ลาซาด้าสร้างสถิติใหม่ "แคมเปญ 9.9" ตอกย้ำความสำเร็จ LazMall ขับเคลื่อนเติบโตแบรนด์ในไทย-ทั่วภูมิภาค

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับแคมเปญ "9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์" ด้วยตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งทั่วทั้งภูมิภาค ตอกย้ำกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยสินค้าแบรนด์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าคุณภาพจากแบรนด์แท้เพิ่มมากขึ้น

แคมเปญ 9.9 ครั้งนี้ LazMall ศูนย์รวมแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 32,000 แบรนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเชื่อมโยงนักช้อปและแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งแกร่ง

วันที่ 16 กันยายน 2568 โรนัลด์ ฟู ผู้อำนวยการฝ่ายแคมเปญ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า ขณะที่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับเรื่องสินค้าแท้ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และประสบการณ์การช้อปปิงระดับพรีเมียมมากขึ้น LazMall ยังคงเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนความสำเร็จของแคมเปญใหญ่ของลาซาด้า

การเติบโตของการบริโภคออนไลน์

ด้วยจำนวนประชากรชนชั้นกลางและกลุ่มผู้บริโภคที่มีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในภูมิภาคที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลาซาด้าได้สร้างสถิติใหม่บนแพลตฟอร์ม โดยมีมูลค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อที่สูงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับแคมเปญ 9.9 ในปีที่ผ่านมา และผู้ขายชั้นนำ 100 รายทั่วภูมิภาคมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 49 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตอกย้ำจุดแข็งของลาซาด้าในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าคุณภาพจากแบรนด์แท้ครบทุกหมวดหมู่

หลี่ เจียงกาน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Momentum Works เสริมว่า นักช้อปที่มีกำลังซื้อสูงไม่ได้มองหาเพียงประสบการณ์การช้อปที่ราบรื่น แต่ต้องการสินค้าแท้ ความมั่นใจในคุณภาพ และการมีส่วนร่วม ในปัจจุบัน ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีสัดส่วนยอดขายจากสินค้าแบรนด์ไม่ถึง 30% สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสเติบโตอีกมหาศาลสำหรับแพลตฟอร์มที่สามารถช่วยให้แบรนด์เชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ยกระดับประสบการณ์ด้วย Lazzie ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ

นับตั้งแต่เปิดตัว Lazzie ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI ลาซาด้าได้ต่อยอดศักยภาพ AI เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมและเพิ่มประสิทธิภาพของเมกะแคมเปญไปอีกขั้น

สำหรับแคมเปญ 9.9 ปีนี้ Lazzie มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นยอดขายและสร้างการมีส่วนร่วม โดยกิจกรรม "LazzieChat Challenge" เพิ่มการมีส่วนร่วมขึ้นถึง 53% นักช้อปในไทยและมาเลเซียยังเริ่มต้นการสนทนากับ Lazzie เองเพิ่มขึ้น 34% นอกจากนี้ ยอดคำสั่งซื้อจากการสนทนากับ Lazzie ยังเพิ่มขึ้นกว่า 36% ทั้งหมดเมื่อเทียบกับแคมเปญ 6.6 ที่ผ่านมา

การเติบโตต่อเนื่องจาก Lazzie สะท้อนถึงศักยภาพของ AI ที่ช่วยเพิ่มยอดการซื้อ-ขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเปลี่ยนประสบการณ์การซื้อขายที่เคยเป็นเพียงธุรกรรมให้กลายเป็นปฏิสัมพันธ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลและเข้าถึงนักช้อปได้อย่างแท้จริง

ไอริส เว่ย ประธานลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า ลาซาด้าเดินหน้ายกระดับมาตรฐานและกำหนดอนาคตของอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเทคโนโลยีล้ำสมัยและเครือข่ายของแบรนด์คุณภาพสูง ในฐานะผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภูมิภาคนี้ เรากำลังพลิกโฉมวิธีการที่ผู้บริโภคค้นหาสินค้า และยกระดับประสิทธิภาพการขายของแบรนด์ให้ก้าวไปอีกขั้น

ปัจจุบัน ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) จากแบรนด์ยังคงมีสัดส่วนไม่ถึง 30% เราจึงเล็งเห็นโอกาสมหาศาลข้างหน้า ด้วยการเร่งการเติบโตด้วยพลังของแบรนด์ ควบคู่ไปกับศักยภาพของเทคโนโลยี GenAI มูลค่า 1.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะปลดล็อกภายในปี 2573ลาซาด้ากำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สินค้ามาแรงในแคมเปญ 9.9 ในหมู่นักช้อปไทย

- นักช้อปไทยแห่ซื้อสินค้าบิวตี้ ดันยอดขายพุ่งแรง 815% สะท้อนเทรนด์ดูแลตัวเองที่มาแรง

- ยอดขายกระเป๋าเดินทาง-อุปกรณ์ท่องเที่ยวพุ่ง 670% เมื่อเทียบเวลาปกติ รับเทศกาลเที่ยวปลายปี

- หมวดหมู่ของเล่นและเกม ได้แรงหนุนจากกระแสแฟนด้อม แบรนด์ดังอย่าง POP MART โต 170%

- กระแสถ่ายภาพแบบคลาสสิกมาแรง! ยอดขายกล้องโพลารอยด์-ฟิล์มโต 253% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

- เกมเมอร์ส่งยอดขายเครื่องเล่นเกมพกพาพุ่ง 1,084% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

- แฟนด้อมไทยปลุกตลาดสินค้าไอดอล ยอดโตทะลุ 9,860%

เซ็นทรัล ผนึกพันธมิตรยักษ์ใหญ่กว่า 72 แบรนด์ จัดแคมเปญ “Shop & Win” ที่สุดแห่งปี  มูลค่ากว่าหลายสิบล้านบาท

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลัง 72 พันธมิตรชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์เหนือระดับ จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “Shop & Win” เพื่อส่งมอบความสุขให้นักช้อปจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ผ่านของรางวัลกว่า 30,000 รายการ พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวไตรมาส 3-4 ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม ถึง 8 ตุลาคม 2568

โดยแคมเปญ “Shop & Win” ที่จัดขึ้นโดยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและกลุ่มพันธมิตรในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมพลังให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาสที่สามและสี่ของปี ผ่านการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดพิเศษ พร้อมกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและส่งมอบความสุขให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวประเทศไทย ที่ปัจจุบันครองตำแหน่ง “จุดหมายปลายทางยอดนิยม” ในของนักเดินทางจากทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนและช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาส ยิ่งไปกว่านั้น ห้างเซ็นทรัลชิดลม และ ห้างเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ ยังเป็น “แลนด์มาร์คการช้อปปิ้ง” ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวทุกปี ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เชื่อมโยงกับย่านเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ และสามารถสร้างอิมแพคเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้อย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ จากรายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป มีสัญญาณการจองล่วงหน้า (Forward Booking) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2568 (Summer Slot) ซึ่งแนวโน้มเป็นบวกในแทบทุกตลาด โดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง และสอดคล้องกับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย

รายละเอียดกิจกรรม: ลูกค้าต่างชาติสามารถนำใบเสร็จใดก็ได้จากการช้อปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มาแลกรับสิทธิ์ร่วมสนุกได้ที่ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม บริเวณเคาน์เตอร์ Customer Services ชั้น 2 หรือ ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณ ชั้น 2 ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม ถึง 8 ตุลาคม 2568 จำกัด 1 สิทธิ์ต่อ 1 ใบเสร็จ พิเศษ! สำหรับสมาชิก The 1 Expat รับสิทธิ์ร่วมสนุกได้ทันทีผ่าน The 1 App

ของขวัญและสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพันธมิตรชั้นนำ กว่า 30,000 รางวัล เติมเต็มทุกมิติแห่งการเดินทางและไลฟ์สไตล์เหนือระดับ เพื่อเติมเต็มทุกช่วงเวลาของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย ได้แก่

1. สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ

- โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ มอบประสบการณ์เหนือระดับผ่านแพ็กเกจบัตรกำนัล ‘Stay & Savor at the Park’ สำหรับการเข้าพัก 2 คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 40,000 บาท และบริการ Exclusive Personal Shopping ณ เซ็นทรัล ชิดลม พร้อมบัตรของขวัญสำหรับรับประทานอาหารที่ Embassy Room La Marina และ Penthouse Bar + Grill

- โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ร่วมมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบเวิลด์คลาส ด้วยแพ็กเกจห้องพัก ‘Luxury Suite’ 1 คืน มูลค่า 40,000 บาท พร้อมสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ อาหารเช้าแบบกูร์เมต์ ค็อกเทลยามเย็น และบริการบัตเลอร์ส่วนตัวตลอดการเข้าพัก

- โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล มอบบัตรกำนัลเข้าพัก 2 คืน ที่ห้อง Athenee มูลค่า 15,000 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน

- โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ มอบแพ็กเกจสปาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ Amaranth Spa มูลค่า 4,329 บาท และ Signature Afternoon Tea Set สำหรับ 2 ท่าน ที่ Ms.Jigger

2. อิ่มอร่อยกับรสชาติระดับเวิลด์คลาส

- บัตรกำนัล (voucher) รับประทานอาหาร และ Afternoon Tea จากโรงแรม Mövenpick BDMS Wellness Resort, DoubleTree by Hilton Sukhumvit Bangkok, Hilton Sukhumvit Bangkok, Novotel BKK Sukhumvit 4, Mercure BKK Siam, Mercure BKK Sukhumvit 24 และ Le Méridien Bangkok

- รับฟรี ชาไทย และ น้ำสมุนไพร ที่ Lofter ชั้น 6 เซ็นทรัลชิดลม และ สมูทตี้มะม่วง ที่ Living House ชั้น 7 เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เติมความสดชื่นระหว่างช้อปปิ้ง

- พิเศษ! รับส่วนลดเมนูที่กำหนดกับร้านอาหารในเครือ CRG ได้แก่ KFC, Pepper Lunch, Mister Donut, Arigato, Auntie Anne's และ Cold Stone

3. เพลิดเพลินกับการช้อปและไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ

- 39 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จากกลุ่มสินค้า/แผนก Beauty Galerie, Contemporary Fashion, Home & Appliances, Kids และ Thai Souvenir ร่วมมอบของขวัญสุดพรีเมียม และข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ Adidas, AKALIKO, BB Toys, Calvin Klein, CASIO, Charlotte Tilbury, dadadee, Donna Chang, Eleph, Erb, Estée Lauder, FILA, GIVENCHY, Godmami, Good Goods, GUERLAIN, imoo, ISSEY MIYAKE, Jean Paul Gaultier, Jo Malone London, Kidz & Kitz, Kiehl’s, Kin’s Nature, KIS, LA MER, Lancôme, Mini World, MUGLER, narciso rodriguez, Nike, PAHKAHMAH, PlanToys, Pureen, Sofflin, Sunglass Hut, TAITIER, Tom Ford, Valentino Beauty และ Zodia

- บัตรกำนัลและคูปองส่วนลดจาก Power Buy, Supersports และ B2S ในเครือ Central Group

- ชมภาพยนตร์ในบรรยากาศสุดหรูที่ Embassy Diplomat Screen พร้อมรับส่วนลดตั๋วหนัง 20% ที่ Central Embassy ชั้น 6

4. เดินทางอย่างมีสไตล์ พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย

- AIS เพิ่มเติมความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว ด้วย AIS LUCKY TOURIST SIM อินเทอร์เน็ตแรงสุดบนเครือข่าย AIS 5G ครอบคลุมทั่วไทย พร้อมแพ็กเกจเน็ต 1 วัน (8GB)

- Emirates มอบส่วนลดเที่ยวบินสูงสุด 4,900 บาท สำหรับชั้น Business Class และ Economy Class ในเส้นทางที่กำหนด

- จองแพ็กเกจท่องเที่ยวกับ Klook รับส่วนลด 10%* ตามเงื่อนไขที่กำหนด

5. ดูแลสุขภาพและความงามในแบบพรีเมียม กับแพ็กเกจดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ จาก VitalLife ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลเมดพาร์ค และ โรงพยาบาลสมิติเวช

นอกจากนี้ ยังมีของขวัญพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ช้อป

- กระเป๋าดีไซน์เก๋ และ กระติกน้ำสุดชิค จาก Alipay+, Bangkok Airways และ WeChat Pay

- บัตรของขวัญมูลค่า 1,000 บาท คูปองเงินสด และของพรีเมียมมากมายจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

แคมเปญ “Shop & Win” ในครั้งนี้ คือโอกาสพิเศษที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมพันธมิตรชั้นนำ ตั้งใจมอบเพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวที่เหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ ยังสะท้อนบทบาทของห้างเซ็นทรัลในฐานะแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสเสน่ห์การช้อปปิ้งในประเทศไทย พร้อมส่งเสริมการใช้จ่ายและสร้างคุณค่าแก่ธุรกิจในประเทศอย่างยั่งยืน

Grab หนุน “คนละครึ่ง” อัดแคมเปญ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ 

วันที่ 9 กันยายน 2568 คุณจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า Grab ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เข้าหารือกับพรรคภูมิใจไทย โดยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่หากมีการนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้งเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งร้านขนาดเล็กและขนาดกลางที่น่าจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้จากฐานข้อมูลที่ Grab เคยสนับสนุนโครงการเมื่อสามปีที่แล้วพบว่าโครงการนี้สามารถสร้างผลเชิงบวกที่เป็นรูปธรรม โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการในช่วงที่ผ่านมามียอดขายเติบโตขึ้นสูงสุดถึง 5 เท่า ซึ่งหากรัฐบาลประกาศโครงการอย่างเป็นทางการ Grab พร้อมร่วมผลักดันทั้งในรูปแบบของแคมเปญการตลาด การให้ส่วนลด หรือโปรแกรมแพ็คเกจเพื่อจูงใจร้านค้าต่างๆ

ETDA ประกาศผล EDC Pitching Season 3 ทีมลิลลี่ยูว์จะบังพี่ทำไม? และทีม Green white cybersafe คว้าสุดยอดแคมเปญแห่งปี 

ETDA  จับมือพาร์ทเนอร์ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติ, กรมกิจการเด็กและเยาวชน, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ศูนย์ ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท และองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จัดใหญ่ EDC Pitching Season 3 รอบชิงชนะเลิศ ใต้แนวคิด "Digital Space Connect"  ที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน จากการแข่งขันสุดเข้มข้น ในที่สุด   ทีมลิลลี่ยูว์จะบังพี่ทำไม? จากแคมเปญ “ONMII” แอปสำหรับผู้พิการทางสายตา ฟีเจอร์เสียงอัตโนมัติ แจ้งเตือนภัย แชทบอท และบทเรียนโต้ตอบ ลดช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ รุ่นมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา และทีม Green white cybersafe จากแคมเปญ “ดิจิทัลเซฟตี้ฮีโร่” เสริมทักษะป้องกันภัยออนไลน์ให้เยาวชน ผ่านกิจกรรม เกม และ Challenge รู้เท่าทันดิจิทัล คว้ารางวัลชนะเลิศ รุ่นวัยทำงานและบุคคลทั่วไป สุดยอดแคมเปญที่เชื่อมต่อพื้นที่การเรียนรู้สู่การพัฒนาพลเมืองดิจิทัล รับเงินรางวัล พร้อมโอกาสร่วมเป็นเครือข่ายต่อยอดผลงานสู่การใช้จริงไปกับ ETDA และ EDC

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)  ETDA เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปีที่ผ่านมา ETDA มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศดิจิทัล เร่งเครื่องส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการมุ่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพและรู้เท่าทัน (Digital Workforce, Literacy and Protection)  เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีศักยภาพและทักษะในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งรู้จักใช้อย่างสร้างสรรค์และรู้เท่าทัน ผ่านหลากหลายโครงการ หนึ่งในโครงการสำคัญที่ ETDA พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์เดินกน้ามาอย่างต่อเนื่อง นั้นก็คือ โครงการ ETDA Digital Citizen หรือ EDC ทั้งหมดก็เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายใหญ่ระดับชาติ "30:30" ทั้งการเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลให้แตะ 30% ของ GDP และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้อยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก ภายในปี 2570         

ETDA Digital Citizen (EDC) ถือเป็นโครงการที่มุ่งวางรากฐานทักษะดิจิทัลให้กับประชาชน ผ่านหลักสูตรแกนกลางอย่าง EDC Plus และ การพัฒนาเครือข่ายเทรนเนอร์ดิจิทัล (EDC Trainers) ทั่วประเทศ รวมไปถึงสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ และ e-Learning ที่เผยแพร่ให้ประชาชนรวมถึงกลุ่มเปราะบางได้เข้ามาร่วมเรียนรู้  โดย EDC ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยปี 2568  ETDA จับมือพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ลงพื้นที่อบรมประชาชนทุกกลุ่ม ภายใต้หลักสูตร EDC Plus  ไปแล้ว 5,302 คน ผลิตเครือข่าย  EDC Trainers  ทั้งหมด 3,307 คน ที่พร้อมขยายและส่งต่อองค์ความรู้ไปยังคนในชุมชน ครอบคลุม 526 อำเภอ ครบทั้ง 77 จังหวัด และในปี 2569 เตรียมตั้งเป้าสร้าง EDC Trainer จำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 คน ครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศ ผ่านการทำงานร่วมกับดิจิทัลจังหวัดและดิจิทัลอำเภอ และพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมลงพื้นที่เพื่อให้การส่งต่อองค์ความรู้เข้าถึงคนในทุกชุมชนอย่างครอบคลุมและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 60,000 คน

สำหรับกิจกรรม EDC Pitching ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมสำคัญ ที่สานต่อจากโครงการ EDC Trainer เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมและพัฒนาทักษะดิจิทัลภายใต้หลักสูตร EDC Plus และ ผ่านการฝึกเป็น EDC Trainer ได้มีเวทีในการต่อยอดและสร้างสรรค์ไอเดีย แคมเปญประชาสัมพันธ์ ตลอดจนกิจกรรม นวัตกรรม แนวทางใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่แห่งการเรียนรู้ในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และขยายผลเชิงบวกสู่สังคมเพื่อร่วมสร้างพลเมืองดิจิทัลคุณภาพได้จริง! โดย EDC Pitching Season 3 ปีนี้ จัดขึ้น ภายใต้ธีม "Digital Space Connect: เชื่อมต่อพื้นที่การเรียนรู้สู่การพัฒนาพลเมืองดิจิทัล" มีโจทย์หลัก 3 ด้านที่แต่ละทีมจะต้องเลือก ได้แก่ 1) สร้างสังคมที่เข้มแข็งเพื่อต่อต้านภัยคุกคามทางเทคโนโลยี (Stronger Community Against Digital Abuse) 2) เสริมทักษะการสื่อสารบนโลกดิจิทัล (Digital Communication Booster) และ 3) พักจอมาฮีลใจ ใช้แต่พอดี มีสมดุลชีวิต (Healthy Digital Life Balance) โดยมีทีมเข้าร่วมสมัครแข่งขันรวมกว่า 50 ทีม

ก่อนทำการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเหลือ 10 ทีมสุดท้าย ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมลับคมไอเดียจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ และไปต่อกับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้  จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมัธยมศึกษา-อุดมศึกษา 5 ทีม ได้แก่ 1) Digital Angel, 2) ลิลลี่ยูว์จะบังพี่ทำไม ?, 3) Touch ใจ ไม่ Touch จอ อยากขอโอกาสได้ไปเที่ยวสยาม, 4) APB, 5) PP Shine Power และรุ่นวัยทำงาน-บุคคลทั่วไป 5 ทีม ได้แก่ 1) TruthVerse 3D, 2) Raid Boss LV44++, 3) Green white cybersafe, 4) Readvolution Team, 5) The Local People

ในวันนี้ (19 ส.ค.) สำหรับการแข่งขัน EDC Pitching Season 3 รอบชิงชนะเลิศ แต่ละทีมต่างฟาดฟันนำเสนอไอเดียกันอย่างดุเดือด ผ่านการแข่งขันในรูปแบบ Pitching นำเสนอแผนแคมเปญและไอเดียที่สอดคล้องกับ 3 โจทย์สำคัญ ต่อเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการ ETDA, คุณพัชราภรณ์ สิริวรเวชยางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ, คุณญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส., คุณตฤณ ศรีวงศ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมกิจการเด็กและเยาวชน และคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย            

จากการพิจารณาตัดสินกันอย่างเข้มข้นของเหล่าคณะกรรมการ ในที่สุด ก็ได้ทีมที่คว้าสุดยอดแคมเปญ Digital Space Connect ที่จะเข้ามาช่วยสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อมโยงชุมชน รุ่นมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ทีมลิลลี่ยูว์จะบังพี่ทำไม? จากแคมเปญ “ONMII” แอปสำหรับผู้พิการทางสายตา ฟีเจอร์เสียงอัตโนมัติ แจ้งเตือนภัย แชทบอท และบทเรียนโต้ตอบ ลดช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม คว้าเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Digital Angel จากแคมเปญ “Digital เฟรชชี่ ท้าเล่น เน้นพักใจ” เกมแนว Squid Game 3 ด่าน ฝึกทักษะรับมือข่าวปลอม การแชร์ข้อมูล และการเสพติดมือถือ พร้อมเนื้อหาหลักสูตร EDC Trainer ได้รับเงินรางวัล 25,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม APB จากแคมเปญ “B-Life ปรับสมดุล เปลี่ยนชีวิต!” แอปเพื่อคนทำงานยุคดิจิทัล ลดติดจอ–ออฟฟิศซินโดรม ด้วยเกม ภารกิจรายวัน และชุมชนออนไลน์ ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ทีม PP Shine Power และทีม Touchใจ ไม่Touchจอฯ ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร 

และรุ่นวัยทำงานและบุคคลทั่วไป ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ทีม Green white cybersafe จากแคมเปญ “ดิจิทัลเซฟตี้ฮีโร่” เสริมทักษะป้องกันภัยออนไลน์ให้เยาวชน ผ่านกิจกรรม เกม และ Challenge รู้เท่าทันดิจิทัล คว้าเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม The Local People จากแคมเปญ “ลดจอ–ปรับตัว–ปรุงใจ” ชวนผู้สูงอายุลดการใช้มือถือ หันมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง–สุขภาพ และเสริมใจผ่านพอดแคสต์และกิจกรรมสะสมแต้ม ได้รับเงินรางวัล 25,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Raidboss lv44+ จากแคมเปญ “Roblox V School” พื้นที่เรียนรู้ทักษะดิจิทัลบน Roblox รับมือภัยออนไลน์ ในรูปแบบ Gamification ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ทีม TruthVerse 3D และทีม Readvolution ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ทั้งนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกทุกทีมยังได้รับโอกาสร่วมทำงานกับ ETDA และผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาเพื่อพัฒนาทักษะสู่การทำงานจริงในอนาคต

“EDC Pitching Season 3 ไม่เพียงเป็นเวทีแข่งขันเพื่อเฟ้นหาไอเดียที่ตอบโจทย์ความท้าทายในยุคดิจิทัล แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างนิยามใหม่ของพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยให้กับสังคมและชุมชน สู่การร่วมสร้างพลเมืองดิจิทัลคุณภาพ ผ่านการทำงานร่วมกันของคนรุ่นใหม่ บุคลากร และหน่วยงานพันธมิตร เพื่อขยายผลไอเดียจากเวทีสู่การใช้งานจริงในพื้นที่ และต่อยอดเป็นสื่อการอบรมในโครงการ EDC เพื่อสร้างวัฒนธรรมดิจิทัลที่เข้มแข็งและยั่งยืนให้กับสังคมไทย สำหรับปี 2569 ETDA จะเดินหน้าสนับสนุน EDC Trainer ที่มีศักยภาพให้ถ่ายทอดความรู้ในกิจกรรม “Trainer อาสา” พร้อมเปิดหลักสูตรระดับสูง “Master Trainer” เพื่อเสริมศักยภาพสู่เส้นทางวิชาชีพด้านการพัฒนาดิจิทัล ควบคู่ไปกับการพัฒนาหลักสูตรใหม่ที่สำคัญ อาทิ AI Literacy ตามแผน AI แห่งชาติ, Digital Use, Digital Security, Digital Communication และหลักสูตร “Digital Identity” ว่าด้วยการสร้างอัตลักษณ์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อปูรากฐานความมั่นคงและความมั่นใจในการใช้บริการดิจิทัลของคนไทยทุกคน” นายมีธรรม  กล่าว

ทรู5G แจกจริง กับแคมเปญ “รวยคูณสอง แจกรถ” มอบรางวัลใหญ่ รถกระบะโตโยต้า Hilux Revo Z Edition รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ทรู 5G โดยคุณภูริโชติ วงศ์โกมลเชษฐ์ หัวหน้าฝ่ายบริการดิจิทัลและคุณสุนิษา อนันทนุพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานโมบายล์คอนเทนต์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ส่งต่อความสุขและโชคครั้งใหญ่ผ่านแคมเปญสุดพิเศษ “รวยคูณสอง แจกรถ” มอบรถกระบะโตโยต้า  Hilux Revo Z Edition Smart Cab 4x2  2.4 Entry AT มูลค่า 719,000 บาท จำนวน 4 คัน แก่ลูกค้าผู้โชคดีทั้ง 4 ท่าน ดังนี้

• “เฮงติดล้อ” บริษัท สมาร์ท เทเลบิช จำกัด โดยคุณวัลลิยา ซุ้ยวงค์ษา กรรมการผู้จัดการ มอบรางวัลแก่คุณอนิสา เจริญวงษ์ 

• “ดวงดีมีทรัพย์ ลุ้นรับรีโว่” บริษัท ซัมวัน จำกัด โดยคุณศิริ กลิ่นจันทร์ กรรมการผู้จัดการ มอบรางวัลแก่คุณญิบเมษ จันทวงค์

• “ดวงเฮง เปย์แหลก แจกรถ” บริษัท แมคโคร คีออสค์ จำกัด โดยคุณเศรษฐพงศ์ องอาจฉัตรวิไล กรรมการบริษัท มอบรางวัลแก่คุณวิษณุอวยชัย เทวสรรเสริญ   

• “โชคหล่นทับ มีรถขับ” บริษัท มิตซุย ไอซีที จํากัด โดยคุณพีรพงษ์ ขันธรูจี, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ มอบรางวัลแก่คุณเจนอักษร บุญวิก
รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 3,130,400บาท  

 

Supersports ฉลองครบรอบ 28 ปีสุดยิ่งใหญ่ เปิดตัวแคมเปญ “SUPERSPORTS LUCKY GAME 28th ANNIVERSARY”

Supersports (ซูเปอร์สปอร์ต) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล แหล่งรวมสินค้าและ แบรนด์กีฬาอันดับ 1 ของไทย ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านกีฬา  ฉลองก้าวสู่ปีที่ 28 อย่างยิ่งใหญ่ กับแคมเปญ “SUPERSPORTS LUCKY GAME 28th ANNIVERSARY” มอบของขวัญสุดพิเศษและประสบการณ์ช้อประดับพรีเมียมให้ลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ และกิจกรรมเอาใจสายสปอร์ตตลอดเดือนสิงหาคม พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับลูกค้า โดยตลอดระยะเวลาซูเปอร์สปอร์ตยังคงเดินหน้าส่งเสริมไลฟ์สไตล์สุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยความสำเร็จของธุรกิจในครึ่งปีแรก สะท้อนภาพการเติบโตและบทบาทสำคัญในการสร้างคอมมูนิตี้กีฬาให้เข้าถึงทุกกลุ่มคนไทยอย่างแท้จริง
 
คุณอเล็กซองต์ อัมเบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า“ปีที่ 28 คือหมุดหมายสำคัญที่ซูเปอร์สปอร์ตรุกเดินหน้าอย่างมีกลยุทธ์ ด้วยไดเรคชั่นแบรนด์ Move you, Move Sports เรามุ่งพัฒนาร้านค้าและประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ลูกค้าได้สัมผัสมาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่า พร้อมขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกทำเลสำคัญทั่วประเทศ ตลอดปีนี้เราเร่งปรับโฉมสาขาหลักให้ทันสมัยและสะท้อนตัวตนแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเปิดฉลองโฉมใหม่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาที่สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต ต่อด้วยสาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ และในเร็ว ๆ นี้กับการเปิดฉลองโฉมใหม่สาขาใหญ่ใจกลางเมืองที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนปิดท้ายปลายปีด้วยสาขาใหม่เซ็นทรัลกระบี่ และเรายังเดินหน้ายกระดับกีฬาไทยให้เข้าถึงได้ทุกคน ด้วยการสร้าง Sports Ecosystem ให้แข็งแรง ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Intersport และ Head เพื่อย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในฐานะ Performance Sports Retailer อันดับหนึ่ง ที่พร้อมตอบโจทย์นักช้อปสายสปอร์ตในทุกหมวดกีฬา”
 

คุณวิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวเสริมว่า “นอกจากการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซูเปอร์สปอร์ตยังให้ความสำคัญกับการสร้าง ‘คอมมูนิตี้กีฬา’ และ ‘สังคมสุขภาพดี’ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงกิจกรรมที่หลากหลาย และมีส่วนร่วมในประสบการณ์พิเศ็ที่สนุกและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นในปีนี้ Supersports ยังได้พัฒนาอีเวนต์ต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์มากขึ้น โดยเน้นการสร้าง “ประสบการณ์พิเศษ” ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลกีฬา (Sport Insights) การสร้างคอมมูนิตี้ผ่านกิจกรรมวิ่ง ฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส แบตมินตัน ว่ายน้ำ โดยการสร้างเครือข่ายร่วมกับอินฟลูเอ็นเซอร์ เพื่อขยายสังคมการออกำลังกายที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับกิจกรรมกีฬาในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นมีทั้งในรูปแบบที่แบรนด์จัดเอง เช่น  Supersports Running Club ที่เปิดตัวพร้อมกระแสตอบรับล้นหลาม Supersports 10 Mile Run ซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรทั่วประเทศ และได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยม รวมถึงกิจกรรมฟุตบอลที่เชื่อมโยงแฟนบอลกับทีมโปรดอย่างใกล้ชิด

นอกจากสุขภาพที่ดี Supersports ยังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยผลักดันแนวคิด Recycle – Reuse – Reduce มาใช้จริงในทุกขั้นตอนของการทำงาน ทั้งในด้านการออกแบบกิจกรรมและการดำเนินงาน รวมถึงโครงการเพื่อสังคมอย่าง “รื้อ แลก ลด” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำของเก่ามาแลกส่วนลด เพื่อส่งต่อให้เยาวชนผู้ขาดแคลน และสร้างประโยชน์คืนกลับสู่สังคมด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Supersports จึงได้รับการยอมรับจากวงการค้าปลีกระดับภูมิภาค โดยคว้ารางวัล Sporting Goods Retailer of the Year – Thailand จากเวที Retail Asia Awards 2025 เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของแบรนด์ในปีนี้ เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ เราจึงจัดแคมเปญพิเศษ ‘SUPERSPORTS LUCKY GAME 28th ANNIVERSARY’ ฉลองความสำเร็จตลอด 28 ปีที่ผ่านมา เชิญชวนทุกคนมาร่วมสนุก ลุ้นรางวัล และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่ควรพลาดไปด้วยกัน”
 

โปรโมชั่นฉลองครบรอบ – ช้อปสนุก ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ แคมเปญ SUPERSPORTS LUCKY GAME อัดแน่นด้วยสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทุกคน เพียงช้อปครบ 1,800 บาท รับสิทธิ์สูงสุด 3 ต่อ
• สิทธิ์ที่ 1: ลดทันที 280 บาท*
• สิทธิ์ที่ 2: รับคูปองส่วนลดเพิ่ม 520 บาท*
• สิทธิ์ที่ 3: รับ Lucky Card ลุ้นรางวัลสุดพิเศษ รวมถึงทองคำหนัก 1 บาททุกสัปดาห์
ลูกค้าบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และ KTC รับสิทธิ์ลดสูงสุด 18%* เมื่อแลกคะแนนเท่ายอดซื้อ และลูกค้า AIS รับส่วนลดเพิ่ม 400 บาท* เมื่อใช้เอไอเอสพอยท์เพียง 1 คะแนน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 4 กันยายน 2568 ที่ซูเปอร์สปอร์ตทุกสาขา
 
นอกเหนือจากนี้ ทางซูเปอร์สปอร์ตยังเตรียมกิจกรรมเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญ เพื่อได้มาร่วมสนุกและแอคทีฟไปด้วยกันตลอดทั้งเดือน
• 10 สิงหาคม 2568 เอาใจคอบอลด้วยงาน Supersports Jersey Launch ที่ลานกิจกรรมชั้น 8 SF ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
• 13 สิงหาคม 2568 ร่วมพัฒนาศักยภาพการวิ่งของคุณไปกับโค้ชผู้เชี่ยวชาญ ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์
• 20 สิงหาคม 2568 ฟิตไปด้วยกันกับกิจกรรมคาดิโอร่วมกับ Fitness First สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
• 27 สิงหาคม 2568 กิจกรรม City Run หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
 
ติดตามข่าวสารและโปรโมชันพิเศษสุดได้ทาง www.supersports.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจของ Supersports เพื่อไม่ให้พลาดดีลพิเศษตลอดทั้งปี!

Robinhood เปิดแคมเปญ “Robinhood RETURN” ส่งต่อภารกิจรักษ์โลกกับ 5 ร้านอร่อย – สั่งง่าย คืนได้ ใส่ใจโลกในทุกมื้อ

Robinhood แอปฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญใหม่ “Robinhood RETURN” ภายใต้แนวคิด สั่ง – ส่ง – คืน ให้ทุกมื้อของคุณมีส่วนร่วมในการดูแลโลกใบนี้ โดยแคมเปญจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568

แคมเปญ “Robinhood RETURN” เชิญชวนลูกค้าอิ่มอร่อยไปกับ 5 ร้านอาหารที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ได้แก่

ร้าน ERR Urban Rustic Thai (เออ เออร์เบิร์น รัสติค ไทย) เจ้าของร้าน คุณเชฟ ดิลลัน โจน์ และ เชฟ โบ ทรงวิศวะ

 ร้าน Appia Roman Trattoria (อาเปีย โรมัน แทรคเธอเรีย)  เจ้าของร้าน คุณเชฟเปาโล วิตาเลตติ

ร้าน Chita Yutaka Tei (ชิตะ ยูทากะเตะ) เจ้าของร้าน คุณสุภาภรณ์ สุทธิเลิศ

ร้าน VIVIN Asok - café grocery bistro, (วิแวง อโศก โกเซอรี่ บิสโทร)  เจ้าของร้าน คุณนิโคลัส วิแวง และ ซาแมนต้า โปรยรุ้งทอง

 ร้าน Little Sunshine Café (ลิตเติล ซันไชน์ คาเฟ่) เจ้าของร้าน คุณอัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์

ร้านอาหารทั้ง 5 แห่งล้วนมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ Robinhood โดยมี คุณพงศ์ปณต อิงคสิทธิ์ Chief Commercial Officer บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (ผู้ให้บริการ Robinhood) ให้การสนับสนุนแคมเปญในครั้งนี้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนไลฟ์สไตล์การบริโภคอย่างยั่งยืนในสังคมไทย

ลูกค้าที่สั่งอาหารจากร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ จะได้รับอาหารในภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ และสามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวกในการคืนภาชนะผ่านแอป Robinhood จากนั้นไรเดอร์จะเข้ารับคืนตามเวลาที่นัดไว้ ช่วยให้ทุกมื้อไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมได้ในทุกขั้นตอน

แคมเปญนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Robinhood ในการเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงตอบโจทย์การกินดี แต่ยังส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอย่างมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม และมีเป้าหมายเพื่อลดขยะพลาสติกในสังคมอย่างยั่งยืน

กทพ. จัดแคมเปญพิเศษ “SPECIAL POINT 7 เดือน 7” แลกคะแนน Easy Point รับส่วนลดสุดคุ้ม

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มอบสิทธิพิเศษตอบแทนผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass กับแคมเปญ “SPECIAL POINT 7 เดือน 7” ให้คุณแลกคะแนน Easy Point รับความคุ้มค่าจากร้านค้าชั้นนำแบบจัดเต็ม ระหว่างวันที่ 7 – 31 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด โดยสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก EXAT Reward เท่านั้น

แลกรับส่วนลด Tops Supermarket มูลค่า 100 บาท ใช้เพียง 799 Easy Point 

แลกรับโค้ดส่วนลด S&P มูลค่า 155 บาท ใช้เพียง 899 Easy Point 

เพียงใช้ Easy Pass ผ่านทางพิเศษทุก 5 บาท รับ 1 Easy Point ยิ่งใช้มาก ยิ่งสะสมได้ไว แลกรับสิทธิพิเศษได้ง่าย ๆ ในไม่กี่คลิก! สมัครสมาชิก EXAT Reward และแลกรับสิทธิ์ได้ผ่านช่องทางดังนี้

แอปพลิเคชัน EXAT Portal
iOS : https://bit.ly/48CRDm7
Android : https://bit.ly/48xBazr
หรือ LINE Official : @exatsociety https://page.line.me/735iwyie

“EXAT Reward ยิ่งใช้ ยิ่งได้” ชวนผู้ใช้ Easy Pass สมัครสมาชิกวันนี้ เพื่อสะสมแต้มและแลกรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำได้ตลอดปี

เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรธุรกิจชวนช้อปสุดคุ้ม รับกลางปีในแคมเปญ BANGKOK NO.1 SHOPPING FESTIVAL 2025

เอ็ม ดิสทริค (เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์) จับมือบัตรเครดิตยูโอบี      บัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa, Royal Caribbean Cruise และ C-space รวมกับ 5 ศูนย์การค้าระดับแนวหน้าของเมืองไทย จัดมหกรรมเซลล์ระดับชาติใหญ่ที่สุดกลางปี BANGKOK NO.1 SHOPPING FESTIVAL 2025 ปักหมุดเป็นดิสทิเนชั่นช้อปปิ้งสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร ดึงดูดนักช้อปและนักท่องเที่ยวชาวไทยจากทั่วโลก มอบประสบการณ์ช้อปสุดเอกซ์คลูซีพ พร้อมนำ 4 ศิลปินวัยรุ่นสุดฮอตจากซีรีย์ Gel Boys ร่วมโปรโมทแคมเปญ โดยแคมเปญจัดขึ้น
ตั้งแต่วันนี้ – 28 กรกฎาคม 2568 ที่ เอ็ม ดิสทริค

สำหรับแคมเปญ Bangkok No.1 Shopping Festival  2025 ในส่วนของเอ็ม ดิสทริค พร้อมสร้างความต่อเนื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปี โดยเอ็ม ดิสทริค ทั้ง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และ เอ็มสเฟียร์ โดยจับมือบัตรเครดิตยูโอบี,  บัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa, Royal Caribbean Cruise และ C-space มอบความพิเศษตลอด 2 เดือน โดยเมื่อช้อปปิ้งร้านค้าชั้นนำในศูนย์การค้า ลูกค้าบัตรเครดิตบัตรเครดิต UOB  รับคืนสูงสุด14,600 บาท ในวันที่ 30 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568  และบัตรเครดิต Bangkok bank M Visa รับคืนสูงสุด 15,000 บาทในวันที่ 1-28 กรกฎาคม 2568  และมอบความคุ้มค่าทุกการช้อปปิ้งสำหรับสมาชิก M Card ช้อปในศูนย์การค้าทุกๆวันอาทิตย์ครบ 6,000 บาท สามารถนำคะแนน M Point 6,000 คะแนน แลกรับคูปองเงินสด 1,500 บาท  และเมื่อรับประทานอาหารใน EM DINING ทั้ง 3 ศูนย์การค้าใช้บัตรเครดิต Bangkok bank M Visa      รับคูปองแทนเงินสดสูงสุด 1,600 บาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 50 % จากกว่า 30 ร้านอาหารชั้นนำ
และรับ PERSONALIZE CASE MOBILE เคสมือถือหนึ่งเดียวตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมูลค่า 590 บาท เมื่อช้อปปิ้ง/ทานอาหารครบ 3,000 บาท

นอกจากนี้สำหรับสุดยอดนักช้อปที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด ตลอดแคมเปญรับแพ็จเก็จท่องเที่ยวเรือสำราญระดับโลก Royal Caribbean Cruise 1 รางวัล  และร่วมฉลอง Pride Month รวมสนับสนุนความเท่าเทียม และหลากหลาย ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ทุกๆวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ตลอดเดือนมิถุนายนช้อปปิ้งในศูนย์การค้า 25,000 บาท รับคูปองแทนเงินสดมูลค่า 4,000 บาท และเฉพาะวันที่ 6-8 มิถุนายน 2568 ช้อปสินค้าแฟชั่นครบ 30,000 บาท รับคุปองเงินสดสูงสุด 7,000 บาท สำหรับการช้อปปิ้งผ่านบัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%

ช้อปสุดคุ้มกับแคมเปญ BANGKOK NO.1 SHOPPING FESTIVAL 2025 ที่เอ็ม ดิสทริค ตั้งแต่วันนี้ – 28 กรกฎาคม 2568 ที่ ศูนย์การค้า เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์

Thai MICE Connect เปิดตัวแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย” กระตุ้นตลาดไมซ์

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เปิดตัวแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย” มุ่งส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไมซ์ไทยและกระตุ้นการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดยเปิดโอกาสให้ผู้จัดงานไมซ์ทั่วประเทศได้รับสิทธิพิเศษคูปองดิจิทัลสนุบสนุนการจัดงาน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท เมื่อจองและจัดงานผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com หรือจัดกิจกรรมจากเส้นทางไมซ์ 16 Ignite Route

สิทธิพิเศษสำหรับผู้จัดงาน

ผู้จัดงานไมซ์สามารถรับสิทธิ์คูปองดิจิทัลได้ 2 รูปแบบ ได้แก่

คูปองมูลค่า 15,000 บาท สำหรับกิจกรรมระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง)

คูปองมูลค่า 30,000 บาท สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน

กิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมแคมเปญ
ประเภทกิจกรรมที่สามารถรับสิทธิ์ ได้แก่

การประชุม

การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล

สัมมนา

กิจกรรมการอบรม

กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์

กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)

การศึกษาดูงาน

การจัดงานเทศกาล

การจัดบูธหรืองานแสดงสินค้า

กติกาและเงื่อนไขการรับสิทธิ์

ผู้จัดงานต้องดำเนินกิจกรรมในประเทศไทย และจองบริการผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com อย่างน้อย 1 บริการ หรือจัดกิจกรรมจากเส้นทางไมซ์ 16 Ignite Route

กิจกรรมต้องมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน (ไม่รวมเด็ก เยาวชน นิสิต และนักศึกษา)

ยื่นสมัครรับสิทธิ์พร้อมเอกสารประกอบการสมัครก่อนการจัดกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5 วัน

กิจกรรมจัดขึ้นภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 และส่งหลักฐานหลังการจัดกิจกรรมภายในวันที่ 3 มีนาคม 2568

สมัครเข้าร่วมแคมเปญได้แล้ววันนี้

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย”

ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านเว็บไซต์ https://www.thaimiceconnect.com/campaign/detail/14