BEM และ SAVE DRUG by BDMS ชวนผู้โดยสารรับชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับที่ร้านยา SAVE DRUG ใกล้ MRT

BEM จับมือ SAVE DRUG รณรงค์การดูแลสุขภาพของคนเมือง คิกออฟด้วยการต่อยอดโครงการ แจกชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับ ของ สปสช. ชวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง กลุ่มที่มีความเสี่ยง รับชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็วที่ร้านยา SAVE DRUG ใกล้ MRT พร้อมมอบส่วนลด 5% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) สำหรับการใช้จ่ายที่ร้านทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2568
 
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นางสาวเทพนารี  เศรษฐเสรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่ใกล้ชิดกับผู้โดยสารทุกวัน BEM ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสุข 3 ด้าน ได้แก่ ความสุขของการเดินทาง (Happy Journey) ความสุขของชุมชนและสังคม (Happy Living Society) และความสุขของโลกที่ยั่งยืน (Happy Planet) ซึ่งในมิติของการสร้างความสุขในทุกการเดินทางนั้น การส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพดีเป็นแกนการดำเนินงานสำคัญที่ BEM ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต

โดยการคิกออฟโปรเจ็กต์กับ บริษัท เซฟดรัก เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ SAVE DRUG ในเครือ BDMS ครั้งนี้ เป็นการต่อยอดโครงการแจกชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว (OV-RDT) ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถือเป็นการเริ่มต้นโครงการแรกของความร่วมมือด้านการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนเมืองดูแลสุขภาพมากขึ้น มองเห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ เพราะ SAVE DRUG by BDMS เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังมีองค์ความรู้ด้านสุขภาพมากมาย ที่จะมอบให้กับผู้โดยสาร MRT ได้ต่อไปในอนาคต”
 

พันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล (Non Hospital) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า “การร่วมมือกับ BEM เป็นการขยายฐานของการส่งเสริมด้านสุขภาพให้ประชาชน โดย BDMS เป็นกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย และมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาพยาบาลหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือบริษัท เซฟดรัก เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ SAVE DRUG ร้านขายยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของลูกค้า จึงได้ร่วมกับ BEM ชวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า กลุ่มที่มีความเสี่ยง มารับชุดตรวจฯ ได้ที่ SAVE DRUG 4 สาขาใกล้ MRT เพียงแสดงบัตรประชาชนเพื่อยืนยันว่าอายุ 15 ปีขึ้นไป และเคยมีประวัติการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ, มีประวัติการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ หรือเคยกินยาถ่ายพยาธิใบไม้ตับ นอกจากนี้โดยความร่วมมือระหว่าง SAVE DRUG และ BEM ทาง SAVE DRUG ยังมอบส่วนลด 5% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) แก่ผู้โดยสาร MRT สำหรับทุกการใช้จ่ายไม่มีขั้นต่ำในทุกสาขา เพียงแสดงบัตรโดยสาร ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2568” 

สำหรับร้านยา SAVE DRUG 4 สาขา ใกล้ MRT ได้แก่ สาขาบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า รัชดาภิเษก  สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทางออก 4, สาขาบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ลาดพร้าว สถานีลาดพร้าว ทางออก 3, สาขาโลตัส รัตนาธิเบศร์ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ทางออก 1 และสาขาบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รัตนาธิเบศร์ สถานีบางกระสอ ทางออก 2

ทั้งนี้ ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ของโรคมะเร็งท่อน้ำดีเพิ่มสูงขึ้นทุกปี นับเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในผู้ป่วยมากที่สุดถึง 1.4 หมื่นคนต่อปี สาเหตุหลักมาจากพยาธิใบไม้ในตับที่เกิดจากการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดีให้หายขาดได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ดังนั้นการตรวจด้วยตัวเองเพื่อคัดกรองเบื้องต้นเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งดังกล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0-2624-5200 หรือติดตามทางช่องทางต่างๆ ได้ที่ Facebook (เฟซบุ๊ก) และ X (เอ็กซ์): BEM Bangkok Expressway and Metro / Instagram (อินสตาแกรม): mrt_bangkok และ Mobile Application (โมบายแอปพลิเคชัน) : Bangkok MRT

 

BDMS ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุน คว้าสองรางวัล Extel Awards 2025

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ได้รับการยกย่องให้เป็น "Most Honored Company” จาก Extel (หรือเดิมชื่อ Institutional Investor Research) Asia Executive Team Rankings ประจำปี 2025 โดยได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารกองทุน และนักวิเคราะห์ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ กว่า 6,000 ราย ที่เข้าร่วมในการลงคะแนนผ่านผลสำรวจนี้

BDMS ได้รับการยกย่องให้เป็น Most Honored Company ใน 2 หมวดหมู่ โดย BDMS ได้อันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ Healthcare, Pharma & Biotech Sector ของกลุ่มประเทศ Rest of Asia (ex-China and Japan) และอันดับหนึ่งในประเทศไทย รวมในทุกภาคธุรกิจทั่วประเทศ

ผลการสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารงานของ CEO CFO ผู้บริหารระดับสูง ทีมนักลงทุนสัมพันธ์ ด้าน ESG ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (Environment, Social, และ Governance) โดยผู้บริหารสามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนและสามารถตอบคำถามนักลงทุน เพื่อให้ตัดสินใจได้ถูกต้องในการลงทุนในบริษัท รวมถึงได้รับการยอมรับอยู่ในระดับสากลจากทั้งผู้บริหารกองทุน และนักวิเคราะห์

นางนฤมล น้อยอ่ำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน BDMS กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดครั้งนี้ รางวัล Extel Awards เป็นเครื่องยืนยันความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งของ BDMS ในฐานะผู้นำในตลาดเฮลท์แคร์ รวมถึงเป็นการสร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพขององค์กร"

 

 

BDMS เปิดตัวแคมเปญ “BDMS PREVENTIVE VACCINE” ส่งเสริมการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืนให้คนไทย

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “BDMS PREVENTIVE VACCINE” สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ณ BDMS Connect Center ถนนวิทยุ แคมเปญนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ BDMS ในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขเชิงป้องกันให้เป็นรูปธรรม โดยเน้นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนในราคาพิเศษสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย พร้อมวางรากฐานสู่ระบบสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนทั้งในด้านการแพทย์และประกันสุขภาพ

นางนฤมล น้อยอ่ำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งให้การสนับสนุนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมาโดยตลอด กล่าวว่า “แคมเปญ BDMS PREVENTIVE VACCINE  สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BDMS ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพเชิงป้องกัน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่ารักษาในระยะยาว และเป็นการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน”

 “การรณรงค์การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค จะช่วยบริหารจัดการต้นทุนค่ารักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ทั้งผู้เอาประกัน สถานพยาบาล และระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งนี้ ผู้ถือกรมธรรม์สุขภาพจะได้รับสิทธิ์ฉีดวัคซีนในราคาพิเศษ ณ โรงพยาบาลในเครือ BDMS”

ภายในงานจัดให้มีการเสวนาแพทย์ผู้ชำนาญการในหัวข้อ “บทบาทของวัคซีนกับการป้องกันโรคติดเชื้อในปัจจุบัน” โดย แพทย์หญิงเมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 1 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ นายแพทย์อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการแพทย์ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล นายแพทย์วสุ กำชัยเสถียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมให้ความรู้ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน เพื่อการป้องกันโรคติดต่อต่าง ๆ รวมถึงวัคซีนในเด็ก ซึ่งจะช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุขไทย และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกช่วงวัย เนื้อหาการเสวนาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน ทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนปอดอักเสบ วัคซีนงูสวัด และวัคซีนไข้เลือดออก ซึ่งมีส่วนช่วยลดภาระต่อระบบสาธารณสุข และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

จากนั้นเป็นช่วงเสวนา “บทบาทของภาคประกันชีวิตกับการส่งเสริมการป้องกันโรค” นำโดย นายแพทย์มนต์สรร อัศวนพเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และโครงสร้างราคา BDMS พร้อมด้วย ตัวแทนจาก 7 บริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ได้แก่ เอไอเอ ประเทศไทย, อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมหารือถึงแนวทางสนับสนุนด้านสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น การให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าในการเข้ารับวัคซีน การใช้เครดิตวัคซีนในกลุ่มพนักงาน และการขยายเครือข่ายบริการทางการแพทย์

แคมเปญ BDMS PREVENTIVE VACCINE นี้ครอบคลุมวัคซีนใน 4 กลุ่มโรคหลัก ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ สำหรับผู้ใหญ่ราคา 500 บาท และเด็ก ราคา 700 บาท บาท วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ ราคา 3,500 บาท วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก (2 เข็ม) รวมราคา 3,900 บาท และวัคซีนป้องกันโรควัคซีนงูสวัด (2 เข็ม) รวมราคา 11,500 บาท โดยผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพสามารถแสดงหลักฐานเพื่อเข้ารับบริการได้ ณ โรงพยาบาลในเครือ BDMS ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568

โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาคการแพทย์และภาคการประกันชีวิต ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการเข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะมีผู้รับบริการวัคซีนมากกว่า 36,000 คนทั่วประเทศ นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพเชิงป้องกันของไทยให้เป็นรูปธรรมต่อไป

 

Pi Daily สัปดาห์นี้รอติดตามแรงงานสหรัฐฯ เน้นรายตัวกำไรยังดี CPALL BDMS

Pi Daily ThaiESG X จะเป็นตัวจำกัด Downside แต่ไม่เกี่ยวกับ Upside สัปดาห์นี้รอติดตามแรงงานสหรัฐฯ เน้นเป็นรายตัวที่กำไรยังดีชอบ CPALL BDMS

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 บล.พาย เผยว่าตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 601 จุด (+1.4%) ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม Technology แม้การประชุมระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกีจะประสบความล้มเหลวก็ตาม ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.2% และปรับตัวลงรายเดือนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ย. นักลงทุนจับตารอดูสถานการณ์ระหว่างยูเครน / รัสเซีย

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อ (PCE) พบว่าขยายตัว 2.5%YoY , 0.3%MoM พร้อมกับเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ที่ขยายตัว 2.6%YoY , 0.3%MoM ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากรายงานข้อมูลทั้งหมดพบว่า US Bond Yield ปรับตัวลงอย่างมีนัยยะสำคัญแต่ Dollar Index แข็งค่า ข้อมูลจากตลาดตราสารหนี้อาจชี้ว่านักลงทุนมีความกังวลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือมุมมองว่าเงินเฟ้ออาจมิร้อนแรงมากนักก็นับเป็นปัจจัยที่ต้องคอยติดตามว่าจากนี้จะมีปัจจัยใดที่น่ากังวลหรือไม่

ด้านตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 12 จุด (-1%) รับแรงกดดันจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับแคนาดา , Mexico หลังทรัมป์ยืนยันว่าจะยังคงปรับขึ้นภาษีเช่นเดิม อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้มีลุ้นที่จะเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย เพราะช่วงวันหยุดที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ประกาศเตรียมจัดตั้งกองทุน THaiESG X โดยนำ LTF เดิมมาเป็นกองทุน THaiESG X โดยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนแจ้งสิทธิ์กับบริษัทจดการกองทุนรวมว่าประสงค์จะถือต่อ แต่ข้อกำหนดก็คือว่าจะต้องถือหน่วยลงทุนต่อไปอีก 5 ปี ทั้งนี้ก็เพื่อชะลอแรงขายที่จะกระทบกับตลาดหุ้นไทย โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเอายอดที่ถืออยู่ทั้งหมดมาลดหย่อนภาษีได้ ความเห็นเราประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวจำกัด Downside Risk แต่อาจมิใช่ตัวเพิ่ม Upside แต่อย่างใดเพราะเงินไม่ได้ถูกเติมเข้ามา

อิงข้อมูลจากกองทุน LTF ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (B – LTF) พบว่าหุ้นที่ถือ Top 5 ประกอบไปด้วย CPALL ADVANC GULF AOT PTT หลักๆก็เชื่อว่าเม็ดเงินจะอยู่ในหุ้น SET50 เมื่อประกอบกับปัจจัยพื้นฐานจึงพิจารณาแล้วว่า CPALL จะเป็นตัวที่น่าสนใจเพราะผลประกอบการไตรมาสสี่ที่โดดเด่นและประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการลงทุนใน 7&I สัปดาห์นี้รอติดตาม (1) ดัชนี PMI ภาคผลิตของสหรัฐฯจากสถาบัน ISM โดยที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 50.6 (2) การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.4 แสนราย (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ Bloomberg Consensus คาดที่ 1.56 แสนราย

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1190 – 1240 เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นมากขึ้นโดยแนะนำหุ้น PE ไม่สูงและเป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD) โรงพยาบาล (BDMS) 

BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท)
ประกาศกำไรสุทธิที่ 1.6 หมื่นล้านบาท (+11% YoY) ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด จาก 1) ความซับซ้อนของโรคที่เพิ่มขึ้น หนุนรายได้ค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยที่สูงขึ้น (+7% YoY) โดยเฉพาะในผู้ป่วยต่างชาติ (+11% YoY) 2) จำนวนผู้ป่วยที่เติบโต ประกอบกับสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติที่สูงขึ้นอยู่ที่ 28% (+1 ppts YoY) และ 3) สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากมาตราการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 7.2 พันล้านบาท (+31%YoY) หลังตัดรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.9 พันล้านบาท (+23%YoY, +24%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของ      (7-Eleven) ที่ +4.0% YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานและ Personal Care ที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 1Q25 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของยอดขาย Ready-to-eat และ Ready-to-drinks รวมถึงสินค้าใหม่ๆจาก SME

#หุ้น #ข่าววันนี้ #CPALL #BDMS #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #SET

 

BDMS ครองอันดับ 1 ด้านความยั่งยืนระดับโลกในกลุ่มการบริการทางการแพทย์จาก S&P Global สองปีซ้อน

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ผู้นำธุรกิจผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับ Top 1% ของโลก ในกลุ่มการบริการทางการแพทย์ (Health Care Services and Providers) ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากรายงานการประเมินความยั่งยืนโดย S&P Global องค์กรระดับโลกที่จัดอันดับดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ด้วยคะแนนสูงสุดที่ 82 คะแนน จากความมุ่งมั่นของ BDMS ในการขับเคลื่อนธุรกิจบนรากฐานของความยั่งยืนทั้งในหลักสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

โดยที่ผ่านมา BDMS ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการด้าน ESG ของเครือ ฯ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานทดแทน การลดปริมาณขยะและเพิ่มสัดส่วนการนำวัสดุกลับมาใช้ ตลอดจนดำเนินโครงการ Green Healthcare เป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 19% เมื่อเทียบกับปริมาณในปี 2565 ขณะเดียวกันก็มีการใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 3.92 เพิ่มขึ้นถึง 82.53% และยังดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนการจัดการสีเขียวแบงองค์รวมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ในโรงพยาบาลและบริษัทในเครือ BDMS

ขณะที่ด้านนวัตกรรม BDMS ยังสนับสนุนเครือข่ายผู้ประกอบการเทคโนโลยีการแพทย์รายใหม่ของไทย (Thai Health Tech Startup) และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทั้งจากภายในองค์กร เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับมาตรฐานระบบสาธารณสุขของไทยให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ BDMS ยังได้รับรางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน" ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ในระดับดีเด่น ประจำปี 2567 จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  กระทรวงยุติธรรม จากการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เลือกปฏิบัติ และความเคารพในความเท่าเทียม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสู่สังคมที่มีความเสมอภาค โดย BDMS ได้สนับสนุนการสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม จำนวน 390 คน ซึ่งผลจากการดำเนินงานนี้ ยืนยันถึงความสำเร็จในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนขององค์กรอีกด้วย

โดยจากการจัดอันดับของ S&P Global ในปีนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ BDMS สู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการสุขภาพในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งด้านการพัฒนานวัตกรรมสู่แห่งความเป็นเลิศ และการพัฒนาบุคลากร ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ตามเป้าหมายของ BDMS ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทยมีสุขภาพดี

 

"BDMS" ครองอันดับหนึ่งของโลก ผู้นำดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ครองอันดับหนึ่งของโลก (DJSI World) ได้คะแนนสูงสุดเป็นผู้นำดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI 2024 (Dow Jones Sustainability Indices) และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) จากผลการจัดอันดับความยั่งยืนของบริษัทชั้นนำทั่วโลกประจำปี 2567 จากการประเมินของ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) 2024 ในกลุ่มการบริการทางการแพทย์ (Health Care Providers & Services) โดยได้ครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นหลักการดำเนินธุรกิจของ BDMS ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนของ BDMS ที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมในระยะยาว พร้อมทั้งส่งมอบบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาโดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ

DJSI WORLD เป็นดัชนีหลักทรัพย์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการประเมินความยั่งยืน ตามตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ลงทุนทั่วโลกให้การยอมรับ และใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุน BDMS เป็นหนึ่งใน 13 บริษัทของไทยที่ถูกจัดอันดับโดย DJSI WORLD และเป็นหนึ่งใน 26 บริษัทของไทยในกลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets

BDMS มุ่งเน้นการประเมินความยั่งยืนของธุรกิจใน 3 ด้าน ได้แก่ การกำกับดูแลบนหลักธรรมาภิบาล การรักษาสิ่งแวดล้อม และการดูแลสังคม ซึ่งเป็นหลักดำเนินธุรกิจที่ BDMS ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพื่อส่งมอบบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาโดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ ตามกลยุทธ์ขององค์กรที่สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

BDMS มุ่งมันเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรภายใต้นโยบายสู่ความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่า ลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงการให้บริการด้านสุขภาพ พร้อมส่งเสริมการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมสู่สังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำและต้นแบบด้านการบริการสุขภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีบนวิถีแห่งความยั่งยืน ที่ตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน พร้อมสร้างเครือข่ายการพัฒนาธุรกิจการแพทย์อย่างยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน ภายในปี 2573

 

Naturale Phuket Luxury Pool Villas คว้ารางวัลโครงการอสังหาฯด้านสุขภาพที่ดีที่สุด จากเวที Thailand Property Awards

เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ จังหวัดภูเก็ต (BDMS) และ AAG Development ฉลองความสำเร็จ โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ลักชูรี่ พูลวิลล่า (Naturale Phuket Luxury Pool Villas) ได้รับการยกย่องเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้านสุขภาพที่ดีที่สุด (Best Health Inspired Development) จากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 19 หลังผนึกกำลังในการพัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการบ้านหรูพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว บนทำเลทองของภูเก็ต ซอยเชิงทะเล 1 ใกล้หาดบางเทา ที่ออกแบบโดยหลัก Universal Design ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และคัดสรรวัสดุที่ดีต่อสุขภาพ มาพร้อมบริการ "Naturale Phuket Care Connect" นวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรที่เชื่อมต่อบริการจากโรงพยาบาลไว้ที่บ้าน เพื่อสร้างความสะดวกสบาย และความอุ่นใจให้ผู้อยู่อาศัยทุกสมาชิกในครอบครัว พร้อมเปิดเยี่ยมชมโครงการแล้ววันนี้

แพทย์หญิงลลิตา กองสีหา ผู้ช่วยประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 6 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) BDMS และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต กล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับ เอเอจี ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชูรี่ ในการพัฒนาระบบ Naturale Phuket Care Connect ที่ไม่เพียงมอบที่อยู่อาศัย แต่ยังส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดีและอายุยืน ผ่านการติดตามผลสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดที่เชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งเน้นให้บริการ Health & Wellness ที่เหมาะสม โดยสามารถตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้จากที่บ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนมีแพทย์ส่วนตัวอยู่เคียงข้างเสมอ อีกทั้งหากมีเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพยังสามารถเรียกรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือ โดยมีศูนย์บริการรับเรื่องประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความอุ่นใจของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอย่างประจักษ์ที่ได้รับการยกย่องเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพที่ดีที่สุด และยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตให้เป็น World Class Wellness Destination ต่อไป

ขณะเดียวกันผู้ที่อาศัยในโครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ลักชูรี่ พูลวิลล่า จะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากการมาใช้บริการที่เครือโรงพยาบาลกรุงเทพจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย ไม่ว่าจะป็น โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์, โรงพยาบาลดีบุก และ BDMS Wellness Clinic Phuket ภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถาบันนานาชาติอย่าง JCI The Joint Commission International สามารถให้การดูแลรักษาได้อย่างครบวงจร ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและทีมสหสาขาวิชาชีพ ตั้งแต่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ไปจนถึงการรักษาโรคที่ซับซ้อน”

นายวิโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอจี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวเสริมถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า ถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่ได้ร่วมกับพันธมิตรเครือโรงพยาบาลกรุงเทพจังหวัดภูเก็ต ในการนำนวัตกรรมด้านการแพทย์มาผสานเข้ากับการอยู่อาศัยในโครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ลักชูรี่ พูลวิลล่า เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยใช้งานได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับการอยู่อาศัยที่ไม่มีโครงการใดให้ในระดับนี้ จนได้รับการยกย่องเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพที่ดีที่สุด จากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards โดยบริษัทฯ ตั้งใจสร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกสมาชิกในครอบครัว รวมถึงการออกแบบให้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย และมีสุขภาพที่ดีในทุกๆวัน

         

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่การให้บริการที่คลินิก หรือที่โรงพยาบาล แต่เป็นการพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ที่เริ่มจากทั้งสุขภาพกายและใจ สอดประสานไปในการออกแบบ โดยใช้หลักการ Universal Design ในการคัดเลือกวัสดุที่ปลอดภัย พร้อมนำบริการของโรงพยาบาลมามอบให้ถึงบ้าน รวมถึงการตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้น โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จาก BDMS ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ลักชูรี่ พูลวิลล่า ได้รับการออกแบบ เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของทุกสมาชิกในครอบครัว โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพ ย่านเชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามและวิวภูเขา โดยออกแบบบ้านตามหลัก Universal Design เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทุกวัยเข้าถึงได้อย่างสะดวกและปลอดภัย อีกทั้งโครงการยังคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ เช่นการใช้หิน Quartz Food-grade สำหรับครัว ซึ่งไม่ปล่อยรังสีเรดอน, ระบบ Jacuzzi, สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่, ระบบ Rain Shower นำเข้าจากประเทศเยอรมัน และยังมีฟังก์ชันเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัยอีกมากมาย รวมไปถึงการเชื่อมต่อบริการสุขภาพจาก BDMS จังหวัดภูเก็ตอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นบ้านที่ปลอดภัยและอุ่นใจสำหรับทุกคนในครอบครัว สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของครอบครัว ได้ที่โครงการ Naturale Phuket Luxury Pool Villas ผู้ที่สนใจสามารถสามารถนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการได้ทุกวัน ที่ซอยเชิงทะเล 1 โทร. 080 959 7979 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.naturalephuket.com

"แพทย์หญิงปรมาภรณ์" ผู้บริหาร BDMS ติดอันดับ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ผู้บริหาร BDMS ติดอันดับ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS (Bangkok Dusit Medical Services Public Company Limited) ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย ประจำปี 2024 จากการจัดอันดับของ “นิตยสารฟอร์จูน” (Fortune) ซึ่งได้ประกาศรายชื่อ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย ประจำปี 2567 หรือ “The Fortune Most Powerful Women Asia 2024” โดยแพทย์หญิงปรมาภรณ์เป็นผู้บริหารหญิงเพียงคนเดียวจากวงการเฮลท์แคร์ของไทยที่ได้รับเกียรติในปีนี้

ผลการจัดอันดับดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเชิดชูสตรีผู้นิยามความเป็นผู้นำในรูปแบบใหม่ ทั้งด้วยการพลิกโฉมบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผ่านการขับเคลื่อนให้เจริญเติบโต รวมทั้งในด้านการพัฒนานวัตกรรมที่สนับสนุนความเป็นเลิศทางธุรกิจ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้นำรุ่นต่อไป

BDMS เป็นเครือโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ปัจจุบันมีจำนวนโรงพยาบาลในเครือรวมทั้งสิ้น 59 แห่ง ประกอบด้วยกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ประเทศกัมพูชา) และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับด้านการดูแลสุขภาพอีกด้วย  

ภายใต้การบริหารของแพทย์หญิงปรมาภรณ์ BDMS ให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพที่เป็นเลิศ เช่น การนำ AI ทางการแพทย์มาใช้เพื่อยกระดับการตรวจและรักษา และการนำหุ่นยนต์มาช่วยในการผ่าตัด เป็นต้น

"BDMS มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการแพทย์อย่างยั่งยืน เพื่อมอบบริการด้านสุขภาพที่ดีที่สุดให้แก่คนไทยและสังคมโลก พร้อมทั้งเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมาภิบาล" แพทย์หญิงปรมาภรณ์กล่าว          

 

ก้าวสู่ศูนย์กลาง Wellness ระดับโลก!  BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลังกับศรีพันวา ภูเก็ตและโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 

ก้าวสู่ศูนย์กลาง Wellness ระดับโลก! BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลังกับศรีพันวา ภูเก็ตและโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต สร้างประสบการณ์ Scientific Wellness ระดับ 6 ดาว ครั้งแรกในไทย

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 2 ตุลาคม 2567 – เมื่อความเป็นเลิศด้านสุขภาพบรรจบการพักผ่อนระดับลักชัวรี! บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันของประเทศไทย สานต่อความมุ่งมั่นในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Hub ระดับโลก ภายใต้ Project “Phuket Wellness Hub” ผนึกกำลังโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ผสานการพักผ่อนแบบเหนือระดับเข้ากับความเป็นเลิศทางการแพทย์ ส่งมอบการดูแลสุขภาพพร้อมสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อย่างครบวงจร

เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้กลายมาเป็นที่นิยมและกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2570 มูลค่าตลาดนี้อาจแตะถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับประเทศไทยที่ถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้าน Wellness Tourism แห่งหนึ่งของโลก และชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก ด้วยมูลค่าเกือบ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 6.1 แสนล้านบาท ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 

นอกจากนี้ จากอัตราการเติบโตของตลาด Wellness Tourism ในไทยที่เติบโตสูงถึง 36% ตั้งแต่ช่วง ปี พ.ศ. 2563 – 2565 สะท้อนให้เห็นว่า มีนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และมีการใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ของ BDMS Wellness Clinic ที่ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในด้าน Wellness Tourism ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตที่มีศักยภาพในการเติบโตของตลาดดังกล่าวที่โดดเด่น จึงเกิดเป็นความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง 3 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ BDMS Wellness Clinic, โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โดยทั้ง 3 องค์กรได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกัน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุม Baba Space I & II โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์เชิงสุขภาพที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย

นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากจำนวนนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงที่เพิ่มมากขึ้นในจังหวัดภูเก็ตเมื่อปีที่ผ่านมา BDMS Wellness Clinic ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตด้านการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เราจึงได้ร่วมกับ 2 พันธมิตรสำคัญอย่างศรีพันวา ภูเก็ต โรงแรม-รีสอร์ตระดับ 6 ดาว และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เพื่อผนึกกำลังและความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 องค์กรในการมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผสานความเป็นเลิศทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลภายใต้การดูแลของ BDMS Wellness Clinic เข้ากับการพักผ่อนที่หรูหราและสงบสุขของศรีพันวา เพื่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความสมบูรณ์ของร่างกายอย่างเต็มรูปแบบ ตลอดจนช่วยยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง” 

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ศรีพันวาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ด้วยความพร้อมและลักษณะห้องพักแบบวิลล่า ที่มอบความเป็นส่วนตัวอย่างเหนือระดับให้กับแขกที่เข้าพัก ประกอบกับพื้นที่มากพอให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรมได้อย่างครบครัน จึงได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี การจับมือกับ BDMS Wellness Clinic และ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ถือเป็นการนำความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่าย ผลักดันประเทศไทยสู่ Wellness Hub ระดับโลก พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบองค์รวมระดับลักชัวรีให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้พักผ่อน พร้อมฟื้นฟูและดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน” 

นายแพทย์นรินทร์ บุญจงเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร โรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่ม 6 กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ได้สานต่อพันธกิจหลัก ด้านการส่งเสริมสุขภาพความเป็นอยู่ให้กับชุมชนในจังหวัดภูเก็ตและภูมิภาคอันดามันอย่างต่อเนื่อง ผ่านการมอบบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและมีมาตรฐานระดับสากลแก่ประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่มาเยือนภูเก็ตหลายล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตามสุขภาพที่ดีไม่ได้เกิดจากการรักษาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเริ่มจากการป้องกันด้วย การได้มาลงนามความร่วมมือร่วมกับ BDMS Wellness Clinic และศรีพันวา ภูเก็ต ในครั้งนี้ จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพของชุมชน และเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางด้าน Wellness Tourism ระดับโลก และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน”

ความร่วมมือของทั้ง 3 องค์กรชั้นนำในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างนิยามใหม่ด้านการดูแลสุขภาพที่สมบูรณ์แบบและครบวงจร ผ่านการผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งสุขภาพและศิลป์แห่งการผ่อนคลาย เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนแบบครบองค์รวมเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการผลักดันประเทศไทย สู่การเป็น Wellness Destination of the World อย่างแท้จริง สอดรับกับนโยบาย “Ignite Thailand: จุดพลัง รวมใจ ไทยเป็นหนึ่ง” ของภาครัฐที่ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ BDMS Wellness Clinic ในการก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้นำด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเขตเศรษฐกิจภูมิภาคอันดามัน แสดงถึงความมุ่งมั่นของ BDMS Wellness Clinic ในการส่งมอบสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับผู้คนทั่วโลก 

 

 

 

 

 

 

"BDMS" เสริมแกร่งด้านความยั่งยืน ผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวของยูโอบี

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านความยั่งยืน ด้วยการเข้าร่วมโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว (Green Term Deposit) กับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของ BDMS ในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในภาคบริการด้านสุขภาพ

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง BDMS จึงได้ฝากเงินจำนวนมากกับโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากเขียวของธนาคารยูโอบี ซึ่งสอดคล้องกับความพยายามอย่างต่อเนื่องของธนาคาร ในการสนับสนุนทางการเงินกับโครงการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เงินทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรเฉพาะสำหรับสินเชื่อภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของยูโอบี ซึ่งรวมถึงพลังงานหมุนเวียน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การก่อสร้างอาคาร สีเขียว และโครงการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

ทั้งนี้ในฐานะผู้นำด้านการบริการสุขภาพ BDMS ไม่เพียงแต่ให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศ แต่ยังมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย การเข้าร่วมโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวกับธนาคารยูโอบีครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำถึงกลยุทธ์ความยั่งยืนของ BDMS ที่ครอบคลุมทุกแขนง ซึ่งรวมไปถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในทุกสถานพยาบาล และการส่งเสริมการปฏิบัติด้านสุขภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

นางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับธนาคารยูโอบี ในโครงการผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BDMS ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางแห่งความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม ความร่วมมือกับยูโอบีนี้ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ทางการเงินของเราจะไปสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของ BDMS ในการส่งเสริมให้โลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น”

นางสาวพนิตศนี ตั๊นสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับธนาคาร ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก BDMS ในครั้งนี้ และหวังว่าจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท ให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

"จากการฝากเงินกับผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวกับธนาคาร BDMS จะได้รับรายงานประจำปีที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรม และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากเงินฝากของบริษัท ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธนาคาร ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นทรัพยากรที่มีค่าสำหรับ BDMS ในการจัดทำรายงานความยั่งยืนของบริษัท ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความโปร่งใส และความรับผิดชอบในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัท”

ทั้งนี้บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นเครือข่ายการบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยโรงพยาบาลและสถานพยาบาลมากกว่า 58 แห่ง BDMS มุ่งมั่นให้บริการทางการแพทย์ระดับโลกพร้อมการบูรณาการแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนในทุกกระบวนการดำเนินงาน ความร่วมมือในโครงการเงินฝากสีเขียวนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามด้านความยั่งยืนหลายประการของ BDMS ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง BDMS และยูโอบีต่างมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสเพิ่มเติมในการเสริมสร้างความยั่งยืนในภาคบริการด้านสุขภาพ