กรุงไทยเปิดประตูสู่หุ้นโลกส่ง DR80 ใหม่ 8 หลักทรัพย์ ดีเดย์ 10 ก.ย. 68 

ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าเปิดประตูการลงทุนสู่ตลาดโลก เตรียมเสนอขาย DR80 ใหม่ 8 หลักทรัพย์ อ้างอิงหุ้นใหญ่ในจีนและสหรัฐ ครอบคลุมกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า “Geely และ CATL” กลุ่มโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ “Grab”, “ Miniso และ Kuaishou” และไซเบอร์ซิเคียวริตี้ “CrowdStrike และ Palo Alto” พร้อม ETF อ้างอิงดัชนี Nikkei 225 จากญี่ปุ่น ดีเดย์เริ่มซื้อขาย 10 ก.ย. 68 นี้ 

วันที่ 4 กันายน 2568 นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร  ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมสินทรัพย์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด เตรียมออก ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR80) จำนวน 8 หลักทรัพย์ อ้างอิงหุ้นชั้นนำจากตลาดหุ้นจีน สหรัฐอเมริกา และ ETF จากญี่ปุ่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด DR  ที่มีจำนวนหลักทรัพย์มากที่สุดในตลาด รวมเป็น  49 หลักทรัพย์ ครอบคลุมตลาดหุ้นเอเชีย สหรัฐอเมริกาและยุโรป เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นต่างประเทศที่มีโอกาสเติบโตสูงเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีนักลงทุนถือครอง DR80 ที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) สูงกว่า 19,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก www.set.or.th ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568) 

DR80 ใหม่ในครั้งนี้ อ้างอิงหุ้นจีน 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย 
● บริษัท Geely Automobile Holdings Limited (GEELY80) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ที่มีแบรนด์ระดับโลกในเครือ เช่น Geely, Volvo, Zeekr 
● บริษัท Miniso Group Holding Limited (MNSO80) แบรนด์ค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์จากจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยรูปแบบร้านที่เข้าถึงง่ายและราคามิตรภาพ
● บริษัท Kuaishou Technology (KUAISH80) แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมจากจีน ที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งจำนวนผู้ใช้งานและความเป็นผู้นำด้านโซเชียลมีเดียและคอนเทนต์วิดีโอ
● บริษัท Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL) (CATL80) ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรม EV ทั้งในจีนและต่างประเทศ

อ้างอิงหุ้นสหรัฐฯ 3 หลักทรัพย์ 
● บริษัท CrowdStrike Holdings, Inc. (CRWD80) บริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้บริการโซลูชันป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ 
● บริษัท Palo Alto Networks, Inc. (PANW80) หนึ่งในบริษัทด้าน Cybersecurity ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการโซลูชันเพื่อความปลอดภัยบนคลาวด์ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบเครือข่ายทั่วโลก
● บริษัท Grab Holdings Limited (GRAB80) ผู้ให้บริการ Super App ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมบริการเรียกรถ ส่งอาหาร และบริการทางการเงิน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
อ้างอิง ETF ญี่ปุ่น 1 หลักทรัพย์ 
● กองทุน NEXT FUNDS Nikkei 225 ETF(NIKKEI80) อ้างอิงดัชนี Nikkei 225 ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดจากญี่ปุ่น เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในเศรษฐกิจญี่ปุ่นผ่าน ETF ชั้นนำ

ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนใน DR ทั้ง 8 หลักทรัพย์ ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2568 โดย DR อ้างอิงหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายได้ใน 2 ช่วงเวลา คือ  10.00-16.30 น. และ 19.00-02.45 น. (T+1) ส่วน DR อ้างอิงหุ้นจีน และ ETF ญี่ปุ่น ซื้อขายเวลา 10.00-16.30 น. ตามเวลาไทย 
สำหรับผู้ลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถลงทุนในรูปแบบสกุลเงินบาท ผ่านแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง (Streaming) ได้ทันที โดยไม่ต้องจองซื้อ และยังได้รับสิทธิประโยชน์เสมือนลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111

เคทีซีคว้ารางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์จากเวที Money & Banking Award 2025

เคทีซีคว้ารางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์จากเวที Money & Banking Award 2025

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขึ้นรับรางวัล “บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2568” ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ (Best Public Company of the Year 2025 – FIN Sector) จากดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมแสดงความยินดีในงาน Money & Banking Awards 2025 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท

รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของเคทีซีในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 27,456 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,437 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 27.1% อีกทั้งยังมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ อยู่ที่ 128,916.70 ล้านบาท

พิทยา วรปัญญาสกุล กล่าวว่า “เคทีซีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทของทีมงานในการสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและยั่งยืน การได้รับรางวัลนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้เคทีซีเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยความยืดหยุ่น ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน”

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบข้อมูลลูกค้าระหว่างกันในการกำหนดและทบทวนวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์

ก.ล.ต.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบข้อมูลลูกค้าระหว่างกันสำหรับใช้ประกอบการพิจารณากำหนดและทบทวนวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสมต่อความสามารถในการชำระหนี้ มีผลบังคับใช้ 1 ก.พ.69

วันที่ 17 มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (รวมเรียกผู้ประกอบธุรกิจ) ตรวจสอบข้อมูลลูกค้าระหว่างกัน เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่จำเป็นและเพียงพอต่อการนำไปใช้ประกอบการพิจารณากำหนดและทบทวนวงเงินให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสมต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม และลดโอกาสการผิดนัดชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์ที่อาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจ ตลอดจนลดความเสี่ยงเชิงระบบได้ จึงกำหนดหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

(1) ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่รวบรวม ประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่ขอวงเงินสูง หรือมีความเสี่ยงสูง จากผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น ๆ ที่ให้บริการลูกค้าในรายเดียวกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของลูกค้ารายดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการชำระหนี้ และนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการวิเคราะห์เพื่อกำหนดวงเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

(2) ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการร้องขอข้อมูลมีหน้าที่นำส่งข้อมูลลูกค้าตามที่ได้รับการร้องขอจากผู้ประกอบธุรกิจแห่งอื่น ๆ

(3) ผู้ประกอบธุรกิจที่ร้องขอตรวจสอบข้อมูลต้องเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าดังกล่าวแก่ผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นที่ให้บริการแก่ลูกค้ารายเดียวกันทราบด้วย

สำหรับรายละเอียดการดำเนินการในการตรวจสอบข้อมูลลูกค้า เช่น ช่องทางและวิธีการตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าระหว่างกัน เงื่อนไขของลูกค้าที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจากผู้ประกอบธุรกิจแห่งอื่น ชุดข้อมูลของลูกค้าที่ต้องตรวจสอบระหว่างกัน เป็นต้น ให้เป็นไปตามที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยกำหนด โดยได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.

ทั้งนี้ ประกาศที่ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2569

#กลต #หลักทรัพย์ #ข่าววันนี้ #SET #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

"เผ่าภูมิ" ชี้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมาย จ่อเข้าสภาฯ เร็วๆนี้

"เผ่าภูมิ" ชี้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมาย จ่อเข้าสภาฯ เร็วๆนี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์) ที่ ครม. เพิ่งเห็นชอบไปนั้น และกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการส่งไปสภาฯเพื่อพิจารณาวาระที่ 1 โดยร่างแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เป็นการรองรับการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ในการออกผลิตภัณฑ์และทำธุรกรรมในตลาดทุนได้ โดยรองรับกระบวนการออกหลักทรัพย์ จากเดิมที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ มาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่การออกหลักทรัพย์จนถึงตลอดอายุ (Life Cycle) ซึ่งทำให้หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์จะมีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ที่เป็นกระดาษ

สำหรับข้อดีต่อประชาชนดังนี้ 1.การโอนและการส่งมอบหลักทรัพย์ จากเดิมจะต้องมีการส่งมอบการครอบครองในรูปแบบกระดาษ มาเป็นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยดำเนินการผ่านสิทธิในการควบคุมหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นของตนเองไปยังอีกบุคคลหนึ่ง

2.หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้และใช้ในการบังคับหลักประกันได้ โดยไม่ต้องส่งมอบหลักทรัพย์ในรูปแบบกระดาษ

3.มีทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์โดยบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จะทำให้สามารถติดตามผู้ถือหลักทรัพย์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

4.รองรับการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ในการออกผลิตภัณฑ์และทำธุรกรรมในตลาดทุนในอนาคตได้

5.เป็นการทำให้หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ที่เป็นกระดาษ

สำหรับร่างพระราชบัญญัติฯนี้ จะส่งเสริมการดำเนินการในตลาดทุนให้เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ครบถ้วนทั้งระบบ ทำให้การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องมีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดขั้นตอน ลดภาระในการจัดเก็บเอกสาร และเป็นกรอบกฎหมายที่คุ้มครองผู้ลงทุนและผู้ประกอบการ

#เผ่าภูมิ #ข่าววันนี้ #หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ #หลักทรัพย์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

หลักทรัพย์บัวหลวง เชื่อมต่อโอกาสลงทุนหุ้นเมกะเทรนด์ชั้นนำสหรัฐฯ-ฮ่องกง เปิดตัว DR อ้างอิงหุ้นรายตัว 13 หลักทรัพย์

หลักทรัพย์บัวหลวง เดินหน้ายกระดับโอกาสการลงทุนของนักลงทุนไทย สู่หุ้นเมกะเทรนด์ชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐฯ และฮ่องกง ผ่าน DR อ้างอิงหุ้นรายตัวชุดใหม่ 13 หลักทรัพย์ ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนในกลุ่ม “Magnificent 7” ของสหรัฐฯ และกลุ่ม “Terrific China” บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดย TSLA01, AMZN01, GOOGL01, META01, MSFT01, NVDA01, AAPL01, BYDCOM01, BABA01, BIDU01, PINGAN01, XIAOMI01 เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 15 พ.ค.68 ขณะที่ TENCENT01 เริ่มซื้อขายในวันที่ 19 พ.ค.68

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) เจ้าแรกของไทย และปัจจุบันเป็นผู้ออก DR ที่มี Coverage ครอบคลุมตลาดหุ้นทั่วโลกมากที่สุด และมีมูลค่าตลาด DR อันดับต้นๆในอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาทางเลือกการลงทุนต่างประเทศให้แก่นักลงทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงหุ้นเมกะเทรนด์ระดับโลกได้สะดวกขึ้น ผ่านการเสนอขาย DR อ้างอิงหุ้นรายตัวระดับโลกชุดใหม่ จำนวน 13 หลักทรัพย์ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมี DR01 ที่สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รวมทั้งสิ้น 26 หลักทรัพย์ ครอบคลุมการลงทุนในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา, จีน, ฮ่องกง, เวียดนาม, อินเดีย, ญี่ปุ่น และหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง และยุโรป

สำหรับ DR ชุดใหม่อ้างอิงหุ้นรายตัว 13 บริษัทชั้นนำระดับโลก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ของสหรัฐฯ และกลุ่ม Terrific China บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ (Megatrend) ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและมีศักยภาพการเติบโตสูงในอนาคต ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนไทยอาจยังเข้าถึงได้อย่างจำกัดผ่านหุ้นไทย ซึ่ง DR ชุดใหม่นี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกการลงทุนและเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถมีส่วนร่วมในกระแสการเติบโตของเมกะเทรนด์ระดับโลกได้สะดวกยิ่งขึ้น ประกอบด้วย

1.กลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle – EV)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “TSLA01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Tesla ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)และพลังงานแสงอาทิตย์

-ฝั่งฮ่องกง DR “BYDCOM01” อ้างอิงหุ้นสามัญ BYD Company ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน

2.กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “AMZN01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Amazon บริษัท E-Commerce ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯและผู้นำตลาด Cloud ผ่าน Amazon Web Services (AWS)

-ฝั่งฮ่องกง DR “BABA01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Alibaba Group Holding ผู้นำด้าน E-Commerce และ Cloud Services ของจีน ซึ่งมีแพลตฟอร์มหลากหลาย เช่น Taobao และ Tmall

3.กลุ่มธุรกิจเสิร์ชเอนจินและโฆษณาดิจิทัล (Search Engine and Digital Advertising)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “GOOGL01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Alphabet บริษัทแม่ของ Google มีธุรกิจหลักด้าน Search Engine โฆษณา และบริการเทคโนโลยี เช่น YouTube, Android และ Google Cloud

-ฝั่งฮ่องกง DR “BIDU01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Baidu บริษัท Search Engine อันดับ 1 ของจีน และผู้นำด้าน AI และเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ เช่น แชทบอทอัจฉริยะ Ernie Bot

4.กลุ่มธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล (Social Media)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “META01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Meta Platforms เจ้าของ Social Media อย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ที่มีผู้ใช้งานรวมกันกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี VR ผ่าน Oculus

-ฝั่งฮ่องกง DR “TENCENT01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Tencent Holdings เจ้าของแพลตฟอร์ม WeChat และผู้นำตลาดเกมออนไลน์

5.กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ (Technology Hardware)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “AAPL01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Apple บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่โดดเด่นด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆเช่น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, iCloud, Apple Music และ App Store

-ฝั่งฮ่องกง DR “XIAOMI01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะที่เน้นนวัตกรรมและระบบนิเวศ IoT

6.กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการ (Software and Services)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “MSFT01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Microsoft ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ Windows และ Office รวมถึงบริการ Cloud ผ่าน Azure และเป็นผู้ลงทุนใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT

7.กลุ่มธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductors)

-ฝั่งสหรัฐฯ DR “NVDA01” อ้างอิงหุ้นสามัญ NVIDIA ผู้นำด้านการพัฒนา GPU สำหรับเกม, การประมวลผลข้อมูล และ AI โดยมีจุดแข็งในการสร้างชิปที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ชิป H100

8.กลุ่มธุรกิจประกันภัยและเทคโนโลยีทางการเงิน (Insurance and Financial Technology)

ฝั่งฮ่องกง DR “PINGAN01” อ้างอิงหุ้นสามัญ Ping An Insurance บริษัทประกันและบริการทางการเงินขนาดใหญ่ของจีนที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการให้บริการ เช่น Ping An Good Doctor

นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า DR เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนไทยทุกช่วงวัยเข้าถึงการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกและง่ายมากขึ้น เพราะสามารถซื้อขายได้เรียลไทม์ด้วยเงินบาทไทย ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่เพิ่มเติม ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขยายเวลาซื้อขาย DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และยุโรป โดยเพิ่มเวลาซื้อขายช่วงกลางคืนประเทศไทย ตั้งแต่ 19.00 น. จนถึงเวลา 03.00 น. (ตีสาม) เพื่อให้สอดคล้องกับเวลาเปิดทำการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป หลังจากที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจการลงทุนใน DR บนกระดานหุ้นไทยมากขึ้น สะท้อนจากมูลค่าตลาดของ DR ที่เติบโตต่อเนื่อง หากนับจากปี 2561 ที่มี DR เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นไทย พบว่ามูลค่าตลาด DR ทั้งอุตสาหกรรมในปัจจุบันขยายตัวราว 54 เท่า แตะระดับ 30,857 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2568) ขณะที่ DR01 ที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวง มีส่วนแบ่งราว 41.3% ของทั้งอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดของ DR ทั้งอุตสาหกรรมอ้างอิงตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง มีสัดส่วนมากที่สุดราว 47.4% ของทั้งอุตสาหกรรม ตามด้วย DR อ้างอิงตลาดหุ้นเวียดนาม 35.0% และอ้างอิงตลาดหุ้นสหรัฐฯ 10.5% ส่วน DR ที่อ้างอิงหุ้นตลาดชั้นนำอื่น ๆ และหลักทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ อยู่ที่ 7.2%

นอกจากนี้ยังสำรวจพบว่า นับจากต้นปี 2568 มูลค่าตลาด DR ทั้งอุตสาหกรรมที่อ้างอิงตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง เติบโตกว่า 45% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของนักลงทุนไทยในการเข้าถึงตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงผ่าน DR สอดรับกับภาครัฐบาลจีนที่ส่งสัญญาณผ่อนคลายและสนับสนุนภาคเอกชนมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567 ดังนั้นการออก DR อ้างอิงบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงจะยิ่งตอบโจทย์และเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนไทย ขณะที่ DR อิงหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในระยะยาว หลังจาก Valuation หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงมาในระดับหนึ่งแล้วตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทยที่สามารถซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ ระดับโลกผ่าน DR ในกระดานหุ้นไทยได้แล้วทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนของไทย

“ปัจจุบันปริมาณการซื้อขาย DR ทั้งอุตสาหกรรมโดยรวมเติบโตต่อเนื่อง โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ DR01 ย้อนหลัง 1 ปี เพิ่มขึ้น 40% นอกจากนี้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ DR01 ทั้ง 13 หลักทรัพย์ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2568) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,735 ล้านบาท สะท้อนถึงความสนใจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยที่มีต่อการใช้ DR ในการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง” นายพิเชษฐ กล่าว

ทั้งนี้ DR อ้างอิงหุ้นรายตัวชุดใหม่ 12 หลักทรัพย์ (TSLA01, AMZN01, GOOGL01, META01, MSFT01, NVDA01, AAPL01, BYDCOM01, BABA01, BIDU01, PINGAN01 และ XIAOMI01) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ส่วน TENCENT01 จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ด้วยกระบวนการ Direct Listing โดยไม่ต้องจองซื้อล่วงหน้าเหมือนกรณี IPO ทำให้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ในวันดังกล่าว ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดได้จากหนังสือชี้ชวนและข้อกำหนดสิทธิ์ได้ที่ www.sec.or.th, www.set.or.th หรือ www.bualuang.co.th/dr  

 

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. แจ้งเตือนการหลอกลวงลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่นใดของกลุ่มบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.

บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศ) จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงในรูปแบบการชักชวนลงทุนจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ ผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากขณะนี้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

เพื่อป้องกันการสับสน หลงผิด และเพื่อป้องกันความเสียหายแก่ประชาชน ทางบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ข้อมูลตามที่มีการแอบอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องด้วยในขณะนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังไม่มีการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน หรือการระดมทุนในรูปแบบใดๆ นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการแอบอ้างหรือกล่าวอ้างถึง หรือรับรองการกระทำดังกล่าวในทุกกรณี โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

สำหรับประชาชนผู้สนใจสินค้าหรือบริการของกลุ่มบริษัทฯ ขอให้ท่านติดตามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทฯ ผ่านช่องทางของกลุ่มบริษัทฯ ที่เป็นทางการ ซึ่งได้แก่  

เว็บไซต์บริษัทฯ: https://www.mrdiy.co.th/, Facebook: @mrdiyTH, Instagram: @mrdiy.thailand, TikTok: @mrdiy.thailand, 
Line: @mrdiythailand, LinkedIn: MR.DIY Thailand, และ YouTube: MR DIY Thailand

อย่างไรก็ตาม ใคร่ขอให้ประชาชนโปรดระมัดระวังการทำธุรกรรม โดยตรวจสอบชื่อบัญชีผู้รับเงินปลายทางก่อนทำการโอนชำระ เพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อและเกิดความเสียหายตามมา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นการกระทำที่น่าสงสัย หรือข้อความชักชวนในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กรของบริษัทฯ ตามข้อมูลติดต่อด้านล่าง หรือผ่านช่องทางการแจ้งเบาะแสที่ https://investor.mrdiy.co.th/th/corporate-governance/anti-corruption และโปรดอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างชื่อของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อชักชวนลงทุนใดๆ  

"ตลท." ประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค.67 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค.67 ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนเข้าซื้อขาย

เมื่อวันที่ 21 พ.ย.67 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) “DELTA” โดยประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค.67

ในระหว่างนี้ สมาชิกต้องห้ามนำ DELTA มาคำนวณวงเงินซื้อขาย และให้ลูกค้าซื้อด้วยบัญชี Cash Balance (วางเงินสด 100% ก่อนซื้อ) โดยหากพบว่าสภาพการซื้อขายยังคงเปลี่ยนแปลงผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐาน (fundamental) สนับสนุน DELTA จะถูกยกระดับเข้าสู่มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนด

สภาพการซื้อขาย DELTA เป็นดังนี้

1.ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เกินปัจจัยพื้นฐาน โดยวันนี้ (20 พ.ย. 2567) ราคาปิดที่ระดับสูงสุด (New All Time High) ที่ 173.50 บาท ด้วย P/E และ P/BV ที่ 100.68 เท่า และ 28.03 เท่า ตามลำดับ 

2.ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาด Market Cap ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท เป็นประมาณ 2.16 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 57% ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 เป็นต้นมา)

ทั้งนี้ การซื้อขายภาคบ่ายของวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่มีสารสนเทศรองรับ (ซึ่ง DELTA ได้แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ปรับขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 2,367 ล้านบาท (ช่วงเช้ามูลค่าอยู่อันดับ 5 ที่ 667 ล้านบาท) ราคาปรับเพิ่ม 3.58% จากปิดช่วงเช้า (ช่วงเช้า +1.21%)

หมายเหตุ :  มาตรการกำกับการซื้อขายให้สมาชิกดำเนินการ 

ระดับ 1: ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance (ซื้อด้วยเงินสด 100%)

ระดับ 2: ห้าม Net settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance และให้ซื้อขายด้วยวิธี Auction    

ระดับ 3: หยุดพักการซื้อขาย 1 วัน ในวันทำการแรก, ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย,Cash Balance และให้ซื้อขายด้วยวิธี Auction

#ตลาดหลักทรัพย์ #DELTA #ข่าววันนี้ #หลักทรัพย์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

SAWAD คว้ารางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์

SAWAD คว้ารางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เข้ารับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จากงาน Money & Banking Awards 2024 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคาร โดยมี ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล รางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องบริษัทที่มีผลงานโดดเด่นในตลาดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดย SAWAD เป็นบริษัทที่สามารถครองตำแหน่งผู้นำในหมวดธุรกิจสินเชื่อจำนำด้วยผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ และการมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นางสาวธิดา กล่าวถึงการรับรางวัลในครั้งนี้ว่า “รางวัลนี้เป็นเกียรติและความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนที่ SAWAD ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามในการเติบโตทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมสินเชื่อจำนำ เราวางแผนที่จะนำรางวัลนี้ไปเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและชุมชนของเรา”

นอกจากนี้ ยังระบุว่า SAWAD มีแผนขยายพอร์ตสินเชื่อให้ครอบคลุมลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้นในอนาคต โดยจะลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญในการขยายธุรกิจในระยะยาว

สำหรับการมอบรางวัล Money & Banking Awards 2024 ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องบริษัทและบุคคลที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในอุตสาหกรรมการเงินและการลงทุน โดยมีทั้งหมด 38 รางวัลใน 6 หมวดหมู่ เช่น รางวัลธนาคารยอดเยี่ยม และกองทุนยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ยกระดับมาตรฐานของบริษัทในประเทศไทย แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก​ งานนี้ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะการที่ SAWAD สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความท้าทายในตลาดการเงิน ทั้งในด้านการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม และการใช้กลยุทธ์ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและลูกค้า

"ก.ล.ต." ย้ำใช้อำนาจตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หลัง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ สะท้อนการใช้อำนาจตามกฎหมายภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต.มั่นใจกระบวนการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดเผยสถิติการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า บทสันนิษฐานว่าเป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 243 และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) และการนำอายุความฟ้องคดีอาญามาใช้บังคับกับฟ้องคดีแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/13 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 29 วรรคสอง นั้น

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า "ในกรณีนี้มีการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่า พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯในมาตราดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ และ ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการสนับสนุนว่า ก.ล.ต. มีอำนาจตามกฎหมายและสามารถนำบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิดได้ ซึ่งจะทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทั้งการดำเนินการทางอาญาและการดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง ขอให้มั่นใจว่า ก.ล.ต. ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้อง"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา (วันที่ 1 มกราคม 2560-30 มิถุนายน 2567) ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีอาญา โดยกล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน รวม 156 คดี มีผู้ถูกกล่าวโทษ 558 ราย และดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด รวม 62 คดี จำนวนผู้กระทำผิด 246 ราย โดยผู้กระทำผิดตกลงทำบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) กำหนดแบ่งเป็นค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 1,567.70 ล้านบาท และชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด จำนวน 194.32 ล้านบาท ซึ่ง ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. มีอำนาจฟ้องบุคคลนั้นต่อศาลแพ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาล 18 คดี ในฐานความผิด เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และการสร้างราคาหลักทรัพย์ โดยมี 5 คดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และอีก 5 คดีที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาแล้ว (ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์) ซึ่งทั้ง 10 คดีศาลได้พิพากษาให้ ก.ล.ต. ชนะคดี โดยลงโทษและกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งแก่จำเลยในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้อีก 8 คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น

#กลต #ข่าววันนี้ #หลักทรัพย์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #รัฐธรรมนูญ #คดีอาญา

 

เปิดรายชื่อผลคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 SET50FF* SET100 SET100FF* sSET SETCLMV SETHD SETESG และ SETWB ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2567)

ดัชนี SET50/ SET50FF มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บมจ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) บมจ. เงินติดล้อ (TIDLOR)

ดัชนี SET100/ SET100FF มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 9 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) บมจ. เอ็ม บี เค (MBK) บมจ. พริมา มารีน (PRM) บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ. สกาย ไอซีที (SKY) บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH)

ดัชนี sSET มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 21 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) บมจ. ดิทโต้ (ประเทศไทย) (DITTO) บมจ. ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) บมจ. เคซีจี คอร์ปอเรชั่น (KCG) บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG) บมจ. ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PIN) บมจ. พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น  (SC) บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) บมจ. ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC) บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) บมจ. ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น (TAN) บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC)

ดัชนี SETCLMV มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 15 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) บมจ. บางจาก ศรีราชา (BSRC) บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) บมจ. ดุสิตธานี (DUSIT) บมจ. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ. คาร์มาร์ท (KAMART) บมจ. มาลีกรุ๊ป (MALEE) บมจ. พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) บมจ. เซ็ปเป้ (SAPPE) บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) บมจ. ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA)

ดัชนี SETHD มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 11 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. บ้านปู (BANPU) บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) บมจ. คอมเซเว่น (COM7) บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) บมจ. พริมา มารีน (PRM) บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ. ไทยออยล์ (TOP)

ดัชนี SETESG มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 1 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC)

ดัชนี SETWB มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 1 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC)

การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 ผู้สนใจสามารถติดตามรายชื่อหลักทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในแต่ละดัชนีข้างต้น รวมทั้งหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อเป็นองค์ประกอบของดัชนีและวิธีการคำนวณดัชนี ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th

*ดัชนี FF หรือ Free Float Adjusted Market Capitalization Weighted Index เป็นกลุ่มดัชนีที่คํานวณน้ำหนักของหลักทรัพย์ในดัชนีโดยถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและ Free Float 

#ข่าววันนี้ #หลักทรัพย์ #ตลาดหลักทรัพย์ #หุ้นไทย #ลงทุน