ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคล ถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ดีและพลังของแผ่นดิน และลงนามถวายพระพร เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

​​​​​​​ ​​​​​​​ ​​​​​​​ ​​​​​​​ ​​​​​​​ ​​​​​​​

บอร์ดออมสินตั้ง “วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ” สรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ หลัง “วิทัย” ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าธปท.

บอร์ดออมสินตั้ง “วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ” สรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ หลัง “วิทัย” ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าธปท.

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารออมสินได้แต่งตั้งนายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองปลัดกระทรวงการคลัง และกรรมการธนาคารออมสิน เป็นประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ หลังจากนายวิทัย รัตนากร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568

นายลวรณ กล่าวว่า ผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนปัจจุบันจะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เพื่อดำเนินการเสนอชื่อผู้แทนขึ้นทูลเกล้าฯ รับตำแหน่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตามขั้นตอน

นายลวรณ ยืนยันว่า กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารและนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยคณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุด

#ออมสิน #ธนาคารออมสิน #ผู้อำนวยการออมสิน #ธปท #การคลัง #สรรหาผู้อำนวยการ #ข่าวการเงิน #การเมือง #ประเทศไทย #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้

 

 

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 18 ก.ค.68 

ประเด็นร้อนเศรษฐกิจรอบวัน 18 ก.ค.68 

-พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยหลังเจรจา USTR บรรยากาศราบรื่น คาดไทยถูกสหรัฐเก็บภาษีเทียบเท่าภูมิภาค อยู่ที่ระดับแข่งขันได้ไม่เกิน 20% พร้อมรอลุ้นประกาศก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ ยืนยันไทยพร้อมเปิดตลาดแบบรุก เพิ่มส่งออก-แข่งขันได้

-ออมสิน ช่วยคนไทยสร้างเครดิตการเงิน ชวนเข้าโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ปลดล็อกอนุมัติกู้ให้ทุกอาชีพที่ไม่เคยกู้เงินแบงก์ แต่มีรายได้ ให้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน เริ่ม 20,000 บาท ผ่าน MyMo

-เอกนัฏ พร้อมพันธ์ รมว.อุตสาหกรรม มอบนโยบายเข้มให้การนิคมอุตสาหกรรมชี้ชัดความจำเป็นเร่งด่วนปราบปรามอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ หรือโรงงานสีเทา บ่อนทำลายเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม กำชับ กนอ.ในฐานะฟันเฟืองสำคัญการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคใหม่ที่โปร่งใสและยั่งยืน

 

ออมสินปลดล็อก! สินเชื่อ “สร้างเครดิต สร้างโอกาส” เปิดกู้ไม่ต้องมีหลักประกัน เริ่ม 20,000 บาท ผ่าน MyMo

ออมสินปลดล็อก! สินเชื่อ “สร้างเครดิต สร้างโอกาส” เปิดกู้ไม่ต้องมีหลักประกัน เริ่ม 20,000 บาท ผ่าน MyMo

วันที่ 18 ก.ค.68 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินกำหนดบทบาท Social Bank ที่สำคัญ ในการสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้ หรือ Financial Inclusion เพื่อช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างทางการเงินของสังคมไทย ที่กลุ่มฐานราก มีรายได้น้อย หรือมีรายได้ไม่แน่นอน ยังขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินด้วยข้อจำกัดต่างๆ เช่น ไม่มีหลักฐานที่มารายได้ ไม่คุ้นเคยกับวิธีการขอสินเชื่อธนาคาร ไม่มีหลักประกัน รวมถึงการที่ธนาคารส่วนใหญ่ขาดแรงจูงใจในการปล่อยกู้แก่ลูกค้ากลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านความสามารถในการชำระคืน เป็นต้น 

ธนาคารออมสิน จึงขอเชิญชวนผู้ที่ยังไม่เคยมีประวัติกู้เงินกับธนาคารมาก่อน ให้เข้าร่วมโครงการ สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ซึ่งเป็นนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระ อาชีพค้าขาย เป็นลูกจ้างโรงงาน บริษัทเอกชน รับจ้างทั่วไป หรืออาชีพอื่น ๆ ที่มีแหล่งรายได้ เพื่อสร้างประวัติเครดิตทางการเงินที่ดีในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้กู้ทำให้ต่อไปขอกู้ได้ง่ายขึ้นเพราะธนาคารเห็นประวัติการเป็นลูกหนี้ที่ดีมีความน่าเชื่อถือ จึงมีโอกาสกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า หรือได้วงเงินกู้มากขึ้นในอนาคต โดยโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 20,000 บาท หากผู้กู้สามารถชำระคืนเงินกู้ได้ครบภายในเวลา 12 เดือนตามเงื่อนไข ผู้กู้จะได้มีประวัติเครดิตที่ดี และต่อไปสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้สูงสุดถึง 50,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ 

“สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ไม่ต้องมีหลักประกันหรือบุคคลค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.60% ต่อเดือน และระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 1 ปี ปลอดชำระเงินต้น 3 งวดแรก โดยจ่ายเพียงดอกเบี้ย เพื่อให้โอกาสตั้งหลักก่อนเริ่มคืนเงินต้น โดยธนาคารตั้งเป้าหมายสามารถช่วยสร้างประวัติเครดิตให้คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินได้ปีละไม่น้อยกว่า 300,000 ราย 

ผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์และยื่นขอสินเชื่อได้ที่แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th หรือติดต่อ GSB Contact Center โทร. 1115

#ออมสิน #สินเชื่อสร้างเครดิต #สินเชื่อออมสิน #MyMo #กู้เงินออนไลน์ #ปลดล็อกเครดิต #สินเชื่อไม่ต้องค้ำ #เงินกู้ถูกกฎหมาย #GSBLoan #DigitalBanking #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้

"ออมสิน" ปั้นความรู้ที่สัมผัสได้ มอบการ์ตูนขายหัวเราะอักษรเบรลล์ วางรากฐานทางการเงินแก่ผู้พิการทางการมองเห็น

ออมสิน ปั้นความรู้ที่สัมผัสได้ มอบการ์ตูนขายหัวเราะอักษรเบรลล์ วางรากฐานทางการเงินแก่ผู้พิการทางการมองเห็น

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ส่งมอบหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะส่งเสริมการออมรูปแบบอักษรเบรลล์ จำนวน 2,000 เล่ม ให้แก่ นายอนุพนธ์ เซ็นสาส์น ประธานศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด เพื่อนำไปส่งต่อให้แก่โรงเรียนสอนคนตาบอด 16 แห่ง และหน่วยงานผู้พิการทางการเห็น 651 แห่งทั่วประเทศ โดยจัดทำหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะรูปแบบอักษรเบรลล์ และการ์ตูนแอนิเมชันพร้อมเสียงบรรยายภาพ ผ่านช่องทาง YouTube ของ GSB Society เรื่อง “ภารกิจพิชิตเงินออม กับ ปังปอนด์” จำนวน 2 ตอน ได้แก่ ปังปอนด์ทำเงินหาย และรองเท้ากีฬาคู่ใหม่ของปังปอนด์ โดยถ่ายทอดเรื่องราวความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ผ่านปังปอนด์ และครอบครัว ตัวการ์ตูนชื่อดังของไทย ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สนุกสนาน และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ อาทิ การจัดทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย การออมก่อนใช้ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเปิดโลกกว้าง พร้อมพัฒนาศักยภาพทางความคิดให้ผู้พิการทางการมองเห็นตระหนักถึงความสำคัญของการออมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนางสาวจารุพร กำธรนพคุณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมส่งมอบ ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ 

ออมสิน คว้า 2 รางวัลระดับเอเชีย AREA 2025 “Silver Emblem of Sustainability” และ  “Social Empowerment” 

ออมสิน คว้า 2 รางวัลระดับเอเชีย AREA 2025 “Silver Emblem of Sustainability” และ  “Social Empowerment”  ตอกย้ำบทบาท Social Bank ผ่านนวัตกรรมความปลอดภัย MyMo Secure Plus 

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ 

ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน 

รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

"ออมสิน" เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล แก้หนี้-เข้าถึงสินเชื่อ คาดสิ้นปีทะลุ 1 ล้านราย 

"ออมสิน" เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล แก้หนี้-เข้าถึงสินเชื่อ คาดสิ้นปีทะลุ 1 ล้านราย 

ออมสิน เผยผลสำเร็จช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงิน คาดถึงสิ้นปีตัวเลขทะลุ 1 ล้านราย พร้อมเดินหน้าช่วยลูกหนี้กว่า 920,000 บัญชี ขับเคลื่อนภารกิจช่วยเหลือสังคมตามข้อสั่งการรัฐบาล 

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยตัวเลขความก้าวหน้าบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ในการสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินแก่คนไทยกลุ่ม Unserved – Underserved ที่ยังมีการพึ่งพาแหล่งเงินนอกระบบด้วยมีข้อจำกัดด้านประวัติการเงินส่วนบุคคล และการให้สินเชื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่กลุ่มเปราะบาง โดยคาดว่าภายในปี 2568 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้กว่า 1 ล้านรายตามเป้าหมาย รวมถึงความสำเร็จด้านการแก้หนี้ที่คาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่ธนาคารริเริ่มดำเนินการ และที่เป็นมาตรการตามนโยบายรัฐบาล รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 920,000 บัญชีลูกหนี้  

สำหรับนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมของธนาคาร ที่ช่วยสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน ประกอบด้วย 1) สินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส สำหรับผู้ไม่มีประวัติเครดิตการเงิน อนุมัติแล้ว 150,000 ราย 2) สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ อนุมัติแล้ว 240,000 ราย 3) สินเชื่อต้อนรับเปิดเทอม อนุมัติแล้ว 110,000 ราย รวมถึงการให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย/ฐานราก ได้แก่ สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ อนุมัติแล้ว 120,000 ราย รวมจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อแล้วทั้งสิ้น 620,000 ราย (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568) ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในปี 2568 นี้ 

ด้านภารกิจการแก้หนี้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการคุณสู้ เราช่วย ซึ่งธนาคารเป็นผู้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย/SMEs ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางของสถาบันการเงินของรัฐ และลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้แล้วกว่า 190,000 ราย จำนวน 300,000 บัญชีลูกหนี้ คิดเป็น 33% ของผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันทั้งระบบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ธนาคารดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ การลดเงินงวด-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะปกติ / การลดเงินงวด-ลดดอกเบี้ย-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะ NPLs / การบรรเทาภาระหนี้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว รวมช่วยเหลือบรรเทาภาระลูกหนี้แล้ว จำนวนกว่า 119,000 บัญชี ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยทำโครงการแก้หนี้ NPLs วงเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท ประกอบด้วยการยกหนี้ให้ลูกหนี้สินเชื่อสู้ภัยโควิด และการปิดบัญชีตัดหนี้สูญ (Write Off) รวมจำนวนกว่า 500,000 บัญชี ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้รวมทุกมาตรการได้กว่า 920,000 บัญชี 

ทั้งนี้ ธนาคารออมสินพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างผลลัพธ์ขยายผลการสร้าง Social Impact ในวงกว้างและหลากหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม

#ออมสิน #กลุ่มเปราะบาง #เข้าถึงสินเชื่อ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

"ออมสิน" ช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงินสำเร็จ คาดสิ้นปีทะลุ 1 ล้านราย เดินหน้าช่วยลูกหนี้กว่า 920,000 บัญชี

ออมสิน เผยผลสำเร็จช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงิน คาดถึงสิ้นปีตัวเลขทะลุ 1 ล้านราย พร้อมเดินหน้าช่วยลูกหนี้กว่า 920,000 บัญชี ขับเคลื่อนภารกิจช่วยเหลือสังคมตามข้อสั่งการรัฐบาล 

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยตัวเลขความก้าวหน้าบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ในการสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินแก่คนไทยกลุ่ม Unserved – Underserved ที่ยังมีการพึ่งพาแหล่งเงินนอกระบบด้วยมีข้อจำกัดด้านประวัติการเงินส่วนบุคคล และการให้สินเชื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่กลุ่มเปราะบาง โดยคาดว่าภายในปี 2568 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้กว่า 1 ล้านรายตามเป้าหมาย รวมถึงความสำเร็จด้านการแก้หนี้ที่คาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่ธนาคารริเริ่มดำเนินการ และที่เป็นมาตรการตามนโยบายรัฐบาล รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 920,000 บัญชีลูกหนี้  

สำหรับนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมของธนาคาร ที่ช่วยสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน ประกอบด้วย 1) สินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส สำหรับผู้ไม่มีประวัติเครดิตการเงิน อนุมัติแล้ว 150,000 ราย 2) สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ อนุมัติแล้ว 240,000 ราย 3) สินเชื่อต้อนรับเปิดเทอม อนุมัติแล้ว 110,000 ราย รวมถึงการให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย/ฐานราก ได้แก่ สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ อนุมัติแล้ว 120,000 ราย รวมจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อแล้วทั้งสิ้น 620,000 ราย (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568) ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในปี 2568 นี้ 
ด้านภารกิจการแก้หนี้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการคุณสู้ เราช่วย ซึ่งธนาคารเป็นผู้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย/SMEs ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางของสถาบันการเงินของรัฐ และลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้แล้วกว่า 190,000 ราย จำนวน 300,000 บัญชีลูกหนี้ คิดเป็น 33% ของผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันทั้งระบบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568)

นี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ธนาคารดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ การลดเงินงวด-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะปกติ / การลดเงินงวด-ลดดอกเบี้ย-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะ NPLs / การบรรเทาภาระหนี้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว รวมช่วยเหลือบรรเทาภาระลูกหนี้แล้ว จำนวนกว่า 119,000 บัญชี ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยทำโครงการแก้หนี้ NPLs วงเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท ประกอบด้วยการยกหนี้ให้ลูกหนี้สินเชื่อสู้ภัยโควิด และการปิดบัญชีตัดหนี้สูญ (Write Off) รวมจำนวนกว่า 500,000 บัญชี ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้รวมทุกมาตรการได้กว่า 920,000 บัญชี 

ทั้งนี้ ธนาคารออมสินพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างผลลัพธ์ขยายผลการสร้าง Social Impact ในวงกว้างและหลากหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม

*************************

ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568

ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันการเงินของรัฐ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งมีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

โดยที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การมอบนโยบายสถาบันการเงินของรัฐ หนุนธุรกิจรับมือมาตรการภาษีทางการค้า-กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 7 ด้าน ประจำไตรมาส 1/2568 ความคืบหน้าการดำเนินโครงการบูรณาการข้อมูลเพื่อการกำกับดูแล (Regulatory Data Transformation : RDT) สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงกระบวนการจัดทำ Customer Profiling และการเข้าร่วมแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai CAC) ณ ห้องอัญชัน-สุพรรณิการ์ อาคารเอ็กซิม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568

 

“ดีอี” เตือนภัย “โจรออนไลน์” เปิดบัญชี TikTok ปลอม อ้าง “ธ.ออมสินเปิดลงทะเบียนสินเชื่อ”

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ออมสินเปิดลงทะเบียนสินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok gsb.social.bank30” รองลงมาคือเรื่อง “ธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องใช้คนค้ำ ผ่านเพจ LEASE it PCL 6544” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ-แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสูญเสียทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 23 – 29 พฤษภาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 839,680 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 741 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 689 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 40 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 12 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 238 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 224 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง ออมสินเปิดลงทะเบียนสินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok gsb.social.bank30

อันดับที่ 2 : เรื่อง ธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องใช้คนค้ำ ผ่านเพจ LEASE it PCL 6544

อันดับที่ 3 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรม เปิดเพจ “Law Office for the people” ให้คำปรึกษาเหยื่อมิจฉาชีพ

อันดับที่ 4 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์จัดแคมเปญ 21-Day Challenge เทรดหุ้นเป็น เชิญเข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรี

อันดับที่ 5 : เรื่อง บริษัท ซีพี ออลล์จำกัด ได้การรับรองจาก ก.ล.ต. เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

อันดับที่ 6 : เรื่อง ฝ่ายสินเชื่อออมสิน ปล่อยสินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok bird0818dmg

อันดับที่ 7 : เรื่อง ปปง. เปิดรับแจ้งความออนไลน์ สําหรับผู้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ผ่านเพจ Online Case Operation

อันดับที่ 8 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรม เปิดให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนติดต่อรับทรัพย์สินคืน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก

อันดับที่ 9 : เรื่อง ป.ป.ท. เปิดให้ลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิ์ คืนเงินให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุน ทางเพจ Fight Back Against Scammers

อันดับที่ 10 : เรื่อง กระทรวงมหาดไทย เปิดเพจ Return the rights to the injured party

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวการให้บริการด้านสินเชื่อของธนาคารออมสิน รวมทั้งการเปิดช่องทางแนะนำการลงทุน และบริการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่สนใจเกิดความเข้าใจผิด มีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง เกิดความสับสน โดยประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “ออมสินเปิดลงทะเบียนสินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok gsb.social.bank30” กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับ ธนาคารออมสิน ตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า บัญชี TikTok ชื่อ gsb.social.bank30 เป็นบัญชีที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา ซึ่งใช้ชื่อและโลโก้ของธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ธนาคารออมสินจึงขอแจ้งให้ทราบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าวและข้อความเชิญชวนต่าง ๆ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และระมัดระวังการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ

ทั้งนี้บัญชี TikTok อย่างเป็นทางการของธนาคารออมสินมีเพียงบัญชีเดียวคือ @gsbsociety หรือโทรติดต่อ 02 299 8000 หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)
|  Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com