"TrueMoney" แจงกรณีข่าวผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมือถือมีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงินและพาดพิงถึง'

"TrueMoney" แจงกรณีข่าวผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมือถือมีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงินและพาดพิงถึง'

จากกรณีข่าวเกี่ยวกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ มีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงินบนอุปกรณ์มาจากโรงงาน และเนื้อหามีการพาดพิงถึงแอปพลิเคชันทรูมันนี่ (TrueMoney) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัดผู้ให้บริการทรูมันนี่ ขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ตามรายละเอียดดังนี้ 

1.แอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ (TrueMoney) เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการทางการเงินอย่างถูกกฎหมาย

2.บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัดและบริษัทในเครือทั้งหมด รวมถึงบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย และบริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อดิจิทัล จากธนาคารแห่งประเทศไทย

3.บริษัทฯ ไม่มีนโยบายหรือการร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือแบรนด์ใดๆทำการติดตั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ตั้งแต่ผลิตที่โรงงาน รวมทั้งไม่มีการติดตั้ง Pre-Install แอปพลิเคชันทรูมันนี่ ในมือถือที่จำหน่ายที่ร้านหรือตัวแทนจำหน่ายใดๆทั้งสิ้น

4.หากผู้ใช้งานประสงค์จะใช้งานแอปพลิเคชันทรูมันนี่ (TrueMoney) ต้องทำการดาวน์โหลดแอปฯ ด้วยตนเองผ่าน Apple Store (iOS) หรือ Play Store (Android) และเป็นผู้ให้ความยินยอมเองตลอดกระบวนการสมัครและใช้บริการ

5.บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้งหมด ให้ความสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานในระดับสูงสุด บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยยึดตามหลักตามกฏหมาย อาทิ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด และมีการขออนุญาตเพื่อเก็บ รวบรวม และเข้าถึงข้อมูลใดๆของผู้ใช้ก่อนทุกครั้ง และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ

6.บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้งหมดให้ความสำคัญในการปกป้องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานสูงสุด ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 3X Protection ตรวจ–จับ-หยุด มาใช้เพื่อสร้างความรัดกุมในการเข้าใช้บัญชีด้วยการยืนยันตัวตนหลายชั้น และหยุดธุรกรรมแปลกปลอม พร้อมป้องกันการดูดเงิน โดยปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีทรูมันนี่หากอุปกรณ์ของผู้ใช้มีการเปิดการตั้งค่าหรือติดตั้งแอปที่ไม่ปลอดภัย

ทั้งนี้ หากลูกค้ามีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าทรูมันนี่ โทร 1240 หรือ Live Chat ผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

#แอสเซนด์มันนี่ #ทรูมันนี่ #ข่าววันนี้ #แอปการเงิน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์


 

"ทรูมันนี่" เจาะ 4 เทรนด์ธุรกิจแอปการเงินครบวงจร พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มส์เพื่อการเงินยุคใหม่ในโลกดิจิทัล

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) สมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชันต่างๆเข้ามามีบทบาทสำคัญและแทรกซึมไปกับทุกจังหวะชีวิตของคนยุคใหม่ ด้วยฟังก์ชันหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ความบันเทิงไปจนถึงเรื่องการเงิน แต่เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชันการเงินในปัจจุบัน ก็ไม่ได้มีเพียง อีวอลเล็ต (E-Wallet) หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่เป็นบริการเด่นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ผู้ให้บริการต่างก็เดินหน้าพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ของบริการด้านการเงินของตัวเองให้ครบวงจร ไม่เพียงเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับความสะดวกของยุคดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ให้ครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่มมากขึ้น ด้วยการทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่าย ลดความยากในการเข้าถึง พร้อมผลักดันให้ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง

ทรูมันนี่ ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เริ่มสร้างบริการ
ใช้จ่าย (Payment) เพื่อตอบโจทย์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของผู้คนเป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ดี การสร้างแอปการเงินครบวงจร (Financial Super App) จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึง 4 ปัจจัยสำคัญ ที่สามารถส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่บุคคลทุกกลุ่มได้อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย

1. เสริมสร้างทักษะความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ควบคู่กับไปกับทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy)

จากงานวิจัยของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ในปีพ.ศ. 2565 พบว่า เทรนด์ทางด้านทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literary) ของบุคคลทั่วไป โดยมากจะมีแนวโน้มสอดคล้องไปกับทักษะความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลซึ่งเก็บรวบรวมจากผู้คนอายุระหว่าง 16 – 35 ปี จำนวน 90,000 คน จาก 6 ประเทศในอาเซียน พบ กว่า 24% ของมิลเลนเนียล (อายุตั้งแต่ 16 - 35 ปี) ไม่เคยเรียนรู้เรื่องการจัดการทางการเงิน หรือ การลงทุนมาก่อน เนื่องจากมองว่า การเงินเป็นเรื่องยาก อีกทั้งยังมีกำแพงด้านภาษาและขั้นตอนการใช้งานที่ซับซ้อน

ผู้ให้บริการจึงควรทำให้การใช้งานแอปการเงินเป็นเรื่องง่ายและตอบโจทย์ของผู้ใช้งาน ด้วยการลดอุปสรรคในการเข้าถึง (Barrier of Entry) อีกทั้งควรออกแบบแอปที่สามารถเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้แก่ผู้ใช้งาน ให้พวกเขาสามารถเริ่มสร้างความมั่นคงทางการเงินของตนเองได้ไม่ยาก พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่สนุกและมีประโยชน์หลากหลาย เช่น ฝากเงินแล้วเห็นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นรายวัน หรือ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ จากการใช้บริการให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล 
ความสะดวกทั้งหมดนี้จะเป็นแรงดึงดูดหลักที่ทำให้บุคคลที่ไม่เคยใช้บริการแอป หรือ บุคคลที่ยังนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสด สนใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในอีโคซิสเต็มส์ที่ครบวงจร ซึ่งช่วยยกระดับชีวิตทางการเงินและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ

2.จาก Micro Lending สู่ Micro Investing
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริการสินเชื่อได้รับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านแอปการเงินครบวงจร เช่น สินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) บริการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) เป็นต้น ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตของบริการทางการเงิน เพื่อให้ตอบโจทย์ธุรกิจรายย่อย บุคคลที่ไม่ได้ทำงานประจำ รวมถึงบุคคลที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked) ให้สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อได้ผ่านแอปการเงินครบวงจร หรือสามารถดำเนินการขอสินเชื่อได้ ณ จุดขายโดยไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือน

นอกจากนี้ บริการด้านการลงทุนก็เป็นอีกหนึ่งบริการสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางการเงิน ผ่านการทำให้ทรัพย์สินที่มีอยู่งอกเงย โดยทรูมันนี่มองว่า อุปสรรคสำคัญในการลงทุนคือ การกำหนดยอดเงินขั้นต่ำในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น ทรูมันนี่จึงลดข้อจำกัดตรงนี้ลงสำหรับบริการด้านการลงทุน โดยให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมได้แบบไม่มีขั้นต่ำ ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่ที่ยังมีเงินออมไม่เยอะ สามารถลงทุนได้สะดวกตามรายได้ที่มี อีกทั้งยังได้รับผลตอบแทนที่งอกเงย พร้อมติดตามผลตอบแทนได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปทรูมันนี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นแอปการเงินครบวงจร เพิ่มบริการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นในเร็วๆ นี้ อย่าง หุ้นกู้ หุ้นต่างประเทศ และการลงทุนในทอง เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญที่ผู้ให้บริการพยายามเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับคนทุกกลุ่มในหลากหลายไลฟ์สไตล์ ที่นอกจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้วยังตอบโจทย์เรื่องการออมและการลงทุนที่เข้าถึงผู้คนทุกกลุ่มอีกด้วย

3.ขยายบริการข้ามพรมแดน (Cross-Border) ไปสู่กลุ่มแรงงานต่างชาติ
สถิติในไตรมาสที่ 1/2566 ของกระทรวงแรงงาน พบว่ามีแรงงานต่างชาติในไทยรวมกว่า 2,743,673 คน ถือเป็น 6.92% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดในไทย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่งหากจะช่วยส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินให้ครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง จึงควรส่งเสริมการเข้าถึงสำหรับกลุ่มแรงงานต่างชาติในประเทศไทยอย่างแรงงานจากพม่าและกัมพูชา ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked) รวมถึงกลุ่มที่ยังพบอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Underbanked) เสมอมา

โดยพวกเขายังมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจง อย่าง การส่งเงินให้ครอบครัวในภูมิลำเนา (International Transfer) การจ่ายบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในต่างประเทศ (Cross Border Bill Payment) หรือ การเติมเงินโทรศัพท์ (Cross Border Mobile Top-up) ไปยังเครือข่ายโทรศัพท์มือถือผู้ให้บริการในต่างประเทศ การที่ทรูมันนี่เปิดให้ชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทยสามารถเปิดบัญชีได้ และตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานเหล่านี้ จึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่พวกเขาและสร้างการเข้าถึงบริการทางเงิน รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

4.ยกระดับเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อเสริมเกราะความปลอดภัย 
ในปัจจุบันมิจฉาชีพออนไลน์กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความกังวลในการใช้จ่ายบริการการเงินดิจิทัล เพราะหวาดระแวงว่าตนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ตลอดเวลา โดยที่ผ่านมา สถาบันทางการเงินและผู้ให้บริการด้านการเงินต่างมีการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมการปกป้องให้แก่ผู้ใช้บริการ เช่น การออกมาตรการสแกนหน้าก่อนโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมิจฉาชีพมีการพัฒนากลโกงและเครื่องมือต่าง ๆ ให้ฉลาดขึ้นตลอดเวลา สถาบันการเงินและผู้ให้บริการแอปการเงินครบวงจรจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องผู้ใช้บริการได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้น โดยไม่คาดหวังให้ผู้ใช้งานเป็นฝ่ายป้องกันตนเองอยู่ฝ่ายเดียวในยุคดิจิทัล แอปการเงินครบวงจรอย่าง ทรูมันนี่ มีการพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่อมาช่วยเสริมเกราะการป้องกันโดยสามารถประยุกต์ใช้ความชาญฉลาดของปัญญาประดิษฐ์ (AI - Artificial Intelligence) มาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีวิศวกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Engineering) ในการรวบรวม จำแนก และจดจำ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้บริการ และสามารถตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อมูลชีวมิติ และ สถานที่ในการใช้งาน เพื่อตรวจจับการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงหยุดการทำธุรกรรมที่มีความผิดปกติได้ในทันที โดยอิงจากประวัติการทำรายการย้อนหลังที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้ให้บริการทางการเงินยังสามารถร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการจัดทำระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่กระทำความผิดด้านการเงิน ทำให้การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ในการเดินหน้าเสริมสร้างอีโคซิสเต็มส์ของบริการด้านการเงินให้ครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่ม ยังคงต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่เหมาะสม ให้สามารถตอบโจทย์และทลายข้อจำกัดทางด้านการเงินสำหรับผู้บริโภค ที่นอกจากการเข้าถึงแล้วจะยังช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ด้านการเงินที่ดีให้แก่ผู้คน ซึ่ง ทรูมันนี่ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการรวมไปถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้บริการของเรามั่นใจในทุกธุรกรรมทางการเงินบนทรูมันนี่ได้
 

"ทรูมันนี่" เปิดตัว "ลิซ่า แบล็กพิงก์" แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ตอกย้ำจุดยืนซูเปอร์แอปการเงินหนึ่งเดียวที่ให้บริการครบทั้งจ่าย ออม ลงทุน

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างปรากฎการณ์เขย่าวงการ ตอกย้ำจุดยืนซูเปอร์แอปทางการเงินหนึ่งเดียวที่มีบริการครบที่สุด ทั้งการใช้จ่าย ออม และลงทุน ทลายข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงทุกเรื่องการเงินได้ง่าย และได้รับคุณค่าในทุกการใช้ ภายใต้แนวคิด “เป็นไปได้ ได้ทุกคน” รุกขยายบริการผ่าน 3 กลยุทธ์ Ease, Value และ Access พร้อมดึงศิลปินระดับโลก “ลิซ่า แบล็กพิงก์” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ร่วมแคมเปญการสื่อสารระดับประเทศ

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ทรูมันนี่ ได้พลิกโฉมการใช้จ่ายของผู้คนให้เป็นมากกว่าแอปสำหรับจ่ายหรือโอน แต่เป็นแอปที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในทุกวัน โดยมีฐานผู้ใช้งานในปัจจุบันกว่า 27 ล้านคน และเป็นแอปทางการเงินที่เป็นที่รู้จักสูงสุดอันดับหนึ่ง  วันนี้เราพร้อมยกระดับภารกิจของเราขึ้นไปอีกขั้น ด้วยจุดยืนในการเป็นซูเปอร์แอปทางการเงินเพียงหนึ่งเดียวที่ให้บริการครบที่สุด บนแนวคิด ‘Effortless Money Management Service’ เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงทุกบริการการเงินที่ง่าย และได้รับประโยชน์คุ้มค่าทุกครั้งที่ใช้ ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกกลุ่ม”

โดยจากข้อมูลการศึกษาผู้ใช้งาน ทรูมันนี่ พบว่า นอกจากกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่มีบัญชีธนาคารแต่ก็ประสบปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ ได้แก่ ความรู้ เวลา ทุนทรัพย์ อายุ ความยากในกระบวนการ ไปจนถึงมุมมองต่อตนเองในเรื่องโอกาสที่มีในชีวิต ทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องมือทางการเงินได้อย่างครบถ้วนและเต็มที่ 

ทั้งนี้ ทรูมันนี่ จึงมุ่งมั่นที่จะทลายทุกข้อจำกัดเดิมๆ ของทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะมีจุดเริ่มต้นที่ต่างกันอย่างไร ก็สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายและครบแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนผ่านทรูมันนี่ ซึ่งจะเปิดประตูสู่ความ “เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ด้วยการนำเสนอบริการใน 3 กลุ่ม ได้แก่

1.บริการในกลุ่มใช้จ่าย: ตอบรับและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ (Enrich your life) 
-ทั้งการจ่ายออนไลน์ ออฟไลน์ โอนเงิน ใช้จ่ายต่างประเทศ และวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง

2.บริการในกลุ่มการเงิน: ช่วยให้เงินงอกเงยเป็นเรื่องง่าย (Simplify your finance)
-บริการด้านการออม ลงทุน ประกัน และสิทธิประโยชน์หลากหลาย

3.บริการสนับสนุนธุรกิจ: เพิ่มพลังธุรกิจให้ไปได้ไกลกว่า (Empower your business)
-บริการสนับสนุน SME และผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ระบบสมาชิก และฟีเจอร์โปรโมทร้านค้า เป็นต้น

นางสาวณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่จะเดินหน้าผสานผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า การใช้งานที่ง่ายเหนือความคาดหมาย และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด “เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ผ่าน 3 กลยุทธ์ ดังนี้

1.Ease (Ease in Every Way): นำเสนอประสบการณ์ที่สะดวก บริการที่เข้าใจง่าย รวมถึงระบบที่ช่วยคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละราย  เช่น นำเสนอตัวเลือกกองทุนตามความสนใจและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือแผนประกันที่สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อลดความยุ่งยากของกระบวนการต่างๆ

2.Value (Value in Every Move): เปิดประตูสู่โลกการเงินที่ได้คุณค่ามากกว่า เช่น บริการเงินฝากดอกเบี้ยสูง พร้อมสิทธิในการได้รับเงินคืน เมื่อผูกบัญชีเพื่อการใช้จ่าย ฟีเจอร์รีวอร์ดสที่รวมทุกส่วนลดและสิทธิพิเศษเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการใช้จ่าย ออม และลงทุน โดยเตรียมยกระดับฟีเจอร์รีวอร์ดสสู่ Loyalty Program ที่มอบสิทธิประโยชน์หลากหลายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นในอนาคต

3.Access (Accessible to Everyone): ช่วยให้ทุกคนสามารถเริ่มสร้างความมั่นคงทางการเงินในแบบของตนเองได้ โดยมีข้อจำกัดน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนผ่านหลากหลายสินทรัพย์ที่แม้มีเงินน้อยก็เริ่มได้ เช่น มีกองทุนรวมที่เลือกลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท หรือซื้อแผนประกันด้วยเงินหลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงการสมัครขอวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน รู้ผลอนุมัติทันที

โดยในเรื่องความง่ายและการจัดการการเงิน ล่าสุด ทรูมันนี่ ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Recurring Manager (ผู้ช่วยจัดการออมและจ่าย) ให้ผู้ใช้สามารถจัดการรายจ่ายประจำต่างๆ ได้อย่างไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็น ค่าสมาชิกรายเดือน บิลมือถือ หรือบริจาคเพื่อการกุศล โดยสามารถดูยอดสรุปค่าบริการ และได้รับแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดจ่าย อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าในการตัดเงินจากบัญชีทรูมันนี่ไปฝากเป็นเงินออมได้ทุกเดือน พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4%* และสำหรับฟีเจอร์เพื่อร้านค้า ทรูมันนี่ ยังเตรียมเปิดตัว มันนี่บ๊อกซ์ กล่องเรียกทรัพย์ ที่จะแจ้งเตือนด้วยเสียงแบบเรียลไทม์เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จ ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเงินเข้าชัวร์ในทุกการรับชำระเงินผ่านทรูมันนี่

นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังเดินหน้ายกระดับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ TrueMoney Secure ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับและแจ้งเตือนพฤติกรรมต้องสงสัยแบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์ยืนยันตัวตนและเข้ารหัสหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการสแกนใบหน้าเพื่ออนุมัติรายการตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป และสายด่วนแจ้งภัยการเงินตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ล่าสุด ทรูมันนี่ ได้ดึงศิลปิน K-Pop ระดับโลกอย่าง ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ เพื่อร่วมถ่ายทอดจุดยืนของแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา “ทรูมันนี่ เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ที่บินไปถ่ายทำถึงประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งบอกเล่าถึงความเป็นไปได้ในชีวิตที่ทรูมันนี่มอบให้ผู้คนผ่านบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องการสตาร์ทธุรกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแม้จะมีทุนน้อย คนรุ่นใหม่ที่มีฝันและเปี่ยมไปด้วยพลังความสามารถซึ่งทำให้ความสำเร็จไม่ถูกจำกัดด้วยอายุ และคนที่มองหาโอกาสและความรู้ด้านการเงินเพื่อเริ่มหนทางสู่อิสระในชีวิตที่จะได้ทำตามใจฝัน โดยมี ลิซ่า พาผู้ชมไปสัมผัสความเป็นไปได้ของผู้คนเหล่านี้และผลลัพธ์ที่มีทรูมันนี่เป็นผู้ช่วยให้เป็นไปได้จริง

นางอนัณทินี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด  กล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ ทรูมันนี่ ทำการสื่อสารอย่างยิ่งใหญ่ระดับประเทศ โดยลิซ่าถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่น น่ารัก เป็นกันเอง อีกทั้งยังมีความสามารถและความทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่รักของคนไทยและผู้คนทั่วโลก การดึง ลิซ่า มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์นั้นจะสะท้อนพลังและความเป็นไปได้ที่มากกว่าในชีวิตสำหรับทุกคน และตรงกับสิ่งที่ ทรูมันนี่ต้องการมอบให้ คือการช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างความเป็นไปได้ตามแบบฉบับของตัวเองและผลักดันทุกเป้าหมายในชีวิตให้เป็นไปได้มากกว่าที่เคยผ่านบริการทางการเงินของเรา โดยในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีในปีนี้ ทรูมันนี่ ยังเตรียมจัดเต็มแคมเปญสมนาคุณสุดพิเศษครั้งใหญ่กว่าที่เคย รวมไปถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับผู้ใช้ทรูมันนี่ตลอดทั้งปี พร้อมกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ให้เหล่าแฟนด้อมของลิซ่าได้ร่วมสนุกเร็วๆ นี้ ขอให้รอติดตาม”

ทั้งนี้รับชมภาพยนตร์โฆษณา “ทรูมันนี่ เป็นไปได้ ได้ทุกคน” ได้ทั่วประเทศทางสื่อต่างๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจแล้ววันนี้ ที่ https://www.truemoney.com/lisa-campaign/ พร้อมร่วมแชร์และใส่ #LISAwithTrueMoney #เป็นไปได้ได้ทุกคน #ทรูมันนี่ และติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook Fanpage TrueMoney