โก โฮลเซลล์ รับโล่เกียรติคุณ หนุนผู้บกพร่องทางพัฒนาการ–สติปัญญา รับซื้อผักจากสถาบันราชานุกูล

​โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล โดยคุณนฤมล ชุติปัญญาภรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้าอาหารสด เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ ในฐานะองค์กรผู้สนับสนุนการจ้างงานคนพิการทางสติปัญญา จาก ดร.สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

​​​​​​​

ซึ่ง โก โฮลเซลล์ รับซื้อผักสลัดคุณภาพดี พร้อมร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพให้น้องๆ ผู้บกพร่องทางสติปัญญา จาก ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพราชานุกูล (บางพูน) จ.ปทุมธานี ผ่านโครงการ ‘บางพูนโมเดล’ ทำให้น้องๆ และครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

โก โฮลเซลล์ ชูศิลปะแห่งการแล่เนื้อ ผลักดันอาชีพ “บุตเชอร์” คว้ารางวัลเวทีนานาชาติ

เคยสังเกตหรือไม่ว่า การตัดแต่งเนื้อเป็นรูปแบบต่างๆ จากฝีมือของ “บุตเชอร์” มีผลในการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เมนูอาหารให้กับผู้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการ เชฟ หรือคนทั่วไป 

“หนึ่งในความสามารถของบุตเชอร์ที่สำคัญคือ ตัดแต่งเนื้อออกมาแล้ว ต้องทำให้ลูกค้าที่มาเห็น มองออกได้ทันทีว่า จะเอาไปทำเมนูอะไร นำไปสู่การตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ดังจะเห็นได้จากหน้าเคาน์เตอร์ของแผนกเนื้อสัตว์ของโก โฮลเซลล์ ที่มีชิ้นส่วนต่างๆ ให้เลือกมากมาย เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกัน” นายนิธิวัฒน์ พึ่งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ออาหารสด เนื้อวัวและเนื้อสัตว์อื่นๆ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าว

เขาคนนี้ และ นายพุฒิพงศ์ อิ่นใจ พนักงานปฏิบัติการอาวุโสแผนก สินค้าเนื้อสัตว์ โก โฮลเซลล์ สาขาเชียงใหม่ เป็นตัวแทนบุตเชอร์จาก โก โฮลเซลล์ ที่ไปคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากรายการแข่งขัน The Ultimate Butcher Challenge2025 ที่ประเทศมาเลเซีย ท่ามกลางการประชันฝีมือตัดแต่งเนื้อ จาก 16 ทีมในอาเซียน ซึ่ง โก โฮลเซลล์ เป็นทีมจากประเทศไทยเพียงทีมเดียวที่เข้าแข่งขันรายการนี้

“รายการนี้ทาง MLA (Meat & Livestock Australia) แนะนำให้เราเข้าร่วมการแข่งขัน หลังจากเห็นศักยภาพ เนื่องจาก MLA ได้เข้ามาทำหน้าที่จัดอบรมพัฒนาฝีมือให้กับพนักงานแผนกเนื้อสัตว์ของทุกสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผู้บริหารได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกด้าน ทั้งการฝีกซ้อมฝีมือตัดแต่ง และการทำอาหารมาตรฐานเชฟ ที่ได้ The Food School Bangkok ชี้แนะแนวทางอย่างมืออาชีพ” นิธิวัฒน์ บอกเล่า

แม้จะมีเวลาฝึกซ้อมเพียง 8 วัน แต่ทั้งคู่ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ก่อนบินไปมาเลเซียเข้าสู่เวทีแข่งขัน ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ การตัดแต่งเนื้อ ที่มีหลักเกณฑ์การให้คะแนน คือ ความสะอาด การใช้มีด ความคิดสร้างสรรค์ การตัดแต่งให้เกิดความหลากหลาย การพรีเซนต์ และ ส่วนของการทำอาหารจากชิ้นส่วนเนื้อที่ตัดมาแล้ว โดยเลือกใช้เนื้อหลากหลาย ทั้งเนื้อวัว  ส่วนหลัก ส่วนรอง และเนื้อแกะ ที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นเมนู “Beef Curry Delight of Siam” หรือ “สเต็กเนื้อ ซอสพะแนงตำรับสยาม” ได้อย่างลงตัว

สิ่งที่ทำให้บุตเชอร์ชาวไทยทั้งสอง โดดเด่นเข้าตากรรมการก็คือ  ทักษะการใช้มีด การตัดแต่ง และการใช้ชิ้นส่วนเนื้อที่หลากหลายในการสร้างสรรค์อาหาร 

“สิ่งที่ได้รับมันเกินคาด รางวัลครั้งนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องพนักงานในแผนกเนื้อสัตว์ และการมองอาชีพ บุตเชอร์ เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นแล้วกับประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ที่มีอุตสาหกรรมเนื้อวัวที่ใหญ่ แต่บ้านเรายังไม่รับรู้อาชีพนี้มากนัก” นิธิวัฒน์ กล่าว

ด้าน พุฒิพงศ์ เสริมว่า “สำหรับผมแล้ว บุตเชอร์ เป็นอาชีพที่ เท่ เพราะการแล่วัวก็คือ ศิลปะอย่างหนึ่ง เราต้องรู้สรีระของวัว ลงลึกถึงการเลี้ยง มัดกล้ามเนื้อ ต้องรู้ว่า วัวหนึ่งตัวสามารถทำได้กี่เมนู แล่ออกมาได้กี่ชิ้นส่วน ถ้าคนไม่รักจริง ไม่สามารถทำได้ รางวัลจากเวทีนี้ ทำให้ผมฝันว่าอยากไปยืนเวทีโลกสักครั้ง หรือ อยากแล่วัวญี่ปุ่นเป็นสไตล์ไทยๆ อาชีพนี้ทำแล้วสนุก ท้าทายมาก”

ความท้าทายของพุฒิพงศ์ ถูกหลอมรวมอยู่ในผลงานการตัดแต่งเนื้อที่เขาใส่ใจในรายละเอียดความต้องการของผู้ใช้งาน 

“ผมใช้ทักษะการตัดแต่งแบบลัคชูรี่มาผสมผสานกับแบบคอมเมอร์เชียล ทำให้เนื้อที่แล่ออกมาดี  ผนวกกับเข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวเชียงใหม่ สาขาที่ผมทำงานอยู่ อย่าง เนื้อดรายเอจ ทุกสาขาอาจจะเลาะขายแบบ สันแหลม  แต่ผมเน้นเลาะติดกระดูก นำเสนอลูกค้าชาวเชียงใหม่ที่นิยมรับประทานกัน” พุฒิพงศ์ กล่าว

การเป็นบุตเชอร์ จึงไม่ได้มีหน้าที่ตัดแต่งให้เกิดความหลากหลายเพียงอย่างเดียว  แต่ยังต้องมองในเรื่อง การขาย ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีความนิยมบริโภคเนื้อเป็นจำนวนมาก พุฒิพงศ์ ยกตัวอย่าง ช่วงไฮด์ซีซั่นภาคเหนือ คนชอบเที่ยวดอย เนื้อสเต๊กที่ขายก็ต้องหั่นให้พอดี นำไปใช้ได้ง่าย

นอกจากนี้ บุตเชอร์ ยังสามารถให้คำแนะนำ ให้ความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์วัวและกล้ามเนื้อที่มีผลกับความนุ่มเหนียวและการนำชิ้นส่วนต่างๆ ไปใช้กับเมนูอะไรถึงจะอร่อยลงตัว

สำหรับเวทีนี้ ทีมบุตเชอร์ของโก โฮลเซลล์ ไม่ได้คว้าแค่รางวัลกลับมาเท่านั้น พวกเขายังได้เปิดโลก ค้นพบไอเดียแปลกใหม่ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการตัดแต่ง เทคนิคใหม่ๆ และการจัดดิสเพลย์เนื้อเพื่อขาย ที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับสาขาของโก โฮลเซลล์ ได้อีก 

ตอกย้ำการเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่ไม่หยุดพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สู่วงการธุรกิจอาหารของไทย เพิ่มหมุดหมายแหล่งจำหน่ายเนื้อวัวที่สายคนรักเนื้อพลาดไม่ได้!

สัมผัสรสชาติชิลี! โก โฮลเซลล์ จัดงาน “A Journey Through Chile” ขนวัตถุดิบพรีเมียมถึงไทย

โก โฮลเซลล์ ชวนสัมผัสรสชาติแห่งชิลี กับงาน “A Journey Through Chile” พบวัตถุดิบอาหาร สินค้าคุณภาพระดับโลกที่โดนใจผู้ประกอบการไทย

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการส่งออกชิลี (ProChile) จัดเทศกาลอาหารชิลี “A Journey Through Chile – สัมผัสรสชาติมนต์เสน่ห์แห่งชิลี” เนื่องในโอกาสวันชาติชิลี เพื่อเปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าผู้ประกอบการได้สัมผัสรสชาติของวัตถุดิบคุณภาพระดับโลก ชูไฮไลท์เด็ดอาหารทะเลขึ้นชื่อ อาทิ หอยแมลงภู่ แซลมอลหลากหลายสายพันธุ์ และผลไม้อบแห้ง พร้อมเปิดตัว “มัลติเอ็กซ์”(MULTI X) และ  แบรนด์ LATITUDE45  แบรนด์ดังจากชิลีที่โด่งดังในเรื่องแซลมอนและได้รับรางวัลระดับโลกที่ โก โฮลเซลล์ เป็นแห่งแรก โดยนำ “แซลมอลรมควัน” ซึ่งเป็นสินค้าไฮไลท์ที่มีกรรมวิธีเฉพาะที่สามารถทำแซลมอนรมควัน ได้ภายใน 24 ชั่วโมง สร้างรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ณ โก โฮลเซลล์ สาขารังสิต

งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายอิกนาซิโอ เฟอร์นันเดซ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกชิลี (ProChile) และนายปาตริซิโอ พาวเวลล์ เอกอัครราชทูตชิลี ประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงาน โดยมี นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย และ นางซันนี่ ซิดิค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารสินค้าธุรกิจค้าส่ง ให้การต้อนรับ โดยภายในงานมี เชฟณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย จากโครงการ ‘Future Chef of the World 2025’  ของ The Food School Bangkok แสดงฝีมือทำอาหารจากหอยแมลงภู่ชิลี ที่ถูกนำมารังสรรค์ในเมนูอาหารไทยรสชาติเข้มข้นอย่าง “แกงคั่วหอยแมลงภู่ชิลี” เพื่อเป็นไอเดียให้กับลูกค้า ผู้ประกอบการ และผู้ร่วมงาน

​​​​​​​

ชิลี นับเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับในมาตรการ การผลิตและส่งออกอาหารทะเล และสินค้าอื่นๆ ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น แซลมอน หอยแมลงภู่ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ที่สำคัญเป็นวัตถุดิบที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เชฟ นิยมนำไปรังสรรค์เป็นเมนูต่างๆ  โดยในประเทศไทยวัตถุดิบจากประเทศนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่ง โก โฮลเซลล์ มีวัตถุดิบจากประเทศชิลี จำหน่ายมากกว่า 71 รายการ  ไม่ว่าจะเป็น หอยแมลงภู่ชิลี (Blue Mussel), แอตแลนติกแซลมอน (Atlantic Salmon), โคโฮแซลมอน (Coho Salmon), เทราต์ (Trout), ปูยักษ์ชิลี (Chilean King Crab) ลูกพรุนอบแห้ง ไวน์ และวัตถุดิบอื่นๆ อีกมากมาย 

พบกับเทศกาลอาหารชิลี  “A Journey Through Chile – สัมผัสรสชาติมนต์เสน่ห์แห่งชิลี” ตั้งแต่วันที่ 12 - 23 กันยายนนี้ ที่ โก โฮลเซลล์  13 สาขา ทั่วประเทศ

โก โฮลเซลล์ โรดโชว์มหาวิทยาลัย ปั้นคนรุ่นใหม่สู่ธุรกิจค้าส่งอาหาร

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ากลยุทธ์สรรหาบุคลากรเชิงรุก ผ่านกิจกรรม “University Road Show” อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27–28 สิงหาคม 2568 ได้เดินทางสู่ภาคเหนือ เยือนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อพบปะนักศึกษาชั้นปีที่ 3–4 พร้อมถ่ายทอดเคล็ดลับการพัฒนาทักษะ (Upskill) การสร้างประสบการณ์ผ่านการฝึกงาน และการเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงาน ตลอดจนชี้โอกาสการเติบโตในสายอาชีพธุรกิจอาหาร อันเป็นก้าวสำคัญสู่การเป็นมืออาชีพในอนาคต

นางสาวยิ่งลักษณ์ นิพนธ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากสถาบันการศึกษาที่ต้องการสร้างบัณฑิตให้ตรงกับความต้องการตลาดแรงงาน โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งวัตถุดิบอาหารที่ต้องการบุคลากรเฉพาะทางในหลายสายงาน อาทิ แผนกอาหารสด แผนกเบเกอรี่ งานขายและพัฒนาลูกค้า รวมถึงโลจิสติกส์ ซึ่งนักศึกษาต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

“กิจกรรมนี้ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจโครงสร้างธุรกิจค้าส่งมากขึ้น หลายคนเพิ่งทราบว่าสาขาวิชาด้านเกษตร ประมง เทคโนโลยีการอาหาร โภชนาการ หรือสัตวศาสตร์ สามารถต่อยอดสู่สายงานในธุรกิจนี้ได้ โดยความรู้เชิงวิชาการเป็นจุดแข็ง หากผสมผสานกับการฝึกงานจริงก็จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงของโก โฮลเซลล์เองด้วย”

ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีนักศึกษาปี 3 จากคณะเทคโนโลยีการเกษตร และคณะวิทยาการจัดการเข้าร่วม ขณะที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีนักศึกษาปี 4 จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำเข้าฟังการบรรยาย พร้อมเปิดรับสมัครงานในงานเดียวกัน

ทั้งนี้ ปัญหาการจ้างงานของบัณฑิตจบใหม่ในไทยยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากตลาดแรงงานส่วนใหญ่ต้องการผู้มีประสบการณ์ 1-2 ปี ขณะที่ผู้ไม่มีประสบการณ์ได้รับโอกาสเพียง 22% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานระดับพื้นฐาน

​​​​​​​

ดังนั้น โก โฮลเซลล์ จึงมุ่งส่งเสริมการฝึกงาน (internship/traineeship) ควบคู่ไปกับความร่วมมือกับเครือเซ็นทรัล รีเทล ในการพัฒนาหลักสูตรแบบทวิภาคีหรือสหกิจศึกษา เพื่อให้นักศึกษาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จริง ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีงานทำและเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถก้าวสู่โลกการทำงานได้อย่างมั่นใจ

โก โฮลเซลล์ จับมือ “เชียงใหม่เฟรชมิลค์” หนุนนมคุณภาพสูง ส่งเสริมเกษตรกรภาคเหนือเลี้ยงวัวอารมณ์ดี

รู้หรือไม่? ภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการส่งเสริมการเลี้ยงวัวอารมณ์ดีกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง ส่งผลให้น้ำนมวัวที่ได้มีคุณภาพแตกต่าง! 

เช่นเดียวกับ “เชียงใหม่เฟรชมิลค์” ผลิตภัณฑ์นมวัวที่มีจำหน่ายอยู่ใน โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ซึ่งแบรนด์นี้มีความเป็นมาและการใส่ใจคุณภาพที่น่าสนใจ

โดยงานนี้มี “คุณกฤษฏิ์ ทิพย์เนตร” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ฟาร์ม จำกัด พาไปเยือนถึง ฟาร์มต้นแบบของการเลี้ยงวัวนมคุณภาพ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีการจัดการฟาร์มแบบ Green Farm ด้วย 

“น้ำนมที่ดี ต้องเริ่มจากวัวอารมณ์ดี  มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการเลี้ยงวัว  เรามีการดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องอาหารที่มีการใช้หญ้า    เนเปียร์สดผสมในเครื่อง TMR ให้วัวแข็งแรง ให้น้ำนมได้ดี และใส่ใจเรื่องความสะอาด เรามีการทำความสะอาดคอกทุกวันและตรวจเช็คสุขภาพวัวเป็นประจำ ส่วนน้ำนมที่รีดมาได้จะไม่ได้สัมผัสกับอากาศภายนอกเลย เพราะเรามีระบบรีดนมแบบอัตโนมัติสามารถรีดน้ำนมและควบคุมอุณหภูมิไปจนถึงโรงงานภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียแน่นอน”

นอกจากนมที่ฟาร์มที่จัดส่งเข้าโรงงานที่บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัดแล้ว ยังมีน้ำนมดิบกว่าวันละ 100 ตัน จากฟาร์มสมาชิก 159 ฟาร์ม ซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกเกษตรกรกว่า 1,000 ครัวเรือน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มโคนมทั้งหมด 

คุณธมล ทิพย์เนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่เฟชรมิลค์ จำกัด ยังได้พาเยี่ยมชมโรงงานผลิต มีการตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตลอดทั้งกระบวนการกว่าจะถึงมือผู้บริโภค และที่โรงงานมีเครื่องจักรทันสมัย และมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

“นมจากเชียงใหม่เฟรชมิลค์ของเรา จึงมีกลิ่นนมเฉพาะที่มาจากธรรมชาติ หอม สด อร่อย” 

ไม่เพียงเท่านั้น เชียงใหม่เฟรชมิลค์ ยังได้การรับรองให้เป็น ‘นมคุณภาพสูงล้านนา’ (Lanna High Quality Milk) ซึ่งเป็นโครงการดีๆ ที่ช่วยยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบและผลิตภัณฑ์จากน้ำนมดิบ ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่ได้รับการรับรองจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และปศุสัตว์เขต 5 

​​​​​​​

“เราดีใจที่น้ำนมของเรามีคุณค่าเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ของเรา ตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ ร้านเบเกอรี่ หรือธุรกิจได้จริง  ที่น่าภูมิใจยิ่งกว่านั้นคือ การได้ทำงานเพื่อช่วยพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในเขตภาคเหนือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังร่วมพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับเกษตรกรเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยงโคนมอย่างยั่งยืน”

ถ้าอยากรู้ว่า รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของวัวอารมณ์ดีในภาคเหนือเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้เป็นซิกเนเจอร์ของเชียงใหม่  ไปตามหากันได้ที่โก โฮลเซลล์ทุกสาขา

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

โก โฮลเซลล์ ปั้น “HoReCa GO MORE” งานขายสินค้าสู่แพลตฟอร์มสร้างเครือข่ายคนทำร้านอาหาร

กิจกรรม “HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม”  ที่ โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ร่วมกับซัพพลายเออร์แบรนด์ดัง หมุนเวียนจัดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 12 สิงหาคม ที่ โก โฮลเซลล์ 13 สาขาทั่วประเทศนั้น

งานนี้ไม่เพียง ‘ตอบโจทย์’ ลูกค้าผู้ประกอบการร้านอาหาร กลุ่มโฮเรก้า ในด้านสินค้าราคาประหยัดต้นทุนจากโปรโมชั่นต่างๆ เท่านั้น แต่ยัง ‘ได้ใจ’ คนทำธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในยุคเศรษฐกิจผันผวนในช่วงนี้ด้วย

ความเข้าใจลูกค้าคือ คีย์ซัคเซส

นายริคาร์โด้ เบารอตโต้  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ วาง กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก (Customer Centric) ในทุกการตัดสินใจสร้างแคมเปญ โปรโมชั่น การสรรหา   สินค้า จึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด ที่สำคัญต้องเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าให้ได้ ตีโจทย์ให้แตก โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้

“กิจกรรม ‘HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม’  มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุนราคาวัตถุดิบให้กับผู้ประกอบการ โดยได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ทำโปรโมชั่นลดราคา พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ตอบโจทย์ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการที่มองหาโปรโมชั่นสินค้าคุณภาพ ราคาคุ้มค่า ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร เพื่อให้สามารถดำรงธุรกิจอยู่ได้ในภาวะเช่นนี้”

สำหรับกิจกรรมนี้ โก โฮลเซลล์ ไม่เพียงนำเสนอจุดขายในเรื่อง ราคา เท่านั้น ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน การเติมเต็มทักษะอาชีพ พัฒนาสูตรอาหาร เพื่อสร้างความแปลกใหม่ เพิ่มยอดขายให้ร้านก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการ นั่นทำให้ กิจกรรมเวิร์กชอป กลายเป็นอีกแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้มีผู้สนใจและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง

คอมมูนิตี้เพื่อคนทำธุรกิจร้านอาหาร

“เราร่วมกับสมาคมสมาพันธ์เชฟประเทศไทย จัดเวิร์กชอป จำนวน 61 คอร์ส  กระจายให้ความรู้ เพิ่มทักษะการสร้างสรรค์เมนูสร้างรายได้ ได้รับความสนใจจากเจ้าของร้านอาหาร เชฟ ในพื้นที่ที่สาขาตั้งอยู่มาเข้าอบรมมากกว่า 1,700 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านอาหารอย่าง ‘คุณต่อเพนกวิน’ มาให้ความรู้เรื่องการเพิ่มยอดรายได้ ที่จัดขึ้น ณ โก โฮลเซลล์ สาขาขอนแก่น เป็นการปิดท้าย  ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และใกล้เคียง กว่า 120 คน มาเก็บเกี่ยวเทคนิคดีๆ ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง นำไปต่อยอดธุรกิจได้”

นอกจากนี้ ยังร่วมกับซัพพลายเออร์ จัด กิจกรรม Cooking Show จากเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง จัดบูทชิมสินค้า และมอบสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น คูปองออนท็อปสุดพิเศษ การลุ้นรับรางวัล รวมถึงบูทชิมสินค้า Own Brand “ A-Choice” ที่จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เป็นสีสันที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดผู้คนเข้าร่วมกิจกรรม ‘HoReCa GO MORE โปรแรง ขายง่าย กำไรงาม’ รวมตลอดโครงการมากกว่า 65,000 คนทั่วประเทศ!!!

เกิดเป็น “คอมมูนิตี้” ของผู้ประกอบการร้านอาหารขึ้นอย่างน่าสนใจ

เพิ่มดีกรีความผูกพันธ์ ต่อยอดกลยุทธ์เฉพาะทาง

“กิจกรรมนี้ทำให้เราเห็นความต้องการของผู้ประกอบการร้านอาหาร กลุ่มโฮเรก้า ในเชิงลึกและหลายมิติมากขึ้น อีกทั้งยังมีโปรแกรมจากระบบสมาชิก The1 ของเครือเซ็นทรัล ที่ลูกค้าชื่นชอบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโปรแกรม หรือสิทธิประโยชน์ เฉพาะกลุ่ม ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อขยายกลุ่มคอมมูนิตี้สำหรับคนทำธุรกิจอาหารต่อไปในอนาคต” นายริคาร์โด้ กล่าว

ด้าน เจ้าของร้านข้าวแกงบ้านคุณป้า และ ร้าน Better Mood จ.ขอนแก่น กล่าวว่า “ปกติมาซื้อวัตถุดิบที่ โก โฮลเซลล์ บ่อย แต่พอมีกิจกรรม HoReCa GO MORE ก็ชอบ โดยเฉพาะการให้ความรู้ที่จะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารเดี๋ยวนี้อยู่ยากขึ้น”

ขณะที่เจ้าของร้านลำดวนคาเฟ่ จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า “กิจกรรมนี้ดีมากๆ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดที่ร้านได้ ปกติจะมาซื้อสินค้าที่ โก โฮลเซลล์

สาขาขอนแก่นทุกอาทิตย์ สินค้าคุณภาพดี ราคาถูก ชอบสินค้า Frozen อย่างพุงปลาแซลมอน ที่กาฬสินธุ์ หายากมาก ที่สำคัญได้ราคาดีด้วย” พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้จัดบ่อยๆ

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

โก โฮลเซลล์ ร่วมพลิกโฉมบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน เสิร์ฟสิทธิพิเศษ “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า”

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล โดย นายจิระศักดิ์ จิราธิวัฒน์ Head of Strategy and Technology บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด (คนที่ 3 จากซ้าย)  ร่วมงานแถลงข่าว เปิดตัว “บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน” โฉมใหม่ พลิกโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า” นอกเหนือจากคะแนนเดอะวัน 10 เท่า ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่  โก โฮลเซลล์ ทุกสาขาทั่วประเทศ  โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ในทุกวันที่ 15 ของเดือน จนถึง 31 ธ.ค. 68

ทั้งนี้ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่ โก โฮลเซลล์ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเติบโตขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิก โก โฮลเซลล์ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ประกอบด้วย 

ต่อที่ 1 รับคะแนนเดอะวันสูงสุด 10 คะแนน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ครบทุก 100 บาทต่อเซลส์สลิป (5 มี.ค. 2568 – 31 ธ.ค. 2568)

ต่อที่ 2 รับแคชแบ็คสูงสุด 12,000 บาท โดยไม่ต้องแลกคะแนน จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท ต่อเซลส์สลิป ต่อเดือน และไม่เกิน 12,000 บาท ต่อหมายเลขบัญชีบัตรหลัก ตลอดแคมเปญ (วันที่ 1 พ.ค. 2568 – 31 ก.ค. 2568) 

สามารถติดตามสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ได้ที่เว็บไซต์ https://centralfoodwholesale.co.th/promotion/partnership-banking
 

โก โฮลเซลล์ ผนึกกำลัง MLA ยกระดับพนักงานแผนกเนื้อสัตว์ สู่มาตรฐานระดับสากล

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าพัฒนาองค์ความรู้ภายในองค์กรอย่างเข้มข้น ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหาร ล่าสุดจับมือ Meat & Livestock Australia (MLA) องค์กรที่ดำเนินงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนาของอุตสาหกรรมเนื้อแดงและปศุสัตว์ประเทศออสเตรเลีย จัดอบรมเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญให้แก่ทีมพนักงานแผนกเนื้อสัตว์สู่การเป็น ‘บุชเชอร์’ (Butcher) รับเทรนด์การบริโภคเนื้อที่เติบโตไม่หยุด

นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย เป็นผู้เปิดการอบรม พร้อมให้การต้อนรับ นายแอนดรูว์ คอกซ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายตลาดต่างประเทศ MLA และมาสเตอร์บุชเชอร์ เกร็ก บัตเลอร์ กูรูผู้ถ่ายทอดความรู้ ในการอัพสกิลพนักงานแผนกเนื้อสัตว์จากทุกสาขาของ โก โฮลเซลล์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการจำหน่ายเนื้อคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับสากล

การฝึกอบรมครั้งนี้ มุ่งเน้นเพิ่มพูนความรู้ด้านเนื้อวัวและเนื้อแกะ ทั้งในด้านคุณภาพ การตัดแต่ง และการเข้าใจผู้บริโภค ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ ได้แก่ การเข้าใจระบบผลิตและความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของเนื้อแดงออสเตรเลีย เทคนิคการตัดแต่งเนื้อ (Butchery) เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดและลดของเสีย การจัดการคุณภาพของเนื้อในกระบวนการจัดเก็บและจำหน่าย การวิเคราะห์รสสัมผัส การเปรียบเทียบเนื้อวัว แช่เย็น-แช่แข็ง-เนื้อที่ได้จากการเลี้ยงแบบต่างๆ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์เนื้อที่เคาน์เตอร์เพื่อดึงดูดสายตา การตัดแต่งในรูปแบบใหม่ๆ และการตัดแต่งให้เหมาะสมกับเมนูอาหาร รวมถึงการเพิ่มมูลค่าชิ้นส่วนรอง อาทิ เนื้อลูกมะพร้าว(Knuckle) เนื้อเสือร้องไห้(Brisket) ฯลฯ    

ที่ผ่านมา พนักงานแผนกเนื้อสัตว์ของ โก โฮลเซลล์ สามารถให้บริการตัดแต่งแบบพิเศษ ตามความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยการฝึกอบรมนี้เป็นการเพิ่มทักษะด้านการใช้มีด เช่น การสไลซ์บางด้วยมือ การตัดสเต็กให้ได้น้ำหนักที่แม่นยำ การหั่นเนื้อเป็นลูกเต๋า

เพราะเนื้อแต่ละชิ้นส่วน มีลักษณะและรสชาติไม่เหมือนกัน ดังนั้นผู้ขายจึงต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญในการ แล่ หั่น ตัด อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตามเทรนด์ตลาดให้ทัน รวมถึงสามารถแนะนำและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ ลูกค้าสมาชิก ในการคัดเลือกวัตถุดิบได้ตรงกับตามความต้องการ

การขายเนื้อในยุคนี้ จึงไม่ใช่แค่การตัดหั่นชั่งน้ำหนัก แต่คือการเป็น บุชเชอร์ พัฒนาการอีกขั้นของคนขายเนื้อ ที่ต้องการส่งมอบประสบการณ์การบริโภคเนื้อคุณภาพมาตรฐานสากลให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ 

โก โฮลเซลล์ หนุนความยั่งยืน ชวนเกษตรกรขนผลผลิตเข้ากรุง เสิร์ฟคนเมือง ในงาน “จริงใจ มาหา...นคร ครั้งที่ 12”

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ชวนพี่น้องเกษตรกร เอสเอ็มอี นำผลผลิต ออกบูธงาน “จริงใจ มาหา...นคร ครั้งที่ 12” ขานรับนโยบายความยั่งยืนเครือเซ็นทรัล สนับสนุนการช่วยเหลือเกษตรกรไทย

ภายในงาน บูธของ “โก โฮลเซลล์” ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมชมงาน เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเกษตรกร และเอสเอ็มอี ผู้ผลิตตัวจริง นำผลผลิตคุณภาพมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น ลำไยพันธุ์อีดอ  ลำไยอบแห้ง  จากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านล่ามช้าง จ.ลำพูน ผักสดๆ จากสำราญใจออแกนิกส์ฟาร์ม กล้วยหอม จากเสิงสาง จ.นครราชสีมา อาหารทะเลแดดเดียวแช่แข็ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อไทยวากิวเกรดพรีเมี่ยม จากเกษตรกรไทย แบรนด์ น.เนื้อ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ  ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพันธมิตรทางการค้าของ โก โฮลเซลล์ 

สำหรับงาน “จริงใจ มาหา...นคร ครั้งที่ 12” ช้อปของดี ส่งตรงจากชุมชนทั่วไทย จัดโดย กลุ่มเซ็นทรัล นำโดย เซ็นทรัล รีเทล และ เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับโครงการ “เซ็นทรัล ทำ”  ภายใต้แนวคิด “จริงใจกลางกรุง From Roots to Radiance” ที่รวบรวมสินค้าจากเกษตรกรและชุมชนกว่า 50 แห่ง จาก 47 จังหวัดทั่วประเทศ ถ่ายทอดเสน่ห์ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านของกิน ของใช้ ของดีที่ชวนให้ “ช้อป ชิม แชร์” อย่างเพลิดเพลิน พร้อมต่อยอดคุณค่าด้วยการมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากยอดขายนำไปจัดซื้อกล้าไม้ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวผ่านโครงการ “Plant Together” ของเซ็นทรัล ทำ 

ไปช้อปสินค้าจากเกษตรกร และเอสเอ็มอีไทยที่เป็นผู้ผลิตโดยตรง กับบูธ โก โฮลเซลล์ งานจริงใจ มาหา…นคร ครั้งที่ 12  ได้ที่ โซนเหมายกใจ (Beacon 4) เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ – 13 กรกฎาคม 2568 นี้เท่านั้น 

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม

โก โฮลเซลล์ คิกออฟ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” กระตุ้นบริโภคผลไม้ไทย มอบอาหารกลางวันเด็ก

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขานรับนโยบาย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กระจายผลไม้ช่วยเหลือเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภค ด้วยการคิกออฟโครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” เชิญชวนลูกค้าทุกกลุ่มซื้อผลไม้ที่ร่วมรายการ 6 ชนิด ได้แก่ แตงโม (พันธุ์กินรี ตอปิโด ซอนญ่า)  เมลอนเนื้อเขียว เมลอนเนื้อส้ม แคนตาลูปซันเลดี้ มะละกอฮอลแลนด์ สับปะรดศรีราชา และ กล้วยหอม กล้วยคาเวนดิช กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า โดย ทุก 1 กิโลกรัม หรือ 1 หน่วย (หวี/แพค) เท่ากับ 1 บาท จะนำไปส่งมอบเป็นทุนอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียน ในพื้นที่ที่สาขาตั้งอยู่ทั่วประเทศจำนวน 14 แห่ง  

งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดตัวโครงการ โดยมี นางสาวอรวรรณ ศิริโชติรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐสัมพันธ์ นายสถาพร คล้ายสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าผักและผลไม้ นางสาวทิชา มีซี ผู้จัดการทั่วไป โก โฮลเซลล์ สาขารังสิต ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ โครงการ ‘GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม’ เริ่มสะสมแต้มบุญทุนอาหารกลางวันน้อง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2568 ซึ่งลูกค้าผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใช้ผลไม้ 6 ชนิดในการประกอบธุรกิจอยู่แล้ว หรือลูกค้าทั่วไป ที่อยากเข้าร่วมขบวนบุญ สามารถอุดหนุนผลไม้ในโครงการได้ตลอด 4 เดือน จากนั้นจะทำการส่งมอบเงินบริจาคที่ได้เข้าโครงการอาหารกลางวันให้น้องๆ โรงเรียนในพื้นที่ที่สาขาตั้งอยู่ เพื่อให้เด็กๆ ได้รับโภชนาการที่ดี อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนผลผลิตจากเกษตรกรไทย ที่กำลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก

​​​​​​​

ปัจจุบัน โก โฮลเซลล์ มีทั้งหมด 13 สาขา ประกอบด้วย ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยา พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ เมืองภูเก็ต เจริญราษฎร์ อุดรธานี ขอนแก่น หาดใหญ่  รวมถึงอีก 1 สาขาที่จะเปิดใหม่ในเร็วๆ นี้ด้วย

#GOWHOLESALE #GOAlwaysFreshForward #GOสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อคุณ #GOสดครบคุ้ม