ขุนคลังหนุนแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต เล็งเก็บ Carbon tax ตามโมเดล ตปท.

ขุนคลังหนุนแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต เล็งเก็บ Carbon tax ตามโมเดล ตปท.

g,njv;yomuj 22 l"8"67 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา Prachachat ESG Forum 2024 หัวข้อ "Time for Action : พลิกวิกฤต โลกเดือด" โดยระบุว่า ปัญหาโลกร้อน ถือเป็นปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญ และสร้างการตระหนักรู้ถึงความรุนแรงของปัญหาโลกร้อน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนแนวทางการแก้ไข ปัญหาโลกเดือด ไม่ใช่แค่โลกเดือดอย่างเดียว แต่เราจะเดือดร้อนด้วย ถ้าเราไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง take action ในระดับนานาชาติมีการทำสัญญาประชาคมเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาโลกผ่านเวที COP26 ซึ่งประเทศไทยก็ต้องดำเนินตามแนวทางนี้ โดยต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือภายในปี ค.ศ.2030 จากนั้นต้องก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ.2050 และไปสู่เป้าหมาย Net zero ในปี ค.ศ.2065 ซึ่งช่วงเวลาที่เหลืออีก 6 ปีนั้น หากประเทศไทยไม่สามารถทำได้ เชื่อว่าจะมีผลกระทบแน่นอน ตอนนี้เราปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ 370 ล้านตัน ถ้าต้องลด 30% ให้ได้ตามเป้า ก็คือต้องลดให้ได้ 120 ล้านตัน ซึ่งเหลือเวลาแค่ 6 ปี

ทั้งนี้การจะดำเนินการให้สำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องมี 3 สิ่งสำคัญคือ 1.ต้องมี Carbon Credit จัดเก็บไว้อย่างเพียงพอ 2.ต้องมีนโยบาย และการกำกับที่สร้างความเชื่อมั่นว่าวิธีจัดเก็บ Carbon มีความเป็นสากล และเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก 3.ต้องซื้อ-ขายได้ผ่านแพลตฟอร์มเหมือนเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) อยู่แล้ว แต่ยังไม่ active

โดยปัจจุบันยังมีความท้าทายอยู่ ถ้าประเทศไทยสามารถจัดเก็บ Carbon Credit ได้มากกว่าที่ควรเป็น ประเทศไทยก็จะเป็นผู้ส่งออก Carbon Credit ได้ด้วย แทนที่จะเป็นแค่ผู้ซื้อ และมองว่าการผลักดันให้มีแพลตฟอร์มซื้อขาย Carbon Credit ในประเทศไทย คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะมีรูปแบบอยู่แล้ว จะยากแค่เพียงการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น สำหรับเรื่องภาษียังไม่ได้กำหนดว่า Capital gain tax ต้องมีหรือไม่ แต่การซื้อขายในตลาดทุนปกติทั่วไป ก็ไม่ได้เก็บอยู่แล้ว แต่ในส่วนของ Carbon tax นั้น สิงคโปร์เริ่มแล้ว ประเทศไทยคงต้องเริ่ม

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ESG ได้กลายเป็นกติกาของโลกใหม่ ยอมรับว่า ประเทศไทยยังห่างไกลเป้าหมายโดยรวมอย่างมาก การลงทุนด้าน ESG มีเพียง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลท. จึงมุ่งผลักดัน ESG ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ สนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงผู้ออมเงินในธุรกิจ ESG โดย ตลท.ได้เน้นการจัดทำแพลตฟอร์ม ESG Data เพื่อยกระดับบริษัทจดทะเบียน เชื่อมต่อกับนักลงทุน

ทั้งนี้ ตลท.หวังจะสร้าง Ecosystem ในการพัฒนาความยั่งยืนของตลาดทุนไทย โดย ตลท. ได้จัดตั้ง Thailand ESG Fund หลังประชาชนยังมีการลงทุนใน Thai ESG ในระดับที่ต่ำ จึงได้ตั้งเป้าหมายให้บริษัทจดทะเบียน เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น เช่น การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การประเมิน SET ESG Rating

#คาร์บอนเครดิต #ข่าววันนี้ #Carbontax #ภาษี


 

PSTC ประเมินนโยบาย Carbon Tax หนุนลูกค้าใช้บริการเพิ่มดันธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ เร่งขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งสู่ Net Zero Emissions ในปี 2050

PSTC ชี้นโยบายภาครัฐเตรียมเก็บภาษีคาร์บอนเครดิต ผลักดันคู่ค้าใช้บริการ “ขนส่งน้ำมันทางท่อ เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” คึกคัก ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80,000 ตันคาร์บอน/ปี เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมัน ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งบรรลุ Net Zero Emissions ภายในปี 2050

บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ระบุว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการผลักดันให้บริษัทค้าปลีกน้ำมันชั้นนำของประเทศ เห็นถึงประโยชน์ของการมาใช้บริการ “ขนส่งน้ำมันทางท่อ” เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) โดยมีกำลังการขนส่งน้ำมันทางท่ออยู่ที่ 5,443 ล้านลิตรต่อปี ที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมัน ทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สนับสนุนการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งบรรลุเป้า Net Zero Emissions ภายในปี 2050

ทั้งนี้ การที่กรมสรรพสามิตได้เตรียมเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ซึ่งเป็นกลไกภาคบังคับให้ภาคธุรกิจและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยในระยะแรกจะเริ่มเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เชื่อมโยงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก่อน ซึ่งหากกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ ก็จะเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ในปีงบประมาณ 2568 โดยจะเริ่มเปลี่ยนการเก็บภาษีน้ำมัน เป็นการผูกกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

โดยโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมัน เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากสถานีคลังเก็บน้ำมันที่สระบุรีถึงสถานีคลังเก็บน้ำมันที่ขอนแก่น รวมระยะทาง 342 กิโลเมตร ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PSTC และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) ถือเป็นธุรกิจที่ช่วยรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม ให้ประโยชน์ในหลากหลายมิติ เนื่องจากระบบขนส่งน้ำมันทางท่อนั้นจะมีความเหมาะสมที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีการขนส่งแบบอื่นๆ เพราะใช้ระยะเวลาในการขนส่งสั้นที่สุด อีกทั้งยังเป็นการให้ประโยชน์ทางอ้อมแก่สิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งบริษัทฯ ถือว่าเป็นไปตามนโยบายขององค์กรที่ว่าด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมก่อให้เกิดความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดโอกาสทางธุรกิจขยายโครงข่ายพลังงานสู่อาเซียนต่อไปในอนาคต

สำหรับปัจจุบัน บริษัทค้าปลีกน้ำมันชั้นนำของประเทศ อย่าง OR, ไทยออยล์, เชลล์, Chevron, BSRC (Esso), บางจาก และ PTG ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่ม Go Green ได้เห็นถึงประโยชน์นี้ จึงเข้าใช้บริการจ่ายน้ำมันผ่านระบบท่อของโครงการฯ แทนการขนส่งจากรถบรรทุกน้ำมันแล้ว ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ต่ำกว่า 80,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเปรียบเทียบได้กับการปลูกป่ามากถึง 67,000 ไร่ และช่วยลดอุบัติเหตุจากการขนส่งน้ำมันด้วยรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและความยืดหยุ่นในการจัดส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กับผู้ใช้บริการท่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ของบริษัทน้ำมันชั้นนำทั่วประเทศ ที่มีโรดแมปมุ่งสู่การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ สอดคล้องกับพันธกิจองค์กร PSTC ที่มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับกลุ่ม PSTC

#PSTC #ข่าววันนี้ #CarbonTax #สังคมคาร์บอนต่ำ