พันธุ์ไทย คว้ารางวัล Top Outstanding Brand ในหมวด Made-To-Order Coffee จากเวที Thailand Brand Footprint 2025

นางสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ทั้งในแง่ Functional และ Emotional ส่งผลให้แบรนด์พันธุ์ไทยเป็นที่จดจำ เข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งสร้างความผูกพันและประสบการณ์ที่ดีในทุก Touch Point ของลูกค้า ผ่านการวัดผลด้วย Brand Footprint ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่วัดจาก Consumer Reach Point (CRP) หรือจำนวนครั้งที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์ต่อปี โดยในปี FY 2024 กาแฟพันธุ์ไทยมีจำนวน CRP สูงถึง 7.4 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปี FY 2023 ที่มี CRP อยู่ที่ 4.2 ล้านครั้ง สะท้อนถึงการเติบโตของฐานลูกค้าที่มากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เพียงเติบโตในเชิงยอดขาย แต่ยังสร้าง Brand Footprint ที่แข็งแกร่ง มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการตอบโจทย์ผู้บริโภค และเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง

“รางวัล Top Outstanding Brand นี้ ถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าต่อพันธุ์ไทยเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มอบความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง กาแฟพันธุ์ไทยยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ลูกค้าได้มอบให้กับแบรนด์พันธุ์ไทยตลอดมา”

เปิดเวที Climate Tech ไทย: ปฏิบัติการจริงสู่ Net Zero ในงาน SITE 2025

เปิดเวที Climate Tech ไทย: ปฏิบัติการจริงสู่ Net Zero ในงาน SITE 2025 Sustainability Forum ภายในงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025) เปิดมุมมองใหม่ของ “Climate Technology” กับสองผู้นำพลังงานไทย ที่ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานสะอาดเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ COO กลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน ปตท. และ คุณสมิทธ์ พนมยงค์ Senior EVP กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ ร่วมเผยภาพรวมความท้าทายและโอกาสของ Climate Tech ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแห่งอนาคตควบคู่กับ AI, Robotics และ Biotech ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero

“Climate Tech” เทคโนโลยีอนาคตที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

ดร.บุรณิน ชี้ว่า Climate Tech คือหัวใจของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ผ่านนวัตกรรมพลังงานสะอาด ตั้งแต่พลังงานทดแทนอย่างโซลาร์และลม, รถยนต์ไฟฟ้า (EV), AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน, ระบบดักจับคาร์บอน (Carbon Capture) ไปจนถึงโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid)

ปตท. ได้ลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้งในไทยและอินเดีย, ปรับโรงงานปิโตรเคมีสู่ Bio-based, และศึกษาพัฒนา SMR (Small Modular Reactor) เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต

“ไทยเราอาจยังไม่ใช่ผู้นำโลกด้าน Climate Tech แต่กำลังวางรากฐานที่มั่นคง โดยเฉพาะโครงสร้าง Smart Grid และการเปิดรับนวัตกรรมจากสตาร์ตอัพ” ดร.บุรณินกล่าว

“ต้องคุ้มค่า ถึงจะเปลี่ยนผ่านสำเร็จ”
คุณสมิทธ์ พนมยงค์ เน้นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ต้องเดินควบคู่กับความคุ้มค่าต่อผู้ใช้ ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้ผู้คนพร้อมเปลี่ยนพฤติกรรม

เขายกตัวอย่างต้นทุนโซลาร์ที่ลดลงกว่า 5 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้พลังงานสะอาดกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ  กัลฟ์ยังเดินหน้าลงทุนในโซลาร์และฟาร์มลมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง, ติดตั้งโซลาร์บนเสาโทรคมนาคม และร่วมกับไทยคมพัฒนาดาวเทียมวิเคราะห์การปล่อยคาร์บอน เพื่อลดต้นทุนคาร์บอนเครดิต

“Smart Grid และนโยบายรัฐที่ครอบคลุม คือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อน Climate Tech อย่างมั่นคง เราต้องเลิกแบ่งฝ่าย ‘ผู้ร้าย-พระเอก’ ในอุตสาหกรรมพลังงาน และร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ดีขึ้น” คุณสมิทธ์กล่าว

เมื่อเทคโนโลยีต้องคู่กับความเข้าใจของสังคม

ทั้งสองผู้นำเห็นตรงกันว่า Climate Tech จะประสบความสำเร็จได้จริงเมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่แค่ “ของใหม่” แต่ต้องเกิดจากความเข้าใจและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ภาครัฐ และภาคธุรกิจ

ดร.บุรณิน ฝากข้อคิดว่า อย่าให้ความเชื่อมานำหน้าองค์ความรู้” ขณะที่คุณสมิทธ์เสริมว่า “ทุกเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ถ้าประชาชนเข้าใจและยอมรับ

งาน SITE 2025 จึงไม่ใช่แค่เวทีแสดงนวัตกรรมทั่วไป แต่เป็นจุดรวมพลังและโอกาสสำคัญของไทย ในการพลิกโฉมพลังงานและเศรษฐกิจสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืน

"อินแกรม ไมโคร" เปิดเวทีผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ขับเคลื่อนอนาคต AI งาน Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024

อินแกรม ไมโคร หรือ Ingram Micro ตัวแทนจัดจำหน่าย ไอที โซลูชัน ชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินธุรกิจมาเกือบ 30 ปีในประเทศไทย เหนือระดับด้านการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ภายใต้ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ครอบคลุมตั้งแต่ Edge, Core และ Cloud & cybersecurity และหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชันด้วย AI Stack ครบวงจร ได้จัดงาน “Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024” ภายใต้ธีม “AI POWER: Unveiling the Future for Your Business” โดยร่วมกับพันธมิตรระดับโลกชั้นนำด้าน AI และผู้ให้บริการเทคโนโลยีกว่า  20 แบรนด์ นำเสนอสุดยอดโซลูชัน AI ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจอุตสาหกรรม ในด้านต่างๆ 

นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังประสบความสำเร็จจากการจัดงานโรดโชว์ในปีที่ผ่านมา จึงได้เดินหน้าจัดงาน Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้เราได้เปิดเวทีผนึกกำลังผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI ชั้นนำระดับโลก มาแบ่งปันความรู้ และไฮไลท์ของเทรนด์ใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนอนาคต และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจไทย ซึ่งเป็นพาร์เนอร์คนสำคัญของเรา ได้นำเอา AI ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ทั้งในองค์กรเอง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจในยุคดิจิทัล

“อินแกรม ไมโคร ไม่เพียงเป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน AI Stack แบบครบวงจร (End-to-End AI Solution) ในรูปแบบไฮบริด คลาวด์ (Hybrid Cloud) ประกอบด้วย ออน พรีมิส (On Premise) และ ออน คลาวด์ (On Cloud)  และ ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และพร้อมผู้เชี่ยวชาญให้บริการที่ปรึกษา โดยมีทีมงาน AI Architecture เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนาโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจแต่ละราย ทำให้พันธมิตรทางธุรกิจสามารถนำเสนอโซลูชัน AI ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 

งาน Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024 ภายใต้ธีม “POWER AI: Unveiling the Future for Your Business” ได้นำเสนอโซลูชัน AI ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบคลาวด์ การเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย หรือการพัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอตัวอย่างการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมทางด้านการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ และค้าปลีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI  โดยโซลูชัน AI ที่นำเสนอในงาน ได้แก่

- AI Power in Cloud and Cybersecurity  : เป็นการนำเสนอศักยภาพของ AI ในด้าน คลาวด์ และการป้องกันภัยจากไซเบอร์ ที่มาพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัวที่เป็นเครื่องมือทรงพลังอย่างเช่นการเขียนโค้ด สร้างเนื้อหา และด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลในระยะเวลาสั้นๆ  AI สามารถระบุพฤติกรรมที่ผิดปกติและภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นได้ก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย

- AI Power in Networking and Infrastructure: AI จะเข้ามาพลิกโฉมระบบเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถช่วยในการสร้างและจัดการเครือข่ายอัตโนมัติ เพิ่มความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยน ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการเครือข่าย ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา สามารถทำนายและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อระบบ

- AI Power in Smart Devices : พบกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ผู้ช่วยเสมือนจริงที่เข้าใจภาษาธรรมชาติ และอุปกรณ์ IoT อัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อกัน เช่น สมาร์ททีวี โน้ตบุ๊ก ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานในองค์กร ไปจนถึงการใช้งานในครอบครัว และการใช้งานส่วนบุคคลแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส

-Use Case Solution :   นำเสนอแนวโน้ม และการประยุกต์ใช้ ล่าสุดในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของตลาด เช่น กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมผู้ให้บริการด้านการเงิน  อุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมค้าปลีก เป็นต้น

ทั้งนี้ งาน Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024 นับเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจได้ร่วมขับเคลื่อนวงการเทคโนโลยีของประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค AI อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งอินแกรม ไมโคร ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยได้นำเอาเทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การที่เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกอย่างเช่น APC, Honeywell, HP Enterprise, Intel, LG, Microsoft, Lenovo และอีกกว่า 20 แบรนด์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีในครั้งนี้ ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชัน AI  ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างตรงจุด

“AI คืออนาคตของธุรกิจ และ อินแกรม ไมโคร พร้อมที่จะเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยไปด้วยกัน งาน Ingram Micro Bangkok Roadshow 2024 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี AI  งานครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมงานซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักทางธุรกิจของเราที่เป็นผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 ราย จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี AI ล่าสุด และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และความพิเศษในปีนี้ เรายังได้จัดงานมอบรางวัลให้กับพาร์ทเนอร์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนอินแกรม ไมโครมาโดยตลอด      ผมขอแสดงความยินดีกับพาร์ทเนอร์ที่ได้รับรางวัลทุกท่าน และหวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเราทุกภาคส่วน จะได้รับประโยชน์ และนำความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจ และเติบโตไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง”