ว่ายน้ำ

ทัพนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ลงทำการแข่งขัน World Aquatics Championships 2023 ที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 - 30 กรกฎาคม 2566

วันที่ 28 ก.ค.66 เป็นการแข่งขันวันที่หก โดยนักว่ายน้ำไทยมีลงแข่งขันทั้งหมด 3 รายการ ผลการแข่งขันปรากฎว่า “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด จบที่ 28 ในผีเสื้อ 50 เมตร หญิง ทำเวลาไป 26.78 วินาที

ขณะที่ "ฉลามไวน์" นวพรรษ วงษ์เจริญ จบอันดับที่ 43 ในรายการ ผีเสื้อ 100 เมตร ชาย ด้วยเวลา 53.84 วินาที

ส่วน ผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร ชาย ประกอบด้วย นวพรรษ วงษ์เจริญ, ต้นน้ำ กันตีมูล, ดุลยวัต แก้วศรียงค์ และ รัฐวิทย์ ธรรมนันทโชติ จบที่อันดับ 16 ทำเวลาได้ 7.39.28 นาที

สำหรับนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย จะลงสระแข่งขันกันต่อในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 ทั้งหมด 5 รายการ ประกอบด้วย ฟรีสไตล์ 50 เมตร หญิง เจนจิรา ศรีสอาด, กบ 50 เมตร หญิง เจนจิรา ศรีสอาด, ฟรีสไตล์ 1500 เมตร ชาย รัฐวิทย์ ธรรมนันทโชติ และ กรรเชียง 50 เมตร ชาย ต้นน้ำ กันตีมูล ส่วน กบ 200 ม. และกรรเชียง 200 ม.

ผลการแข่งขันปรากฎว่า “เงือกหมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก จบที่ 26 ในรายการ กบ 200 เมตร หญิง ทำเวลาไป 2.35.12 นาที ขณะที่ “ฉลามหนุน” ต้นน้ำ กันตีมูล จบอันดับที่ 30 ในรายการ กรรเชียง 200 เมตร ชาย ด้วยเวลา 2.03.46 นาที

การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำมาสเตอร์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 เป็นการแข่งขันเพื่อส่งเสริมให้นักกีฬาว่ายน้ำสูงอายุได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาศักยภาพและยกระดับการเล่นกีฬาว่ายน้ำของผู้สูงอายุสูงระดับสากล ณ สระว่ายน้ำศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 2 – 4 มิถุนายน 2566 ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย โดยทัพนักว่ายน้ำผู้สูงอายุกว่า 381 คน ลงชิงชัยกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีทีมสโมสรที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 24 สโมสร มีนักกีฬาผู้สูงอายุชาย 220 คน และนักกีฬาผู้สูงอายุหญิง 161 คน

ทั้งนี้มีการทำลายสถิติประเทศไทยในการแข่งขันกีฬามาสเตอร์ ทั้งหมด 100 รายการ จากทุกสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยมีการนำคะแนนของนักกีฬามารวมเพื่อจัดอันดับสโมสรยอดเยี่ยม ซึ่งทีมยอดเยี่ยมอันดับ1-5 จะได้รับถ้วยรางวัลไปครอง

ส่วนทีมสโมสรยอดเยี่ยม 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ได้คะแนนรวม 3,354 คะแนน ขณะที่อันดับที่ 2 ได้แก่ กีฬาทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้คะแนนรวม 2,354 คะแนน ส่วนอันดับที่ 3 ได้แก่ สมาคมราชกรีฑาสโมสร โปโลคลับ ได้คะแนนรวม 2,213 คะแนน อันดับที่ 4 ได้แก่ กีฬาทางน้ำสระจุฬาภรณ์ และอันดับที่ 5 ได้แก่ สตอมนาวี ได้คะแนนรวม 654 คะแนน

สำหรับการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำมาสเตอร์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เป็นการเก็บรวบรวมสถิติเผื่อคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งขันในระดับนานาชาติ และทางสโมสรต่างๆจะมีการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำ มาสเตอร์ ชิงแชมป์โลก2023 ที่เกาะคิวชู ในเมืองฟุกุโอกะ, คุมาโมโตะ และคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2-11 สิงหาคม 2566

การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 (อารีน่า ไทยแลนด์ สวิมมิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023) ณ มหาวิทยาลัยเอแบค สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 6 – 11 เมษายน 2566 ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทัพนักว่ายน้ำกว่า 984 คน ลงชิงชัยกันอย่างคึกคัก ทั้ง 5 รุ่นกลุ่มอายุ ประกอบด้วย รุ่นทั่วไป 19 ปีขึ้นไป , กลุ่ม1 รุ่นอายุ 16-18 ปี , กลุ่ม2 รุ่นอายุ 14-15 ปี , กลุ่ม3 รุ่นอายุ 12-13 ปี และ กลุ่ม4 รุ่นอายุ 10-11 ปี 

บรรดาทัพนักกีฬาว่ายน้ำดีกรีทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทำลายสถิติประเทศไทยในหลายรุ่นหลายรายการ เริ่มกันที่ ‘ฉลามจัส’ “ ดุลยวัต แก้วศรียงค์ ” นักว่ายน้ำชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่สามารถทำลายสถิติประเทศไทยได้ถึง 2 รายการด้วยกัน ทั้ง ท่าฟรีสไตล์ 200 เมตร กลุ่มทั่วไป ด้วยเวลา 01:49.79 นาที และในท่าฟรีสไตล์ 100 เมตร กลุ่มทั่วไป ด้วยเวลา 00:50.24 นาที ด้าน ‘เงือกเนย’ “ กมลชนก ขวัญเมือง ” นักว่ายน้ำหญิงทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ สามารถทำลายสถิติประเทศไทยได้ 2 รายการเช่นกัน ทั้ง ท่าผีเสื้อ 100 เมตร กลุ่ม 1 ด้วยเวลา 01:00.87 นาที และท่าฟรีสไตล์ 200 เมตร กลุ่ม 1 เวลา 02:01.94 นาที

ขณะที่ ‘เงือกออย’ “ เสาวนีย์ บุญอำไพ ” นักว่ายน้ำหญิงทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ทำลายสถิติประเทศไทยในท่ากรรเชียง 50 เมตร กลุ่มทั่วไป ด้วยเวลา 00:29.26 นาที , “ ต้นน้ำ กันตีมูล ” นักว่ายน้ำชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ทำลายสถิติประเทศไทยในท่าฟรีสไตล์ 100 เมตร กลุ่ม 1 ด้วยเวลา 00:50.76 นาที และ “ ณัฏฐณิชา โลหะจารุ ” ทำลายสถิติประเทศไทยในท่าผีเสื้อ 50 เมตร กลุ่ม 3 ด้วยเวลา 00:28.41 นาที

นักกีฬาที่สามารถทำลายสถิติได้ ทาง สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย มอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬา ที่ทำลายสถิติ โดยรุ่นกลุ่มอายุ เงินรางวัลนักกีฬา 4,000 บาท , เงินรางวัลผู้ฝึกสอน 4,000 บาท และ รุ่นทั่วไป เงินรางวัลนักกีฬา 10,000 บาท , เงินรางวัลผู้ฝึกสอน 10,000 บาท

สำหรับทัพนักกีฬาว่ายน้ำไทยเตรียมรวมตัวฝึกซ้อม ก่อนลงทำการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5 – 17 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์กีฬาทางน้ำสนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

พลเอกธนิส พิพิธวณิชการ ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และประธานโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต ประจำปี 2566 พร้อมด้วย นายศักดิ์ชัย สุริยวงศ์ ผู้แทนประธานภาค กทม.และ นายสมาน สืบสาย หัวหน้าศูนย์เยาวชนคลองกุ่ม สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ร่วมพิธีเปิดโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต ประจำปี 2566 ณ ศูนย์เยาวชนคลองกุ่ม กรุงเทพฯ

โครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต เป็นการร่วมมือกันระหว่าง สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และ บริษัทบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมเพื่อสังคม เน้นฝึกสอนการว่ายน้ำเบื้องต้นให้แก่เด็กในชุมชนที่ด้อยโอกาสและมีทุนทรัพย์น้อย โดยศูนย์เยาวชนบึงกุ่ม มีเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาสและเด็กพิเศษเข้าร่วมโครงการกว่า 50 คน แบ่งการฝึกสอนออกเป็น 10 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการประเมินผลหลังเสร็จสิ้นการฝึกสอนด้วยการสามารถลอยน้ำได้ในเบื้องต้นและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นในเบื้องต้นได้

พลเอกธนิส พิพิธวณิชการ ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยและประธานโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต ประจำปี 2566 เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีมากที่ สมาคมว่ายน้ำ ได้ร่วมกับ ปตท.ร่วมกันทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้มอบโอกาสให้เด็กเยาวชนและเด็กพิเศษในแหล่งชุมชนต่าง ๆ ที่ด้อยโอกาส ได้ว่ายน้ำเป็นในเบื้องต้นลดอัตราการเสียชีวิตของเยาวชนที่เกิดจากการจมน้ำเสียชีวิต และเชื่อว่าในอนาคตต่อไปจะได้ขยายโอกาสออกไปได้ทั่วถึงและเข้าถึงเยาวชนให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

สำหรับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบบประมาณเพื่อจัดโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิตขึ้นเพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการว่ายน้ำให้เด็กด้อยโอกาสในภูมิภาคต่างๆ แสวงหาความร่วมมือกับชุมชนเพื่อต่อยอดในการเฟ้นหานักกีฬารุ่นใหม่ต่อไป และให้บริการนักกีฬาว่ายน้ำด้อยโอกาสในชุมชน นำไปสู่การลดอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำ ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2566 ซึ่งมีนักกีฬาว่ายน้ำเป้าหมาย เป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้อยโอกาสหรือมีทุนทรัพย์น้อยในชุมชน ทั้ง 6 ภูมิภาค ได้แก่

1) ภาคกลาง 1 จำนวน 500 คน

2) ภาคกลาง 2 จำนวน 500 คน

3) ภาคอีสาน จำนวน 500 คน

4) ภาคใต้ จำนวน 500 คน

5) ภาคเหนือ จำนวน 500 คน

6) กรุงเทพมหานคร จำนวน 500 คน