TPCH ปักธงปี 68 ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ตปท.เต็มสูบ ประเดิม Q1 เริ่มก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มในลาว ดันผลงานโตแกร่ง

TPCH เปิดแผนธุรกิจปี 68 ลุยขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เต็มกำลัง ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ เดินหน้าก่อสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ภายในไตรมาส 1/68 พร้อมเร่งขายคาร์บอนเครดิต เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ หนุนอนาคตเติบโตมั่นคง

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในส่วนของต่างประเทศ แบ่งเป็น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) รวมทั้ง โครงการพลังงานลม ที่ประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลงานในปีนี้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลจำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ รวมทั้ง โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT)  จำนวน 1 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 90.2 เมกะวัตต์

“ในปีนี้ เรามั่นใจว่า จะสามารถทำรายได้ให้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายของโรงไฟฟ้าที่ตัดจำหน่ายออกไป นอกจากนี้ มีการควบคุมต้นทุนของค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ส่วนโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติตามแผนงาน ประกอบกับ มีการนำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกโครงการ ได้จดทะเบียนสำหรับคาร์บอนเครดิต และ I-RECs เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในการขายคาร์บอนเครดิต สนับสนุนผลงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว” นางกนกทิพย์กล่าว
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ มีการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1/2568 โดยมีระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ส่วนของการลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโครงการพลังงานลมประมาณ 50-100 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 เมกะวัตต์ 
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ โดยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในไตรมาส 1/2568 ขณะที่ มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มประมาณ 4 โครงการ ประกอบด้วย SP4-SP7 เป็นโครงการพลังงานขยะชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer)

ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 80.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 29.3 เมกะวัตต์ และยังคงเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ กำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการในต่างประเทศ กำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

 

SSP ปิดดีลวินด์ฟาร์ม 45 MW บุ๊กรายได้เข้ามี.ค.ทันที ลุยขยายโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศเต็มสปีด

SSP ปิดดีลใหญ่รับปีมังกร M&A วินด์ฟาร์มขนาด 45 MW เข้าถือหุ้นอีก 75% จาก “วินชัย” ทั้งหมด มูลค่าลงทุนประมาณ 2,128.9 ล้านบาท พร้อมกำเงินสดในมือ รับรู้รายได้ทันที มีนาคม 67 วินชัย บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ประกาศเดินเครื่องลุยลงทุนพลังงานทดแทนในรูปแบบใหม่ แย้มจ่อลงทุนอีกหลายโปรเจคทั้งในและต่างประเทศ สร้าง New S -Curve

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วินชัย จำกัด เพิ่มอีกจำนวน 7,425,000 หุ้น หรือคิดเป็น 75% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท วินชัย จำกัด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,128.9 ล้านบาท เสร็จสิ้นแล้ว ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่องการเข้าทำรายการเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และบริษัท วินชัย จำกัด ผู้เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโครงการก็ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2566 ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ บริษัท วินชัย จำกัด เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม กำลังผลิตรวม 45.0 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร มีสัญญา Adder 3.5 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) เป็นระยะเวลา 10 ปี ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.62

“การเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มของ SSP ในครั้งนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ผ่านการทำ M&A และจากการที่บริษัทฯ ได้เข้าลงทุน บริษัท วินชัย จำกัด ผ่านการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีกจำนวน 75% จะทำให้ SSP ถือหุ้นรวมทั้งหมด คิดเป็น 100% ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว และพร้อมรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 1 ปี 2567 “

สำหรับความคืบหน้าในแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ บอร์ดอนุมัติให้เข้าลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17 เมกะวัตต์ ด้วยสัดส่วนผู้ถือหุ้น 100% มูลค่าการลงทุนจำนวนไม่เกิน 1,220 ล้านบาท, โครงการโซลาร์ฟาร์ม Leo 2 ในญี่ปุ่น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าการลงทุน 2,700 ล้านบาท และลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 4.5 พันล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับ J&V Company เพื่อร่วมพัฒนาโครงการเพิ่มเติม และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบาโก ประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน 2567 และศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในมณฑลผิงตง ประเทศไต้หวัน กําลังการผลิตติดตั้ง 38 เมกะวัตต์ คาดว่าแผนการลงทุนต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมด มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท