กรุงเทพประกันชีวิต ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่จ.พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ จึงส่งตัวแทนพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่ส่งมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาความลำบากระหว่างการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือส่งตรงถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกรุงเทพประกันชีวิต ภายใต้แนวคิด “ใส่ใจเพื่อความสุขที่ยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดูแลสังคมไทยในทุกสถานการณ์ ไม่เพียงแต่ในยามปกติ แต่ยังพร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนในยามวิกฤต เพื่อร่วมฟื้นฟูและสร้างกำลังใจให้ผู้ประสบภัยสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ กรุงเทพประกันชีวิตขอร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกครอบครัว และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อภารกิจแห่งความใส่ใจ เพื่อร่วมสร้างรอยยิ้มและความอุ่นใจให้กับคนไทยในทุกช่วงสถานการณ์

“กกล.ผาเมือง” ลุยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เพจ กองทัพบก Royal Thai Army โพสต์ข้อความระบุว่า

“กกล.ผาเมือง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย”

กกล.ผาเมือง โดย บก.ผาทมิฬ ฉก.ทัพเจ้าตากและ ชป.กร.313 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกับ ส่วนราชการ อ.แม่สาย, ทต.แม่สาย, หน่วยงานรัฐวิหกิจ, ผู้นำชุมชน และประชาชนจิตอาสาฯ บ.ไม้ลุงขน เข้าร่วมโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และบำเพ็ญสาธารณกุศล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยร่วมกันทำความสะอาดล้างคราบดินโคลน และฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 300 คน ณ บริเวณตลาดไม้ลุงขน หมู่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

"ทรู" มอบเน็ตฟรี 10 GB ขยายวันใช้งาน-เวลาชำระเงิน บรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ฯธานี นครศรีฯ จัดทีมเน็ตเวิร์คดูแลสัญญาณ

จากสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้  ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอส่งกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือดูแลลูกค้าในพื้นที่ทั้ง  4 จังหวัดร่วมแบ่งเบาภาระ ทั้งมอบเน็ตฟรี. ขยายวันใช้งานและขยายเวลาชำระค่าบริการ รวมทั้งจัดทีมเน็ตเวิร์คดูแลเครือข่ายทั้งโมบายล์ ทรู ดีแทคและไฟเบอร์ทรูออนไลน์  ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานติดต่อสื่อสารได้ต่อเนื่อง และร่วมสนับสนุนน้ำดื่มและชุดถุงยังชีพ มอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น  กล่าวว่า เพราะการสื่อสารในช่วงสถานการณ์ที่เกิดเหตุภัยพิบัติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ล่าสุดทั้ง จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช นั้น ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของลูกค้าและให้สามารถสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยได้ มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน ทั้งสำหรับลูกค้าเติมเงินและรายเดือน  ขยายวันใช้งานเพิ่ม 7 วันสำหรับลูกค้าเติมเงิน. และขยายเวลาชำระค่าบริการ สำหรับลูกค้ารายเดือน (ทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์)  อีกทั้งยังมีการประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ส่งข้อความ SMS แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแบบเจาะจงพื้นที่ระดับตำบลและหมู่บ้าน รวมทั้งจัดเตรียมทีมงานเน็ตเวิร์คปฎิบัติการดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง  พร้อมทั้งทีมภูมิภาคของทรู คอร์ปอเรชั่น  ยังได้ร่วมกับเครือซีพีและบริษัทในเครือฯ และพันธมิตรทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำตามเจตนารมณ์คนไทยไม่ทิ้งกัน. ทั้งการนำรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW) เข้าพื้นที่น้ำท่วม มอบ WiFi ให้ใช้งานฟรี และส่งมอบอาหาร และน้ำดื่ม ให้ความช่วยเหลือเพื่อนคู่ค้า และลูกค้า  พร้อมส่งกำลังใจให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน 

ทรู คอร์ปอเรชั่น มอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าดังนี้

·  มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน  สำหรับลูกค้าเติมเงินและรายเดือน (รอรับ SMS)
·  ขยายวันใช้งานเพิ่ม7 วันสำหรับลูกค้าเติมเงิน
·  ขยายเวลาชำระค่าบริการอีก 7 วัน  สำหรับลูกค้ารายเดือน (ทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์) 

ลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อน  สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1242 หรือ 1678

ธารน้ำใจจากชาวระนอง ส่งสิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยผู้ประสบอุทกภัยถึงนราธิวาสแล้ว

วันที่ 7 ธ.ค.67 ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง ในนามพี่น้องชาวจังหวัดระนอง นำสิ่งของอุปโภค - บริโภคจากการรับบริจาคจากภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และพี่น้องชาวจังหวัดระนอง เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ภายใต้การนำ นายสุพจน์  ภูติเกียรติขจร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจอันดีงามของชาวจังหวัดระนอง ที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ให้พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ได้อย่างเร็ววัน

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  ขอขอบคุณ ในไมตรีจิตของชาวจังหวัดระนองที่ได้ร่วมกันบริจาคและนำส่งมาถึงจังหวัดนราธิวาสในค่ำคืนนี้ ทางจังหวัดนราธิวาสจะได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือพี่น้องชาวจังหวัดนราธิวาสต่อไป

 

“ทวี สอดส่อง” นำคณะ บินด่วนลงจังหวัดชายแดนใต้ เกาะติดการช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบอุทกภัย

“ทวี สอดส่อง” นำคณะ​ ลง​พื้นที่​ด่วนช่วยเหลือ​ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อม​มอบหมาย​หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่​เป็นการเร่งด่วน

วันเสาร์​ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย​ นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ, นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ในพื้นที่ ประกอบด้วย นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา พรรคประชาชาติ, นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ และ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดยะลา เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยจุดแรก ณ มณฑลทหารบกที่ 42 (ค่ายเสนาณรงค์) หมู่ที่ 2 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พันตำรวจ​เอก​ ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ ได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์​อุทกภัยในพื้นที่ ร่วมกับ ส่วนราชการ ทหาร และภาคเอกชน​ นำโดย นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการ​จังหวัด​สงขลา พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พลตรี ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 43 พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท นายแพทย์ชาญฤทธิ์ ล้อทวีสวัสดิ์ รองเลขาธิการแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ พร้อมด้วย​เจ้าหน้าที่​ที่​เกี่ยวข้อง​ ร่วมการประชุม

โอกาส​นี้​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ กล่าวว่ารัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัย​เป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชเป็น​ไปอย่างทันท่วงที เบื้องต้นได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วน ในส่วนของกระทรวง​ยุติธรรม​อาจจะมีการย้ายผู้ต้องขังในเรือนจำที่ได้รับผลกระทบด้วย

ต่อจากนั้น พันตำรวจ​เอก​ ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางไปพื้นที่​จังหวัด​ยะลา ไปมอบอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ ให้ประชาชน ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตามจุดต่าง ๆ อาทิ บริเวณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย บรรเทาภัยน้ำท่วม กระทรวงยุติธรรม มูลนิธิตุ้ยบ๋วยเต็งเนี่ยง ศาลเจ้าแม่ทับทิมยะลา, วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง,ศูนย์เยาวชน จังหวัดยะลา, ศูนย์ช่วยเหลือฯ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว รวมทั้ง มัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา ซึ่งจัดตั้งเป็นศูนย์อพยพฯ ให้ที่พักพิงกับประชาชนที่เดือนร้อนจากอุทกภัย ฯลฯ เป็นต้น โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นายสุไลมาน บือแนปีแน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา พรรคประชาชาติ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลาด้วย

พันตำรวจ​เอก​ ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ยังให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนทุกท่าน ให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ และกลับมาดำเนินชีวิตแบบปกติได้โดยเร็ว ก่อนมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และร่วมประกอบอาหารโรงครัวแจกจ่ายพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในเบื้องต้น จากที่ก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนมาตั้งแต่วันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานล่าสุดวันนี้ จากเหตุอุทกภัย ที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติกระทบประชาชนเป็นวงกว้าง รวมกว่า 322,000 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย โดยภาครัฐมีศูนย์บัญชาการอยู่ทั้งหมดใน 16 อำเภอ มีศูนย์อพยพ 72 แห่ง มีสรรพกำลังจิตอาสา และทหาร เข้าช่วยเหลือประชาชนจัดไว้เบื้องต้นจำนวน 76 กองร้อย ทั้งในส่วนของการช่วยเหลือเรื่องการอพยพคน บรรจุกระสอบทราย มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เดิม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ มีกำหนดการลงพื้นที่ ประชุม ครม. สัญจร และตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย ก่อนที่จะมีการยกเลิกภารกิจ เปลี่ยนเป็นกำหนดเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แทน

"ก.เกษตรฯ" เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของและรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2567

ก.เกษตรฯ เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของและรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2567


เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และจังหวัดสตูล ซึ่งส่งผลให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
       

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ระดับจังหวัด เป็นศูนย์ฯ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ มีการประเมินสถานการณ์น้ำในจังหวัด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย และสำรวจผลกระทบด้านการเกษตรเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ได้แก่ กรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่ประสบอุทกภัย ดังนี้ เครื่องสูบน้ำ 96 เครื่อง เครื่องผักดันน้ำ 7 เครื่อง รถสูบน้ำเคลื่อนที่ 3 คัน รถขุด 63 คัน เรือขุด 13 ลำ เรือกำจัดวัชพืช 2 ลำ รถแทรกเตอร์ 36 คัน รถบรรทุก 70 คัน เครื่องจักรสนับสนุน 145 หน่วย กรมประมง โดยกองตรวจการประมง ระหว่างวันที่ 27 - 29 พ.ย. 2567 ได้ดำเนินการช่วยเหลือ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา การให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ จัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ 42 ชุด รถยนต์ 11 คัน เรือตรวจการประมง 7 ลำ โดยช่วยนำส่งเสบียงอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมทั้งอพยพประชาชน ผู้ป่วย เด็กและคนชรา ในพื้นที่ประสบภัยสู่พื้นที่ปลอดภัย และ กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่ อพยพสัตว์ 200,704 ตัว รักษาสัตว์ 140 ตัว ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 79 ซอง ถุงยังชีพสัตว์ 73 ถุง หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 66,500 กิโลกรัม เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้จัดตั้งจุดโรงครัวเพื่อผลิตอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้      

1. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา อาคารส่วนขยาย ชั้น 1 ศาลากลาง จังหวัดยะลา โทร 0-7322-1711
2. สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส โทรศัพท์ : 0-7351-1378
3. การยางแห่งประเทศไทย จังหวัดสตูล อ.เมือง จ.สตูล โทรศัพท์ : 0-7471-1378
4. สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองพัทลุง อ.เมือง จ.พัทลุง โทรศัพท์ : 0-7461-3193
5. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทรศัพท์ : 0-7535-6254, 0-7535-6454
6. สำนักงานเกษตรอำเภอปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.นราธิวาส โทรศัพท์ : 0-7346-6062
7. สถานีพัฒนาที่ดิน อ.จะนะ จ.สงขลา โทรศัพท์ : 0-7489-4300

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เปิด “ศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2567” เพื่อเป็นศูนย์รับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋องพร้อมทาน เครื่องปรุงรส หรือน้ำมันพืช ยาสามัญประจำบ้านและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทำความสะอาด ถุงบรรจุของยังชีพ ฯลฯ เพื่อดำเนินการจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยผู้ที่สนใจสามารถบริจาคสิ่งของดังกล่าวได้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก ห้องประชุม 115 อาคาร 1 ชั้น 1 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ในเวลาทำการ เป็นต้นไป

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ปี 2567 โดยสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนวิสุทธิกษัตริย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภาคใต้” เลขที่บัญชี 006-0-26077-7

ศปช. ส่วนหน้า ลงพื้นที่ติดตามการสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดเชียงราย

ศปช. ส่วนหน้า ลงพื้นที่ติดตามการสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช. ส่วนหน้า) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าในการสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย หลังจากเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ทำให้บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย โดยมีนายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงรายเข้าร่วมในครั้งนี้

โดยการลงพื้นที่ มท.อิ่ม ได้รับการประสานจากพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการติดตามการสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยอย่างเร่งด่วน

การก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะการประสานงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนกลับมามีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

ในระหว่างการลงพื้นที่ นางสาวธีรรัตน์ ได้พบปะกับชาวบ้าน พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟื้นฟูหลังอุทกภัย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด

"พีที" ชวนส่งต่อน้ำใจ ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยและฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ

 

บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท โอลิมปัส ออยล์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซหุงต้มพีที และสถานีบริการน้ำมัน และก๊าซ LPG ได้สนับสนุนบัตรเติมน้ำมันให้กับมูลนิธิกระจกเงามูลค่า 50,000 บาท เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปให้พี่น้องผู้ประสบภัย และยังร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ขอเชิญชวนทุกท่านส่งต่อน้ำใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ซึ่งอยู่ในภาวะฟื้นฟู ซ่อมแซมที่พักอาศัยให้กลับสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้พีที จึงได้เปิดจุดรับบริจาคภายในปั๊มพีที ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นขอรับบริจาคเครื่องใช้ ไฟฟ้าใหม่ และมือสอง รวมถึงอุปกรณ์และเคมีภัณฑ์ทำความสะอาด เพื่อรวบรวมให้ทางมูลนิธิกระจกเงานำ ไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถนำสิ่งของไปบริจาคได้ที่ปั๊มพีที ทั้ง 5 สาขา ดังนี้

สาขาประตูน้ำพระอินทร์

สาขาประเวศ ปากซอยอ่อนนุช 65

สาขาเทพารักษ์ กม.12

สาขาคลองสาม คลองหลวง

และสาขาปัฐวิกรณ์

หรือตรวจสอบพื้นที่รับบริจาคใกล้บ้านท่านได้ทาง Facebook Page : PT LPG

“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” มอบสเปย์กันยุงดีมอส น้ำมันหอม และขี้ผึ้งทาน้ำกัดเท้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” มอบสเปย์กันยุงดีมอส น้ำมันหอม และขี้ผึ้งทาน้ำกัดเท้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.67 นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ มอบผลิตภัณฑ์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แก่ สเปย์ป้องกันยุงดีมอส น้ำมันหอม ขี้ผึ้งทาน้ำกัดเท้า และถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่สุขภาพที่ 2 ณ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดีมอส  (D-mos) เป็นสเปรย์กันยุงและยุงดื้อสารเคมีกำจัดแมลงเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก วิจัยและพัฒนาโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีประสิทธิภาพป้องกันยุงและยุงดื้อสารเคมีกำจัดแมลงได้นาน 9-12 ชั่วโมง

สำหรับขี้ผึ้งทาน้ำกัดเท้า มีสรรพคุณฆ่าเชื้อราและรักษาโรคน้ำกัดเท้า ใช้รักษาอาการเท้าเปื่อยลอกแดง ส่วนน้ำมันหอมระเหยสมุนไพร ใช้สำหรับสูดดม ให้ความสดชื่น  ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว วิจัยและผลิตโดย สถาบันวิจัยสมุนไพร ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสมุนไพรและมีโรงงานต้นแบบผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

"ในหลวง" ทรงห่วงใยราษฎรประสบอุทกภัยเชียงราย โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค มอบแก่ราษฎร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎร ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค 
ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย 

วันที่ 29 ส.ค.67 เวลา 12.06 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎร เพื่อเชิญไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายต่อไป และมอบแก่ราษฎรอำเภอเทิง ณ หอประชุมเทศบาลตำบลหงาว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่ตำบลหงาว อำเภอเทิง เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 3 ครอบครัว กับลงพื้นตำบลต้า อำเภอขุนตาล เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 3 ครอบครัว  และเชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย จำนวน ๓ ครอบครัว ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา

ทั้งนี้ องคมนตรี ได้พูดคุยให้กำลังใจ และขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจิตอาสาพระราชทาน ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว การนี้ องคมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมเทศบาลตำบลหงาว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม และรายงานการเกิดอุทกภัย รวมทั้งรายงานการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยองคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการให้ความช่วยเกี่ยวกับการเกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น การเตรียมแผน การซักซ้อมแผน การแจ้งเตือน การเข้าให้การช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ ตลอดจนการฟื้นฟูเยี่ยวยา เพื่อให้หน่วยงานต่างๆน้อมนำไปปรับแผนในการให้การช่วยเหลือราษฎรเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

​​​​​​​

จังหวัดเชียงราย ได้เกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน สะพานและพื้นที่การเกษตรของราษฎร ได้รับความเสียหายและผลกระทบใน 18 อำเภอ 83 ตำบล 649 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 29,186 ครัวเรือน ราษฎรเสียชีวิต  2 ราย

​​​​​​​

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ องค์กร ในระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือน และสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม จัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีพ และดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้ราษฎรสามารถกลับ
มาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข โดยเร็วต่อไป