ธอส. รับ 2 รางวัลเชิดชูเกียรติ “เพชรพัสดุ” ประจำปี 2568

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “เพชรพัสดุ” ประจำปี 2568 จากสมาคมนักบริหารพัสดุแห่งประเทศไทย โดยมีนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล โดย ธอส. ได้รับจำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย (1) องค์กรผู้มีคุณูปการยิ่งต่อการบริหารงานพัสดุภาครัฐ โดยมีนายชัยณรงค์ สวัสดีวงษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุน เป็นผู้แทนธนาคาร เข้ารับรางวัล

เนื่องด้วย ธอส. เป็นองค์กรที่สนับสนุนและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และ (2) ผู้ปฏิบัติงานด้านการพัสดุดีเด่น “เพชรพัสดุ” โดยมีนางสาวจิราภรณ์ จันทร์อับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาและการพัสดุ รับรางวัล เนื่องด้วยเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการพัสดุที่มีความรู้ความเข้าใจงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ มีความซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย

สำหรับทั้ง 2 รางวัลที่ ธอส. ได้รับ สะท้อนการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้คนไทยมีบ้าน ภายใต้การบริหารจัดการที่เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ผ่านนโยบายด้านการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุธนาคารอาคารสงเคราะห์ และการดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ที่โดดเด่นประจักษ์แก่สาธารณชน

สำหรับพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติเพชรพัสดุ ประจำปี 2568 จัดขึ้น ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เลขที่ 206 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568

กระทรวงกลาโหม มอบ "เหรียญบางระจัน" เพื่อเชิดชูเกียรติและสดุดีวีรกรรมทหารกล้า

กระทรวงกลาโหมยกย่องวีรกรรมและความเสียสละของ "ทหารกล้า" ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยปลัดกระทรวงกลาโหมได้เป็นตัวแทนมอบขวัญ และกำลังใจให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวของกำลังพลผู้เสียชีวิต พร้อมมอบ "เหรียญบางระจัน" เพื่อเชิดชูเกียรติและสดุดีวีรกรรม

ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเรือเอก สุพพัต  ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเข้าเยี่ยมทหารที่เข้ารับการรักษาตัว ณ ตึกสิริกิติ์และตึกเฉลิมพระเกียรติ พร้อมมอบ "เหรียญบางระจัน" และประกาศนียบัตร ให้กับกำลังพลผู้บาดเจ็บ จำนวน ๗ นาย และมอบให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแสดงความขอบคุณในความเสียสละ ตามดำริของ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศเกียรติคุณและสร้างความภาคภูมิใจให้กับทหารผู้กล้าที่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ดังเช่นบรรพบุรุษไทยในอดีต ทั้งยังเป็นการสดุดีวีรบุรุษทหารกล้าเหล่านี้ 

สำหรับ "เหรียญบางระจัน" เป็นเหรียญที่จัดทำขึ้นเพื่อยกย่องผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ โดยชื่อเหรียญมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับวีรชนแห่งบ้านบางระจันที่ พลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ซึ่งสะท้อนถึงความกล้าหาญและความเสียสละที่ทหารหาญเหล่านี้ได้แสดงออกมา "วีรกรรมของท่านจะจารึกอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนานเท่านาน" เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้คนไทยรุ่นหลังได้จดจำและซาบซึ้งในความเสียสละของพวกเขา

"มูลนิธิไทย" เปิดตัว “รางวัลการทูตสาธารณะ ปี68” เชิดชูเกียรติผู้สร้างชื่อเสียงไทยสู่เวทีโลก

กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ มูลนิธิไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2568 (Thailand’s Public Diplomacy Award 2025 – TPDA2025) ณ ห้องแถลงข่าว กรมสารนิเทศ โดยมีนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย ร่วมกันแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า “รางวัลการทูตสาธารณะ” เป็นรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทยร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล   กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างประเทศ ที่มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในต่างประเทศ ในด้านสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม วัฒนธรรม กีฬา และนวัตกรรม ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในมิติที่สร้างสรรค์ สง่างาม และมีเกียรติภูมิ 

“การทูตไม่ได้จำกัดเพียงการสานความสัมพันธ์ในระดับรัฐต่อรัฐ แต่ประชาชนก็สามารถเป็นนักการทูตโดยการสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก ด้วยบทบาทหรือความสามารถของตัวเอง รางวัลนี้จึงไม่ใช่เพียงการมอบเกียรติยศให้แก่บุคคลผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกกลุ่มเห็นว่า 'ทุกคนสามารถสร้างการยอมรับให้กับประเทศไทยได้' โดยเฉพาะในโลกยุคใหม่ที่พรมแดนการสื่อสารไร้ขีดจำกัด”

นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว และได้มอบรางวัลมาแล้วทั้งสิ้น 4 ท่านกับหนึ่งองค์กร โดยมีผู้ได้รับประโยชน์ในวงกว้างและหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งปีนี้จะมีการมอบรางวัลจำนวน 1–3 รางวัลเช่นเคย  

“เรายินดีที่เห็นจำนวนผู้เสนอชื่อเพิ่มขึ้นในทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและการรับรู้ของสังคมไทยที่มีต่อบทบาทของการทูตสาธารณะอย่างกว้างขวาง ตัวอย่างเช่นในปีที่ผ่านมา มีผู้เสนอชื่อเข้ารับรางวัลถึง 21 ราย ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ”

สรุปรางวัลที่ผ่านมา (ปี 2565–2567):
ปี 2565: นพ. สุนทร อันตรเสน ผู้ดำเนินโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่กว่า 70 เมืองใน 7 ประเทศ นานกว่า 30 ปี ช่วยเหลือผู้คนกว่า 70,000 ราย

ปี 2566: โปรโม – โมรียา และโปรเม – เอรียา จุฑานุกาล สร้างชื่อเสียงในวงการกอล์ฟโลก เป็นแรงบันดาลใจเยาวชน นานกว่า 10 ปี 

ปี 2567 (3 รางวัล): พระพรหมพัชรญาณมุนี (พระอาจารย์ชยสาโร) ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอด 44 ปี ครอบคลุม 18 ประเทศทั่วโลก, สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์ไทย รวมถึงการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมมาอย่างยาวนานกว่า 120 ปี และนายสมเถา สุจริตกุล ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างสรรค์ผลงานดนตรีคลาสสิกระดับนานาชาติ และผู้เขียนหนังสือภาษาอังกฤษเกือบ 100 เล่ม ช่วยเผยแพร่มุมมองวัฒนธรรมและความเป็นไทยในเวทีโลกตลอดกว่า 50 ปี

สำหรับรางวัลการทูตสาธารณะประจำปี 2568 มีจำนวน 1-3 รางวัล โดยรางวัลจะประกอบด้วย 1) การจารึกชื่อผู้ได้รับรางวัลบนถ้วยรางวัล (Trophy) ที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” ซึ่งจะจัดแสดงที่กระทรวงการต่างประเทศ 2) การจารึกชื่อบนแผ่นป้ายเกียรติยศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ 3) ถ้วยรางวัลจำลองที่มีการสลักชื่อมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ได้รับรางวัล 4) ประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ และ 5) เงินรางวัลจำนวน 300,000 บาทต่อรางวัล 

การคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล ประจำปี 2568 จะดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการมูลนิธิไทย ผู้แทนภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน รวม 10 คน ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการมูลนิธิไทย ซึ่งจะร่วมกันพิจารณาผลงานของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และคัดกรองผู้สมควรได้รับรางวัลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการมูลนิธิไทย ซึ่งเป็นผู้ตัดสินในขั้นสุดท้าย 

ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถร่วมเสนอชื่อบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่สมควรได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2568 ได้  เปิดรับการเสนอชื่อ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 กรกฎาคม 2568 โดยจะประกาศผลในเดือนกันยายน 2568 และจัดพิธีมอบรางวัลในช่วงปลายปีนี้

"บิ๊กต้อม" นั่งประธานคัดนักกีฬายอดเยี่ยม ร่วมเชิดชู "หญิงเก่งวงการกีฬาไทย

วันที่ 20 มี.ค.2568 สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย จัดการประชุมกรรมการบริหารสมาคมฯ ที่ห้องประชุมสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ ภายในราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี นายวรวุฒิ พงษ์ธีระพล นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธาน/เหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และนายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย พร้อมกรรมการบริหาร เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดงานวันเกียรติยศ "วันนักกีฬายอดเยี่ยม ประจำปี 2567" ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค.68 ที่โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT หมายเลข 30 เวลา 13.00-15.00 น. โดยปีนี้ได้รับเกียรติจากคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เมมเบอร์) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานคณะกรรมการจัดงานฯ โดยมี นายธนา ไชยประสิทธิ์ เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณารางวัลฯ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งที่ประชุมได้วางกรอบการพิจารณารางวัลต่าง ๆ โดยหลักการจะพิจารณาผลงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2567 ส่วนจำนวนรางวัลที่จะมีการมอบให้นั้นที่ประชุมจะหารือกันอีกครั้ง

ขณะที่ "บิ๊กต้อม" กล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ที่มอบควาไว้วางใจให้ตนเองเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณารางวัลฯ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และความรอบรู้ของสื่อมวลชนสายกีฬาทุกท่านจะทำให้การจัดงานใหญ่ในปีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

"จากการที่ในปัจจุบันได้มีกลุ่มสตรีเข้ามามีบาทบาทและให้การสนับสนุนวงการกีฬามากขึ้นนั้น ผมก็อยากจะฝากให้คณะกรรมการฯ พิจารณารางวัลต่าง ๆ ในสัดส่วนตรงนี้ด้วย เพื่อเป็นการให้เกียรติและยกย่องสตรีผู้ที่มีความสามารถ ทุ่มเทและเสียสละ ทั้งแรงกายแรงใจให้กับวงการกีฬาไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของไอโอซี ที่ให้ความสำคัญกับสตรีทั่วโลก" บิ๊กต้อม กล่าว

สุดอาลัย!พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ บริจาคอวัยวะ ต่อลมหายใจ 5 ชีวิต

เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม. ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ขอไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ แด่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลห้องตรวจโรคเฉพาะทาง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ด้วยความเสียสละและความรับผิดชอบ จนได้รับคำชื่นชมจากผู้รับบริการมาโดยตลอด การจากลาอย่างไม่มีวันกลับ แต่เจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือผู้คนยังคงอยู่ กุศลจากผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ให้แก่ผู้รับ โดยได้บริจาคหัวใจ, ไต 2 ข้าง, ม้าม และหลอดเลือดดำอุ้งเชิงกราน ต่อลมหายใจอีก 5 ชีวิต 

ในวันนี้ (15 เมษายน 2567) คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ บุคลากรโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ร่วมไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ  ขอกุศลแห่งบุญในครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ พวกเราระลึกถึงความดีงามและความเสียสละตลอดไป

 

 

ขอบคุณข้อมูล:เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม.