"OPPO" เปิดเเผนช่วยเหลือ–ดูแลลูกค้าจากกรณีติดตั้งแอปพลิเคชันล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OPPO ในประเทศไทย ได้ออกประกาศแผนการช่วยเหลือและดูแลผู้บริโภค จากเหตุการณ์การติดตั้งแอปพลิเคชันล่วงหน้า มีรายละเอียดดังนี้ .. 

แผนการช่วยเหลือและดูแลผู้บริโภค

ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ตโฟนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 - 27 ม.ค. 67

- ขยายระยะเวลาประกันเครื่อง ถึงวันที่ 27 ม.ค. 69

ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ตโฟนตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 67 - 27 ม.ค. 68

- ขยายระยะเวลาประกันเครื่องจาก 1 ปี เพิ่มเป็น 2 ปี

 

สิทธิพิเศษ "เก่าแลกใหม่"

ลูกค้าเก่าแลกใหม่ ที่ซื้อสมาร์ตโฟนภายในวันที่ 28 ม.ค. 68 - 28 ก.พ. 68

- ขยายระยะเวลาประกันเครื่องจาก 1 ปี เพิ่มเป็น 2 ปี + รับประกันจอแตกภายใน 1 ปี (1 ครั้ง)

ลูกค้าเก่าแลกใหม่ ที่ซื้อสมาร์ตโฟนภายในวันที่ 1 มี.ค. 68 - 31 ม.ค. 69

- ขยายระยะเวลาประกันเครื่องจาก 1 ปี เพิ่มเป็น 2 ปี

 

ลูกค้าสามารถรับสิทธิพิเศษผ่านเว็บไซต์ทางการของ OPPO, แอปพลิเคชัน My OPPO และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้า OPPO ทั่วประเทศ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

**รุ่นของสมาร์ตโฟนที่ได้รับสิทธิ์เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

***รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับเงื่อนไขลูกค้าเก่าแลกใหม่ สามารถติดต่อสอบถามที่ศูนย์บริการ OPPO ที่เบอร์ 1800-019-097, ร้าน OPPO Brand Shop หรือพนักงานขาย OPPO ที่หน้าสาขา

 

 

ขอบคุณ เพจ OPPO

“ประเสริฐ” เผย ถึงเวลากำหนดมาตรการลงแอปในโทรศัพท์ เผยถาม ธปท.แล้ว แอปฯความสุขยังไม่ได้ขออนุญาตปล่อยเงินกู้

วันที่ 15 ม.ค. 68 ที่เมืองทองธานี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเรียก "ออปโป้"  OPPO และ "เรียลมี" realme เข้ามาชี้แจงกรณีแอปกู้เงินที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 15 ม.ค. ว่า เดิมไม่มีมาตรการกำกับดูแลตรงนี้ ฉะนั้นถึงเวลาที่ต้องกำหนดมาตรการ ในเรื่องการลงซอฟต์แวร์ หรือลงแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือหรือไอแพดต่างๆ 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเอาผิดบริษัททั้ง 2 ค่ายนี้ได้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตั้งข้อสังเกตของทั้ง 2 ค่ายนี้ คือเรื่องการขออนุญาตในเรื่องการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องขออนุญาตจาก ธปท. โดยการตรวจสอบเบื้องต้น ธปท. ยืนยันมาแล้วว่าไม่ได้ขอ และเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อาจจะต้องดูเข้าค่ายผิดข้อใดหรือไม่ และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย 

 

เมื่อถามว่า กฎระเบียบใหม่ที่จะออกมาจะเป็นรูปแบบไหน จะห้ามใส่แอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นเข้ามาในมือถือที่ซื้อมาใหม่ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า แอปฯ บางอย่างต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ตรงนี้จำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง แต่ก็ยังมีแอปฯกูเกิล เสิร์ชที่เราหาข้อมูล ซึ่งติดมาแล้วไม่มีใครว่าอะไร ซึ่งก็มีหลายประเภท

 

เมื่อถามว่า จะต้องตรวจสอบมือถือรุ่นอื่นๆหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบ เมื่อถามว่ากรณีผู้ที่ได้รับความเสียหายไปแล้วจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งว่าเสียหายเป็นมูลค่าเท่าไหร่ เพียงแต่เป็นลักษณะก่อให้เกิดความรำคาญ และยังไม่สามารถปิดได้เท่านั้นเอง ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี เท่าที่เราทราบข้อมูลจากตำรวจ ฉะนั้นก็ต้องดู แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องหาวิธีป้องกันในอนาคต 

 

เมื่อถามว่าการที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดูเขามีธุรกรรมทางการเงินหรือยัง ตรงนี้เอามาประกอบ แต่ถ้าดูจากข่าวเหมือนกับว่ามีคนไปกู้แล้วทำนองนี้ ฉะนั้นถ้ามีแล้วก็ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เพราะเรื่องการกู้ยืมเงินต้องขออนุญาตจาก ธปท.ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบโดย ดีอี ได้สอบถามไปยัง ธปท. ได้รับการชี้แจงว่าแอปสินเชื่อความสุขยังไม่ได้ขออนุญาต

“จิราพร” เรียก “OPPO-Realme” สอบเพิ่มที่ทำเนียบฯ บ่ายนี้ ยัน สคบ.พร้อมดูแลผู้เสียหาย เผย มีแจ้งมาแล้ว 9 ราย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ม.ค. 68 ที่เมืองทองธานี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเรียก "ออปโป้"  OPPO และ "เรียลมี" realme เข้ามาชี้แจงกรณีแอปกู้เงินที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 15 ม.ค. ว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. สคบ. ได้เชิญทั้ง 2 บริษัทมาแล้ว และวันที่ 15 ม.ค.ตนจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อมูลเพื่ออัพเดตข้อมูลสถานการณ์ สรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมถึงจะดูข้อกฎหมายที่จะดำเนินการเพื่อดูแลคุ้มครองผู้บริโภค

 

เมื่อถามว่า เบื้องต้นทาง 2 บริษัทชี้แจงกับทาง สคบ. ว่าอย่างไรบ้าง น.ส.จิราพร กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาทิ พ.ร.บ. ของ กสทช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในส่วนของ สคบ. ได้ประสานตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ก็จะดำเนินการแทนประชาชน ส่วนผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาขณะนี้มี 9 ราย ขอแจ้งว่าหากใครถูกละเมิดสิทธิ์ หรือได้รับผลกระทบ ก็สามารถแจ้งมาทาง สคบ. ได้ ยินดีจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

เมื่อถามว่า ทั้ง 2 บริษัทต้องถูกดำเนินคดีอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าแอปทางการเงินต้องมีการจดทะเบียนกับธปท. เบื้องต้นตามที่นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดีอี ได้สอบสวนก็ยังไม่ได้จดทะเบียน ดังนั้น หากผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนอีกประเด็นคือ เรื่องพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ เจ้าตัวได้ยินยอมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือไม่ 

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังไม่เริ่มดำเนินคดีใช่หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และหลายข้อกฎหมาย จึงต้องเชิญหน่วยงานมาสรุปข้อเท็จจริงก่อน รวมถึงจะพูดคุยเรื่องมาตรการในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก เมื่อถามว่า มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกู้เงิน และได้รับผลกระทบจะดูแลอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า สามารถเข้ามาร้องเรียนได้ หาก สคบ. ใช้กฎหมายของตัวเองได้ ก็จะดำเนินการให้ แต่หากไปถึงหน่วยงานอื่น ก็จะช่วยประสาน

สคบ.สอบเข้มตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ มีแอปฯเงินกู้ในสมาทโฟน ผู้ประกอบการยังเลี่ยงตอบคำถาม อ้างแค่ผู้นำเข้า   

สคบ.สอบเข้มตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ มีแอปฯเงินกู้ในสมาทโฟน ผู้ประกอบการยังเลี่ยงตอบคำถาม อ้างแค่ผู้นำเข้า   

เมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก (สคบ.) เปิดถึงเผยถึงการพูดคุยกับตัวแทน ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 2 ยี่ห้อ ที่มีประเด็นมีแอปฯเงินกู้ในโทรศัพท์สมาทโฟน

นายอนุพงษ์ เผยว่า ตัวแทนทั้งสองบริษัทให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็เลี่ยงที่จะตอบคำถามบางประเด็น ซึ่งยังไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก เจ้าหน้าที่กำลังเค้นสอบให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้ ซึ่งข้อมูลในวันนี้จะนำไปประชุมร่วมกับ นางสางจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.)   สำหรับความเสียหายและข้อมูลผู้ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน Fineasy และสินเชื่อความสุข มีตัวเลขเท่าไหร่ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลจากทั้งสองบริษัท แต่วันที่ 16 ม.ค.จะมีการอัปเดท OTA และส่งไปให้ผู้ใช้บริการถอนการติดตั้งแอปฯ Fineasy ส่วนแอปฯ สินเชื่อความสุข ตอนนี้สามารถถอนการติดตั้งได้เลยทันที   

ขณะเดียวกันมีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ สคบ.แล้ว 9-10 คนยังไม่เกิดความเสียหายในการใช้แอปฯ กู้ยืมเงิน แต่มีความกังวลเรื่องการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล สคบ.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนที่มีผู้เสียหายกู้เงินผ่านแอปฯ ดังกล่าว ส่วนนี้สามารถไปดำเนินคดีทางอาญาได้ หากมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือทวงถามผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งส่วนนี้จะเชิญกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าร่วมประชุมด้วยในวันพรุ่งนี้ 

ทั้งนี้แนวทางในการสอบถาม สคบ.ต้องการข้อมูลเชิงลึกว่าแอปฯ ดังกล่าวใช้กับโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง มีจำนวนเท่าไหร่ มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงผู้ให้บริการแอปฯ สินเชื่อดังกล่าวมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และมีใครเป็นนายทุน ซึ่งเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้เพื่อสืบสวนต่อ

เมื่อถามว่าแอปฯ ดังกล่าวที่ติดตั้งมาจากโรงงานในประเทศจีน ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ นายอนุพงษ์  กล่าวว่าได้สอบถามทั้งสองบริษัทแล้ว ได้คำตอบว่าเป็นเพียงบริษัทนำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น โดยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะแอปฯ ติดตั้งมาตั้งแต่ต้นทาง แต่ สคบ.ยังไม่ปักใจเชื่อ

 

"สภาองค์กรของผู้บริโภค" เสนอแนวทางคุ้มครองผู้บริโภค-เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเบื้องต้น 6 ประเด็น

"สภาองค์กรของผู้บริโภค" เสนอแนวทางคุ้มครองผู้บริโภค-เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเบื้องต้น 6 ประเด็น

เมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 กรณี OPPO และ Realme สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) เสนอแนวทางคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเร่งหน่วยงานดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเบื้องต้น 6 ประเด็น

1.สภาผู้บริโภคเสนอแนะให้บริโภคคืนเงินต้นแล้วปิดหนี้ ยกเลิกการเป็นหนี้สิน ส่วนผู้บริโภคใครจ่ายเงินเกิน เช่น มีผู้ร้องเรียนกู้เงิน 80,000 บาท จ่ายเงินไป 700,000 บาท สามารถฟ้องร้องเรียกเงินคืน ตามกฎหมาย สภาผู้บริโภคพร้อมฟ้องคดีกลุ่มให้คืนเงินกับผู้เสียหายทุกราย รบกวนแจ้งสายด่วน  1502 ขอให้บริษัท OPPO และ Realme เปิดเผยบริษัทที่ให้บริการเงินกู้โดยด่วนเพื่อรับผิดชอบเรื่องนี้ 

2.สินเชื่อความสุข และ Fineasy เป็นที่ชัดเจนว่า ไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่มีคำตอบว่า ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังหรือไม่ โดยสามารถให้กู้ยืมได้แต่ต้องคิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 หากได้รับอนุญาตสามารถคิดดอกเบี้ยได้ร้อยละ 25 หรือสูงสุดถึงร้อยละ 36 ซึ่งขอให้กระทรวงการคลัง แจ้งว่าเป็นสินเชื่อออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และมีความผิดเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราหรือไม่ 

3.มือถือ oppo และ realme เข้าข่ายละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนหรือไม่ สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการตรวจสอบและเปรียบเทียบปรับทางปกครองกับบริษัทโดยด่วน ผู้เสียหาย ประชาชนผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้

4.กสทช. ขอให้หยุดจำหน่ายมือถือรุ่นที่เป็นปัญหา 3 วัน แต่กสทช.ดูเรื่องความปลอดภัยซึ่งต้องตอบคำถามว่า เข้าข่ายเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม พ.ศ.2566 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต ตาม ข้อ 14 ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสม

5.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคต้องเปรียบเทียบปรับ การปล่อยกู้ออนไลน์ที่ไม่ได้มีการส่งมอบคู่สัญญาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค 2522 กรณีละ 2 แสนบาทตามกฎหมาย

6.สินเชื่อความสุขและFineasy น่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ ที่ผิดกฎหมายเพราะติดตามหนี้กับญาติ หรือเพื่อน ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยต้องเข้ามาจัดการตามกฎหมาย

#ออปโป้ #ข่าววันนี้ #เรียลมี #opporealmefineasy #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ 

"OPPO" แถลงการณ์แจงไทม์ไลน์แก้ปัญหาแอปกู้เงิน

ตามที่เกิดกรณีเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนแบรนด์ ยี่ห้อ "ออปโป้"  OPPO และ "เรียลมี" realme พบการติดตั้งแอป Fineasy ซึ่งเป็น "แอปกู้เงิน" มาพร้อมกับเครื่องสมาร์ตโฟนตั้งแต่แรก โดยเจ้าของเครื่องไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปดังกล่าวได้ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น กระทั่งบริษัทค่ายมือถือยี่ห้อดังทั้ง "ออปโป้" ประเทศไทย และ "เรียลมี" ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีดังกล่าว พร้อมยืนยันความรับผิดชอบและแนวทางแก้ปัญหาไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดบริษัท OPPO ได้โพสต์บนเพจว่า บริษัท OPPO ขออภัยอย่างยิ่งต่อความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานบางแอปพลิเคชันในช่วงที่ผ่านมา เราให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการทันทีดังนี้:

- ในช่วงเย็นวันที่ 13 มกราคม 2568 แอปพลิเคชัน Fineasy ได้ออกประกาศภายในแอปฯ เพื่อระงับการให้บริการแล้วเป็นที่เรียบร้อย

- ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โทรศัพท์ใหม่ที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาการติดตั้งแอป Fineasy ล่วงหน้าจะไม่ถูกจำหน่ายอีกต่อไป

- ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนจะได้รับการอัปเดต OTA (Over-the-Air) ซึ่งเป็นเวอร์ชันระบบใหม่ที่ไม่มีการติดตั้งแอปฯ Fineasy อีกต่อไป 

- ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมเป็นต้นไป จะหยุดการติดตั้งแอปฯ ล่วงหน้าของแอปฯ สินเชื่อของบุคคลที่สามทั้งหมดในอุปกรณ์ของ OPPO

ทั้งนี้ OPPO มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมเพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภค เราขอขอบคุณความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้ใช้งานทุกท่านเป็นอย่างดีเสมอมา

#ออปโป้ #ข่าววันนี้ #เรียลมี #opporealmefineasy #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

กสทช.-สคส.บี้ "ออปโป้-เรียลมี" ถอนแอปสินเชื่อทันที ลงดาบห้ามขายเครื่องใหม่

จากกรณีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน พบการติดตั้ง Fineasy แอพพลิเคชั่นกู้เงิน บนโทรศัพท์มือถือแบรนด์ OPPO และ Realme แบบอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานไม่ได้เป็นผู้ดาวน์โหลดเอง และไม่สามารถลบแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกได้ จนสร้างความตระหนกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 แบรนด์ เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวในเครื่อง

วันที่ 13 มกราคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เชิญทั้ง 2 บริษัทคือ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ OPPO และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Realme เข้าพบโดยตัวแทนจากบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป กล่าวยอมรับว่า Fineasy ไม่ได้ขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) และเป็นการติดตั้งมาจากโรงงาน ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท โปรทา กล่าวยอมรับไปในทิศทางเดียวกับ โพสเซฟี่ กรุ๊ป ทั้งนี้ OPPO และ Realme เป็นเจ้าของเดียวกันและมาจากโรงงานเดียวกัน

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการกสทช. กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารโทรศัพท์มือถือ กรณีการติดตั้งแอปพลิเคชันให้บริการสินเชื่อมากับโทรศัพท์มือถือว่า  ที่ประชุมให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการตาม  พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  มาตรา 37 (2) กรณีที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้ผู้นั้นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ให้ผู้ผลิตโทรศัพท์ทั้ง 2 บริษัท มีมาตรการเร่งด่วน คือ กรณีเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วให้มีช่องทางในการดำเนินการลบแอปที่มีปัญหาออก สำหรับเครื่องใหม่ที่ยังไม่จำหน่ายต้องดำเนินการไม่ให้มีแอปที่มีปัญหาอยู่ในเครื่อง ห้ามจำหน่ายเครื่องที่ยังมีแอปสินเชื่ออยู่

“ให้ออปโป้และเรียลมี จะดำเนินการส่งการอัปเดตแบบ Over-the-Air (OTA) ไปยังเครื่องของผู้ใช้บริการเพื่อให้เจ้าของเครื่องดาวน์ โหลดเพื่อถอนโปรแกรมที่มีปัญหาออกเอง”

พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการตาม  พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  มาตรา37 (2) แจ้งข้อมูลการเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ข้อมูล ให้ สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สลส. ) ทราบภายในวันที่ 16 มกราคม 2568 ทั้งนี้เบื้องต้น ตัวแทนของค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์แจ้งว่าการเก็บข้อมูลดำเนินการโดยเจ้าของแอปเป็นคนดูแล การตรวจสอบข้อมูล และผู้ให้บริการสินเชื่อคือเจ้าของซอฟแวร์ 

สำหรับผู้ที่ใช้แอปขอสินเชื่อไปแล้วและเกิดความเสียหายให้แจ้งมายังสคส. หากตรวจสอบแล้วมีการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกินสามล้านบาท ขณะนี้สิ่งที่ทำได้หรือดำเนินการเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเสียหาย ส่วนการดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ จะมีการตรวจสอบต่อไป 

ออปโป้เตรียมส่งไลน์อัพ IoT ใหม่! “OPPO Pad Neo” แท็บเล็ตทรงพลัง พร้อม “OPPO Enco Air3s” หูฟังไร้สายให้คุณเก็บทุกท่วงทำนอง 

ออปโป้เตรียมส่งไลน์อัพใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT นำโดย “OPPO Pad Neo” แท็บเล็ตทรงพลังพร้อมจอยทุกความสนุกเหนือระดับด้วยหน้าจอถนอมสายตา 2.4K มอบภาพสวยคมชัดพิเศษ โดดเด่นด้วยดีไซน์เพรียวบาง พกพาสะดวก และ “OPPO Enco Air3s” หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดมอบประสิทธิภาพเสียงที่ให้คุณเก็บได้ทุกท่วงทำนอง มอบคุณภาพเสียงทรงพลัง มาพร้อมดีไซน์ดึงดูดทุกสายตาด้วยเคสชาร์จสีทอง Champagne Gold และน้ำหนักเบาใช้งานสบายตลอดวัน พร้อมเป็นคู่หูลุยไปด้วยกันในทุกไลฟ์สไตล์ 

เตรียมพบกับผลิตภัณฑ์ IoT สุดล้ำจากออปโป้ทั้ง “OPPO Pad Neo” และ “OPPO Enco Air3s” พร้อมกันในงาน OPPO Reno11 Series 5G Launch Event วันอังคารที่ 23 มกราคมนี้ เวลา 17.00 เป็นต้นไป ทาง Facebook, YouTube และ TikTok ของ OPPO Thailand

#OPPOPadNeo #OPPOEncoAir3s

"ออปโป้ "เร่งดันตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป เปิดตัว OPPO Find N3 ครั้งแรกในไทย และ OPPO Find N3 Flip

"ออปโป้ "เร่งดันตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป เปิดตัว OPPO Find N3 ครั้งแรกในไทย และ OPPO Find N3 Flip

ออปโป้ ไทยแลนด์ ประกาศเป้าหมายใหญ่ปลายปีนี้ เร่งดันผลิตภัณฑ์เรือธงชิงตลาดลูกค้าพรีเมียมเซอร์ไพรส์คนไทยด้วย “OPPO Find N3” สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปที่เปิดตัวครั้งแรกในไทยกับนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อสร้างนิยามใหม่แห่งการพับ เปิดตัวพร้อมกับ OPPO Find N3 Flip รุ่นล่าสุด ครั้งแรกในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับชูนวัตกรรมกล้อง 3 ตัว เตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป

ความต้องการสมาร์ตโฟนจอพับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก

คุณชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้ แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปีที่ผ่านมาพบเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลก ตามรายงานจาก Counterpoint  คาดการณ์ว่าการส่งออก สมาร์ตโฟนจอพับทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง 55 ล้านเครื่องภายในปี 2568 หรือคิดเป็น 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเพิ่มความเข้มข้นในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเอาชนะใจกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ในขณะเดียวกันคาดว่าส่วนแบ่งของตลาดสมาร์ตโฟนจอพับจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 16% ภายในปี 2568 

นอกจากจะเป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนแล้ว ออปโป้ยังถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปทั้งในตลาดไทยและตลาดโลก ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงนวัตกรรม เทคโนโลยี การบริการ และการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพื่อมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและไม่เหมือนใครให้แก่ผู้บริโภค ตามแนวทาง Inspiration Ahead ของแบรนด์ ด้วยแนวคิดนี้ทำให้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ออปโป้ได้สร้างกระแสฮือฮาให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับ OPPO Find N2 Flip ที่มายกระดับสมาร์ตโฟนจอพับจนกลายเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็ตในฝันของผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้แล้ว ประสิทธิภาพภายในยังได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาของผู้ใช้สมาร์ตโฟนจอพับ ทั้งหน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด ณ เวลานั้น รอยพับที่น้อยที่สุด พร้อมกล้องที่ให้ภาพและวิดีโอที่คมชัด รวมถึงแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ

กลยุทธ์สร้างความต่างในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับ อัปเกรดความพรีเมียมไปอีกขั้นเซอร์ไพรส์ผู้บริโภคชาวไทย

“การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ท้าทายตลอดเวลาเป็นดีเอ็นเอของออปโป้” คุณชานนท์เพิ่มเติม “เราได้กำหนดนิยามใหม่ของสมาร์ตโฟนจอพับ ด้วยการส่งเสริมแนวคิดของจอแสดงผลหลัก 2 จอ นั่นหมายถึงจอด้านนอกจะต้องสามารถใช้งานได้จริง เทียบเท่ากับจอด้านใน โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกางสมาร์ตโฟนเพื่อเปลี่ยนมาใช้งานบนหน้าจอด้านในเพียงอย่างเดียว”

ออปโป้ได้เผยโฉมนวัตกรรมนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกใน OPPO Find N Series เมื่อปี 2564 และได้ถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวมายังรุ่น ต่อมา เมื่อซูมเข้ามาที่ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในไทย เราเริ่มมองเห็นความเข้มข้นด้านการแข่งขันในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ออปโป้นำเสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคด้วย OPPO Find N2 Flip พับที่ดีกว่า ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนจอพับของออปโป้รุ่นแรกในไทย ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้า ทั้งบานพับ Flexion Hinge ที่ทนต่อการพับมากกว่า 400,000 ครั้ง และจอด้านนอกแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุด ณ เวลานั้น ทำให้ออปโป้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 55% ในเดือนแรกที่จำหน่ายของกลุ่มสมาร์ตโฟนจอพับ พร้อมเติบโต 532% ในวันแรกที่วางขาย ถือเป็นการแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ตโฟน จอพับในไทยของออปโป้

“ในปีนี้เป็นปีที่ 15 ที่ออปโป้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราจึงประกาศเดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมจอพับระดับแฟลกชิปอย่างเต็มกำลัง ด้วยการเปิดตัว OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip พร้อมกำหนดนิยามใหม่แห่งการพับด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่า ในปีนี้เราลุยตลาดพร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip นำเสนอเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนจอพับ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียมที่มองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และสะท้อนตัวตนให้ได้มากที่สุด

OPPO Find N3 เบา บาง ทรงพลัง

ออปโป้ส่ง OPPO Find N3 สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแฟลกชิป เจาะกลุ่ม Success Capturers หรือกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตแบบ Work-Life Balance ที่ชื่นชอบการทำงานพร้อมกับการท่องเที่ยวและถ่ายภาพโมเมนต์แห่งความสำเร็จ รุ่นนี้จึงมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ทรงพลังด้วยนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ตลาด ออปโป้ทุ่มลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อดีไซน์ให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา เพียง 239 กรัม และบางเพียง 5.8 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) ด้วยจอด้านนอกขนาด 6.3 นิ้ว และเมื่อกางออกจะมีขนาดถึง 7.8 นิ้ว หน้าจอขนาดใหญ่ในสเกลที่สมส่วนเหมาะกับทุกการ ใช้งาน มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS เปิดใช้งานมุมมองแบบไร้ขอบเขต (Boundless View) สามารถเปิดแอปแบบเต็มจอสูงสุด 3 แอปบนหน้าจอ เพื่อรองรับการทำงานที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกสบาย สาเหตุที่ตัวเครื่องเบาและบางในระดับนี้มาจากการอัปเกรดบานพับ Flexion Hinge ในรุ่นที่ 3 จึงมอบประสบการณ์การพับที่ลื่นไหล ทนทาน และเบาบางเป็นพิเศษ ที่สำคัญยังให้กล้องหลังระดับแฟลกชิปมากถึง 3 ตัว ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เก็บทุกรายละเอียด ให้ทั้งภาพและวิดีโอสวยชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมความร่วมมือกับ Hasselblad เพื่อสร้างผลงานภาพระดับมาสเตอร์พีซ มาพร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC  สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นนี้จึงเป็นพื้นที่แห่งการทำงานและความบันเทิงได้อย่างไร้ที่ติ

OPPO Find N3 Flip กับนิยามใหม่แห่งการพับด้วยกล้องที่ดีกว่า ครั้งแรกกับกล้อง Telephoto Portrait

สานต่อความร้อนแรงของรุ่นก่อนหน้า OPPO Find N3 Flip สมาร์ตโฟนจอพับที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเพื่อลงโซเชียล ชอบอัปเดตเทรนด์ใหม่ ชื่นชอบแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจ ออปโป้ได้ยกระดับดีไซน์ไปอีกขั้นกับสไตล์สุดคลาสสิค ด้วยดีไซน์กล้องพร้อมวงแหวน Cosmos Ring ซึ่งล้อมรอบด้วย Starlight Track อยู่คู่กับหน้าจอด้านนอกแนวตั้งที่สวยงาม ทำให้ดีไซน์ตัวเครื่องโดดเด่นสะดุดตา มาในสีใหม่ถึง 3 สี ได้แก่ สีทอง Cream Gold, สีชมพู Misty Pink และสีดำ Sleek Black

บ่งบอกสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน และเป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนจอพับระดับเดียวกันที่มาพร้อมกล้องหลัก 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto Portrait สามารถซูมแบบออปติคอลได้ถึง 2X ให้ภาพพอร์ตเทรตสวยและมีสไตล์ที่สุดในตลาด สีสดเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับของ Hasselblad ในขณะที่การเปิด-ปิดฝาพับสามารถทำได้อย่างลื่นไหล และทนทานด้วย บานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 และมีรอยพับตื้นขึ้นจนแทบมองไม่เห็น ในขณะที่หน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะใช้งานตอบข้อความหรือเลื่อนดูฟีดโซเชียลโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอด้านใน รวมไปถึงฟีเจอร์ Interactive Pet บนหน้าจอนอกที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักเพื่อความเพลิดเพลินในชีวิต ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันเพราะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,300mAh รองรับการชาร์จไว 44W SUPERVOOC และใช้งาน Dual SIM ระดับ 5G ได้อีกด้วย

“OPPO Find N3 Flip คือสมาร์ตโฟนจอพับที่สร้างปรากฏการณ์หลังเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดขายมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 91% รวมถึงได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งสื่อมวลชนและลูกค้า ในขณะเดียวกันหลังเปิดตัว ที่สิงคโปร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สมาร์ตโฟนจอพับทั้ง 2 รุ่นนี้ยังได้รับการรีวิวว่าเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้กับสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป จัดเต็มนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อเซอร์ไพรส์ผู้บริโภค โดยเฉพาะเทคโนโลยีกล้องที่ต่างได้รับเสียงชื่นชม เนื่องจากเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่ให้กล้องมาถึง 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto Portrait ให้ประสบการณ์ถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ดีและสวยที่สุด รวมถึงการใช้งานหน้าจอที่เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมลูกเล่นต่างๆ ที่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างและไม่เคยได้สัมผัสจากสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ

“โค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้ง OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip ได้เตรียมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยกิจกรรมการตลาดมากมาย ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Aristotle เพื่อมอบนิยามใหม่แห่งการพับที่แท้จริง” คุณชานนท์ ทิ้งท้าย

สำหรับ OPPO Find N3 สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปที่เบา บาง ทรงพลัง วางจำหน่ายในราคา 69,990 บาท และ OPPO Find N3 Flip วางจำหน่ายในราคา 34,990บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ –  30 ตุลาคม 2566 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าทั้งสิ้น 44,898 บาท

 

สำหรับ OPPO Find N3 ประกอบไปด้วย

OPPO Find N3 Protective Set (PU Standing Case & Screen Protector) มูลค่า 1,999 บาท

OPPO Enco Air3 Pro มูลค่า 2,999 บาท

E-VIP Card(2 year)มูลค่า 39,900 บาท

 

สำหรับ OPPO Find N3 Flip ประกอบไปด้วย

OPPO Find N3 Flip Portable PU Case มูลค่า 1,199 บาท

OPPO Enco Air3 มูลค่า 1,999 บาท

E-VIP Card(1 year)มูลค่า 15,000 บาท

พิเศษเมื่อสั่งซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายรับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท พร้อมรับบริการสุดพิเศษ OPPO Premium Service ทั้งบริการรับประกันระหว่างประเทศ ส่งซ่อมเร่งด่วนหรือบริการติดฟิล์มต่างๆ พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

#OPPOFindN3Flip #OPPO #ออปโป้

 

ออปโป้เร่งดันตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป เปิดตัว OPPO Find N3 | Find N3 Flip ด้วยกล้องหลัก 3 ตัว ให้พับกับกล้องที่ดีกว่า

ออปโป้ ไทยแลนด์ ประกาศเป้าหมายใหญ่ปลายปีนี้ เร่งดันผลิตภัณฑ์เรือธงชิง ตลาดลูกค้าพรีเมียมเซอร์ไพรส์คนไทยด้วย “OPPO Find N3” สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปที่เปิดตัวครั้งแรก ในไทยกับนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อสร้างนิยามใหม่แห่งการพับ เปิดตัวพร้อมกับ OPPO Find N3 Flip รุ่นล่าสุด ครั้งแรกในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับชูนวัตกรรมกล้อง 3 ตัว เตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟน จอพับระดับแฟลกชิป

ความต้องการสมาร์ตโฟนจอพับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก

คุณชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้ แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปีที่ผ่านมา พบเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลก ตามรายงานจาก Counterpoint  คาดการณ์ว่าการส่งออก สมาร์ตโฟนจอพับทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง 55 ล้านเครื่องภายในปี 2568 หรือคิดเป็น 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเพิ่มความเข้มข้น ในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเอาชนะใจกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ในขณะเดียวกันคาดว่าส่วนแบ่งของตลาดสมาร์ตโฟนจอพับจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 16% ภายในปี 2568 

นอกจากจะเป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนแล้ว ออปโป้ยังถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปใน ตลาดไทยและตลาดโลก ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงนวัตกรรม เทคโนโลยี การบริการ และการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพื่อมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและไม่เหมือนใครให้แก่ผู้บริโภค ตามแนวทาง Inspiration Ahead ของแบรนด์ ด้วยแนวคิดนี้ทำให้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ออปโป้ได้สร้างกระแสฮือฮาให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับ OPPO Find N2 Flip ที่มายกระดับสมาร์ตโฟนจอพับจนกลายเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็ตในฝันของ ผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้แล้ว ประสิทธิภาพภายในยังได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาของผู้ใช้
สมาร์ตโฟนจอพับ ทั้งหน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด ณ เวลานั้น รอยพับที่น้อยที่สุด พร้อมกล้องที่ให้ภาพ และวิดีโอที่คมชัด รวมถึงแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ

กลยุทธ์สร้างความต่างในตลาดสมาร์ตโฟนจอพับ อัปเกรดความพรีเมียมไปอีกขั้นเซอร์ไพรส์ผู้บริโภคชาวไทย

“การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ท้าทายตลอดเวลาเป็นดีเอ็นเอของออปโป้” คุณชานนท์เพิ่มเติม “เราได้กำหนดนิยามใหม่ของ สมาร์ตโฟนจอพับ ด้วยการส่งเสริมแนวคิดของจอแสดงผลหลัก 2 จอ นั่นหมายถึงจอด้านนอกจะต้องสามารถใช้งานได้จริง เทียบเท่ากับจอด้านใน โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกางสมาร์ตโฟนเพื่อเปลี่ยนมาใช้งานบนหน้าจอด้านในเพียงอย่างเดียว”

ออปโป้ได้เผยโฉมนวัตกรรมนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกใน OPPO Find N Series เมื่อปี 2564 และได้ถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวมายังรุ่น ต่อมา เมื่อซูมเข้ามาที่ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในไทย เราเริ่มมองเห็นความเข้มข้นด้านการแข่งขันในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ออปโป้นำเสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคด้วย OPPO Find N2 Flip พับที่ดีกว่า ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟน จอพับของออปโป้รุ่นแรกในไทย ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้า ทั้งบานพับ Flexion Hinge ที่ทนต่อการพับมากกว่า 400,000 ครั้ง และจอด้านนอกแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุด ณ เวลานั้น ทำให้ออปโป้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 55% ในเดือนแรกที่จำหน่าย ของกลุ่มสมาร์ตโฟนจอพับ พร้อมเติบโต 532% ในวันแรกที่วางขาย ถือเป็นการแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ตโฟน จอพับในไทยของออปโป้

“ในปีนี้เป็นปีที่ 15 ที่ออปโป้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราจึงประกาศเดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมจอพับระดับแฟลกชิปอย่าง เต็มกำลัง ด้วยการเปิดตัว OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip พร้อมกำหนดนิยามใหม่แห่งการพับด้วยประสบการณ์ ที่เหนือกว่า ในปีนี้เราลุยตลาดพร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip นำเสนอเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนจอพับ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียม ที่มองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าเพื่อตอบสนอง ไลฟ์สไตล์และสะท้อนตัวตนให้ได้มากที่สุด

OPPO Find N3 เบา บาง ทรงพลัง

ออปโป้ส่ง OPPO Find N3 สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแฟลกชิป เจาะกลุ่ม Success Capturers หรือกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตแบบ Work-Life Balance ที่ชื่นชอบการทำงานพร้อมกับการท่องเที่ยวและถ่ายภาพโมเมนต์แห่งความสำเร็จ รุ่นนี้จึงมาพร้อมกับ ประสิทธิภาพที่ทรงพลังด้วยนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ตลาด ออปโป้ทุ่มลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อดีไซน์ให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา เพียง 239 กรัม และบางเพียง 5.8 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) ด้วยจอด้านนอกขนาด 6.3 นิ้ว และเมื่อกางออกจะมีขนาดถึง 7.8 นิ้ว หน้าจอขนาดใหญ่ในสเกลที่สมส่วนเหมาะกับทุกการ ใช้งาน มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS เปิดใช้งานมุมมองแบบไร้ขอบเขต (Boundless View) สามารถเปิดแอปแบบ เต็มจอสูงสุด 3 แอปบนหน้าจอ เพื่อรองรับการทำงานที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวก สบาย สาเหตุที่ตัวเครื่องเบาและบางในระดับนี้มาจากการอัปเกรดบานพับ Flexion Hinge ในรุ่นที่ 3 จึงมอบประสบการณ์การ พับที่ลื่นไหล ทนทาน และเบาบางเป็นพิเศษ ที่สำคัญยังให้กล้องหลังระดับแฟลกชิปมากถึง 3 ตัว ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ ขนาดใหญ่เก็บทุกรายละเอียด ให้ทั้งภาพและวิดีโอสวยชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมความร่วมมือกับ Hasselblad เพื่อสร้างผลงานภาพระดับมาสเตอร์พีซ มาพร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC  สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นนี้จึงเป็นพื้นที่แห่ง การทำงานและความบันเทิงได้อย่าง ไร้ที่ติ

OPPO Find N3 Flip กับนิยามใหม่แห่งการพับด้วยกล้องที่ดีกว่า ครั้งแรกกับกล้อง Telephoto Portrait

สานต่อความร้อนแรงของรุ่นก่อนหน้า OPPO Find N3 Flip สมาร์ตโฟนจอพับที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพื่อลงโซเชียล ชอบอัปเดตเทรนด์ใหม่ ชื่นชอบแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจ ออปโป้ได้ยกระดับดีไซน์ไปอีกขั้นกับสไตล์สุดคลาสสิค ด้วยดีไซน์กล้องพร้อมวงแหวน Cosmos Ring ซึ่งล้อมรอบด้วย Starlight Track อยู่คู่กับหน้าจอด้านนอกแนวตั้งที่สวยงาม ทำให้ดีไซน์ตัวเครื่องโดดเด่นสะดุดตา มาในสีใหม่ถึง 3 สี ได้แก่ สีทอง Cream Gold, สีชมพู Misty Pink และสีดำ Sleek Black
บ่งบอกสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน และเป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนจอพับระดับเดียวกันที่มาพร้อมกล้องหลัก 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto Portrait สามารถซูมแบบออปติคอลได้ถึง 2X ให้ภาพพอร์ตเทรตสวยและมีสไตล์ที่สุดในตลาด สีสดเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับของ Hasselblad ในขณะที่การเปิด-ปิดฝาพับสามารถทำได้อย่างลื่นไหล และทนทานด้วย บานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 และมีรอยพับตื้นขึ้นจนแทบมองไม่เห็น ในขณะที่หน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะ ใช้งานตอบข้อความหรือเลื่อนดูฟีดโซเชียล โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอด้านใน รวมไปถึงฟีเจอร์ Interactive Pet บนหน้าจอนอกที่ได้ รับการปรับปรุงเพิ่มสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักเพื่อความเพลิดเพลินในชีวิต ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันเพราะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,300mAh รองรับการชาร์จไว 44W SUPERVOOC และใช้งาน Dual SIM ระดับ 5G ได้อีกด้วย

“OPPO Find N3 Flip คือสมาร์ตโฟนจอพับที่สร้างปรากฏการณ์หลังเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดขายมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 91% รวมถึงได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งสื่อมวลชนและลูกค้า ในขณะเดียวกัน หลังเปิดตัว ที่สิงคโปร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สมาร์ตโฟนจอพับทั้ง 2 รุ่นนี้ยังได้รับการรีวิวว่าเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้กับสมาร์ตโฟนจอพับ ระดับแฟลกชิปจัดเต็มนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อเซอร์ไพรส์ผู้บริโภค โดยเฉพาะเทคโนโลยีกล้องที่ต่างได้รับเสียงชื่นชม เนื่องจากเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่ให้กล้องมาถึง 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto Portrait ให้ประสบการณ์ถ่ายภาพ พอร์ตเทรตที่ดีและสวยที่สุด รวมถึงการใช้งานหน้าจอที่เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมลูกเล่นต่างๆ ที่ให้ประสบการณ์ที่ แตกต่างและไม่เคยได้สัมผัสจากสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ โค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้ง OPPO Find N3 Flip และ OPPO Find N3 Flip ได้เตรียมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยกิจกรรม การตลาดมากมาย ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Aristotle เพื่อมอบนิยามใหม่แห่งการพับที่แท้จริง” คุณชานนท์ ทิ้งท้าย

#OPPOFindN3SeriesTH #นิยามใหม่แห่งการพับ #PioneerinFlipExperience