"โอปอล สุชาตา" เปิดใจทั้งน้ำตา! ความสำเร็จแลกด้วยความโดดเดี่ยว

เปิดเบื้องหลังคว้ามงฟ้า โอปอล สุชาตา ที่หลายคนไม่เคยรู้ เคยร้องไห้หน้ากระจกนับครั้งไม่ถ้วน เล่าเคล็ดลับ Manifest ชีวิตจนได้ Miss World 2025 และปมในใจหลังคว้ามง เสียความสัมพันธ์แต่ไม่เสียความฝัน ในรายการ WOODY FM

Feeling ตอนนี้กับชีวิตเป็นยังไงบ้าง ?

โอปอ : ความจริงหนูยังรู้สึกเหมือนเดิมนะคะ เพราะด้วยความที่เราอยู่ในวงการนางงามแล้ว เราทำงานจริงจังมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้นตั้งแต่ปีแรกค่ะ เลยรู้สึกว่ายังคงเป็นการทำงานเหมือนเดิม เพียงแค่ว่าทำงานกับองค์กรใหม่ ก็อาจจะมีหลาย ๆ อย่างที่เราต้องปรับแล้วเป็นระดับโลกด้วย ก็อาจจะมี work culture หลาย ๆ อย่างที่เราค่อนข้างชินกับการทำงานกับทีมในไทย พอไปโน้นแล้วก็ไม่ว่าจะเป็นในมุมที่แบบต้องดูแลตัวเองต้องจัดการทุกอย่างเอง หรือจะเป็นการทำงานกับต่างชาติแล้วแต่ละประเทศที่เราไปไม่เหมือนกันเลย ก็จะเป็นในเรื่องนั้นมากกว่าที่แบบเปลี่ยนไปคล้ายๆ culture shock

คำถามที่ทุกคนจะถามคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า และรู้สึกว่าทุกคนจะถามคุณตลอดไป คำถามนั้นคืออะไร ?

โอปอล : How are you doing? This is the reason why ค่ะ คือถ้าเกิดว่าหนูจะไปทุกที่แล้วทุกคนจะถามคำถามนี้ทุกที่ มันมีหลายมุมมาก หนึ่งคือเพราะเรารู้ว่าช่วงชีวิตนี้เราจะเจออะไรเยอะมาก อย่างน้อยการที่เขาถามคำถาม simple แบบว่า how you doing ค่ะ I could answer it in so many ways ที่เราอัปเดตว่าเป็นยังไงมาบ้างกับชีวิตนี้ คำถามนี้มันช่วยเราได้ด้วยนะคะ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าแบบช่วงนี้แบบ I holding on ไม่ไหวแล้ว sometimes แค่คำถามว่าแบบ how you doing มันเหมือนแบบกำลังเจออะไรอยู่แล้วพอถาม  It's just simple as that จะตอบออกมาก็ได้ว่า ชีวิตมาแบบนี้ ๆ หรืออาจจะตอบแค่ว่าช่วงนี้ไม่ไหว I need someone to talk to แล้วมันเป็นคำถามที่ถามเมื่อไหร่ในชีวิตมัน Pull you up ได้ค่ะ แต่เป็นคำถามที่เราทุกคนควรจะถามกันทุกวัน

เชื่อว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่มันเป็นการเช็กอุณหภูมิของตัวเราเองด้วย ?

โอปอล : ใช่ค่ะ I say it's okay เราต้องเปิดโอกาสให้คนแบบ honest กับความรู้สึกตัวเองมากขึ้น เพราะว่าย้อนไปตั้งแต่คำถามเลย โลกมันไปไวมาก รายการเสร็จ we always on to something จนบางทีเราไม่ได้แบบว่าคนรอบข้างว่าเขาโอเคไหม หรือแม้กระทั่งตัวเราเองโอเคไหม

ถ้าคุณต้องการใครสักคนที่จะคุยด้วยที่สามารถบอกได้เลยว่าตอนนี้รู้สึกยังไง มันมีหลายระดับและเรายังสามารถเจาะลึกลงไปได้อีกว่าเพราะอะไร แค่เพียงการที่ได้ฟังกันและกัน ก็ช่วยทำให้ความรู้สึกนั้นเบาลงได้แล้ว

โอปอล : ใช่ค่ะ เพราะเหมือนกับว่าคุณได้พูดมันออกมา

ตอนนี้อายุ 21 ใช่ไหม ?

โอปอล : ใช่ค่ะ

คุณผ่านอะไรมามากจริง ๆ กว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ มันสะท้อนให้เห็นถึงงานหนักที่คุณทำมาตลอดหลายปี ได้ค้นพบคุณค่าของตัวเอง แล้วสำหรับตลอดหลายปีที่ผ่านมามันเป็นอย่างไรบ้าง?

โอปอล : เป็นการเดินทางที่หนักหนาสาหัสจริง ๆ บอกตามตรงนะคะ เพิ่งรู้คุณค่าของตัวเอง รู้ว่าเรามีศักยภาพ รู้ว่าเรามี ศักยภาพและความหมายในชีวิต มันหายากมากนะคะ โอปอดีใจมากที่เรามาอยู่บนเส้นทางนี้ แล้วเจอ value part หนึ่งของชีวิต เหมือนที่เราพูดใน Homecoming Spech มันออกจากใจจริง ๆ ไม่มีอะไรที่จะพูดเลยนอกจากขอบคุณที่ให้โอกาสเราในการทำให้ชีวิตตัวเองมีคุณค่า เพราะว่าแค่อายุ 21 ยังมีอะไรอีกมากมายในชีวิตให้ได้เจอ เพิ่งใช้ชีวิตมาแค่นี้ แล้วก็ยังรู้สึกว่าอยากให้อายุไขมนุษย์มันนานกว่านี้ จะได้มีเวลาสร้างคุณค่าให้ตัวเองได้เยอะ ๆ  รู้สึก appreciate มาก เพราะว่าวันก่อนเพิ่งคุยกับพี่ที่รู้จัก แล้วเขาพูดกับเราว่า ดีใจแทนโอปอพอจังเลยที่ได้มายืนอยู่ตรงจุดที่ตัวเองอยากยืนด้วยระยะเวลาเพียงเท่านี้ เพราะว่าเราเคยคุยด้วยกันตอนนั้นก็คือไปแบบงานเปิดร้านของพี่ที่รู้จักแล้วเราก็นั่งคุยกับเขาแล้วอธิบายเพราะว่าปอวางแผนเราคุยกับเขาเลยว่า ตอนอายุเท่านี้ช่วงนี้เราจะเรียนแล้ว จะเบรกไปทำอันนี้เมื่อเราสำเร็จ รู้สึกว่าอันนี้จะเป็นพื้นฐานในการไปต่ออาชีพในฝันที่เราอยากเป็น ก็คือลิสต์ให้เขาเลยว่าเข้ามหาลัยถึงปีนี้ โอปอจะมาประกวดนางงามใหม่ จะไประดับโลก จะได้รับตำแหน่งไม่ได้ตำแหน่งแล้วก็กลับมา จะมาสานต่อเรื่องนี้ ๆ แล้วชีวิตโอปอรันแบบนั้น เป๊ะ ๆ เลย แล้วเขารู้สึกแบบว่าดีใจแทน ก็เลย realiz ว่า I'm so fortunate ที่เรามีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รักแล้วก็อยากทำ แล้วชีวิตมันไปตามนั้นจริง ๆ แต่ว่าเราก็กลับมานั่งคิดว่า It's not just luck ก็ประเมินตัวเองเหมือนกันแล้วก็เป็นความโชคดีที่ประเมินชีวิตตัวเองได้ค่อนข้าง accurate so far

อยากจะขอแสดงความยินดี ที่คุณสามารถคว้ามงกุฎ Miss World ได้ในวัยเพียง 21 ปี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน รวมถึงพี่ด้วย

โอปอล : จริงหรือเปล่าคะ

ในวันนั้นในชีวิต เราไม่ได้คิดถึงเรื่องเพศหรือมุมมองอะไรเลยแค่มองว่ามันช่างงดงาม มันคือการเฉลิมฉลองของชีวิต ทุกคนต่างใฝ่ฝันถึงสิ่งนั้นและคุณก็ทำมันสำเร็จได้ตั้งแต่อายุเพียง 21 ปี

โอปอล: มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ที่อยู่ใน position นี้ค่ะ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันร้องไห้หน้ากระจกมากี่ครั้งแล้ว เพราะต้องแกล้งทำเป็นว่าฉันชนะ ร้องไห้ทุกครั้งที่เล่นแบบนั้นแบบว่าทุกครั้งที่เราเทรนเสร็จทุกครั้งที่เราอ่านหนังสือเสร็จ ทุกครั้งที่เตรียมตัวเสร็จก่อนนอนทุกครั้ง I can't help myself กระโดดออกมาจากเตียงแล้วก็ไปยืนหน้ากระจกแล้วก็เปิด soundtrack ที่เขาจะเปิดเวลาเขาจะ announce ค่ะ แล้วพอมันถึงพีคของ soundtrack ก็จะแบบ imagine ว่าเขาพูดชื่อไทยแล้ว แต่บางที It gets so serious เพราะว่าเราแบบอินมาก ๆ กับสิ่งนี้ แล้วเรามันพอย้อนกลับไปมันทำให้เห็นว่า I really wanted this

ทำแบบนี้นานขนาดไหน ?

โอปอล : ตั้งแต่ even before เข้าวงการอีกมั้งคะ เพราะว่าเราก็เห็นรุ่นพี่เขามีโมเมนต์ของเขามาเหมือนกัน Just like when you saw พี่ปุ๋ย แล้วทำทุกครั้งกลับมาจากโรงเรียน แต่มันแค่บ่อยขึ้น ตอนช่วงที่เราได้อยู่ในเส้นทางนี้จริง ๆ เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแค่ว่าแบบชนะแล้วก็ no มันคือคุณเห็นเส้นทางก่อนที่ยูจะชนะด้วยแล้ว เห็นว่ามันเหนื่อยแค่ไหนแล้วมันแบบ rewarding มัน deserving แค่ไหน ก็เลยมีน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจแบบออกมา Manifestation

แปลว่าคุณได้มโนภาพ ตั้งใจสร้างมันมาตลอดเลยใช่ไหม ?

โอปอ : ใช่ค่ะ

คุณได้ใช้ชีวิตเป็นตัวเองอย่างแท้จริงในทุกวันนี้ Manifestation คืออะไร ?

โอปอล : ตอนที่โอปอรู้จักกับคำนี้ครั้งแรก ก็คิดเหมือนกันว่าจะเวิร์คเหรอ จะทำได้เหรอ เอาง่ายๆเลยหรือแม้กระทั่งสวดมนต์ โอปอเป็นชาวพุทธ แล้วเราก็เข้าวัดแล้วก็สวดมนต์ แต่ว่าอันนั้นมันก็ปล่อยให้ไปในเรื่องของความเชื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่โอปอจับจุดได้เหมือนกันระหว่างสวดมนต์กับ manifestation เราไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่พาเราไปอยู่ตรงจุดนั้น มันเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น หรือว่ามันเป็นพลัง หรือว่ามันเป็นโชคดี หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่โอปอรู้ว่าทุกๆครั้งที่ manifest แล้วทุกครั้งที่เราสวดมนต์ แล้วขอพรว่าอยากได้อะไร That's a reminder ว่าขอเสร็จแล้ว ลุกไปทำอะไร You manifest นั่งอยู่หรือแบบฝันเห็นตัวเอง แต่ว่าพอวาดฝันนั้นเสร็จแล้ว ก็จะมานั่งคิดกับตัวเองว่าเราต้องทำยังไง ให้ไปอยู่ตรงนั้น ต้องใช้ชีวิตยังไงให้ไปอยู่ตรงนั้น มันเป็นการเตือนตัวเองว่า you can't just sit around ขออย่างเดียว คุณต้องรู้ด้วยว่าจะไปทำอะไรต่อ

สิ่งที่ต้องแลกมากับการมาถึงจุดนี้คือเรื่องเวลา คุณจัดการเวลาให้กับเพื่อน ๆ และคนรอบข้างที่คุณรักยังไง ?

โอปอล : คิดว่าไม่เก่งเรื่องนี้เลย แย่มากจริง ๆ รู้สึกว่าห่างไกลค่ะ แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองไหมหรือว่าเพื่อนก็คิดเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเราไม่ดีพอกับการให้เวลาแล้วก็ความสนใจกับคนรอบข้าง แล้วก็บางครั้งก็รู้สึกว่าเหมือนต้องโทษตัวเองว่าเราโฟกัสกับสิ่งที่ชีวิตอยากจะทำมากเกินไปหรือเปล่า และก็มักจะบอกกับผู้คนอยู่เสมอว่า คุณต้องรู้จักขอบคุณในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต เพราะว่าฉันก็มีเพื่อนบางคนที่บอกว่าอยากจะเป็นอยากจะเป็นแบบโน้นนี่นั่นแล้วก็ work hard เราไปบอกเขา แต่ว่าเราต้องดูด้วยนะว่าระหว่างทางถ้าเกิดว่าเราเอาแต่ทำงานแล้วมันขาดการใช้ชีวิตไป แล้วยูไม่ได้รู้จักเห็นคุณค่าแม้กระทั่งดอกไม้เล็ก ๆ ที่เห็นระหว่างทางที่มันเติบโตตามธรรมชาติ ตอนนี้คือแล้วฉันจะมีสิทธิ์อะไรไปพูดแบบนั้น รู้สึกอายมากที่ไปบอกเขาแบบนั้น เพราะว่าเราเป็นแบบนั้น คือหนูทำงานตั้งแต่ 18 ใช่ไหมคะ ซึ่งรู้สึกว่าบางอย่างที่รู้สึกตอนนี้ มันก็ไม่ได้ใหญ่มากเทียบกับหลาย ๆ คนที่เขาก็จะต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองอายุน้อยกว่าปออีก แต่มันเป็นสิ่งที่เรา value เหมือนกัน เราบ้างานตั้งแต่อายุ 18 เลิกเรียนแล้วเพื่อนไปคาราโอเกะ เราเลือกที่จะไปทำงานแล้วก็ไม่ได้สร้าง relationhip กับเพื่อนหรือใครที่เรา consider ว่าเพื่อน แต่สิ่งที่โอปอรู้สึกว่าทำพลาดคือ relationhip ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เราไม่ได้ตั้งใจรักษามันไว้  คือตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันแต่รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ในแบบไซเคิลของเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนเป็นยังไง แล้วเพื่อนก็ไม่กล้าทักมาหา เราก็รู้สึกห่างกับเพื่อนไป เคยถามเพื่อนว่าเรายังเหมือนเดิมกันไหม เพราะรู้สึกเหมือนไม่ได้เจอเพื่อนเลยเราห่างเพื่อนมาก เราอาจจะไม่ได้สนิทกันเหมือนเดิมหรือเปล่า เพื่อนบอกมาว่าพวกเขารู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเรา  We know what's going on แต่ว่าเลือกที่จะไม่ interfere เพราะกลัวว่าเขาจะมาขัดกับการเติบโตของเรา  (น้ำตาไหล)

คิดถึงอะไรอยู่ ?

โอปอล : เพราะว่าวันก่อนเพื่อนทักมาถามว่าอยู่ไหน โอปอบอกว่าอยู่อังกฤษกำลังจะกลับไทยแล้วเขาก็บอกว่าจะกลับไทยเหมือนกันเผื่อได้นัดกัน แล้วเพื่อนเขาก็พูดมาคำหนึ่งว่าไม่กล้าทักไป เพราะว่าไม่อยากรบกวน รู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนภาษาอะไร เพื่อนถึงไม่กล้าทักมา อยากให้ทักค่ะ เพราะว่าคือก็เป็นเพื่อนกัน แต่ว่าในขณะเดียวกันอีกใจหนึ่งก็รู้ว่าถึงให้เพื่อนทักมาชวนเราก็ไม่ว่างไป เราไม่อยากปฏิเสธเพื่อนแต่ว่าในขณะเดียวกันรู้สึกว่าเราเป็น bad friend ไม่มีคุณสมบัติเพื่อนที่รู้สึกว่าเขาสามารถทักมาได้

เคยกำหนดวันเพื่อนหรือยัง แบบเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง ?

โอปอล : ไม่เคยเลยค่ะ ใช่อันนี้เป็นสิ่งที่หนูรู้สึกว่าทำพลาด เพราะว่าไม่สามารถที่จะ balance เรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเราทุ่มเทและเต็มไปด้วยแพสชั่นทั้งกับชีวิตและสิ่งที่ทำอยู่กลัวว่าเราจะไม่สามารถที่จะยืนด้วยตัวเองได้ หรือว่าดูแลครอบครัวได้ ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้ มันเลยทำให้เราทำงานๆ แล้วเลือกที่จะงาน over สิ่งเหล่านี้ เพราะรู้สึกว่ามันไม่สำคัญ รู้สึกว่ามันมีอยู่ตรงนั้นตลอด ตอนแรกคือโอปอรู้สึกว่าจะไม่ทำตรงนี้แล้ว เพราะรู้สึกว่าค่อนข้างที่จะเจ็บเยอะ แล้วก็บางครั้งก็นั่งถามตัวเองว่าทำไมต้องมาเจออะไรที่มันบั่นทอน แทนที่เราจะไปทำอย่างอื่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ของตัวเอง

หมายถึงว่าช่วงนี้ก่อนหน้านี้ ?

โอปอล : ช่วงก่อนหน้านี้ค่ะ แล้วรู้สึกว่าเข้าใจนะว่าอยากทำความฝันตรงนี้ให้เป็นจริง แต่มัน is it worth it ที่จะเสียสภาพจิตใจหรือว่าเหนื่อย หรือว่าทำอะไรกับตรงนี้ จนได้มาทำจริง ๆ รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะแลก ย้อนกลับไปก็ภูมิใจในตัวเอง สุดท้ายแล้วคือเราเรียนรู้จากทุก ๆ อย่าง ถ้าให้ย้อนกลับไปได้ก็คงทำเหมือนเดิมอยู่ดี ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสตรงนี้ ถ้าเราไม่ได้เลือกเส้นทางนี้ก็คงใช้เวลาอีกเยอะมากในชีวิตแล้วก็เสียหลาย ๆ อย่างที่เราอยากจะทำ เพราะว่าเรารู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าเป็นคนอยากทำหลาย ๆ อย่างในชีวิต รู้สึกว่าอันนี้เป็นอีกหนึ่ง factor ที่ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่ากับการเกิดมาในครั้งนี้ ถ้าไม่ได้ทำรู้สึกว่าเสียดายชีวิต ถ้าชีวิตนี้ไม่ทำอันนี้แล้ววันหนึ่งเราหายไปจากโลกนี้เสียดาย ถ้าเป็นคนอื่นคงด่าว่าเสียโควต้าการเกิด

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 18.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง :  https://www.youtube.com/watch?v=oxDdo68knoQ

 

โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว ให้การต้อนรับ “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” Miss World 2025 คนแรกของประเทศไทย

               กรุงเทพฯ – โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ นำโดย สุพัตรา จิราธิวัฒน์ กรรมการ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) และที่ปรึกษากลุ่มเซ็นทรัล (คนที่ 3 จากซ้าย) มอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีและเป็นการต้อนรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ผู้ครองตำแหน่ง Miss World 2025 คนล่าสุด (คนที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วย วุฒิศักดิ์ พิชญกานต์ ผู้จัดการทั่วไป (คนที่ 2 จากซ้าย) ปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการของทีพีเอ็น โกลบอล (คนที่ 5 จากซ้าย) ชนิตว์นันท์ แสนโกศิก ผู้บริหาร ทีพีเอ็น โกลบอล (คนที่ 6 จากซ้าย) และ เพชรรัตน์ พรหมสิทธิ์ ผู้ช่วยรองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (คนที่ 1 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดีสำหรับโอปอล สุชาตา ช่วงศรี คนไทยคนแรกในรอบ 72 ปีที่คว้าตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ โดยให้เกียรติเข้าพักและใช้ช่วงเวลาพิเศษที่โรงแรม

               เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและต้อนรับอย่างอบอุ่น ทางโรงแรมได้จัดเตรียมมื้ออาหารค่ำพิเศษ ณ ห้องอาหารสวนบัว ห้องอาหารไทยตำรับชาววังแห่งแรกในเครือเซ็นทารา โดดเด่นด้วยเมนูตำรับชาววังภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” ปรุงรสหวานได้โดยไม่ใช้น้ำตาลทราย โดยได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ “อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ” ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์และรวบรวมพืชสมุนไพรไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สมุนไพรเหล่านี้ถูกนำมาคัดสรรและประยุกต์ใช้ในเมนูอาหารไทยต่าง ๆ เพื่อมอบทั้งรสชาติที่กลมกล่อมและคุณค่าทางโภชนาการแก่ผู้รับประทาน

               เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการต้อนรับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ในการสร้างประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความหมายให้แก่แขกผู้มาเยือนทุกคน โรงแรมถือโอกาสนี้เป็นกำลังใจและแรงสนับสนุนแก่ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ในการปฏิบัติภารกิจตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง Miss World 2025 และในการดำเนินโครงการอันสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคมและโลกในอนาคต

"โอปอล สุชาตา" เสียใจเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ชี้ "เจรจา" คือคำตอบของสันติภาพ

จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจ รวมไปถึงบุคคลสาธารณะในหลากหลายวงการ 

ล่าสุด “โอปอล สุชาตา” เจ้าของตำแหน่งมิสเวิลด์ 2025 ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า I mourn the loss of every life and I rejoice when diplomacy is given a chance, because it shows us that understanding is always possible when we truly listen.

The reason I chose to study International Relations, and why I hope to one day become a diplomat, is because I truly believe in the power of dialogue and the possibility of peaceful solutions when it comes to moment of dispute.

Let us never forget that peace is not weakness, and compassion is not surrender. They are, in fact, the greatest strengths one can show.

(ฉันขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของทุกชีวิต และรู้สึกยินดีเมื่อการทูตได้รับโอกาส เพราะแสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจนั้นเป็นไปได้เสมอเมื่อเราตั้งใจรับฟังอย่างแท้จริง

เหตุผลที่ฉันเลือกศึกษาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หวังว่าจะได้เป็นนักการทูตในวันหนึ่ง ก็เพราะฉันเชื่อมั่นอย่างแท้จริงในพลังของการเจรจา และความเป็นไปได้ของการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสันติ

ขออย่าลืมว่า สันติภาพไม่ใช่ความอ่อนแอ และความเมตตาไม่ใช่การยอมจำนน ตรงกันข้าม คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถแสดงออกได้)

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Opal Suchata

“โอปอล” พบ “นายกฯ” พร้อมให้กำลังใจทำงาน ชื่นชมยกเป็นต้นแบบหญิงไทยนำไปพรีเซนต์ในเวทีโลก

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 17 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 น.ส.สุชาตา ช่วงศรี หรือโอปอล Miss World 2025 พร้อมด้วย นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก หรือแม่ปุ้ย ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัดและจูเลีย เอเวลิน มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอขององค์กรมิสเวิลด์ และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 

 

โดยน.ส.สุชาตา กล่าวกับนายกฯถึงโครงการสำคัญอย่างมะเร็งเต้านมที่ตนดำเนินการอยู่ อยากจะร่วมทำกับนายกฯและรัฐบาลเพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น พร้อมผลักดันโครงการสำหรับเด็กและผู้หญิงในประเทศไทยให้ดีขึ้น พร้อมชื่นชมนายกฯและให้กำลังใจในการทำงาน อย่างตอนที่ไปประกวดในเวทีโลกตนก็มีนายกฯเป็นต้นแบบในการพรีเซนต์ความเป็นผู้หญิงไทย ด้านนายกฯ กล่าวว่า ตนพร้อมผลักดันและทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่

 

ด้านนางปิยาภรณ์ กล่าวให้กำลังใจนายกฯว่า พวกเราขอให้กำลังใจนายกฯได้ขับเคลื่อนในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะคนที่อยู่ในตำแหน่งนี้ทุกคนก็มาด้วยความเสียสละทุ่มเทเพื่อประเทศชาติทั้งนั้น โดยเฉพาะนายกฯที่เป็นผู้หญิง เราก็มีความภูมิใจในความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ขอส่งกำลังใจให้นายกฯสู้ๆ จากนั้นน.ส.สุชาตา และคณะได้ถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ

 

ขณะที่จูเลีย เอเวลิน มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอขององค์กรมิสเวิลด์ ได้พูดคุยกับสื่อมวลชน เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย โดยเธอกล่าวว่า ชื่นชอบคนไทยอย่างมาก เพราะคนไทยใจดี และมีอารมณ์ขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ต้อนรับโอปอลกลับบ้าน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เธอรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นหลายคนใส่มงกุฎเหมือนกับมิสเวิลด์ มันมหัศจรรย์มาก และคนไทยทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะอยู่เมืองไทยอีกกี่วัน จูเลีย เปิดเผยว่า จะอยู่เมืองไทยอีก 4 วัน หลังจากนั้นจะเดินทางไปฮ่องกง และใช้เวลาเดินทางไปอีกหลายประเทศ แต่เธอจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งแน่นอน เพราะที่นี่เป็นที่ที่ดีมาก ๆ เหมือนบ้าน และ “เราจะไม่มีทางลืมบ้านของเรา”

 

จากนั้น จูเลีย เปิดเผยต่อว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่วันนี้ได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีอาการสั่น ๆ และค่อนข้างประหม่าในเวลาเดียวกัน รวมถึงได้เห็นคนจำนวนมากที่ให้ความสนใจในวันนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเป็นการต้อรับที่เต็มอิ่มมาก

อย่างไรก็ตาม ประทับใจอย่างมากที่ได้เห็นคนใส่มงกุฎมากมายที่สนามบิน และชอบที่ได้เห็นคนแต่งตัวตามเธอ มันมหัศจรรย์มาก และเธอชอบอารมณ์ขันและความสนุกสนานของคนไทย

 

เมื่อถามถึงก้าวแรกของโครงการ Opal for Her นั้น จูเลีย กล่าวว่า ช่วงนี้ขอให้เวลาและยังไม่ได้เร่งรัดโอปอล ซึ่งในช่วงนี้ เธออยากให้โอปอลได้พักผ่อนที่บ้านเกิดให้เต็มที่ 

 

ก่อนที่เวลา 10.00 น. นายกฯเป็นประธานการประชุมครม. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ครม.แจ้งลาการประชุม 2 คน คือ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ 

ใจฟู! เพจดังเปิดภาพ 'คุณยายวัย 90' ต้อนรับ ‘โอปอล-สุชาตา’ มิสเวิลด์คนแรกของไทย

กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลทันที เมื่อเพจดัง "ท่านเปา" ได้เผยแพร่ภาพของคุณยายท่านหนึ่ง ที่เดินทางมาร่วมต้อนรับ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์คนแรกของไทย พร้อมข้อความที่ทำให้หลายคนใจฟูว่า รอมา 90 ปี เพื่อได้เห็นภาพนี้กับตาตัวเอง...คุณยายวัยกว่า 90 ปี เดินทางมาให้กำลังใจ “โอปอล” พร้อมถือธงชาติในมือแน่น ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำคนข้างๆ น้ำตาซึม “เกิดมาทั้งชีวิต ยายยังไม่เคยเห็นมงฟ้าไทย วันนี้ยายได้เห็นแล้ว”  ... แค่หนึ่งมงแต่มีความหมายกับคนทั้งชาติ

 

 

ขอบคุณ เพจ ท่านเปา

“โอปอล สุชาตา” มิสเวิลด์ 2025 กลับถึงไทยแล้ว! ประชาชนแห่ต้อนรับอบอุ่น

วันที่ 14 มิ.ย.68 เพจเฟซบุ๊ก Miss Thailand World โพสต์ภาพ "โอปอล" สุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครอง พร้อมระบุข้อความว่า...

Welcome Home ! Miss World 2025 "โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี" กลับบ้านอย่างยิ่งใหญ่และสง่างาม พร้อมด้วย คุณจูเลีย เอเวลิน มอร์ลีย์ CBE และคณะ Miss World

โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นทางการจาก คุณไบรอัน แอล มาร์การ์ (กรรมการผู้จัดการ บมจ.เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์) TERO Entertainment, คุณปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก TPN GLOBAL

พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากการบินไทย และเดอะมอลล์ กรุ๊ป

ขณะนี้คณะ Miss World ได้เดินทางไปเตรียมตัว เพื่อเข้าร่วม พิธีรับช่อดอกไม้ ต้อนรับพระราชทาน อันเป็นเกียรติอย่างสูง และจะกลับมายังบริเวณพิธี ประตู 10 ในเวลา 13:30 น.

​​​​​​​ ​​​​​​​

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก  Miss Thailand World

สุดยิ่งใหญ่! เตรียมต้อนรับ ‘โอปอล-สุชาตา’ มิสเวิลด์คนแรก 14 มิ.ย.นี้

วันที่ 7 มิ.ย.68 เพจ  Miss Thailand World โพสต์ข้อความระบุ  ขอเชิญพี่น้องชาวไทยร่วมต้อนรับมิสเวิลด์คนแรกของประเทศไทยในงาน Homecoming Miss World 2025 Opal Suchata Chuangsri  TERO Entertainment X TPNG ขอเชิญทุกท่านร่วมต้อนรับการกลับบ้านของ ‘โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี‘ มิสเวิลด์ 2025 ผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้ามงฟ้าครั้งแรกให้กับประเทศไทย  วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 13:30 น. เป็นต้นไป ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 2, ขาเข้าประเทศ ณ จุดทางออกประตู 1 และทางออกประตู 10

ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ โอปอล – สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 ในงานต้อนรับสุดยิ่งใหญ่ ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะบนเวทีโลก และยกย่องพลังของผู้หญิงไทย ผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยหัวใจที่ไม่เคยหยุดเชื่อในตัวเอง

Tero Entertainment x TPNG invites everyone to get ready to welcome back 'Opal Suchata Chuangsri', Miss World 2025, who has made history by winning the crown for Thailand for the first time.

Date: Saturday, June 14, 2025  Time: From 1:30 PM onwards  Location: Suvarnabhumi Airport, 2nd Floor, Arrivals, at Exit Gate 1 and Exit Gate 10

Join us for this historic homecoming event for Opal Suchata Chuangsri, Miss World 2025, in a grand welcoming ceremony supported by both the public and private sectors.

This celebration honors her victory on the global stage and recognizes the power of Thai women who have made history with her unwavering belief in herself.

ขอบคุณ เพจ Miss Thailand World

#OpalForHerOpalForWorld #TeleanganaZarurAana #MissWorldThailand2025 #MissWorld2025 #CH7HD #TEROEntertainment #TPNGlobal #โอปอลสุชาตา

นายกฯ ชื่นชม "โอปอล" มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของไทย เตรียมเปิดทำเนียบต้อนรับ

57 ปีที่รอคอย ‘โอปอล สุชาตา’ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ามิสเวิลด์ 2025 คนแรกของไทย...นายกฯ ชื่นชมเป็นคนมีความคิดบวก เตรียมเปิดทำเนียบรัฐบาล ต้อนรับอีกครั้ง

วันที่ 1 มิ.ย.68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมความสำเร็จกับ  “น้องโอปอล” นางสาว สุชาตา ช่วงศรี เจ้าของตำแหน่ง Miss World Thailand 2025 ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมประกวด Miss World ครั้งที่ 72 ที่ประเทศอินเดีย และประสบความสำเร็จสามารถคว้าตำแหน่งมงฟ้า Miss World 2025 มงกุฎแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

ทั้งนี้ นายกฯ ชื่นชม “น้องโอปอล” ที่มีความพยายามร่วมกิจกรรมแคมเปญในแต่ละรอบ ร่วมกับเพื่อนนางงาม 118 ประเทศทั่วโลก ระยะเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งเวทีดังกล่าว ถือว่าการได้มงกุฎนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้น้องสามารถทำได้ จากความพยายามความตั้งใจและความจริงใจ ที่สามารถสื่อไปถึงกรรมการ และคนทั่วโลก

สำหรับชุดราตรีในการประกวดครั้งนี้ เป็นชุดราตรียาวประดับคริสตัลของ Swarovski แฝงความหมายลึกซึ้งสัญลักษณ์แห่งการเยียวยารักษาด้วยพลังอันแข็งแกร่งและเงียบสงบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของ Opal For HER จากแบรนด์ GL Garlet Design สวยสมใจไทยแลนด์ โอปอลได้ทะลุผ่านเข้ารอบ 40 คนสุดท้ายด้วยพลังแห่งรักจากคนไทยในการโหวต รอบ “Multimedia Challenge

นายจิรายุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น้องโอปอล สุชาตา ได้เคยเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว หลังจากได้รับรางวัลรองอันดับ 3 ในการประกวด Miss Universe 2024 ครั้งที่ 73  ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมครั้งนั้นว่า จากการได้พูดคุยระหว่างกัน น้องโอปอลเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพลังบวก จึงทำให้ได้รับความสำเร็จในการประกวดครั้งนี้ โดยหลังจากเดินทางกลับ คาดว่าจะมีการ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” อีกครั้งในฐานะ Miss World 2025 คนแรกของประเทศไทย

“โอปอล สุชาตา“ เฉิดฉาย ในชุดไทยจักรีสีเขียวนกยูง สะกดทุกสายตาในงานเปิดตัว MISS WORLD2025 -ครั้งที่ 72

ในค่ำคืนอันทรงเกียรติ "Miss World Opening Ceremony" โอปอลปรากฏกายอย่างสง่างามใน ชุดไทยจักรีสีเขียวนกยูง จากห้องเสื้อ วนัชกูตูร์ สื่อความหมายว่า นกยูงคือสัตว์ประจำชาติของอินเดีย เจิดจรัสราวอัญมณีล้ำค่า เฉดสีเขียวนกยูงอันทรงพลัง เปรียบดั่งพลังภายในของหญิงสาวยุคใหม่ ผู้เปี่ยมด้วยความมั่นใจและศักดิ์ศรี

ผืนผ้าไหมยกใหญ่ลำพูนทอมือ ถ่ายทอดงานฝีมือชั้นครู ร้อยเรียงด้วยดิ้นพิ้งโกลด์และลูกปัดคริสตัลสีชมพู-เงินอย่างประณีต ลวดลายไทยดั้งเดิมที่ผสานเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยอย่างลงตัว เผยเสน่ห์แห่งความอ่อนช้อยในทุกมุมมอง แสงไฟยามค่ำคืนยิ่งขับให้ชุดเปล่งประกายระยิบระยับ งดงามดั่งต้องมนตร์

เครื่องประดับทองโบราณ  เข็มขัด สร้อยคอ กำไล และตุ้มหู  เสริมส่งความสง่างามของโอปอให้เฉิดฉายสมฐานะ “ผู้แทนหญิงไทยร่วมสมัย” ผู้เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นไทยอย่างแท้จริง

ออกแบบและตัดเย็บโดย ดร. สรรค์ สุดเกตุ — ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Vanus Couture แบรนด์ชุดไทยระดับพรีเมียมที่ซุปตาร์ทั้งไทยและต่างประเทศสวมใส่ 

 

"แม่ปุ้ย" เคลื่อนไหวแล้ว! หลัง "โอปอล สุชาตา" ถูกปลดจากรองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024

กลายเป็นข่าวช็อกวงการนางงามทันที หลังจากที่ "โอปอล" สุชาตา ช่วงศรี”  ถูกถอดถอนตำแหน่ง รองอันดับ 3 Miss Universe 2024 อย่างเป็นทางการเพียงไม่กี่วัน หลังเจ้าตัวประกาศเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประกวดเวทีระดับโลกอย่าง มิสเวิลด์ 2025 กลับกลายเป็น "จุดเปลี่ยน" ที่ทำให้ต้องถูกปลดจากตำแหน่งอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งโอปอลก็ไม่ได้ติดใจอะไร ตอนนี้ให้ความสำคัญกับการประกวดครั้งใหม่

ด้าน "แม่ปุ้ย" ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า..

ก็เพิ่งทราบเรื่องการปลด และยืนยันว่า เคารพดุลยพินิจของเจ้าของเวทีมิสยูนิเวิร์ส” พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีข้อห้ามใด ๆ เกี่ยวกับการไปประกวดเวทีอื่น มีกรณีลักษณะนี้มาก่อน ที่ตัวแทนจากเวทีมิสยูนิเวิร์สยังอยู่ในวาระตำแหน่ง แต่สามารถไปร่วมเวทีอื่นได้โดยไม่มีปัญหา พร้อมเผยว่านี่คือ “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ที่เกิดการถอดถอนตำแหน่งรองมิสยูนิเวิร์สอย่างเป็นทางการ อย่างที่รับทราบกัน เราก็เคารพในดุลยพินิจ ที่สำคัญยังไงคนทั้งโลกก็จดจำว่าโอปอลคือ รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024”