"ออริจิ้น" ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ 3 รุ่น เปิดขาย 10-13 ก.พ.68 โชว์ยอดขายบ้าน-คอนโด 9 เดือน 26,849 ล้าน ทะลุ 77% ของเป้าหมายทั้งปี

ORI ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3 รุ่น คาดเปิดขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 ก.พ.นี้ ระดับความน่าเชื่อถือ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง กางพอร์ตที่อยู่อาศัย 9 เดือน ยอดขายแกร่ง 26,849 ล้าน ทะลุ 77% ของเป้าหมายทั้งปี พร้อมแบ็คล็อกแกร่ง 47,329 ล้าน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล-EEC-ภูเก็ต คาดทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 จาก 3 โครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่มูลค่าโครงการกว่า 7,430 ล้าน คว้าอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ “AAA” พร้อมรับการประเมิน CGR ระดับ 5 ดาวต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายมีจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40-4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15% ต่อปี โดย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดดังกล่าวในวันที่ 10-11 และ 13 ก.พ.68 

โดยที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.2567) บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งกลุ่มบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI และคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL และบริษัทอื่นๆ ในเครือ รวมกันกว่า 26,849 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 77% ของเป้าหมายทั้งปี

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากทั้งกลุ่มโครงการร่วมทุน (Joint Venture หรือ JV) และกลุ่มโครงการที่ไม่ได้ร่วมทุน (Non-JV) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์สะสม 9 เดือน 10,502 ล้านบาท เมื่อประกอบกับรายได้จากธุรกิจที่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่บริษัทได้วางรากฐานกระจายพอร์ตไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ดัง 11 แห่ง ธุรกิจคลังสินค้าหลากทำเลเปิดดำเนินการแล้วรวมกว่า 270,414 ตร.ม. ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งเครือในช่วงดังกล่าวสะสมอยู่ที่ 1,318 ล้านบาท

“เรายังมียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 สูงถึง 47,329 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้กระจายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตลอดจนหัวเมืองท่องเที่ยวศักยภาพอย่างภูเก็ต ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เรามีทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจนถึงราวปี 2571” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทจะมีโครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,430 ล้านบาท ซึ่งมีแบ็คล็อกจาก 3 โครงการดังกล่าวแล้วกว่า 80% ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การกระจายพอร์ตธุรกิจของบริษัทไปสู่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ถือเป็นทิศทางที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน โดยแนวโน้มของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้ามามีส่วนช่วยสร้างสมดุล และสร้างรายได้ให้แก่ให้พอร์ต โดยในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2567 โรงแรมในเครือมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยถึง 75% ธุรกิจคลังสินค้ามีอัตราการเช่าเฉลี่ยถึง 90%

โดยจากผลการดำเนินงานที่ต่อเนื่องและมั่นคง ใส่ใจสังคมและชุมชนรอบข้าง ส่งผลให้บริษัทได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ถึง 4 ปีซ้อน พร้อมทั้งได้รับการปรับระดับจาก AA ในปี 2566 สู่ระดับ “AAA” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษามาตรฐานผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน พัฒนาองค์กรให้เติบโต บริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ขณะเดียวกัน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies หรือ CGR ประจำปี 2567 ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อนอีกด้วย

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

"ออริจิ้น" กางพอร์ตธุรกิจโรงแรม-คลังสินค้า-บริการ อัตราเข้าพัก-อัตราเช่า Q4/2567 โตต่อเนื่อง ขับเคลื่อนการเติบโตยั่งยืน

"ออริจิ้น" กางพอร์ต 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ โรงแรม-คลังสินค้า-บริการ ขึ้นแท่น New S-Curve ขับเคลื่อนสร้างสมดุลการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมโรงแรมแบรนด์ดัง 11 แห่ง 2,657 ห้อง คลังสินค้าทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง 10 แห่ง และบริการอสังหาฯครบวงจรดูแล 44,650 ครอบครัว แย้มอัตราเข้าพักโรงแรมเดือน ต.ค.-พ.ย. ทะลุ 75% อัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90% หลังตลาดเข้าช่วงไฮซีซั่นและฟรีวีซีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร กวาดรายได้ 9 เดือนกว่า 1,205 ล้าน วางรากฐาน New S-Curve เติบโตยั่งยืน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลอดช่วงการดำเนินธุรกิจ 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงไม่ได้พัฒนาเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย (Residential) แต่ได้วางรากฐานการกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) อย่างธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

สำหรับธุรกิจโรงแรม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง 2,657 ห้องพัก คิดเป็นมูลค่า REIT รวมกว่า 16,840 ล้านบาท เติบโตผ่านทั้งการจับมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก อย่างเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ให้บริการโรงแรมถึง 5 แห่ง อาทิ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท การซื้อกิจการโรงแรมแบรนด์ ibis ในเครือแอคคอร์ (Accor) ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว 3 แห่ง ตลอดจนการซื้อโรงแรมในทำเลศักยภาพมารีโนเวทเพื่อดำเนินการใหม่เพิ่มเติม

ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้า ภายใต้บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด มีคลังสินค้าทั้งแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit Warehouse) และคลังสินค้าแบบสำเร็จรูป (Ready-Built Warehouse) กระจายตัวอยู่ 10 แห่ง ในหลากหลายทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 403,447 ตร.ม.

“สิ่งที่เราพยายามลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเข้ามาช่วยให้พอร์ตธุรกิจเราค่อยๆ สมดุลมากขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4/2567 กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 75% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากเริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ และเป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ภาครัฐมีนโยบายฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ฝั่งคลังสินค้าเองก็มีอัตราการเช่าที่แข็งแกร่งทะลุ 90%” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI นั้น ปัจจุบัน ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งควบคุมงานก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล บริหาร Investment Property บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการด้านความสะอาด รวม 229 โครงการ คิดเป็นจำนวนครอบครัวภายใต้การดูแลกว่า 44,650 ครอบครัว มีรายได้รวม 9 เดือน 1,205 ล้านบาท และกำไร 224 ล้านบาท

ขณะเดียวกันธุรกิจบริหาร Investment Property ภายใต้บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ก็มีอัตราเช่าเฉลี่ยสูงถึง 81% สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแบบปล่อยเช่าทั้งในโซนย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และย่านเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีความต้องการจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

15 ปี "ออริจิ้น" กางพอร์ตพัฒนาอสังหาฯ EEC เบอร์ 1 สะสม 3.7 หมื่นล้าน ชูกลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ปั้นคอนโด-บ้าน-คลังสินค้า-บริการสู่ภาคธุรกิจ

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมพลัง ออริจิ้น เวอร์ติเคิล-บริทาเนีย-ออริจิ้น โฮเทล-แอลฟา-พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น กางพอร์ตอสังหาฯครบวงจรเบอร์ 1 ใน EEC พัฒนาคอนโด-บ้าน-โรงแรม-คลังสินค้า ในชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา สะสมถึงปัจจุบันกว่า 37,000 ล้าน กว่า 12,000 ยูนิต 550 ห้องพัก และคลังสินค้าราว 199,000 ตร.ม. ชูกลยุทธ์ภาพใหญ่ “Origin EEC Empowered” เชื่อมโยงอีโคซิสเท็มอสังหาฯและบริการในเครือแบบครบวงจร เสิร์ฟตลาด Corporate-นักลงทุนที่สยายปีกปักหมุดโรงงาน-ฐานการผลิตใน EEC ประเมินความต้องการคลังสินค้าโต ลุยมอบบริการในที่พัก เสริมสวัสดิการ Corporate ดูแลพนักงาน-Expat ย้ายถิ่นฐานทำงาน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญระดับท็อปของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญในการเข้ามาบุกเบิกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรกๆ โดยตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้มีส่วนสร้างการเจริญเติบโตในพื้นที่ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ด้วยการพัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า สะสมในพื้นที่รวม 33 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการและมูลค่า REIT รวมกว่า 37,000 ล้านบาท และนับเป็นพอร์ตโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรที่สุดเป็นอันดับ 1 ใน EEC ขณะนี้

โดยจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทและหลากหลายเซ็กเมนท์ใน EEC บริษัทเล็งเห็นความสำคัญถึงการมีส่วนสนับสนุนภาคธุรกิจต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้ บริษัทจึงได้ผนึกกำลังกับทุกบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เดินหน้ากลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ส่งพลังสู่ EEC ด้วยการรวมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในเครือมาเชื่อมโยงเป็นอีโคซิสเท็ม และส่งมอบโซลูชั่นบริการแก่ลูกค้าภาคธุรกิจ (Corporate) แบบครบจบในที่เดียว (One-stop service)

“เราประเมินว่าคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC ไม่ได้มีแค่ลูกค้าทั่วไป ตลาดใน EEC วันนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงกลุ่มลูกค้า Corporate ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ และต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับพนักงานชาวไทยที่ย้ายถิ่นฐานจากจังหวัดอื่น รวมถึงพนักงานชาวต่างชาติหรือ Expat ที่ย้ายถิ่นฐานจากต่างประเทศเข้ามาทำงาน เวลา Corporate เข้ามาจะไม่ได้หาแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการโซลูชั่นที่ช่วยให้สามารถทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เราจึงรวบรวมที่อยู่อาศัยที่เราพัฒนาสะสมกว่า 12,000 ยูนิต โรงแรมทั้งในชลบุรี และระยอง 550 ห้องพัก พร้อมพื้นที่รองรับการจัดประชุมสัมมนา พื้นที่เช่าคลังสินค้า ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัย มารวมกันพร้อมเสิร์ฟในที่เดียว ซึ่งน่าจะช่วยให้แผนการขยายการลงทุนของบริษัทต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น”​ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ด้านนายปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD กล่าวว่า โซน EEC เป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจเติบโตสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย GDP ทั้งประเทศ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนของภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 5 ปี (2567-2571) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตั้งเป้าหมายดึงดูดการลงทุนเข้ามาในพื้นที่มูลค่า 5 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้านบาท จึงส่งผลให้ความต้องการโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“โรงงานและคลังสินค้า คือจุดเริ่มต้นของอีโคซิสเท็มใน EEC ปัจจุบัน แอลฟา มีโครงการคลังสินค้าในพื้นที่ EEC ทั้งสิ้น 5 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 199,000 ตร.ม. โดยบางส่วนทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้ส่งมอบแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 มีอัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 80% และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ส่วนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกกว่า 87,000 ตร.ม. จะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 1/2568 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าใน EEC อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่า บริษัทมีความพร้อมรองรับทุกการลงทุนจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการดำเนินธุรกิจของลูกค้าทุกๆด้าน และเชื่อมต่อกับความครบวงจรของสินค้าและบริการอื่นๆ ในเครือออริจิ้น” นายปธานกล่าว

ด้านนายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI กล่าวว่า EEC เปรียบเสมือน Destination hub หรือจุดหมายปลายทางของการลงทุนทางธุรกิจ โดยเฉพาะการตั้งโรงงานผลิตของธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของทั้งแรงงานชาวไทย และชาวต่างชาติ เพิ่มมากขึ้น โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ถึง 179,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 17% โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีประชากรในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอีกราว 1.2-1.5 ล้านคนภายในปี 2580

ทั้งนี้ PRI พร้อมร่วมเชื่อมโยงอีโคซิสเท็มภายใต้กลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ด้วยการนำ The exceptional prime service จากทุกบริษัทในเครือพรีโม มาส่งมอบบริการที่สมบูรณ์แบบให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในทุกมิติ สู่ภาค EEC ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ที่มีความต้องการบริการที่แตกต่างกัน

สำหรับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้นำที่เข้ามาบุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC มีโครงการขนาดใหญ่เป็นโครงการมิกซ์ยูสถึง 2 แห่ง ได้แก่ ออริจิ้น สมาร์ท ดิสทริค ศรีราชา แหลมฉบัง และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง มีโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หลากหลายแบรนด์ อาทิ เคนซิงตัน ไนท์บริดจ์ ดิ ออริจิ้น โซ ออริจิ้น บริกซ์ตัน มีโครงการบ้านมิกซ์โปรดักท์ภายใต้แบรนด์บริทาเนีย มีโรงแรมภายใต้เครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ที่เปิดให้บริการใน EEC แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง มีคลังสินค้าภายใต้แบรนด์แอลฟา อาทิ โครงการแอลฟา แหลมฉบัง และแอลฟา พานทอง

ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลายประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

"ออริจิ้น-บริทาเนีย" เปิดตัวแคมเปญใหม่ Q4 “จุ่มเด็ด Secret Deals” ยกทัพบ้าน-คอนโดพร้อมอยู่ 70 โครงการ ชวนจุ่มรับดีลเด็ด ลุ้นส่วนลดสูงสุด 5 ล้าน

ออริจิ้น เวอร์ติเคิล - บริทาเนีย จับเทรนด์กล่องสุ่ม เปิดตัวแคมเปญคอนโด-บ้านไตรมาส 4 "จุ่มเด็ด Secret Deals" ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ 70 โครงการจับมือหลากพันธมิตร อาทิ NocNoc, WydE Interior ชวนลูกค้าจุ่มดีลเด็ด รับโปรเพิ่มสูงสุด 10 รายการ, ผ่อนต่ำล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี,ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี และรับส่วนลดสูงสุด 5 ล้าน วันนี้-30 พ.ย.67 พร้อมจัดโปรฯ ใหญ่ไฟกระพริบ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด 31 ต.ค.-3 พ.ย.นี้

นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ประจำไตรมาส 4/2567 ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals” จัดทัพโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่    ทาวน์โฮม พร้อมอยู่จากหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายแบรนด์ รวมกว่า 70 โครงการทั่วประเทศ มามอบสิทธิ์จุ่มดีลเด็ด พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 4 ชั้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ก่อนปีใหม่

สำหรับสิทธิพิเศษ 4 ชั้น ประกอบด้วย 1.ดีลเด็ดไม่ต้องจุ่ม มอบสิทธิพิเศษผ่อนเบาๆ เริ่มต้นเพียงล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0%* นานสูงสุด 2 ปี* 2.จุ่มใหญ่ไฟกระพริบ ลุ้นรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* 3. ดีลดี ON TOP จาก NocNoc* และ 4. จุ่มเด็ดตลอดเดือน จองปุ๊บจุ่มปั๊บ รับ Art Toys สุดน่ารักทุกห้อง พร้อมรับดีลลับจากหลากหลายพันธมิตร

“ไตรมาส 4 คือช่วงเวลาก่อนปีใหม่ เราอยากให้ลูกค้าได้ทั้งความสนุกส่งท้ายปี ได้ทั้ง Art Toys สุดฮิตในเวลานี้และตัว Secret สุดว๊าวที่ทุกคนตามหา รวมถึงได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแห่งใหม่จากเครือของเรา ที่มีฟังก์ชันพร้อมตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชันทั่วประเทศ เราคิดว่าแคมเปญและโปรโมชั่นทั้งหมดนี้ คือของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าของเรา” นายกฤษณ์​ กล่าว

ขณะที่ฝั่งคอนโดมิเนียม บริษัทนำทัพโครงการพร้อมอยู่จากหลากทำเลทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เข้าร่วมจำนวน 31 โครงการ ภายใต้หลากหลายแบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) มีหลากจุดเด่นให้เลือก ตั้งแต่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า สายสีเขียว สายสีม่วง สายสีเหลือง สายสีส้ม คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แนวคิด Origin Pet Friendly Condo คอนโดเพดานสูง 4.2 เมตร คอนโดใจกลางเมือง จุฬา-สามย่าน พญาไท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ คอนโด EEC ใกล้แหล่งงาน ใกล้นิคม คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท คาดว่าจะพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งผู้ซื้ออยู่เอง และผู้ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว

ด้านนายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ไตรมาส 4 ของทุกปี คือช่วงเวลาที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด ส่วนหนึ่งคือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จึงเป็นโอกาสทองที่จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับของขวัญปีใหม่แบบหลายเด้ง ไปพร้อมกับบ้านหลังใหม่ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองรักอย่างมีความสุขในปี 2568

สำหรับบริทาเนีย ได้นำบ้านจัดสรรพร้อมอยู่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลักของบริทาเนีย ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) รวม 39 โครงการ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั้งในโซน บางนา - บางพลี - บางบ่อ, แพรกษา - เทพารักษ์, พระราม 9 - กรุงเทพกรีฑา, ทวีวัฒนา - ปิ่นเกล้า - บรมราชชนนี, รามอินทรา - วัชรพล - จตุโชติ, สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ - พระราม 2, พระราม 5 - ราชพฤกษ์ - นนทบุรี, สายไหม - คูคต, บางปะกง - ฉะเชิงเทรา - อมตะนคร, ต่างจังหวัด มาร่วมแคมเปญ ราคาเริ่ม เริ่ม 2.44 - 40 ล้านบาท*

“บริทาเนียโดดเด่นเรื่องบ้านสไตล์อังกฤษ และสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เราให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทาง โครงการของเราทุกแห่งจึงมีมุมพักผ่อนสำหรับทุกคนในบ้าน ตั้งอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ทางด่วน รถไฟฟ้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม โรงพยาบาล และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ เราเชื่อว่าบ้านของเราและแคมเปญส่งท้ายปีนี้ จะช่วยมอบความสุขให้กับลูกค้า” นายสิริพงศ์ กล่าว

สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนท์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 43 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 54,122 ล้านบาท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

"ออริจิ้น" มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ทั่วประเทศ 12,580 ล้านบาท กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 26,800 ล้านบาท

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ในเครือทั่วประเทศ รวมกว่า 12,580 ล้านบาท ชู 5 จุดเด่นมัดใจผู้ซื้อ วิวสวย-ห้องและส่วนกลางโอ่อ่า-มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน-เลี้ยงสัตว์ได้-เดินทางสะดวก ปักหมุดหลากทำเล แจ้งวัฒนะ-เตาปูน-เศรษฐบุตร-ราชพฤกษ์-เวสต์เกต-ภูเก็ต-ชลบุรี-โคราช ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้าน เอาใจทั้งผู้ซื้ออยู่เอง-ซื้อปล่อยเช่า กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 26,817 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของเป้าหมาย คาดเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 4/2567 เพิ่มอีก 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 15,000 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทำเลในการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในปีนี้อย่างเข้มข้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนการวางคอนเซ็ปต์แนวคิดแต่ละโครงการอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน สามารถเข้าถึงโครงการคุณภาพที่มีความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ

สำหรับปัจจัยที่บริษัทใช้เป็นจุดแข็งที่โครงการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ต้องมี ได้แก่ 1.วิวสวย เช่น หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เน้นเลือกทำเลโครงการที่มองเห็นวิวโค้งน้ำ ตลอดจนวิวเมืองได้อย่างรอบทิศจากพื้นที่ส่วนกลาง สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนในที่อยู่อาศัย 2.ห้องและพื้นที่ส่วนกลางโอ่อ่า ให้ความสำคัญกับความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายของการพักอาศัยทั้งภายในพื้นที่ส่วนกลาง และภายในห้องพัก เช่น การมีห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร 3.มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว สามารถมีความสุขที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 4.เลี้ยงสัตว์ได้ ใส่ใจพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly) รองรับการเติบโตของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) และ 5.เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน ตลอดจนสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิต เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า

“สภาพเศรษฐกิจปีนี้ อาจมีสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและภายนอกต้องจับตาอย่างใกล้ชิดหลายอย่าง ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่ม แม้จะมีกำลังซื้อ แต่ก็ตัดสินใจซื้อช้าลงกว่าปกติ อย่างไรก็ดี บ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษในปีนี้ จึงเป็นการเลือกเปิดตัวเฉพาะโครงการที่มีองค์ประกอบความโดดเด่นครบถ้วน กระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่า เรากำลังมีของดีมานำเสนอ และเป็นของดีที่พลาดไม่ได้” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้คัดเลือกโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เป็นไฮไลต์เปิดตัวใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มา 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 12,580 ล้านบาท ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น บางเทา บีช คอนโดมิเนียมลักชัวรี 8 ชั้น 3 อาคาร ภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต | บางเทา บีช ติดหาดบางเทา หาดที่วิวพระอาทิตย์สวยที่สุด 2.ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านเตาปูน มองเห็นวิวแบบพาโนรามิก ทั้งวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา วิวเมือง วิวสวนจตุจักร 3.ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านแจ้งวัฒนะ มาพร้อมห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร สูงที่สุดในแจ้งวัฒนะ

4.ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู มาพร้อม Smart Kitchen และ Smart Energy เช่น EV Charger, Solar Roof 5.ดิ ออริจิ้น ศรีราชา โครงการภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น สมาร์ท วิลเลจ ศรีราชา ใกล้ห้าง โรงเรียนดัง ในศรีราชา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท 6. แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า เขาใหญ่ ในพื้นที่อาณาจักรมิกซ์ยูส “ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด | เขาใหญ่” 7.บริทาเนีย เวสต์เกต โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ติดถนนสายหลักย่านบางใหญ่ ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต มาพร้อมคลับเฮาส์และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และ 8.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่สไตล์อังกฤษ มาพร้อม Main Gate และคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ตัวบ้านพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 8 โครงการดังกล่าว ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทเตรียมพิจารณาเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในเครือรวม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นของแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ปัจจัยภายนอก ตลอดจนความต้องการของแต่ละทำเล โดยอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสม ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมแคมเปญสำหรับการกระตุ้นยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์สำหรับฝั่งโครงการพร้อมอยู่เพิ่มเติม คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้เร็วๆนี้ ล่าสุดบริษัทมียอดขายสะสมในช่วง 9 เดือนแล้ว 26,817 ล้านบาท หรือประมาณ 67% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร


 

"ออริจิ้น" เปิดตัวแคมเปญ “ที่ดินแลกคอนโดใจกลาง CBD” เปิดทางแลนด์ลอร์ด แลกที่ดินศักยภาพทั่วประเทศสู่คอนโดสร้างรายได้

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวแคมเปญ “ที่ดินแลกคอนโดใจกลาง CBD” เปิดทางเจ้าของที่ดินหลากทำเล นำที่ดินเปล่าทำเลศักยภาพทั่วประเทศ แลกเปลี่ยนเป็นคอนโดโซน CBD พร้อมอยู่ที่สามารถสร้างรายได้ทันที ชู 3 ข้อดี ลดการเสียโอกาสที่ดินทิ้งร้าง-ลดภาระภาษีเมื่อเทียบกับภาษีที่อยู่อาศัย-และเปิดโอกาสสร้างรายได้ในทันที เล็งกลุ่มทำเลที่พัฒนาต่อยอดทางธุรกิจได้ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดทั่วประเทศ จ่อเปลี่ยนที่ดินใหม่สู่โครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ

นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้เปิดโอกาสการสร้างความร่วมมือกับเจ้าของที่ดิน (Landlord) ทั่วประเทศ ในการเข้ามาร่วมทุนกับบริษัท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและแบ่งปันผลตอบแทนร่วมกัน ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโมเดลใหม่ในการสร้างความร่วมมือกับ Landlord ภายใต้แคมเปญ “ที่ดินแลกคอนโดใจกลาง CBD” เปิดทางเจ้าของที่ดินทำเลศักยภาพทั่วประเทศ นำที่ดินมาแลกเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ นำร่องแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) โครงการระดับลักชัวรี ในทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) 5 ทำเล ได้แก่ พร้อมพงษ์, ทองหล่อ,​ พญาไท, ราชเทวี และจุฬา-สามย่าน

“Pain Point ใหญ่ของ Landlord หลายรายคือ มีที่ดิน แต่ยังไม่สามารถทำให้เกิดรายได้ แถมยังก่อให้เกิดรายจ่ายจากภาษีที่ดินอย่างต่อเนื่อง เพราะตัว​ Landlord หากลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาจจะต้องเจอความเสี่ยง และใช้เงินลงทุนสูง การร่วมทุนเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับ Landlord ที่ยังคงต้องการเป็นเจ้าของที่ดินและเจ้าของธุรกิจ และในวันนี้เรามีข้อเสนอที่เป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ทันที โดยไม่ต้องรอการพัฒนา” นายกฤษณ์กล่าว

ทั้งนี้ แคมเปญนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์กับ Landlord 3 ข้อ ได้แก่ 1.ลดการเสียโอกาสจากการปล่อยที่ดินทิ้งร้าง 2.ลดภาระทางภาษี เนื่องจากภาษีสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่อยู่อาศัย รวมถึงคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน มีอัตราการจัดเก็บอยู่ที่ 0.02-0.10% ต่อปี ขึ้นกับมูลค่าของที่อยู่อาศัยนั้นๆ ขณะที่ภาษีที่ดินรกร้าง ที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์มีอัตราภาษีถึง 0.3-0.7% ต่อปี และเพิ่มอีก 0.3% ทุก 3 ปี 3.เพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมได้ เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมในย่าน CBD ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้เช่าอย่างมาก โดยมีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าที่คุ้มค่า อย่างเช่น โครงการพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ มีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า สูงถึง 5-7% และปัจจุบันมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในห้องพักภายใต้ Origin Investment Property Program (Origin IP Program) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 85%

นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงมีความสนใจที่ดินที่สามารถพัฒนาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มที่อยู่อาศัย อย่างคอนโดมิเนียมและบ้าน หรือโครงการที่สร้างรายได้ประจำ อย่าง โรงแรม และคลังสินค้า ขึ้นอยู่กับทำเล ขนาดของที่ดิน และความเหมาะสมอื่นๆ ทั้งนี้หากเป็นที่ดินที่อยู่ใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก บริษัทจะรับพิจารณาเป็นพิเศษ สำหรับเจ้าของที่ดิน จะได้รับจำนวนห้องพักคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับราคาที่ดินที่ตกลงกัน โดยสามารถเลือกห้องพักจากโครงการเดียวกัน หรือเลือกโครงการต่างทำเลกันได้ ผู้ที่สนใจสามารถส่งรายละเอียดที่ดินเข้ามาประเมินได้ที่ https://oriurl.com/landforcondo

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภูเก็ตคึกต่อเนื่อง! ต่างชาติเหมา 2 คอนโดใหม่ออริจิ้นยกตึกก่อนเปิดขายจริง “โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต” และ “ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต”

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โกยยอดขายอสังหาฯภูเก็ตต่อเนื่องอีกกว่า 1,000 ล้าน หลังต่างชาติรุมเหมา 2 คอนโดใหม่ “โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต” และ “ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต” แบบยกตึก ตั้งแต่ยังไม่เปิดขายจริง ผลจากการเปิดตัว Origin Agent Club ผนึกกำลังเอเจนต์หลากหลายสัญชาติ หนุนตลาดรัสเซีย-ไต้หวัน-ฮ่องกง-สิงคโปร์ เข้าถึงโครงการใหม่เพิ่มขึ้น เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการทั้ง 2 โครงการภายใน ก.ย.นี้ พร้อมเล็งเปิดตัวอีก 3 โครงการใหม่ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทสามารถกวาดยอดขายจากตลาดต่างชาติสำหรับ 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ได้แก่ 1.โซ​ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) และ 2.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) ในตึกที่เป็นโควตาของผู้ซื้อชาวต่างชาติ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท

โดยที่ผ่านมา ออริจิ้น ได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,150 ล้านบาท ได้แก่ 1.ดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) โครงการใจกลางเมืองภูเก็ตที่สามารถปิดการขายได้ภายใน 6 สัปดาห์  2.ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง (The Origin Kathu-Patong) โครงการใหม่ในโซนกะทู้ และ 3.โซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) โครงการที่เพิ่งเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2567 โดยมียอดขายสะสมจาก 3 โครงการดังกล่าวจนถึงเดือน มิ.ย.2567 รวมกว่า 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 80% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด

นายธนกร วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว Origin Agent Club เมื่อต้นปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้เรามีพันธมิตรเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทุกโครงการของออริจิ้น สามารถเข้าถึงตลาดต่างชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะรัสเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง เเละสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดหลักของภูเก็ต โดยทุกโครงการของเราตั้งอยู่บนทำเลที่เป็น Top Destination ของภูเก็ตอย่างโซนกะตะ และโซนใจกลางเมืองภูเก็ต อีกทั้งตัวโครงการยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกเเบบมาอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับการพักผ่อนเเละอยู่อาศัย จึงส่งผลให้บริษัทสามารถกวาดยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ขณะที่โครงการออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต จะเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง อย่างเป็นทางการตั้งเเต่วันที่ 7 กันยายนนี้เป็นต้นไป ส่วนโครงการโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต จะเปิดขายรอบต่างชาติอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 - 29 กันยายนนี้  

ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการบุกตลาดในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นตลาดศักยภาพสูง มีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้งชาวไทยที่ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ กลุ่มนักลงทุนระยะยาว รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งบริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมเเละพูลวิลล่าอีก 3 โครงการใหม่ต่อเนื่องในช่วงเร็วๆ นี้

สำหรับโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร 686 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร  มูลค่าโครงการราว 1,650 ล้านบาท ตัวโครงการตั้งอยู่บน Surfer Destination ของเกาะภูเก็ต ตอบโจทย์คนรักกีฬาทางน้ำด้วยทำเลใกล้หาดกะตะ สามารถเดินไปได้เพียง 5 นาที โครงการตกแต่งเป็น Resort Lifestyle  จัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมกว่า 2,700 ตร.ม. อาทิ Pool Lounge, Party Room, Play Room, Cabana Yard และ ให้คุณได้ดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ขึ้นจาก Rooftop รูปแบบห้องพักภายในโครงการประกอบด้วย ห้องสตูดิโอ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 26-65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท

ด้านออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 3  อาคาร 587 ยูนิต และ 2 ร้านค้า ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,450 ล้านบาท โครงการนี้ตั้งอยู่ใจกลางภูเก็ต ห่างจากห้างเซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า เพียง 2 นาที ทำให้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติที่มองหาความสะดวกสบายใจกลางเมือง จุดเด่นของโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่กว่า 1 โร่ พร้อม Clubhouse เเบ่งออกเป็น Fitness, Sauna, Steam พร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 30 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 45%. ไฮไลท์สำคัญของโครงการคือรูปเเบบห้องหน้ากว้างกว่า 5 เมตร เริ่มต้นที่ 1 ห้องนอน ขนาด 26-30 ตร.ม,และ 2 ห้องนอนขนาด 48 ตร.ม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท

 

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), 
ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

 

 

 

Origin Affiliate Club ชวนคนทั่วไป-อินฟลู ลูกบ้าน สร้างรายได้รับค่าแนะนำ ยกทัพบ้าน-คอนโดพร้อมอยู่-พรีเซลทั่วไทย ร่วมแคมเปญ สูงสุด 1 ล้าน

ORIGIN VERTICAL ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดแคมเปญ ORIGIN LIVE รับล้าน และ Everyone Can Sell เดินหน้าเปิดตัว Origin Affiliate Club ชวนคนทั่วไป-อินฟลูเอนเซอร์ สร้างรายได้จากการขายบ้าน-คอนโดผ่านช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ ยกทัพทั้งโครงการพร้อมอยู่-พรีเซลล์ ทั่วไทยทุกโครงการร่วมแคมเปญ พร้อมสิทธิ์รับค่าแนะนำสูงสุด 1 ล้านบาท ถึงสิ้นปี 2567 พิเศษ รับ Top Up ค่าแนะนำ X2 สำหรับผู้แนะนำภายใน 31 ตุลาคมนี้

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเปิดตัว “Origin Affiliate Club” เปิดทางทั้งบุคคลทั่วไปและอินฟลูเอนเซอร์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกคลับ เพื่อสร้างรายได้พิเศษจากการแนะนำ และปิดการขาย-โอน โครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในเครือออริจิ้นและบริทาเนียทุกโครงการทั่วไทย

“ตอน COVID-19 เรามีแคมเปญ Everyone Can Sell ที่เปลี่ยนพนักงานทุกคนทุกตำแหน่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ นำเสนอสินค้าที่อยู่อาศัยไปยังกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง ช่วง พ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา เรามีแคมเปญ ORIGIN LIVE รับล้าน เปิดทาง Influencer มาช่วยกันขายออนไลน์รับค่าคอม ทั้ง 2 แคมเปญ สร้างยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะบุคคลเหล่านี้รู้ใจ รู้ปัญหา และรู้ความต้องการของคนรอบตัวหรือผู้ติดตามที่กำลังสื่อสารด้วยดีที่สุด จึงทำให้สามารถนำเสนอสินค้าออกไปได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น การเปิด Origin Affiliate Club จะเป็นการต่อยอดจากทั้ง 2 แคมเปญนี้ ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ Origin Affiliate Club จะเปิดรับทั้งบุคคลทั่วไปและอินฟลูเอนเซอร์ มาร่วมกันแนะนำโครงการทั้งกลุ่มที่เพิ่งเปิดขาย (presales) กลุ่มโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (ongoing) และกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (ready to move) ไปให้แก่ผู้บริโภครายใหม่ ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนในระบบของเครือออริจิ้นในปี 2567 เปิดกว้างการแนะนำทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยกลุ่มโครงการ presales และ ongoing จะมีค่าแนะนำเริ่มต้น ล้านละ 1,000 บาท ขณะที่กลุ่มโครงการพร้อมอยู่ จะมีค่าแนะนำเริ่มต้นที่ ล้านละ 5,000 บาท และมีค่าแนะนำสูงสุดถึง 1,000,000 บาท ผู้สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก Origin Affiliate Club และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://origin.co.th/origin-affiliate/ หรือ LINEOA : @origin.affiliate

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มโครงการที่เข้าร่วมครั้งนี้ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมทุกแบรนด์ ทุกเซ็กเมนท์ในเครือ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) ออริจิ้น เพลส (Origin Place) ไนท์บริดจ์​ (KnightsBridge) โซ ออริจิ้น (So Origin) ไปจนถึงพาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) ครอบคลุมทำเลทั้งโซนย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และย่านใจกลางธุรกิจใหม่​ (New CBD) เช่น พร้อมพงษ์ ทองหล่อ พญาไท สาทร พระราม 9 โครงการใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเหลือง สายสีชมพู หลากหลายสถานี ตลอดจนโครงการในต่างจังหวัด ตั้งแต่แถบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น บางแสน ศรีราชา ระยอง หัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต Campus Condo โซนใกล้มหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนี้ ยังครอบคลุมทั้งคอนโดทั่วไป และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้ Origin Pet Family อีกด้วย

ขณะที่ฝั่งบ้านจัดสรร ประกอบด้วย แบรนด์ไบรตัน (Brighton) บริทาเนีย (Britania) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และเบลกราเวีย (Belgravia) ครอบคลุมทำเลใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ โรงเรียนนานาชาติ ทางด่วน เดินทางสะดวก โดยตัวแคมเปญจะสามารถรวมยอดการขายสะสมได้ถึง 31 ธันวาคม นี้

สำหรับจุดแข็งของ Origin Affiliate Club ประกอบด้วย 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร อยู่ในทำเลที่หลากหลาย สมาชิกคลับสามารถเลือกได้ 2.มีโครงการหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายระดับราคา ช่วยให้สมาชิกเลือกแนะนำได้ตามความถนัดของตัวเอง 3.สามารถทำได้ง่าย แค่ review, post, share พร้อมแนบลิงค์ส่วนตัว และส่งรายชื่อของผู้ที่สนใจเข้ามาในระบบ 4.มีกิจกรรมมากมายให้สมาชิกได้มีส่วนร่วม

“แคมเปญนี้ สร้างประโยชน์ให้แก่คนทุกกลุ่ม สมาชิก Club ได้โอกาสสร้างรายได้ใหม่ๆ ผู้บริโภคได้บ้าน-คอนโดตรงใจ จากการแนะนำของบุคคลที่เข้าใจ เราจึงเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะมีผู้สนใจสมัครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้โครงการที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชันหลากหลายของเรา เข้าถึงผู้บริโภคใหม่ๆ ได้กว้างขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

"ออริจิ้น" โชว์แบ็คล็อกบ้าน-คอนโดแกร่ง 47,135 ล้าน กวาดรายได้ครึ่งปีแรกกว่า 6,600 ล้าน Q3/67 จ่อโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มจาก 5 โครงการ

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โชว์แบ็คล็อกแกร่งกว่า 47,135 ล้าน หลังครึ่งปีแรก กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดเพิ่มกว่า 18,331 ล้าน และรับรู้รายได้รวมแล้วกว่า 6,651 ล้าน ไตรมาส 3/2567 จ่อโอนกรรมสิทธิ์คอนโดใหม่เพิ่ม โซนรถไฟฟ้าสายสีเขียว 3 ทำเล โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์, ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4, ออริจิ้น เพลย์ พหล 50 สเตชั่น มีแบ็คล็อกรวมประมาณ 90% ของมูลค่าโครงการ หรือกว่า 4,200 ล้าน รวมแบ็คล็อกที่จะทยอยโอนก่อนหน้ารวมเป็น 9,600 ล้าน ครึ่งปีหลังชูกลยุทธ์เน้นเปิดโครงการใหม่ในทำเลที่มีความต้องการสูง พร้อมกระจายพอร์ตลุยลูกค้าอยู่เอง-นักลงทุนระยะยาว-Corporate-ตลาดต่างชาติ ด้านคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เปิดใหม่ “ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” กวาดยอดขายสะสมทะลุ 60% หลังเปิดตัวเพียง 3 เดือน คอนโดในภูเก็ตฮอต กวาดยอดขาย 7 เดือน สะสมแล้วกว่า 80% เตรียมเปิดโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต ตอกย้ำโซนฮอตไตรมาส 4/2567 นี้ ด้านบ้านจัดสรรนำร่องโดย โครงการ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 สะสมยอดขายกว่า 60%

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 (30 มิ.ย.2567) บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็คล็อก) จากทั้งโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม 47,135 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 มียอดขายจากโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกว่า 18,331 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยอดแบ็คล็อกดังกล่าว จะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ไปจนถึงปี 2571 เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 นี้ จะมีโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จใหม่โซน BTS สายสีเขียว ที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (So Origin Kaset Interchange) โครงการใกล้ BTS สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama 4)​ โครงการใกล้ BTS พระโขนง และ 3.ออริจิ้น เพลย์ พหล 50 สเตชั่น (Origin Play Phahol 50 Station) โครงการใกล้ BTS สถานีพหลโยธิน 50 โดยเป็นโครงการที่มีมูลค่าแบ็คล็อกพร้อมโอนจากทั้ง 3 โครงการรวมประมาณ 4,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 90% ของมูลค่าโครงการ ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะทยอยโอนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 อีก 2 โครงการ ได้แก่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) และออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น (Origin Play Sri Udom Station) มีมูลค่าแบ็คล็อกพร้อมโอนต่อเนื่องอีกราว 2,400 ล้านบาท

“เศรษฐกิจปีนี้ไม่ง่าย แต่ด้วยแบ็คล็อกที่เราวางแผนเปิดโครงการ และสะสมยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังคงมีรายได้ที่รอรับรู้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเราเองยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจัยภายนอก” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายพีระพงศ์​ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีกประมาณ 11,000 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปแล้วราว 8,980 ล้านบาท สำหรับทำเลของโครงการที่จะพัฒนานั้น จะมีความยืดหยุ่นในการเลือกพัฒนามากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการจริงของตลาดแต่ละทำเล มีการทดสอบการตอบรับของลูกค้าก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ เน้นเปิดตัวเฉพาะโครงการที่มีจุดเด่นชัดเจน มีการตอบรับที่แข็งแกร่ง และอาจปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม โดยบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ ยังยึดแนวทางการร่วมทุนเป็นหลัก เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มคู่คิดที่มีความชำนาญในทำเล

ขณะที่กลุ่มโครงการพร้อมอยู่ บริษัทเตรียมเดินหน้าจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ประสบปัญหาด้านการขอสินเชื่อ อาทิ การรวมหนี้ผ่านธนาคารที่มีนโยบายรองรับ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการยื่นกู้ร่วม เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน การเสนอโครงการอื่นในทำเลใกล้เคียงที่ลูกค้ามีความสามารถชำระเพื่อเป็นทางเลือก พร้อมทั้งเดินหน้าโมเดลการขายโครงการไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ลูกค้าลงทุนระยะยาว ลูกค้าต่างชาติ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) ที่มีความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมสำหรับพนักงาน

โดยล่าสุด บริษัทยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในกลุ่มโครงการเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านเตาปูน มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ที่กวาดยอดขายสะสมไปแล้วถึง 60% หลังเปิดขายได้เพียง 3 เดือน เช่นเดียวกับโครงการในโซนภูเก็ต ที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี บริษัทสามารถกวาดยอดขายสะสมมาแล้วถึง 2,000 ล้านบาท หรือกว่า 80% โดยจะเปิดโครงการใหม่ โซ​ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) โครงการคอนโดมิเนียมกลางภูเก็ต ใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร มูลค่าโครงการกว่า 1,650 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในช่วง ไตรมาส 4/2567 นี้

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

ทุบสถิติ! “ออริจิ้น” กวาดยอดขายต่างชาติครึ่งแรกปี 67 ทะลุ 2,500 ล้าน โต 253% ครึ่งปีหลังขนทัพเดินสายโรดโชว์เปิดตลาดลูกค้าอาหรับ-ดูไบ-อินเดีย

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กวาดยอดขายต่างชาติครึ่งปีแรก 2567 กว่า 2,500 ล้าน เติบโต 253% บุกตลาดต่างชาติต่อเนื่อง หนุนดีมานด์รัสเซีย-เมียนมา-ไต้หวันพุ่ง โซ ออริจิ้น บางเทา บีช-พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ-โซโห แบงค็อก รัชดา ขึ้นแท่นโครงการฮอต ครึ่งปีหลัง ติดเครื่องเดินสายโรดโชว์เปิดตลาดใหม่ อาหรับ-ดูไบ-อินเดีย ควบคู่รักษาฐานฮ่องกง-ไต้หวัน พร้อมส่งโครงการใหม่หลากทำเล ใจกลางกรุง-ย่านอินเตอร์เชนจ์-ทำเลท่องเที่ยวภูเก็ต เสนอลูกค้าต่างชาติ ตั้งเป้าทั้งปีปิดยอดขายต่างชาติทะลุ 5,000 ล้าน

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.2567) บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยจากตลาดลูกค้าต่างชาติสูงถึง 2,500 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 253% และทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงหลัง COVID-19 โดยสาเหตุหลักมาจากการเปิดตัว Origin Agent Club จับมือกับเอเจนท์รายใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทสามารถโปรโมทโครงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นและกว้างขึ้น มีช่องทางการขายผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ประสานงานการขายได้แบบ Real-time

“ปัจจัยภายนอกหลายๆ ด้านในขณะนี้ ก็หนุนให้ชาวต่างชาติมองไทยในฐานะประเทศจุดหมายปลายทางของการเป็นบ้านพักตากอากาศและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวมากยิ่งขึ้น เช่น ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ในเมียนมา ส่งผลให้ผู้ที่มีกำลังซื้อในเมียนมา หันมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น ปัจจัยด้านราคาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศในเอเชียหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ปรับตัวสูงขึ้น ก็ส่งผลให้คนหันมาสนใจประเทศไทยแทนเช่นกัน” นายพีระพงศ์ กล่าว

สำหรับท็อป 3 สัญชาติที่เข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยของออริจิ้น สูงที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้แก่ 1.รัสเซีย มียอดขายสูงเนื่องจากบริษัทเปิดโครงการใหม่ในภูเก็ต ซึ่งเป็นแถบที่ชาวรัสเซียให้ความสนใจหลายโครงการ 2.เมียนมา โดยมียอดขายเติบโตสูงถึง 880% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 3.จีน โดยทั้ง 3 สัญชาติรวมกันครองสัดส่วนยอดขายมากกว่า 64% ของยอดขาย 2,500 ล้านบาท ขณะที่ไต้หวันและฮ่องกง ครองอันดับ 4 และอันดับ 5 ส่วนโครงการที่มียอดขายจากต่างชาติในระดับท็อป ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) โครงการใหม่ในภูเก็ตที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ 2.พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor)โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีใจกลางเมือง และ 3.โซโห แบงค็อก รัชดา (SOHO Bangkok Ratchada) อีกหนึ่งโครงการในทำเลซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติ

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 (ก.ค.-ธ.ค.67) บริษัทมีแผนเดินสายโรดโชว์เพื่อขยายตลาดลูกค้าต่างชาติไปสู่ตลาดใหม่ๆ เช่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ทั้งในดูไบ และอาบูดาบี เนื่องจากอินเดียมีดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจเติบโตมากที่สุดในเอเชียในระดับที่อาจจะแซงจีน ขณะที่ UAE เป็นประเทศปลอดภาษี จึงมีกลุ่มนักลงทุนที่มีกำลังซื้อสูงจากหลายสัญชาติรวมตัวอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับ Key Agent เพื่อรักษาฐานการเติบโตของตลาดไต้หวัน ฮ่องกง และจีน ควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดรับเอเจนท์ใหม่อีกจำนวนมาก พร้อมทั้งมีแรงจูงใจเป็น Exclusive Reward มอบให้แก่เอเจนท์ที่มียอดขายสูงสุดเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งกับ Origin Agent Club ลงทะเบียนได้ที่ https://oriurl.com/yy2f7s2e หรือสอบถามโทร. 1498

ทั้งนี้ แนวโน้มทำเลที่ยังน่าจะได้รับความสนใจจากตลาดต่างชาติ ยังคงเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตเมือง เดินทางได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สีน้ำเงิน สีเหลือง และสีส้ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้แหล่งอาคารสำนักงาน โรงเรียน และโรงพยาบาล รวมถึงหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ยังน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังเตรียมนำเสนอโครงการใหม่ๆ ในกลุ่มทำเลดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ชาวต่างชาติ อาทิ ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) และ      โซ ออริจิ้น กะตะ-ภูเก็ต (SO Origin Kata-Phuket) โครงการเปิดตัวใหม่ในภูเก็ต คาดว่าภาพรวมทั้งปี บริษัทจะมียอดขายจากตลาดต่างชาติมากกว่า 5,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 158 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 247,795 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

#ข่าววันนี้ #ออริจิ้น #ยอดขายต่างชาติ #โรดโชว์

 

 

 

 

 

 

 

 

Best regards,