ผู้บริหาร

บี.กริม เพาเวอร์ แต่งตั้ง “ดร. ฮาราลด์ ลิงค์” เป็นประธานกรรมการ พร้อมแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3 ท่านเป็นผู้บริหารสูงสุดแทน ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ มีผลตั้งแต่ 17 กันยายน 2568 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจ เติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวสู่องค์กรชั้นนำระดับโลก

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 13/2568 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ได้มีมติสำคัญ โดยรับทราบการลาออกของนายปกรณ์ ทวีสิน กรรมการซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เนื่องจากเกษียณอายุ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้คณะกรรมการจะสรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทแทนกรรมการที่ลาออก โดยจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบในลำดับถัดไป

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติแต่งตั้ง ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการ”  โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อนำทัพธุรกิจในภาพรวมองค์กร ซึ่งมีการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่องในหลากหลายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่พันธมิตรและนักลงทุน พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3 ท่าน เป็นผู้บริหารสูงสุดแทน ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ได้แก่ นายพีรเดช พัฒนจันทร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน, นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ธุรกิจในประเทศไทย มาเลเซีย และโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม และนางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  งานการเงินและบัญชี ซึ่งปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน  โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทั้ง 3 ท่าน ถือเป็นกำลังทัพสำคัญของ บี.กริม เพาเวอร์ ในการขับเคลื่อนแต่ละกลุ่มธุรกิจ ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยรางวัลและเกียรติประวัติมากมาย ดังนี้

นายพีรเดช พัฒนจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน
การศึกษา: ปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรผู้บริหารและวิชาชีพระดับนานาชาติจากสถาบันชั้นนำในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ประสบการณ์: เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านกฎหมายและการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานทดแทนของบี.กริม เพาเวอร์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการบุกเบิกโครงการพลังงานหมุนเวียนโดยภาคเอกชนของไทยในสาธารณรัฐเกาหลีที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพขององค์กรสู่เวทีโลก และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์   โดยที่ผ่านมา ได้ริเริ่มและนำทีมพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญ ได้แก่ (1) Phu Yen TTP Joint Stock Company – 257 MWp Solar PV project ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ Best Power Plant Project Developer – Solar ประจำปี 2019 (2562) จาก International Finance ในสาขา Utility / Energy และ (2) Ray Power Supply Co., Ltd. - 39 MWp Solar PV project ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ Best New Solar PV Project, Cambodia ประจำปี 2021 (2564) ในสาขา Utility / Energy โดยนิตยสาร International Finance เพื่อให้รางวัลแก่บริษัทที่ริเริ่มดำเนินงานด้วยความเชี่ยวชาญและล้ำสมัย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทย มาเลเซีย และโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม 
การศึกษา : ปริญญาตรีและปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Maryland และ University of Texas, สหรัฐอเมริกา 
ประสบการณ์ : มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจพลังงานและการเงินในองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีในธุรกิจพลังงาน การเงิน และอุตสาหกรรม เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในสถาบันการเงินและองค์กรพลังงานชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการความเสี่ยง การวางกลยุทธ์ทางการเงิน และการพัฒนาโซลูชันธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อเสริมศักยภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร โดยได้รับรางวัลต่างๆ อาทิ เช่น Best CFO จาก International Finance, Finance Asia Magazine, Asian Excellence Awards และ Best COO จาก Finance Asia Asia’s Best Companies 2025

นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร งานการเงินและบัญชี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (Chief Financial Officer)
การศึกษา : สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการเงินและการบัญชีจาก University of Illinois at Urbana-Champaign สหรัฐอเมริกา 
ประสบการณ์ : มีบทบาทสำคัญในการบริหารการเงินและบัญชีขององค์กร ผลักดันการระดมทุนและโครงการด้านการเงินที่สำคัญ จนได้รับการยอมรับด้วยรางวัลผู้บริหารการเงินยอดเยี่ยมทั้งในประเทศไทยและระดับเอเชีย โดยได้รับรางวัลต่างๆ อาทิ เช่น Best CFO จาก Finance Asia Asia’s Best Companies 2025 และ Asia’s Best CFO จาก Asian Excellence Award 2025 โดย Corporate Governance Asia 

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า การแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารดังกล่าว เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเป้าหมายในอนาคต บริษัทตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างการพัฒนาภายในปี 2573 โดยมากกว่า 50% เป็นสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593 หรือ คศ. 2050 ด้วยแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี พร้อมเดินหน้าเติบโตสู่องค์กรชั้นนำระดับโลก 

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 Exclusive Networks ผู้นำโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ประกาศแต่งตั้ง บุรชัย ไพบูลย์นุกูลกิจ เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจและเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย

ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในธุรกิจความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความเชี่ยวชาญเชิงลึกในตลาดไทย บุรชัยเข้าร่วมงานกับ Exclusive Networks ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำเสนอโซลูชันความปลอดภัยแบบบูรณาการ ให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ดิจิทัลของประเทศที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

“ขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในทุกช่องทางติดต่อ" บุรชัย ไพบูลย์นุกูลกิจ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Exclusive Networks กล่าว “เป้าหมายของผมคือการผสานความแข็งแกร่งของผู้จัดจำหน่ายระดับโลกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมภายในประเทศ เพื่อมอบบริการด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นผลลัพธ์ให้กับลูกค้า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Exclusive Networks ยังคงเดินหน้าลงทุนในการส่งมอบโซลูชันแบบครบวงจร เพื่อก้าวข้ามผลิตภัณฑ์เดี่ยวไปสู่การสนับสนุนที่ตอบโจทย์ตลาดที่กำลังพัฒนา รองรับตลาดเกิดใหม่และระดับโลก”

งานที่มีความสำคัญอย่างเร่งด่วนของบุรชัย ได้แก่ การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้จัดจำหน่าย การค้นหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการสนับสนุนพันธมิตรผ่านการเพิ่มศักยภาพทางเทคนิคขั้นสูงและความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในประเทศ รูปแบบความเป็นผู้นำของเขาที่มุ่งเน้นไปที่การให้คำปรึกษาและการทำงานร่วมกัน สอดคล้องกันเป็นอย่างดีกับวัฒนธรรมองค์กรของ Exclusive Networks ที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรก

“ภูมิทัศน์ด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการดัดแปลงภาพ วิดีโอ และเสียง ( Deepfake) ที่สร้างโดย AI ถูกนำมาใช้เพื่อหลอกลวงทั้งบุคคลและธุรกิจ" บุรชัยกล่าวเสริม "เมื่อผู้ก่อภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต่างๆ จึงต้องปรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ควบคู่กันไป เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือพันธมิตรและลูกค้าด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านี้”

สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA) กำลังเร่งออกกฎระเบียบที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และข้อกำหนดของศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) ในภาคส่วนสำคัญ Exclusive Networks พร้อมสนับสนุนองค์กรในประเทศให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับกรอบการทำงานเหล่านี้โดยสมบูรณ์ จึงสามารถให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์และแนวทางด้านกฎระเบียบได้อย่างมั่นใจ

Fabrice Bartolucci ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกงของ Exclusive Networks กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในกลยุทธ์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเรา รากฐานที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมและความเป็นผู้นำของบุรชัย ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการขับเคลื่อนการเติบโต วิสัยทัศน์และแนวทางของบุรชัยจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันภารกิจของเรา ในการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกในภูมิภาคนี้”

บุรชัยเข้ารับตำแหน่งในช่วงที่ Exclusive Networks กำลังขยายการลงทุนในตลาดไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพภายในประเทศและแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงพอร์ตโฟลิโอของผู้ขายที่กำลังพัฒนาไป นอกจากนี้ เขายังมุ่งมั่นพัฒนากลุ่มบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไทย เพื่อให้พันธมิตรและลูกค้าเข้าถึงการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

Exclusive Networks Thailand สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องกับผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำระดับโลก ทำให้สามารถนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรและเหมาะสมกับตลาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสนับสนุนที่ครอบคลุมและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในประเทศ บริษัทจึงยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและคงความแข็งแกร่งในภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของภูมิภาค

วิทยุการบินฯ เดินหน้ากระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คนใหม่ ผู้สนใจสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.- 7 มี.ค. 2568

​เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 68 เนื่องด้วย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แทน นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ ที่จะครบวาระในวันที่ 30 มีนาคม 2568 โดยคณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายดนัย เรืองสอน เป็นประธานฯ นายพลจักร นิ่มวัฒนา นายชวาล รัตนวราหะ รองศาสตราจารย์จิรพล สังข์โพธิ์ นางสาวปิยะดา ปุณณกิติเกษม  เป็นคณะกรรมการฯ  

​การดำเนินการสรรหาฯ ครั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานของวิทยุการบินฯ มีประสิทธิภาพที่ดีอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วยการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โดยมีรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้น จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ มีคุณสมบัติและ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในมาตรา 8 ตรี แห่ง พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งมีความรอบรู้ความชำนาญและประสบการณ์ในการบริหารองค์กร ดังนี้

​- ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานนั้น และต้องมีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารองค์กรรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี หรือสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง

​- ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี รองเจ้ากรม หรือ รองหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่ารองอธิบดี

​- ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น ซึ่งในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้างต้น จะต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันที่ยื่นใบสมัคร หรือวันที่พ้นจากตำแหน่ง

​ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับใบสมัครได้ที่ กองบริหารทรัพยากรบุคคล โทรศัพท์ 08 1860 8506 หรือ 09 2803 9165 วันจันทร์ – ศุกร์ ในเวลาทำการ ยกเว้นวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือสามารถติดตามรายละเอียดและ download ใบสมัครได้ที่ www.aerothai.co.th ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครและหลักฐานประกอบการสมัครด้วยตนเอง ในกรณีที่ไม่สามารถมายื่นเอกสารด้วยตนเองได้ ให้มีหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นแทน โดยสามารถยื่นใบสมัครและหลักฐานได้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง 7 มีนาคม 2568

สื่อสารองค์กรและกิจการสังคม บวท.
โทรศัพท์ : 02285 9090 และ 061 408 4488 Line ID : pr.aerothai

นางสาวปัญจมา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและนำเข้ากระเบื้องคุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบ ที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์ความต้องการในการสร้างบ้าน ที่อยู่อาศัย ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ สามารถใช้ตกแต่งปูพื้นและบุผนัง ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ภายใต้แบรนด์ Porcela (พอร์ซเซล่า)  กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัล "บุคคลตัวอย่างแห่งปี 2023" ในภาคธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ซึ่งการได้รับรางวัลครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันในการทำงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการเสริมสร้างพัฒนาบุคลากร และส่งเสริมบุคลากรให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ อย่างต่อเนื่อง

นางสาวปัญจมา กล่าวว่า ปัจจุบัน Porcela (พอร์ซเซล่า) ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วยต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิคและวัสดุก่อสร้างที่ได้ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ได้ในหลายมิติ อาทิ การสื่อสาร การพัฒนาสินค้านวัตกรรม การลดต้นทุน การสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า รวมถึงการวิจัยและผลิตสินค้าที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบงาน ฯลฯ ในปีนี้ Porcela (พอร์ซเซล่า) เดินหน้ารุกตลาดกระเบื้องแอนตี้แบคทีเรีย Anti – Bacteria (Hygienic Tiles) ยับยั้งเชื้อรา และแบคทีเรีย มากกว่า 99% เต็มตัว เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตกลุ่มคนรักสุขภาพทั้งในเมืองไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยการันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดอายุการใช้งาน การได้รับรางวัลบุคคลคุณภาพแห่งปี 2023 ครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ให้มีการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ด้านนวัตกรรมให้กับ Porcela (พอร์ซเซล่า) และอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยต่อไป