ว่ายน้ำ

“ฉลามอิฐ” เอกรินทร์ น้อยทัด คลื่นลูกใหม่นักกีฬาว่ายน้ำพาราไทยวัย 20 ปี นำ 5 นักว่ายน้ำพาราไทยฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ณ สระแข่งขันจริงเป็นครั้งแรก ภายในสนามกีฬาปารีส ลา เดฟองซ์ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่พาราลิมปิกเกมส์ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดย “อิฐ” เอกรินทร์ น้อยทัด ในวัย 20 ปี พาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ลง 2 รายการคือ ผีเสื้อ 50 เมตรชายคลาส S6 และเดี่ยวผสม 200 เมตรชายคลาส SM6 ซึ่ง “ฉลามอิฐ” เคยทำผลงานได้ดีคว้าเหรียญทองแดง ในรายการซิติ พารา สวิมมิ่ง เวิลด์ ซีรีย์ 2024 ที่ประเทศอิตาลีเมื่อเดือนมีนาคมมาแล้ว ทำให้ตั้งความหวังจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ในประเภทผีเสื้อ 50 เมตร 

สำหรับ 5 โควต้าของนักว่ายน้ำพาราทีมชาติไทย ประกอบด้วย "ฝน" ชาคร แก้วศรี, “ทัก” ภูชิต อิงชัยภูมิ, "วี" วิลาสินี วงศ์นนทภูมิ "อิฐ"เอกรินทร์ น้อยทัด สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ “ปันปัน” ณัฐรินีย์ ขจรเมธา สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย ซึ่งการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 ส.ค. – 8 ก.ย.2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบใบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567   

วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลา 15.30 น. ที่  สระว่ายน้ำ โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานพิธีปิดโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567   โดยมี นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักเรียนและเยาวชนร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้โครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน มีทักษะการว่ายน้ำ สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำได้ เพื่อส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนได้นำเอาทักษะไปพัฒนาให้มีขีดความสามารถของตนเองให้สูงขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนได้ใช้เวลาว่างด้วยการออกกำลังกายและเล่นกีฬา ส่งเสริมให้หลีกเลี่ยงอบายมุข สิ่งเสพติด และปัญหาเด็กติดเกมส์ออนไลน์

โดยโครงการนี้จัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 17 - 18 สิงหาคม 2567 โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ประกอบด้วย นักเรียนและเยาวชน ผู้เข้าร่วมจากโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จำนวนทั้งสิ้น 160 คน โดยมีรูปแบบในการดำเนินงานโครงการประกอบด้วย กิจกรรมการบรรยาย กิจกรรมการฝึกทักษะปฏิบัติ และกิจกรรมนันทนาการ และจากการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา คณะทำงานได้ประเมินการดำเนินงานโครงการในเบื้องต้น พบว่าบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ได้วางไว้ทุกประการ

จากการที่ "เงือกจอย" เจนจิรา ศรีสอาด นักกีฬาว่ายน้ำหญิงทีมชาติไทย หนึ่งเดียวของนักว่ายน้ำหญิง สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ได้โควต้าในกีฬาว่ายน้ำในมหกรรมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในประเภทฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง โดย เงือกจอย เปิดเผยถึงช่วงโค้งสุดท้ายในการเตรียมออกเดินทางไปที่ประเทศฝรั่งเศส ว่า ความพร้อมตอนนี้ 95 เปอร์เซนต์แล้ว เหลือแค่ไปลงสระยาวที่ฝรั่งเศสก็น่าจะพร้อม 100 เปอร์เซนต์ ถามว่าที่ผ่านมาซ้อมหนักมากที่สุดในชีวิตหรือไม่ ส่วนตัวมองว่านี่เป็นการฝึกซ้อมที่ฉลาดที่สุดเพราะเหมือนเราก็โดนพูดให้ฟังอยู่ตลอดว่าเราควรจะต้องวางแผนอย่างไรในการว่าย 50 เมตร โดยแบ่งเป็นการวางเป้าใน 3 ระยะที่เวลาที่เราอยากได้ใน 25 เมตร , 35 เมตร และ 5 เมตรเข้าเส้นสุดท้ายซึ่งควรจะต่ำกว่า 2.6 วินาที และนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปแข่งที่ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้เคยไปมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปแข่ง

เงือกจอย กล่าวถึงการปรับตัว กังวลอะไรหรือไม่กับการเตรียมไปแข่งขันว่า มีเรื่องของสภาพอากาศ ช่วงเวลาที่แข่งขันโอลิมปิกเกมส์อาจจะเป็นช่วงซัมเมอร์ แต่อากาศช่วงเช้าก็จะเย็นอยู่พอสมควร ส่วนตอนกลางวันก็ไม่รู้ว่าจะร้อนขนาดไหน แต่คิดว่าสภาพอากาศไม่น่าจะมีผลต่อการฝึกซ้อม เพราะในสระเป็นสระในร่มอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ตอนที่รู้ว่าได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 รู้สึกอย่างไร  เงือกจอย กล่าวว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ผลงานส่วนตัวก็อาจจะว่ายไม่ดีเลย เหมือนเราก็แอบกดดันอยู่บ้าง พอมาถึงรายการสุดท้ายที่จะชี้วัดว่าจะได้ไปหรือไม่ได้ ก็เหมือนว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถเค้นศักยภาพออกมาได้ ผลงานก็ออกมาตามเป้า ส่วนการเตรียมตัวก่อนหน้านี้ที่ซ้อมอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส ก็มีการใส่แพดเดิ้ล และดูสโตรกของเราในแต่ละการดึงแขนมันมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน คิดว่าตอนนี้ส่วนตัวก็พยายามนึกถึงจินตภาพว่าการแข่งขันของเราจะออกมาเป็นอย่างไร เวลาขึ้นแท่น เวลาเทคออฟ ออกตัวไป เราจะเตะขาอย่างไร แขนแรกยังไง ว่ายยังไง ก็คิดว่าตอนนี้ที่ต้องทบทวนมากที่สุดคือ จินตภาพการแข่งขันของเราเอง

"จริงๆโค้ชก็เน้นการจินตภาพและ 5 เมตรสุดท้ายเข้าเส้น ส่วนจะมองใครเป็นไอดอลก็คงมองโค้ชตัวเอง ก็คือโค้ชพี่้เอ็กซ์(อาวุธ ชินนภาแสน) เขาเหมือนสอนให้เราคิดตามไปด้วย เขาไม่ใช่ให้เราว่ายอย่างเดียว แต่เขาจะบอกว่า ว่ายอันนี้เพื่ออะไร เราจะได้อะไรจากการซ้อมอะไรบ้าง"

เงือกจอย กล่าวถึงชาติที่เป็นตัวเต็งในรุ่นว่า น่าจะเป็น ออสเตรเลีย และ สหรัฐอเมริกา ถ้าฟรีสไตล์ 50 เมตร ตัวเต็งจริงๆ ก็น่าจะเป็น ซาราห์ สโยสตรอม จากสวีเดนที่เขาคือเจ้าของสถิติโลก และเหมือนช่วงนี้เขาแข็งแรงมาก ก็คิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะทำลายสถิติโลกได้ในโอลิมปิกครั้งนี้

สำหรับ "เงือกจอย"เจนจิรา ศรีสอาด ทำสถิติว่ายน้ำฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง ที่ 25.01 วินาที โดยตั้งเป้าหมายกับการเป็นผู้หญิงคนแรกในประเทศไทยที่ว่ายได้ต่ำกว่า 25 วินาที โดยเธอบอกว่า จริงๆก็ยากอยู่พอสมควร เพราะเวลาที่เราว่ายเร็ว ก็คือเราจะว่ายเร็วในรอบเย็น แต่ครั้งนี้เราจะต้องลงในรอบคัดเลือก ซึ่งเราจะต้องว่ายรอบคัดเลือกให้ดีที่สุด ซึ่งอันนี้คือความท้าทายที่สุดจริงๆ

"จอยต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่ส่งตัวไปฝึกซ้อมที่ต่างประเทศ ขอบคุณโค้ชพี่เอ็กซ์เหมือนโคโปรแกรมการฝึกซ้อมกับโค้ชเราที่เนเธอร์แลนด์ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณคุณพ่อ-คุณแม่ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา" 
 
สำหรับกีฬาโอลิมปิกเกมส์2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส แข่งขันระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 โดยนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย นำโดย "เงือกจอย"เจนจิรา ศรีสอาด ในรายการฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง รวมถึง "ฉลามจัส"ดุลยวัต แก้วศรียงค์ รายการฟรีสไตล์ 100 เมตรชาย พร้อมด้วย "โค้ชเอ็กซ์"อาวุธ ชินนภาแสน เป็นโค้ชในการแข่งขันครั้งนี้จะออกเดินทางไปที่ประเทศฝรั่งเศส คืนวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.67 เที่ยวบินที่ TG 930 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 00.05 น. ถึงกรุงปารีสเวลา 06.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ร่วมให้กำลังใจกับนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยในปารีสเกมส์2024ครั้งนี้กันเยอะๆ เพราะทุกๆกำลังใจจะเป็นแรงขับเคลื่อนนสำคัญของนักกีฬาทีมชาติไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้

การแข่งขันว่ายน้ำ "นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ 2024" เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายนที่ผ่านมา ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 มีนักกีฬาเข้าร่วม 650 คน จาก 56 ทีม ตั้งแต่รุ่นอายุต่ำกว่า 7-14 ปี และรุ่นทั่วไป มีการรับรองสถิติจาก สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย พร้อมชิงทุนการศึกษาและถ้วยรางวัลทั้งประเภทบุคคลและทีม "พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล" อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดและมอบเหรียญรางวัล พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ดร.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี และ ดร.เฉลิมพล นิยมสินธ์ุ ประธานที่ปรึกษาชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกชื่นชมในการจัดงานของชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรีได้อย่างยิ่งใหญ่ และต้องขอบคุณ นายก อบจ.นนทบุรี ที่สร้างสระมาตรฐานระดับสากลแห่งนี้ขึ้นมาทำให้นักกีฬาได้ฝึกซ้อมและแข่งขัน เพื่อพัฒนาศักยภาพก้าวสู่ทีมชาติต่อไปในอนาคต

พันตำรวจเอก ดร.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ทาง อบจ.นนทบุรี มีความพร้อมในด้านสถานที่ และหวังว่า สระว่ายน้ำ อบจ.นนทบุรี จะมีโอกาสได้จัดการแข่งขันระดับชาติในภายภาคหน้า

สำหรับการแข่งขันว่ายน้ำ "นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ 2024"  ชนะเลิศประเภททีม ได้แก่ ชมรมว่ายน้ำสิงห์, อันดับ 2 มหาวิทยาลัยมหิดลศาลายาและอันดับ 3 ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี

ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี การันตีความพร้อมและของรางวัลสุดพิเศษในรายการ “นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ 2024” ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2567 ณ สระว่ายน้ำ อบจ.นนทบุรี รับรองสถิติโดย สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย

การแข่งขันว่ายน้ำรายการ “นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ 2024” ในปีนี้ จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ซึ่งนอกจาก สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จะให้การรับรองสถิติการแข่งขันของนักกีฬาแล้ว ยังมีทุนการศึกษาและถ้วยรางวัลทั้งประเภทบุคคลและสโมสรด้วย 

นอกจากนั้น ในปีนี้ยังได้จัดทำเหรียญรางวัลเรืองแสง ขนาด 6.5 ซม. พร้อมของรางวัลพิเศษจาก Speedo และ Supersports ผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

สำหรับการแข่งขันว่ายน้ำ “นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ 2024” จะมีตั้งแต่รุ่นอายุ 7 ปีและต่ำกว่า ไปจนถึงรุ่น 15 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 14 รายการ ประกอบด้วย ท่าฟรีสไตล์ 4 ระยะ ตั้งแต่ 50, 100, 200, 400 เมตร ส่วน กบ, ผีเสื้อ, กรรเชียง 3 ระยะ ตั้งแต่ 50, 100, 200 เมตร และเดี่ยวผสม 1 ระยะ 200 เมตร โดยนักกีฬาสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้สูงสุด 8 รายการ ค่าสมัครคนละ 1,000 บาท

พิเศษสุดสำหรับนักกีฬา 300 คนแรกที่สมัครแข่งขัน และโอนค่าสมัคร พร้อมแนบสลิปการโอนให้เจ้าหน้าที่ จะได้รับเสื้อแข่งขันสั่งทำพิเศษเป็นของที่ระลึก รีบสมัครด่วนได้ที่เว็บไซต์ www.smt.in.th หรือ inbox แฟนเพจ ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี

จากผลงานการแข่งขันรายการ เอเชียนเอจกรุ๊ป (Asian Age Group Championships 2023) ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ รับว่าเป็นการแข่งขันระดับเอเชียอีกรายการหนึ่งที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 1,300 คนจาก 31 ประเทศ โดยการแข่งขันแบ่งเป็นประเภทอายุ 12-14 ปี(กลุ่ม2) , อานุ 15-17 ปี(กลุ่ม1) และ อายุ 18 ปีขึ้นไป(กลุ่มทั่วไป) โดยสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 4 ประเภท ได้แก่ กีฬาว่ายน้ำ , กีฬากระโดดน้ำ , กีฬาโปโลน้ำ และ กีฬาระบำใต้น้ำ สำหรับผลการแข่งขัน เจ้าเหรียญทอง ได้แก่ ญี่ปุ่น ทำผลงาน 46 เหรียญทอง , 21 เหรียญเงิน , 8 เหรียญทองแดง , อันดับ 2 ได้แก่ คาซัคสถาน คว้า 30 เหรียญทอง , 20 เหรียญเงิน , 8 เหรียญทองแดง ส่วนอันดับ 3 ไทย คว้า 19 เหรียญทอง , 16 เหรียญเงิน และ 25 เหรียญทองแดง ส่วนของกีฬาว่ายน้ำ สร้างผลงาน 18 เหรียญทอง , 12 เหรียญเงิน และ 23 เหรียญทองแดง ซึ่ง "เงือกเนย"กมนชนก ขวัญเมือง สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม ทำคนเดียว 10 เหรียญทอง , 3 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ได้รับรางวัลนักกีฬาดีเด่น (รางวัล Outstanding ) สาธิต หงษ์ทอง ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในภาพรวมนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยสามารถทำผลงานได้ดีเกินเป้าหมานที่วางไว้ตอนแรกที่ 15 เหรียญทอง เมื่อเปรียบเทียบกับการแข่งขันรายการเดียวกันในครั้งก่อน นักกีฬาของเราสร้างผลงานได้ดี ทั้งในเรื่องของเหรียญรางวัล และสถิติ โดยเฉพาะ กมนชนก ขวัญเมือง และ เจนจิรา ศรีสอาด สร้างผลงานทำลายสถิติประเทศไทย ทั้งนี้เกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีมของทุกคนตั้งแต่ระดับผู้บริหารสมาคมฯ ผู้ฝึกสอน รวมถึง นักกีฬา ขณะที่ พลเอกเจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่ผลงานประจักษ์แสดงถึงศักยภาพในเวทีกีฬาทางน้ำโลก โดยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กีฬาทางน้ำโลก(WORLD AQUATICS) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่สามัญ สมาชิก 36 ประเทศของ ASIA AQUATICS กำหนดจัดในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ที่โรงแรม EASTIN ด้าน ฮุสเซน อัล มุสซาลาม ประธาน WORLD AQUATICS กล่าวว่า เหตุผลที่สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยได้รับคัดเลือกเป็นเอกฉันท์ก็คือการได้ติตตามการปฎิบัติของคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยมา ซึ่งมีขีดความสามารถในการจัดประชุมระดับเอเชียได้ แม้ว่าการพัฒนาด้านการจัดแข่งขันระดับนานาชาติจะไม่มี AQUATICS CENTER ที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อจัดการแข่งขันได้เท่าชาติอื่นๆก็ตาม

สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต (ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น) ขึ้นเพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการว่ายน้ำให้เด็กด้อยโอกาสในภูมิภาคต่างๆ แสวงหาความร่วมมือกับชุมชนเพื่อต่อยอดในการเฟ้นหานักกีฬารุ่นใหม่ต่อไป และให้บริการนักกีฬาว่ายน้ำด้อยโอกาสในชุมชน นำไปสู่การลดอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำ

ล่าสุดได้ดำเนินการจัดโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องที่โรงเรียนวัดพระขาว (ประชานุเคราะห์) จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวศิริพร ไชยชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระขาว (ประชานุเคราะห์) จ.พระนครศรีอยุธยา ให้การตอนรับ โดยมี อ.เอกวัฒน์ ลี้เทียน ผู้ดูแลโครงการทำการตรวจเยี่ยมโครงการ ท่ามกลางน้อง ๆเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการอย่างล้นหลามถึงกว่า 900 คน 

นางสาวศิริพร ไชยชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระขาว (ประชานุเคราะห์) จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต (ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น) ครั้งนี้ว่า สำหรับโครงการนี้ที่เป็นการสอนการว่ายน้ำอย่างปลอดภัย จัดโดยสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งของโรงเรียนวัดพระขาวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ในนามของโรงเรียนรู้สึกยินดีมากๆเลย น้องๆที่เข้าร่วมโครงการก็รู้สึกยินดีและตื่นเต้น อีกอย่างเราได้คอนแทคต่างๆจากภาคปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงโรงงานเอกชน ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะท่าน นพคุณ ลัคนาวิเชียร ผอ.สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ท่านเห็นประโยชน์ตรงนี้

"นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้ความสำคัญ เพราะ อ.บางบาล ที่นี่น้ำท่วมทุกปี ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเอาตัวรอดในสถานการณ์น้ำท่วมจริงๆ การเรียนรู้ของเด็กก็สร้างความตื่นเต้น มีการแบ่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม จากเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็เริ่มจากขั้นพื้นฐาน ต่อมาวันที่สองเด็กเริ่มดำน้ำ สร้างความสนุกให้กับน้องๆที่อยากจะเรียนรู้การว่ายน้ำ ซึ่งก็มีน้องๆดำน้ำโชว์ ผอ. ด้วย เรารู้ทันทีว่าเด็กมีประสบการณ์ขึ้นมา และที่สำคัญคือทางครูฝึกได้มีการสอนการทำ CPR คือการช่วยชีวิตในกรณีตกน้ำ ทำให้เด็กได้ฝึกทำจริงๆ ขอขอบคุณสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่จัดโครงการดีๆแบบนี้ และอยากให้มีโครงการดีๆแบบนี้ในทุกๆที่ เพื่อประโยชน์สำหรับเด็กในทุกๆพื้นที่"

สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิตขึ้นเพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการว่ายน้ำให้เด็กด้อยโอกาสในภูมิภาคต่างๆ แสวงหาความร่วมมือกับชุมชนเพื่อต่อยอดในการเฟ้นหานักกีฬารุ่นใหม่ต่อไป และให้บริการนักกีฬาว่ายน้ำด้อยโอกาสในชุมชน นำไปสู่การลดอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำ

ล่าสุดได้ดำเนินการจัดโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องที่โรงเรียนชุมชนวัดบัวแก้วเกสร(วรพงศ์อนุกูล) จ.ปทุมธานี โดยมีเป้าหมายการฝึกสอนให้กับเด็กด้อยโอกาสให้ลอยน้ำได้ว่ายน้ำเป็น ซึ่งสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยได้ตรวจเยี่ยมโครงการโดย อ.เอกวัฒน์ ลี้เทียน โดยมีผู้เข้าร่วมการฝึกในโครงการถึงกว่า 1,500 คน

นางสาวสุภาพร ไชโย รองผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดบัวแก้วเกษร(วรพงศ์อนุกูล) จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า "ในนามของผู้บริหารใน อ.ลาดหลุมแก้ว มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและต้องขอขอบคุณโครงการดีๆจากสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่ทำให้เด็กๆที่อำเภอลาดหลุมแก้วได้รู้จักวิธีการลอยตัวและว่ายน้ำเป็น ซึ่งโรงเรียนใน อ.ลาดหลุมแก้ว ได้ส่งนักเรียนมาร่วมโครงการนี้ทั้งหมด 7 โรงเรียน ซึ่งใช้สถานที่คือที่โรงเรียนชุมชนวัดบัวแก้วเกษร(วรพงศ์อนุกูล) นำโดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านศิริพงษ์ เชื้อดี และก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริหารใน อ.ลาดหลุมแก้ว เป็นอย่างดี

"และคณะผู้ปกครอง และคุณครู , นักเรียน อยากให้มีการจัดกิจกรรมนี้อีก ก็เลยอยากให้ทรงสมาคมฯรับพิจารณาโครงการนี้ในปีการศึกษาหน้าอีกสักครั้ง และต่อไปจาก 7 โรงเรียนที่เข้าร่วมการโครงการในครั้งนี้ก็อาจจะเพิ่มเป็น 12 โรงเรียนใน อ.ลาดหลุมแก้ว ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีของสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนและเห็นความสำคัญต่อชีวิตของนักเรียนค่ะ"

นายณฤต ศรีทอง ประชาสัมพันธ์ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ทางชมรมฯได้จัดการแข่งขันว่ายน้ำ "นนทบุรี สวิมมิ่ง คัพ" มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ก่อนว่างเว้นเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 โดยในปีนี้ทางชมรมฯเตรียมกลับมาจัดอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2567 ณ สระว่ายน้ำ อบจ.นนทบุรี โดยมีการรับรองสถิติจาก สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย พร้อมชิงทุนการศึกษาและถ้วยรางวัลทั้งประเภทบุคคลและสโมสร

สำหรับการแข่งขันจะมีตั้งแต่รุ่นอายุ 7 ปีและต่ำกว่า ไปจนถึงรุ่น 15 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 14 รายการ ประกอบด้วย ท่าฟรีสไตล์ 4 ระยะ ตั้งแต่ 50, 100, 200, 400 เมตร ส่วนท่ากบ, ผีเสื้อ, กรรเชียง 3 ระยะ ตั้งแต่ 50, 100, 200 เมตร และเดี่ยวผสม 1 ระยะ 200 เมตร โดยนักกีฬาสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้สูงสุด 8 รายการ ค่าสมัครคนละ 1,000 บาท 

ทั้งนี้ กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเพจ “ชมรมว่ายน้ำจังหวัดนนทบุรี”

เดินหน้าต่อ ผบ.ตร. หวั่นช่วงปิดเทอมเด็กจมน้ำสถิติเพิ่มขึ้น ให้ตำรวจน้ำ สานต่อความห่วงใยโครงการสอนน้องว่ายน้ำ ลดความสูญเสีย

วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มีความห่วงใยเด็กๆ และเยาวชนที่เล่นน้ำในช่วงปิดภาคเรียนอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ และการจมน้ำเสียชีวิตนั้นนับเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่คร่าชีวิตเด็กและเยาวชนไทย โดยเป็นอุบัติภัยที่สามารถป้องกันด้วยการใช้ความระมัดระวัง โดยกรมควบคุมโรค พบว่า อุบัติเหตุจมน้ำได้ ข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2565) มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอม ระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.นี้  953 คน เฉลี่ยวันละ 2 คน

ขณะที่ แหล่งน้ำที่พบว่า เด็กจมน้ำมากที่สุด คือ แหล่งน้ำตามธรรมชาติ ร้อยละ 76.5 เขื่อน อ่างเก็บน้ำฝาย ร้อยละ 11.1 ทะเล ร้อยละ 5.3) ภาชนะภายในบ้าน ร้อยละ 3.5  และสระว่ายน้ำสวนน้ำ ร้อยละ 1.8 โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเล่นน้ำมากที่สุด ร้อยละ59.4 รองลงมาคือ พลัดตกลื่น ร้อยละ 21.5

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ขาดการดูแลจากผู้ปกครอง และขาดความรู้เรื่องแหล่งน้ำเสี่ยงทั้งนี้ 10 จังหวัดแรกที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงที่สุดในช่วงฤดูร้อน ปี 2561 ถึง 2565 ได้แก่ บุรีรัมย์ 45 คน  อุดรธานี 38 คน นครราชสีมา 37 คน สุรินทร์ 30 คน ร้อยเอ็ด 28 คน สกลนคร 28 คน นครสวรรค์ 26 คน ขอนแก่น 25 คน นครศรีธรรมราช 25 คน และปัตตานี 24 คน โดยในช่วง ปิดเทอมนี้ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดฝึกสอนการว่ายน้ำให้กับเด็ก และเยาวชน ในห้วงเดือนตุลาคมนี้ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการจมน้ำของเด็ก และมีหัวข้อการสอนดังนี้ ฝึกการลอยตัว แนะนำอุปกรณ์ช่วยชีวิต การใช้งานอุปกรณ์ แนะนำสาธิตการเอาตัวรอดทางน้ำ เมื่อตกน้ำ สาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ/CPR การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น) และอื่นๆ