แผ่นดินไหว 5.7 เขย่าชวาตะวันออก “สถานทูตไทย”ยันคนไทยปลอดภัย–ไร้รายงานความเสียหาย

แผ่นดินไหว 5.7 เขย่าชวาตะวันออก “สถานทูตไทย”ยันคนไทยปลอดภัย–ไร้รายงานความเสียหาย

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.68 เพจ Royal Thai Embassy, Jakarta โพสต์ข้อความระบุว่า

ตามที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 16.04 น. ตามเวลาเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ในทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Banyuwangi จังหวัดชวาตะวันออก โดยมีศูนย์กลางลึกลงไป 12 กม. แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งบางพื้นที่ในเกาะบาหลี แต่ไม่มีคำเตือนเกี่ยวกับสึนามิ นั้น

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอรายงานว่า ในชั้นนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย และยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ประชาชนไทยในพื้นที่หรือที่จะเดินทางไปในพื้นที่ดังกล่าวใช้ความระมัดระวัง โดยตรวจสอบและติดตามข่าวสารจากทางการอินโดนีเซีย โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างสม่ำเสมอ และขอเชิญชวนให้ดาวน์โหลดแอปฯ “Thai Consular” ที่พัฒนาโดยกรมการกงสุล เพื่อรับข่าวสารและข้อมูลแจ้งเตือนสำคัญ กรณีต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ +62 811 186253 ได้ตลอด 24 ชม.

โศกนาฏกรรม! แผ่นดินไหว 6.0 เขย่า “อัฟกานิสถาน” ยอดดับทะลุ 2,205 ราย บาดเจ็บกว่า 3,600 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 จากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ว่า รัฐบาลตาลีบันซึ่งเป็นผู้ปกครองอัฟกานิสถานได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด

แถลงการณ์ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.0 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 2,205 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 3,640 คน นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนักมากกว่า 6,700 หลัง

สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงและเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซ้อนต่อประชาชนชาวอัฟกานิสถานที่ต้องเผชิญกับวิกฤตความไม่สงบมาอย่างยาวนาน

คัมชัตกาสะท้าน-แปซิฟิกสะเทือน

ช่วงใกล้เวลาพักเที่ยงของชาวนครา บนคาบสมุทรคัมชัตกา ภูมิภาคตะวันออกไกลของประเทศรัสเซีย เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องประสบกับภาวะตื่นตระหนกจากภัยธรรมชาติที่ยากจะเฝ้าระวังและการประกาศเตือนภัยล่วงหน้า

นั่นคือ เหตุแผ่นดินไหว ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งเมืองเปโตรบัฟลอฟส์ค-คัมชัตสกี ของคาบสมุทรคัมชัตกา ไปทางตะวันออกราว 119 กิโลเมตร และลึกลงไปในชั้นใต้ดินราว 19.3 กิโลเมตร วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.8 ตามมาตราริกเตอร์ ตามการเปิดเผยของ “สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา” หรือ “ยูเอสจีเอส” ที่เฝ้าระวังสังเกตการณ์และพบการสั่นไหวเมื่อเวลาประมาณ 11.24 น. ของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ซึ่งก็เวลาในเขตเวลาคัมชัตกา เร็วกว่าเวลาในประเทศไทย ประมาณ 5 ชั่วโมง

ความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่บังเกิด ก็ถึงขนาดทำให้นายวลาดิเมียร์ โซโลดอฟ ผู้ว่าการแคว้นคัมชัตกา เอ่ยปากว่า เป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของแคว้นคัมชัตกา

สภาพความเสียหายของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในแคว้นคัมชัตกา ประเทศรัสเซีย ที่พังถล่มลงมาหลังประสบเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.8 ตามมาตราริกเตอร์ (Photo : AFP)

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบตามสถิติเหตุแผ่นดินไหวแล้วพบว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีความรุนแรงเป็นลำดับที่ 6 ของโลก นับตั้งแต่มีการบันทึกมา จากการที่โลกเราเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

โดยที่หนักที่สุดอันดับ 1 ก็เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองบัลดิเบีย ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 1960 (พ.ศ. 2503) วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.5 ตามมาตราริกเตอร์

อันดับ 2 เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองพรินซ์วิลเลียมซาวนด์ รัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปี 1964 (พ.ศ. 2507) วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.3 ตามมาตราริกเตอร์

อันดับ 3 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.2 ตามมาตราริกเตอร์ ที่มหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 (พ.ศ. 2547) ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิครั้งใหญ่พัดถล่มชายฝั่งในหลายๆ ประเทศตามมา รวมถึงประเทศไทย สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวง

อันดับ 4 เป็นความแรงของการสั่นไหวในระดับ 9.0 เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และหลากเวลาที่ต่างกัน คือ เมืองอารีกา ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1868 (พ.ศ. 2411) ที่คาบสมุทรคัมชัตกา ประเทศรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสหภาพโซเวียตรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1952 (พ.ศ. 2495) และที่เมืองโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 (พ.ศ. 2554) ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติด้านกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ตามมา จนผู้คนหวาดผวากันไปทั่วโลก นั่นคือ โรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะ เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีขึ้น เพราะโรงงานฯ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิพัดถล่ม

อันดับ 5 เป็นความรุนแรงระดับ 8.9 ตามมาตราริกเตอร์ ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณนอกชายฝั่งของเมืองโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ปี 869 (พ.ศ.1412) หรือ 1156 ปีที่แล้ว และอีกครั้งหนึ่งที่บริเวณนอกชายฝั่งของเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1611 (พ.ศ.2154) หรือ 414 ปีที่แล้ว

และอันดับ 6 ก็คือเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดที่บริเวณนอกชายฝั่งของคาบสมุทรคัมชัตกาข้างต้น เมื่อกลางสัปดาห์นี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.8 ตามมาตราริกเตอร์

ด้วยความแรงระดับนี้ ก็ทำให้ทางการประเทศต่างๆ ของสองฟากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งฟากตะวันตก และฝั่งตะวันออก ต่างออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนพลเรือนของตน เฝ้าระวังคลื่นสึนามิอันตราย ที่จะถล่มตามมา พร้อมมีคำแนะนำให้ประชาชนที่มีถิ่นพำนักตามชายฝั่ง เร่งอพยพออกจากบ้านไปยังที่สูงเพื่อความปลอดภัยจากคลื่นสึนามิที่จะพัดถล่ม ไม่ให้เกิดโศกนาฏรรมซ้ำรอยเหมือนเฉกเช่นที่ผ่านมา

ทางการรัสเซีย อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่จะเผชิญกับคลื่นสึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ ที่คาบสมุทรคัมชัตกา (Photo : AFP)

การแจ้งเตือนภัยจากคลื่นสึนามิ ก็เน้นย้ำไปที่รัสเซีย และญี่ปุ่น เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงที่สำคัญ ที่จะเผชิญคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ สำหรับ สองประเทศของทางฟากตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งสองแห่งนี้

ตามการประเมินก็ระบุว่า น่าจะมีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 3 เมตร สำหรับ รัสเซียที่จะต้องเผชิญกับคลื่นสึนามิหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

ภาพมุมสูงถ่ายจากโดรน แสดงคลื่นสึนาพัดถล่มชายฝั่งเมืองเซเวโร-คูริลส์ค หมู่เกาะคูริล ประเทศรัสเซีย หลายระลอก โดยบางระลอกวัดขนาดความสูงได้ถึง 4 เมตร (Photo : AFP)

ผลปรากฏว่า หลายพื้นที่ก็เผชิญกับคลื่นสึนามิสูงระดับดังกล่าวหรือสูงกว่านั้น โดยบางพื้นที่ เช่น เมืองเซเวโร-คูริลส์ค หมู่เกาะคูริล ของคาบสมุทรคัมชัตกา ประสบกับคลื่นสึนามิสูงถึง 4 เมตรเลยทีเดียว สร้างความเสียหายให้แก่บรรดาอาคาร รวมไปถึงท่าเรือและโรงงานแปรรูปปลา ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองแห่งนี้

นอกเหนือจากความเสียหายอาคารบ้านเรือนจากแรงสั่นสะเทือนของเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์หนนี้ อาทิเช่น โรงเรียนอนุบาล หรือก่อนประถมวัยแห่งหนึ่งในแคว้นคัมชัตกา และเพดานของอาคารในท่าอากาศยานเอลิโซโวพังถล่มลงมา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งด้วย

อาคารหลายแห่งบนหมู่เกาะแซคาลิน ของรัสเซีย ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ (Photo : AFP)

ส่วนที่ญี่ปุ่น ก็เผชิญกับคลื่นสึนามิหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวหลายระลอก เช่น ที่เกาะฮอกไกโด เผชิญคลื่นสึนามิถึง 3 ระลอกด้วยกัน บางระลอกวัดความสูงได้ถึง 60 เซนติเมตร ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์ยี่ห้อดัง ต้องระงับดำเนินการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

โดยที่ญี่ปุ่นนี้ ทางการยังต้องเฝ้าระวังด้วยความห่วงใยยิ่งต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบถึงความเสียหายต่างๆ เพื่อมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นซ้ำสองเหมือนเมื่อครั้งปี 2011 หรือ 14 ปีที่แล้ว

ขณะที่ อินโดนีเซีย เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชายฝั่งของ จ.โมลุกกะเหนือ และ จ.โกดรนตาโล ภูมิภาคปาปัว ซึ่งเผชิญความสูงของคลื่นสึนามิ 50 เซนติเมตร

ส่วนที่อีกฟากฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก คือ ด้านตะวันออก ที่หมู่เกาะฮาวาย รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ ก็ประสบกับคลื่นสึนามิขนาดความสูง 1.2 เมตร นอกจากนี้ หลายพื้นที่ของชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ก็ได้เห็นคลื่นสึนามิขนาดความสูงกว่า 60 เซนติเมตร พัดเข้าชายฝั่ง

ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างพรมแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโกด้านตะวันตก ที่เผชิญกับคลื่นสึนามิ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจากคาบสมุทรคัมชัตกา ประเทศรัสเซีย (Photo : AFP)

ธรณีพิโรธ 8.8 ริกเตอร์พ่นพิษสึนามิถล่มสองฟากฝั่งแปซิฟิก

พิษแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ชายฝั่งนอกคาบสมุทรคัมชัตกาแดนหมี ก่อสึนามิถล่มหลายพื้นที่สองฟากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากเหตุแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 8.8 ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อวันพุธนี้ ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งเมืองเปโตรบัฟลอฟส์ค-คัมชัตสกี ราว 119 กิโลเมตร คาบสมุทรคัมชัตกา แคว้นคัมชัตกา ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยอยู่ลึกลงไปในชั้นใต้ดินราว 19.3 กิโลเมตร ได้ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศสองฟากฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตามมา แต่ทางการในหลายประเทศของพื้นที่เสี่ยงข้างต้น ได้มีคำสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปแล้วก่อนหน้า

โดยที่แคว้นคัมชัตกา ทางนายวลาดิเมียร์ โซโลตอฟ ผู้ว่าการแคว้นฯ เปิดเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวข้างต้น ถือว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ พร้อมกับก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดความสูง 4 เมตร พัดถล่มชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตกา จนภาวะน้ำท่วมสูงบริเวณท่าเรือและโรงงานแปรรูปปลาในเมืองเซเวโร-คูริลส์ค ซึ่งก่อนที่จะเกิดคลื่นสึนามิ ทางการได้สั่งให้เคลื่อนย้ายเรือต่างๆ ออกจากท่าเรือในเมืองดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่พัดถล่ม ได้สร้างความเสียหายแก่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในแคว้นคัมชัตกาได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ

ส่วนที่ญี่ปุ่น ได้เกิดขึ้นคลื่นสึนามิพัดถล่มชายฝั่งบริเวณพื้นที่บางแห่งของเกาะฮอกไกโด จำนวน 3 ระลอก โดยวัดความสูงได้สูงสุด 60 เซนติเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นได้มีคำเตือนให้โรงงานหลายแห่ง เช่น นิสสันมอเตอร์ระงับการดำเนินงานชั่วคราว นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นกำลังตรวจสอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่งว่าได้รับผลกระทบหรือไม่

ขณะที่ ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดคลื่นสึนามิขนาดความสูง 50 เซนติเมตร พัดถล่มชายฝั่งใน จ.โมลุกะเหนือ และ จ.โกโรนตาโล ภูมิภาคปาปัว

ขณะเดียวกัน ทางด้าน หมู่เกาะฮาวาย รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ ได้เผชิญกับคลึ่นสึนามิขนาดความสูง 1.2 เมตร พัดถล่มชายฝั่ง

"ญี่ปุ่น" เตือนภัยสึนามิ 1 เมตร หลังแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ใกล้คัมชัตคา รัสเซีย

วันที่ 30 ก.ค.68สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ออกประกาศเตือนภัย คลื่นยักษ์สึนามิ บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 แมกนิจูด ใกล้คาบสมุทรคัมชัตคา ประเทศรัสเซีย

รายงานจาก สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมือง เปโตรพาฟลอฟสก์ ไปทางตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ราว 136 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 19.3 กิโลเมตร

ทาง JMA ได้ออกคำเตือนว่า คลื่นสึนามิสูงประมาณ 1 เมตร อาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของญี่ปุ่น โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่อยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากทางการอย่างใกล้ชิด

ระทึก! แผ่นดินไหวเขย่าอะแลสกา 7.3 ริกเตอร์เตือนภัยสึนามิ

เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเมืองแองเคอเรจเตรียมพร้อมเผชิญเหตุ หลังธรณีพิโรธรัฐอะแลสกา 7.3 ริกเตอร์ เตือนภัยสึนามิถล่มชายฝั่ง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส แถลงเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.3 ตามมาตราริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของรัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณ 12.37 น.ของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาในรัฐอะแลสกา หรือตรงกับเวลาประมาณ 03.37 น.ของวันพฤหัสบดีนี้ ตามวันเวลาในไทย

โดยยูเอสจีเอส ระบุว่า จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ห่างจากเมืองคิงโคฟ ไปทางตะวันออกเฉียใต้ประมาณ 134 กิโลเมตร ซึ่งแรงสั่นสะเทือนข้างต้น สามารถรับรู้ได้อย่างกว้างขวางทั่วชุมชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่งของหมู่เกาะอะลูเชียน คาบสมุทรอะแลสกา ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รวมไปถึงอ่าวคุกอินเล็ต ซึ่งมีรายงานว่า เสียงไซเรนเตือนภัยได้ดังขึ้นถึงในย่านโอลด์ฮาร์เบอร์ และพื้นที่อื่นๆ ที่รับรู้ถึงแรงสั่นไหว

พร้อมกันนี้ ทางสำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ หรือโนอา และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นดับเบิลยูเอส ได้เตือนภัยคลื่นสึนามิหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวข้างต้น ก่อนที่จะประกาศลดระดับการเตือนภัยในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ไปอยู่ในที่สูง พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเผชิญเหตุความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

อิเหนาระทึก! ธรณีพิโรธ 6.8 ริกเตอร์

แผ่นดินไหวเขย่าอินโดฯ 6.8 ริกเตอร์ หลายเมืองทางภาคตะวันออกรับรู้แรงสั่นสะเทือน

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว บริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะตานิมบาร์ จ.โมลุกกะ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันจันทร์นี้ โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในเมืองเล็กๆ หลายแห่ง ในภาคตะวันออกของประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานธรณีวิทยาของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ตามมาตราริกเตอร์ แต่ศูนย์วิจัยธรณีวิทยาของเยอรมนี ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนสามารถวัดได้ 6.8 ตามมาตราริกเตอร์ โดยจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในชั้นใต้ดินราว 10 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการประกาศแจ้งเตือนสึนามิในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

"ดร.เสรี" ยกสุภาษิตญี่ปุ่น "ภัยพิบัติจะมาเมื่อเราลืมมัน" ย้ำ3ข้ออย่าเบื่อที่ต้องจำ

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์” ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเพจ “รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์” ระบุว่า  ...

#จงจำไว้อาคารสั่นไหวระดับน้ำลดทันใดวิ่งให้ไกลไปที่สูง

#ไม่ตระหนกแต่ตระหนักกับเหตุการณ์สึนามิ

#ระบบเตือนภัยไม่สำคัญเท่ากับชุมชนเข้มแข็ง

ระยะนี้ข่าวของแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิหลายๆแหล่งออกมามากมาย ให้อ่านผ่านตา และไม่ต้องตระหนกตกใจ ข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาขนาดมากกว่า M4 บริเวณหมู่เกาะอันดามัน และนิโคบาร์โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 50 ครั้ง สูงสุดขนาด 6M.1 ในปี 2563 แผ่นดินไหวคาดการณ์ไม่ได้ แต่ต้องตระหนักกับความรุนแรง และความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจึงต้องจำ 3 ประโยค “อาคารสั่นไหว ระดับน้ำลดทันใด วิ่งให้ไกลไปที่สูง” น่ะครับ อย่าเบื่อที่จะต้องจำเนื่องจากแผ่นดินไหวรุนแรง M9.2 ในปี 2547 ที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิมีรอบการเกิด >400 ปี สุภาษิตของประเทศญี่ปุ่น “ภัยพิบัติจะมาเมื่อเราลืมมัน”

ในฐานะที่เป็นคนออกสำรวจ และประเมินความรุนแรงคลื่นสึนามิ ในเหตุการณ์ปี 2547 เป็นผู้นำเอาองค์ความรู้มาเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2542 รวมทั้งได้มีการเขียนตำรา “วิศวกรรมสึนามิ” และปัจจุบันได้รับมอบหมายจากกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ให้มาดูแลปรับปรุงระบบเตือนภัยของประเทศ ขอยืนยันกับพี่น้องคนไทยว่า ปัจจุบันศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีความพร้อมในระดับสากลในการเฝ้าระวัง และเตือนภัยคลื่นสึนามิตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเครื่องมือดังต่อไปนี้ 1) ระบบตรวจจับคลื่นโดยทุ่นน้ำลึก และสถานีวัดน้ำ 2) ระบบประเมิน และวิเคราะห์คลื่นโดยฐานข้อมูล 3) ระบบการสื่อสาร โดยเฉพาะ Cell Boardcast

แต่อยากจะเรียนทุกท่านว่า แม้ประเทศไทยจะมีระบบเตือนภัยที่ดี ไม่ได้หมายความว่าการเตือนภัยจะมีประสิทธิผล ดังกรณีเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2554 เพราะความสำคัญสูงสุดอยู่ที่ชุมชน หากปราศจากความตระหนัก ย่อมเกิดความสูญเสียตามมาได้ กล่าวคือชุมชนเข้มแข็งมีความยืดหยุ่นต่อสึนามิ ต้องมีองค์ประกอบตามรูปจิ๊กซอที่แนบมา ชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นสึนามิลองศึกษา และทำความเข้าใจดูน่ะครับ

 

 

ขอบคุณ เพจ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

#ภัยพิบัติ #สึนามิ #แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวยังหลอนแดนซามูไร บ่ายชม.เดียวเขย่าญี่ปุ่น 2 ครั้ง

วันที่   3 ก.ค.68 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานความเคลื่อนไหวแผ่นดินไหวตามข้อมูลบันทึกการเกิดเหตุแผ่นดินไหวว่า เมื่อเวลา 14.13น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ่่่่่่่่่่่่่่่่5.5ริกเตอร์ ความลึก14กม.ที่หมู่เกาะ Ryukyu ประเทศญี่ปุ่น จณะที่ก่อนนี้เวลา 13.18น.เกิดเหตุแผ่นดินไหว 4.8ริกเตอร์ ขนาดความลึก 10กม.ที่Ryukyu ประเทศญี่ปุ่น จุดเดียวกัน

"ปรีดา เรียลเอสเตส" ลุยโซลเลซ พหล-ประดิพัทธ์คืบ 35% โครงสร้างทนแผ่นดินไหว 8 ริกเตอร์ ส่งมอบ ก.ย.69

“ปรีดา เรียลเอสเตส” ตอกย้ำความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ Mixed-Use ใจกลางกรุงเทพฯ ชูโครงสร้างรองรับแผ่นดินไหวสูงสุด 8 ริกเตอร์ พร้อมวัสดุก่อสร้างระดับพรีเมียม และดีไซน์พื้นที่ใช้สอยครบครัน ล่าสุดมีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างกว่า 35% พร้อมเดินหน้าสู่การส่งมอบภายในเดือนกันยายน 2569

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตส จำกัด เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการโซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ว่าโครงสร้างอาคารมีความแข็งแรง 100% จึงไม่ได้รับรับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างมีความคืบหน้า แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1.งานด้านโครงสร้างอาคาร 35% 2.ด้านสถาปัตยกรรม 15% และ 3.ด้านระบบในอาคาร 20% ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร โดยได้ออกแบบให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้สูงสุดถึง 8 ริกเตอร์ ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในข้อบังคับทางวิศวกรรมโครงสร้างของประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินงานให้สูงกว่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการออกแบบโครงสร้างโดยการใช้ระบบ Outrigger System เพิ่มความแข็งแรงพร้อมรับมือทุกแรงสั่นสะเทือน  ลดการโยกตัวของอาคารขณะแผ่นดินไหว กระจายแรงเฉือนจาก Shear Wall แกนกลางไปยังโครงสร้างเสารอบนอกอาคารลดความเสียหายของโครงสร้างและวัสดุก่อสร้าง ช่วยเสริมเสถียรภาพให้อาคาร ต้านแรงข้าง (แรงลม,แผ่นดินไหว) ได้ดีขึ้น ลดการเคลื่อนตัวของยอดอาคาร อีกทั้งยังคัดสรรวัสดุก่อสร้างระดับพรีเมียม อาทิ ผนัง Insee Super Block ชนิด Wall Panel เสริมเหล็กพิเศษป้องกันการแตกร้าวของผนัง และเหล็กเส้นจากโรงงานที่ผ่านมาตรฐาน มอก. ,ท่อน้ำดีชนิด PPR ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับแรงดันได้ดีกว่าท่อทั่วไป, ทั้งยังมีการตรวจสอบคุณภาพจากที่ปรึกษาวิศวกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอน

“บริษัทให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบร่วมกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ในความปลอดภัย และคุณภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาว” นายปิติพัฒน์ กล่าว

ด้านนางสาวปิยะฉัตร ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรีดา เรียลเอสเตส จำกัด กล่าวเสริมว่า ปรีดา เรียลเอสเตส เป็นบริษัทในเครือของ ปรีดา กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมายาวนานกว่า 63 ปี บริษัทมั่นใจว่า โครงการโซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาเมืองที่ตอบโจทย์ทั้งด้านทำเล การออกแบบ และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยตั้งเป้าแล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบภายในเดือนกันยายน 2569 ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี ด้วยยอดจองกว่า 50%

สำหรับโครงการ “โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์” ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลาง New CBD โซนกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณถนนประดิพัทธ์–พหลโยธิน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่จับตามองของนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “โลกความสุขแนวตั้งที่ครบที่สุด : Live Worldticle Life” ถือเป็นโครงการ Mixed-Use แห่งแรกของกลุ่มบริษัท ออกแบบรองรับตลาดระดับลักชัวรี่ ด้วยอาคารสูง 50 ชั้น บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ รวม 558   ยูนิต แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 524 ยูนิต สำนักงาน 29 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,200 ล้านบาท โครงการโดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ครอบคลุม 6 ชั้น และพื้นที่สีเขียวแนวตั้งและแนวราบรวมเกือบ 2 ไร่ เชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับการใช้ชีวิตแนวดิ่งได้อย่างลงตัว ตอกย้ำแนวคิด Live Worldticle Life นิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัยใจกลางเมือง