ธอส. กระตุ้นอสังหาฯ ส่งท้ายปี จัดสินเชื่อบ้านดบ. 0.72% นาน 6 เดือนแรก งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Expo 2025

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เดินหน้ากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งท้ายปี 2568 จัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้ลูกค้าในงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2025” ระหว่างวันที่ 10 – 14 กันยายน 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี  นำโดย (1) สินเชื่อบ้าน 72 ปี ธอส. : ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์การกู้ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.72% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก, เดือนที่ 7 – 24 เท่ากับ 2.72% ต่อปี, ปีที่ 3 - 6 เท่ากับ MRR-2.525% ต่อปี (3.72% ต่อปี) เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.72% ต่อปี ปีที่ 7 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์ฯ / ชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR  ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.245% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 2,700 บาท/เดือน เท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 พิเศษ! ลูกค้าที่ทำนิติกรรมภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ผู้กู้หลักจะได้รับคะแนนสะสมใน GHB Reward จำนวน 100 พอยท์ (ลูกค้าจะได้รับพอยท์ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2568) เพื่อนำไปแลกรับสิทธิ์สินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมรายการ (2) สินเชื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินตนเอง : สำหรับลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.89% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก ,เดือนที่ 7 – 12 เท่ากับ 2.89% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.39% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.99%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR ผ่อนชำระสูงสุดนาน 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,500 บาท ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568

ทั้งนี้ งาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2025” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 14 กันยายน 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ธอส.หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย MRR 0.25% ต่อปี ลดภาระด้านที่อยู่อาศัย-กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ มีผล 15 ส.ค.68

ธอส.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย MRR 0.25% ต่อปี ช่วยลดภาระด้านที่อยู่อาศัยและกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% ต่อปี เป็น 1.50% ต่อปี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568  ธอส. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาระด้านที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าและขับเคลื่อนภาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 0.25% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.495% ต่อปี เป็น 6.245% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐอื่น

“การที่ ธอส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี เนื่องจากต้องการช่วยลดภาระหนี้ให้กับลูกค้ารายย่อยที่เป็นฐานลูกค้าหลักของธนาคาร จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินงวดของลูกค้าลดลงและทำให้มีเงินเพียงพอสำหรับการดำรงชีพต่อไปได้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 6.100% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.000% ต่อปี ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับตลาด” นายกมลภพ กล่าว

ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้ให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมไปถึงลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง นอกจากนี้ ธอส. ยังช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้ยังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

#ธอส #ลดดอกเบี้ย #MRR #ดอกเบี้ยบ้าน #สินเชื่อบ้าน #อสังหาริมทรัพย์ #ดอกเบี้ยต่ำ #ข่าวเศรษฐกิจ #บ้าน #ที่อยู่อาศัย

ธอส.เปิดแคมเปญพิเศษในมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 พร้อมข้อเสนอสินเชื่อบ้านและสลากออมทรัพย์สุดคุ้ม

ธอส.จัดเต็มโปรโมชันสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.89% ต่อปี, สลากออมทรัพย์ ธอส. ให้ผลตอบแทนสูง พร้อมลุ้นโชครางวัลใหญ่ และบ้านมือสองลดราคาสูงสุด 50% ในงาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat ชวนชาวอีสานเข้าถึงโอกาสทางการเงินพร้อมสิทธิประโยชน์และของที่ระลึกภายในงาน

วันที่ 7 ส.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ยังคงให้ความสำคัญกับทุกความต้องการของประชาชนเดินหน้าขยายการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้อย่างสะดวกและทั่วถึง ด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ ร่วมงาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat ระหว่างวันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 ณ เดอะมอลล์ โคราช ประกอบด้วย (1) สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นำโดย สินเชื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินตนเอง : สำหรับ ลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง กรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) รับอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เพียง 0.89% ต่อปี เดือนที่ 7 – 12 เท่ากับ 2.89% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 3.39% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.99%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.495% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดนาน 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,500 บาท

สินเชื่อบ้านสุขสันต์ปี 2568 : สำหรับลูกค้าที่ต้องการไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย หรือชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง กรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเพียง 0.99% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.20% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ / ชำระหนี้ ฯ เท่ากับ MRR ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,600 บาท สินเชื่อบ้านสวัสดิการ : สำหรับลูกค้าสวัสดิการที่หน่วยงานทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากกับธนาคาร ครอบคลุมการกู้ทุกวัตถุประสงค์ รวมถึงชำระหนี้พร้อมไถ่ถอนจำนอง อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.30% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เพียง 2.90%), ปีที่ 4 -5  เท่ากับ MRR-2% ต่อปี และ ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ/ชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท  พิเศษ! ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เพิ่มอีก 0.25% เพียงสมัครสมาชิกของเว็บไซต์ ซื้อที่อยู่อาศัย และ แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com และ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย : สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซม อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.10% ต่อปี,ปีที่ 3 เท่ากับ 4.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20%) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,300 บาท ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ภายในงานผ่าน Line GHB Buddy ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 8 – 31 สิงหาคม 2568 ทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินนิติกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก รับของสมนาคุณฟรี พัดลม TOWER อันดับละ 1 เครื่อง และอันดับที่ 6 – 15 รับหม้อหุงข้าวดิจิทัล จำนวน 1 เครื่อง และ Gift Card TOPS มูลค่า 500 บาท จำนวน 1 ใบ อันดับละ 1 สิทธิ์ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) 
  
(2) สลากออมทรัพย์ ธอส. ที่ให้ผลตอบแทนดี และมีโอกาสในการถูกรางวัลสูง ประกอบด้วย สลากออมทรัพย์ ธอส.ชุด นาคราช 2 หน่วยละ 1,000 บาท อายุสลาก 3 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.75% ต่อปี (เมื่อฝากครบกำหนด) ออกรางวัลทุกเดือน รวม 36 ครั้ง โดยมีรางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัลต่อหมวด, รางวัลที่ 2 รางวัลละ 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัลต่อหมวด, รางวัลที่ 3 รางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 40 รางวัลต่อหมวด, รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 100 บาท (หมุน 1 ครั้ง),  รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 30 บาท (หมุน 1 ครั้ง) และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ของรางวัลที่ 1 รางวัลละ 30 บาท โดยมีโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่สูงถึง 0.00045% (คิดเป็น 45 รางวัลต่อ 10 ล้านหน่วย)หากลูกค้าลงทุน 1 แสนบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.47% ต่อปี และหากลงทุน 1 ล้านบาท รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.59% ต่อปี และ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568 หน่วยละ  50,000 บาท อายุสลาก 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 1.25% ต่อปี (เมื่อฝากครบกำหนด) ออกรางวัลทุกเดือน รวม 24 ครั้ง ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล (เสี่ยงหมวด), รางวัลที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท จำนวน 25 รางวัล ต่อหมวด, รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง), รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง), รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 220 บาท (หมุน 1 ครั้ง) และรางวัลเลขท้าย 1 ตัว รางวัลละ 110 บาท (หมุน 1 ครั้ง) คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่สูงถึง 0.025% (คิดเป็น 25 รางวัลต่อ 1 แสนหน่วย) ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ ผ่าน Line GHB Buddy วันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 และซื้อสลากออมทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 - 17 สิงหาคม 2568 ลูกค้าที่จองสิทธิ์และซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ตามระยะเวลาที่กำหนด ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ หรือ Mobile Application : GHB ALL GEN ตั้งแต่ 250,000 บาท แต่ไม่ถึง 1,000,000 บาท ต่อรายการ จะได้รับ Gift Voucher จากร้าน Black Canyon มูลค่า 250 บาท ต่อ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด และลูกค้าที่ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ตั้งแต่ 1,000,000 บาท ขึ้นไป ต่อรายการ จะได้รับชุดเซ็ตกล่องสำหรับใส่อาหาร Super Lock มูลค่า 699 บาท จำนวน 1 ท่าน ต่อ 1 ชุด หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)


(3) บ้านมือสอง ธอส. คุณภาพดี ทำเลเด่นหลากหลายประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ จากจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียงมาจำหน่ายกว่า 600 รายการ ในราคาพิเศษด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% จากราคาปกติ โดยมีทรัพย์ที่มีราคาต่ำสุดเพียง 250,000 บาท เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น เนื้อที่ 100 ตารางวา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ และทรัพย์ที่มีราคาสูงสุดเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 174 ตารางวา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำหน่ายราคา 5,395,000 บาท พิเศษ !! รับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10 รางวัล สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด 10 ท่านแรก (1 ราย ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น) และสามารถใช้โปรโมชันผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งนี้สามารถจองซื้อทรัพย์ได้ในงาน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. และสามารถจองซื้อทรัพย์และทำสัญญาจะซื้อจะขายได้ที่ทำการสาขาภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 8 – 19 สิงหาคม 2568 
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายการทรัพย์ได้ที่ Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com

งาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19” Money Expo 2025 Korat มีกำหนดจัดขึ้น ณ เดอะมอลล์ โคราช ระหว่าง
วันที่ 8 – 10 สิงหาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ 
G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

#ธอส #มหกรรมการเงินโคราช #MoneyExpo2025 #สินเชื่อบ้าน #สลากออมทรัพย์ #การเงิน #การลงทุน #บ้านมือสอง

 

ยื่นได้เลย! ธอส.ออก 3 มาตรการช่วยลูกค้าชายแดนไทยกัมพูชา พักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี

ธอส.ห่วงใยประชาชนออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา จำนวน 3 มาตรการ นำโดยมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2568 

วันที่ 4 ส.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมครอบคลุมลูกค้ารายย่อยที่มีสถานะ NPL กับ “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา” จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย  

มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร หรือหลักประกันได้รับความเสียหายทั้งหลัง จนไม่สามารถพักอาศัยได้ โดยเดือนที่ 1-12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมปลอดการผ่อนชำระเงินงวด จากนั้นให้ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0.01% ตลอดระยะเวลาคงเหลือ

มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้าที่บาดเจ็บสาหัส หรือหลักประกันได้รับความเสียหาย สามารถประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยเดือนที่ 1 - 12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมปลอดการผ่อนชำระเงินงวด เดือนที่ 13 - 60 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.01% และผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อผ่อนชำระครบกำหนดแล้ว ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมของลูกค้าก่อนใช้มาตรการนี้ 

มาตรการที่ 3 สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยเดือนที่ 1 - 6 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% และผ่อนชำระเงินงวด 1,000 บาท โดยนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด เดือนที่ 7 - 12 ได้รับอัตราดอกเบี้ย 1% ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบกำหนดแล้วให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมของลูกค้าก่อนใช้มาตรการนี้

ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา สามารถติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 พร้อมแสดงหลักฐานที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ / ธุรกิจ / การค้าจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน อาทิ หลักฐานรายได้ หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่ายกิจการ หรืออื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างชัดเจน และเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์  และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#ธอส #ช่วยเหลือลูกค้าชายแดน #พิพาทไทยกัมพูชา #มาตรการบรรเทาหนี้ #NPL #สินเชื่อบ้าน #GHB #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวการเงิน

 

Money Expo 2025 Hatyai เงินสะพัดกว่า 6.9 พันล้านบาท สร้างโอกาสทางการเงินให้ภาคใต้

งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 15 Money Expo 2025 Hatyai จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร วันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 มียอดธุรกรรมรวม 3 วัน กว่า 6,900 ล้านบาท ประชาชนแห่ฝากเงิน/ซื้อสลากออมทรัพย์ ดันยอดพุ่งอันดับ 1 กว่า 3,160 ล้านบาท สินเชื่อบ้านชูโปรฯ ดอกเบี้ย 0% ติดอันดับ 2 กว่า 1,280 ล้านบาท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียื่นขอกู้ วงเงินรวมกว่า 650 ล้านบาท 

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประธานเปิดงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 15 Money Expo 2025 Hatyai ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Resilient Wealth การสร้างความมั่งคั่งแบบยืดหยุ่นอย่างยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้ว่าประเทศไทยจะมีผู้ให้บริการทางการเงินและระบบการเงินที่แข็งแกร่ง แต่ผู้ใช้บริการทางการเงินไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญสำหรับประเทศไทย ดังนั้น งาน Money Expo จึงเป็นงานที่สำคัญ เพราะสามารถทำให้ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้รับบริการทางการเงินมาเจอกันได้  ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนการเติมเม็ดเงินเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ของธนาคารออมสิน ที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ทั้งสถาบันการเงินพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐ นำไปปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนเพื่อที่จะทำให้ประชาชนมีภาระในการขอสินเชื่อต่ำลง และยิ่งเป็นโอกาสอันดีสำหรับภาคใต้ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ “โครงการซอฟต์โลนภาคใต้” วงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา อ.เทพา อ.จะนะ อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละ 20 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจสามารถประคองธุรกิจและแข่งขันได้ภายใต้ภาวะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 

“วันนี้เราลงมาสู่ภาคใต้ ก็คาดหวังว่างานนี้จะเป็นงานที่ผู้ให้บริการทางการเงินได้เจอกับผู้รับบริการทางการเงิน ทำให้ประชาชนในภาคใต้เข้าถึงบริการทางการเงินให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของรัฐบาลที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินได้”

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 15 Money Expo 2025 Hatyai ที่จัดขึ้นตลอด 3 วัน มียอดธุรกรรมทางการเงินการลงทุนทั้งแบบออฟไลน์ที่เดินทางมาทำธุรกรรมภายในงาน และแบบออนไลน์ที่ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม Money Expo Online รวมกว่า 6,900 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 11,100 ราย 

สำหรับยอดธุรกรรมที่สูงเป็นอันดับ 1 ได้แก่ เงินฝากและสลากออมทรัพย์ รวมวงเงินกว่า 3,160 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้มีการทำพรีเซลส์ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง พร้อมมีโปรโมชั่นเด่นมานำเสนอเป็นพิเศษ เช่น ธนาคารออมสิน เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย Step Up สูงสุด 3% ต่อปี, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดตัว “เงินฝากทองเอก” ฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท รับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีทันที 1.60% ต่อปี ระยะเวลารับฝาก 9 เดือน ธนาคารกรุงไทย เงินฝากปลอดภาษีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.10% ต่อปี, ธนาคารอิสลาม มีแคมเปญ “ยกโขยงชวนเพื่อนมาออม” แนะนำเพื่อนเปิดบัญชีใหม่ หรือฝากเพิ่ม 2,000 บาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์เป็นแขกของพระเจ้า โดยจับสลากไปทำฮัจย์และอุมเราะห์เพิ่มสูงสุด 22 สิทธิ์ รวมทั้ง สลากออมทรัพย์ธนาคารออมสิน ลุ้นรางวัลพิเศษ 70 ล้านบาท, สลากออมทรัพย์ ธอส. ผลตอบแทนสูงพร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่มูลค่าสูงสุด 3 ล้านบาท และสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ได้รับสิทธิ์จุ่ม Art Toy AGRI ANIMAL ที่มาเปิดตัว “มด” Art Toy ตัวใหม่ล่าสุดในงาน 

อันดับ 2 สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน รวมวงเงินกู้กว่า 1,280 ล้านบาท จากโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ธนาคารนำมาแข่งขันกันในงาน เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.99% ต่อปี, ธนาคารกสิกรไทย สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99% ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 100%, ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่เริ่มต้น 2.29% ต่อปี, ธนาคารกรุงเทพ สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.99% ต่อปี 

อันดับ 3 สินเชื่อเอสเอ็มอี มียอดเงินกู้วงเงินรวมกว่า 650 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามายื่นขอกู้ในงานเพื่อรับแคมเปญอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank) สินเชื่อ SME Green Productivity สินเชื่อ Beyond ติดปีก SME และสินเชื่อปลุกพลัง SME อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี คงที่ 3 ปี ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อ SME ผ่อนนาน 20 ปี ให้วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท สินเชื่อ SME วงเงินสูง x3 ให้วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และสินเชื่อ SME ไซซ์เล็ก สำหรับร้านค้ารายย่อยที่ใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงิน หรือเครื่อง EDC ของธนาคารกรุงไทย หรือค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 2 ปีแรก 3.5% ต่อปี ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM BANK) สินเชื่อเอ็กซิมเริ่มต้นส่งออก วงเงินหมุนเวียนสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 6.15% ต่อปี, ธนาคารอิสลาม สินเชื่อธุรกิจ SMEs Boost Up อัตรากำไร 2 ปีแรก 3.5% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 40 ล้านบาท

อันดับ 4 ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) รวมวงเงินกว่า 640 ล้านบาท โดยในงานมีทรัพย์มือสองเพื่ออยู่อาศัยและทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ โรงงาน/โกดัง และทรัพย์อื่นๆ โดยบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “SAM Flash Day” แจก Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท พร้อมโปร “ฟรี! ค่าโอน 1-2%” ด้านธนาคารก็นำทรัพย์ NPA คุณภาพดีจากทั่วประเทศกว่า 500 รายการ มาลดราคาพิเศษ 50-70% 

อันดับ 5 ประกันชีวิต/ประกันภัยและแบงก์แอสชัวรันส์ รวมทุนประกันกว่า 440 ล้านบาท แบบประกันยอดฮิตในงาน ได้แก่ โครงการเมืองไทยตะกาฟุลออมทรัพย์ 5/5 ออมเร็ว ระยะสั้น ชำระเงินสมทบฯ เพียง 5 ปี และโครงการตะกาฟุล 10/9 ออมอุ่นใจ สามารถลดหย่อนภาษีได้ ระยะเวลาของสัญญาตะกาฟุล 10 ปี ชำระเงินสมทบฯ 9 ปี จาก บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต, แบบประกันมันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 12/6 (มีเงินปันผล) ได้เงินคืนทุกปี ตลอดสัญญารับเงินคืนขั้นต่ำ 632% คุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 600% และลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท จาก บมจ.ไทยประกันชีวิต บมจ.ซัมซุง ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เสนอแบบประกันซัมซุงบำนาญ IRR 3.01% และแบบประกันซัมซุง 888 รับเงินคืน 8% ทุกปี คุ้มครองสูงสุด 1,616%, บมจ.แรบบิทประกันชีวิต มีแบบประกันใจใจ 25/9 ได้เยอะทั้งความคุ้มครองและออมเงิน คุ้มครองชีวิตสูงสุด 210% รับเงินคืนทุกปี 2% และแบประกันใจใจ 12/6 เงินคืนทุกปี 6% และ 12% จุดคุ้มทุนไว ตั้งแต่ปีที่ 7 ลดหย่อนภาษีได้ 100,000 บาท 

นางสาวภาคนีกล่าวว่า ในงานยังมีบริการ “รวมทุกหนี้ ให้จบในที่เดียว” ด้วยสินเชื่อ “ไอแบงก์ใกล้คุณ” จากธนาคารอิสลาม โดยเป็นการรวมหนี้แบบมีหลักประกันสำหรับสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต ไม่จำกัดสถาบันการเงิน คิดอัตรากำไรเริ่มต้น 2 เดือนแรก 0.22% ต่อปี เฉลี่ยทั้งปี 1.99% วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี รู้ผลพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นไวทันใจภายใน 2 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ SAM ยังได้นำ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพียง 3-5% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี  ด้านกรมบังคับคดีได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี โดยร่วมกับสถาบันการเงิน 6 แห่ง มอบข้อเสนอพิเศษให้ลูกหนี้ เช่น ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ลดยอดผ่อนชำระ ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากภาระผูกพัน และงดดำเนินการบังคับคดีชั่วคราวในกรณีที่เจรจาสำเร็จ งานมหกรรมการเงินครั้งต่อไป คืองานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 วันที่ 8-10 สิงหาคม 2568 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช

#MoneyExpo2025Hatyai #เงินสะพัด #มหกรรมการเงิน #ดอกเบี้ย0เปอร์เซ็นต์ #สินเชื่อบ้าน #การเงิน #เศรษฐกิจภาคใต้ #โครงการซอฟต์โลน #ฝากเงิน #การลงทุน #ธนาคารออมสิน #ธนาคารกรุงไทย #สินเชื่อเอสเอ็มอี #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

ธอส.ปล่อยสินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568 ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาท ยื่นกู้ได้ถึงสิ้นปี

ธอส.เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม จัดทำผลิตภัณฑ์“สินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568” ช่วยลูกค้าวางแผนผ่อนชำระเงินงวดตลอดอายุสัญญาได้ง่ายๆ แถมมีโอกาสผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น กับ อัตราดอกเบี้ยและเงินงวดต่ำตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือรีไฟแนนซ์ โดยลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกเท่ากับ 3.59% ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาทุกกรณี เท่ากับ MRR-2.505% ต่อปี ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และทำนิติกรรมภายในวันที่  30 ธันวาคม 2568 

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตอกย้ำการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัย เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยจัดสรรกรอบวงเงิน 8,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยและเงินงวดต่ำ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการผ่อนชำระเงินงวด
ตลอดอายุสัญญาได้ง่ายๆอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นกับผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568” สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย รีไฟแนนซ์ (ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น) รีไฟแนนซ์พร้อมปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซมบ้าน และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ โดยลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกเท่ากับ 3.59% ต่อปี และปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยเรทเดียวตลอดอายุสัญญาทุกกรณี เท่ากับ MRR-2.505% ต่อปี โดยลูกค้าต้องชำระเงินงวดตามที่ธนาคารกำหนดสม่ำเสมอทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 1 งวด กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,000 บาท พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยและยื่นขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในปีแรก

“สินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568 ช่วยให้ลูกค้าของ ธอส. สามารถวางแผนทางการเงิน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินงวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลกับภาระดอกเบี้ยหรือยุ่งยากกับการรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่นในอนาคตเมื่อผ่อนครบ 3 ปี เนื่องด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ธนาคารสามารถช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่อนบ้านหมดไวหากมีประวัติการผ่อนชำระดีและได้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ของตนเองได้เร็วขึ้น” นายกมลภพ กล่าว 

สำหรับผู้ที่สนใจสินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568 สามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.02645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#ธอส #สินเชื่อบ้าน #ข่าววันนี้ #ดอกเบี้ยต่ำ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

ลูกค้า LGBTQ+ ยื่นขอสินเชื่อบ้านได้ง่ายๆกับ ธอส.ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช็คเงื่อนไขที่นี่

ลูกค้า LGBTQ+ ยื่นขอสินเชื่อบ้านได้ง่าย ๆ กับ ธอส. ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
 
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมสนับสนุนทุกคู่รัก LGBTQ+ ให้มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้คู่ชีวิต (กรณีไม่มีทะเบียนสมรส) หรือ คู่สมรส (กรณีมีทะเบียนสมรส) LGBTQ+ สามารถยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ได้ทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่วันนี้ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้แก่ 1.เอกสารส่วนบุคคล 2.เอกสารทางการเงิน และ 3.เอกสารหลักประกัน เพียงเท่านี้ ลูกค้า LGBTQ+ ก็สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้แล้ว

โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคาร
อาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th 

#LGBTQ #ข่าววันนี้ #สินเชื่อบ้าน #ธอส #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #สมรสเท่าเทียม

 

ธอส.เตรียมกรอบวงเงินกว่า 108,000 ล้านบาท หนุนคนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง ออกสินเชื่อบ้าน ดบ.ต่ำ เริ่มต้น 0% นาน 1 ปี 

ธอส.ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง สนับสนุนคนไทย มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เตรียมกรอบวงเงิน 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.68 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว และในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนให้คนไทยทุกกลุ่มมีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมกรอบวงเงินรวม 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย 

1.โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 16 : กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่และเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.55% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.60%, ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.25% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท

2.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ และลูกจ้างประจำที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากของธนาคารที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.75% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.17% ต่อปี ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง เดือนละ 3,300 บาท

3.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี โดยต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 - 3 เท่ากับ 2.90% ต่อปี,ปีที่ 4 - 5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี,ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,200 บาท พิเศษฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 – 3,100 บาท

4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท สำหรับผู้พิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือสื่อความหมายทางการเห็น หรือทางการเคลื่อนไหว หรือทางร่างกาย ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องมีความสามารถในการทำนิติกรรมสัญญา ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 - 3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี, ปีที่ 4 - 10 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,800 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 – 2,800 บาท และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง

5.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 60,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้ (Gross) ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน และไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 4.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.55% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.10%, ปีที่ 4 - 5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี, ชำระหนี้ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,700 บาท

6.โครงการสินเชื่อบ้าน S-em (Self employee) ปี 2568 : กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ ค้าขาย ขับแท็กซี่ หรือรับจ้าง โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง  รีไฟแนนซ์ และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 - 5 เท่ากับ 3.75% ต่อปี, ปีที่ 6 - 10 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี, ปีที่ 11 - 15 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และ ปีที่ 16 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 –2,800 บาท 

“ธอส. คำนึงถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ผู้พิการ หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น ทำให้ผู้ที่ยังขาดโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเอง โดยเฉพาะผู้พิการ ธอส.ได้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อทำให้ผู้พิการมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อสูงขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

#ธอส #ข่าววันนี้ #สินเชื่อบ้าน #ดอกเบี้ยต่ำ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

ธอส.จัดทำ 5 สินเชื่อบ้าน ดบ.ต่ำ เริ่มต้นเพียง 2.70% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สถาบันการเงินของรัฐ ที่พร้อมสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านอย่างมั่นคงและยั่งยืน จัดทำ 5 สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ (สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA)) ประกอบด้วย 1. สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB ปี 2568 : สำหรับสมาชิกสภา / สมาคมวิชาชีพที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.70% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้น!, 2.สินเชื่อบ้าน GHB Precious ปี 2568 : สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.70% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท,3.สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568 : สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.20% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,200 บาท, 4. สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568 : สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าสวัสดิการกับหน่วยงานที่ทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.30% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,200 บาท 5.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 : สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซม อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.50% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,300 บาท ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว พร้อมเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดทำ 5 สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ (สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA)) ประกอบด้วย

1.สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB ปี 2568 : สำหรับสมาชิกสภา / สมาคมวิชาชีพที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี  ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.70% และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,000 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าธรรมเนียมค่าประเมินราคาหลักประกัน

2.สินเชื่อบ้าน GHB Precious ปี 2568 : สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม รีไฟแนนซ์ กู้เพิ่ม และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 1.79% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.70% และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์
/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,000 บาท

3.สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568 : สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.20% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.90% และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท

4.สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568 : สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าสวัสดิการกับหน่วยงานที่ทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก ที่ต้องการซื้อบ้าน ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA  ของธนาคาร ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.30% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.90%,ปีที่ 4 -5 เท่ากับ MRR-2 % ต่อปี และ ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท 

5.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 : สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซม อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.10% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.00% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 3.20% และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,300 บาท 

“ที่ผ่านมา ธอส. ได้จัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่าหากในอนาคตเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น บ้านที่ตนเองผ่อนชำระมาตลอดนั้น จะได้รับการส่งต่อไปยังทายาทได้ เพราะการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ จะให้ความคุ้มครองโดยบริษัทประกันจะเป็นผู้ชำระหนี้ที่เหลืออยู่ให้กับทางธนาคารตามทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในสัญญา ทำให้ทายาทของผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องรับภาระหนักในการชำระหนี้ต่อ ถือเป็นอีก 1 แนวทางในการมีบ้านที่มั่นคงและยั่งยืนได้”นายกมลภพกล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 เมษายน 2568  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

#สินเชื่อบ้าน #ธอส #ข่าววันนี้ #ดอกเบี้ยต่ำ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

ยื่นได้เลย! คิวสำรอง 3 พันกว่ารายยื่น รับสิทธิสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนจาก ธอส.ดอกเบี้ยต่ำ

ยื่นได้เลย! คิวสำรองผู้ประกันตน 3 พันกว่ารายยื่น รับสิทธิสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนจาก ธอส.ดอกเบี้ยต่ำ

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น โดยโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567 จะช่วยให้ผู้ประกันตนมีสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพียงร้อยละ 1.59 ต่อปี คงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี ในปีที่ 6 – 8 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR (Minimum Retail Rate) –2 ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 9 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR – 0.5 ต่อปี ในวงเงินไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท

โดยผู้ประกันตนจะได้รับหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนจาก Application SSO Plus เป็นคิวหลัก สามารถยื่นขอสินเชื่อตามช่วงวันที่ระบุในหนังสือรับรอง โดยนำหนังสือรับรองพร้อมด้วยเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อตามที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนด และสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มีผู้ประกันตนยื่นขอสินเชื่อเป็นคิวหลักถึง 2,151 ราย ซึ่งธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ตรวจสอบคุณสมบัติพร้อมอนุมัติ และทำนิติกรรมแล้วขณะนี้ จำนวน 506 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติแล้ว จำนวนกว่า 833,045,000 บาท

สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับหนังสือรับรองเป็นคิวสำรอง สามารถตรวจสอบการเรียกคิวได้ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th ซึ่งจะประกาศในทุกวันจันทร์ เวลา 13.00 น. และสามารถยื่นขอสินเชื่อตามช่วงวันที่ประกาศแจ้ง โดยประกาศคิวสำรองตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ มียอดผู้ประกันตนเป็นคิวสำรอง จำนวน 3,085 ราย สามารถยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567 ได้ตามวันที่ระบุในประกาศ และสามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2567 

#ผู้ประกันตน #ข่าววันนี้ #สินเชื่อที่อยู่อาศัย #ธอส #ประกันสังคม #กระทรวงแรงงาน #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ #สินเชื่อบ้าน