“อพท. คว้ารางวัล ITA AWARDS 2025 ด้านความโปร่งใส อันดับ 1 ในประเภทองค์การมหาชน”

“อพท. คว้ารางวัล ITA AWARDS 2025 ด้านความโปร่งใส อันดับ 1 ในประเภทองค์การมหาชน”

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568 นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ประธานกรรมการ พพท.  พร้อมด้วย นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการ อพท.  ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อํานวยการ อพท.(1)   ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้อํานวยการ อพท.(2)   และ นางสาววัชรี ชูรักษา ผู้ช่วยผู้อํานวยการ อพท.  รวมถึงคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ อพท.  ร่วมบันทึกภาพแสดงพลังในโอกาสที่ อพท. ได้รับรางวัล ITA Awards 2025 ณ โถงด้านหน้า อพท. ชั้น 4 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C  

ในปีนี้ อพท. ได้รับรางวัลในฐานะหน่วยงานที่ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเภทองค์การมหาชน มีคะแนนถึง 99.19% อยู่ในระดับ "ผ่านดีเยี่ยม" รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ อพท. ในการดําเนินงานพัฒนาท่องเที่ยว ด้วยความโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล โดยจะมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อแนวทางการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนี้ต่อไป

สุพรรณบุรี อพท.กิจกรรมสร้างความรู้ขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมกันเปิดงาน กิจกรรมสร้างการรับรู้ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (Thailand Creative City Network - TCCN 2024) โดยมีนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรีพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ กิจกรรมสร้างการความรู้ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกThailand Creative Cities Network (TCCN 2024 นวัตกรรมเมือง (City Innovation) Suphanburi Music Crafts & Folk Arts 


ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก จำนวน7 เมือง ได้แก่ เมืองเชียงใหม่ เมืองสุโขทัย ที่เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Craft & Folk Arts) ส่งเสริมงานด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านในระดับชุมชนและท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องให้เป็นที่ประจักษ์ ประสานความร่วมมือระหว่างเมืองเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน เมือง ภูเก็ต และ เมืองเพชรบุรี ที่เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร(Gastronomy) ส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เมืองกรุงเทพมหานคร และ เมืองเชียงราย เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ (Design) นำการออกแบบมาปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองโดยคงอัตลักษณ์ เมืองสุพรรณบุรี ได้รับเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี (Music) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.

โดยสำนักพัฒนาขีดความสามารถการท่องเที่ยว จึงจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (Thailand Creative City Network - TCCN 2024) เพื่อเป็นการรวมกลุ่มเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันผลักดันเมืองต่างๆ ของประเทศไทย เข้าร่วมเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UCCN) รวมถึงการสร้างการรับรู้ การมีประโยชน์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองที่เป็นประโยชน์อันก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาและบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์เมืองในประเทศในแต่ละด้าน จึงเป็นปัจจัยที่มีความจำเป็นต่อการสร้างแรงจูงใจ และเห็นประโยชน์ของการร่วมมือในการพัฒนาเมืองเป็นสำคัญ ส่งเสริมให้ อพท.เป็นองค์กรผู้นำด้านการบริหารการพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


ซึ่งส่งผลกระทบที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศด้วย กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้และความตระหนักถึงประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกแก่เมืองเป้าหมายในประเทศไทย และภาคสังคม ให้เห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับการสนับสนุนการพัฒนาเมืองในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. และ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาเครือข่ายและความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานในการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกของประเทศไทย

“20 ปีอพท.” ชวนก้าวต่อไปพร้อมกัน เร่งพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 22-23 ก.พ.นี้

อพท. จัดใหญ่ “DASTA FORUM 2024 ในวาระพิเศษครบรอบ 20 ปี อพท.” เชิญภาคีเครือข่าย และผู้ที่สนใจ ร่วมสร้างความสุขจากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ. 67 ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว

วันที่ 15 ก.พ.2567 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ  อพท. ชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “DASTA FORUM 2024” ในวาระพิเศษครบรอบ 20 ปี อพท. ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ภายใต้แนวทางความคิด “20 ปี อพท….การเดินทางเพื่อสร้างความยั่งยืนแก่การท่องเที่ยวของไทย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจบทบาทภารกิจของ อพท. ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาและมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อส่งมอบแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้เติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย โดยภายในงานมีการนำเสนอกิจกรรมที่เป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม , ผลิตภัณฑ์ชุมชน , อาหารที่มีอัตลักษณ์พิเศษจากทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการ

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

1. นิทรรศการ 20 ปี อพท. บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางเพื่อสร้างความยั่งยืนแก่การท่องเที่ยวของไทย

2. นิทรรศการ Hall Of Fame นำเสนอความสำเร็จของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท.

3. นิทรรศการ Sustainable Tourism เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

4. นิทรรศการ 9 พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ของอพท.

5. การแสดงแสงสีเสียง ชุด “20 ปี อพท. ปาฏิหาริย์กาลเวลา” และพิธีเปิดงาน

6. การเสวนา DASTA FORUM “Soft Power พลังสร้างสรรค์ในการสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยว”

7. ปาฏกถา “อพท. กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”

8. การประกวดแผนธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

9. การแข่งขันทำอาหารอัตลักษณ์ชุมชน

10. แฟชั่นโชว์และการแสดงจากพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

11. การแสดงทางวัฒนธรรม และการแสดงจากศิลปิน

12. ร้านค้าร้านอาหารเด็ดจากทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามแต่ละกิจกรรมจะมีภาคีเครือข่าย ผู้ทรงคุณวุฒิ และ Influencer เข้าร่วม อาทิ หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล , คุณหิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล (อาจารย์ส้มโอ) , คุณมนัทพงศ์ เซ่งฮวด , อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย , คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม , เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต , คุณฐษชัย ชนะอรรถกาล (กี๋ AF5) ฯลฯ พร้อมสัมผัสกับผลิตภัณฑ์จากพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ กระจูดวรรณี , บ้านทองสมสมัย , กวินทิพย์ หัตถกรรม และร้านอาหารเด็ดจากทั่วประเทศ เช่น หวังบู่ ข้าวหมกไก่ สมุทรปราการ , หมูอบโอ่ง สุโขทัย , หอยจ๊อปูแม่วรรณา ชลบุรี , ชาชัก สงขลา , ต้นหอมมะม่วงน้ำปลาหวาน สมุทรปราการ , เจ๊ติ้ง ซาลาเปาทับหลี ระนอง , ต่อไอติมบ้านแพ้ว สมุทรสาคร , นงลักษณ์ขนมไทย ฉะเชิงเทรา และพลาดไม่ได้กับการแสดงทางวัฒนธรรม และการแสดงจากศิลปิน อาทิ การแสดงผีตาโขน , การแสดงโนรา , เต๋า ภูศิลป์ , หนุ่มสามวิ เงาเสียงเบน ชลาทิศ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการประกวดชิงรางวัล และการเล่นเกมกิจกรรมลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย

22-23 ก.พ.นี้ ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเติมเต็ม สร้างความสำเร็จ “ก้าวต่อไปพร้อมกัน” เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมกับกับ อพท. เข้าชมฟรี! พบกันที่ BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัลลาดพร้าว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DASTATHAILAND

อพท. ดัน“คลองท่อม กระบี่” พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดึงกลุ่มรักสุขภาพสัมผัส “น้ำพุร้อนเค็ม - น้ำตกร้อน”

อพท. ดัน“คลองท่อม กระบี่” พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดึงกลุ่มรักสุขภาพสัมผัส “น้ำพุร้อนเค็ม - น้ำตกร้อน” ฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างรายได้ชุมชน

            นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.   พร้อม  นางสาววาสนา  พงศาปาน  ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร(สสอ.)  นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่  อำเภอคลองท่อม  จังหวัดกระบี่  เพื่อศึกษาและสำรวจศักยภาพ “คลองท่อม” จ. กระบี่ หนุนขึ้นแท่นเมืองสุขภาพ หรือ Wellness ผลักดันประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กำหนดเป้าหมายการทำงานประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนา โชว์เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ น้ำตกร้อนและน้ำพุร้อนเค็ม   ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงชื่นชอบท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ มุ่งกระจายรายได้  ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนท้องถิ่น และฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน  โดยมีนายสุรัตน์   จรณโยธิน  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับ   

 
          นาวาอากาศเอก   อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารอพท. และสื่อมวลชน  ลงพื้นที่จ.กระบี่  เพื่อศึกษาศักยภาพ  ความเหมาะสมของพื้นที่อำเภอคลองท่อม ให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยืน ครอบคลุมบริเวณ น้ำตกร้อน สระมรกต  และน้ำพุร้อนเค็ม ภายใต้แนวคิด “คลองท่อมเมืองสุขภาพ หรือ Wellness” ภายหลังได้รับมอบหมายจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการศึกษาพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากพบว่าอำเภอคลองท่อม  มีความโดดเด่นทั้งด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่ตำบลห้วยน้ำขาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen มีน้ำพุร้อนเค็มแห่งเดียวของประเทศไทยและเป็น 1 ใน 2 แห่งของทั่วโลก โดยอีกหนึ่งแห่งอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเชค แถบยุโรปตะวันออก

          ทั้งนี้ อพท. เตรียมสรุปผลการศึกษาและนำเสนอคณะกรรมการ อพท. พิจารณาประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเห็นชอบ  ซึ่งคาดว่า ปลายปีนี้จะศึกษาแล้วเสร็จ และจะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งกระบวนการในปี 2567   จากนั้นจะไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ อำเภอคลองท่อม ที่จะต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล  และแผนยุทธศาสตร์ชาติ BCG Model ที่นำคุณค่าทางทรัพยากรที่มีอยู่ มายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 

 
         เป้าหมายพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดย อพท. ทำหน้าที่เป็นองค์กรในการประสานหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่คลองท่อม เพื่อบริหารจัดการพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยทำคู่ขนานกับชุมชน ให้คนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากแหล่งท่องเที่ยวใหม่  ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพให้กับชุมชนและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาความเจริญให้กับชุมชนและพื้นที่ในระยะยาว 

         “จุดเด่นของน้ำพุร้อนเค็ม คือ มีแร่ธาตุสูงที่เป็นประโยชน์ในด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งปัจจุบันมีภาคเอกชนเริ่มเห็นประโยชน์และนำน้ำร้อนเค็มขึ้นมาใช้ มีการลงทุนทางธุรกิจไปบ้างแล้ว แต่การลงทุนจากภาครัฐยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งการควบคุมด้านคุณภาพน้ำและปริมาณการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดนำไปสู่การเพิ่มและกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงในมิติของแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ จะทำให้ อพท. เข้ามาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อดำเนินการเรื่องการใช้น้ำ การใช้ประโยชน์จากที่ดิน การจัดทำผังเมือง ด้านการลงทุนประสานสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณาจัดทำสิทธิประโยชน์เชิญชวนนักลงทุน หากดำเนินการได้ตามเป้าหมาย” ผู้อำนวยการ อพท. กล่าว
 
  อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังจากมีการประกาศพื้นที่พิเศษฯ อำเภอคลองท่อมแล้ว อพท. จะใช้    องค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ท้องถิ่นและชุมชน ได้แก่ เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย (CBT Thailand) เพื่อยกระดับคลองท่อมเป็น Wellness City  และจะเข้าไปยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการ และเชิญชวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและมีศักยภาพเข้ามาพัฒนาพื้นที่คลองท่อม ให้เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นแหล่งฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ รวมถึงการนำเสนอการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่แห่งนี้ เข้าสู่เวทีในระดับสากล โดยการเสนอชื่อเข้ารรับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ TOP 100 (Green Destinations Top 100 Stories)

          ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอคลองท่อมมีการตื่นตัว พัฒนาศักยภาพพื้นที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 อพท. ได้นำ มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Management Standard : STMS) ไปประเมินโดยมี 2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้  และองค์การบริหารส่วนตำบลคลองท่อมเหนือ ซึ่งพบว่ามีการบริหารจัดการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และได้รับใบประการมาตรฐาน STMS ในปีงบประมณ 2565  

         จากสถิติปี 2562 จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกือบ 7 ล้านคนต่อปี โดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 4 ล้านคน และในปี 2562 จังหวัดกระบี่ ทำรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ คิดเป็นตัวเลขประมาณ 120,000 ล้านบาท แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ลดลงตามลำดับจากนโยบายการปิดประเทศ แต่หลังจากปลายปี 2565 ถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทะยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย 5 เดือนแรกปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดกระบี่ ประมาณ 1.2 ล้านคน นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก 1.8 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวในประเทศ 9,000 ล้านบาท ต่างชาติ 4,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นตลาดสำคัญ ได้แก่ กลุ่มยุโรป และกลุ่มอาหรับ ซึ่งกลุ่มนี้ชื่นชอบโปรแกรมเพื่อดูแลสุขภาพ