ลาซาด้าสร้างสถิติใหม่ "แคมเปญ 9.9" ตอกย้ำความสำเร็จ LazMall ขับเคลื่อนเติบโตแบรนด์ในไทย-ทั่วภูมิภาค

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับแคมเปญ "9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์" ด้วยตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งทั่วทั้งภูมิภาค ตอกย้ำกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยสินค้าแบรนด์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าคุณภาพจากแบรนด์แท้เพิ่มมากขึ้น

แคมเปญ 9.9 ครั้งนี้ LazMall ศูนย์รวมแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 32,000 แบรนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเชื่อมโยงนักช้อปและแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งแกร่ง

วันที่ 16 กันยายน 2568 โรนัลด์ ฟู ผู้อำนวยการฝ่ายแคมเปญ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า ขณะที่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับเรื่องสินค้าแท้ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และประสบการณ์การช้อปปิงระดับพรีเมียมมากขึ้น LazMall ยังคงเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนความสำเร็จของแคมเปญใหญ่ของลาซาด้า

การเติบโตของการบริโภคออนไลน์

ด้วยจำนวนประชากรชนชั้นกลางและกลุ่มผู้บริโภคที่มีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในภูมิภาคที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลาซาด้าได้สร้างสถิติใหม่บนแพลตฟอร์ม โดยมีมูลค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อที่สูงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับแคมเปญ 9.9 ในปีที่ผ่านมา และผู้ขายชั้นนำ 100 รายทั่วภูมิภาคมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 49 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตอกย้ำจุดแข็งของลาซาด้าในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าคุณภาพจากแบรนด์แท้ครบทุกหมวดหมู่

หลี่ เจียงกาน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Momentum Works เสริมว่า นักช้อปที่มีกำลังซื้อสูงไม่ได้มองหาเพียงประสบการณ์การช้อปที่ราบรื่น แต่ต้องการสินค้าแท้ ความมั่นใจในคุณภาพ และการมีส่วนร่วม ในปัจจุบัน ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีสัดส่วนยอดขายจากสินค้าแบรนด์ไม่ถึง 30% สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสเติบโตอีกมหาศาลสำหรับแพลตฟอร์มที่สามารถช่วยให้แบรนด์เชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ยกระดับประสบการณ์ด้วย Lazzie ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ

นับตั้งแต่เปิดตัว Lazzie ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI ลาซาด้าได้ต่อยอดศักยภาพ AI เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมและเพิ่มประสิทธิภาพของเมกะแคมเปญไปอีกขั้น

สำหรับแคมเปญ 9.9 ปีนี้ Lazzie มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นยอดขายและสร้างการมีส่วนร่วม โดยกิจกรรม "LazzieChat Challenge" เพิ่มการมีส่วนร่วมขึ้นถึง 53% นักช้อปในไทยและมาเลเซียยังเริ่มต้นการสนทนากับ Lazzie เองเพิ่มขึ้น 34% นอกจากนี้ ยอดคำสั่งซื้อจากการสนทนากับ Lazzie ยังเพิ่มขึ้นกว่า 36% ทั้งหมดเมื่อเทียบกับแคมเปญ 6.6 ที่ผ่านมา

การเติบโตต่อเนื่องจาก Lazzie สะท้อนถึงศักยภาพของ AI ที่ช่วยเพิ่มยอดการซื้อ-ขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเปลี่ยนประสบการณ์การซื้อขายที่เคยเป็นเพียงธุรกรรมให้กลายเป็นปฏิสัมพันธ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลและเข้าถึงนักช้อปได้อย่างแท้จริง

ไอริส เว่ย ประธานลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า ลาซาด้าเดินหน้ายกระดับมาตรฐานและกำหนดอนาคตของอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเทคโนโลยีล้ำสมัยและเครือข่ายของแบรนด์คุณภาพสูง ในฐานะผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภูมิภาคนี้ เรากำลังพลิกโฉมวิธีการที่ผู้บริโภคค้นหาสินค้า และยกระดับประสิทธิภาพการขายของแบรนด์ให้ก้าวไปอีกขั้น

ปัจจุบัน ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) จากแบรนด์ยังคงมีสัดส่วนไม่ถึง 30% เราจึงเล็งเห็นโอกาสมหาศาลข้างหน้า ด้วยการเร่งการเติบโตด้วยพลังของแบรนด์ ควบคู่ไปกับศักยภาพของเทคโนโลยี GenAI มูลค่า 1.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะปลดล็อกภายในปี 2573ลาซาด้ากำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สินค้ามาแรงในแคมเปญ 9.9 ในหมู่นักช้อปไทย

- นักช้อปไทยแห่ซื้อสินค้าบิวตี้ ดันยอดขายพุ่งแรง 815% สะท้อนเทรนด์ดูแลตัวเองที่มาแรง

- ยอดขายกระเป๋าเดินทาง-อุปกรณ์ท่องเที่ยวพุ่ง 670% เมื่อเทียบเวลาปกติ รับเทศกาลเที่ยวปลายปี

- หมวดหมู่ของเล่นและเกม ได้แรงหนุนจากกระแสแฟนด้อม แบรนด์ดังอย่าง POP MART โต 170%

- กระแสถ่ายภาพแบบคลาสสิกมาแรง! ยอดขายกล้องโพลารอยด์-ฟิล์มโต 253% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

- เกมเมอร์ส่งยอดขายเครื่องเล่นเกมพกพาพุ่ง 1,084% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

- แฟนด้อมไทยปลุกตลาดสินค้าไอดอล ยอดโตทะลุ 9,860%

ลาซาด้า เดินเกม “Next-Level eCommerce” ยกระดับอีคอมเมิร์ซด้วยสินค้าแบรนด์-ประสบการณ์พรีเมียม

ลาซาด้า ประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์การเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยุคใหม่ มุ่งยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยการมอบประสบการณ์การช้อประดับพรีเมียม และการเป็นศูนย์รวมสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ เสริมด้วยประสบการณ์การช้อปที่เหนือกว่า พร้อมมุ่งพัฒนาแคมเปญจากข้อมูลเชิงลึกตอบสนองผู้บริโภคอย่างแท้จริง อีกทั้งยังลงทุนต่อเนื่องในเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI เพื่อเสริมรากฐานการเติบโตให้แข็งแกร่งในระยะยาว สร้างคุณค่าให้ทั้งนักช้อป ผู้ประกอบการ ระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ ตลอดจนเศรษฐกิจไทยโดยรวมให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

 

เติบโตด้วยคุณภาพ ยกระดับสู่การเป็นแพลตฟอร์มพรีเมียม

ขณะที่นักช้อปไทยครองแชมป์จับจ่ายออนไลน์ต่อสัปดาห์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ถึง 68.2% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต[1] และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ทุกเจนที่หันมาช้อปออนไลน์เป็นหลัก สะท้อนความคาดหวังที่สูงขึ้นในทุกการใช้จ่าย การตัดสินใจซื้อสินค้าจึงเป็นไปอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาความคุ้มค่าที่มากกว่าราคา แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและประสบการณ์ที่ไว้วางใจได้ เห็นได้ชัดจากเทรนด์การเติบโตของยอด
คำสั่งซื้อบน LazMall แหล่งรวมสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำของลาซาด้า ที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ตั้งแต่ต้นปี 2568

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและนับเป็นตลาดที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดในภูมิภาค โดยในปี 2567 มีอัตราการเติบโตถึง 21.7% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 12%[2] อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าจะเติบโตแตะ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2573[3] ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและอินไซต์ผู้บริโภคยุคใหม่ ลาซาด้า ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จึงพร้อมบุกเบิกทิศทางและสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมด้วยแนวคิด ‘Next-Level eCommerce’ มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มอบประสบการณ์การช้อปแบบพรีเมียม ชูจุดแข็งด้านสินค้าแบรนด์และบริการคุณภาพ ซึ่งเป็นนิยามใหม่ของความคุ้มค่าที่นักช้อปไทยมองหา เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันเรายังเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และผลักดันการเติบโตของอีคอมเมิร์ซไทยเพื่อความแข็งแกร่งในระยะยาว

 

Next-Level eCommerce บุกเบิกมาตรฐานใหม่ ดันแพลตฟอร์มโตอย่างยั่งยืน

ลาซาด้าเดินหน้ายกระดับมาตรฐานวงการอีคอมเมิร์ซ มุ่งหน้าสู่แพลตฟอร์มที่มอบความคุ้มค่าให้ผู้บริโภคไทย พร้อมเจาะตลาดคุณภาพด้วย 3 โฟกัสหลัก พร้อมนำเทคโนโลยี AI เข้ามายกระดับประสบการณ์ให้กับทั้งผู้ซื้อ
แบรนด์ และผู้ขาย

 

1. คัดสรรสินค้าคุณภาพครบทุกหมวดหมู่ (High-Quality Assortment)

- นำเสนอสินค้าแบรนด์แท้ 100% ตลอดจนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ลาซาด้า ผ่าน LazMall และ LazMall Luxury ศูนย์รวมร้านค้าทางการของแบรนด์ชั้นนำ ที่มีมากกว่า 32,000 แบรนด์ทั่วทั้งภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายด้วยหมวดหมู่ขายดีอย่าง LazBEAUTY, LazLOOK และ Lazada Electronics

- ล่าสุด เสริมทัพด้านสินค้า นำร่องโมเดลค้าส่งสำหรับลูกค้าธุรกิจ (B2B) ตอบโจทย์ความต้องการผู้ประกอบการ ด้วยสินค้ากว่า 15,000 รายการ ครอบคลุมหมวดเกษตรกรรม อุปกรณ์ประปา และอุปกรณ์ไฟฟ้า

 

2. มอบประสบการณ์การช้อปที่เหนือกว่า (High-Quality Experience)

- สร้างความมั่นใจให้กับนักช้อปพร้อมยกระดับประสบการณ์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุกมิติ อาทิ ‘4 การันตี’ จาก LazMall (การันตีสินค้าแบรนด์แท้ 100% – จัดส่งตรงเวลา – คืนสินค้าพร้อมเงินคืนไว – การันตีสต็อกพร้อม) โปรแกรมส่งเร็วพิเศษ Priority Delivery 24 Hours สั่งซื้อสินค้าภายในเที่ยง ได้รับสินค้าในวันถัดไป ตลอดจนประสบการณ์การช้อปไร้รอยต่อกับบริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า โปรแกรมเก่าแลกใหม่และอัปเกรดรุ่นในหมวดโทรศัพท์มือถือ และประกันสินค้าในประเภทต่าง ๆ

- ลาซาด้ายังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อนำเสนอประสบการณ์การช้อปที่ราบรื่นและตอบโจทย์
ความต้องการเฉพาะบุคคลยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Lazzie แชตบอตอัจฉริยะผู้ช่วยแนะนำสินค้าที่ตรงใจ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นให้กับร้านค้า นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งบริการใหม่ Lazada Membership ระบบสมาชิกสะสมคะแนนเพื่อมอบสิทธิพิเศษมากมายให้กับนักช้อป

 

3. ดึงอินไซต์สร้างอิมแพ็กผ่านแคมเปญคุณภาพ (High-Quality Campaign)

- ด้วยอินไซต์ที่ชี้ว่ากว่า 50% ของยอดขายบนแพลตฟอร์มมาจากแคมเปญ ลาซาด้าจึงเดินหน้าสร้างสรรค์แคมเปญหลากหลายรูปแบบตลอดทั้งปี โดยไม่เพียงทุ่มงบเพิ่มคูปองส่วนลดเอาใจนักช้อปในช่วงแคมเปญมากกว่าเดิมถึง 45% แต่ยังยึดพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม สร้างความเหนียวแน่นกับนักช้อป และสร้างโอกาสให้ผู้ขายเติบโตไปพร้อมกัน

- สะท้อนความสำเร็จในช่วงเมกะแคมเปญและแคมเปญ Double Digit ด้วยยอดขายบนแพลตฟอร์มเติบโตกว่า 300% เมื่อเทียบกับวันปกติ ในขณะที่แคมเปญ Mid-Month ยอดโต 70% ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบการเติบโตในแคมเปญหมวดหมู่สินค้า นำโดยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าโตกว่า 2 เท่า ส่วนสินค้าแฟชันและความงามโตเพิ่มขึ้น 40%

“การคว้าตำแหน่งแบรนด์อันดับ 1 ในไทย จากผลสำรวจ Thailand’s Top 50 Brands 2025 โดย Campaign Asia[4] ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการมุ่งเน้นคุณภาพในทุกมิติ ทั้งสินค้า การบริการ และประสบการณ์การช้อป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างคุณค่าและผลกระทบเชิงบวกให้แก่ทุกภาคส่วนในอีโคซิสเต็ม นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” วาริสฐา กล่าว

 

เตรียมสัมผัสประสบการณ์การช้อปเหนือระดับ กับเมกะแคมเปญ 9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์

เพื่อสานต่อความสำเร็จในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ผู้บริโภคไว้วางใจ ลาซาด้าพร้อมเปิดตัวเมกะแคมเปญ“9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์” ยกระดับประสบการณ์การช้อประดับพรีเมียมด้วยทัพสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันจัดเต็ม ตั้งแต่ 8 กันยายน 2 ทุ่ม ถึง 11 กันยายน 2568 มอบส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท* LazFlash ลดสูงสุด 90%* แบรนด์ดังลดแรง 6 ชั่วโมงแรก 2 ทุ่ม ถึง ตี 2 และดีลสุดพิเศษอีกหลายต่อ เสริมทัพความสนุกด้วยกิจกรรมจาก Lazzie ฟีเจอร์ผู้ช่วย AI สุดล้ำ เพียงพิมพ์คำว่า “HEYLAZZIE” ในแชต ก็มีสิทธิ์รับ LazRewards ได้ทุกวัน และหากแชตกับ Lazzie อย่างต่อเนื่อง ก็ยังมีสิทธิ์ปลดล็อก LazRewards สูงสุดกว่า 200 บาท* ได้อีกด้วย ตอบโจทย์นักช้อปยุคใหม่ที่มองหาความคุ้มค่าอย่างแท้จริง

"ลาซาด้า" ชี้ AI กุญแจปลดล็อกโอกาสอีคอมเมิร์ซ หนุนผู้ขายไทย 61% เปิดใจใช้ AI เจาะช่องว่างตลาดผ่าน Sponsored Max

โลกอีคอมเมิร์ซในยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด แต่ผู้ขายต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพึ่งพางบโฆษณาจำนวนมากอาจไม่ใช่ทางออกอีกต่อไป ในทางกลับกันผู้ขายที่กล้าเปิดรับนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อให้สินค้ามีโอกาสถูกมองเห็นและปิดการขายได้ในจังหวะที่ ‘ใช่’ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล

รายงานล่าสุดจาก Momentum Works ร่วมกับลาซาด้าเผยว่า หากผู้ขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถใช้ศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่ จะสามารถปลดล็อกมูลค่าทางเศรษฐกิจในระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซทั่วภูมิภาคได้สูงถึง 4.5 ล้านล้านบาทต่อปี (หรือราว 131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ภายในปี 2030 ตัวเลขนี้สะท้อนถึงโอกาสมหาศาลในการขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในฐานะผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาซาด้าเล็งเห็นศักยภาพดังกล่าวตั้งแต่แรกเริ่ม และได้นำ AI มาเป็นพลังสำคัญที่ช่วยเสริมขีดความสามารถ ให้ผู้ขายไทยแข่งขันและเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง

เจาะลึกโอกาสและพฤติกรรมการใช้ AI ของผู้บริโภคและผู้ขายไทย

จากรายงาน Digital 2025 นักช้อปไทยมีการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์ต่อสัปดาห์สูงที่สุดในโลก คิดเป็น 69.2% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 55.8% สะท้อนว่าการช้อปปิงออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคไทย ส่งผลให้พวกเขามีความคาดหวังต่อประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สูงยิ่งขึ้นไปด้วย ผลสำรวจจากลาซาด้า ร่วมกับกันตาร์ (Kantar)เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อบทบาทของ AI ในอีคอมเมิร์ซ และมองว่า AI ช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปให้ตรงใจและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น โดยพบว่า

90% ยินดีซื้อสินค้าที่ระบบ AI แนะนำ

81% ยินดีจ่ายเงิน เพื่อประสบการณ์การช้อปที่ขับเคลื่อนด้วย AI

อย่างไรก็ตาม ในฝั่งผู้ขาย ผลสำรวจเผยให้เห็น ‘ช่องว่าง’ ระหว่างการรับรู้และการใช้งาน AI อย่างชัดเจน

ผู้ขายไทยเกือบทุกราย (99%) ตระหนักถึงศักยภาพของ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม 88% ยอมรับว่าพนักงานของตนยังคงยึดติดกับเครื่องมือเดิมที่คุ้นเคย มากกว่าจะเปิดรับการใช้โซลูชัน AI ใหม่ ๆ

ปัจจุบัน ผู้ขายไทยเพียง 39% นำ AI มาใช้งานจริงในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าผู้ขายอีกมากกว่าครึ่งยังพลาดโอกาสสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันผ่านเทคโนโลยี AI

นอกจากนี้ รายงานจาก McKinsey[5] ยังระบุอีกว่า ธุรกิจที่ใช้ AI ในด้านการขายและการตลาดสามารถเพิ่มรายได้มากถึง 15% ในขณะที่ลดต้นทุนการดำเนินงานได้มากถึง 20% ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของการเร่งนำ AI มาขับเคลื่อนธุรกิจ แม้จะต้องเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านจากระบบที่คุ้นเคย ไปสู่การใช้โซลูชัน AI มาเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ

Sponsored Max ติดปีกร้านค้ายุคดิจิทัลด้วยโซลูชัน AI

เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ขายไทยพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในโลกอีคอมเมิร์ซ ลาซาด้าจึงเดินหน้าสนับสนุนให้ผู้ขายใช้ประโยชน์จาก AI อย่างเต็มที่ ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ Sponsored Max หนึ่งในเครื่องมือโปรโมตสินค้าภายใต้ Lazada Sponsored Solutions ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายให้กับผู้ขายไทยอย่างครบวงจร ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ปรับแต่งการตั้งค่าได้ภายในไม่กี่คลิก เหมาะทั้งผู้ขายมือใหม่และมืออาชีพ โดยทำหน้าที่เสมือน “ผู้ช่วยหลังบ้าน” ที่เข้ามาเสริมกลยุทธ์ทางธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ

-เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายสูงสุด ครอบคลุมทุกช่องทราฟฟิกบนแพลตฟอร์ม เพิ่มโอกาสให้สินค้าได้รับการมองเห็นมากขึ้น พร้อมจับคู่ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำด้วยอัลกอริธึม AI

-เพิ่มศักยภาพการขายแบบเต็ม Max ผู้ขายสามารถเลือกตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ได้ตามต้องการ โดยเทคโนโลยี AI ล่าสุดจะเข้ามาช่วยบริหารงบประมาณและปรับแคมเปญให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายสูงสุดภายใต้งบที่ตั้งไว้

-ควบคุมงบประมาณและผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น แนะนำการตั้งค่าผลตอบแทนจากค่าโฆษณา ROAS รายวันที่เหมาะสม พร้อมจัดสรรงบการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Sponsored Max ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของลาซาด้าในเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ขายอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีแบรนด์ชั้นนำและผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ได้ใช้งานเครื่องมือ Sponsored Max และเห็นผลลัพธ์จริง โดยในช่วงเมกะแคมเปญ ผู้ขายที่ใช้ Sponsored Max มียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 160% เมื่อเทียบกับวันปกติ ลาซาด้ามุ่งมั่นผลักดันผู้ขายไทยใช้ AI เพื่อยกระดับการขายและบริหารร้านค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านโซลูชันที่ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจในปัจจุบัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ Sponsored Max ได้ที่ bit.ly/SponsoredMaxTH

ลาซาด้า คว้าตำแหน่งแบรนด์อันดับ 1 ในไทยจากผลสำรวจ Thailand’s Top 50 Brands 2025 โดย Campaign Asia

ลาซาด้า ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศไทย จากรายงาน Thailand’s Top 50 Brands 2025 โดย Campaign Asia ร่วมกับบริษัทวิจัยตลาดระดับโลก Pureprofile สะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านคุณภาพของสินค้าและบริการ ประสบการณ์การใช้งาน นวัตกรรม และความภักดีต่อแบรนด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของลาซาด้าในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

จากการประเมินแบรนด์ในประเทศไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ลาซาด้าได้รับคะแนนรวมสูงสุดถึง 84% จากผู้บริโภคตามเกณฑ์การสำรวจในหลากหลายด้าน เช่น ช่องทางในการเข้าถึงแบรนด์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระดับความภักดีต่อแบรนด์ ความเต็มใจที่จะแนะนำแบรนด์ให้ผู้อื่น ตลอดจนความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยลาซาด้ามีคะแนนนำในด้านคุณภาพ การบริการลูกค้า และประสบการณ์การช้อป

การจัดอันดับครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายงาน Southeast Asia’s Top 50 Brands 2025 ซึ่งรวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่มีความครอบคลุมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเก็บข้อมูลจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ผ่านการสัมภาษณ์ออนไลน์ตลอดเดือนเมษายน 2568 กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนประชากรรวมกว่า 10,000 คน โดยใช้แพลตฟอร์มสำรวจของ Pureprofile งานวิจัยครอบคลุมแบรนด์กว่า 620 รายใน 10 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ, ยานยนต์, อีคอมเมิร์ซ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อาหารจานด่วน, การเงิน, ความงาม, บริการวิดีโอสตรีมมิง, ขนส่งและเดลิเวอรี่ และการท่องเที่ยว โดยผลสำรวจดังกล่าวใช้โมเดลการให้คะแนนที่สะท้อนทั้งระดับการรับรู้และความเชื่อมโยงของแบรนด์กับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยมีระดับความน่าเชื่อถือสูงถึง 95% ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีความแม่นยำสูง 

ผลการจัดอันดับดังกล่าว ยังสะท้อนบทบาทที่เพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย โดยลาซาด้าได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากนักช้อป จากจุดเด่นด้านความหลากหลายและคุณภาพของสินค้า บริการที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างครบวงจร ตลอดจนความคุ้มค่า และการพัฒนาแพลตฟอร์มด้วยนวัตกรรมอย่าง AI อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือกว่า เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้ซื้อ แบรนด์ ผู้ขาย และพันธมิตรในระบบนิเวศธุรกิจอย่างยั่งยืน

ดูรายละเอียด Thailand’s Top 50 Brands 2025 ได้ที่:  https://www.campaignasia.com/article/thailands-top-50-brands-2025/503009

แบรนด์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก! ถอดรหัสความปัง 4 แบรนด์แฟชั่นขวัญใจนักช้อป ขายดียืนหนึ่งบนลาซาด้า ด้วยดีไซน์โดนใจ

แบรนด์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก! ถอดรหัสความปัง 4 แบรนด์แฟชั่นขวัญใจนักช้อป ขายดียืนหนึ่งบนลาซาด้า ด้วยดีไซน์โดนใจ เข้าถึงเป้าหมายตรงจุด

ในโลกแฟชั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง การสร้างแบรนด์ให้ “เป็นที่จดจำ” อาจไม่ใช่แค่ดีไซน์ที่สวยงาม แต่คือการสร้างเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนอย่างชัดเจนและแตกต่าง ขณะเดียวกัน การขยายธุรกิจสู่โลกอีคอมเมิร์ซคืออีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด พลิกเกมด้วยการเข้าถึง เข้าใจ และสร้างความผูกพัน ทำให้สามารถเข้าไป “นั่งในใจ” ลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน วันนี้เราจะพาไปส่องกลยุทธ์ 4 แบรนด์แฟชั่นไทยที่โดดเด่น กับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมฮีโร่โปรดักส์ที่โดนใจ ตอบโจทย์สายแฟและคาแรกเตอร์ผู้หญิงยุคใหม่ จนขึ้นแท่นแบรนด์ขายดีใน LazLOOK บนลาซาด้า 

และนี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์หรือกระแสแค่เฉพาะกลุ่ม เพราะในแคมเปญ 6.6 ที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงที่ครองอันดับขายดีที่สุดบนลาซาด้า ส่วนใหญ่ล้วนเป็นแบรนด์ไทย ตอกย้ำศักยภาพของแบรนด์แฟชั่นไทยที่ไม่เป็นรองใครในโลก

Endless Holiday – เมื่อแพทเทิร์นสดใสกลายเป็นลุคโปรดที่ทุกคนมีติดตู้ สู่แบรนด์ขายดีติดลมบน

Endless Holiday แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่สร้างภาพจำและมัดใจลูกค้าด้วยลวดลายเฉพาะตัวและสีสันสดใสจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ใครเห็นก็จำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นลายผ้าดอกไม้หลากสีอย่าง Secret Garden หรือทรงเสื้อที่โดดเด่น แต่ไม่ตะโกนจนเกินไป อย่างดีไซน์เสื้อปกยาวจากคอลเลกชัน Tokyo Summer ที่ต่างขึ้นแท่นไอเท็มฮิตในตำนาน

เบื้องหลังความสำเร็จคือ 3 ผู้ก่อตั้ง ผู้หลงใหลแฟชั่นอย่าง เอ้ - ฤดีมาศ, อ้อ - ฤดีรัตน์ และ กานต์ ที่ใช้ความถนัดเฉพาะตัวด้านทั้งมาร์เก็ตติ้งและกราฟิกดีไซน์มาผสานกัน พร้อมสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ด้วยลายผ้าและโทนสีที่แตกต่างแต่สวมใส่ง่าย นอกจากนี้ Endless Holiday ยังต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสินค้าสู่กลุ่มแม่และเด็ก จนสร้างกระแสแฟชั่นแม่-ลูก และการพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่างดิสนีย์ (Disney) ในคอลเลกชัน Lost in the Daisy Garden

แต่ก้าวสำคัญของแบรนด์คือการเข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ช่วยให้เข้าถึงฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศได้อย่างตรงจุด พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าคุณภาพผ่านการเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้แคมเปญ Anniversary Secret Garden และ แคมเปญ Lost in Daisy Garden ประสบความสำเร็จ ดันยอดขายโตพุ่งขึ้นถึง 100% อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดยังติดอันดับท็อปแบรนด์ขายดีที่สุดในหมวดหมู่แฟชั่นอีกด้วย

Garmenti – กระเป๋าแบรนด์คนไทยที่สายแฟเลือก Sold Out ใน 1 นาทีบนลาซาด้า

หากพูดถึงอีกหนึ่งกระเป๋าแบรนด์ไทยที่กำลังมาแรง นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Garmenti แบรนด์ที่หลายคนยกให้เป็น Favorite Item ด้วยดีไซน์สไตล์ Quiet Luxury ที่เรียบโก้ แต่แฝงด้วยกิมมิกอย่างดีเทลปม Knot ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะรุ่นฮิตอย่าง “GYOZA” “Daily Tote Bag” และล่าสุด “The Baxter Bag” ที่ไม่ว่าเปิดจะเปิดขายบนแพลตฟอร์มลาซาด้าเมื่อไรก็หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว เคยทุบสถิติขายหมดภายใน 1 นาทีมาแล้ว

พลอยจ๋า - สิรีธร และ บอส - ศรัณยวิทย์ สองผู้ก่อตั้งที่สร้างแบรนด์กระเป๋าที่ “เข้าถึงง่ายและจับต้องได้” ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและสไตล์สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ พร้อมถ่ายทอดตัวตนผ่าน 5 คีย์หลักของแบรนด์: สนุก (Fun), สดใหม่ (Fresh), เป็นมิตร (Friendly), ใช้งานได้จริง (Functional) และเพื่อให้เป็นกระเป๋าชิ้นโปรด (Favorite) ของผู้หญิงทุกคน

Garmenti เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากร้านเล็ก สู่ยอดขายแตะ 8 หลักบนลาซาด้า ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน ทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแรง สินค้ามีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง รีวิวจากผู้ใช้จริง และบริการหลังการขายที่จริงใจ โดยมีลาซาด้าเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของแบรนด์อย่างมั่นคง ผ่านระบบสนับสนุน ทีมที่ปรึกษา และแคมเปญ Double Digits หรือเมกะแคมเปญที่พา Garmenti ให้เป็นที่รู้จักอย่างทุกวันนี้

MISS MODERN สวย สง่า เรียบหรู แบรนด์คู่ใจในโอกาสพิเศษ

MISS MODERN แบรนด์ชุดราตรีที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกมั่นใจและสวยสง่าในทุกโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานเลี้ยง หรือดินเนอร์สุดหรู โดย รุ้งระวี คัทธมารศรี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ตั้งใจให้ MISS MODERN เป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างในทุกโมเมนต์สำคัญ จุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์เรียบหรู ใส่ง่ายแต่ดูดี พร้อมบริการ Customization ที่ให้ลูกค้าเลือกปรับไซส์และสีได้ตามต้องการ ช่วยเติมเสน่ห์ให้ทุกลุคดูพิเศษในแบบของตัวเอง

นอกจากนี้ พลังจากการรีวิวของลูกค้า ตลอดจนอินฟลูเอนเซอร์และนักแสดงที่สวมใส่ชุดของแบรนด์ในงานต่าง ๆ ทำให้ MISS MODERN ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องบนโซเชียล มีรีวิวรวมกว่า 1,000 รายการ และได้คะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึง 4.9 ดาว

หลังจากขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มสายแฟบนลาซาด้า แบรนด์ MISS MODERN ยังมีโอกาสสร้างสรรค์หลากหลายแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ด้วยการคอลแลบกับแบรนด์ดังอย่าง Tresemmé, Maybelline และ L’Oréal ซึ่งความร่วมมือในรูปแบบดังกล่าวริเริ่มจากการที่ลาซาด้ามุ่งผลักดันให้แบรนด์จากหมวดหมู่ที่แตกต่าง อย่างแฟชั่นและบิวตี้สามารถเสริมแกร่งกัน เพื่อสร้างแรงดึงดูดใหม่ๆ ให้นักช้อป และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างตรงจุด เรียกได้ว่าเป็น Cross-category Synergy ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา MISS MODERN มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 30%

OlyyEssentials กระเป๋าดีไซน์ Timeless ที่สายแฟเทใจให้

Olyy Essentials แบรนด์กระเป๋ามาแรงที่เชื่อว่าสายแฟทุกคนต้องมีติดตู้ โดดเด่นด้วยหนัง Suede คุณภาพสูง และดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นสาวๆ OLYY ในทุกมิติ และ สามารถหยิบไปแมทช์ได้กับทุกลุค สวยชิคแบบไม่ต้องพยายาม พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ภายใต้ความเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยรายละเอียด Olyy Essentials ได้รับการขับเคลื่อนโดย นัท - นัสรีน และ ธามณ์ - ธามณ์นที จิรเศรษฐวัฒนศักดิ์ ซึ่งมีรากฐานจากประสบการณ์จริงในแฟชั่น และความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องดีไซน์ วัสดุ และงานฝีมือระดับพรีเมียม พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนา กระเป๋าแต่ละใบให้มีความ “Timeless” อย่างแท้จริง ตั้งแต่การคัดสรรหนัง Suede คุณภาพสูง ไปจนถึงการออกแบบอะไหล่เฉพาะที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างชัดเจน

ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ยึดหัวใจของสาวๆ ยุคใหม่ และความเข้าใจลึกซึ้งในไลฟ์สไตล์ ทำให้ กระเป๋ารุ่นแรกของแบรนด์อย่าง Ara Espresso ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ผ่านกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ด้วยความจริงใจ เข้าถึงง่าย และสะท้อนตัวตน lifestyle ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน จนสามารถ sold out ภายใน 2 นาที หลังเปิดตัว

ความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่นในยุคนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดีไซน์ที่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการมีสไตล์ที่โดดเด่น จุดยืนที่ชัดเจน และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะบน LazLOOK แพลตฟอร์มที่รวมกลุ่มลูกค้าสายแฟตัวยง และด้วยฐานผู้ใช้งานที่เหนียวแน่นนี้ ทำให้แบรนด์สามารถโปรโมตสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมการตลาด ไม่ว่าจะเป็นเมกะแคมเปญหรือแคมเปญประจำสัปดาห์ทุกวันศุกร์อย่าง LazLOOK Friday และหลากหลายเครื่องมือสนับสนุนผู้ขายจากลาซาด้า ซึ่งช่วยสร้างผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นว่าลาซาด้าไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แต่คือพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงเป้าหมาย สร้างโอกาสใหม่ ๆ เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

POP MART ชวนแกะกล่องความฟินจับมือ ลาซาด้า เสิร์ฟประสบการณ์สุดพิเศษกับคาแรกเตอร์ฮิตสู่นักสะสมทั่วภูมิภาค

POP MART ชวนแกะกล่องความฟิน จับมือ ลาซาด้า เสิร์ฟประสบการณ์สุดพิเศษกับคาแรกเตอร์ฮิตสู่นักสะสมทั่วภูมิภาค เดินหน้าเอาใจคอลเลกเตอร์กับฟิกเกอร์สุดลิมิเต็ด กล่องสุ่ม และคาแรกเตอร์ฮิต พร้อมเซอร์ไพร์สอีกมากมาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแส “กล่องสุ่มฟีเวอร์” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ขยับจากความชื่นชอบเฉพาะกลุ่มของนักสะสม สู่เทรนด์กระแสหลักที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ และผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก POP MART แบรนด์อาร์ตทอยระดับโลก ผู้จุดกระแสนิยมผ่านคาแรกเตอร์เอ็กซ์คลูซีฟ แรร์ไอเทมที่ใคร ๆ ก็อยากได้ ไปจนถึงกิจกรรมออฟไลน์ที่เชื่อมโลกแห่งจินตนาการสู่ประสบการณ์จริง ปัจจุบัน Pop Mart ได้นำโลกของตัวละครขวัญใจอย่าง MOLLY, DIMOO และ SKULLPANDA เข้ามาใกล้ชิดบรรดาแฟนมากยิ่งขึ้น ผ่าน LazMall บนลาซาด้า ไม่ว่าจะเป็นเซอร์ไพรส์ดร็อปสุดตื่นเต้น ประสบการณ์แกะกล่องที่หลายคนรอคอย ตลอดจนกิจกรรมกับคอมมูนิตี้ของกลุ่มแฟนพันธุ์แท้

การเปิดร้านบน LazMall ช่วยให้ POP MART เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นับตั้งแต่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มในปี 2566 แบรนด์สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 5 เท่า กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ของเล่นที่เติบโตเร็วที่สุดบน LazMall สะท้อนถึงความหลงใหลของผู้บริโภคในภูมิภาคที่มีต่อของสะสมและการเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครที่น่าสนใจ ตั้งแต่การแกะกล่องผ่านไลฟ์สตรีม ไปจนถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ด้วยอินไซต์ที่แม่นยำ ความสำเร็จของ POP MART สะท้อนถึงพลังของการผสานโลกดิจิทัลเข้ากับวัฒนธรรมแฟนด้อมได้อย่างไร้รอบต่อ ขณะเดียวกัน ตลาดกล่องสุ่มอาร์ตทอยทั่วโลกก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2574 โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากนักสะสมรุ่นใหม่อย่างเจนซีและมิลเลนเนียล ที่หลงใหลในความหายาก ความผูกพันทางอารมณ์ และกลิ่นอายของความทรงจำในวัยเด็ก

POP MART เผยว่า ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นจากความลุ้นระทึก หรือความสุขที่ได้เจอคาแรกเตอร์โปรด นักสะสมกำลังมองหาอะไรที่มากกว่าของเล่น นั่นคือเรื่องราวเบื้องหลังตัวละครเหล่านั้น การร่วมมือกับลาซาด้าช่วยให้ POP MART สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร้รอยต่อและเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น

พบกับคอลเลคชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟในเดือนมิถุนายนนี้

POP MART เตรียมปล่อย 2 คอลเลคชันสุดลิมิเต็ด ได้แก่ MOLLY และ Zsiga และเปิดตัว SKULLPANDA คอลเลคชันที่สองในรูปแบบตุ๊กตาพลัชสุดนุ่มนิ่มน่ากอด เพิ่มสีสันใหม่ให้กับไลน์อัปคาแรกเตอร์ยอดฮิตที่ครองใจแฟน ๆ มาอย่างยาวนาน

คอลเลคชันพิเศษทั้งหมดนี้จะวางจำหน่ายบน LazMall ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นไป โดย POP MART เตรียมขยายสต็อกสินค้าและเพิ่มการมองเห็นหน้าร้านออนไลน์บนลาซาด้า เพื่อรองรับความต้องการที่ของแฟน ๆ ทั่วภูมิภาค

เจาะอินไซต์คอมมูนิตี้ สู่ตะกร้าในโลกคอมเมิร์ซ

แฟนๆ POP MART ไม่เพียงแค่สามารถช้อปสินค้าได้สะดวกสบายผ่านลาซาด้าเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ช้อปปิงที่เหนือระดับ ด้วยระบบแนะนำสินค้าที่ขับเคลื่อนโดย AI พร้อมผสานข้อมูลเชิงลึกเฉพาะตลาด ทำให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงใจนักสะสมในแต่ละประเทศได้อย่างแม่นยำ เช่น SKULLPANDA ที่กลายเป็นคาแรกเตอร์ขวัญใจชาวไทย และ DIMOO ที่ได้รับความรักอย่างล้นหลามในมาเลเซีย

นอกจากนี้ ฟิกเกอร์ตัวโปรดยังรับการจัดส่งที่รวดเร็ว โดย 85% ของคำสั่งซื้อในเมืองหลักทั่วภูมิภาค เช่น กรุงเทพฯ และมะนิลา จะส่งถึงมือภายใน 48 ชั่วโมงหลังยืนยันคำสั่งซื้อ พร้อมบรรจุในแพ็กเกจกันกระแทกพิเศษเพื่อรักษาสภาพให้สมบูรณ์ และลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์ผ่านแอปลาซาด้าได้อย่างสะดวกสบาย

อาร์ตทอยจาก POP MART ไม่ใช่เพียงแค่ของเล่นทั่วไป แต่คือไลฟ์สไตล์และสัญลักษณ์ของความหรูหราและความเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของแฟนคลับและเหล่าครีเอเตอร์ โดยปัจจุบันกว่า 34% ของยอดขาย POP MART บนลาซาด้า มาจากพาร์ทเนอร์ในเครือข่าย Lazada Affiliate ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์ นักสะสมอาร์ตทอย และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของ POP MART ผ่านมุมมองเฉพาะตัว ทั้งการเล่าเรื่องราว การเจาะลึกคาแรกเตอร์ และคอนเทนต์แกะกล่อง กลุ่มครีเอเตอร์เหล่านี้ไม่เพียงแค่โปรโมตสินค้า แต่ยังช่วยสร้างคอมมูนิตี้ และยกระดับการสะสมให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่แชร์ร่วมกันได้อย่างแท้จริง

ลาซาด้า จับมือ ททท.ติดปีกท่องเที่ยวไทยสู่ 5 ประเทศอาเซียนผ่าน LazTravel

ลาซาด้า ประเทศไทย ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2025 ผลักดันการท่องเที่ยวไทยสู่กลุ่มนักเดินทางอาเซียนผ่าน LazTravel บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักบนแพลตฟอร์มลาซาด้า ชูจุดแข็งฐานผู้ใช้งานครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย สร้างแคมเปญโปรโมตรูปแบบข้ามพรมแดน พร้อมมอบดีลสุดคุ้มสำหรับการจองเที่ยวบินและที่พัก ชูไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งในประเทศ (Domestic Tourism) และจากต่างประเทศ (Inbound Tourism)

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “LazTravel ไม่เพียงช่วยให้การจองทริปเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่า แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมและโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวไทย ทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว ช่วยเปิดประสบการณ์และถ่ายทอดเสน่ห์ความเป็นไทยสู่สายตานักเดินทาง ผ่านบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งเข้าถึงฐานผู้ใช้ได้มากขึ้นในระดับภูมิภาค ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Thailand as a popular destination in Southeast Asia) ขณะเดียวกัน ความร่วมมือกับ ททท. ในครั้งนี้ยังช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณภาพได้กว้างขึ้น ในฐานะผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”  

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2567 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียนกว่า 10.6 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ขณะที่รายงานจาก Visa ยังชี้ว่า นักท่องเที่ยวจาก สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรกในไทย โดยเฉพาะหมวดที่พัก ช้อปปิง ร้านอาหาร และบริการสุขภาพ

ความร่วมมือระดับภูมิภาคครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2025 ซึ่งเป็นแคมเปญสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยว พร้อมมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่นักท่องเที่ยวจากอาเซียน ผ่านส่วนลดเที่ยวบินและโรงแรมสูงสุด 15% (เป็นไปตามเงื่อนไขในแต่ละประเทศ)

ขณะเดียวกัน ลาซาด้ายังเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านแคมเปญเที่ยววันธรรมดา เพื่อจูงใจให้คนไทยออกเดินทางในช่วงวันจันทร์ - พฤหัสบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’ จากภาครัฐ ซึ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วงโลว์ซีซันอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ LazTravel ยังมีบทบาทสำคัญในการขยายการรับรู้และกระตุ้นการเดินทางในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันแหล่งท่องเที่ยวทางเลือก เช่น เมืองน่าเที่ยว ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของลาซาด้า อาทิ แบนเนอร์หน้าแคมเปญหลัก การแจ้งเตือนข้อความ และคูปองส่วนลดพิเศษ เช่น
•    Amazing Thailand Grand Sale: นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รับส่วนลดสูงสุด 15% เมื่อจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2568 
•    เที่ยววันธรรมดา: นักท่องเที่ยวชาวไทยรับส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักภายในประเทศ (สูงสุด 150 บาท) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน 2568

LazTravel ให้บริการจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก กิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชันลาซาด้า โดยรวบรวมเที่ยวบินจากกว่า 200 สายการบิน ครอบคลุมกว่า 50,000 เส้นทาง พร้อมตัวเลือกโรงแรมมากกว่า 282,000 แห่งใน 7,000 เมืองทั่วโลก ปัจจุบันเปิดให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยผู้ใช้งานสามารถวางแผนและจองการเดินทางทั้งในและต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย ครบจบในแอปเดียว พร้อมความคุ้มค่าสูงสุดจากฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาสายการบินและโรงแรม รวมถึงโปรโมชันพิเศษจากแคมเปญต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ทั้งในไทยและอาเซียน

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองบริการผ่าน LazTravel ได้ทางแอปพลิเคชันลาซาด้า*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลาซาด้าแอปพลิเคชัน และ www.lazada.co.th

 

ยูโอบี ร่วมมือกับลาซาด้า จัดสัมมนา “Future Trends in E-commerce” ชูเทรนด์อีคอมเมิร์ซและ AI หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับลาซาด้า จัดสัมมนา “Future Trends in E-commerce: Driving Growth with AI on E-commerce” รวมพลังผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชันสำหรับธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซและบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคต

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่าเทคโนโลยี โดยเฉพาะความก้าวหน้าทางด้าน AI จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน การร่วมมือกับลาซาด้าในครั้งนี้จึงเป็นการเชื่อมต่อนวัตกรรมด้านอีคอมเมิร์ซกับโซลูชันทางการเงินของธนาคาร เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เติบโตและแข่งขันได้อย่างทันท่วงที”
 
ไฮไลต์สำคัญของงานคือ การแบ่งปันความรู้ด้านกลยุทธ์การใช้ AI ในการทำตลาดดิจิทัล เจาะลึกเทรนด์การค้าบนโลกออนไลน์ และเทคนิคการเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยในงานนี้ ทางลาซาด้า ได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ขายเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขาย ปรับปรุงการให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผู้เข้าร่วมงานยังได้รับความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินและเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี อย่างมีประสิทธิภาพ จากพันธมิตรของ UOB BizSmart บริการดิจิทัลโซลูชันที่ช่วยเอสเอ็มอีบริหารจัดการธุรกิจ ได้แก่ PEAK โซลูชันระบบจัดการบัญชี และ ZORT ระบบจัดการคำสั่งซื้อและสต็อกสินค้า
 
นอกจากนี้ ยังมีการแชร์เคล็ดลับความสำเร็จจากแบรนด์ไทยชั้นนำอย่าง AIMER แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น และ INGU Skin แบรนด์สกินแคร์ที่โดดเด่นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติคุณภาพสูง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการในการสร้างธุรกิจให้เติบโตในโลกออนไลน์
 
งานสัมมนาครั้งนี้ตอกย้ำพันธกิจของธนาคารยูโอบี และลาซาด้า ในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้มีความรู้ เครื่องมือ และโซลูชันทางการเงินที่จำเป็นต่อการเติบโตบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว

 

"ลาซาด้า" ทุ่มงบ 100 ล้านดอลลาร์ เสริมแกร่ง Lazada Affiliate เดินหน้าผลักดันวงการครีเอเตอร์ในภูมิภาค

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแผนการลงทุนมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพื่อยกระดับโปรแกรม Lazada Affiliate ในการเพิ่มค่าคอมมิชชัน ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตลอดจนการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อเสริมศักยภาพพาร์ทเนอร์ในเครือข่าย ให้พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคที่ขับเคลื่อนโดยพลังของอินฟลูเอนเซอร์ โดยลาซาด้าได้เผยแผนการลงทุนครั้งสำคัญนี้ในงาน Lazada Affiliate Southeast Asia Awards 2025 ณ โรงแรมดับเบิลยู กรุงเทพฯ 

ติดปีกให้ครีเอเตอร์โตด้วยโปรแกรม Lazada Affiliate โฉมใหม่
โปรแกรม Lazada Affiliate เวอร์ชันใหม่นี้ มาพร้อมโครงสร้างค่าตอบแทนและฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์นักสร้างรายได้ในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียง ไมโครอินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่ หรือนักช้อปทั่วไป เพื่อต่อยอดการสร้างรายได้จากคอนเทนต์และเพิ่มการเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้ประกอบไปด้วย
•อินเทอร์เฟซโฉมใหม่: มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ช่วยยกระดับประสบการณ์การเลือกสินค้าให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย

•การนำเสนอสินค้าคอมมิชชันสูง: การคัดสรรสินค้าที่สร้างยอดขายและให้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้พาร์ทเนอร์สามารถพิจารณาเลือกสินค้าที่ขายดี

•แดชบอร์ดสรุปข้อมูล: แดชบอร์ดโฉมใหม่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิเคราะห์ทราฟฟิกและประสิทธิภาพของลิงก์ เช่น อัตราคอนเวอร์ชัน จำนวนผู้เข้าชม และค่าคอมมิชชัน ช่วยให้พาร์ทเนอร์วางกลยุทธ์คอนเทนต์เพื่อสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

•การตกแต่งหน้าร้านค้า: พาร์ทเนอร์สามารถปรับแต่งหน้าร้านออนไลน์เพื่อนำเสนอสินค้าแนะนำ และมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อให้กับผู้ติดตาม ตั้งแต่การค้นหา การเลือกสินค้า ไปจนถึงการสั่งซื้อ

•ค่าตอบแทนพิเศษช่วงแคมเปญ: ในช่วงเมกะแคมเปญอย่าง 9.9, 11.11 และ 12.12 พาร์ทเนอร์มีสิทธิ์ได้รับโบนัสพิเศษ ตลอดจนค่าคอมมิชชันที่สูงขึ้น รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบเกมเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงแคมเปญพิเศษ

เดินหน้าสร้างการเติบโตให้แบรนด์และผู้ขายอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์ ลาซาด้าได้ร่วมมือกับแบรนด์และผู้ขายชั้นนำในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่เน้นประสิทธิภาพและสร้างความคุ้มค่า ได้แก่  
•คูปองส่วนลดจากลาซาด้า: ช่วยกระตุ้นยอดขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์ นอกเหนือจากค่าคอมมิชชันและผลตอบแทน

•เครือข่ายครีเอเตอร์ที่หลากหลาย: ครอบคลุมตั้งแต่อินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ ไปจนถึงกลุ่มผู้บริโภคผู้ใช้งานจริง (Key Opinion Consumer: KOC) เพื่อขยายการเข้าถึงและเพิ่มโอกาสในการค้นพบสินค้ามากขึ้น 

กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้เกิดโมเดลที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์อย่างแท้จริง โดยแบรนด์และผู้ขายจะชำระเงินเมื่อเกิดการซื้อสินค้าจริงเท่านั้น ช่วยให้การร่วมงานกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สามารถวัดผล ต่อยอด และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว 

จัดเต็มโบนัสพิเศษสำหรับแคมเปญ 6.6 
สำหรับเมกะแคมเปญกลางปี 6.6 ที่กำลังจะมาถึง ลาซาด้าเตรียมมอบค่าคอมมิชชันสูงสุดถึง 36% ให้กับพาร์ทเนอร์ที่โปรโมตสินค้าผ่านคูปองร้านค้า โดยมีแบรนด์พันธมิตรชั้นนำกว่า 70 แบรนด์ในหมวดแฟชันและความงาม ร่วมสนับสนุนผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับพาร์ทเนอร์ นอกจากนี้ ลาซาด้าได้เตรียมรีวอร์ดพิเศษมูลค่ารวม 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 ล้านบาท ให้กับพาร์ทเนอร์ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในระดับภูมิภาค ในอนาคต พาร์ทเนอร์ที่โดดเด่นยังมีสิทธิ์ได้รับโบนัสและรีวอร์ดพิเศษตามผลงานในช่วงแคมเปญอีกด้วย

Jared Chan หัวหน้าฝ่าย Affiliate ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “ลาซาด้าเดินหน้าสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ให้สามารถเข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ และต่อยอดอิทธิพลของตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างเครือข่ายนักสร้างรายได้ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตของครีเอเตอร์ในทุกกลุ่ม แต่ยังช่วยเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”

Lazada Affiliate คือ โปรแกรม Affiliate ของลาซาด้า ที่เชื่อมโยงเครือข่ายนักสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ ไปจนถึงนักช้อปตัวยง ให้สามารถร่วมงานกับแบรนด์และผู้ขายบนแพลตฟอร์มได้โดยตรง ด้วยการแนะนำสินค้าผ่านสไตล์เฉพาะตัว เพื่อช่วยเพิ่มยอดเข้าชมและยอดขาย ผู้เข้าร่วมจะได้รับค่าคอมมิชชันจากทุกยอดขายที่เกิดขึ้นจริง โดยไม่มีเพดานจำกัด โปรแกรม Lazada Affiliate เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้ในโลกของครีเอเตอร์คอมเมิร์ซ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้ติดตาม เพียงลงทะเบียนและแชร์ลิงก์แนะนำสินค้า ก็สามารถเริ่มสร้างรายได้ทันที โดยครีเอเตอร์ชาวไทยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเข้าร่วมโปรแกรม Lazada Affiliate ได้ที่ https://pages.lazada.co.th/wow/gcp/lazada/channel/th/marketing/Affiliate...

    

ลาซาด้า จับมือ YSL Beauty เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกบนอีคอมเมิร์ซ LazMall Luxury สัมผัสประสบการณ์ความงามระดับไฮเอนด์ได้ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว

ลาซาด้า จับมือ YSL Beauty เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกบนอีคอมเมิร์ซกับ LazMall Luxury สัมผัสประสบการณ์ความงามระดับไฮเอนด์ได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

ลาซาด้า ประเทศไทย จับมือ YSL Beauty แบรนด์เครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ เปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกบนอีคอมเมิร์ซแบบเอ็กคลูซีฟกับ LazMall Luxury นำเสนอไลน์อัพผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำหอม เมคอัพ และสกินแคร์ พร้อมมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดพิเศษสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ เปิดร้านออนไลน์อย่างเป็นทางการที่ลาซาด้า พร้อมช้อปข้อเสนอสุดพิเศษฉลองเปิดร้าน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม นี้ 2 ทุ่มเป็นต้นไป 

เหล่านักช้อปสายบิวตี้เตรียมสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ความงามที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์อันเปี่ยมมนต์เสน่ห์และสไตล์ที่โดดเด่นตามแบบฉบับของ YSL Beauty โดยมีไฮไลท์อย่างน้ำหอมระดับไอคอนิกจากตระกูล LIBRE, Y และ MYSLF     รวมไปถึงลิปออยล์กลอสรุ่นใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชัน YSL LOVESHINE ที่มอบสัมผัสแวววาว ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ หรืองานผิวชื่อดังอย่าง TOUCHE ÉCLAT GLOW PACT คุชชันเนื้อบางเบามอบผิวโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ และ LE CUSHION ENCRE DE PEAU คุชชั่นสูตรแมตต์ ในตลับหนังดีไซน์หรู ตลอดจนสกินแคร์สำหรับทุกความต้องการอย่างครบครัน

ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ YSL Beauty ในศักยภาพของ LazMall Luxury ในฐานะช่องทางอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ผสานประสบการณ์แบรนด์ระดับพรีเมียมเข้ากับนวัตกรรม เพื่อเข้าถึงนักช้อปในยุคดิจิทัล โดยลาซาด้ามุ่งยกระดับประสบการณ์การช้อประดับพรีเมียมกับสินค้าแท้จากแบรนด์ระดับโลก เพื่อมอบคำนิยามใหม่สำหรับสินค้าลักชูรี ที่มาพร้อมความหรูหราบวกกับความสะดวกสบายไร้รอยต่อ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างลงตัว 

สัมผัสประสบการณ์ความงามเหนือระดับเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์กับแฟลกชิปสโตร์ YSL Beauty เฉพาะที่ลาซาด้า พร้อมช้อปข้อเสนอสุดพิเศษฉลองเปิดร้าน YSL BEAUTY SUPER GRAND OPENING รับคูปองส่วนลดสูงสุด 10% และของขวัญมูลค่าสูงสุด 5,500 บาท พร้อมรับกระเป๋า YSL ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 26 พฤษภาคม 2568 ได้ที่ https://www.lazada.co.th/shop/ysl-beauty

#YSLBEAUTYTHxLAZADA #YSLBEAUTYTHxLazMall #YSLBeautySuperGrandOpening