEFA’ ข้อตกลง ศก.ดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก

"พิชัย" พบผู้บริหาร Google ที่กรุงวอชิงตัน หนุนลงทุนอุตสาหกรรมดิจิตัลในไทย จับมือดัน ‘DEFA’ ข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก

วันที่ 10 ก.พ.68 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าหารือกับ Mr. Marcus D. Jadotte, Vice President of Government Affairs and Public Policy และคณะผู้บริหาร Google ณ Google DC กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ความมั่นคงไซเบอร์ และการส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ในประเทศไทย อันเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ต้องการให้ประเทศไทยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล

นายพิชัย เปิดเผยว่า ในการหารือกับผู้บริหาร Google ครั้งนี้ มี 4 ประเด็นหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือ ประกอบด้วย  1.ประเด็นการลงทุนในโครงการภาครัฐ ซึ่งทาง Google แสดงความสนใจที่จะลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐของไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี Cloud Service และ Data center 

2.ประเด็นความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ในระดับสากล

3.ประเด็นกรอบข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement หรือ DEFA) ที่ทาง Google ตระหนักถึงบทบาทของไทยในฐานะประธานการเจรจา DEFA และพร้อมที่จะให้ข้อมูลหรือการสนับสนุนที่จำเป็นในการผลักดันข้อตกลงนี้ให้เป็นมาตรฐานระดับสากล
 
4.ประเด็นแนวทางการควบคุมเศรษฐกิจดิจิทัล ที่มีบางส่วนกังวลเรื่องกฎระเบียบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล 

นายพิชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ต้องการจะผลักดันให้ข้อตกลง DEFA เป็นข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมาตรฐานสูง ครอบคลุม และทันสมัย สามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลได้ในอนาคต และให้ความสำคัญกับเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา ที่จะต้องปรับให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI ในการคุ้มครองเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ให้กฎหมายมีความทันสมัย โดยข้อตกลง DEFA มีเป้าหมายที่จะเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งหากสำเร็จ จะเป็นข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิตอลระหว่างอาเซียนและภูมิภาคอื่น รวมถึงสหรัฐฯ ด้วย

ทั้งนี้ รมว.พาณิชย์ ยังได้เชิญชวนให้ทาง Google เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาซูเปอร์แอปของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยสนับสนุนโครงการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทาง Google แสดงความยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือ และเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรม Data Center และ AI ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Google Microsoft และ Amazon เข้ามาลงทุน ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็สนใจที่จะลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทย และการหารือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำด้านดิจิทัลอย่าง Google จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาคได้ต่อไป

#Google #กระทรวงพาณิชย์ #อุตสาหกรรมดิจิทัล #DEFA #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #เศรษฐกิจดิจิทัล

 

READY สร้างความสำเร็จต่อเนื่อง คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการทำโฆษณาออนไลน์จาก Google ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน

บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน Google Growth Hackathon ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในเวทีการแข่งขันที่รวบรวมเอเจนซี่ด้านการตลาดออนไลน์ชั้นนำจากทั่วประเทศ เพื่อทำโฆษณาออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือของ Google จนสามารถสร้างผลลัพธ์และเพิ่มรายได้แก่ลูกค้าอย่างได้ผล

READY เคยได้รับรางวัล Best in Automation Excellence ในปี 2023 และ 2024 ซึ่งสะท้อนความสามารถด้านการบริหารจัดการแคมเปญโฆษณาออนไลน์ด้วยระบบอัตโนมัติ และในการแข่งขันครั้งล่าสุด บริษัทฯ ยังคงแสดงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการตลาด (Marketing Technology) อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถคว้ารางวัล Best Client Success Story จากการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับความเชี่ยวชาญของทีมงานในการบริหารแคมเปญโฆษณา เพื่อสร้างผลลัพธ์สูงสุดให้กับลูกค้า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของ READY ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมการตลาดออนไลน์และเทคโนโลยีการตลาด พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจลูกค้าอย่างยั่งยืนต่อไป

นายบุรินทร์ เกล็ดมณี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการทำโฆษณาออนไลน์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธุรกิจให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง  การทำธุรกิจต่างต้องการลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่ (Cost per Acquisition หรือ CPA) เพื่อให้การลงทุนในโฆษณามีความคุ้มค่าสูงสุด เพราะฉะนั้นการบริหารแคมเปญโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

Readyplanet ได้นำเทคโนโลยีของบริษัทฯ มาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของ Google เพื่อขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุมและตรงจุดมากขึ้น นำไปสู่การสร้างผลลัพธ์ความสำเร็จ ที่สามารถช่วยลด Cost Per Acquisition (CPA) ได้ถึง 30% และเพิ่มความคุ้มค่าในการทำโฆษณา Return on Ad Spend (ROAS) ขึ้น 23% อีกทั้งสามารถสร้างการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นถึง 40% และมีอัตรา Conversion Rate สูงขึ้น 53% ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี 

นายบุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “รางวัล Best Client Success Story ในปีนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจและเครื่องยืนยันถึงความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของทีมงาน Readyplanet เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งพัฒนานวัตกรรมการตลาดเพื่อสร้างคุณค่าและความสำเร็จที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ

ก.ศึกษาธิการ ร่วมมือ Google for Education​ พลิกโฉมการศึกษาไทย เปลี่ยนอนาคตการเรียนรู้ เปิดหลักสูตรนักเรียนครั้งแรกในโลก

นานสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยว่า เมื่อเร็วนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศความร่วมมือกับ Google for Education​ พลิกโฉมการศึกษาไทย เปลี่ยนอนาคตการเรียนรู้ เปิดตัวหลักสูตรนักเรียนครั้งแรกในโลก

ทั้งนี้ได้หารือและตกลง ที่จะขยายผลการใช้เทคโนโลยีแบบมีบูรณาการ ไปยังโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก 20 โรงเรียนทั่วประเทศไทย ผ่านการจัดการอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น Chromebook ,การใช้ Google Platform Google Workspace for Education และการจัดการฝึกอบรมครูในโรงเรียนให้มีความรู้ความสามารถในการออกแบบการเรียนการสอน พร้อมทั้งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และนิสัยที่ถูกต้องเหมาะสมในการใช้เทคโนโล​ยี เป็นต้น

"พิชัย" ต่อยอดการลงทุน Google เร่งเจรจาดันไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ของภูมิภาคอาเซียน

"พิชัย" ต่อยอดการลงทุน Google เร่งเจรจาดันไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ของภูมิภาคอาเซียน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 นายพิชัย  นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมงาน Business Forum ของการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue Summit) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการเรื่องความมั่นคงทางอาหารให้กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางแล้ว นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ตนดำเนินการเรื่องความปลอดภัยในข้อมูลด้วย โดยจะเสนอให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center ให้กับประเทศต่างๆ โดยใช้จุดเด่นที่ประเทศไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บใน Data Center ในประเทศไทยจึงจะมีความปลอดภัย และยังสามารถพัฒนาเรื่อง AI ต่อเนื่องได้ด้วย

ทั้งนี้ได่ใช้โอกาสดังกล่าวพูดคุยหารือกับรัฐมนตรีและผู้แทนของประเทศต่างๆ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงศักยภาพด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยี AI ของไทย ที่บริษัทชั้นนำจากประเทศต่างๆทั่วโลก อาทิ Amazon, Microsoft และล่าสุด Google ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนสร้างที่เก็บข้อมูลในไทย เนื่องจากจุดแข็งของไทย อาทิ ที่ตั้งยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีความมั่นคงปลอดภัย ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติต่ำ โครงสร้างพื้นฐานมีคุณภาพสูง ประชาชนจำนวนมากเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและมีความเข้าใจในเทคโนโลยี และกฎระเบียบที่รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล จึงเป็นโอกาสดีในการพัฒนาศักยภาพและขยายการเจริญเติบโตของ ธุรกิจดิจิทัลและ AI ของไทย

นอกจากนี้ได้ใช้โอกาสดังกล่าวเชิญชวนประเทศที่ตนได้ไปพบ เช่น โอมาน และ UAE เข้ามาสร้างที่เก็บข้อมูลกับ Data Center ในไทย โดยไทยมีข้อได้เปรียบด้านความมั่นคงปลอดภัย และกฎระเบียบที่นำหน้าในมาตรฐานสากล ตามรายงานล่าสุดของ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) อีกทั้งประเทศไทยยังมีจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน Data Center และด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ไทยมีกฎหมายมาตรฐานสูงอย่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และกฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Act) โดยสังเกตเห็นว่า ประเทศสมาชิก ACD ที่ตนได้หารือก็แสดงท่าทีในเชิงบวก พร้อมทั้งชื่นชมไทยที่มีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ตนจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์ข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน และจะผลักดันประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในการประชุม ASEAN Summit ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์ในสัปดาห์หน้า

ข้อมูลจาก บีโอไอ (BOI) ระบุว่า ปัจจุบันมีโครงการ Data Center และ Cloud Service ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในไทย รวมกว่า 46 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 167,989 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง จะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป

#ข่าววันนี้ #Google #DataCenter #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ #CloudService

 

หุ้นไทยปิดเช้าบวก 10.93 จุด วอลุ่ม 2.7 หมื่นล้าน ฟื้นตามภูมิภาค รับ Sentiment วายุภักษ์ออกสตาร์ท-Google บุกไทย

หุ้นไทยปิดเช้าบวก 10.93 จุด วอลุ่ม 2.7 หมื่นล้าน ฟื้นตามภูมิภาค รับ Sentiment วายุภักษ์ออกสตาร์ท-Google บุกไทย

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 SET ปิดเช้านี้ที่ 1,459.76 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด (+0.75%) มูลค่าซื้อขายราว 27,046.63 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีฟื้นตัวตามภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,463.72 จุด และต่ำสุด 1,449.64 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าฟื้นตัวได้ดี สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับ Sentiment บวกในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เริ่มทอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นวันแรก รวมทั้ง Google ประกาศแผนลงทุนในประเทศไทยกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้าง DATA CENTER และ CLOUD REGION ในกรุงเทพฯ และชลบุรี คาดผลักดัน GDP ราว 1.2 แสนล้านบาท ส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นในช่วงต่อไป หนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า และคาดว่าจะเห็นบริษัทอื่นๆ ตามเข้ามาลงทุน DATA CENTER ในประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วานนี้ยังมีมุมมองในการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และการท่องเที่ยวของไทช่วงนี้ยังได้อานิสงส์ Golden Week ซึ่งเป็นเทศกาลหยุดยาวของจีนตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค.67

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งในแดนบวกต่อ แนะคืนนี้ติดตามสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) และตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก (JOLTS) เดือนส.ค. ให้แนวรับที่ 1,450 จุด และแนวต้าน 1,466 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,690.65 ล้านบาท ปิดที่ 21.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,191.86 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,167.80 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,161.23 ล้านบาท ปิดที่ 262.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,146.16 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

#หุ้นไทย #วายุภักษ์ #Google #ข่าววันนี้ #SET #สยามรัฐ

 

"ชัยวุฒิ" แจ้ง google ปิดแอปหลอกเงินดิจิทัล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพได้มีการโฆษณาชวนเชื่อและหลอกลวงให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Digtial wallet เพื่อรับเงินดิจิทัล จำนวน 10,000 บาท กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ทำการตรวจสอบแอปพลิเคชัน ดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นแอปพลิเคชันปลอมที่ มิจฉาชีพหลอกให้ประชาชนเข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน จากนั้นจะใช้แอปพลิเคชัน ที่สามารถเข้าถึงมือถือจากภายนอกเข้ามาขโมยถอนเงินจากบัญชีของท่าน ซึ่งขณะนี้กระทรวงดิจิทัลฯ ได้แจ้ง google ให้ปิดกั้นแอป ดังกล่าว โดยจะติดตามตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านงดเว้น ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Digital wallet ทุกกรณี หากมีข้อมูลที่ต้องการสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัย หรือได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และโทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ตลอด 24 ชั่วโมง

“พฤกษา” ผนึก “Google” อัปสกิลดิจิทัลนักธุรกิจเพื่อสังคม ฝึกอบรมผ่านโครงการ Samart Skills ปูทางสู่โลกธุรกิจยุคใหม่  

พฤกษา ผนึกความร่วมมือกับ Google ประเทศไทย เดินหน้าอัปสกิลด้านดิจิทัลให้กับนักธุรกิจเพื่อสังคมจากโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ผ่านการมอบทุนฝึกอบรมระดับมืออาชีพ Samart Skills จาก Google เสริมความแข็งแกร่ง ติดปีกให้เติบโต ก้าวสู่สนามการแข่งขันในโลกธุรกิจยุคใหม่ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมต่อไป

คุณอังคณา ลิขิตจรรยากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นของพฤกษาที่ต้องการสร้างการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข  Live well Stay well” ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้สังคม เราจึงได้จัดโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ขึ้นเป็นปีแรก เพื่อสนับสนุนนักธุรกิจเพื่อสังคมให้เติบโตได้ด้วยตัวเองอย่างแข็งแกร่ง  สร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งการจัดโครงการที่ผ่านมา พฤกษาได้มอบเงินทุนสนับสนุนเพื่อใช้ในการพัฒนากิจการ จัดเวิร์คช็อป พัฒนาความรู้  ให้คำปรึกษา และแนะนำเครือข่ายธุรกิจกับนักธุรกิจเพื่อสังคม      ที่ร่วมโครงการ ปัจจุบันถึงแม้ว่าโครงการจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เรายังคงมีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

“โลกธุรกิจยุคปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้ว่าความรู้ด้านดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็น พฤกษาจึงได้จับมือกับ Google ประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเรา มาร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลให้กับนักธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ที่ผ่านมาเราเป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ว่าจ้างที่สนใจจ้างผู้ผ่านการอบรมจากโครงการ Samart Skills  พร้อมส่งพนักงานเข้าอบรม และเล็งเห็นว่าโครงการนี้จะมอบความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจเพื่อสังคมเช่นกัน

ทั้งนี้ขอขอบคุณ Google ประเทศไทย ที่มาร่วมกันพัฒนาทักษะให้นักธุรกิจเพื่อสังคมได้มีความรู้รอบด้านมากขึ้นอย่างมืออาชีพ เพื่อให้สามารถส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมเพิ่มขึ้น” คุณอังคณากล่าว  

         

คุณศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Country Marketing Manager, Google ประเทศไทย กล่าวว่า Google ประเทศไทย เห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้กับคนไทย จึงเป็นที่มาของโครงการ Samart Skills โดยได้จัดทำหลักสูตรอบรม และดำเนินการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Google เพื่อพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์ในการทำงาน รองรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในประเทศไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

“Google ประเทศไทยยินดีกับความสำเร็จของโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ที่ทำให้นักธุรกิจเพื่อสังคมเติบโตขึ้น และยินดีมากที่ได้มีส่วนร่วมกับพฤกษาในการส่งเสริมให้นักธุรกิจกลุ่มนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น การมอบทุนของ Google ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่จะทำให้คนไทยได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากร ปลดล็อกการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมกัน  ภายใต้แนวคิด Leave No Thai Behind โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับความรู้ด้านเทคโนโลยี การตลาดดิจิทัล ไอที การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้ วิศวกรรมข้อมูลและการวิเคราะห์ ตลอดจนการจัดการโครงการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก และสามารถนำไปปรับใช้ในธุรกิจได้จริง” คุณศารณีย์กล่าว