ไดกิ้น สร้างวัฒนธรรมการเชียร์บอลอย่างมีจิตสำนึก กับแคมเปญ  ‘We Cheer We Care’

King’s Cup บนสนามเชียร์ สะอาดที่สุด!แฟนบอลไทยรวมพลังกับไดกิ้น สร้างวัฒนธรรมการเชียร์บอลอย่างมีจิตสำนึก กับแคมเปญ  ‘We Cheer We Care’ เชียร์ไทยใส่ใจโลก ขับเคลื่อนสังคมที่ดีและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

ไดกิ้นปลุกพลังเชียร์รักษ์โลกผ่านแคมเปญ ‘We Cheer We Care’ ปลูกฝังวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลที่ดีในสังคมไทยในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในสนามฟุตบอลไทย กำลังกลายเป็นโมเมนต์ยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงพลังของแฟนบอลไทย และบทบาทของแบรนด์ที่ใส่ใจสังคมอย่าง ไดกิ้น ที่ไม่เพียงเป็นผู้สนับสนุนทีมชาติไทย แต่ยังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงผ่านแคมเปญ ‘We Cheer We Care – เชียร์ไทย ใส่ใจโลก’ ในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ผ่านมา

แฟนบอลไทยนับร้อยคนได้ลุกขึ้นมาร่วมเป็น “จิตอาสามือกาวทีมชาติ” ช่วยกันเก็บขยะพลาสติกทั่วสนามแข่งขัน ด้วยจิตอาสาและความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเชียร์บอลอย่างมีคุณภาพ ไม่เพียงแต่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับฟุตบอลไทย แต่ยังปลูกฝังวัฒนธรรมการเชียร์ที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม

แคมเปญ “We Cheer We Care” คือหนึ่งในความร่วมมือที่ทรงพลังระหว่างแบรนด์และแฟนบอลไทย ที่สะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนแนวคิด “เชียร์อย่างมีจิตสำนึก” ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยแฟนบอลได้นำขวดพลาสติกที่เก็บได้จากสนาม ไปรีไซเคิลเป็นเสื้อเจอร์ซีย์ เพื่อนำไปมอบให้น้องๆ ที่ขาดแคลน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยน “ขยะ” ให้กลายเป็น “โอกาส” และ “รอยยิ้ม”

แม้จะไม่ใช่ผู้ทำประตูในสนาม แต่เหล่าจิตอาสามือกาวกลับมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสนามฟุตบอลให้เป็นพื้นที่สะอาด น่าอยู่ และเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในอนาคต
พวกเขาเดินเก็บขยะอย่างเงียบๆ บนอัฒจันทร์ บริเวณโดยรอบ และทางเดินสนามราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยหัวใจที่เชื่อว่า “ทุกขวดพลาสติกมีคุณค่า” และ “ทุกแรงเชียร์สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้”

ไดกิ้น ในฐานะแบรนด์เครื่องปรับอากาศระดับโลก ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “การสนับสนุนกีฬา” ไม่จำเป็นต้องจบลงที่แค่การติดโลโก้บนเสื้อทีม แต่สามารถลงมือสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม ผ่านกิจกรรมที่ทั้ง “จับต้องได้” และ “สร้างแรงบันดาลใจ” ไปพร้อมกัน

การปลูกฝังวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลอย่างมีจิตสำนึก ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะแฟนบอลไทยพิสูจน์แล้วว่า พวกเขาพร้อมจะเป็น “ผู้ชมที่มีคุณภาพ” และ “พลังสนับสนุนที่แท้จริง” ของทีมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นจากแคมเปญนี้ คือคำตอบของคำถามว่า “แฟนบอลที่ดีควรเป็นอย่างไร”

พวกเขาไม่ได้เพียงมาเชียร์แล้วกลับบ้าน แต่ได้ทิ้งความดีไว้ในสนาม ได้เก็บรอยยิ้มของเด็กๆ ไว้ในขวดพลาสติก และได้สร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ทั้งมันส์ สนุก และยั่งยืน

นี่คือวัฒนธรรมเชียร์บอลไทยในแบบใหม่ ที่สังคมควรยกย่อง และแบรนด์ควรเดินตาม

 

สร้างแรงบันดาลใจ!ไดกิ้น จัดแคมเปญ "เสื้อนี้เพื่อน้อง COOL & CARE JERSEY" ให้เด็กใต้รักฟุตบอล

บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ ในนามของไดกิ้นประเทศไทย  ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลทีมชาติไทย ได้จัดแคมเปญเพื่อสังคม “เสื้อนี้เพื่อน้อง COOL & CARE JERSEY  คูลได้ แคร์ด้วย” ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา 

โดย แคมเปญ “เสื้อนี้เพื่อน้อง COOL & CARE JERSEY  คูลได้ แคร์ด้วย” เป็นแคมเปญที่ไดกิ้นเชิญชวนคนไทยซื้อเสื้อเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยดีไซน์พิเศษ  ซื้อ 1 ตัว เท่ากับได้บริจาคให้กับเยาวชนในจังหวัดสงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 1 ตัว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างแรงบันดาลใจ ด้านกีฬาฟุตบอล ให้กับเด็กและเยาวชน ผ่านการเปิดจำหน่ายเสื้อในช่องทางออนไลน์ของช้างศึก ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567 และจำหน่ายที่บูธไดกิ้นในงานคิงส์คัพวันที่ 11 และ 14 ตุลาคม 2567 ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา โดยได้รับกระแสตอบรับ และความสนใจจากแฟนบอลในการสนับสนุนเป็นอย่างดี ทำให้ยอดจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์  และยอดจำหน่ายหน้าบูธกิจกรรมไดกิ้น สนามกีฬาติณสูลานนท์ หมดตั้งแต่ช่วงแรกที่ได้เริ่มจัดจำหน่าย

สำหรับเป้าหมายการบริจาค ไดกิ้นมีการกำหนดเป้าหมายในการกระจาย และส่งต่อเสื้อให้กับประชากรกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ผ่านมูลนิธิอาสาสร้างสุข ดังนี้

1. เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในจังหวัดสงขลา ในโครงการ Thailand Zero Dropout ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการค้นหาและช่วยเหลือให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือการเรียนรู้กว่า 400 คน

2. เด็กและครอบครัวยากจนที่อยู่ระหว่างการช่วยเหลือของมูลนิธิฯ และเครือข่ายในช่วงไตรมาส สุดท้ายกว่า 150 คน

3. เด็กและเยาวชนที่อยู่ในโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็ก (โหนดเด็กสงขลา) จำนวน 25 ทีม ๆละ 5 คน รวม 125 คน

4. เยาวชนอาสาสมัครที่มาร่วมกิจกรรมอาสาของมูลนิธิอาสาสร้างสุข เช่น กิจกรรมรับบริจาคเสื้อผ้ามือสอง กิจกรรมคัดแยกผ้าและส่งต่อให้ผู้ยากไร้ กิจกรรมเยี่ยมผู้ยากไร้ และกิจกรรมจำหน่ายผ้าระดมทุน จำนวน 100 คน

5. นักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก และเด็กในบ้านเด็กกำพร้าในพื้นที่ห่างไกลของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 150 คน

6. อาสาสมัครช่วยเหลือภัยพิบัติน้ำท่วม จำนวน 75 คน

เพราะไดกิ้นเชื่อมั่นในศักยภาพของฟุตบอลทีมชาติไทย กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีแฟนๆฟุตบอลชาวไทยมาร่วมเชียร์ไทยไปกับไดกิ้น พร้อมให้การสนับสนุน และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนฟุตบอลไทยไปด้วนกัน

"ส.บอล-ไดกิ้น" สานฝันเยาวชนไทย จัด "Daikin Kids Football Fest 2024" ต่อยอดสู่นักเตะอาชีพ

เดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ร่วมกับ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด จัดโครงการ "Daikin Kids Football Fest" ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4  ณ  สนาม ดราก้อน โซลาร์พาร์ค สเตเดียม จังหวัดราชบุรี ในฐานะผู้สนับสนุนหลักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างทักษะลูกหนังและเสริมประสบการณ์แก่เยาวชนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล

ผู้บริหารไฟแรง คุณเจษฎา ทรัพย์เจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้มีความเชื่อมั่นที่จะยกระดับวงการกีฬาฟุตบอลไทย ร่วมเป็นประธานภายในงาน อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย “มาซาทาดะ อิชิอิ” พร้อมด้วย "โค้ชเอ็กซ์" วสพล แก้วผลึก และนักเตะชื่อดังอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ มิก้า ชูนวลศรี  มาร่วมถ่ายทอดทักษะฟุตบอลให้แก่เยาวชนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ได้มาเรียนรู้เทคนิควิธีการทั้งในสนามและนอกสนามอย่างถูกต้องเพื่อก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพระดับประเทศ

คุณเจษฎา ทรัพย์เจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า จากแนวคิดของ Perfecting the Air for All ของแบรนด์ไดกิ้นที่อยากจะส่งมอบอากาศสะอาดและสิ่งดีๆ ที่รวมถึงการสร้างความสุขให้กับทุกคนในสังคม ประกอบกับที่ไดกิ้นก็เป็นผู้สนับสนุนหลักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการมาโดยตลอด เราจึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสานฝันให้กับเยาวชนไทยที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ได้มีโอกาสพิเศษในการฝึกทักษะกับโค้ชและนักเตะระดับประเทศ จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อจัดตั้งโครงการดีๆ เช่นนี้ขึ้น โดยเราหวังอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับเยาวชนไทยที่มีฝันได้

สำหรับกิจกรรมในตลอดทั้งวันนั้นอัดแน่นไปด้วยการฝึกพื้นฐานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความแม่นยำในการยิงประตู, การเลี้ยงบอล, การส่งบอลอย่างถูกวิธี, และการลงทีมแข่งขัน รวมถึงทักษะเพิ่มเติมอย่างความรู้พื้นฐานในการเชียร์ฟุตบอลอย่างมีมารยาท, การเป็นผู้ประกาศและนักพากย์มืออาชีพ รวมถึงการถ่ายภาพแบบนักฟุตบอลมืออาชีพ โดยการฝึกครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการจุดประกายในการเริ่มต้นความฝันของเหล่าเยาวชนรุ่นใหม่ ที่บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด เห็นความสำคัญนี้ ด้วยการจัดตั้งโครงการดีๆ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้เยาวชนทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต

เส้นทางสู่นักเตะอาชีพ! "ไดกิ้น" เปิดรับเยาวชนร่วมฝึกทักษะลูกหนัง "Daikin Kids Football Fest"

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ จำกัด จัดโครงการ "Daikin Kids Football Fest" ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 เพื่อมอบโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ ได้ร่วมฝึกทักษะลูกหนังและประสบการณ์ด้านฟุตบอลสุดพิเศษ  นำทีมโดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย “มาซาทาดะ อิชิอิ”และนักเตะชื่อดังระดับประเทศ  ธีรเทพ วิโนทัย, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ มิก้า ชูนวลศรี ที่พร้อมถ่ายทอดศาสตร์ลูกหนังและสร้างแรงบันดาลใจน้องๆ เยาวชนก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพระดับประเทศ

โดยกิจกรรม "Daikin Kids Football Fest" จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 ณ สนามดราก้อน โซลาร์ ปาร์ค จังหวัดราชบุรี  เวลา 07:30 – 17:00 น. เปิดรับสมัครเยาวชนไทยรุ่นอายุ 8-12 ปี จำนวน 200 คน ผ่านช่องทางออนไลน์ : https://bit.ly/DaikinKidsFootballFest  ระหว่างวันที่ 10 กันยายน ถึง 10 ตุลาคม 2567 และประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก วันอังคารที่ 15  ตุลาคม 2567 เวลา 12.00 น. ผ่านทาง Facebook Daikin Thailand

สำหรับ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ จำกัด ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการกีฬาของประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อพัฒนาศักยภาพนักฟุตบอลไทยให้พร้อมสำหรับการแข่งขันทุกระดับ ตลอดจนพัฒนารากฐานวงการกีฬาฟุตบอลให้เกิดความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : CHANGSUEK, DAIKIN THAILAND

"ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ ให้รพ.ชลบุรี แคมเปญ "ทุกเป้าหมาย มีความหมาย"

"ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ 15 เครื่อง ให้โรงพยาบาลชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอยู่ใกล้เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม  โดยมี คุณวัลลภ พ่วงไพโรจน์ กรรมการบริษัทและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนมอบเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 

ตามที่ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ ในนามของไดกิ้นประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลทีมชาติไทย จัดทำแคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ครั้งที่ 2 ชวนคนไทยเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย สู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 และ 26 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา

สำหรับ แคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ของ "ไดกิ้น" ตั้งเป้าหมายบริจาคเครื่องฟอกอากาศ 5 เครื่อง สำหรับ แมตช์การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทั้ง 2 นัด และบริจาคเพิ่มทุกๆ 1 ประตู ที่ทีมชาติไทยทำได้ โดย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงได้ 1 ประตู ในนัดที่ทีมชาติไทย บุกเยือน ทีมชาติเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ดังนั้น ไดกิ้น จึงบริจาคเครื่องฟอกอากาศ  รุ่น MC55UVM6-7 รวมเป็น 15 เครื่อง มูลค่ารวม 242,850 บาท ให้กับโรงพยาบาลชลบุรี จังหวัดชลบุรี ซึ่งนับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอยู่ใกล้เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม  

เครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีเทคโนโลยีฟอกอากาศภายนอกเครื่องโดยปล่อยประจุ Active Plasma Ion ความเข้มข้นของประจุสูงถึง 25,000 และฟอกอากาศภายในเครื่องด้วย เทคโนโลยี Streamer ที่จะช่วยฟอกอากาศสะอาดในห้องผู้ป่วยให้สะอาดปลอดฝุ่น PM 2.5 เพราะมีเซนเซอร์หน้าเครื่องวัดระดับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ละเอียดถึง 6 ระดับ ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส H1N1-H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น

ขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทยไปกับไดกิ้น และยังช่วยเปลี่ยนความสุขในสนามเป็นอากาศสะอาดเพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลไปด้วยกัน เพราะไดกิ้นเชื่อมั่นในศักยภาพของฟุตบอลทีมชาติไทย กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีแฟนๆ ฟุตบอลชาวไทยมาร่วมเชียร์ไทยไปกับไดกิ้น  

"ไดกิ้น" เทงบเปิดไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่า “fuha : SIAM” เผยโฉมนวัตกรรม-เทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศ

"ไดกิ้น" ทุ่มงบเปิดไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่าแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “fuha : SIAM” เดินหน้ายกระดับสู่ศูนย์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีระบบปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียโอเชียเนีย พร้อมนำเสนอองค์ประกอบเครื่องปรับอากาศแบบเข้าใจง่ายแก่ประชาชน สร้างความเชื่อมั่นแบรนด์แก่พันธมิตรทางธุรกิจในวาระครบรอบ 100 ปี

นายไดสุเกะ มุราคามิ ประธาน บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยนับว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของ “ไดกิ้น” เป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแก่ผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มให้ดีที่สุด ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเปิดไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่าแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “fuha : SIAM” ศูนย์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีระบบปรับอากาศและเป็นแหล่งความรู้ทางวิชาการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านระบบปรับอากาศแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ใจกลางย่านสยาม เขตปทุมวัน ซึ่งนับว่าเป็นย่านการค้าสำคัญและแลนด์มาร์คที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิด “Perfecting the Air for All” ปรับทุกอากาศให้สมบูรณ์แบบส่งต่อความสุขให้กับทุกคน

สำหรับการเปิดไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่าแห่งใหม่ดังกล่าว เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและความรู้เรื่องของเครื่องปรับอากาศ เพราะแท้จริงแล้วในเครื่องปรับอากาศหนึ่งเครื่อง จะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ผู้บริโภคหรือคนทั่วไปอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้กลายมาเป็นเครื่องปรับอากาศ โดยบริษัทฯ ได้จำลองความรู้ทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ประชาชนหรือผู้เข้าชมตลอดจนนักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าใจได้ง่าย รวมถึงยังสามารถประยุกต์เป็นสื่อทางการศึกษาที่ทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสและเรียนรู้จริงตลอดการเข้าชมศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นอีกทางหนึ่งให้คนไทยสามารถเข้าใจและเข้าถึงแบรนด์ไดกิ้นได้อีกด้วย 

“ในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี ส่วนสำคัญที่เราได้ทุ่มเทพัฒนามาอยู่ตลอดคือเรื่องของนวัตกรรม จากประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนาน บริษัทจึงมีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า และพร้อมให้คำปรึกษาให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย สำนักงาน หรือเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า “ไดกิ้น” พร้อมดูแลและเป็นพันธมิตรที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือพาร์ทเนอร์ทางการค้า การมี ไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่า “fuha : SIAM”  นับว่าตอกย้ำองค์ประกอบที่ไดกิ้นได้ให้ความสำคัญมาต่อเนื่อง และจะถูกยกระดับให้กลายเป็นศูนย์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีระบบปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียโอเชียเนีย” นายไดสุเกะ กล่าว 

นอกจากนี้ ภายในไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่าแห่งนี้ ยังมีโซน Co-working Space และ Meeting Room ที่ออกแบบโดยให้ความสำคัญในเรื่องของสี เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน รวมไปถึงเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรได้กิ้นในการใช้พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม สัมมนาได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการมี ไดกิ้น โซลูชั่นพลาซ่า “fuha : SIAM” ศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อทุกคน จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจถึงเครื่องปรับอากาศในเชิงลึก โดยสามารถเรียนรู้ข้อมูลต่างๆจากผู้มีประสบการณ์จริงของไดกิ้นขณะเดียวกันพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจยังสามารถสัมผัสผลิตภัณฑ์จริงโดยมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาในศูนย์ฯ แห่งนี้ ซึ่งจะเป็นทางหนึ่งของการสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าในเรื่องผลิตภัณฑ์คุณภาพจากไดกิ้นที่สามารถสัมผัสด้วยมือและเห็นกับตาของพาร์ทเนอร์เองภายในศูนย์ฯแห่งนี้ ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างทันสมัย ตอบโจทย์ตลาดมากที่สุด

นายไดสุเกะ กล่าวอีกว่า การให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและความยั่งยืน นับเป็นหนึ่งในพันธกิจที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาตลอดการดำเนินธุรกิจ ผ่านการมอบคุณค่าใหม่ให้กับโลกผ่านทางอากาศและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Perfecting the Air for All” ปรับอากาศให้สมบูรณ์แบบ ส่งมอบการอากาศที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นผลดีต่อโลก เราคาดหวังว่าพื้นที่นี้จะช่วยส่งเสริมความตั้งใจนั้น และ ผลิตภัณฑ์ของไดกิ้นจะช่วยสร้างความสุข รอยยิ้มให้คนที่คุณรัก สุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรง เพื่อความสุขของทุกๆคน
 

 

#ไดกิ้น #ไดกิ้นโซลูชั่นพลาซ่า #เครื่องปรับอากาศ

 

 

"ช้างศึก" ยิง "ไดกิ้น" มอบเครื่องฟอกอากาศ 10 เครื่อง ให้ ร.พ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 

บริษัทไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ ในนามของไดกิ้นประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลทีมชาติไทย  เดินหน้าแคมเปญ “ทุกเป้าหมาย มีความหมาย” ชวนคนไทยเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย โดยนัดแรกที่ ทีมชาติไทย ลงสนาม พบกับ ทีมชาติจีน “ไดกิ้น” จะบริจาคเครื่องฟอกอากาศ 5 เครื่อง ทุกๆ 1 ประตู ที่ทีมชาติไทยทำได้

ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดแรก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 66 ทีมชาติไทย ยิงได้ 1 ประตู จาก สารัช อยู่เย็น และ “ไดกิ้น” บริจาคเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 เพิ่มอีก 5 เครื่อง รวมทั้งหมด  10 เครื่อง มูลค่ารวม 161,900 บาท โดย “ไดกิ้น”  ได้ดำเนินการมอบให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้แก่ โรงพยาบาล นครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ เครื่องฟอกอากาศ ไดกิ้น รุ่น MC55UVM6-7 มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีเทคโนโลยีฟอกอากาศภายนอกเครื่องโดยปล่อยประจุ Active Plasma Ion ความเข้มข้นของประจุสูงถึง 25,000 และฟอกอากาศภายในเครื่องด้วย เทคโนโลยี Streamer ที่จะช่วยฟอกอากาศสะอาดในห้องผู้ป่วยให้สะอาดปลอดฝุ่น PM 2.5 เพราะมีเซนเซอร์หน้าเครื่องวัดระดับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ละเอียดถึง 6 ระดับ ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส H1N1 – H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น 

ไดกิ้น ขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทยไปกับไดกิ้น และยังช่วยเปลี่ยนความสุขในสนามเป็นอากาศสะอาดเพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลไปด้วยกัน ติดตามข่าวสารกิจกรรมดีๆ จากไดกิ้นร่วมกับฟุตบอลทีมชาติไทยในครั้งต่อไปได้ที่ เพจ Daikin Thailand